[KHR] ​| ☀ BLOOD SUNSHINE ☀ | สุริยันหลั่งโลหิต - นิยาย [KHR] ​| ☀ BLOOD SUNSHINE ☀ | สุริยันหลั่งโลหิต : Dek-D.com - Writer
×

    [KHR] ​| ☀ BLOOD SUNSHINE ☀ | สุริยันหลั่งโลหิต

    มันจะเป็นไง ถ้าแสงอรุณที่เคยสว่างไสวทั่วท้องนภา มันหม่นหมองในตัวเอง แล้วถูกย้อมเป็นสีโลหิต "ถามจริง อรุณมีไว้ทำไมกัน...."

    ผู้เข้าชมรวม

    1,215

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    1.21K

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    35
    หมวด :  รักสีเทา
    จำนวนตอน :  6 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  5 ก.ค. 63 / 15:33 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ





    สวัสดีค่ะทุกคน ยินดีต้อนรับสู่โลกของเรานะคะ นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากความคิดของเราค่ะ

    ตัวละครตัวนี้ มีฟิคออกมาค่อนข้างน้อยสำหรับเรานะคะ เราเองก็อยากลองแต่งดู

    เลยแต่งเรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ


    ส่วนตัวชอบตัวละคร ซาซางาวะ เรียวเฮ มากๆ

    ตัวละครออกแบบได้ถูกใจเราจริงๆค่ะ 

    แต่ถ้าเราชอบที่สุด คือ เรียวเฮในอีก10ปีข้างหน้าค่ะ

    ทรงผม บุคลิคที่ดูโตขึ้น รักน้องสาว ดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่นดีนะคะ

    แต่เสียดายที่เรื่องนี้ไม่ได้อบอุ่นสักเท่าไหร่


    ฟิคนี้ ตัวละครตัวนี้จะมีนิสัยที่ไม่เหมือนต้นแบบนะคะ โดยฟิคนี้ เรียวเฮในอีก10ปีข้างหน้า จะดำเนินเรื่องค่ะ ตัวละครบางตัวก็จะมีที่เราแต่งขึ้นนะคะ

    และอาจจะมีบางอย่างที่ไม่เหมาะสม ถ้าไม่ถูกใจยังไงต้องขออภัยด้วยจริงๆนะคะ

    หากใครที่ไม่ถูกใจ สามารถปิดเรื่องนี้ได้เลยนะคะ



    ตัวละครตัวนี้จะมีการเปลื่ยนแปลง นิสัยของเขาจะไม่เย็นชา แต่ก็ไม่ร่าเริงนะคะ 

    เราจะทำให้ตัวเขาออกแนวชาวฝรั่งหน่อยๆ และมีรสนิยมที่เป็น ไบ ค่ะ

    จะเป็นคนที่ น้ำนิ่งไหลลึก ค่ะ มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น จะประมาณนี้นะคะ


    ขอขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ Ekita_Kuro


    ใครที่แวะมาอ่านทางนี้ต้องขอบคุณจริงๆค่ะ






    ♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦





    เป็นเรื่องจริงที่ว่า ทุกๆสิ่งนั้นไม่มีวันจะเหมือนเดิม ทุกอย่างล้วนเปลื่ยนไปตามกาลเวลา ไม่ช้าหรือเร็วยังไงก็ต้องเปลื่ยน และการเปลื่ยนไป มันอาจจะไม่หลงเหลือเค้าโครงเดิมไว้อีก

    เห็นได้ใกล้ตัวคงจะเป็นสภาพบ้านที่ปล่อยไว้นานวันยิ่งทรุดโทรมลงไป หรือสิ่งมีชีวิตที่นับวันยิ่งเติบใหญ่

    แน่นอน ไม่มีอะไรเหมือนเดิม


    หากให้กล่าวถึงมนุษย์ละก็ มันก็เห็นได้ชัด ทั้งร่างกาย และจิตใจ

    แต่ จิตใจ มันก็มีเงื่อนไขของมัน หากมันมีปณิธานที่แกร่งกล้า ก็ไม่อาจแปรเปลื่ยน

    แล้ว?

    ถ้าสิ่งที่มันได้รับ สาหัสเกินเยี่ยวยา 

    มันจะเป็นยังไง

    รู้ไหม คำตอบมันอยู่ไม่ไกลเลย 

    ผลลัพธ์ของมัน ก็คง เหมือนชายคนนี้

    ละมั้ง?



    ปั้ง!!!



    เสียงของอาวุธระยะไกลดังก้องไปหลายกิโล ในยามค่ำคืนที่แสงของดวงจันทร์คงจะสว่างที่สุดในเวลานี้

    ไอควัณหนาวลอยออกมาจางๆจากการหายใจบางๆของผู้ดักซุ้ม ที่ตอนนี้ใช้แสงจันทร์ในการมองแทนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิก

    ร่างของเหยื่อที่เป็นเป้าหมายทรุดกองลงไปกับพื้นคอนกรีตเย็นๆในหน้าหนาว เกล็ดหิมะมากมายที่กำลังตกลงมาก็พลอยกลบร่างเหยื่อผู้ไร้ลม  จนเลือดข้นผสมกับเกล็ดหิมะ เป็นสีบานเย็นจางๆ

    "ฟู่....."

    เสียงพ้นลมร้อนดังขึ้นเมื่อทุกอย่างจบลง 

    ชายผู้ดักซุ้มเสร็จสิ้นหน้าที่ เตรียมเก็บอุปกรณ์ให้พร้อมเตรียมตัวเดินทางออกจากเขตร้าง

    เสื้อกันหนาวสีดำมีผ้าคุมหัว โผกผ้าสีดำปิดปากเอาไว้ แว่วแสงจันทร์ฉายลงมาจนเห็นผมสีขาวเทารางๆ

    กึก กอบ กึก แก็ก!

    อุปกรณ์ทุกอย่างถูกเก็บลงอย่างรวดเร็วก่อนชายผู้นี้จะขนมันแล้วเดินออกไปทางบันไดตัวอาคารนี้

    *เสียงโทรศัพท์

    (เป็นไงบ้าง ทุกอย่างเรียบร้อยใช่ไหม)

    (ครับ เรียบร้อยครับ)

    (เอาละ กลับมาที่ฐานเถอะ)

    (ครับ)

    ชายผู้ปกปิดใบหน้าวางหูสายลง แล้วเริ่มออกเดินอย่างเร่งเท่าตัว

    'เป็นการฆ่าที่ไม่คิดหน้าคิดหลังเอาสะเลย ถ้าถูกตามตัวเจอขึ้นมาจะเป็นไง ก็ยังดีที่ปืนที่ใช้มันยังพอมีคนใช้กัน'

    'ทำไงได้ ลงมือไปแล้วด้วย ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ"


    บึน!!!!

    พาหนะความเร็วสูงถูกขี่ออกไปด้วยความเร็วราว80กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากตอนนี้เขาขับเข้าเมือง คงได้โคนตำรวจไล่ดักเป็นแน่

    เครื่องยนต์ทำความเร็ว ฝ่าลมเย็นตรงดิ่งไปตามขอบชานเมือง 

    ภายในแววตาสีเทา ยังคงฉายวนภาพชวนสยองอยู่ซ้ำๆกับเลือดที่ผสมกับหิมะ ร่างของมาเฟียเป็นเหยื่อที่นอนแน่นิ่งดับอนาต ที่ศีรษะฝังไว้ด้วยกระสุนที่ยังระอุอยู่

    'หวังว่า คงไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้อีกนะ"



    "ตายสนิท"

    ชายผมดำทรง อันเดอร์คัดเฟริด ไว้เคราบางเป็นทรงขอบกราม ที่ดูยังไงก็น่าจะเป็นต่างชนชาตินั่งฟังคำพูดของคนที่ได้ทำภารกิจเสร็จไปเมื่อครู่

    "ทำได้ดีมากจริงๆ"

    "ขอบคุณครับ"

    "เสียดายจริงๆที่กลุ่มมาเฟียวองโกเล่แฟรมมิลี่เรียกตัวคุณกลับไป"

    "มันก็....ช่วยไม่ได้"

    "ไม่เป็นไร..."

    ชายผู้มอบหมายงาน หรือที่เรียกว่า หัวหน้า ในตอนนี้ ลุกขึ้นจากที่นั่งเก้าอี้ล้อเลื่อน เดินอ้อมตรงดิ่งมาที่ชายสวมเสื้อคุม ด้วยท่าทางที่พินิจพินัย

    "คืนนี้เลยเหรอ"

    "ครับ"

    "เสียใจจริงๆ ที่คุณจะต้องกลับไป"

    "ผมหวังว่าเราคงจะได้เจอกัน"

    "ตั้งแต่ร่วมงานมา คุณเป็นคนเข้าขากับผมได้มากที่สุดเลยนะ เรียวเฮ"

    "หึ you lie."

    "I'm honest."

    "ไม่เชื่อหรอก คุณมันbulls*ut."

    "เกินไป๊"

    "คงไม่เกินไปหรอก กับความเจ้าเล่ห์ของคุณ"

    "ตามใจ แต่ที่พูดนี่จากใจ"

    ไม่พูดเปล่า มืออีกฝ่ายกำปันแล้วทุบอกตัวเองย้ำๆให้เห็น

    "เราต้องได้เจอกันอีกแน่"

    "ถ้าคุณกลับไปที่ญี่ปุ่น คงมีเรื่องวุ่นเยอะแน่"

    "ผมก็ว่าอย่างนั้น"

    "ว่าแต่ เขาจะเรียกคุณกลับไปทำไม"

    "ผมก็ไม่รู้"

    "...."

    "และก็ไม่ใช่เรื่องของคุณ"

    "...."

    "Okay?"

    "ใจช้ำหมดแล้วนะ อย่ารุนแรงสิ"

    "ไว้ถ้าเกิดมีเวลา ผมจะติดต่อคุณ"

    "ถ่ายรูปส่งมาด้วยจะดีมาก"

    "โชคดีครับ"

    "Goodluck"

    กระเป๋าเป้สีดำสะพายออกไป ร่างของชายผู้ร่วมงาน ค่อยๆหายลับไปด้วยพาหนะความเร็วตัวเดิม

    สายตาสีเทาจดจ่อมองทางข้างหน้าอย่างมีสติ ในรอบนี้บูลทูธเป็นสิ่งที่ใช้ในการรับฟังข่าวสารในขณะขับยานยนต์

    (ฮาโหลครับ ผมจานินิครับ)

    "ครับผม"

    (คุณเรียวเฮได้ยินชัดไหมครับ)

    "ครับ"

    (ตอนนี้ทางคุณรีบอร์นติดต่อให้คุณกลับมาที่ฐานทัพเราด่วนน่ะครับ)

    "เกิดอะไรขึ้น"

    (เอ่อ..คือเรื่องมันค่อนข้างจะ...อธิบายยากหน่อยน่ะครับ)

    "ได้ ไว้เจอกัน"


    การสื่อสารจบลงด้วยความกังขาของผู้เดินทางในตอนนี้

    'ปกติ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องกลับไปด้วยซ้ำ'

    'มีอะไร แน่ๆ ถึงได้เรียกมารวมพล'

    'ปวดหัวเปล่า คิดไปก็เท่านั้นแหละ'

    ยานพาหนะทำความเร็วสูงจนหน้าใจหาย เพื่อมุ่งตรงไปข้างหน้า

    'ก่อนถึงสนามบิน คงแข็งตายก่อนละมั้ง'











     

    TB
    TB

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น