Incident Love - นิยาย Incident Love : Dek-D.com - Writer
×

    Incident Love

    นิยายยูริสบายๆ สไตล์คนใจเย็ย เย้น เย็น ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากคำสั้นๆ เพียงคำเดียวว่า ต้องการเพื่อนคุย เธอคนนี้ ดาลัด คนที่ทำให้โลกของภูมีน นักข่าวตัวดีเปลี่ยนไปชั่วกัปชั่วกัลป์

    ผู้เข้าชมรวม

    177

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    177

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  10 เม.ย. 52 / 11:29 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ทั้งสองเริ่มต้นความสัมพันธ์จากการทิ้งอีเมล์แอดเดรสของนักข่าวตัวดีไว้ที่หน้าเว็บไซต์หนึ่ง ด้วยเพียงข้อความสั้นๆ ว่า ต้องการเพื่อนคุย เพียงเท่านั้น หลังจากวันที่ทิ้งที่อยู่อิเล็กทรอนิคส์หรืออีเมล์เพียงวันเดียวก็เริ่มมีคนมากหน้าหลายตาเข้ามาทักทาย หลากหลายทั้งวัย การศึกษา และอาชีพ และหนึ่งในจำนวนนั้นก็เป็นเธอคนนี้ ดาลัด คนที่ทำให้โลกของภูมีนเปลี่ยนไปชั่วกัปชั่วกัลป์
    ตอนที่ 1 บทเริ่มเรื่อง
    แสงไฟสว่างจากหน้าจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คที่ส่งผ่านไปยังอุปกรณ์อีกชิ้นที่กำลังทำหน้าที่บอกเวลาอย่างไม่มีหยุดหย่อนเรื่อยมาตั้งแต่เราทุกคนลืมตาตื่นมาดูโลกหลังปี ค.ศ.1300 กำลังทำหน้าที่บอกว่าขณะนี้เป็นเวลาเกือบตีสองแล้ว  กับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักข่าวที่กำลังนั่งปั่นต้นฉบับข่าวส่งสำนักพิมพ์ขณะที่ไฟกำลังรนก้นอยู่นี้ช่างเป็นช่วงเวลาที่วิ่งไล่หลังมาแบบรดต้นคอเสียจริง แต่ในเวลาเช่นนี้แม่นักข่าวสาวก็ยังมิวายก่อร่างมิตรภาพกับใครอีกคนผ่านทางการสื่อสารผ่านใยแก้ว ที่เรียกว่า อินเตอร์เน็ต             
    ทั้งสองเริ่มต้นความสัมพันธ์จากการทิ้งอีเมล์แอดเดรสของนักข่าวตัวดีไว้ที่หน้าเว็บไซต์หนึ่ง ด้วยเพียงข้อความสั้นๆ ว่า ต้องการเพื่อนคุย เพียงเท่านั้น หลังจากวันที่ทิ้งที่อยู่อิเล็กทรอนิคส์หรืออีเมล์เพียงวันเดียวก็เริ่มมีคนมากหน้าหลายตาเข้ามาทักทาย หลากหลายทั้งวัย การศึกษา และอาชีพ และหนึ่งในจำนวนนั้นก็เป็นเธอคนนี้ ดาลัด คนที่ทำให้โลกของภูมีนเปลี่ยนไปชั่วกัปชั่วกัลป์
    จากการสื่อสารติดต่อกันมาได้สักหนึ่งอาทิตย์ ทำให้ทราบความจากอีกฝ่ายว่า ดาลัดบังเอิญเปิดเข้าไปที่เว็บไซต์ดังกล่าวเป็นครั้งแรก หลังจากที่ถูกคนรักทิ้งไปมีคนใหม่และเหลือไว้เพียงความเจ็บปวดให้ดูต่างหน้า กับหัวใจที่เหี่ยวเฉานั้นเธอสะดุดเพียงประโยคสั้นๆ ที่ว่า ต้องการเพื่อนคุย เพราะข้อความส่วนใหญ่ในเว็บไซต์ดังกล่าว มีแต่ต้องการคนรู้ใจบ้าง ต้องการทำความรู้จักบ้าง จะมีก็แต่ข้อความของคนๆ นี้เท่านั้น ที่ต้องการหาเพื่อนคุย ซึ่งมันก็ตรงกับความต้องการของเธอเช่นเดียวกัน             
    รู้มั้ยว่าถ้าวันนั้นภีมไม่เขียนว่าต้องการเพื่อนคุย วันนี้เราจะไม่มีทางได้คุยกันเลย เสียงเตือนข้อความที่ส่งมาจากคนอีกฟากหนึ่งของหน้าจอคอมพิวเตอร์ พร้อมกับเสียงรัวเร็วของการสัมผัสแป้นคอมพิวเตอร์ของคนที่มีอาชีพเขียนข่าว      
    ก็ภีมต้องการเพื่อนคุยจริงๆ นี่นา แต่บังเอิญว่าพรุ่งนี้ ภีมจะมีโอกาสได้เจอคนที่เค้าอยากคุยด้วยก็เท่านั้น ว่ามั้ยคะ ภูมีนตอบกลับไปด้วยความรวดเร็ว   
    ค่ะ เธอตอบเพียงสั้นๆ เท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่อีกฝ่ายคาดหวังไว้ ให้เกิดในเช้าวันรุ่งขึ้นเพื่อที่จะได้เจอกับคนที่ปฏิสัมพันธ์กันมาระยะเวลาหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เคยพบหน้ากันแม้สักเพียงครั้ง    
    กลิ่นกรุ่นของกาแฟและความพลุกพล่านของคนเมืองใต้อาคารใหญ่ที่สูงตระหง่านระฟ้าอย่างที่ทำงานของภูมีน ไม่เคยห่างหายไปจากผู้คนในช่วง 8 โมงเช้าไปยัน 2 ทุ่มของทุกวันเลยแม้สักวินาทีเดียว  และที่นี่คือสถานที่นัดแนะที่จะได้เจอกันของผู้หญิงสองคนที่ต่างถูกใจในอัธยาศัยและน้ำคำที่พยายามส่งผ่านแป้นพิมพ์เพื่อสื่อสัมพันธ์กันมาตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือนที่ผ่านมา     
    ไหนนะ...ไม่เห็นจะมีใครที่น่าจะใช่เลยสักคน บอกให้หาสัญลักษณ์อะไรมาด้วยก็ไม่เอา บอกแต่ว่าให้ใส่เสื้อสีแดงมาก็พอ แล้วจะรู้มั้ยเนี่ย ภูมีนได้แต่บ่นเบาๆ ขณะที่ปากก็ดูดลาเต้เย็นไปพลาง ส่วนตาก็ไม่วายส่ายสาดไปหาเป้าหมายที่ได้นัดแนะกันไว้ตั้งแต่ช่วงดึกของเมื่อคืน
    หลังจากนั่งรอเวลาและพ่นลมหายใจทิ้งไปหลายเฮือก ร่างหญิงสูงวัยท่าทางกระฉับกระเฉงก็ปรากฏที่ตรงหน้า พร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามเธออย่างตั้งใจ สายตาคู่นั้นพยายามส่งผ่านเพื่อจะบอกความนัยว่า ฉันรู้จักเธอนะ พลันก็ทำให้ใจดวงน้อยของคนคอยอย่างภูมีนถึงกับหล่นตุ้บลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม                เอ...หรือตลอดระยะเวลาที่ผ่านเราจะนั่งคุยกับคนแก่คราวคุณยายเรื่อยมานะ เซ่อจริงๆ เลยยายภีมเอ๊ย ภูมีนได้แต่คิดเรื่อยเปื่อยไปพร้อมกับอาการตระหนกทางสายตาที่ส่งต่อไปยังผู้สูงวัยตรงหน้าจนเกือบเป็นการเสียมารยาทโดยไม่ทันตั้งใจ 
                    ไม่ทราบว่านั่งได้รึเปล่าจ๊ะแม่หนู คนสูงวัยกว่ากล่าวถาม เพราะสายตาของคนร่วมโต๊ะเริ่มแสดงอาการไม่แน่ใจ ระคนสงสัยกับการที่เธอก้าวเข้ามานั่งที่ตรงนี้
    ได้ค่ะ ภูมีนตอบสั้นเพียงเท่านั้น แต่ก็ยังไม่วายละสายตาไปจากหญิงสูงวัยที่นั่งฝั่งตรงข้ามเก้าอี้ของเธอ
    เอ่อ...ไม่ทราบว่าคุณยายนัดใครไว้ที่นี่รึเปล่าคะ ด้วยความอดรนทนไม่ได้ จึงจำให้ต้องถามออกไปเช่นนั้น เพราะถ้าจะว่าไปแล้วสถานที่แบบนี้ไม่น่าที่จะเป็นที่ๆ คนสูงวัยจะนิยมมานั่งทำอะไรได้เลย    
    ถามทำไมจ๊ะ แล้วหนูล่ะรอใครอยู่ เห็นชะเง้อจนคอยาวเชียว คนผมสีดอกเลากล่าวถามแทนคำตอบ           
    ค่ะ พอดีว่าหนูมารอเพื่อนน่ะค่ะ แต่สงสัยจะไม่มาแล้วมั้งคะ นี่ก็เลยเวลานัดมาซักพักแล้วงั้นหนูขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะคะ ภูมีนพยายามตัดบทโดยลืมคำตอบที่ได้ถามไปในครั้งแรก จนหญิงสูงวัยตรงหน้าสวนกลับมาทันควันว่า               
    หนูทำงานที่นี่เหรอจ๊ะ พอดียายมารอพบคนชื่อภูมีนน่ะจ้ะ หนูพอจะรู้จักบ้างมั้ย คำตอบนี้ถึงกับทำให้ภูมีนหน้าถอดสี             
    ค่ะหนูทำงานที่ตึกนี้ ไม่ทราบว่าคุณยายมาหาเค้าทำไมคะ
    ก็เค้านัดกับยายไว้น่ะสิจ๊ะ คุณยายไขความกระจ่างในทันที           
    หนูชื่อภูมีนยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งค่ะ
    เธอตัดสินใจบอกความจริงออกไปทั้งๆ ที่ใจก็ประหวั่นกับสิ่งที่กำลังปรากฏตรงหน้า  แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปโกหกคนแก่ปูนนี้ว่าเธอไม่ใช่ตัวของเธอเอง เพียงแต่สงสัยว่า ดาลัดคนที่เธอคุยด้วยทางอินเตอร์เน็ต คนที่บอกว่าเพิ่งเลิกกับแฟน ทำไมอายุอานามถึงมากถึงเพียงนี้ แล้วคนแก่วัยนี้ทำไมถึงได้นอนดึกขนาดนั้น แถมยังเป็นคุณยายไซเบอร์ที่ยังออนเอ็มอีกต่างหาก หรืออาจเป็นเพราะคุณยายท่านนี้เหงาเพราะไม่มีลูกหลานไว้ให้ได้พูดคุยกันนะ เธอได้แต่คิดวกไปวนมาจนตีขลุมให้ความคิดตัวเองไปต่างๆ นานา จนมาสะดุ้งกับเสียงคนตรงหน้าที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากก่อนหน้า
    สวัสดีค่ะภีม ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ เราดาลัดนะ หรือจะเรียกว่าดาวก็ได้ไม่ว่ากัน
    น้ำเสียงทั้งใสและกังวานขัดกับใบหน้าหญิงแก่โดยสิ้นเชิง อะไรกันนี่ หรือผีจะหรอกกลางวันแสกๆ เอ...หรือคุณยายตรงหน้าจะเป็นคุณยายวรนาถกันแน่หว่า บรื๋อ...น่ากลังจริงเชียว
                    เลิกตะลึงได้แล้ว เราไง ดาลัดน่ะ จำได้รึยัง แค่แหย่เล่นนิดเดียวเองทำหน้าเอ๋อไปได้ เสียงดาลัดกระซิบกระซาบมาที่ข้างหูพร้อมกับสืบเท้าก้าวเข้ามานั่งติดกับภูมีน
    อะไรนะคะ ...ดาลัด
    เฮ้ย...เล่นเอาตกอกตกใจอย่างนี้เลยเหรอเนี่ย จะมากไปแล้วนะ ภูมีนได้แต่คิดแค้นในใจ แล้วจึงย้อนคิดถึงอาชีพของเพื่อนใหม่ที่เพิ่งพบหน้า แต่คุ้นชินกันมาได้สักระยะหนึ่งทางโลกไซเบอร์แล้ว ว่า เธอคนนี้มีอาชีพเป็นนักพากย์การ์ตูน แล้วจึงพานโทษตัวเองว่า ทำไมน้า...เราถึงคิดไม่ได้ก่อนหน้านี้เล่า เซอะ...ซะจริงเชียว
    โทษทีนะที่แกล้งให้ตกอกตกใจน่ะ เรากลัวว่าภีมจะคาดหวังกับเราสูงเกินไปน่ะ คงไม่โกรธใช่มั้ย ดาลัดกล่าวเพราะเริ่มรู้สึกตัวว่ากำลังทำให้คนรออย่างภูมีนเสียเซลฟ์จนไม่อยากจะคบหากันนอกโลกไซเบอร์เสียแล้ว
    ไม่เป็นไรหรอก แต่ว่าช่วยไปเปลี่ยนชุดปกติก่อนได้มั้ยคะ คนมองกันใหญ่แล้ว โดยเฉพาะพวกพี่โอเปอเรเตอร์น่ะ เดี๋ยวได้เม้าท์กันทั้งตึกแน่ค่ะไป ภูมีนเริ่มออกอาการกลุ้มกับมิตรภาพที่เคยวาดไว้ก่อนหน้าว่าคงจะไม่ธรรมดาเป็นแน่
    หลังจากลอกคราบและเปลี่ยนชุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดาลัดจึงก้าวเท้าออกมาหาภูมีนที่ยืนรอบริเวณหน้ากระจกในห้องน้ำหญิงที่ชั้นล่างของตึก และภาพที่ปรากฏตรงหน้าภูมีนคือ หญิงสาวที่สวยอย่างหาตัวจับลำบาก ตั้งแต่สัดส่วนที่พอเหมาะ ผิวเหลืองละเอียด ใบหน้ารูปไข่ขาวได้รูป รวมทั้งปากและจมูกที่เรียวเล็กรับกับดวงตากลมโตภายใต้คิ้วโก่งทั้งสองข้าง ที่ถึงกับทำให้คนอารมณ์บูดเมื่อสักครู่ออกอาการตะลึงความงามไปชั่วขณะจิต
    เป็นอะไรไปภีม ดาวมีอะไรผิดปกติเหรอคะ เธอถามพร้อมกับอาการสำรวจเครื่องแต่งกายไปพร้อมๆ กัน
    เปล่าจ้ะ ... แค่ตะลึงความงามอยู่ค่ะ
    บ้า...   ดาลัดออกอาการขัดเขินผู้หญิงคนตรงหน้า ที่ไม่นึกเสียใจเลยที่อุตส่าห์ดั้นด้นเดินทางไกลมาหา เพราะนอกจากรูปร่างหน้าตาและท่าทางทะมัดทะแมงตามลักษณะคนเมืองหลวงแล้ว การวางตัวแบบคนเมืองที่มีมาดก็ยิ่งถูกใจดาลัดยิ่งขึ้นไปอีก และนอกเหนือสิ่งอื่นใดคือความจริงใจที่แฝงอยู่ในน้ำใสใจคอที่หาได้ยากจากคนสมัยนี้อีกเล่า ถึงแม้เธอจะแกล้งปลอมตัวเป็นคนแก่ก็ยังไม่ลุกหนี หรือปฏิเสธว่าไม่ใช่ตัวเอง เหมือนกับหลายๆ คนที่ชอบทำแบบนั้นเมื่อเธอลองใจ ซึ่งบางคนถึงกับลุกเดินหนีไปเสียเฉยๆ เลยก็ยังมีให้เห็นมาแล้ว
    งั้นดาวรอภีมที่ร้านกาแฟเมื่อสักครู่ก่อนนะคะ ภีมขอเอาต้นฉบับขึ้นไปส่งก่อน เดี๋ยวจะได้ออกไปข้างนอกกัน
    ตามสบายเลยค่ะ เดี๋ยวดาวรอที่ร้านหนังสือฝั่งตรงข้ามละกัน
    ต่างฝ่ายจึงแยกกันไปคนละทาง และเมื่อเสร็จธุระเรื่องงาน ภูมีนเดินออกจากลิฟท์มายังร้านหนังสือก็ปรากฏภาพชวนฝันที่เขาเกือบหยิกแขนตัวเองและแอบคิดไม่ได้ว่า อยู่ๆ ก็มีนางฟ้าตกดอยมานั่งอ่านหนังสือคอยถึงที่ทำงาน ถ้าเป็นอย่างนี้ทุกวันก็คงจะดีสินะ
    อ้าว...มายืนตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ว่าจะถามว่าแล้ววันนี้ไม่มีงานเหรอ ถึงจะออกไปข้างนอกกับดาวได้น่ะ
    ไม่มีค่ะ...พอดีปั่นต้นฉบับเสร็จตั้งแต่เมื่อคืนแล้วอ่านจบรึยัง เล่มนี้สนุกดีนะ ถ้ายังไม่จบเดี๋ยวภีมเอามาให้อ่านต่อก็ได้นะ สนใจรึเปล่าล่ะ ดาลัดได้แต่พยักหน้ารับเพราะก็ยังอ่านไม่จบจริงอย่างที่ภูมีนถาม
    ลืมถามไปเลยว่ามายังไงคะ เจ้าถิ่นอย่างภูมีนหันไปถามด้วยความสงสัย
    นั่งเครื่องมาลงดอนเมืองแล้วก็นั่งแท็กซี่ต่อมาที่ตึกนี้เลยค่ะ ทีแรกว่าจะนั่งรถเมล์มาก็กลัวว่าลมแรง วิกจะหลุดเสียก่อนจะถึงที่นี่น่ะค่ะ
    แสดงว่านี่วางแผนตั้งใจมาแกล้งกันเต็มที่เลยสิท่า ภูมีนพูดพร้อมกับอาการหน้าง้ำ
    จะว่าอย่างนั้นก็ได้ แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะแกล้งนะคะ แต่เพื่อความปลอดภัยเพราะดาวมาคนเดียว แถมหน้าตาก็ออกจะสวยสะมิใช่หยอก ฮ่าฮ่า ดาลัดสาธยายที่มาของเหตุการณ์ณ์เมื่อช่วงเช้าพร้อมกับเสียงหัวเราะปิดท้ายอย่างคนอารมณ์ดี
    หิวรึเปล่าคะ ทานอะไรมารึยัง ไปที่จอดรถกันดีกว่าเดี๋ยวจะพาไปทานของอร่อยๆ ภูมีนเสนอความคิดและเชื้อชวนไปในตัว
    ทั้งสองเดินต่อไปยังลานจอดรถด้านข้างอาคารสำนักงาน ระหว่างทางดาลัดก็เล่าเรื่องการเดินทางและงานในช่วงที่ผ่านมาให้ภูมีนฟังเป็นระยะๆ ทั้งสองเดินมาจนถึงลานจอดรถชั้นดาดฟ้าที่มีรถจอดเพียงไม่กี่คัน โดยภูมีนให้เหตุผลว่าที่ต้องมาจอดรถสูงขนาดนี้เพราะไม่อยากแย่งที่จอดกับใคร และอีกอย่างคือชอบขึ้นมาเดินเล่นบนชั้นดาดฟ้านี้เพื่อผ่อนคลายและคลายเครียดเรื่องงานด้วยไปในตัว ซึ่งรถที่จอดเรียงรายกันอยู่นั้นส่วนใหญ่จะเป็นรถเก๋งที่เป็นซิตี้คาร์คันเล็กๆ จะมีรถเก๋งซีดานคันใหญ่ๆ บ้างก็แค่คันถึงสองคัน แต่ที่สะดุดตาดาลัดเสียเหลือเกินก็คือ รถจี๊ปขับเคลื่อน 4 ล้อสีเหลืองอ๋อยที่จอดชิดกับขอบผนังด้านนอกสุด ซึ่งนั่นก็คือพาหนะที่จะพาเธอและเพื่อนใหม่ออกไปจากอาคารนี้และคงจะตลอดการเดินทางทิปนี้ของเธอด้วย
    ภูมีนค่อยๆ สตาร์ทรถและขับเคลื่อนเจ้าเต่าทองเหลืองอร่ามออกไปจากอาคารที่ทำงาน และแล่นขึ้นทางด่วนเพื่อพาทั้งคนและรถออกไปสู่นอกเมือง ระหว่างทางภาพรายล้อมสองข้างทางที่คล้ายกับเป็นวอลล์เปเปอร์ค่อยๆ เปลี่ยนไปทีละนิด จากภาพตึกระฟ้าที่บางครั้งก็ดูคล้ายจะทะลุไปยังท้องฟ้าที่อยู่เบื้องบน ก็ค่อยๆ เปลี่ยนฉากไปเป็นหลังคาบ้านเรือนที่เต็มไปด้วยความแออัด จนบางครั้งดาลัดแอบคิดเอาเองไม่ได้ว่าถ้าเกิดเธอหล่นลงไปจริงๆ จะมีที่ว่างพอให้ตัวเธอได้สัมผัสพื้นบ้างไหมนะ แล้วภาพต่างๆ จึงค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นทุ่งนาโล่งๆ สีเขียวเข้มและอ่อนสลับกันไป แล้วจึงเปลี่ยนมาเป็นภาพภูเขาที่อยู่ลิบตา สักระยะหนึ่งจึงค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นภาพทะเลสะอาดตาที่เงียบสงบของฝั่งตะวันออกของไทย ที่ซึ่งเธอไม่เคยแม้แต่จะมีโอกาสได้เดินทางมาแม้เพียงสักครั้ง
    เมื่อยมั้ยคะ กลัวรึเปล่า ภูมีนถามคนข้างๆ หลังอ่านอาการจากสีหน้าของเธอก่อนที่รถจะจอดพักที่ปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่
    ไม่ได้กลัวหรอกค่ะ แต่ไม่คิดว่าภีมจะพาดาวมาไกลขนาดนี้ แล้วพรุ่งนี้ไม่ต้องทำงานหรือคะ
    ไม่ค่ะ ถ้าปิดเล่มเสร็จแล้วก็ไม่ต้องเข้าก็ได้ เขาให้พักผ่อนได้ 1 อาทิตย์ แล้วดาวล่ะมาได้กี่วันกันคะ ภีมนี่ก็ลืมถามเรื่อยเลย
    ก็กะไว้สัก 4-5 วันค่ะ งานดาวเป็นฟรีแลนซ์อยู่แล้ว คงไม่มีผลอะไรถ้าจะหยุดหรือไป เพราะทำล่วงหน้าสต็อกไว้เยอะค่ะ
    ดีเลย จะได้พาไปเที่ยวได้หลายๆ ที่ ไหนๆ ก็อุตส่าห์บินลงมาจากเชียงใหม่แล้วทั้งที
    แล้วดาวมีโอกาสรู้จุดหมายปลายทางของภีมมั้ยคะว่าจะไปสิ้นสุดที่ไหนกัน แล้วจองที่พักแล้วรึยัง ดาลัดถามด้วยความใคร่รู้ ด้วยนึกถึงจุดหมายปลายทางที่จะต้องไปร่วมกันกับเธอคนข้างๆ กาย
    ก็บ้านภีมที่จันทบุรีไงคะ แต่เดี๋ยวจะพาไปค้างที่รีสอร์ตของคุณป๋าก่อน 2 คืนแล้วค่อยเข้าบ้าน ตกลงตามนี้นะ
    ก็คงต้องตกลงตามกันล่ะค่ะ มากับเจ้าถิ่นนี่จะไปค้านอะไรได้ ดาลัดตอกกลับให้การเผด็จการของเจ้าถิ่น ที่ถึงกับทำให้อีกฝ่ายร้องโอ้โห...
    หลังเติมน้ำมันทั้งรถและคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สารถีเจ้าถิ่นจึงเคลื่อนเจ้าเต่าทองออกสู่ถนน พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทร.หาเจ้าของสถานที่ตัวจริง อย่างคุณป๋าเจ้าของรีสอร์ต
     
    แปลกคนจริงเชียว จอดรถตั้งนานก็ไม่ยักโทร. พอรถเคลื่อนล่ะได้เรื่องเชียว สมอลล์ทอร์คมีก็ไม่รู้จักใช้เดี๋ยวก่อนเถอะคุยธุระเสร็จจะได้เฉ่งกันซักหมัดล่ะน่า ดาลัดออกอาการเคืองกับกิริยาของคนขับ
    ฮาโหล ป๋าเหรอคะ นี่ภีมนะ คิดถึงป๋าจังเลย
    ไม่ต้องมาอ้อนเลย มีอะไรจะให้ป๋ารับใช้อีกล่ะเนี่ย ว่ามาซะดีๆ
    โธ่ป๋าละก็ ภีมแค่อยากได้ที่พักซัก 2 คืนกับอาหารอร่อยๆ สักมื้อสองมื้อทำเป็นรู้ทันไปได้
    มากันกี่คนล่ะ ป๋าจะได้ให้เด็กเค้าจัดห้องถูก แล้วแม่เค้ารู้รึเปล่าว่าดอดมาถึงจันท์เนี่ย เดี๋ยวก็จะโทร.มาอาละวาดเอากับป๋าอีก
    2 คนค่ะ เดี๋ยวเจอกันนะคะ บายค่ะ
    เฮ้ยเดี๋ยวก่อน ยังพูดกันไม่รู้เรื่องเลย...ตู๊ด...ตู๊ด....ตู๊ด อาการปกติที่คุณป๋ามักชินกับลูกสาวคนเดียวคนนี้ที่เวลาจะตัดบทไปในทันทีที่จะโดนดุเพราะรู้ดีว่าอย่างไรเสียคุณป๋าก็ตามใจกันมาโดยตลอด แม้จะแยกทางกันไปแล้วกับคุณแม่ที่แยกไปอยู่กรุงเทพฯ กับลูกสาวเพียงลำพัง
    ทำไมไม่คุยกับท่านให้จบก่อนคะ แล้ว....ทำไมมีสมอล์ทอร์คแล้วไม่ใช้ อย่างนี้ไม่กลัวคนประดิษฐ์เค้าจะน้อยใจบ้งเหรอ
    ไม่กลัวเพราะไม่รู้จักกันฮ่า...ฮ่า คนขับตอบด้วยความสนุกปาก
    แต่มันอันตรายรู้บ้างมั้ยคะ แต่คนถามกลับออกอาการเอาจริงเอาจังพร้อมทั้งออกอาการหน้าเครียดในทันทีที่ได้ฟัง
    อุ้ย...ขอโทษค่ะ เอาอย่างนี้แล้วกันนะ ถ้าคราวหน้าไม่ใช้ให้คนข้างๆ ทำโทษเลยดีมั้ยคะ ภูมีนยังไม่เลิกกระเซ้าเย้าแหย่ดาลัดที่ตีหน้าเรียบแล้วมองนิ่งออกไปนอกรถ
    นะนะ ยกโทษให้ภีมนะคะ คนเก่ง ภูมีนรู้สึกกระดากใจหลังจากที่ได้พูดออกไปโดยไม่ทันคิด เพียงเพื่อหวังจะให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีและก็ได้ผลเกินคาดเพราะดาลัดออกอาการยิ้มพรายที่ดวงหน้าอย่างที่ภูมีนเดาใจไม่ออก
    ทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาจอดที่รีสอร์ทชายทะเลก็มีสุนัขขนสีทองร่างท้วมวิ่งควบเร็วจี๋มานั่งรอที่ตรงประตูรถด้านคนขับอย่างกับนัดเวลากันมาอย่างไรอย่างนั้น และทันทีที่เจ้าของรถก้าวเท้าลงแตะผืนทรายเจ้าของร่างท้วมก็กระโดดสองขา พร้อมกับโถมตัวจนคนถูกทับเซไปพิงเข้ากับที่นั่งคนขับแทบไม่ทัน พร้อมกับอาการเลียใบหน้าด้วยความคิดถึงอย่างสุดใจ ซึ่งก็ทำให้คนที่รักหมาแต่ไม่เคยมีโอกาสได้เลี้ยงหมาซักตัวในชีวิต ออกอาการปลื้มออกมาทางสายตาสำหรับมิตรภาพระหว่างคนกับองครักษ์ร่วงอวบ
    เบาๆ ส้มเช้ง หน้าฉันยิ่งเป็นสิวฝ้า หน้าด่างอยู่ เจ้านายกล่าวเตือนลูกน้องพร้อมกับเอามือปัดป้องหน้าทู่ๆ นั้นออกไปจากหน้าของตัวเอง
    ชื่อส้มเช้งเหรอคะน่ารักเชียว แล้วกัดรึเปล่าคะเนี่ย ท่าทางจะหวงเจ้าของไม่เบาเลย ดาลัดออกอาการขยาดความรักที่มากเกินพอดีก็คราวนี้ล่ะ
    ไม่กัดค่ะ บอกพี่เค้าไปสิคะว่าสมเช้งไม่กัด แต่เลียมากมาย ภูมีนจับหน้าเจ้าส้มเช้งหันมาแล้วทำเป็นพากย์เสียงจากด้านหลัง และถือโอกาสดันหน้าเจ้าส้มเช้งออกไปจากตัว หลังจากทักทายกันจนหนำใจแล้ว เจ้าร่างอวบจึงยอมเดินนวยนาดไปทางเจ้าของรีสอร์ตที่ยืนคอยบุตรสาวคนเดียวอยู่นานพอควรแล้ว
    ป๋าคะนี่ดาวเพื่อนภีมเองค่ะ ทันทีที่ภูมีนแนะนำดาลัดกับคุณป๋า เธอก็ยกมือขึ้นไหว้ตามทำเนียมไทยอย่างงดงาม จนผู้สูงวัยออกจะพอใจกับเพื่อนลูกสาวที่มีกิริยาเรียบร้อย ซึ่งต่างไปจากภูมีนราวฟ้ากับดิน ที่ทั้งทะโมนและเจ้าเล่ห์ ทั้งๆ ที่ท่านอุตส่าห์ส่งไปให้อยู่กับแม่แล้วแท้ๆ เชียว
    แล้วไปยังไงมายังไง ถึงได้มากับเจ้าภีมมันได้ล่ะหนู ป๋าว่ามันคงจะไปเจ้าเล่ห์หลอกพามาอีกล่ะสิ เห็นรายก่อนเค้าก็ว่าอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน คุณป๋านี่สุมไฟใต้กองยางเพื่อเผาสูกสาวตัวเองซะแล้วมั้ยล่ะ
    อะไรกันคะ ภีมไม่ได้ไปหลอกไปลวงใครมาซะหน่อย ป๋าก็พูดไปเรื่อย ดาวเค้าตามภีมมาด้วยความสมัครใจซะหน่อยนึงจริงมั้ยคะ ภูมีนหาพวกสนับสนุนเพื่อค้านคำกล่าวหาจากผู้เป็นพ่อทันที
    ดาวตามภีมมาเองค่ะ ถือโอกาสมาเปลี่ยนบรรยากาศด้วย อยู่แต่กับดอยได้มาเจอลมทะเลบ้างก็เย็นไปอีกแบบ ดาลัดแก้ตัวแทนเพื่อนร่วมทางเพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย
    ถ้าอย่างนั้นไปอาบน้ำอาบท่าแล้วพักผ่อนกันก่อนเถอะ ตามสบายเลยนะหนู ถือซะว่าเป็นบ้านของตัวเองละกันนะ คุณป๋ากล่าวด้วยความปราณีเพราะยึดหลักว่าถ้าลูกคบใครหรือชอบพอกับใคร ท่านก็เอ็นดูด้วย แล้วจึงหันมาทางลูกสาวพลางว่า
    เอ้อ..ป๋าเพิ่งเปิดสปาที่โซนติดภูเขานะ ถ้ามีเวลาก็ลองไปนวดดูสิ เผื่อมีอะไรแนะนำป๋าบ้าง สมัยนี้ทำธุรกิจต้องตามเทรนด์น่ะ แล้วพรุ่งนี้ไปจนถึงต้นอาทิตย์หน้าป๋าต้องไปประชุมที่ชลบุรี มีอะไรก็บอกกับคุณนวลเค้าล่ะ คงอยู่ที่บ้านสวนละมั้ง ช่วงนี้คุมเก็บผลไม้ในสวนที่เขาสมิงอยู่ ถ้ายังไงก็เอาไปฝากแม่เค้าบ้าง บอกด้วยว่าป๋าฝากมา อย่าลืมซะล่ะ คุณป๋าสั่งเสียยืดยาวจนคนรับฝากอย่างภูมีนร้อง เฮ้อ...แล้วจึงเรียกพนักงานมาขนกระเป๋าไปยังบ้านพักส่วนตัวที่คุณป๋าบรรจงสร้างขึ้นตั้งแต่เจ้าของห้องยังไม่เกิด
    ตัวบ้านเป็นทรงไทยประยุกต์ที่แวดล้อมไปด้วยพรรณไม้น้อยใหญ่นานาชนิด ทั้งไม้ยืนต้นไม้ล้มลุก ไม้หอม และไม้ดอกหลากชนิดที่เจ้าของบ้านออกจะชื่นชอบเป็นชีวิตจิตใจ ไม่เว้นแม้แต่ภายในห้องน้ำที่ออกแบบให้เปิดโล่งแบบโอเพ่นแอร์เพื่อยังผลให้หมู่มวลไม้อวบน้ำที่เจ้าของบ้านอุตส่าห์เฝ้าสะสมมาดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยแสงที่ส่องผ่านมายังระเบียงที่เชื่อมต่อไปยังด้านนอก
    ดูท่าคุณป๋าจะชอบปลูกต้นไม้นะคะ เห็นต้นไม้ในรีสอร์ทงามทุกต้นเลย ดาลัดกล่าวด้วยความชื่นชม เพราะนิยมชมชอบต้นไม้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
    ป๋าเป็นนักเลงไม้ประดับค่ะ เมื่อก่อนสมัยที่ภีมยังเด็กๆ ท่านจะพาตระเวนไปตามงานประกวดต้นไม้ที่เมืองชลบ่อยๆ แต่หลังๆ มานี้งานที่รีสอร์ทยุ่งมากและป๋าก็ทำคนเดียว เลยไม่ได้ไปเอง แต่ก็ให้ลูกน้องนำต้นไม้เข้าประกวดบ้าง แต่ไม่ได้มากมายเหมือนกับเมื่อก่อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดำรงตำแหน่งคนคุมสวนอยู่นะคะ คงกลัวจะเสียชื่อเซียนไม้ประดับเก่าน่ะค่ะ
    น่าสนใจดีนะคะ ท่านได้ทำในสิ่งที่รัก พร้อมๆ ไปกับธุรกิจที่ต้องทำ ถือเป็นชีวิตที่น่าอิจฉาดีออกค่ะ แล้วภีมล่ะไม่คิดที่จะมาช่วยงานคุณป๋าบ้างเหรอ ดาลัดถามด้วยความสงสัยเพราะถ้าเป็นเธอคงจะลาออกแล้วย้ายมาอยู่เสียที่รีสอร์ทแห่งนี้เป็นแน่
    ก็คิดว่าอีกสักระยะหนึ่งก็คงต้องมาทำมั้งคะ แต่ตอนนี้ขอทำในสิ่งที่รักและเรียนมาก่อน แล้วอีกอย่างก็รู้สึกเป็นห่วงแม่ด้วยถ้าจะต้องย้ายมาอยู่กับป๋าจริงๆ เพราะท่านก็คงไม่ยมมาง่ายๆ หรอกค่ะ คู้นี้เค้าไม่ลงกันต้องอาศัยเวลา ภูมีนอธิบายเหตุผลของตนให้อีกคนฟังอย่างคนอารมณ์ดี ที่ไม่ทุกข์ร้อนเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่ครอบครัวแตกแยก เพราะถึงแม้ป๋ากับแม่จะแยกกันอยู่ แต่ความรักที่ท่านทั้งสองส่งผ่านมายังเธอก็ไม่เคยลดน้อยถอยลงให้ลูกได้รู้สึกเลยสักเพียงนิด
    ไม่เอาแล้วดาวขี้โกง ถามโน่น ถามนี่ แต่ไม่เห็นยอมเล่าเรื่องของตัวเองให้ภีมฟังบ้างเลย
    ก็เรื่องของดาว มันไม่มีอะไรน่าสนใจนี่คะ ดาลัดตอบในสิ่งที่ภูมีนสงสัยใคร่รู้ว่า ที่จริงแล้วเธอเป็นคนเชียงใหม่โดยกำเนิด ครอบครัวมีอาชีพทำสวนลิ้นจี่มาตั้งแต่สมัยปู่ แล้วจึงสืบทอดตกมายังพ่อของเธอ และเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาพ่อของเธอก็ประสบอุบัติเหตุทำให้เดินไม่ได้ ภาระหนักจึงตกมาอยู่กับแม่และพี่ชายที่ต้องดูแลสวนลิ้นจี่ที่มีพื้นที่มากถึง 100 ไร่ และได้ปรับพื้นที่เปลี่ยนมาปลูกส้มไว้บ้างแล้วบางส่วนเนื่องจากตลาดที่มีมากกว่า
    ส่วนตัวเธอเองก็เรียนที่เชียงใหม่ตั้งแต่เด็กจนจบปริญญาตรี โดยไม่เคยลงมาพำนักหรือศึกษาที่อื่นเลยสักเพียงน้อย จนกระทั่งได้มีโอกาสได้เข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาและได้ก่อร่างสร้างรักกับเพื่อนร่วมงานถึงขนาดที่จะตกลงแต่งงานกัน แต่แล้วเมื่อเขาตัดสินใจที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศก็พอดีกับที่เธอเองก็จำเป็นที่จะต้องเดินทางกลับเชียงใหม่เพื่อไปดูแลพ่อที่ล้มป่วยจากอุบัติเหตุ
    ดังนั้นเธอจึงลาออกจากบริษัท แต่ทางบริษัทเห็นว่างานในส่วนที่เธอรับผิดชอบเป็นงานที่ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้ามานั่งประจำที่ๆ ทำงานทุกวัน และสามารถทำจากห้องอัดที่ไหนก็ได้ จึงเป็นที่มาให้วิถีการทำงานของเธอเปลี่ยนไปนับจากวันนั้น ส่วนเรื่องความรักที่ก่อตัวขึ้นก็จำต้องจางลงเรื่อยๆ ด้วยระยะห่างของระยะทางที่ไกลกันออกไป ประกอบกับเวลาที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงของประเทศที่คนรักของเธอเดินทางไปศึกษา และยิ่งได้ข่าวจากเพื่อนๆ ที่เดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศว่าเขาคนนั้นของเธอได้คบหาดูใจกับผู้หญิงคนใหม่ที่เป็นคนระดับเดียวกับเขาก็ยิ่งทำให้เธอจำเป็นต้องตัดใจและระงับความสัมพันธ์กับเขาในที่สุด
    จบค่ะ ดาลัดกล่าวเมื่อเล่าที่มาของตนเองจนจบ
    ภีมต้องขอโทษนะคะที่ขอให้ดาวเล่าความสะเทือนใจที่ผ่านมาให้ฟัง
    ไม่เป็นไรค่ะ ดาวทำใจได้นานแล้ว จะว่าไปแล้วหลังจากได้คุยกับภีมก็ทำให้ให้ดาวสดชื่นขึ้นเยอะเลยนะ ภีมรู้มั้ยคะว่าภีมเป็นคนที่ใครคุยด้วยแล้วจะรู้สึกสดชื่น คำของดาลัดสร้างทั้งความภาคภูมิใจและความรู้สึกแปลกในพื้นที่น้อยๆ ในใจของภูมีนได้ไม่ใช่น้อย ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ที่มาเหมือนกันว่ามันเกิดจากอะไร

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น