ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสียงเพรียกจากวิญญาณในคืนวันที่เงียบงัน

    ลำดับตอนที่ #2 : เสียงที่ 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 542
      4
      14 พ.ค. 47

    แสงแดดยามเช้าทอประกายสีทอง เมฆสีขาวลอยเอื่อยๆอยู่บนท้องฟ้า

    ลมเบาๆพัดต้นไม้ใบหญ้าข้างทางให้เอนไหวไปมา

    มันเป็นวันที่อากาศสดใส เด็กชายคนหนึ่งขี่จักรยานอย่างร่าเริงอยู่บนถนนสายเล็กๆ

    แถวบ้านของเขา เด็กชายชอบขี่จักรยานเล่นมาก



    มีเวลาว่างไม่ได้เป็นต้องออกไปขี่จักรยาน เพราะถนนแถวบ้านของเขาไม่ค่อยมี

    รถมากนัก ถนนที่เด็กชายขี่จักรยานเป็นถนนที่ตัดผ่านทางรกร้างจึงยังมีกอหญ้าสีเขียว

    และต้นไม้เตี้ยๆขึ้นอยู่แน่นขนัดทั้งสองข้างทางของถนน ทำให้ดูสดชื่นไม่น้อยเวลา

    ขี่จักรยานแล้วเห็นกอหญ้าสีเขียวปลิวไหวไปมา วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เด็กชายออกมา

    ขี่จักรยานอย่างร่าเริงตามปกติ



    เขาขี่จักรยานอย่างรวดเร็วไปตามถนนที่ทอดไปเป็นเส้นตรง

    เด็กชายปั่นจักรยานอย่างรวดเร็วจนภาพรอบข้างกลายเป็นภาพที่เลือนลางเพราะความเร็ว

    หูทั้งสองข้างได้ยินแต่เสียงอื้ออึงของลมที่กำลังประดังเข้ามา เขายังคิดดีใจว่าที่เขา

    สามารถขี่จักรยานได้อย่างอิสระเพราะเขาอยู่ในย่านชนบทที่ห่างไกลความเจริญ



    แต่ทว่า................ทันใดนั้นเองมีรถคันหนึ่งแล่นสวนมาอย่างรวดเร็ว



    ถนนที่เด็กชายขี่จักรยานอยู่เป็นถนนแคบๆขนาดที่รถยนต์ไม่สามารถสวนกันได้

    เด็กชายพยายามมองหาช่องทางที่จะหลบแต่ กระชั้นชิดเกินไปแล้ว หลบไม่ทัน

    “เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดด โครม!!!!!!!!!!”

    เสียงรถยนต์เบรกดังก้องไปทั้งถนนสายเปลี่ยวตามมาด้วยเสียงชนอะไรบางอย่าง



    กลิ่นยางรถยนต์ไหม้ส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว ทิ้งรอยยางไว้เป็นทางยาวบนท้องถนน

    ทันทีที่สามารถควบคุมรถได้ ชายหนุ่มที่ขับรถอยู่รีบจอดรถแล้วลงมาดูทันที

    สิ่งที่เขาเห็นคือ จักรยานที่บิดงอคันหนึ่งคว่ำอยู่ ล้อของมันกระเด็นออกไปไกลจากตัวรถ

    บนซากจักรยานมีเลือดสดๆสีแดงติดอยู่เป็นหย่อมๆ เลือดสีแดงฉานที่ติดอยู่บนตัวซาก

    จักรยานค่อยๆหยดลงสู่พื้นถนนหยดแล้วหยดเล่า จนกลายเป็นแอ่งเล็กอยู่บนพื้นถนน

    สีดำ



    กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณจนชายหนุ่มต้องเอามือมาอุดจมูกเพราะ

    ความสะอิดสะเอียน แล้วคนขับล่ะ? เขาคิดในใจแล้วคนที่ขี่จักรยานหายไปไหนกัน?

    ชายหนุ่มพยายามค้นหาอยู่นานแต่ก็ต้องคว้าน้ำเหลว เขาไม่เจอแม้แต่เงาของศพเด็กชาย

    แต่ถึงยังงั้นชายหนุ่มที่ขับรถชน ก็ไม่ได้บอกคนอื่นแต่อย่างใด เพราะกลัวความผิด

    เขาเดินตรงไปที่ซากจักรยานในใจคิดว่าจะเอามันโยนทิ้งไปข้างทางเพื่อกลบเกลื่อน

    หลักฐาน



    แต่สิ่งที่เห็นทำให้เขาแทบต้องหยุดหายใจ เพราะจักยานทั้งคันกลายเป็นสีแดง

    ของเลือดในชั่วเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่เขาค้นหาศพ จักยานทั้งคันกลายเป็นสีเลือดมันโดน

    ย้อมจากเลือดสดๆของเด็กชาย ชายหนุ่มขนลุกซู่สันหลังเย็นวาบไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไป

    ใกล้มันเขาจึงกลับขึ้นรถแล้วขับกลับออกไปทันที



    หลังจากนั้นไม่นานพิธีศพของเด็กชายได้ถูกจัดขึ้นตามธรรมเนียมแต่ทว่าในโลงศพนั้น

    กลับว่างเปล่าไร้ซึงร่างที่ปราศจากลมหายใจของเด็กชาย.............................................





    เย็นมากแล้วดวงอาทิตย์ทอแสงสีแดงเรื่อๆก่อนที่กำลังจะลับหายไปจากขอบฟ้าสีเทา

    ความมืดค่อยๆโรยตัวอย่างเชื่องช้าเข้าครอบคลุมบริเวณถนนไว้

    ถนนสายนี้จะมืดมากในเวลากลางคืนเพราะเสาไฟฟ้าที่มีอยู่สองข้างทางของถนนก็น้อย

    เหลือเกิน นายตำรวจคนหนึ่งกำลังขี่จักรยานเพื่อลาดตระเวนบริเวณถนนเพราะเป็นถนน

    สายเปลี่ยวซึงอาจจะเกิดอาชญากรรมขึ้นได้ง่ายๆ ขณะที่กำลังขี่จักรยานอยู่นั่นเอง



    เขาได้ยินเหมือนเสียงจักรยานอีกคันวิ่งมาข้างหลังแต่มันเป็นเสียงที่แปลกประหลาดมาก

    เพราะเสียงล้อจักรยานดัง กุกกัก กุกกัก ในใจคิดว่าจักรยานอะไรกันล้อเสียแล้ว

    ยังไม่รู้จักซ่อม เสียงดังกล่าวเข้าใกล้เขามาเรื่อยๆ กุกกัก กุกกัก กุกกักใกล้เข้ามา กุกกัก

    กุกกัก ใกล้เข้ามาอีกจนเขาทนไม่ไหวต้องหันไปมอง



    ภาพที่เห็นคือจักรยานพังๆคันหนึ่งที่มีล้อบิดเบี้ยวกำลังแล่นตามหลังเขามา

    ตัวจักรยานสีแดงฉานเหมือนเลือดกำลังปั่นเองโดยที่ไม่มีคนนั่งอยู่

    เลือดสีแดงหยดแล้วหยดเล่า เยิ้มไหลลงมาจากตัวจักรยานเป็นทาง

    นายตำรวจมองตาค้าง เหงื่อเริ่มไหลซึมออกมาตามมือของเขา

    สันหลังเย็นวาบลำคอตีบตันจนรู้สึกว่าแทบจะหยุดหายใจ

    เขาอยากจะเบือนหน้าหนี อยากจะหลับตาแต่ก็ทำไม่ได้



    จนในที่สุดจักรยานคันนั้นได้แซงหน้าเขาไป มันยังปั่นไปด้วยเสียงกุกกัก กุกกัก กุกกัก กุกกัก ทางที่มันผ่านมันจะทิ้งรอยเลือดไว้เป็นทางยาวทาทาบไปบนถนน

    จนกลายเป็นเส้นตรงสีแดงสด มันทิ้งรอยเลือดไว้เหมือนจะบอกว่า

    “ตามชั้นมาสิ”

    รอยเลือดสีแดงเป็นเส้นตรงมุ่งหน้าหายเข้าไปในความมืดมิดที่น่ากลัว

    รอยเลือดเป็นทางที่มันทิ้งไว้นำไปไหนกันแน่?

    แล้วความมืดก็ได้กลืนมันหายเข้าไป มันยังคงวิ่งส่งเสียง กุกกัก กุกกัก กุกกัก

    ไปเรื่อยๆในคืนที่เงียบงัน...................
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×