เหงื่อไหลลงมาตามใบหน้า ผสมกับกลิ่นควันรถ ที่ชวนคลื่นเหียน
จากรถเมล์คันข้างหน้า ทำเอา สุริยน แมสเซนเจอร์หนุ่มใหญ่ ต้องหงุดหงิด
เป็นอย่างยิ่ง กับเช้าที่สุดแสนยุ่งยาก และน่ารำคาญ
" ก็แล้วทำไม เพิ่งจะมาบอกตอนนี้ เมื่อวานก็ว่างพอจะเตรียมงาน
แถมยังวางแผนการเดินทาง ได้แบบสบาย ๆ แล้วดูสิเนี่ย ข้าวเช้าก็ยังกินได้แค่ครึ่งจาน
ต้องถ่อมาบริษัทแต่ไก่โห่ แล้วก็มานั่งรอเอกสารชุดวางบิล ที่เพิ่งจะทำกันเสร็จ
อย่างฉุกละหุก เสร็จแล้วก็ยังสั่งให้รีบไปให้ทันวางบิล ก่อนสิบโมงเช้าอีกด้วย
จากสีลม ไปย่านรัชโยธิน มีเวลาแค่สี่สิบนาทีนี่นะ " สุริยนคิด พลางทอดถอนใจ
นึกถึงหน้าลูกพี่ใหญ่ ตอนที่เขากำลังเริ่มโอดครวญ ระหว่างรอเอกสาร
" ไอ้ยน แกอย่าบ่นให้มากความเลย รู้ไหมกว่าฉันจะขอร้อง ให้ยาย
ยักษ์ขมูขีนั่น ยอมจ่ายเงินก่อนสิ้นปีได้นี่ ฉันต้องเสียน้ำลายไปแค่ไหน ต้องชักแม่น้ำทั้งห้า
หว่านล้อมจนยอมรับวางบิลชุดนี้ " สมชาย ผู้จัดการฝ่ายการขาย ร่างท้วม กับชุดเสื้อเชิ้ต
สีขาวยับยู่ยี่ กำลังสาธยายถึงความยากลำบาก พร้อมทั้งเน้นน้ำเสียงให้ความสำคัญกับตัวเองเต็มที่
" ผมทราบครับพี่ แต่คุณนิด น่าจะเตรียมเอกสารเสร็จ ได้ตั้งแต่เมื่อวานนี่ครับ "
สุริยน ยังคงข้องใจ กับเลขาสาวสวย หุ่นน่าฟัดของสมชาย
" แกอย่ามาโทษคุณนิดเค้า เมื่อวานเค้ายุ่งทั้งวัน ไหนจะตามเอกสาร
รับรองจากทางโรงกัลวาไนซ์ ไหนจะรอให้ คุณยุ ฝ่ายบัญชี เค้าครอสเช็คอีกที "
สมชาย พรรณาถึงความลำบากลำบน ของเลขาสาว
สุริยนส่ายหัวไม่ยอมรับ " เมื่อวาน เราเห็นชัด ๆ ว่ายายนิดนั่น
นั่งเล่นไลน์กับเพื่อน อยู่ตั้งนานสองนาน เดี๋ยวเปิดดูคลิป แล้วก็หัวเราะคิกคัก
เดี๋ยวก็ แชทกันออกรสออกชาติ ไม่เห็นจะรีบตามงานตรงไหน "
หลังจากผ่านอนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 มาได้ชั่วครู่ สุริยนก็นึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรบางอย่าง
" เฮ่ย ลืมต่อทะเบียนนี่หว่า ถ้าเจอพวกหัวปิงปอง นี่โดนปรับแน่ "
" ตรงประตูน้ำ ชอบมีตำรวจมาดักมอเตอร์ไซค์ซะด้วย ต้องเลี่ยงซะแล้ว โว้ย คนยิ่งรีบ ๆ "
มันช่างเป็นสถานการณ์ที่ชวนกระอักกระอ่วนใจเหลือเกิน ถ้าอ้อมไปทางพญาไท สุริยน
คงเสียเวลาอันมีค่าไปไม่น้อย เพราะเท่ากับ ต้องเจอรถติดมากขึ้น ที่อนุสาวรีย์ชัย
" ยน แกต้องไปวางบิลให้ทัน วันนี้ ภายในสิบโมงเช้า แกต้องรู้นะ
ยายศรีวิมล หุ้นส่วนใหญ่ของเบสท์แพค ลูกค้ารายใหญ่ของเราน่ะ เค้าเป็นคน
เข้มงวดเรื่องเวลาสุด ๆ สายนาทีเดียวก็ไม่ได้ " สมชายเน้นย้ำ น้ำเสียงหนักแน่น
" ถ้าเราไม่ได้เงินก่อนสิ้นปี แกต้องรู้นะว่า โบนัสปีนี้ของพวกเรา
ต้องถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด หรือไม่ก็อาจจะต้องอดกันถ้วนหน้า
ความหวังของพี่น้องทั้งบริษัท ขึ้นอยู่กับแกแล้วนะ " สมชายตบท้าย ด้วยการ
โยนภาระอันหนักอึ้ง ไว้บนบ่าสุริยนคนเดียว
" สู้เค้า ไอ้ยน เพื่อ ' ไชโยบ็อกซ์ ' " สมชายชูกำปั้น อันเป็นสัญลักษณ์
ของตราบริษัท เป็นการให้กำลังใจ
เพียงชั่วครู่เดียว สุริยนก็อยู่บนสะพานข้ามคลองแสนแสบแล้ว ถึงเวลาต้องตัดสินใจเสียแล้ว
" เฮ้ย เอาไงเอากัน วิ่งมันข้าง ๆ รถเมล์นี่ล่ะฟะ อาศัยความใหญ่บังให้พ้น
สายตาพวกนั้นเอาละกัน ไปอ้อมไม่ทันแน่ เหลืออีกไม่เกิน 25 นาที " สุริยนนึกพลาง
ออกรถอีกครั้ง หลังสัญญาณไฟเขียว
" พูดถึงยายศรีวิมล ครั้งก่อนที่ไปหาแก ตอนนั้นก็เข้าช่วงหน้าฝน
เราต้องถูกเอ็ดก่อนที่แกจะยอมรับเอกสาร แค่เพราะว่า เอกสารเปียกน้ำนิดหน่อย
แกเป็นคนที่ จู้จี้จุกจิกเป็นที่สุด ที่จริงงานรับวางบิลแบบนี้ ระดับผู้บริหาร
ไม่ต้องลงมาดูเองก็ได้ แต่สำหรับแกแล้ว ถ้ายอดเงินในบิลสูงขึ้นระดับ 7 หลัก
เมื่อไหร่ แกเป็นต้องตรวจละเอียดยิบ ไม่ยอมให้ฝ่ายบัญชีดูเอง "
" แล้วครั้งนี้ ยอดวางบิลค่าตะกร้าเหล็ก ก็ปาเข้าไป 17 ล้านกว่า ๆ
ก็คงเหมือนเดิม แกไม่ยอมพลาดอยู่แล้ว ขืนเราไปสาย จนแกโมโหไม่ยอมรับ
วางบิล คราวนี้กลับไปศพไม่สวยแน่ " สุริยนตัวสั่น เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
หากว่าเค้าทำพลาดไป
หลังจากต้องอาศัยรถเมล์หลบฉาก ให้พ้นด่านมาพักหนึ่ง สุริยนก็จำต้องเร่ง
เครื่องนิดหน่อย เพราะจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
" พระเจ้า อย่าเพิ่งไฟแดงนะ ตรงนี้ถ้าติดต้องมีอย่างต่ำ 5 นาที "
สุริยนลุ้นสุดตัว เมื่อเข้าใกล้แยกที่จะไปดินแดง
สัญญาณไฟเจ้ากรรม ส่งสัญญาณสีเหลืองเสียแล้ว ขณะที่อีกตั้ง 30 เมตร
ถึงจะพ้น
ไม่ฟังอีร้าค่าอีรมกันแล้ว สุริยนบิดคันเร่ง เพิ่มความเร็วสุดชีวิต
"เอี๊ยดดดดดด " เสียงรถคันใหญ่เบรคดังลั่น จนน่ากลัวว่าสายเบรคจะขาด
" เฮ้ยยย อยากตายหรือฟะ " เสียงคนขับรถเมล์คันหนึ่ง ตะโกนไล่หลัง
เฉียดไปเส้นยาแดงผ่าแปด เกือบไปแล้วอีกแค่คืบเดียว หน้ารถเมล์ก็เกือบจะสอย
เอาท้ายฮอนด้า เวฟ ของสุริยนเข้าแล้ว
" ฟู่ เกือบไปแล้ว นึกว่าจะต้องนอนอ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เช้านี้ซะแล้ว
ทำไงได้ฟะ ไม่งั้นต้องรออีกชาติ " สุริยนเป่าปากโล่งอก ที่พ้นเงื้อมมือมัจจุราชมาหยก ๆ
แต่โล่งใจได้ไม่ถึงอึดใจ สุริยนก็หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำอีกครั้ง
" หวอ ๆ ๆ ๆ แอ้ด ๆ " เสียงสัญญาณบ่งบอกว่า รถสายตรวจกำลังไล่หลังมา
" ไม่นะ แค่ฝ่าไฟแดงแค่นี้ ถึงกับต้องเอารถตำรวจไล่จับ กันเลยเรอะ "
สุริยนกระสับกระส่าย กลัวก็กลัว รีบก็รีบ นึกหาทางออกจนใจเต้นรัวไปหมด
สุริยนตัดสินใจบิดคันเร่งอีกครั้ง คราวนี้เข็มชี้ตัวเลขบนหน้าปัด
กำลังไล่ระดับขึ้นไปจวนเจียนจะถึง 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้ว
ฮอนด้าคู่ชีพ ของสุริยนกำลังพุ่งทะยาน ออกซ้ายที ขวาที
แซงรถเมล์คันแล้ว คันเล่า ไปตามถนนวิภาวดีรังสิต
แต่เจ้ากรรม อุ่นใจแค่ชั่วครู่ เสียงสัญญาณนั่นก็ดูเหมือนจะตาม
มาติด ๆ อีกแล้ว " หวอ ๆ ๆ ๆ "
" จะตามไปถึงไหนฟะ กะอีแค่ฝ่าไฟแดง โจรผู้ร้ายเต็มบ้านเต็มเมือง
ไม่ไปตามจับฟะ " สุริยนสบถออกมา
เหงื่อเย็น ๆ เริ่มผุดตามหน้าผากของสุริยนแล้ว กับความเครียด
เต็มพิกัดของเขาในตอนนี้
และแล้วในขณะที่ ดูเหมือนจะหาทางออกให้ชีวิตไม่ได้
แต่จู่ ๆ เหมือนสวรรค์ จะสดับรับฟังความทุกข์ร้อน ของชายผู้ผ่านชีวิตมาร่วม
43 ปี
หลังจากผ่าน สนามกีฬากองทัพบก ไปเพียงชั่วครู่ รถสายตรวจก็ชะลอลง
เพื่อจะเลี้ยวเข้าซอยถัดมา
สายตาของสุริยนจับจ้องไปตามรถสายตรวจ อย่างไม่วางตา
เพราะกลัวว่า สิ่งที่เขาเห็นจะไม่ใช่เรื่องจริง
" ปัทโธ่ มันไม่ได้ตามเราหรอกหรือนี่ โฮ่ ทำเอาหัวใจเกือบวา... "
" ครากกกก ! "
จู่ ๆ ถนนเบื้องหน้า ที่สุริยนเพิ่งหันกลับมาพบ ก็เอียงวูบไปทางซ้ายอย่างรวดเร็ว
แล้วก็แสงแดดสลับกับความมืดหมุนวน 360 องศา อีกราว ๆ 5-6 รอบ
ร่างของสุริยน กลิ้งโค่โร่ ไปหลายตลบ ชั่วอึดใจถัดมา เขาถึงได้ค้นพบว่า
ตัวเองลงมานอนกับพื้นถนนวิภาวดีรังสิต เสียแล้ว
หลังจากหันรีหันขวาง มองหาจักรยานยนต์คู่ใจ สักครู่ ก็เห็นมันนอนหมอบ
อยู่ห่างจากตัวเขา ไปราว 10 เมตรได้
" ไอ้บ้าเอ๊ยยยย อะไรของมันฟะ " สุริยน รู้สึกสับสนปนโกรธ ต่อโชคชะตา
ที่สวรรค์ เพิ่งมอบให้เขาหมาด ๆ
" นึกว่าโชคดีที่พ้นรถสายตรวจมาได้ ดันมารถล้มเข้าให้อีก "
ถือว่าเคราะห์ยังดี ที่สุริยน สามารถลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้ง จากประสบการณ์
การเป็นพนักงานส่งเอกสารมาร่วม 20 ปี กับการเป็นวัยรุ่นนักซิ่งมอเตอร์ไซค์ ตั้งแต่
วัยหัวนมเพิ่งแตกพาน การประสบอุบัติเหตุครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้สัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอด
เมื่อเข้าสู่ภาวะวิกฤต ช่วยเขาไว้ได้อีกครั้ง
หลังจากเช็คสภาพรถแบบคร่าว ๆ ดูเหมือนวันนี้ ฟ้าก็ยังไม่โหดร้ายเกินไป
กับเขา รถคู่ใจดูจะยังคงสภาพส่วนใหญ่ไว้ได้ คงมีแต่ ไฟหน้ารถ ที่มีรอยร้าวนิดหน่อย
บวกกับ รอยถลอกที่ตัวถังข้างขวาอีกราว ครึ่งฟุต
จากสัญชาตญาณ การเอาตัวรอด คงทำให้สุริยน ซึ่งผ่านประสบการณ์การขับขี่
มาโชกโชน รีบบิดตัวรถออกจากการประสานงา กับรถเก๋งสีเงินคันหนึ่ง ซึ่งขณะนี้กำลังจอด
อยู่กลางแยกสุทธิสาร
" คงแค่ถากไป " สุริยนถอนใจโล่งอก ที่ตัวเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก และจาก
สภาพรถฮอนด้าของเขา คงยังใช้งานได้ตามปกติ
สุริยนขึ้นคร่อมจักรยานยนต์คู่ใจ ของเขาอีกครั้ง เหลือบไปมองนาฬิกา
เข็มยาวชี้ไปที่ เกือบจะเลข 11 แล้ว เท่ากับเขายังมีเวลาเหลืออีกไม่น่าจะเกิน 7-8 นาทีแล้ว
" เอาละนะ นี่ก็ใกล้จะถึงแล้ว คงไม่มีอะไรอีกแล้วมั้ง ไอ้วันบ้า ๆ นี่ "
" เดี๋ยว ! " เสียงตะโกนเรียกของผู้หญิงวัยกลางคน รูปร่างผอมแห้ง ในชุด
กระโปรงยาวแคบ ๆ สีเทาจืดชืด สวมแว่นตากรอบหนาเตอะ แววตาบ่งบอกว่า
กำลังหงุดหงิดอย่างมาก
" มาคุยกันก่อน จะรีบไปไหน เธอไปเรียกประกันของเธอ มาเคลียร์สิ
ข้างรถชั้นมีรอยครูด ยาวเกือบเมตรได้มั้ง " น้ำเสียงเจ้าหล่อน แม้จะดังแค่พอได้ยิน
แต่ก็ดูเหมือนจะเอาเรื่องอยู่
" บร๊ะ ลืมคู่กรณี ไปเสียสนิท " สุริยนกำลังโดน โชคชะตาที่เล่นตลก
ตามมาเล่นงานเขาอีกครั้ง
" นี่เธอไม่ได้ใช้ตาดูสัญญาณไฟเลยใช่ไหม ว่ารถชั้นกำลังเลี้ยวเข้ามานี่น่ะ "
สุริยน พลาดอย่างแรงที่มัวแต่ไปสนใจรถสายตรวจ จนลืมดูไปว่า รถของเขากำลัง
ผ่านสี่แยก
" เป็นไง เป็นกัน "
อีกครั้งที่สุริยนตัดสินใจ แบบปัจจุบันทันด่วน เขาสตาร์ทรถทันที
พร้อมกับเร่งเครื่องในอึดใจถัดมา
สุภาพสตรีคนดังกล่าว ไม่ทันได้ตั้งตัว ด้วยนึกไม่ถึงว่า สุริยน
จะจากไปดื้อ ๆ แต่ด้วยสัญชาตญาณ ของมนุษย์ป้าเช่นเธอ
เจ้าหล่อนตัดสินใจคว้าร่มกันแดดที่เธอติดมือมาด้วย เอาด้านตะขอเกี่ยวกับ
ส่วนที่ยื่นออกมา สำหรับมือจับ ท้ายรถจักรยานยนต์ของสุริยนทันที
แต่ สายไปเสียแล้ว สุริยนออกรถไปทันที
เร็วซะยิ่งกว่า เสือชีตาร์ สตรีวัยกลางคน พุ่งทะยานไปกลางอากาศ
อย่างกับนักกรีฑา แต่เพียงชั่วอึดใจ ร่างอันผอมบางก็ร่วงผลอยลงบนพื้นถนน
" ว้ายยยยย " เสียงกรีดร้อง อย่างกับแบนชี ของเจ้าหล่อน
ดังเสียดอากาศ ตามหลังสุริยนมา
ร่มของเธอ ยังติดที่หลังรถของเขาอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่จะหล่น
ร่วงกับพื้นถนนในที่สุด ส่วนเจ้าของร่ม ล้มหน้าคะมำ อยู่บนพื้นไปก่อนแล้ว
" มีหมวกกันน็อคอยู่ เธอไม่เห็นหน้าเราหรอก " สุริยน ปลอบใจตัวเอง
" ทิ้งทุกอย่างเอาไว้ ยังไงต้องไปให้ทัน " สุริยนเม้มปาก
ข่มใจไม่ให้ไหวหวั่น กับเรื่องที่ถาโถมเข้ามา เขาต้องไปให้ทันนัดให้ได้
" เดี๋ยว ! " สุริยนพุ่งทะยาน ราวกับกามนิตหนุ่ม ตรงมายังลิฟท์
ที่กำลังจะปิด ของอาคารสูงสง่าแห่งหนึ่งย่านรัชโยธิน
" ทันจนได้ ในที่สุด " เขาเหลือบไปมองนาฬิกาที่บ่งบอกว่า
ยังเหลืออีก ราว ๆ นาทีครึ่งก่อนสิบโมง
ออกจากลิฟท์ได้ สุริยนก็วิ่งหน้าตั้งตรงไปยัง ยามเฝ้าหน้าประตู
ของบริษัท เบสท์แพค " มา.. มาวางบิลครับ ด่วนที่สุด " สุริยนละล่ำละลักบอกยาม
" อ้าวพี่ พี่ยน " เสียงใสแจ๋ว ของพนักงานออฟฟิศร่างเล็ก เพรียวบาง
ในชุดฟอร์มสี โอลด์โรส ดูนวลตา เอ่ยทักสุริยน
" นี่ นิดโทรบอกพี่หรือยัง ว่าเราเลื่อนนัดแล้วน่ะ " สาวสวย เอื้อนเอ่ย
ด้วยน้ำเสียง ที่เจือไปด้วยความสงสารปนรู้สึกผิด หลังจากเห็นสภาพคลุกฝุ่นของสุริยน
" อะไรนะ น้องฝ้าย เลื่อนนัด นี่ตกลงคุณศรีวิมล เลื่อนนัดงั้นเหรอ "
สุริยนตกใจปนหัวเสียอย่างมาก ที่รู้ว่า หลังจากผ่านมรสุมมาทั้งเช้า กลับจะต้อง
คว้าน้ำเหลว กลับบ้านมือเปล่า
" ใช่พี่ เอ๊ย ไม่ใช่พี่ ว้า จะพูดไงล่ะ " สาวฝ้าย อึกอัก ก่อนจะอธิบายต่อไป
" คือ คุณศรีวิมล ท่านมาตามนัดไม่ได้ คือ เมื่อเช้านี้ที่บ้านท่านแจ้งมาว่า
คุณศรีวิมล อาหารเป็นพิษ ตอนนี้ยังอยู่ที่โรงพยาบาลจ้ะ "
ไม่ทันที่ สุริยนจะอ้าปากบ่น สาวสวยรีบ สาธยายต่อ
" เดี๋ยว ๆ พี่ แต่ยังไงวันนี้ พี่จะได้วางบิลแน่จ้ะ " สุริยนได้ฟังดังนั้น
ก็หน้าชื่น สดใสขึ้นมาทันที ที่อย่างน้อยก็ไม่เสียเที่ยว
" คืออย่างนี้ คุณศรีวิมลท่านได้โทรสั่งให้ คุณปิรัณย์ ท่านรองสมุห์บัญชี ของ
เบสท์กรุ๊ป สำนักงานใหญ่ของเราน่ะ มาเป็นคนตรวจความถูกต้องของเอกสารแทน "
หลังจากที่ได้รับฟังข่าวค่อนข้างดี จากฝ้าย ผู้ช่วยเลขานุการของคุณศรีวิมลแล้ว
สุริยน ก็หลบมานั่งดูแผลที่เพิ่งได้จากเหตุการณ์เมื่อเช้า
" เฮอะ คนอะไรชื่ออย่างกับ ปลาปิรันย่า ชื่อดีกว่านี้ ไม่มีแล้วเรอะ "
สุริยน หัวเราะในลำคอ กับมุขตลกของตัวเอง
สุริยนตรวจตรา เสื้อคลุมที่มีรอยฉีกขาดเล็กน้อย เนื่องจากอุบัติเหตุเมื่อครู่
" กำปั้นไชโย นี่ท่าทางจะเป็น เครื่องรางปกป้องเราได้อย่างที่ พี่ชายบอกจริง ๆ "
สุริยน นึกถึงคำพูดของสมชาย ที่อวยพรเขาก่อนจะออกมา พลางมองไปที่สัญลักษณ์
รูปกำปั้น อันใหญ๋ด้านหลังเสื้อคลุมนั่น
" ว่าแต่ ยายนิดโทรมาหรือเปล่าน้า " สุริยนคว้าโทรศัพท์มือถือ มาดู
ปรากฏว่า รายการสายที่ยังไม่ได้รับขึ้นยาว บ่งบอกว่า ช่วงที่สุริยนกำลังคับขัน
บนท้องถนนเมื่อครู่ ทำให้เขาไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์
" จริงเหรอคะ " เสียงตกใจเล็กน้อย ของสาวออฟฟิศข้างนอกนั่น
ทำให้ สุริยนสนใจ ในขณะที่เขากำลังนั่งรอ คุณปิรัณย์อยู่ที่ห้องประชุมเล็ก ๆ
ที่ใช้เป็นสถานที่รับวางบิล
" จริงสิ ถ้าชั้นเจอมันนะ " น้ำเสียงที่ฟังแล้วทำให้ขนหัวลุกชันในทันทีนั่น
ทำให้สุริยน ตัวแข็งทื่อ
" มะ.. มาได้ไง " สุริยนตกใจปากสั่น เขาจำเสียงเล็กคมกริบนั่น ได้ทันที
เร็วปานสายฟ้าแลบ โดยไม่ต้องคิด สุริยนรีบซ่อนเสื้อคลุม ตราสัญลักษณ์
กำปั้นไชโย ไว้ในกระเป๋าเอกสารอย่างปัจจุบันทันด่วน แม้จะเก็บได้ไม่มิดชิดก็ตาม
" กำปั้นอันใหญ่ เบ้อเร่อนั่น ไม่ต้องสงสัยเลย ถ้าหล่อนเห็นมันอีกทีละก็ "
สุริยนใช้สมองอันฉลาดปราดเปรื่อง คำนวณผลอย่างรวดเร็ว
" แล้วท่านเห็น เลขทะเบียนรถไหมคะ " ผู้ช่วยเลขาสาว ถามไถ่อย่างสนใจ
" หึ คิดแล้วเจ็บใจ ก็ไม่คิดว่ามันจะหนีน่ะสิ เลยไม่ได้ตั้งใจมอง " คุณปิรัณย์
กล่าวอย่างเจ็บแค้น
" แต่ชั้นจำด้านหลังมันได้ มีรูปกำปั้นอันใหญ่ สีแดงสลับน้ำเงินน่ะ ชาตินี้
ชั้นคิดว่าจะไม่ลืมแน่ ๆ ถ้าเห็นอีกครั้งล่ะก็ ฮึ่ม.. " คุณปิรัณย์กัดฟันพูดอย่างอาฆาต
สุริยนเข้าใจถูกแล้ว
" นี่ยังดีนะ ที่เรายังหัวไว ถ้าให้หล่อนเห็นละก็ ... " สุริยนตัวสั่น อย่างคุมตัวเองไม่ได้
" นี่ถ้าคุณศรีวิมล ไม่ขอมา วันนี้ชั้นคงได้ไปอยู่ภูเก็ตแล้ว ไม่ต้องมาเจอ
เรื่องบ้า ๆ ที่นี่ " คุณปิรัณย์นึกเสียดาย การประชุมสัมมนาผู้ทำบัญชี ที่ทางสำนักงานใหญ่จัดขึ้น
พลางเอามือลูบ แผลถลอกบนใบหน้าด้านขวา จากอุบัติเหตุที่เพิ่งเกิดจากน้ำมือสุริยน
" อ้าวไหน เอามาสิ เอกสารน่ะ " คุณปิรัณย์สั่งอย่างเฉียบขาด ดูออกว่ายัง
ข่มอารมณ์คับแค้นใจไม่ได้
สุริยนรีบนำเอกสารชุดวางบิลปึกใหญ่ ออกจากซองสีน้ำตาล อย่างรวดเร็ว
ด้วยมือที่สั่นเทา
คุณปิรัณย์คว้าเอกสารมาวางตรงหน้า วิญญาณนักตรวจสอบบัญชี เข้าสิงอีกครั้ง
" บริษัท ไชโยบ็อกซ์ เหรอ ค่าตะกร้าเหล็ก 17 ล้า... " เสียงเล็กนั่น หยุดอย่างทันที
ทันใด ที่สายตาเล็กคมนั่น เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง
เพียงชั่วอึดใจ รอยยิ้มน่ากลัว ได้เผยอออกมาจากมุมปากของคุณปิรัณย์
ถึงตรงนี้ สายตาของสุริยนก็ได้จ้องมองไปยัง จุดเกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว
เขาทราบแล้ว ว่าอะไรกำลังจะเกิดตามมา เพียงแต่ว่า ถึงตรงนี้สมองของเขาคิดอะไร
ต่อไม่ได้แล้ว เพราะเขากำลังจะเป็นลม
ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือ ตราสัญลักษณ์ ' กำปั้นไชโย ' บนเอกสารวางบิล
ของบริษัท แม้ขนาดจะเล็กกว่าบนเสื้อคลุมของเขามาก แต่สีน้ำแดงสลับน้ำเงินฉูดฉาดนั่น
ไม่ผิดเพี้ยนไปเลยแม้แต่น้อย
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น