คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : ~FOURTH~Se@soN!_RAINY = DO YOU KNOW = ๓
아나요 그대는
คุณรู้ไหมที่รัก?
느끼죠 그대로
ผมรู้ว่าคุณเองก็รู้สึกเหมือนกัน
가슴이 말하고있는 사랑인걸요
คำพูดของใจคุณคือ ‘รัก’
วันต่อมาเวลาประมาณบ่ายสองเศษๆ
อะไรไม่รู้ดลใจให้ฮยอคแจเกิดอยากจะกลับไปยังที่ร้านของคุณลุงอีกครั้ง จะว่าเพราะอยากกินกาแฟก็ไม่ใช่เท่าไหร่นัก มันเกี่ยวกับหนังสือเล่มนั้นมากกว่า
ร่างบางหอบหนังสือเต็มอก วิ่งออกจากตึกคณะ ลัดไปทางด้านตึกข้างๆอย่างรวดเร็ว
“ปึก!!” ชนเข้ากับร่างของใครสักคนจนหนังสือหล่นลงบนพื้น
“ขอโทษครับๆ” ร่างสูงคนนั้นก้มลงช่วยฮยอคแจเก็บหนังสือทันที
“ไม่เป็นไรๆ ผมรีบเอง” ฮยอคแจลุกขึ้นยืน และรอรับหนังสืออีกเล่มที่ร่างสูงคนตรงหน้าถืออยู่
ซีวอนมองร่างบางแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
จะพูดตรงๆก็คือรู้สึกว่าคนตรงหน้านั้นน่ารักมากๆเลยล่ะ ดูบอบบางน่าทะนุถนอม เค้าไม่ได้พูดว่าสวยนะ ไม่ได้ขนาดฮีชอล แต่ดูน่าปกป้อง
“ขอหนังสือผมคืนด้วย” ฮยอคแจพูดเบาๆ
“อ้ะ....นี่นายอ่านเรื่องแฝดจุ้นลุ้นรักด้วยหรอ?” ซีวอนทำตาวาวเล็กน้อย
“อืม ใช่ ทำไมล่ะนายก็อ่านหรอ?”
“ใช่แล้วสนุกมากๆเลยนะ เด็กผู้หญิงสองคนที่มีหน้าตาเหมือนกันและสุดท้ายกลับ
กลายเป็นครอบครัวเดียวกันที่พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็ก” ซีวอนเล่าไปหัวเราะไป
“ไม่น่าเชื่อนะเนี่ยว่าคนอย่างนายจะอ่านเรื่องกุ๊กกิ๊กๆแบบนี้ด้วย” ฮยอคแจยิ้มดีใจที่มีคนชอบอ่านหนังสือเหมือนตัวเอง
“ชั้นชอบอ่านหนังสือจะแนวไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ” ซีวอนยิ้มจนตาจะปิดอยู่แล้ว
“ดีจังเลย” ฮยอคแจเองก็รู้สึกดีกับร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเช่นกัน
แม้เพิ่งจะรู้จักกันแต่การที่ชอบอะไรเหมือนๆกันทำให้เราสนิทกันได้ไม่ยาก
“อื้ม ชั้นจะต้องเข้าคณะก่อนนะ ไว้มีโอกาสค่อยคุยกัน” ร่างสูงยอมรับว่าเสียดายโอกาสที่จะได้คุยกันมากๆ
“เดี๋ยว! นายชื่ออะไรน่ะ” ฮยอคแจตะโกนถามไล่หลัง
“ซีวอน! ชเว ซีวอน” ร่างสูงตะโกนกลับมา
“ชั้นชื่อฮยอคแจน้า!! ลี ฮยอคแจจ” ร่างบางอมยิ้มอยู่กับตัวเองเล็กน้อย
แล้วรีบเดินไปยังร้านกาแฟหลังมหาวิทยาลัยทันที
“สวัสดีคร้าบคุณลุง”
“อ้าว มาอีกวันแล้วนะ ฮยอคแจ วันนี้จะกินอะไรดีล่ะ”
“ขอเหมือนเดิมนะคร้าบ” เจ้าตัวรีบไปนั่งยังเก้าอี้หวายทันที
“อยู่ไหนๆๆๆ” ร่างบางรื้อจนได้หนังสือที่ตัวเองต้องการออกมา ไม่รอช้ารีบเปิดไปหน้าที่
เขียนไว้ทันที
แล้วก็ต้องรู้สึกหัวใจพองโต เมื่อสิ่งที่ตัวเองเขียนเอาไว้มีอีกคนหนึ่งมาเขียนตอบให้ด้วย
“นั่นสิครับ ความบังเอิญกับความรักเป็นของคู่กันอย่างนั้นหรอ??”
ฮยอคแจขมวดคิ้วเล็กน้อย ใครกันนะที่จะมาเขียนแบบนี้?
แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ มือบางก็ลงมือเขียนที่หน้าต่อไปซะแล้ว
“แต่ตอนนี้ชักจะเริ่มเชื่อเล็กน้อยแล้วล่ะ เรื่องของพรหมลิขิตน่ะ>///<”
เขียนเสร็จก็นึกไปถึงใบหน้าของคนๆหนึ่งที่ได้เจอก่อนจะมาที่ร้านนี้
“นายนั่นก็หล่อจริงๆนี่นา ฮะๆ” หัวเราะกับตัวเองเสร็จสรรพ
ดูท่าทางว่าจะต้องเป็นคนที่เรียนเก่งแน่ๆเลย เพราะว่าเค้าเห็นว่าซีวอนวิ่งไปยังตึกของคณะแพทย์ด้วย
“เด็กหมอ vs เด็กวารสาร”
แล้วร่างบางก็สะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆนั่นออกไป นี่เราคิดไปถึงไหนกันเนี่ย
ร่างบางอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะวางหนังสือไว้ในชั้นเหมือนเดิม
“คุณลุงคร้าบ กลับแล้วน้า”
“ทำไมวันนี้กลับเร็วจังเลย”
“กลัวฝนตกน่ะครับ” ฮยอคแจหันมายิ้มร่าเล็กน้อยแล้วก็เดินออกจากร้านไป
เค้าไม่ชอบท้องฟ้า เวลาที่ผนใกล้จะตก มันดูหดหู่เกินไป
ไม่ชอบเลย...
ตกเย็นวันนั้น
ซีวอนที่สรุปรายงานอยู่จนดึกดื่นเหมือนทุกวัน ก็ขับรถมายังร้านกาแฟร้านเดิมจนได้ เมื่อจัดการสั่งกาแฟเรียบร้อยแล้ว ก็วิ่งมาประจำมุมเดิมทันที
มือหนารีบหาหนังสือ เล่มนั้นทันที
แล้วใบหน้าหล่อก็ต้องเจือไปด้วยรอยยิ้ม
“แต่ตอนนี้ชักจะเริ่มเชื่อเล็กน้อยแล้วล่ะ เรื่องของพรหมลิขิตน่ะ>///<”
“ฮะฮะ น่ารักดีจังเลย” ริมฝีปากหนาพูดออกมา
ร่างสูงรีบปิดหนังสือเก็บเมื่อผู้จัดการนำกาแฟมาเสิร์ฟ และแน่นอนว่ามันยังคงเป็นอเมริกาโน่ร้อนเหมือนเดิม
เมื่อแน่ใจว่าตัวเองจะไม่ถูกแอบลอบมองแล้ว ซีวอนจึงหยิบปากกาของตัวเองออกมาบ้าง
อืม...วันนี้จะเขียนว่าอะไรดีล่ะ
ร่างสูงได้แต่นึกไป นึกมา พร้อมกับมองออกไปนอกร้าน วันนี้ฝนตกปรอยๆเท่านั้น
คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย
“คุณชอบเวลาที่ฝนตกไหม?”
ฟังดูเป็นคำถามแปลกๆ แต่เค้าก็อยากจะมีอะไรที่เริ่มชวนฝ่ายนู้นคุยบ้างนี่นา
“คุณจะเป็นคนแบบไหนกันนะ?” ร่างสูงได้แค่จินตนาการไปเรื่อย
แต่แล้วใบหน้าของใครคนหนึ่งที่ได้เจอในวันนี้ก็แล่นเข้ามาในหัว
เจ้าของร่างตัวเล็กๆ ผิวสีขาวซีดๆ และรอยยิ้มที่น่าระทับใจนั้น
ริมฝีปากหนาเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว
“คุณจะเป็นเหมือนคนที่ผมได้เจอรึเปล่านะ?”
ซีวอนวางหนังสือไว้ในชั้นเหมือนเดิม จิบกาแฟจนหมด เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ฝนหยุดตกเช่นกัน
ร่างสูงจึงเอ่ยอำลา เจ้าของร้านที่กำลังจะปิดร้านพอดีแล้วออกไป
ผู้จัดการได้แต่มองตามร่างสูงอย่างงๆ
“ลูกค้าเรามันจะมีแต่สองคนนี้เท่านั้นหรอเนี่ย?”
들려요 이제는
ตอนนี้ ผมได้ยินมัน
보아요 이제는
ตอนนี้ ผมได้เห็นมัน
꽃보다 더 아름다운 수줍은 마음을
ความรู้สึกขลาดเขลานี้มันงดงามมากกว่าดอกไม้ใดๆ
ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์แล้วล่ะนะ นับจากวันนั้นที่ทั้งซีวอนและฮยอคแจผลัดกันส่งข้อความทั้งๆที่ไม่เคยได้พบกัน หรือได้พบกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคือบุคคลที่ตัวเองต่างตกหลุมรัก
และตอนนี้หนังสือเล่มนั้นก็เต็มไปด้วยตัวหนังสือของทั้งสองเต็มไปหมด
“ไม่ล่ะ ผมไม่ชอบเวลาที่ฝนตก มันน่าหดหู่ แล้วคุณล่ะ?”
“ผมชอบฟ้าหลังฝนมากกว่านะ มันสวยงามมากๆเลย”
“งั้นหรอ? ไว้คราวหน้าผมจะลองมองดูนะ^O^”
“ดีมาก อย่าลืมมาบอกผมบ้างล่ะว่าเป็นยังไงบ้าง ^^”
“นายอ่านแฮร์รี่พอตเตอร์มั้ย??”
“อ่านครับ ผมมีทั้งเจ็ดเล่มเลย เป็น BOX SETน่ะ”
“หรอ? แต่ชั้นว่าชั้นชอบ ทไวไลท์มากกว่านะ”
“นั่นมันนิยายยออกไปทางแนวรักมากกว่านี่”
“อืม...ชั้นชอบ อ่านแล้วเพลินมากเลย”
“ฮะฮะ แล้วได้ดูเวอร์ชั่นหนังบ้างรึเปล่าล่ะครับ”
“ดูจนแผ่นลายหมดแล้วววว > <”
“ฮ่าๆ ท่าทางจะชอบมากจริงๆเลยนะเนี่ย”
และอีกมากมายที่ถูกโต้ตอบกันไปมา
ทั้งซีวอนและฮยอคแจรู้สึกว่าช่วงเวลาที่เป็นของตัวเองนั้นช่างมีค่ามากมาย
อย่างเช่นฮยอคแจ ช่วงเวลาประมาณบ่ายสองถึงบ่ายสาม คือช่วงเวลาที่เค้าจะรีบเก็บของลงกระเป๋าและวิ่งออกไปที่ร้านกาแฟเจ้าประจำ
เพื่อเปิดดูข้อความจากบุรุษหนุ่มปริศนา
ที่เค้ารู้สึกว่าตกหลุมรักมากขึ้นไปทุกทีๆ
ส่วนซีวอนก็รู้สึกว่าช่วงเวลาเกือบๆสามทุ่ม คือช่วงเวลาที่เค้ารอคอย ที่จะขับรถไปจอดที่หลลังมหาลัย และดื่มกาแฟอเมริกาโน่แก้วประจำ แล้วอ่านข้อความจากใครสักคนที่เค้าอยากพบเหลือเกิน
ใครสักคนที่เค้ารู้สึกว่าอยากจะปกป้อง
อยากจะดูแล
อยากจะอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา
เค้าคงจะบ้าไปแล้วแน่ๆ
ที่ตกหลุมรักแม้กระทั่งคนที่ไม่เคยพบหน้า หรือว่าได้ยินเสียงกันมาก่อน
ความคิดเห็น