ฉันพบกับเธอได้ไงนะ - นิยาย ฉันพบกับเธอได้ไงนะ<=^_^=> : Dek-D.com - Writer
×

    ฉันพบกับเธอได้ไงนะ<=^_^=>

    โดย

    เนื้อหาส่วนใหญ่มาจากเรื่องจิงเกือบ99%ค่ะ

    ผู้เข้าชมรวม

    145

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    145

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 66 / 17:57 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูรายการอีบุ๊กทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ของขวัญชิ้นสุดท้ายที่มอบแด่เธอ
     ฉันจะรักเธอจนกว่าจะลืมเธอ





    ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีเพื่อนๆทุกคน

    และจะขอกล่าวไว้ว่าเรื่องราวที่แต่งทั้งหมดนี้มาจากชีวิตจริงของฉันทั้งหมดอาจจะมีการแต่เติมเสริมแต่งบ้างนะค่ะแต่ไม่ถึงกับมากมายจนหาความจริงไม่ได้เอาเป็นว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความจริง  99% นะค่ะ

    และก็จะขอแนะนำตัวก่อน เรา ชื่อ  เค้ก

    และเรื่องนี้มีคนดำเนินเรื่องหลัก 2คน  คือ เราและคนที่เรามิอาจลืมเค้าชื่อ อู๋

                    วันนั้นเป็นวันที่ฉันเปิดเทอมที่2 ของม.4ได้ไม่ถึงอาทิตทีเดียว 

    ทำไมวันนี้ตูซวยแบบนี้ฟละโดนอาจานปกครองเรียกให้ใช้งานและว่าตูว่าผมยาวเกินไปให้ไปตัดซวยจิงๆ

    ฉันพูดกะพอยขณะที่เราเดินเพื่อที่จะไปพบเพื่อนที่จบไปจาก รร.เราไปแล้วตอนม.3

    (ก้ทำนองว่าเพื่อนมาเยี่ยม รร.นั้นหละ)

    เค้กมานิตย์ให้ไปรอที่ไหนอะ และพวกโบกะปราเมดและกมลหละไปไหนกันหมดแล้ว

    พอยเราไปรอพวกนั้นที่บริเวณ1 ห้องวิทดีกว่า

     (รร.เรามี2บริเวณ บริเวณ1เป็นบริเวณเด็กมอต้น บริเวณ2 ของเด็กมอปลาย)

    ฉันกับพอยเดินไปรอเพื่อนที่จะมาหากันไปรอที่บริเวณ1บริเวนที่เราเคยเรียนด้วยกันและก็ได้พบว่า

    กมลชนก โบ ปราเมด  ปุ๊ปู่ เพชร กิ๊ก  รอเราและพอยอยู่ที่นั้น

    ปราเมดมานิตย์มาถึงยังอะฝนจะตกแล้วนะเนี้ย

    ยังเลยไม่รู้หัวมันมาช้าจิงเลยนี่มันจะมาถึงพรุ่งนี้เลยไหมนะ

    รอๆไปแปปนึงเดี๋ยวเราโทรหาเองฉันอาสาโทรหามานิตย์เองเนื่องจากลำคานพวกคุณๆบ่น

    มานิตย์บอกมาถึงแล้วกำลังเดินมาและมันถามว่าเอาเพื่อนมา2คนจะเข้าโรงเรียนได้ไหม

    ได้ๆเข้าๆมาเหอะใครว่ามาเครียกะตู(โหมันใหญ่ชะมัด) ปราเมดพูดขี้นมา

    ซักพักมานิตย์มาถึงและเราก็คุยกันตามภาษาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกัน  และฉันก็ได้พบกับเค้าคนนั้น

    มานิตน์พาเพื่อนมา2คน(ไม่คิดจะแนะนำให้ตูรู้จักเลยนะ)

    เพื่อนมานิตที่มาด้วย1คนเมื่อเห็นกับ กิ๊กซึ่งเป็นเพื่อนเราก็ถึงกับชอบ (กิ๊กเป็นทอมนะและหน้าตามันโคดโหดอะ)

    พวกเราถึงกับงงว่าทำไมถึงชอบคนแยยไอกิ๊กได้เหอะๆ

    และเพื่อนมานิตย์อีกคนนึงเราไม่คิดอยากจะรู้จักเท่าไหร่เพาะดูว่าเค้าคงจะอายุมากกว่ามานิตแน่นอนเลยดูกลัวๆ

    เค้าดูเคร่งเครียดแบบบอกไม่ถูก(เพื่อนตูมีเพื่อนแบบนั้นด้วยหรอวะเนี้ยในใจคิดนะ)

    โอ๊ยคุณๆค่ะเสร็จระยังจะรีบกลับบ้านพรุ้งนี้บ้านมีงานขึ้นบ้านใหม่จะรีบไปช่วยเค้ากินกับข้าวเอ้ยไม่ใช่ไปช่วยเค้าทำกับข้าวฉันพูดขึ้นขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันสนุก

    จะรีบไปไหนยะใยเค้กอ้วนอยู่แล้วเดี๋ยวกลับไปก้ได้กินเห้ยเพื่อนตูนี้เห็นแก่กินชะมัดเพื่อนมันอุส่ามาเยี่ยม

    ปราเมดพูดและก็ตีหัวฉันมาหนึ่งที

    ก็คนมันอยากกลับบ้านจะแย่แล้วโว้ยฉันโวยๆ

    เออกลับก็กลับกมลชนกและโบพูดขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้เตรี้ยมกันไว้

    (สองคนนี้เป็นเพื่อนรักมันย่อมรู้ดีว่าฉันเป็นคนขี้หงุดหงิดลำคาน)

    มานิตเพื่อนมานิตคนนั้นดูขรึมๆนะฉันถามแบบไม่ได้สนใจอะไร

    และเราก็เดินมาจนถึงป้ายรดเม  โบรอรถเมคนละสายกับฉันปราเมทแม่มารับ

    อ๋อลืมไปพอยกลับไปนานแล้วนะ และ กิ๊ก ปุ๊ปู่ และเพชรกลับรดสายเดียวกัน

    ทำให้ฉันต้องกลับรถเม กับ กมล(ชนก)  มานิตย์ และเพื่อนมานิตอีก2คน

    กมลลงรถก่อนเพื่อนบ้านมันอยู่ห่างจาก รร.3ป้ายรดเม(ทำไมมันไม่เดินมาน้าเปลืองค่ารด)

    เหลือฉันมานิตและเพื่อนๆมานิต ฉันก็คุยเรื่องเรื่อยเปื่อยกับมานิต คุยโน้นคุยนี้  ขณะที่คุยฉันยืนตลอดกระเป๋าก็หนักไม่มีใครยักจะลุกให้ฉันนั่งเลยเวนกำเจงๆ

    พอมีคนลุกฉันกำลังจะก้าวไปนั้นทั้นใดนั้นมีชายหนุ่มคนนึงมันเข้าไปนั้นแทนฉันซะก่อน

    โหผู้ชายไรวะทำไมไม่เผื่อแผ่ให้ผู้ญอย่างฉันนั่งเลยไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยแย่ๆ(คิดในใจนะนั้น)

    และฉันก็ได้ลงป้ายรดเมและก้กลับบ้านแบบไม่ได้สนใจอะไรเลย

    จนมาถึงบ้านได้ประมาณเกือบ 2ทุ่มได้แล้วมั้ง ฉันนั่งเล่นคอมอยู่และก็วิ่งไปวิ่งมาบ้านน้าบ้านฉันเนื่องจากไปช่วยเค้าทำกับข้าวกันมีเสียโทศัพดังขึ้น(ใครโทรมาไม่ว่างคุยเนี้ย)

    ฮะโหลว่าไงมานิตมีอันหยังจ๊ะ

    เค้กเพื่อนเราขอเบอเธออะจะให้ไหมมันบอกว่าให้โทรมาถามว่าจะให้ไหม

    แล้วแต่มานิตแล้วขอไปไมอะไปซื้อหวยหรอ555ล้อเล่น(ด้วยความที่ไม่อยากเสียเพื่อนเลยให้ไปงั้นๆหละ)

    งั้นเราให้มันนะงั้นแค่นี้นะเดี๋ยวมันคงโทรหา

    เออบายๆหวัดดี ฉันงงซักพักและก็ไม่ได้สนใจที่จะรอซักเท่าไหร่

    ซักพักมีคนโทรมา(ใครวะเนี้ยทำเอาตกใจหมดกะลังเล่นคอมเพลินๆ)

    เบอใครเนี้ยแปลกๆ

    ฮะโหลคะใครค่ะ

    ผมเพื่อนมานิตนะชื่อ  อู๋  นะคับ

    แค่ได้ยินเสียฉันถึงกับอ๋อเลยว่านายคนนั้นที่แย่งที่นั่งฉันเมื่อเย็นนี้เอง

    อ๋อๆค่ะแล้ว อู๋นี่คนไหนหรอเราไม่รู้เห็นมา2คนทำเป็นไม่รู้จักเนื่องจากเป็นมารยาอิอิ

    คนที่ไม่ได้ชอบเพื่อนคุณอะคับคนที่เงียบๆ

     (นึกในใจเกิดมาเพิ่งมีคนเรียกเราว่าคุณ)เหอะๆ

    ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้นะเรียก เค้กก็ได้ค่ะ

    คับๆ

    ฉันก็ได้ถามคำถามที่ไร้สาระไปว่า เธอทำไรอยู่หรอทั้งๆที่รู้ว่าพูดโทสัพอยู่อิอิ

    อ๋อกำลังไปหาไรกินคับ

    ซักผ้าหรออ่านะ(หูฉันดั้นได้ยินว่าซักผ้าถึงกับงงว่ามันทำได้เช่นใด)

    ป่าวๆกินขาว

    อ๋อๆหูมะดี555

    ผมจีบคุณได้ไหมคับ

    จะจีบไปทำไมอะ(ตูโง่ป่าววะเนี้ยถามเค้าแบบนั้น)

    ด้วยความที่ฉันไม่รู้จะบอกยังไงก็บอกตามใจจีบติดก็ติดไม่ติดก็คงแห้วเอิ๊กๆ

    และเค้าก็คุยกับเราแต่คุยได้ไม่นานเท่าไหร่ฉันก็ต้องไปช่วยแม่

    ลืมบอกไปอย่างว่าเค้าคุยกับฉันเหมือนกับฉันจะขาดใจตายขอบอกว่าคำแต่ละคำเสี่ยวๆทั้งนั้นเลย(เวงไหมหละตู)

    นี่คือจุดเริ่มต้นของความรักของฉันและเธอที่ไม่อาจจะลืมเลือนไปได้

    วันรุ่งขึ้นอู๋โทรมาหาฉัน

    บอกว่าเย็นนี้จะมารับเราก็ดันบอกว่าตามใจ

    แต่ลืมไปว่าเย็นนี้มีงานต้องทำอาจกลับดึกแต่ลืมบอกเค้าตอนแรก

    เลยโทรไปบอกเค้าตอนพักเที่ยง

    เธอเรากลับเย็นนะไม่ต้องมารับก็ได้เกรงใจที่ต้องรอ

    ไม่เป็นไรครับผมรอได้รอทั้งชีวิตผมก็รอได้

    เหอะๆตามใจนะ(ในใจคิดโหไปหาคำเสี่ยวๆมาจากไหนมากมายเนี้ย)

    งั้นแค่นี้นะจะเข้าเรียนละบาย

    คับ

    ฉันก็เรียนๆจนถึงเย็น  ใครโทรมาไม่รู้เค้กมารับโทศัพเสียงเพื่อนเรียกโทศัพอยู่ในกระเป๋า

    ฮะโหลผมมานั่งรอแล้วนะ

    เราไม่รู้งานจะเสร็จเมื่อไหร่กลับไปก่อนก็ได้ตอนนั้นเวลาประมาณบ่าย3ได้

    ไม่เป็นไรครับรีบไปทำงานเถอะเดี๋ยวเพื่อนว่า

    อย่ารอเลยเกรงใจกลับไปก่อนก็ได้

    ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมอ่านหนังสือทำการบ้านรอที่ป้ายรดเมนี้แหละครับ

    ตามใจนะเดี๋ยวรีบกลับไปทำงานก่อนนะ

    ฉันก็นั่งทำงานจนลืมเวลานี้ก็5โมงแล้วฉันเลยแกล้งชวนเพื่อนไปหาไรกินข้างนอกและจะดูว่าเค้ารอฉันอยู่ไหม

    ปรากดว่าเค้ารออยู่เลยหละ

    เดี๋ยวงานก็ใกล้เส็ดละกลับก่อนก็ได้นะเราเกรงใจ

    ไม่เป็นไรครับ

    งั้นตามใจเดี๋ยวไปหาไรกินก่อนและจะไปทำงานต่อแล้วนะแล้วเจอกันนะ

    ครับผมมีของจะให้คุณด้วยนะครับเอาไว้เจอกัน

    เวลาผ่านไป 6 โมง 1ทุ่มกว่าๆได้

    เธอยังไม่กลับอีกหรอ

    ยังครับรอเค้กอยู่ไง

    แหมเค้กมีหนุ่มารับด้วยอย่างงี้เราก็กลับคนเดียวซิกมลพูดขึ้น

    ทำเอาเราหน้าแดงซะเหอะๆเพื่อนๆลองคิดดูว่าการที่เราถูกฝูงเพื่อนเกือบ10ชีวิตลุมแซวมันจะอายและเสียงดังแค่ไหนคิดดูซิ

    และเรากับอู๋ก็กลับบ้านด้วยกันระหว่างนั่งรดเมก็คุยโน้นคุยนั้นกันไป

    นี่ครับผมให้เค้ก

    ขอบคุณนะ

    เปิดดูปรากฏว่าเป็น ชุดนอน และสมุดบันทึกเล่มนึง

    เพื่อนๆอ่านไม่ผิด  ชุดนอน  ตอนนั้นอึ้งกับการที่เค้าซื้อชุดนอนให้

    ไม่รู้ว่าเค้าต้องการอะไรในตัวเรา  ระหว่างทางกลับบ้านก็มีเค้าไปส่งและพอถึงบ้านเค้าก็ลงบ้านเค้า(ไม่คิดจะไปส่งกันถึงหน้าบ้านเลยนะในใจคิดเฉยๆน้า)

    และพอเค้าลงฉันก็อ่านในบันทึกเล่มนั้น

    บันทึกเขียนไว้ว่า...

    หน้าแรกเป็นประวัติ

    นายอรรถพล  เสมงคล อู๋

    เรียนที่.......(ขอไม่บอกที่เรียนเค้านะค่ะ)

    (และก็จะบอกตรงๆเลยว่าลืมไปแล้วเนื่องจากบันทึกเล่มนั้นฉันได้ทิ้งมันไปจากชีวิตแล้วในปัจจุบัน)

    แต่หน้าต่อๆไปเค้าเขียนทำนองว่า....

    เราเป็นรักครั้งแรกของเราครั้งแรกที่เค้าไปได้พบเราเค้าถึงกับชอบ

    เค้าชอบใน สายตาของฉัน (คิดในใจตาที่น่ากลัวของเราเนี้ยนะน่าชอบตรงไหนเนี้ย)

    อู๋เป็นคนช่างคิดช่างฝัน และอู๋เป็นคนที่จริงจังกับชีวิต อยู่ตัวคนเดียวมาตั้งแต่เด็กๆ

    เพื่อนๆคงเข้าใจว่าพ่อแม่เลิกกันจิงๆไม่ใช่ค่ะ เนื่องจากอู๋อยากที่จะใช้ชีวิตคนเดียวให้รู้ถึงรสชาติของชีวิตเพิ่มขึ้น

    อ๋อลืมบอกไปว่า อู๋เป็นเด็กช่างเรียนแผน ก่อสร้าง โยธา เรียนอยู่แถวฝั่งธนหนองแขมอะไรประมาณนั้นค่ะ

    แปปเดียวถึงบ้านละไวจิงๆเลย  ฉันเดินลงรดเมมาและพบว่าบุกคนอันเป็นที่รักยิ่งของฉันรอรับอยู่คือคุณแม่สุดที่รักที่สุดเฝ้ารอการกลับบ้านของฉันอย่างเป็นห่วงอยู่

    หวัดดีค่ะแม่ แม่รอนานยัง

    ไม่นานหรอกแม่ออกมาวันอยู่เกือบ10รอบและดูว่าเมื่อไหร่มันจะโผล่หัวกลับบ้าน

    5555ก็เค้กบอกแม่แล้วว่ากลับค่ำไงไปๆเข้าบ้านกินหิวๆ

    ฉันเกินนั่งรดแม่เข้าบ้านกันไปและอาบน้ำอาบท่าเส็จก็ถามแม่ว่า

    แม่เพื่อนซื้อชุดนอนให้อะ

    ผู้ญหรือชคำถามที่มีเสียงที่เด็ดขาด

    ความหมายของมันคือต้องการจะหลอกฟันไง

    ไม่จริงหรอกมั้งแม่

    คำตอบของแม่ทำให้ฉันมานั่งคิดและอึ้งไปซักพักและแม่ก็พูดขึ้นมาว่า

    ตอนแม่คบกับพ่อนะพ่อชอบซื้อโน้นนี้มาให้แม่แต่แม่ไม่เคยรับของเหล่านั้นเลย

    เรามีปัญญาซื้อเองได้และถ้าเราจะคบกันไม่ต้องเอาอะไรมาล่อให้หลงกล

    แม่คิดมากไปหรือป่าวเค้าคงไม่ได้คิดแบบนั้นมั้งเค้าอาจจะหวังดีก็ได้

    ผู้ชายร้อยทั้งร้อยมีนิสัยเหมือนกันหมด

    คำพูดที่แม่พูดกับฉันทำให้ฉันมานั่งคิดและทบทวนอยู่หลายรอบว่าฉันควรทำไงกับของนี้ดีฉันจะคืนอู๋ดีไหมหรือควรจะเก็ยมันไว้เพื่อพิสูจให้แม่ฉันเห็นถึง รักแท้ที่อู๋พูดกับฉัน

    พอค่ำฉันก็อาบน้ำและเข้านอนตามปกติแต่แปลกจากเมื่อก่อนคือฉันจะต้องนอนเร็วไม่ถ้านอนไม่หลับก็อ่านหนังสือแต่มาวันนี้ฉันจะต้องคุยโทรศัพสักพักมีเสียแปลกๆมา

    ใครโทรมาน้าจะเป็นอู๋หรือป่าวน้า

    ดีจ๊ะ

    ดีคับเค้กอู๋เองนะคับ

    จ้าจำได้เป็นไงถึงบ้านแล้วหรอกินข้าวยังทำไรอยู่

    โหจะตอบคำถามไหนก่อนดีเนี้ย

    อะแล้วว่าไงหละ

    แล้วเค้กทำไรอยูหละนอนแล้วหรือยังกวนไหม

    อ๋อไม่กวนหรอกนั่งอ่านหนังสืออยู่และเดี๋ยวก็นอนแล้ว

    และเราก็คุยกันจาก2ทุ่มกว่าถึง4ทุ่มกว่าพี่ชายฉันเดินขึ้นมาจะไปนอนคงได้ยินฉันคุยโทศัพอยู่ก็เลยมาเคาะห้องฉันเล่นแต่เจตนาคือจะบอกว่านอนได้แล้วฉันรู้ดี

    ฉันเลยบอกอู๋ว่าขอนอนก่อนเดี๋ยวพุ่งนี้ค่อยเจอกัน

    อู๋แล้วค่อยคุยกันนะบายจ๊ะฝันดี

    ครับอู๋รักเค้กนะฝันดีคับ

    กร๊ากๆกรี๊ดๆแทบลอยเลยฉันเหอะๆด้วยความที่เขินจัดเล่นเอากว่าจะนอนโน้น5ทุ่มกว่าได้หลับๆๆ

    เช้ามาก็เป็นปกติไปรร.แบบเดิมๆ

    ตกเย็นอู๋ก็มารับทุกๆเย็น

    เค้กวันนี้อู๋มารับไหม

    มาบิ๋มมีไรไหม

    ก็บิ๋มจะชวนเค้กไปร้องเพลงและไปซื้อของที่ฟิว

    ได้ซิชวนอู๋ไปด้วยก็ได้เอาไหมหละ

    อืมๆ

    บิ๋มชวนฉันและอายไปซื้อของด้วยกันและมีอู๋ไปอีกคนและก็กลับบ้าน

    พักนี้เป็นอะไรที่กลับดึกมากๆแม่เริ่มสงสัยโทรศัพก็บ่อยๆ

    แม่เลย

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น