คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #34 : บทที่ 7 คนสำคัญ (2)
“คงไม่ได้กินแน่วันนี้ แต่อย่าทำครัวไหม้ก็แล้วกัน” ท่าทางเงอะๆ งะๆ ของคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของเคาน์เตอร์มันทำให้คริสเตียนพึมพำออกมา เป็นเสียงพึมพำที่เขาตั้งใจให้อีกฝ่ายได้ยิน พูดจบเขาก็ผุดลุกจากโซฟาเพราะคิดว่าต่อให้รอไปจนถึงพรุ่งนี้ก็คงไม่ได้กิน
เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะบ้าได้ถึงขนาดยอมหิวเพื่อกลั่นแกล้งผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งแบบนี้
ใช่! ตอนนี้เขากำลังหิวมาก เพราะตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรสักอย่าง แถมยังต้องใช้พลังงานอย่างหนัก
แต่ถ้าหากเขาออกไปหาอะไรกินตอนนี้ สิ่งที่เขาให้หญิงสาวทำมันก็ไร้ความหมาย เขาถึงได้ทนนอนนิ่งๆ พยายามนอนให้หลับทั้งๆ ที่หิวไข้แทบขาด
แต่เขากลับเขามาในห้องได้ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“ไม่ใช่ทำครัวไหม้ไปแล้วหรอกนะ”
คริสเตียนผุดลุกจากเตียง สาวเท้ายาวเร็วตรงไปที่ประตูก่อนจะกระชากประตูให้เปิดออก กลิ่นหอมฉุยลอยมาเตะจมูก พอมองไปยังที่มาของกลิ่นๆ เขาก็รู้ว่าตัวเองคิดผิดไปถนัด
“อาหารเสร็จแล้วค่ะ”
“ฉันไม่...”
โครก!!!
เสียงท้องที่แทรกร้องขึ้นมาทำให้คริสเตียนรีบชะงักคำพูด คำว่า ‘หิว’ ถูกกลืนลงคออย่างรวดเร็ว
อุรัสยามองใบหน้าของคนท้องร้องที่อยู่ๆ ก็เงียบลงอย่างไม่เข้าใจ เธอรออยู่ครู่หนึ่งว่าเขาจะพูดอะไรต่อแต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก จนเธอต้องเป็นฝ่ายเดาความหมายของประโยคที่ไม่จบ แล้วเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นเสียเอง
“ถ้าพี่ไม่อยากกินพร้อมเอื้อ เดี๋ยวเอื้อยกมาให้ที่ห้องก็ได้นะคะ”
“ฉัน...” เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ที่คริสเตียนไม่รู้ว่าตัวเองต้องพูดอะไร จะบอกว่าไม่หิว ไอ้ท้องบ้าก็ประจานออกไปซะขนาดนั้น แต่สุดท้ายเขาก็รู้ว่าตัวเองควรพูดอะไรออกไป “ฉันไม่กินอาหารที่เธอทำ”
“ก็พี่บอกให้เอื้อทำเผื่อไม่ใช่เหรอคะ”
“ใช่ ฉันสั่งให้เธอทำ แต่ฉันไม่กินมีปัญหาอะไรไหม”
“แต่พี่ก็ยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้าแล้วนะ ทนกินหน่อยเถอะค่ะ เดี๋ยวจะเป็นโรคกระเพาะเอา เดี๋ยวเอื้อยกไปวางในห้องให้นะคะ” แม้ว่าสิ่งที่เขาพูดจะทำร้ายจิตใจแค่ไหน แม้สมองจะย้ำเตือนซ้ำๆ ว่าเขาโตแล้ว เขาดูแลตัวเองได้ แต่สุดท้ายหัวใจของเธอก็เป็นฝ่ายชนะ
พอไม่มีคำตอบจากคนตรงหน้า อุรัสก็หมุนตัวเองตรงไปยังโต๊ะอาหารที่ล้อมรอบด้วยเก้าอี้ไม้สีดำสี่ตัว แต่ก่อนที่เธอจะยกอาหารขึ้นมาไว้ในมือ เสียงทุ้มก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ไม่ต้อง!” เสียงทุ้มกระชากขึ้น ทันทีที่ตั้งสติได้
เสียงล้อรถบดเบียดกับถนนที่เปียกแฉะและเสียงเครื่องยนต์ที่เล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านทำให้คริสเตียนรู้ตัวว่าตัวเองลืมตัวไปชั่วขณะ
ให้ตายเถอะ! นี่เขาเป็นอะไรไป เขาไม่ควรปล่อยให้ใบหน้าหวานๆ และดวงตากลมโตใสซื่อ ท่าทางห่วงใยที่เธอเสแสร้งแกล้งทำมาล่อลวงได้
“แต่ว่า...”
“ฉันมีนัดกินข้าวกับคนสำคัญ”
“ถ้ามีมีนัด แล้วพี่ให้เอื้อทำอาหารเผื่อทำไมคะ”
“ฉันสั่ง เธอมีหน้าที่ทำตาม ไม่จำเป็นต้องรู้เหตุผล”
พูดจบคริสเตียนก็พลางสาวเท้าไปที่ประตูบ้านโดยไม่สนว่าคนที่หมุนตัวกลับมามองเขาด้วยแววตาสลดจะตอบว่ายังไง มือหนากระชากประตูออกแล้วเดินไปที่รถสปอร์ตสีเงินที่เพิ่งแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านทันที
“เออ...คือ...พอดีฉันเห็นบ้านเปิดไฟไว้ ก็เลย...”
“มาเร็วจัง ขอโทษนะที่ต้องให้มาหานะ ไปรถเธอล่ะกัน ลงมาสิ เดี๋ยวฉันขับเอง”
“คะ?” มาร์เซลาเอียงคอถามชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมก้าวลงจากรถตามแรงรั้งของคนตัวสูงแต่โดยดี
“ผมหิวแล้วไปกันเถอะ”
“ค่ะ” มาร์เซลาตอบรับอย่างงงๆ เธอเดินตามแรงผลักของชายหนุ่ม แต่ก่อนจะขึ้นรถก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ตรงกรอบกระตูบ้าน “อ้าว น้องเอื้ออยู่ที่นี่ด้วยเหรอคะ ไปกินข้าวด้วยกันไหม”
“รถมีแค่สองที่นั่งไปไปสามคนได้ยังไง”
“แต่ว่าน้องเอื้อ...”
“เอื้อเขากินข้าวแล้ว เขาไม่ไปกับเราหรอก ขึ้นรถสิ ฝนยังตกอยู่เลยเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” คริสเตียนว่าพลางดันร่างเพรียวระหงให้เข้าไปในรถ ก่อนจะเดินอ้อมมานั่งประจำตำแหน่งคนขับ แล้วออกรถโดยไม่ได้หันไปมองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านอีก
ความคิดเห็น