ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {KIHAE&WONHYUK} If that day comes ... ถ้าหากวันนั้น

    ลำดับตอนที่ #13 : If that day comes - [7] - Buckingham Palace

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.59K
      5
      17 มิ.ย. 53








                    วันนี้ฮยอคแจก็กลับไปทำงานช่วยพี่จินซอกแล้ว โดยมีซีวอนพ่วงตามไปด้วย คงปรับความเข้าใจกันแล้วล่ะมั้ง ก็เมื่อวานค้างที่ห้องซีวอนซึ่งเค้าก็มารู้ทีหลังนี่ล่ะว่าอยู่ตรงข้ามห้องที่เค้าพักอยู่นี่เอง

                    ยังไงนายก็เลือกเค้าอยู่ดีนั่นล่ะ...เพื่อนรัก

                    ไม่อย่างนั้น...เค้าคงไม่ใช่คนแรกและคนเดียวที่นายยอมมอบร่างกายให้หรอก

                    เค้าเองก็ได้แต่หวังว่าซีวอนจะยอมหยุดที่เพื่อนสนิทของเค้าคนนี้ซะที

    อย่ารักๆเลิกๆอีกเลยเถอะ เค้าล่ะปวดหัว

                    ไม่น่าเชื่อจนถึงตอนนี้เค้าอยู่ในลอนดอนมาครบหนึ่งอาทิตย์แล้วล่ะ เวลาทำไมมันผ่านไปเร็วจังนะ

                    คิดถึงคิบอมจังเลย..

                    พรวด!!!

                    ร่างบางลุกขึ้นมาจากเตียงนอนอย่างรวดเร็ว แล้วมองไปยังนาฬิกา

                    ...10.30 น. ....

                    จะไปดีมั้ย?...แต่ถ้าเค้าไม่มาล่ะ?

    นี่มันก็เลยเวลานัดไปแล้วนะ แล้วจะเอายังไงดี?

                    ลง...ไม่ลง...ลง?....ไม่ลง?...

                    ร่างบางพยายามหาเหตุผลใดๆมาหักล้างกัน

                    เอ....ทิชชู่หมดนี่นา ลงไปซื้อดีกว่า ทงเฮว่าแล้วก็เดินออกจากห้องไป

                    นี่ล่ะมั้ง เหตุผลที่ดูเข้าท่าที่สุด? = =;;

                    จะลงไปซื้อทิชชู่นี่ล่ะ

                    ทงเฮเดินลงมาข้างล่างโรงแรมด้วยใจตุ๊มๆต่อมๆ ถ้าออกไปแล้วเจอความว่างเปล่าล่ะ จะทำยังไงดี?

                    แต่ถ้าลงไปเจอคิบอม จะต้องทำยังไงเหมือนกันล่ะ?

                    โอ๊ย! คิดไม่ออก ทงเฮอยากจะทึ้งหัวตัวเองเล่นจริงๆ

                    แต่คงไม่ต้องคิดอะไรแล้วล่ะ เพราะเมื่อลงไป ก็เจอร่างสูงยืนรออยู่ก่อนแล้ว สายตาคมมองมายังร่างบาง

                    ทงเฮก้มหน้าหลบสายตา มันตั้งตัวไม่ทัน ไม่รู้จะพูดอะไรดี

                    ให้ผมมารอท่ามกลางอากาศหนาวๆแบบนี้ ใจร้ายมากเลยนะครับ ผมมารอตั้งแต่ เก้าโมงแล้ว คิบอมบอก

                    ร่างบางหับขวับกลับมามองทันที

                    คุณทำบ้าอะไรเนี่ย! มายืนรอทำไมอากาศก็เย็นขนาดนี้เนี่ย!!!”

                    เพราะผมรู้ ยังไงคุณก็ต้องมา

                    ใครบอกว่าผมมาหาคุณ ผมก็แค่...แค่จะออกไปซื้อกระดาษทิชชู่เท่านั้นเอง

                    โรงแรม เค้ามีบริการให้อยู่แล้วนี่ครับ ไม่เห็นจะต้องออกไปซื้อเองเลย

                    ก็...ชั้นเพิ่งเคยมาพักครั้งแรก จะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะ

                    คิบอมยิ้มบางๆ ก่อนจะคว้ามือทงเฮมากุมไว้

                    อะไร... ทงเฮเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

                    ไปเที่ยวกัน... คิบอมบอก

                    ไปไหน...ไม่ไป หัวใจทงเฮกำลังเต้นโครมคราม จนเจ้าของกลัวว่ามันจะหลุดออกมานอกอก ในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง

                    ต้องไป... ร่างสูงยักคิ้วเพิ่ม

                    คุณมีสิทธิ์อะไรมาบังคับผม

                    สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของจูบแรกของคุณยังไงล่ะครับ

                    ฉ่า!...หน้าเปลี่ยนสีอีกแล้วลี ทงเฮ

                    คิบอมยกมือข้างซ้ายของทงเฮซึ่งตัวเองกุมไว้อยู่ ขึ้นมาประทับจูบบริเวณนิ้วนางข้างซ้าย

                    นะ...ให้ผมเป็นไกด์นำเที่ยงของคุณต่อเถอะนครับ

                    ทงเฮมองตาสีฟ้าๆนั่นอยู่สักพัก จึงตอบในที่สุด

                    ผมก็แค่ว่างๆ แล้วก็ไม่รู้จะไปไหนไปกับคุณก็คงไม่เสียหายอะไร

                    พูดเหมือนผมบังคับให้ไปเลย

                    แล้วถ้าผมบอกว่าผมไม่ไปกับคุณล่ะ

                    คุณก็ต้องไปอยู่ดี

                    ทงเฮเชื่อแล้วล่ะว่าคิบอมนั้นยังมีความดื้อที่บางทีอาจจะมากกว่าเค้าด้วยซ้ำไป

                    งั้นจะรออะไรอยู่ล่ะ ก็เดินสิ ทงเฮสั่ง

                    ครับผม.... คิบอมว่าแล้วก็พาทงเฮเดินไปยัง tube (รถไฟใต้ดิน) เพื่อไปยังจุดหมายของวันนี้

                    ลงที่สถานีอะไรอ่ะคิบอม ทงเฮถาม

                    “St. Jame’s park Station ครับ คิบอมตอบ

                    และทงเฮก็ได้รู้ในที่สุดว่าสถานที่ท่องเที่ยวในลอนดอนของเค้าในวันนี้ก็คือ

                    พระราชวังบัคกิ้งแฮม (Buckingham Palace)

                    เค้าเคยเห็นที่นี่บ่อยครั้งตามหนังสือ หรือในทีวีออกสื่อต่างๆ แต่การที่มาได้เห็นกับตาตัวเองในตอนนี้ มันคนละเรื่องเลยล่ะกับที่ได้เคยเห็นมา

                    ที่นี่สง่างาม หรูหรา ยิ่งใหญ่ และประทับใจแม้เป็นยามแรกเจอ

                    พระราชวังที่มีสีขาวทั้งหลัง และเหนือยอดสุดของหลังคามีธงของสหราชอาณาจักรโบกปลิวสไวอยู่ ประตูทางเข้าที่มีขนาดใหญ่สีขาวและสีทอง รวมทั้งรูปปั้นเล็กใหญ่มากมาย ดึงดูดสายตาให้อยากจะเข้าไปสัมผัสภายใน

                    ร่างสูงยกนาฬิกาขึ้นดูก็พบว่าเป็นเวลา 11.00 น.

                    คิบอมเราเข้าไปดูข้างในได้มั้ย? ทงเฮหันมาถาม

                    ตอนนี้ไม่ได้หรอกครับ พระราชวังบัคกิ้งแฮม จะเปิดให้เข้าชมบริเวณท้องพระโรง ห้องจัดพระราชทานงานเลี้ยง ห้องทรงดนตรี ห้องขาว ห้องเขียว และห้องน้ำเงิน เฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้นครับ

                    ว้า...แย่จังเลยนะ ทงเฮพูดอย่างเสียดาย ก่อนจะหันมาบอกกับ

    คิบอมอีกครั้ง

                    งั้นเราก็เข้าไปเดินดู รอบๆกันมั้ย? ทงเฮมองไปยังสวนสวยๆแล้วก็ชอบใจ

                    แต่ผมว่า...มาทางนี้ดีกว่า คิบอมจูงมือทงเฮมายังบริเวณอนุสาวรีย์ของพระนางเจ้าวิคตอเรียซึ่งอยู่ด้านหน้าของพระราชวัง ก่อนที่ร่างสูงจะนำทงเฮนั่งบริเวณบันได

                    ทำไมต้องมานั่งตรงนี้ด้วยล่ะคิบอม แม้จะยังสงสัยแต่ร่างบางก็ยกกล้องขึ้นมาถ่ายเป็นว่าเล่น

                    เดี่ยวตอนสิบเอ็ดโมงครึ่งที่บัคกิ้งแฮมจะมีพิธีเปลี่ยนเวรยามของทหารรักษาพระองค์ครับ ตรงสนามด้านนั้นไง คิบอมชี้มือ

                    แล้วทำไมเราไม่เข้าไปดูใกล้ๆตรงนั้นล่ะ... ทงเฮไม่เข้าใจ

                    ก็จากตรงนี้ ถ้าเรายืนขึ้น เราก็จะเห็นได้ชัดเจนจนหมด อีกอย่างไม่เสียเงินด้วยนะ ส่วนนี้น่ะ ประหยัดได้ตั้ง 12.5 ปอนด์แน่ะ

                    นายนี่รอบคอบจังนะ ทงเฮพยักหน้า

                    อยากรู้ประวัติที่นี่มั้ย? ผมทำการบ้านมาดีนะ คิบอมยิ้ม

                    ทงเฮรู้แล้วว่ายามที่ดวงตาสีฟ้าสะท้อนกับแสงแดดอ่อนๆแล้ว ราวกับว่าเค้ากำลังมองท้องฟ้าอันกว้างใหญ่อยู่เลยล่ะ

                    อบอุ่น...และอ่อนโยน

                    ก็ได้....เอาสิ แม้น้ำเสียงจะไม่สนใจ แต่ประกายตามันก็บอกให้

    คิบอมรู้ดียังไงร่างบางก็ต้องตั้งใจที่ตนจะพูดแน่

                    พระราชวังบัคกิ้งแฮมเป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 และพระสวามี แต่เดิมเป็นคฤหาสน์ที่สร้างสำหรับจอห์น เชฟฟิลด์ ดยุคแห่งบัคกิ้งแฮม ในปี ค.ศ. 1703 และได้รับการปรับปรุงให้กลายเป็นพระราชวังในเวลาต่อมา

                    อ่อ...แล้วเชื้อพระวงศ์คนไหนที่เริ่มให้ที่นี่เป็นพระราชวังพระองค์แรกหรอ?

                    สมเด็จพระราชานีนาถวิกตอเรียครับ คิบอมยิ้มก่อนจะตอบ

                    ประวัติศาสตร์เยอะแยะไปหมดเลยนะ ที่นี่น่ะ

                    บางครั้งผู้คนก็เรียกพระราชวังบัคกิ้งแฮมสั้นๆว่า บัคเฮ้าส์ครับ

                    และเมื่อมาถึงเวลา 11.30 น. คิบอมก็พาทงเฮไปยืนยังบนได้ชั้นบนสุด และเฝ้ามองทหารรักษาพระองค์พากันเดินสวนสนาม

                    มือบางรีบยกกล้องขึ้นมาถ่ายอย่างรวดเร็ว ทหารอังกฤษที่สวมเสื้อแขนยาวสีแดง กางเกงขายาวสีดำ หมวกใบใหญ่สีดำ หรือแม้แต่รองเท้าหนังสีดำถูกขัดจนเงาวับ

                    การเดินที่เป็นไปอย่างมีระเบียบสวยงาม แสดงถึงความแข็งแกร่งที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างราชวงศ์อังกฤษสืบไป

                    หลังพิธีเปลี่ยนเวรยามจบลง คิบอมก็พาทงเฮมานั่งที่บันไดเหมือนเดิม

    แต่ต่างฝ่ายต่างก็พากันเงียบไม่มีใครแสดงความเห็นใดๆออกมา

                    ขอบคุณนะครับ...สำหรับดอกไม้เมื่อวาน

                    อืม..ไม่เป็น...อ๊ะ! นายรู้? ทงเฮปิดปากตัวเองไม่ทัน

                    เด็กผู้ชายคนนั้นบอกว่าคุณเป็นผู้หญิงด้วยล่ะ คิบอมอมยิ้ม

                    ง่าส์..... ทงเฮทำหน้างอง้ำ

                    ขอบคุณสำหรับความหมายของดอกคาร์เนชั่นนะครับ

                    ทงเฮไม่ได้ตอบอะไร ทำเพียงยิ้มเขินๆเท่านั้น

                    คุณรู้มั้ย ความรักของคนที่ไม่เคยมีความรักน่ะ มันมีโดยรวมอยู่แค่สามรูปแบบเท่านั้นล่ะ คิบอมพูดก่อนจะชูนิ้วสาวนิ้วขึ้นมาประกอบ

                    มีอะไรบ้างล่ะครับ?

                    “1. คนที่ไม่เคยมีความรัก แล้วทึกทักเอาคนที่ตัวเองเจอว่านี่ล่ะความรักของเรา คิบอมพับนิ้วลงไปเก็บเอาไว้

                    ทงเฮขมวดคิ้ว...เค้าจะอยู่ในข่ายของความรักนี้มั้ยนะ?

                    “2. คนที่ไม่เคยมีความรัก แล้วหวาดกลัวเพราะเห็นความหวังจากคนรอบข้างเช่นครอบครัว หรือเพื่อน

                    ร่างบางก็ยังคิดว่าไม่น่าจะใช่ เพราะดูอย่างฮยอคแจและซีวอนสิ ก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อเค้าเลย

                    ข้อสามล่ะ... เสียงหวานเอ่ยทวง

                    ข้อ 3 ...ก็คือ คนที่ไม่เคยมีความรัก แต่กลับไม่รู้ตัวว่าได้รักใครคนหนึ่งไปแล้ว ด้วยความที่ไม่เคยมีความรักจึงไม่รู้

                    เมื่อได้ยินข้อนี้ เหมือนกับว่าหัวใจของทงเฮเต้นถี่ขึ้นมาทันที

                    หรือจะเป็นข้อนี้กันนะ?

                    คุณรู้รึยังล่ะครับ? ว่าคุณอยู่ในขอบข่ายของข้อไหน? ร่างสูงหันมาถาม เมื่อเห็นร่างบางนั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

                    ไม่บอกครับ ร่างบางอมยิ้มเล็กน้อย

                    ใจร้ายจริงๆ... คิบอมมีสีหน้าผิดหวังลงเล็กน้อย

                    ทงเฮยิ้มให้กับตัวเอง...เค้ามีคำตอบแล้วล่ะ รู้แล้วด้วยว่าตัวเองอยู่ที่ข้อไหน เพียงแต่เขินเกินกว่าจะกล้าพูดออกไปเท่านั้นเอง

                    ยังเกรงๆอยู่ว่าถ้าคนตรงหน้านี้รู้...จะทำยังไงดี?

                    คุณมีกระดาษกับปากกามั้ย?... คิบอมเอ่ยถาม

                    อ่อ มีครับ รอแป๊บนะ ทงเฮเปิดหาในกระเป๋าของตัวเองแล้วยื่นมันให้ร่างสูง

                    คิบอมรับไปเขียนอยู่สักพักแล้วส่งให้ร่างบางได้อ่าน

     

                    I _____ you

                    And you?. Do you ______ me ?

                    ….
                    I _____ you ,too.

     

                    อะไรกันหรอ? ทงเฮมองแล้วหันมาถาม

                    ผมขอกระดาษคืนด้วยนะ คุณต้องเติมคำที่หายไปทั้งสามช่องด้วยคำเดียวกัน แล้วแต่คุณเลย คิบอมยื่นปากกาให้ร่างบาง

                    ทงเฮค่อยๆคิดช้าๆ...แล้วก็หน้าแดงในที่สุด เมื่อคำแรกที่โผล่ขึ้นมาในหัวของค้ามันก็คือ...

                    ตัวอักษรสี่ตัว

                    ร่างบางยังไม่ยอมคืนกระดาษให้ร่างสูงทันที จนคิบอมอยากจะทำลายความอึดอัดนี้ลงไป

                    ใกล้ๆตรงนี้มีสวนสาธารณะอยู่นะ...ถ้าคุณอยากจะไป...

                    อยากสิ! ไปกันเถอะ ทงเฮกลับเป็นฝ่ายที่ลุกขึ้นออกเดินก่อนคิบอมเสียอีก

                    ในยามบ่ายที่แดดไม่จัดแบบนี้ เหมาะกันการเดินสวนสาธารณะเป็นที่สุด ทงเฮยังไม่ลืมที่จะยกกล้องขึ้นมาประทับความทรงจำเอาไว้

                    เรานั่งตรงนี้กันเถอะครับ คิบอมพาร่างบางนั่งที่ม้านั่งซึ่งหันหน้าเข้ากับน้ำพุ

                    ทงเฮที่ยังคงคล้องแขนคิบอมเอาไว้ไม่ปล่อย หันไปบอกคิบอมเบาๆ

                    นี่...ผมอยากกิน Fish & Chips” มือบางชี้ไปยังรถขายอาหารเล็กๆที่จอดอยู่ห่างออกไป

                    อ่อ..งั้นคุณรออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวผมเดินไปซื้อมาให้ คิบอมยิ้ม

    ก่อนจะเดินตรงมายังรถขาย

                    ขอ Fish & Chips 2 ชุดครับ

                    1 ชุดยังรวมไปถึงน้ำอัดลม 1 แก้วด้วยล่ะ

                    ทั้งหมด 4 ปอนด์ค่ะ...

                    มือหนาจึงล้วงไปที่กระเป๋าเสื้อโค้ทของตัวเอง ก่อนจะสัมผัสได้ถึงกระดาษใบหนึ่ง

                    เมื่อคลี่ออกดูก็พบว่าเป็นคำตอบของร่างบางนั่นเอง

     

                    I LOVE you

                    And you?. Do you LOVE me ?

                    ….
                    I LOVE you ,too.

     

                    ดวงตาสีฟ้าสั่นระริกด้วยความดีใจ ก่อนจะรีบนำอาหารทั้งหมดกลับมาที่ม้านั่งทันที

                    มาช้าจังเลย ทงเฮแกล้งบ่นเพื่อกลบอาการเขิน

                    ถ้าหิวก็รีบกินสิครับ... คิบอมยื่นจานกระดาษที่ใส่เนื้อปลาชุบเกล็ดขนมปังทอด และมันฝรั่งแท่งทอดให้ทงเฮกิน

                    ร่างบบางจึงลงมือกินอย่างมีความสุข

                    คิบอมยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม พร้อมกับลอบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของร่างบางไปด้วย

                    ที่เขียนตอบผมมา...จริงรึเปล่า...

                    แล้วนาย...ถามออกมาจากใจรึเปล่าล่ะ? ทงเฮตอบขณะที่ทอดสายตายาวมองไปยังน้ำพุ

                    ครับ.....

                    ถ้าอย่างนั้น...ช่วยสอนชั้นได้มั้ย? ว่าความรักเป็นยังไง ช่วยรักชั้นได้มั้ย...เพราะชั้นคงรักนายโดยที่ไม่รู้ตัวเข้าแล้วล่ะ ทงเฮหันมายิ้มและสบตาหวานเข้ากับสายตาคมสีฟ้า

                    ได้สิ แต่คุณก็ต้องช่วยผมเหมือนกันนะ... คิบอมยิ้ม

                    ???

                    ช่วยเปิดใจผม แล้วก้าวเข้ามาอยู่ในนี้เพื่อรักษาความเจ็บปวดของผมด้วยนะครับ

                    ทงเฮยิ้ม พร้อมกับหัวใจที่เบิกบานมากกว่าทุกวัน

                    คิบอมวางแก้วน้ำอัดลมลง เมื่อเห็นร่างบางกินเสร็จหมดแล้ว ก่อนจะเขยิบตัวเข้าไปนั่งใกล้ๆ

                    ทงเฮหันมามองอย่างหวั่นๆ

                    มือหนาข้างหนึ่งของคิบอมยกขึ้นมาแนบแก้มของทงเฮเอาไว้

    สองสายตาต่างประสานกันเป็นหนึ่งเดียว

                    คราวนี้...อย่าตบนะ

                    แล้วภาพสุดท้ายก่อนที่ร่างบางจะหลับตาพริ้มก็คือดวงตาสีฟ้าทั้งสองข้างของคนตรงหน้าสะท้อนเพียงใบหน้าของเค้าอยู่ในนั้น

                    เมื่อสองริมฝีปากแนบจรดกัน ก็ราวกับว่าได้ยินเสียงระฆังจากในโบสถ์จากที่ๆไกลแสนไกล แต่กลับดังก้องกังวานเป็นท่วงทำนองสุดแสนจะไพเราะ

                    มือที่แนบอยู่ที่แก้มเนียน ลูบไล้ไปมา พร้อมกับมือของทงเฮที่ยกขึ้นโอบรอบท้ายทอยของร่างสูงเช่นกัน

                    ขอบคุณ...ที่เติมเต็มในส่วนที่ขาดหายของกันและกัน

                    ขอบคุณ...ที่รักกัน




    .
    .
    .



    แหมะ !!! ยิ้มหน้าบานกันเลยล่ะซี่ ... ไอ้จีนก็เขินเหมือนกัน >///<

    ลอนดอน อบอุ่นไปไหนเนี่ย .. โฮะๆๆๆ ตอนหน้า ไปดูวอนฮยอกตบตีกันกลางถนน!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×