ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บุษบาลวงรัก ชุดทัณฑ์รักบุษบา

    ลำดับตอนที่ #4 : สาวติดฝา 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.3K
      18
      9 ต.ค. 60


    พี่พริกเปิดจองพร้อม box พับ อยู่นะค้า



    2

    สาวติดฝา

    ฟากฝ่ายสาวที่ถูกปล่อยให้รออยู่ในห้องกำลังรับสายจากทางบ้านซึ่งตอนนี้เมืองไทยเป็นเวลาดึกดื่นแล้ว แม้จะไม่ได้อยู่กับวรนิตผู้เป็นน้าแล้ว พลับพลึงก็ยังโทรศัพท์กลับไปหาแม่กับยายทุกวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการโทร. แรกๆ หญิงสาวรู้สึกเกรงใจ แต่เมื่อคุณพริกยืนกรานว่าเขาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลย ทุกอย่างฟรีและเป็นสวัสดิการของพนักงานในร้านซือเป่า เหตุผลของชายหนุ่มฟังไม่ขึ้น กระนั้นเมื่อเขายืนกรานว่าไม่เดือดร้อนถ้าเธอจะโทรศัพท์กลับบ้านทุกวันหญิงสาวจึงไม่ปฏิเสธ

    แม่กับยายต่างยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ พลับพลึงเข้าใจวรนิตผู้เป็นน้าคงไม่กล้าบอก ส่วนตัวเธอแรกๆ ก็พูดคุยสอบถามแบบยั่งเชิงไปก่อน พอรู้ว่าแม่กับยายยังไม่ทราบเรื่องก็เบาใจ สาวดอกไม้ไม่ต้องการให้ทั้งสองไม่สบายใจกับเรื่องนี้ เธอกำลังหาทางให้ได้พาสปอร์ตคืนมาซึ่งคุณพริกรับปากจะช่วยเต็มที่

    เขาบอกให้เธอพักที่นี่อย่างสบายใจ อยากไปไหนให้บอก อยากได้อะไรแค่เธอแจ้ง เขาจะหามาให้ทุกอย่าง แม้ฟังดูทะแม่งๆ แต่พลับพลึงก็รู้สึกสบายที่ได้ยินแบบนั้น ต่อให้มันขัดกลับฐานะเขาก็ตามทีเถอะ บางครั้งหญิงสาวอดคิดสงสัยพร้อมกับตบท้ายด้วยการหาเหตุผลให้เขา เสื้อผ้าเก่าๆ นั่นเหมือนเขาเพิ่งสวมใส่เพราะไม่มีกลิ่นเหงื่อสักนิด เธอสงสัยพร้อมกับหาคำตอบในแง่บวกให้ตัวเอง เขาไปถึงร้านแล้วคงเปลี่ยนใส่อีกชุด กางเกงราคาแพงหูดับก็คงเป็นของที่เจ้านายเขาให้มากระมัง เพราะเขาคุยนักคุยหนาว่าเจ้านายรวยสปอร์ตใจดีมาก ส่วนเรื่องเสื้อผ้าของใช้ของเธอก็คงใช้เงินเดือนที่เจ้าตัวคุยนักคุยหนาอีกแหละว่าพอมีจ่ายนั่นก็อาจเป็นเงินเก็บเงินกู้หรืออะไรก็ตามแต่ที่ชายหนุ่มหามาซื้อให้ได้

    “พลับพลึง... ทำไมเงียบไปลูก” เสียงผาณิตดังมาตามสาย ดึกมากแล้วแต่คนเป็นแม่นอนไม่หลับจนต้องเป็นฝ่ายโทรศัพท์มาหาลูกสาวเสียเอง

    “เอ่อ หนูเหม่อไปหน่อยจ้ะแม่ คิดถึงแม่อ้อยจังเลย”

    “อย่ามาปากหวาน กำลังปิดบังอะไรแม่หรือเปล่าเนี่ย”

    “เปล่าน้า หนูรึจะมีอะไรปิดบังแม่กับยาย” คนกำลังโกหกร้อนรนปฏิเสธ หญิงสาวใช้หลังมือเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ดีเหลือเกินที่เป็นเพียงการพูดคุยโทรศัพท์ ขืนคุยกันตรงๆ ความคงแตกเพราะเธอโกหกไม่เก่งเอาซะเลย

    “แล้วน้านิตล่ะเป็นไงบ้าง”

    “หา เอ่อ แม่หมายถึงอะไรคะ หนูไม่เข้าใจ”

    “อ้าว ก็ใจดีไหม น้าเขาดูแลหนูดีหรือเปล่า”

    “...”

    “พลับพลึง... หนูเงียบไปอีกแล้วนะ ทำแบบนี้แม่ใจไม่ดี”

    “เปล่าเงียบซะหน่อยแม่” หญิงสาวรีบตอบกลับหลังจากอึ้งหาคำตอบไปเกือบนาที “น้านิตเขาก็โอเค หนูไม่ค่อยได้คุยด้วยหรอก เช้าหนูไปเที่ยว เย็นหรือค่ำถึงกลับถึงบ้าน น้านิตเขาก็อยู่กับสามีไปสิ”

    “...”

    “แม่... อย่าเงียบไปสิ แม่ไม่ต้องห่วงหนูหรอกน่า หนูสบายดี เกิดอะไรขึ้นมาหนูเอาตัวรอดได้ ก่อนมาหนูบอกแม่แล้วไงว่าจะไม่ทำตัวเป็นภาระน้านิตกับสามีเขา เรื่องเที่ยวหนูไปเองได้ เงินก็มี ภาษาอังกฤษก็พอพูดได้ แม่กับยายอย่าห่วงหนูเลยนะ”

    “ถ้าเป็นอย่างนั้นก็รักษาตัวเองให้ดี รีบกลับมาหาแม่กับยายไวๆ”

    “จ้ะ ขอหนูอยู่เที่ยวต่ออีกหน่อยนะแม่ แล้วหนูจะรีบกลับไปหาแม่กับยายนะจ๊ะ” สาวดอกไม้บอกเสียงสั่นก่อนวางสาย จะให้เธอบอกไปได้อย่างไรว่าเธออยากกลับบ้านใจแทบขาด แต่ที่กลับไม่ได้เพราะไม่มีหนังสือเดินทาง ไอ้ครั้นจะไปทำเรื่องแจ้งหนังสือเดินทางหายกับทางการท้องถิ่นแล้วนำใบแจ้งความไปสถานกงสุลไทยก็ถูกคุณพริกเบรกเอาไว้ ชายหนุ่มอ้างว่ามันวุ่นวาย แต่ที่หญิงสาวหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตก็ไม่เห็นจะวุ่นวายสักนิด เธอแค่นำใบแจ้งความพร้อมบัตรประชาชนไปยื่น พอเถียงกลับไปแบบนี้ก็ถูกเขาเบรกอีกครั้ง เขาบอกว่าอยากให้แม่กับยายไม่สบายใจเรื่องเธอกับผู้เป็นน้าก็ตามใจ

    เพราะความรักที่มีให้แม่กับยาย ทำให้หญิงสาวยังไม่ได้ทำตามที่หาข้อมูล พักอยู่กับชายหนุ่มพร้อมกับเฝ้ารอวันหยุดที่เขามักจะพาเธอไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เสมอ

     

    “ร้องไห้ทำไม” เสียงทุ้มที่ดังจากด้านหลังทำให้คนกำลังก้มหน้าร้องไห้สะดุ้ง พลับพลึงรีบเช็ดน้ำตาแต่แป๊บเดียวคนถามก็ปราดเข้ามาเช็ดให้ ชายหนุ่มค่อยๆ เกลี่ยไล้น้ำตาบนพวงแก้มอมชมพูที่หมายจะขโมยหอมเสียหลายที “คุยกับแม่อีกสิท่า ดูสิร้องไห้จนตาบวมหมดแล้ว” ปลายนิ้วเรียวยาวแตะที่ใต้ตาหญิงสาว

    “คิดถึงแม่กับยายค่ะ”

    “รู้... แต่อย่าร้องไห้ได้ไหม แค่คิดถึงเฉยๆ ก็พอแล้ว”

    “มันห้ามไม่ได้นี่คะ หนูอยากกอดแม่กับยาย” หญิงสาวบอกเสียงสั่น

    “โอ๋ๆ อย่าร้อง เห็นแล้วใจไม่ดีเลย” คนทนเห็นไม่ได้บอกด้วยสีหน้าไม่สู้ดี สีหน้าชายหนุ่มตอนนี้ดูแย่กว่าคนกำลังร้องไห้คิดถึงแม่กับยายเสียอีก

    “คุณพริกเกี่ยวอะไรกับหนูด้วย”

    “ไม่รู้ ที่รู้คือไม่สบายใจ หยุดร้องเถอะนะ ...แน่นหน้าอกไปหมดแล้ว”

    สาวดอกไม้กลั้นก้อนสะอื้นหลังจากชายหนุ่มบอกว่าแน่นหน้าอก ควรเป็นเธอไหมที่ต้องรู้สึกแบบนั้น กัลปพฤกษ์ถอนหายใจหลังจากเห็นหญิงสาวหยุดร้องไห้ ความรู้สึกตอนนี้เหมือนยกหินตุ้มเล็กๆ ที่ถ่วงใจออกไปอย่างไรอย่างนั้น

    “หายแน่นหน้าอกยังคะ” สาวที่พยายามหยุดร้องไห้กระเซ้าเสียงสั่นปนสะอื้น

    “ยังจะมาพูดเล่น ดูสิ...ตาแดงไปหมดแล้วยายเอ๋อ” ชายหนุ่มใช้นิ้วแตะที่ใต้ตาหญิงสาวเบาๆ อีกครั้ง

    “ฮื้อ เลิกเรียกหนูว่ายายเอ๋อ” ยายเอ๋อของคุณพริกเบี่ยงใบหน้าหนีเลยทำให้ถูกหยิกแก้ม

    “อยากเรียกแบบนี้ มันน่ารักออก พี่จะเรียกคนเดียว ยายเอ๋อๆ ...ยายเอ๋อของพี่พริก” คนอยากหอมแก้มมากกว่าหยิกแก้มบอกอย่างมันเขี้ยว เอาวะ...ไม่ได้หอมหยิกสักนิดก็ยังดี

    “...”

    “อ้าวทำไมเงียบไปล่ะ” หนุ่มฮอตพริกสิบเม็ดที่ลงทุนอ่อยทุกขณะจิตยื่นหน้าเข้าไปถาม ใกล้จนลมหายใจกระทบถึงกัน ดวงตางามที่ยังมีน้ำจับคลอวูบไหวเป็นที่น่าพอใจของคนจับจ้องอยู่ “ว่าไง... ถามว่าทำไมเงียบไป” ชายหนุ่มหยิกแก้มสาวอีกครั้ง

    “คุณพริกขี้โกง” สาวที่ถูกล่อลวงให้หวั่นไหวออดเสียงแผ่ว การที่ชายหนุ่มให้ความใกล้ชิดสนิทสนมพร้อมทั้งลุกประชิดแบบไม่ทันตั้งตัวทำให้หัวใจสั่นไหว

    “พี่ไปขโมยเงินเราหรือยืมเงินไม่ใช้เรอะ” กัลปพฤกษ์กระเซ้าอย่างชอบอกชอบใจ ก้อนเนื้อในอกกำลังพองโตจนอยากก้มไปหอมแก้มนวลสักหลายๆ ฟอด

    “เปล่าค่ะ”

    “อ้าว...แล้วพี่ไปขโมยหรือยืมอะไรไม่คืนล่ะถึงได้ว่าพี่ขี้โกง”

    ดวงตาสีนิลทอประกายวูบไหวระยิบระยับยามจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ห่างออกไปแค่คืบ เขาไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้กันแน่ ว่าได้ขโมยสิ่งใดไปจากเธอ

    “คุณพริกกำลังขโมยของสำคัญของหนู”

    กัลปพฤกษ์ขยับตัวถอยห่างเพื่อให้มองหญิงสาวได้ชัดๆ ชายหนุ่มเลิกคิ้วรอฟังคำตอบว่าเขาได้ขโมยสิ่งใดมาจากเธอ แล้วสิ่งนั้นใช่อันเดียวกับที่เขาตั้งใจขโมยหรือไม่

    “พาสปอร์ตของหนูไง เมื่อไหร่จะได้ หรือได้มาแล้วคุณพริกเอาไปซ่อน”

    โลกของหนุ่มดอกไม้หกคะเมนไปวูบหนึ่ง ชายหนุ่มทำหน้าดุใส่สาวที่กำลังปิดปากหัวเราะคิก ดวงตากลมโตบัดนี้โค้งขึ้นเหมือนจันทร์เสี้ยว รอยเศร้าหม่นหมองเพราะความคิดถึงปลาสนาการไปดวงหน้า

    “ตัวแสบ... นี่ใช่คำตอบไหม”

    “ใช่สิคะ หรือคุณพริกรอคำตอบแบบอื่น” พลับพลึงลอยหน้าลอยตาถาม “อ๊ะ ห้ามมาหยิกแก้มหนูอีกนะ ช้ำหมดแล้ว” เอียงตัวหนีเมื่อชายหนุ่มเอื้อมมือหมายจะหยิกแก้มลงโทษ

    “หยิกเบาจะตาย ไม่ช้ำหรอกน่า” คนมันเขี้ยวอยากเคี้ยวเนื้อเด็กเอ๋อบอก ว่ากันตามความเป็นจริง ...ตอนนี้เขาอยากกอดเธอชะมัด

    “ช้ำไม่ช้ำก็ห้ามหยิก ว่าแต่คุณพริกยังไม่ตอบเลยว่าอยากได้คำตอบแบบไหน”

    กัลปพฤกษ์หรี่ตาจับจ้องใบหน้าใสซื่อของสาวดอกไม้ ก้อนเนื้อในอกเริ่มเต้นแรงขึ้น นั่นสิ... เขาต้องการคำตอบแบบไหนถึงได้ถามออกไปอย่างนั้น แล้วตอนนี้เขาได้ในสิ่งที่อยากได้แล้วหรือยัง เวลาหนึ่งเดือนมันยังน้อยไปไหมแม่ดอกพลับพลึงของพี่พริก



    ประกาศรายชื่อผู้โชคดีจากตอนที่ 1 จ้า

    1. gibbsfreeenergy 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×