ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลุ้นรักละมุนเต็มหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #4 : ค่ายอาสา

    • อัปเดตล่าสุด 24 ส.ค. 53


    4
    ค่ายอาสาร
                และวันที่ฉันรอคอยก็มาถึง เช้านี้แม่ฉันมาส่งที่โรงเรียนเพื่อขึ้นรถบัส และก็กำชับฉันให้ดูแลตัวเองดีๆ กว่าจะปล่อยให้ฉันขึ้นรถมาได้
                “หวัดดี” นิกทักฉันเมื่อขึ้นรถมา
                “นายมาแต่เช้าเลยนะ” ฉันว่า
                “ไม่ชอบออกช้านะ” นิกบอก ฉันก็เดินไปนั่งเบาะตรงกับเขาแต่คนละฝั่ง
                “นี้นาย ให้บิวไปนั่งกับนายได้ไหม” ก้อยว่า
                “ก้อย” ฉันเรียกชื่อเพื่อนตัวเองเสียงหลง
                “ได้ซิ” นิกว่าและก็พยักหน้าเรียกฉัน
                “เธอคิดจะทำอะไร” ฉันพูดให้ได้ยินแค่สองคน
                “น่า ฉันช่วยเธอนะ” ก้อยว่าและก็รีบดึงให้ฉันไปหานิก ฉันได้นั่งริมหน้าต่าง และการเดินทางก็ถึงจุดหมายปลายทางหลังจากที่นั่งกันมานานหลายชั่วโมง
                “อ้าวนักเรียน เดี๋ยวเราจะเข้าไปในหมู่บ้าน ซึ่งต้องเดินไปอีกแค่ 1 กิโล แล้วเราจะพักกันที่นั้นนะ” อาจารย์บอก
                “ไม่ไหวบอกฉันได้นะ” นิกเดินมาข้างๆฉัน
                “อืม” ฉันพยักหน้าให้เขาก่อนจะเดินนำไปก่อนกับก้อย
                “สงสัยเขาก็สนใจเธอบ้างแหล่ะ” ก้อยว่า
                “เขาบอกว่าเพื่อนก็คือเพื่อน” ฉันบอก
                “แอบมองมาตั้งนาน เธอจะยอมตัดใจเพียงแค่เขาพูดคำว่าเพื่อนเหรอ” ก้อยบอก ฉันก็อึ้งไปเหมือนกัน ใช่ซิเราจะให้จบแค่เขาบอกให้เป็นเพื่อนเหรอ
                “นี้เธอไหวไหม” คนนี้ชื่อโบว์ซินะ
                “ไหว” ฉันบอก
                “อาจารย์คะเมื่อไรจะถึง” จ๋าเริ่มบ่นขึ้นมา
                “นี้ไงถึงแล้ว” อะไรนะ ฉันมองไปข้างหน้า จริงด้วยถึงหมูบ้านแล้ว
                “ที่เราจะสร้างห้องสมุดเหรอคะ” ฉันถาม
                “จ๊ะ” อาจารย์ว่าและก็เดินนำไป
                “ไม่เป็นไรนะ” นิกเดินมาถาม
                “อืม สบายมาก” ฉันบอก ทั้งที่ร่างกายบอกว่าเหนื่อยแล้ว แต่ฉันต้องอดทนเพราะไม่อยากแสดความอ่อนแอให้นิกเห็น
                “ครูจะแนะนำให้พวกเธอรู้จักผู้ช่วยของเรา” อาจารย์ว่าพวกเราก็ต้องฟัง
                “บลู จะเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเราถ้าขาดอะไร” อาจารย์บอก
                “ยินดีที่ได้รู้จัก” ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน
                “เราจะกางเต็นท์กันที่นี้ ผู้หญิงกับผู้ชายจะอยู่คนละฝั่งกัน” อาจารย์บอก
                “ไปกางเต็นท์เถอะ” โบว์เป็นคนพูดขึ้นก่อนจะไปกางเต็นท์กับรวงข้าว
                “เราก็ไปบางเถอะ” ก้อยบอกและเราก็เริ่มกางเต็นท์กัน
                “ให้ช่วยอะไรไหม” นิกเดินมาถาม
                “ไม่เป็นไรหรอก นายก็ต้องกางเหมือนกันนี้” ฉันว่า
                “เอาไว้เสร็จแล้วฉันจะมาช่วยนะ” นิกบอกและก็กลับไปกางเต็นท์ของตัวเอง และนิกก็มาช่วยฉันกางเต็นท์ตามสัญญา
                “ขอบใจนะ” ฉันบอก
                “ไม่เป็นไรหรอก เพื่อนกันนี้” คำนี้อีกแล้ว แต่มันก็สะกิดใจฉันอย่างจังเลยล่ะ
                “นักเรียนมากินข้าวกันได้แล้ว” และอาจารย์ก็เรียกกินข้าว
                “เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ค่อยเริ่มงานกันนะครับ” บลูว่า
                “กี่โมง” คีย์ถาม
                “6 โมงเช้า”
                “ถ้าอยู่บ้านฉันยังไม่ตื่นเลยนะ” คีย์ว่า
                “ก็ให้วีนัสโทรมาปลุกซิ” นิกล้อเพื่อน
                “ใครเหรอวีนัส” ก้อยถาม แต่ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน
                “แฟนฉันเอง” คีย์รีบรับ สงสัยจะรักแฟนเอามากๆ แค่พูดชื่อก็ยิ้มด้วยความสุข
                “เอาล่ะ กินเสร็จก็ไปอาบน้ำเข้านอนนะ” อาจารย์ว่าและพวกเราก็นั่งกินข้าวกัน
                “ใครจะกินลง” จ๋าโวย
                “ก็เคี้ยวๆและก็กลืนไง” ก้อยสวนไป
                “ฉันรู้แต่ ฉันกินอาหารแบบนี้ไม่ได้หรอก เดี๋ยวท้องเสีย” จ๋าว่าละก็กลับเต็นท์ตัวเองไป
                “คือ จ๋าเขาคงไม่ถูกกับอาหารที่นี้นะ” ฉันบอกบลู เพราะกลัวเขามองจ๋าในแง่ร้าย
                “ไม่เป็นไรหรอก แล้วทุกคนชื่ออะไรบ้างล่ะ” บลูถาม
                “ฉันชื่อบิว” ฉันแนะนำเป็นคนแรก
                “นิก”
                “เซน นี้รวงข้าวแฟนฉัน” เซนเป็นคนบอกแทนรวงข้าว
                “ฉันโบว์ นี้ทิกเกอร์” 
                “เป็นแฟน” ทิกเกอร์ต่อท้ายประโยค
                “ฉันคีย์สุดหล่อ” เข้าข้างตัวเองได้ตลอด
                “ฉันก้อย”
                “นี้ก็เริ่มจะดึกแล้ว ไปอาบน้ำเข้านอนเถอะ เดี๋ยวอากาศจะหนาวขึ้น” บลูบอกและก็เดินออกไป
                “อย่าลืมกินยานะบิว” ก้อยหันมาเตือนก่อนจะเอาจานไปเก็บ
                “เธอเอาโทรศัพท์มาหรือเปล่า” รวงข้าวถาม
                “ไม่ได้เอามานะ” ฉันบอก
                “เหรอ ว่าจะโทรหาแม่ซะหน่อย” 
                “ใครเขาเอามากันล่ะ กลัวหายกันทั้งนั้น ไปอาบน้ำเถอะ จะให้ไปเฝ้าไหม” เซนถามรวงข้าว
                “ไม่ต้องเดี๋ยวไปกับโบว์” รวงข้าวบอกและทุกคนก็ต่างลุกไปทีละคน ฉันกินยาก่อนจะลุกเป็นคนสุดท้าย
                เช้าวันแรกของการเป็นอาสาสมัคร
                “เราจะแบ่งกลุ่มกันนะ” บลูพูดขึ้น
                “ฉันขออยู่กับบิวนะ” ก้อยรีบพูด
                “วันนี้เราจะเริ่มทำความสะอาดกันก่อน โดยให้ผู้ชายเอาไม้ที่ผุออกมา ผู้หญิงก็ช่วยเก็บกวาด” บลูว่า
                “ฉันไม่ทำนะ” จ๋ารีบว่า
                “ทำตัวมีปัญหาตามเคย” ก้อยว่า
                “ฉันทำไม่ได้ก็บอกทำไม่ได้ ไม่ได้จะไปเป็นตัวถ่วงใครนี้”  ไม่วายประชดฉันจนได้
                “คนที่ไม่ทำอะไรซิตัวถ่วง” ไม่ฉันเสียงฉันนะ
                “นิก” ฉันเรียกเขา
                “ไปกันเถอะ” นิกว่าและก็จูงมือฉันให้ขึ้นไปทำความสะอาด
                “ขอบใจนะ” ฉันบอก
                “ฉันไม่อยากฟังคำนี้ อยากให้เธอโต้ตอบบ้าง” นิกว่า
                “ฉันจะพยายามนะ” ฉันบอก
                “อืม ทำความสะอาดกัน เธอนั่งรอก่อนนะให้ฉันเก็บไม้ก่อนแล้วเธอคอยกวาดอีกที” นิกว่าฉันก็เลยทำตามที่เขาบอก นายทำดีกับฉันอย่างนี้ซิ ฉันถึงรักนายและก็คิดกับนายแค่เพื่อนไม่ได้ ฉันนั่งมองนิกเก็บไม้จนหมด
                “เหนื่อยไหม” ฉันถาม พร้อมกับยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เขา
                “มือฉันเปื้อนเช็ดให้หน่อยซิ” นิกว่า ทำเอาฉันเขินแต่ก็ยอมเช็ดให้เขา
                “เธอหน้าแดงรู้ไหม” 
                “อากาศร้อนมั้ง” ฉันว่า
                “เหรอ” ยังจะมาล้ออีก
                “เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำให้นะ” ฉันรีบเดินไปตักน้ำมาให้เขากิน
                “มาช่วยกันกวาดเถอะ” นิกว่า
                “แต่นี้มันหน้าที่ฉันนะ”
                “ช่วยกันจะได้เสร็จเร็วๆไง” และเราก็ลงมือช่วยกันกวาดพื้นอันอย่างสนุก สักพักเพื่อนๆที่เหลือก็ตามาช่วย
                “เป็นไงบ้าง” ก้อยถาม
                “สนุกดี” ฉันตอบ
                “กวาดพื้นนี้นะสนุก” ก้อยพูดอย่างไม่เชื่อ
                “เอาล่ะ วันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้เราจะไปเข้าไม้ใหม่ กระเบื้องเริ่มทำหลังคากัน” บลูบอก
                “เย้ ดีใจจัง” คีย์บอกก่อนจะเดินกลับเช้าเต็นท์เป็นคนแรก
                เวลาผ่านไป 3 วัน ดูทุกอย่างจะเริ่มเข้าที่แล้ว ตอนนี้ก็เหลือแต่ทำหน้าต่างและก็ประตู
                “วันนี้พวกผู้หญิงไปช่วยป้าๆทำอาหารแล้วกัน” บลูว่า
                “ก็ดีเหมือนกัน เหลือแค่นี้เอง” นิกเห็นด้วย
                “อืม แล้วตอนเที่ยงจะเอาอาหารมาให้นะ” ฉันบอก
                “ทำให้อร่อยนะสาวๆ” เสียงนายคีย์
                “ฉันหมั่นไส้ยายจ๋านั้นจัง” โบว์ว่า
                “นั้นซิ ทำอะไรก็ไม่ยอมทำ” ก้อยเข้าข้างโบว์
                “ปล่อยเขาไปเถอะ” ฉันว่า
                “ไม่ได้” โบว์กับก้อยถามพร้อมกัน
                “แล้วพวกเธอจะทำอะไร” ฉันถามพร้อมกับรวงข้าว
                “คอยดูแล้วกัน” ก้อยว่าและก็ยิ้มให้กับโบว์
                “กรี๊ดๆๆๆ” และสักพักเสียงกรี๊ดของจ๋าก็ดังขึ้น
                “ไปดูกันเถอะ” ฉันบอกรวงข้าว
                “ฮ่าๆๆๆ” โบว์กับก้อยยืนหัวเราะจ๋าอยู่
                “ก้อยเธอทำอะไร” ฉันถาม
                “เปล่า ยายจ๋าอยากอาบน้ำโคลนเฉยๆ” ตอนนี้จ๋าจมอยู่กับโคลน นั่งดิ้นอยู่
                “ใครบอกเธอ อย่าให้ฉันขึ้นไปนะ” จ๋าว่า
                “เกิดอะไรขึ้น” อาจารย์มา
                “อาจารย์คะ พวกนี้แกล้งหนูคะ” อาจารย์ว่า
                “เธอไปอาบน้ำ เสร็จแล้วก็ไปพบครูด้วย” อาจารย์บอกกับจ๋าก่อนจะกลับไป
                “นกแก้วไปไหนล่ะ” คีย์ถาม ทำเอาทุกคนทำหน้างง
                “ใครวะ” ทิกเกอร์ถาม
                “ก็ยายจ๋าไง”
                “อาจารย์เรียกไป ยังไม่กลับเลย” ฉันบอก
                “มีเรื่องอะไรกันเหรอ” นิกถามและก็มองหน้าฉัน
                “ไม่มีอะไรหรอก แค่ขำๆนะ” โบว์ว่า
                “จริงเหรอ” นิกย้ำ
                “อืม ใช่ไหมบิว” ก้อยหันมาถามฉัน ฉันก็เลยพยักหน้าเห็นด้วย
                เช้าวันต่อมา
                “เหลือแต่จัดหนังสือซินะ” ฉันว่า
                “ดีนะ ฉันเอาหนังสือมาด้วย” รวงข้าวบอก
                “ฉันก็เอามา” โบว์ว่า
                “เรามาจัดกันเถอะ จะได้เสร็จ พรุ่งนี้ก็จะได้ให้เด็กๆมาดูกัน” ฉันบอก และเราก็ลงมือจัดหนังสือกันจนเที่ยง พวกหนุ่มก็เลยมาตามไปกินข้าว
                “เหนื่อยไหม” นิกถาม
                “ไม่เห็นถามพวกฉันเลย” ก้อยล้อ
                “ก็ถามทุกคนนั้นแหล่ะ” นิกบอก
                “ไม่เหนื่อยหรอก อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว” ฉันว่า
                “เห็นว่าอาจารย์ส่งยายจ๋ากลับกรุงเทพไปแล้วนะ” คีย์บอก
                “ทำไม”
                “ก็เห็นบอกว่าไม่อยากอยู่”
                “ดีแล้ว อยู่ก็ไม่ช่วยอะไร” ก้อยว่า
                “ไปกินข้าวกันเถอะ” นิกว่า พอเดินได้ไม่กี่ก้าวฉันรู้สึกหน้ามืดขึ้นมา
                “เป็นอะไร” นิกถาม ดีนะที่เขาเดินตามหลังมาทำให้เขาประคองฉันเอาไว้
                “แค่หน้ามืดนะ” ฉันบอก
                “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันเอาข้าวมาให้กิน” นิกว่า
                “ดีเหมือนกัน ฝากดูด้วยนะ” ก้อยว่าและฉันก็ถูกนิกควบคุมกินข้าวกินยา
                “ค่อยังชั่วหรือยัง” นิกถาม
                “ดีแล้วล่ะ” ฉันบอก
                “ที่เหลือฉันจัดเอง”
                “ไม่เป็นไรฉันทำได้”
                “เธอต้องนั่งเฉยๆ” นิกพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ฉันก็เลยต้องนั่งเฉยๆตามที่เขาบอก และนิกก็จัดจนเสร็จ
                “ไปกันเถอะเสร็จแล้ว” นิกว่าและก็จูงมือฉันเดินไป แค่อยู่ใกล้ฉันก็ใจเต้นแรงมากพอแล้วนี้ดันถูกจับมือทำให้รู้สึกหัวใจจะทะลุออกมา
                “วันนี้เขามีรอบกองไฟด้วยนะ” ก้อยวิ่งมาบอก แต่พอเห็นว่าฉันถูกจับมือก็มองตาโต ฉันอายก็เลยดึงมือออกจากนิก
                “ขอโทษนะ แล้วเจอกันนะ” นิกว่าและก็กลับเต็นท์ไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×