หนุ่ม - สาวแปลกหน้าในคืนลอยกระทง
เมื่อคนสองคนที่ผิดหวังในความรักมาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้น...
ผู้เข้าชมรวม
497
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
หนุ่ม สาวแปลกหน้า
ในคืนลอยกระทง
ร่ างบางซึ่งซุกตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับผมขยับกายเพื่อควาน หาไออุ่น แม้ห่มคลุมด้วยผ้านวมผืนหนาของรีสอร์ทแต่เธอก็มิได้สวมใส่แม้แต ่ชั้นในสักชิ้น
เช่นเดียวกับผม...
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดชึ้นรวดเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน กว่าจะรู้ตัวอารมณ์ชั่ววูบก็พาเราเดินทางไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ผมเริ่มทบทวนความทรงจำอันเลือนราง เพราะมีอาการสะลึมสะลือเนื่องจากยังเพลียจากเหตุการณ์ที่ผ่านไป ...
ในค่ำคืนวันเพ็ญข้างขึ้นสิบห้าค่ำ คืนแห่งการขอขมาต่อพระแม่คงคาและสืบสานประเพณีลอยกระทง หนุ่มสาวและผู้คนจำนวนมากต่างออกมาร่วมประเพณีอันดีงามอย่างล้น หลาม บนท้องถนนเต็มไปด้วยยวดยานพาหนะที่มุ่งหน้าสู่งานลอยกระทงที่จั ดขึ้นทั่วทุกมุมเมือง...
หาดแก้ว เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่จัดงานประเพณีลอยกระทงขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ทุกปี หาดแก้วรีสอร์ท ตั้งเด่นเห็นตระหง่านใกล้ ๆ กับหาดคอยบริการห้องพักแก่นักท่องเที่ยวมานานนับปี ที่กั้นกลางหาดกับรีสอร์ทออกจากกันคือสระน้ำกร่อยขนาดใหญ่ ทำหน้าที่เป็นสื่อนำจิตขอขมาจากผู้คนซึ่งอาบอวลอยู่ทั่วกระทงใบ ตองสู่การรับรู้ของพระแม่คงคาทุกปี และปีนี้ก็เช่นกัน
ห่างออกไปจากสระไม่กี่เมตร ท่ามกลางสนทะเลต้นสูงชะรูดขึ้นอยู่กระจัดกระจายกางใบเรียวเล็ก ๆ สยายรับลมทะเลที่พัดแผ่วมาระลอกแล้วระลอกเล่า พื้นที่ส่วนนั้นถูกเนรมิตเป็นเวทีการแสดงและร้านขายสินค้า แม้บรรยากาศจะเต็มไปด้วยความครึกครื้น คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมงาน คู่หนุ่มสาวจูงมือกันในมือถือกระทงที่เตรียมมาเองจากบ้าน บางก็มาหาซื้อเอาที่งาน ณ มุมหนึ่งซึ่งไร้คนสนใจ ผมได้แต่นั่งมองภาพเหล่านั้นอย่างปวดร้าว...
ค่ำนี้ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อลอยกระทง เหมือนอีกหลายคนที่ตั้งใจมาเที่ยวงาน แต่ไม่มีใครที่มาโดยลำพังอย่างผม
และผมก็ไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยวงาน....
ผมตอบตัวเองไม่ได้เช่นกันว่าทำไมผมถึงเลือกมาที่นี่ ทั้งที่การนอนอยู่บ้านอาจจะสบายใจกว่าเป็นล้านเท่า แต่สองเท้าเจ้ากรรมก็พาร่างผมมาถึงนี่ คงด้วยความเคยชิน แต่ผมไม่ชินกับการมางานลอยกระทงเพียงคนเดียว...
ทุกปี ผมกับคนรักจะมาลอยกระทงกันที่นี่ ปีที่แล้วก็เช่นกัน เพียงแต่เธอเพิ่งบอกเลิกผมเมื่อวาน ปีนี้เธอคงมีหนุ่มคนใหม่ควงไปเที่ยวงานลอยกระทงแทนผม ภาพความสุขกับรอยยิ้มหัวร่าเริงของคู่หนุ่มสาวนั้น ไม่ต่างจากมีดอันแหลมคมที่คอยเสียดแทงและบาดลึกจนปวดร้าวในจิตใ จเสียจริง ๆ
เราคบกันมาเกือบสี่ปีแล้ว หากระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยฟูมฟักความรักของเราให้เบ่งบานเ หมือนต้นไม้ทีเจริญเติบโตตามกาลเวลา กลับยิ่งเ*่ยวเฉาลงไป และแห้งตายในที่สุด คงไม่ต่างจากใจดวงร้าวของผมนักที่กำลังจะตายตกไปตามกันในไม่ช้า!
ผมเดินวนรอบบริเวณงานอย่างเหม่อลอย มองดูกระทงที่วางขายในงานส่วนใหญ่เป็นกระทงโฟม หนุ่มสาวหลายคู่ซื้อมันไป โฟมอาจมีน้ำหนักเบา สะดวกและทำเป็นกระทงได้ง่ายกว่าต้นกล้วย แต่ก็ย่อยสลายได้ยาก สำหรับผมมันก็แค่กระทงปลอม อาจสวยงามและสะดวกก็จริงแต่ไร้ซึ่งความจริงใจ เหมือนความรักของบางคน จอมปลอม... หลอกลวง! รักแท้ช่างหายากเหลือเกินเหมือนกระทงต้นกล้วยที่เหลือน้อยลงทุก ที ผมมองหากระทงจากต้นกล้วยซึ่งมีขายเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้น คงเป็นเพราะน้ำหนักที่มากกว่า ไม่สะดวกจะถือ และย่อยสลายง่าย แต่ล้วนเต็มไปด้วยความจริงใจและการย่อยสลายนั้นคือการสลายรวมเป ็นหนึ่งเดียวกับสายน้ำ...
ผมกระชับกล้องวีดีโอในมือมั่น ก่อนยกมันขึ้นถ่าย ภาพตัวเอง พูดอะไรสองสามประโยคถึงคนรักเก่าเป็นการอำลาครั้งสุดท้าย ท่ามกลางผู้คนมากมายแต่คงไม่มีใครสนใจใคร ที่นี่ช่างเหมาะนักที่ผมจะเลือกเป็นสถานที่กล่าวลาจากโลกอันโหด ร้าย...
ผมเดินเลียบริมสระอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ไม่สนใจผู้คนที่เดินสวนทางไปมาอีกต่อไป ข้างหน้าคือสะพานไม้กระดานทอดข้ามจากรีสอร์ทสู่หาดแก้วผมเดินก้ าวไปบนสะพาน เบื้องล่างท้องน้ำนี้เป็นช่วงที่ลึกพอที่ใครจะจมหายลงไปได้ กลางสะพานมีกรงลวดกั้นกลางระหว่างรีสอร์ทกับหาดไว้ ผมเดินถึงกลางสะพานแล้วทรุดตัวลงนั่งพิงราวสะพานเพื่อรอเวลา...
เวลาที่จะกระโดดลงสู่ห้วงแห่งความดับสูญ ณ เบื้องล่าง... น้ำตาเริ่มไหลซึม
“จะมาฆ่าตัวตายหรือ
?”
ผมสะดุ้ง! เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างตัว ผมหันไปมองทางต้นเสียง หญิงสาวชุดดำนั่งอยู่ก่อนผมนานแล้ว โดยที่ผมไม่ได้สนใจเพราะไม่คิดว่าจะมีใครแอบมานั่งหลบมุมอยู่ที ่นี่ในขณะที่คนอื่นกำลังสนุกสนานกับการเดินเที่ยวชมงานกัน
“คิดสั้นจริง ๆ โง่ ฉิบ...!”
ผมรู้สึกเคืองนิด ๆ ทำไมต้องมาว่ากันด้วย
“คุณเป็นใคร
? ยุ่งอะไรด้วย!”
ผมถามกลับน้ำเสียงห้วน ๆ เธอไม่ตอบกลับเหม่อมองออกไปอย่างเลื่อนลอบ
เมื่อสังเกตอีกทีพบว่าเธอเป็นชาวมุสลิม ดูจากฮีญาบสีดำสนิทผืนนั้น และเธอกำลังร้องไห้...
“คุณร้องไห้...?”
“คุณก็เหมือนกัน...”
เราเงียบกันไปพักใหญ่ ผมทอดตามองผืนน้ำนิ่งนานก่อนเอ่ยทำลายความเงียบ...
“ผมเพิ่งถูกแฟนบอกเลิก...”
เสียงผมเริ่มเครือ น้ำตาเริ่มซึมอีกครั้ง ในมือยังกระชับกล้องไว้นิ่ง
“ฉันเพิ่งบอกเลิกแฟน...”
ผมเงยหน้ามองเจ้าของเสียง ขณะทีเธอแหงนหน้ามองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย
“ทำไมแฟนถึงบอกเลิก...?”
เธอเอ่ยถามหลังจากต่างคนต่างเงียบมานาน ผมนิ่งไปอึดใจก่อนตอบ
“ไม่รู้สิ... เธอเหมือนจะรักผมมาก แต่อาจเป็นเพราะเราต่างกันจนเกินไป เมื่อเธอเจอคนที่เป็นเหมือนเธอ เธอจึงไม่ลังเลที่จะเลือกคนนั้น เธอบอกเลิกผมเมื่อวานนี่เองทั้งที่เคยบอกรักกันแทบเป็นแทบตาย
แต่ก็ไม่แปลกนักหรอก เธอย่อมเลือกคนที่ละหมาดห้าเวลาเหมือนเธออยู่แล้ว...!”
เธอหันมองหน้าผมเป็นเชิงแปลกใจ
“แฟนคุณเป็นมุสลิม...?”
ผมพยักหน้าให้แทนคำตอบ ก่อนเอ่ยเสริม...
“เรามาที่นี่ด้วยกันทุกปี เธอมาเที่ยวส่วนผมมาลอยกระทง
แล้วคุณล่ะทำไมถึงทิ้งแฟน...”
เธอเงียบไปอึดใจ...
“ฉันมีแฟนอยู่แล้ว เป็นมุสลิมเหมือนฉันนี่แหล่ะ แต่อยู่ไกลกันเขาอยู่นรา ฯ ฉันอยู่สงขลา แล้ววันหนึ่งมีคนมีไทยพุทธมาจีบฉัน ฉันรู้สึกเหงา ๆ เลยตอบรับเขาเล่น ๆ ไม่ได้คิดจริงจังอะไร จนเมื่อปีที่แล้วเขาพาฉันมาเที่ยวงานลอยกระทงที่นี่ ฉันไม่เคยเที่ยวงานลอยกระทง มันเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับฉันนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ฉันรู้สึกป ระทับใจเขาแล้วฉันก็ทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงตรงที่คืนนั้นในที่ส ุดเราก็มีอะไรกันและฉันก็รักเขาเข้าจริง ๆ ต่อมาแฟนฉันจับได้เขาโกรธมากเลยขอเลิกโดยที่แฟนคนพุทธฉันยังไม่ รู้เรื่อง และดูเหมือนเขาจะรักฉันมากถึงขั้นบอกว่าจะยอมเปลี่ยนศาสนา แต่ฉันละอายเกินไปที่เห็นเขาเป็นของเล่นในตอนแรกฉันจึงบอกความจ ริงว่าฉันมีแฟนแล้ว ฉันขอโทษเขาขอให้เขาเลิกหวังและขอเลิกกับเขาเมื่อวานเหมือนกัน. ..”
ผมรู้สึกเคือง ๆ หน้าตาเธอจัดว่าสวยแม้ว่าจะคลุมฮีญาบอยู่ก็ตาม แต่ทำไมเธอต้องเห็นความจริงใจของผู้ชายเป็นของเล่นด้วยหรือเป็น ปรกติของผู้หญิงสวยทุกคน
“คุณก็เลยคิดฆ่าตัวตาย...”
เธอหันมองหน้าผมอย่างแปลกใจที่ผมรู้ทัน
“ตอนแรกฉันก็คิดฆ่าตัวตายอยู่เหมือนกัน แต่พอฉันเห็นสภาพน่าทุเรศของคุณแล้วฉันก็เลิกล้มความคิดเพราะทุ เรศตัวเอง มันคงไม่ต่างจากคุณเท่าไหร่”
ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วบริเวณ เราไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ท่ามกลางแสงจันทร์ตอกกระทบผิวน้ำเกิดเป็นรูปเงาอันบิดเบี้ยว เสียงคลื่นซัดซ่า สายลมพัดพาลมหนาวเข้าปะทะใบหน้าเป็นระลอก ผมเหลือบมองกล้องวีดีโอในมือ ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในสมอง...
“เดินเที่ยวงานกันไหม”
ผมเอ่ยชวนหลังเงียบกันไปสักพัก
“ไม่คิดฆ่าตัวตายแล้วเหรอ...”
“ไม่... มีอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าให้ทำแล้ว”
“ก็ดีเหมือนกัน...”
ผมลบภาพที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ มีภาพอื่นที่น่าถ่ายเก็บไว้มากกว่า... เราเดินเที่ยวงานได้สักพักก็แวะหาอะไรกินและหาที่นั่งคุยกัน มิตรภาพเริ่มก่อตัวและดำเนินไปในวิถีของมัน จวบจนงานใกล้เลิก
“เดี๋ยวผมของลอยกระทงก่อนนะ
”
เธอพยักหน้า ก่อนลุกขึ้นไปด้วยกัน ถึงผมไม่อยากซื้อกระทงโฟมแต่ผมจำเป็นต้องซื้อ เพราะผมมองหากระทงต้นกล้วยแต่ไม่เห็นมีแม้แต่ร้านเดียว มันคงหมดไปแล้วเหมือนความรักแท้ที่หมดไปจากโลก!
ผมตั้งจิตขอขมาและอธิษฐานขอพรต่อพระแม่คงคา ก่อนบรรจงลอยกระทงสู่ห้วงน้ำอันกว้างใหญ่ กระทงปลอม ความรักจอมปลอมจงลอยออกไปจากชีวิตซะ!
“ไปดื่มต่อกันไหม...?”
ผมเอ่ยชวน เธอพยักหน้าแทนคำตอบ
“ค่ำนี้อีกยาวนาน...”
เธอกล่าว... ไม่ไกลจากรีสอร์ทมีร้านคาราโอเกะ เราแวะกันที่นั่นผมสั่งเบียร์สองขวด เธอสั่งเพิ่มอีกสามเป็นห้า กับแกล้มสองสามอย่าง กลับแกล้มมาก่อน เรานั่งกินกับแกล้มไปคุยเรื่องจิปาถะกันไปพลางสักพักเมื่อเบียร ์ถูกเสิร์พ เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกเพราะเธอตั้งหน้าตั้งตาซดเบียร์อย่างเ ดียวสี่ขวดรวดขณะที่ผมแค่จิบ ๆ เบียร์ยังเหลืออีกครึ่งขวด เธอยกซดอีกผมนับถือในความคอแข็งของเธอ สี่ขวดแล้วยังต่อได้อีก หมดขวดสุดท้ายเธอก็เมาหลับและฟุบคาโต๊ะทันที...
ผมคิดจะมอมเบียร์เธอในตอนแรก แต่ไม่จำเป็นแล้วล่ะ...
จากนั้นเราก็มาอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันในสภาพเปลือยกายทั้งคู่ ... ในห้องพักของหาดแก้วรีสอร์ท...
ผมพยายามทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อจำเรื่องราวทั้งหมดได้ก็เริ่มรู้สึกผิด... กับสิ่งที่ทำลงไป
แต่
ช่างมันเถอะ! ยังไงก็มาถึงขั้นนี้แล้ว...
ผมรำพึง... ปล่อยวางจิตใจ ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินตามวิถีทางของมัน ก่อนข่มตาหลับแล้วเข้าสู้ห้วงนิทรารมย์ด้วยความอ่อนเพลีย...
รุ่งเช้า... ผมรู้สึกตัวตื่น ได้ยินเสียงฝักบัวในห้องน้ำ ร่างบางใต้ผ้าห่มหายไป สักพักปรากฏร่างของเธอนุ่งกระโจม-อกออกมาจากห้องน้ำ เราสบตากันเธอหลบตาแล้วก้มหยิบเสื้อผ้าตัวเองที่เกลื่อนกระจายต ามพื้นห้อง
“ผมขอโทษ...”
ผมกล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเต็มที่ เธอหันมามองผมก่อนทำเป็นไม้สนใจ และเริ่มแต่งตัวต่อไป ผมเงียบไปชั่วอึดใจ
“คุณชื่ออะไร...?”
ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ ตั้งแต่เริ่มรู้จักกันที่สะพานเมื่อคืนจนถึงขั้นมีความสัมพันธ์ ที่ลึกซึ้งต่อกัน แต่เรายังไม่รู้จักชื่อของกันและกันเลย... แต่ก็คงไม่ต่างวัยรุ่นในปัจจุบันนักหรอก
“พอเถอะ... เราอย่ารู้จักกันเลย แค่นี้มันก็มากเกินไปแล้ว... เราไม่ควรรู้จักกันมากกว่านี้...”
เธอกล่าว... น้ำเสียงเย็นชาสิ้นดีก่อนแต่งตัวเสร็จและเก็บของเดินออกจากห้อง ไป
ผมนั่งอยู่บนเตียงนิ่งนาน พลางคิดใจใจ... ผมคงไม่มีวันลืมเธอได้แน่นอน แล้วผมก็เอื้อมมือไปปิดกล้องวีดีโอที่บันทึกภาพความทรงจำระหว่า งเราตลอดคืนที่ผ่านมา ก่อนนำมาถือไว้ในมือ ความคิดสับสนยังคงวนเวียนอยู่ในใจ
...จะผิดหรือเปล่านะ... ที่เราแก้แค้นความรักและให้บทเรียนพวกผู้หญิงที่เห็นผู้ชายเป็น ของเล่นแบบนี้...
ผมรำพึง... ก่อนยิ้มให้กับมัน
“คงไม่ผิดหรอก... ผู้หญิงพวกนี้ไม่มีค่าเท่าไหร่นักหรอก!”
ผมสลัดไล่ความคิดออกจากหัวก่อนอาบน้ำแต่งตัวแล้วเช็คเอาต์ออกจา กโรงแรม
ไ ม่กี่วันต่อมาภาพบันทึกจากกล้องวีดีโอถูกเผยแพร่ไปตามเว็บบอร์ด ต่าง ๆ ทางอินเตอร์เน็ต ในที่สุดผมก็แก้แค้นได้สำเร็จ!
ไม่ใช่เพียงเธอเพียงคนเดียวแต่ยังมีผู้หญิงอื่น ๆ อีกหลายคนด้วย... ผมรู้สึกสะใจและภูมิใจในฝีมือตัวเองเป็นที่สุดที่ได้แก้แค้นควา มรักและให้บทเรียนผู้หญิงมักง่าย ใจง่าย เห็นผู้ชายเป็นของเล่น
ผมยังคงดำเนินการแก้แค้นของผมต่อไปโดยไม่เคยรู้สึกผิดอีก... ผู้หญิงพวกนี้ไม่มีค่านักหรอก เหมือนกระทงปลอมนั่นแหละ...!
ผลงานอื่นๆ ของ วาลุกา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ วาลุกา
ความคิดเห็น