หนุ่ม - สาวแปลกหน้าในคืนลอยกระทง - หนุ่ม - สาวแปลกหน้าในคืนลอยกระทง นิยาย หนุ่ม - สาวแปลกหน้าในคืนลอยกระทง : Dek-D.com - Writer

    หนุ่ม - สาวแปลกหน้าในคืนลอยกระทง

    เมื่อคนสองคนที่ผิดหวังในความรักมาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้น...

    ผู้เข้าชมรวม

    497

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    497

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 ต.ค. 50 / 12:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      หนุ่ม สาวแปลกหน้า

      ในคืนลอยกระทง

                  ร่ างบางซึ่งซุกตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับผมขยับกายเพื่อควาน หาไออุ่น แม้ห่มคลุมด้วยผ้านวมผืนหนาของรีสอร์ทแต่เธอก็มิได้สวมใส่แม้แต ่ชั้นในสักชิ้น      

                  เช่นเดียวกับผม...

                  ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดชึ้นรวดเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน กว่าจะรู้ตัวอารมณ์ชั่ววูบก็พาเราเดินทางไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ผมเริ่มทบทวนความทรงจำอันเลือนราง เพราะมีอาการสะลึมสะลือเนื่องจากยังเพลียจากเหตุการณ์ที่ผ่านไป ...

                  ในค่ำคืนวันเพ็ญข้างขึ้นสิบห้าค่ำ คืนแห่งการขอขมาต่อพระแม่คงคาและสืบสานประเพณีลอยกระทง หนุ่มสาวและผู้คนจำนวนมากต่างออกมาร่วมประเพณีอันดีงามอย่างล้น หลาม บนท้องถนนเต็มไปด้วยยวดยานพาหนะที่มุ่งหน้าสู่งานลอยกระทงที่จั ดขึ้นทั่วทุกมุมเมือง...

                  หาดแก้ว เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่จัดงานประเพณีลอยกระทงขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ทุกปี หาดแก้วรีสอร์ท ตั้งเด่นเห็นตระหง่านใกล้ ๆ กับหาดคอยบริการห้องพักแก่นักท่องเที่ยวมานานนับปี ที่กั้นกลางหาดกับรีสอร์ทออกจากกันคือสระน้ำกร่อยขนาดใหญ่ ทำหน้าที่เป็นสื่อนำจิตขอขมาจากผู้คนซึ่งอาบอวลอยู่ทั่วกระทงใบ ตองสู่การรับรู้ของพระแม่คงคาทุกปี และปีนี้ก็เช่นกัน

                  ห่างออกไปจากสระไม่กี่เมตร ท่ามกลางสนทะเลต้นสูงชะรูดขึ้นอยู่กระจัดกระจายกางใบเรียวเล็ก ๆ สยายรับลมทะเลที่พัดแผ่วมาระลอกแล้วระลอกเล่า พื้นที่ส่วนนั้นถูกเนรมิตเป็นเวทีการแสดงและร้านขายสินค้า แม้บรรยากาศจะเต็มไปด้วยความครึกครื้น คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมงาน คู่หนุ่มสาวจูงมือกันในมือถือกระทงที่เตรียมมาเองจากบ้าน บางก็มาหาซื้อเอาที่งาน ณ มุมหนึ่งซึ่งไร้คนสนใจ ผมได้แต่นั่งมองภาพเหล่านั้นอย่างปวดร้าว...

                   ค่ำนี้ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อลอยกระทง เหมือนอีกหลายคนที่ตั้งใจมาเที่ยวงาน แต่ไม่มีใครที่มาโดยลำพังอย่างผม

                   และผมก็ไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยวงาน....

                   ผมตอบตัวเองไม่ได้เช่นกันว่าทำไมผมถึงเลือกมาที่นี่ ทั้งที่การนอนอยู่บ้านอาจจะสบายใจกว่าเป็นล้านเท่า แต่สองเท้าเจ้ากรรมก็พาร่างผมมาถึงนี่ คงด้วยความเคยชิน แต่ผมไม่ชินกับการมางานลอยกระทงเพียงคนเดียว...

                   ทุกปี ผมกับคนรักจะมาลอยกระทงกันที่นี่ ปีที่แล้วก็เช่นกัน เพียงแต่เธอเพิ่งบอกเลิกผมเมื่อวาน ปีนี้เธอคงมีหนุ่มคนใหม่ควงไปเที่ยวงานลอยกระทงแทนผม ภาพความสุขกับรอยยิ้มหัวร่าเริงของคู่หนุ่มสาวนั้น ไม่ต่างจากมีดอันแหลมคมที่คอยเสียดแทงและบาดลึกจนปวดร้าวในจิตใ จเสียจริง ๆ

                   เราคบกันมาเกือบสี่ปีแล้ว หากระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยฟูมฟักความรักของเราให้เบ่งบานเ หมือนต้นไม้ทีเจริญเติบโตตามกาลเวลา กลับยิ่งเ*่ยวเฉาลงไป และแห้งตายในที่สุด คงไม่ต่างจากใจดวงร้าวของผมนักที่กำลังจะตายตกไปตามกันในไม่ช้า!

                   ผมเดินวนรอบบริเวณงานอย่างเหม่อลอย มองดูกระทงที่วางขายในงานส่วนใหญ่เป็นกระทงโฟม หนุ่มสาวหลายคู่ซื้อมันไป โฟมอาจมีน้ำหนักเบา สะดวกและทำเป็นกระทงได้ง่ายกว่าต้นกล้วย แต่ก็ย่อยสลายได้ยาก สำหรับผมมันก็แค่กระทงปลอม อาจสวยงามและสะดวกก็จริงแต่ไร้ซึ่งความจริงใจ เหมือนความรักของบางคน จอมปลอม... หลอกลวง! รักแท้ช่างหายากเหลือเกินเหมือนกระทงต้นกล้วยที่เหลือน้อยลงทุก ที ผมมองหากระทงจากต้นกล้วยซึ่งมีขายเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้น คงเป็นเพราะน้ำหนักที่มากกว่า ไม่สะดวกจะถือ และย่อยสลายง่าย แต่ล้วนเต็มไปด้วยความจริงใจและการย่อยสลายนั้นคือการสลายรวมเป ็นหนึ่งเดียวกับสายน้ำ...

                   ผมกระชับกล้องวีดีโอในมือมั่น ก่อนยกมันขึ้นถ่าย ภาพตัวเอง พูดอะไรสองสามประโยคถึงคนรักเก่าเป็นการอำลาครั้งสุดท้าย ท่ามกลางผู้คนมากมายแต่คงไม่มีใครสนใจใคร ที่นี่ช่างเหมาะนักที่ผมจะเลือกเป็นสถานที่กล่าวลาจากโลกอันโหด ร้าย...

                  ผมเดินเลียบริมสระอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ไม่สนใจผู้คนที่เดินสวนทางไปมาอีกต่อไป ข้างหน้าคือสะพานไม้กระดานทอดข้ามจากรีสอร์ทสู่หาดแก้วผมเดินก้ าวไปบนสะพาน เบื้องล่างท้องน้ำนี้เป็นช่วงที่ลึกพอที่ใครจะจมหายลงไปได้ กลางสะพานมีกรงลวดกั้นกลางระหว่างรีสอร์ทกับหาดไว้ ผมเดินถึงกลางสะพานแล้วทรุดตัวลงนั่งพิงราวสะพานเพื่อรอเวลา...

                  เวลาที่จะกระโดดลงสู่ห้วงแห่งความดับสูญ ณ เบื้องล่าง... น้ำตาเริ่มไหลซึม

                  จะมาฆ่าตัวตายหรือ…?”

                  ผมสะดุ้ง! เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างตัว ผมหันไปมองทางต้นเสียง หญิงสาวชุดดำนั่งอยู่ก่อนผมนานแล้ว โดยที่ผมไม่ได้สนใจเพราะไม่คิดว่าจะมีใครแอบมานั่งหลบมุมอยู่ที ่นี่ในขณะที่คนอื่นกำลังสนุกสนานกับการเดินเที่ยวชมงานกัน

                   คิดสั้นจริง ๆ โง่ ฉิบ...!”

                  ผมรู้สึกเคืองนิด ๆ ทำไมต้องมาว่ากันด้วย

                  คุณเป็นใคร…? ยุ่งอะไรด้วย!”

                  ผมถามกลับน้ำเสียงห้วน ๆ เธอไม่ตอบกลับเหม่อมองออกไปอย่างเลื่อนลอบ

      เมื่อสังเกตอีกทีพบว่าเธอเป็นชาวมุสลิม ดูจากฮีญาบสีดำสนิทผืนนั้น และเธอกำลังร้องไห้...

                   คุณร้องไห้...?

                   คุณก็เหมือนกัน...

                  เราเงียบกันไปพักใหญ่ ผมทอดตามองผืนน้ำนิ่งนานก่อนเอ่ยทำลายความเงียบ...

                  ผมเพิ่งถูกแฟนบอกเลิก...

                  เสียงผมเริ่มเครือ น้ำตาเริ่มซึมอีกครั้ง ในมือยังกระชับกล้องไว้นิ่ง

                  ฉันเพิ่งบอกเลิกแฟน...

                  ผมเงยหน้ามองเจ้าของเสียง ขณะทีเธอแหงนหน้ามองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย

                  ทำไมแฟนถึงบอกเลิก...?

                   เธอเอ่ยถามหลังจากต่างคนต่างเงียบมานาน ผมนิ่งไปอึดใจก่อนตอบ

                  ไม่รู้สิ... เธอเหมือนจะรักผมมาก แต่อาจเป็นเพราะเราต่างกันจนเกินไป เมื่อเธอเจอคนที่เป็นเหมือนเธอ เธอจึงไม่ลังเลที่จะเลือกคนนั้น เธอบอกเลิกผมเมื่อวานนี่เองทั้งที่เคยบอกรักกันแทบเป็นแทบตายแต่ก็ไม่แปลกนักหรอก เธอย่อมเลือกคนที่ละหมาดห้าเวลาเหมือนเธออยู่แล้ว...!”

                  เธอหันมองหน้าผมเป็นเชิงแปลกใจ

                  แฟนคุณเป็นมุสลิม...?

                  ผมพยักหน้าให้แทนคำตอบ ก่อนเอ่ยเสริม...

                  เรามาที่นี่ด้วยกันทุกปี เธอมาเที่ยวส่วนผมมาลอยกระทงแล้วคุณล่ะทำไมถึงทิ้งแฟน...

                  เธอเงียบไปอึดใจ...

                  ฉันมีแฟนอยู่แล้ว เป็นมุสลิมเหมือนฉันนี่แหล่ะ แต่อยู่ไกลกันเขาอยู่นรา ฯ ฉันอยู่สงขลา แล้ววันหนึ่งมีคนมีไทยพุทธมาจีบฉัน ฉันรู้สึกเหงา ๆ เลยตอบรับเขาเล่น ๆ ไม่ได้คิดจริงจังอะไร จนเมื่อปีที่แล้วเขาพาฉันมาเที่ยวงานลอยกระทงที่นี่ ฉันไม่เคยเที่ยวงานลอยกระทง มันเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับฉันนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ฉันรู้สึกป ระทับใจเขาแล้วฉันก็ทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงตรงที่คืนนั้นในที่ส ุดเราก็มีอะไรกันและฉันก็รักเขาเข้าจริง ๆ ต่อมาแฟนฉันจับได้เขาโกรธมากเลยขอเลิกโดยที่แฟนคนพุทธฉันยังไม่ รู้เรื่อง และดูเหมือนเขาจะรักฉันมากถึงขั้นบอกว่าจะยอมเปลี่ยนศาสนา แต่ฉันละอายเกินไปที่เห็นเขาเป็นของเล่นในตอนแรกฉันจึงบอกความจ ริงว่าฉันมีแฟนแล้ว ฉันขอโทษเขาขอให้เขาเลิกหวังและขอเลิกกับเขาเมื่อวานเหมือนกัน. ..

                  ผมรู้สึกเคือง ๆ หน้าตาเธอจัดว่าสวยแม้ว่าจะคลุมฮีญาบอยู่ก็ตาม แต่ทำไมเธอต้องเห็นความจริงใจของผู้ชายเป็นของเล่นด้วยหรือเป็น ปรกติของผู้หญิงสวยทุกคน

                  คุณก็เลยคิดฆ่าตัวตาย...

                  เธอหันมองหน้าผมอย่างแปลกใจที่ผมรู้ทัน

                  ตอนแรกฉันก็คิดฆ่าตัวตายอยู่เหมือนกัน แต่พอฉันเห็นสภาพน่าทุเรศของคุณแล้วฉันก็เลิกล้มความคิดเพราะทุ เรศตัวเอง มันคงไม่ต่างจากคุณเท่าไหร่

                  ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วบริเวณ เราไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ท่ามกลางแสงจันทร์ตอกกระทบผิวน้ำเกิดเป็นรูปเงาอันบิดเบี้ยว เสียงคลื่นซัดซ่า สายลมพัดพาลมหนาวเข้าปะทะใบหน้าเป็นระลอก ผมเหลือบมองกล้องวีดีโอในมือ ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในสมอง...

                  เดินเที่ยวงานกันไหม

                  ผมเอ่ยชวนหลังเงียบกันไปสักพัก

                  ไม่คิดฆ่าตัวตายแล้วเหรอ...

                  ไม่... มีอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าให้ทำแล้ว

                  ก็ดีเหมือนกัน...

                  ผมลบภาพที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ มีภาพอื่นที่น่าถ่ายเก็บไว้มากกว่า... เราเดินเที่ยวงานได้สักพักก็แวะหาอะไรกินและหาที่นั่งคุยกัน มิตรภาพเริ่มก่อตัวและดำเนินไปในวิถีของมัน จวบจนงานใกล้เลิก

                  เดี๋ยวผมของลอยกระทงก่อนนะ…”

                  เธอพยักหน้า ก่อนลุกขึ้นไปด้วยกัน ถึงผมไม่อยากซื้อกระทงโฟมแต่ผมจำเป็นต้องซื้อ เพราะผมมองหากระทงต้นกล้วยแต่ไม่เห็นมีแม้แต่ร้านเดียว มันคงหมดไปแล้วเหมือนความรักแท้ที่หมดไปจากโลก!

                  ผมตั้งจิตขอขมาและอธิษฐานขอพรต่อพระแม่คงคา ก่อนบรรจงลอยกระทงสู่ห้วงน้ำอันกว้างใหญ่ กระทงปลอม ความรักจอมปลอมจงลอยออกไปจากชีวิตซะ!

                  ไปดื่มต่อกันไหม...?

                  ผมเอ่ยชวน เธอพยักหน้าแทนคำตอบ

                  ค่ำนี้อีกยาวนาน...

                  เธอกล่าว... ไม่ไกลจากรีสอร์ทมีร้านคาราโอเกะ เราแวะกันที่นั่นผมสั่งเบียร์สองขวด เธอสั่งเพิ่มอีกสามเป็นห้า กับแกล้มสองสามอย่าง กลับแกล้มมาก่อน เรานั่งกินกับแกล้มไปคุยเรื่องจิปาถะกันไปพลางสักพักเมื่อเบียร ์ถูกเสิร์พ เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกเพราะเธอตั้งหน้าตั้งตาซดเบียร์อย่างเ ดียวสี่ขวดรวดขณะที่ผมแค่จิบ ๆ เบียร์ยังเหลืออีกครึ่งขวด เธอยกซดอีกผมนับถือในความคอแข็งของเธอ สี่ขวดแล้วยังต่อได้อีก หมดขวดสุดท้ายเธอก็เมาหลับและฟุบคาโต๊ะทันที...

                  ผมคิดจะมอมเบียร์เธอในตอนแรก แต่ไม่จำเป็นแล้วล่ะ...

                  จากนั้นเราก็มาอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันในสภาพเปลือยกายทั้งคู่ ... ในห้องพักของหาดแก้วรีสอร์ท...

                 

                  มพยายามทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อจำเรื่องราวทั้งหมดได้ก็เริ่มรู้สึกผิด... กับสิ่งที่ทำลงไป

                  แต่ช่างมันเถอะ! ยังไงก็มาถึงขั้นนี้แล้ว...

                  ผมรำพึง... ปล่อยวางจิตใจ ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินตามวิถีทางของมัน ก่อนข่มตาหลับแล้วเข้าสู้ห้วงนิทรารมย์ด้วยความอ่อนเพลีย...

                   รุ่งเช้า... ผมรู้สึกตัวตื่น ได้ยินเสียงฝักบัวในห้องน้ำ ร่างบางใต้ผ้าห่มหายไป สักพักปรากฏร่างของเธอนุ่งกระโจม-อกออกมาจากห้องน้ำ เราสบตากันเธอหลบตาแล้วก้มหยิบเสื้อผ้าตัวเองที่เกลื่อนกระจายต ามพื้นห้อง

                  ผมขอโทษ...

                  ผมกล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเต็มที่ เธอหันมามองผมก่อนทำเป็นไม้สนใจ และเริ่มแต่งตัวต่อไป ผมเงียบไปชั่วอึดใจ

                  คุณชื่ออะไร...?

                  ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ ตั้งแต่เริ่มรู้จักกันที่สะพานเมื่อคืนจนถึงขั้นมีความสัมพันธ์ ที่ลึกซึ้งต่อกัน แต่เรายังไม่รู้จักชื่อของกันและกันเลย... แต่ก็คงไม่ต่างวัยรุ่นในปัจจุบันนักหรอก

                  พอเถอะ... เราอย่ารู้จักกันเลย แค่นี้มันก็มากเกินไปแล้ว... เราไม่ควรรู้จักกันมากกว่านี้...

                  เธอกล่าว... น้ำเสียงเย็นชาสิ้นดีก่อนแต่งตัวเสร็จและเก็บของเดินออกจากห้อง ไป

                  ผมนั่งอยู่บนเตียงนิ่งนาน พลางคิดใจใจ... ผมคงไม่มีวันลืมเธอได้แน่นอน แล้วผมก็เอื้อมมือไปปิดกล้องวีดีโอที่บันทึกภาพความทรงจำระหว่า งเราตลอดคืนที่ผ่านมา ก่อนนำมาถือไว้ในมือ ความคิดสับสนยังคงวนเวียนอยู่ในใจ

                  ...จะผิดหรือเปล่านะ... ที่เราแก้แค้นความรักและให้บทเรียนพวกผู้หญิงที่เห็นผู้ชายเป็น ของเล่นแบบนี้...

                  ผมรำพึง... ก่อนยิ้มให้กับมัน

                  คงไม่ผิดหรอก... ผู้หญิงพวกนี้ไม่มีค่าเท่าไหร่นักหรอก!”

                  ผมสลัดไล่ความคิดออกจากหัวก่อนอาบน้ำแต่งตัวแล้วเช็คเอาต์ออกจา กโรงแรม

                  ม่กี่วันต่อมาภาพบันทึกจากกล้องวีดีโอถูกเผยแพร่ไปตามเว็บบอร์ด ต่าง ๆ ทางอินเตอร์เน็ต ในที่สุดผมก็แก้แค้นได้สำเร็จ!

                  ไม่ใช่เพียงเธอเพียงคนเดียวแต่ยังมีผู้หญิงอื่น ๆ อีกหลายคนด้วย... ผมรู้สึกสะใจและภูมิใจในฝีมือตัวเองเป็นที่สุดที่ได้แก้แค้นควา มรักและให้บทเรียนผู้หญิงมักง่าย ใจง่าย เห็นผู้ชายเป็นของเล่น

                  ผมยังคงดำเนินการแก้แค้นของผมต่อไปโดยไม่เคยรู้สึกผิดอีก... ผู้หญิงพวกนี้ไม่มีค่านักหรอก เหมือนกระทงปลอมนั่นแหละ...!

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×