ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสียงเพรียกจากวิญญาณในคืนวันที่เงียบงัน

    ลำดับตอนที่ #1 : เสียงที่ 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 816
      6
      5 พ.ค. 47

    แก๊งๆๆๆแก๊งๆๆๆเป็นสัญญาณบอกว่ารถไฟจะมา ที่กั้นรถไฟค่อยๆโน้มลงมากั้น

    ทางเดิน หลังจากนั้นไม่นานเสียงเครื่องจักรขนาดใหญ่จึงค่อยๆดังตามมาจากที่ไกลๆ

    ทันทีที่รถไฟผ่านมาทำให้เกิดกระแสลมดูดเล็กๆขึ้น ดูดเอาเศษกระดาษหรือเศษผง

    แถวรางรถไฟติดเข้าไปกับล้อขนาดใหญ่ของมัน แต่เด็กชายคนหนึ่งคิดว่ามันเย็นดี

    เขายืนใกล้ที่กั้นรถไฟจนสามารถรู้สึกได้ถึงกระแสลมที่เกิดขึ้นจากความเร็วของรถไฟ

    แต่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นเขายังชอบยืนอ่านหนังสือเวลาที่รอรถไฟให้ผ่านไปด้วย

    เด็กชายจะเงี่ยหูฟังเอา ทันทีที่เสียง แก๊งๆๆๆหยุดแสดงว่ารถไฟผ่านไปแล้วเขาจะออกเดินข้ามทางรถไฟทันที ทั้งๆที่ยังอ่านหนังสืออยู่คาตาแบบนั้น จนเขาทำติดเป็นนิสัย



    จนกระทั้งเย็นวันหนึ่ง.....................

    พระอาทิตย์ทอแสงสีแดงระเรื่อทาทาบไปทั่วบริเวณไม่เว้นแม้แต่ท้องฟ้า

    ทำให้ท้องฟ้าและก้อนเมฆบริเวณนั้นกลายเป็นสีแดงไปด้วย

    มันเป็นเวลาเย็นแล้วเด็กชายเพิ่งเลิกเรียน

    เขากำลังเดินทางกลับบ้านมาตามทางเดินที่คุ้นเคยเรื่อยๆ จนมาถึงทางรถไฟ

    ทันใดนั้นเอง แก๊งๆๆๆ แก๊งๆๆๆเสียงสัญญาณบอกว่ารถไฟจะมาได้ดังขึ้น

    ที่กั้นรางรถไฟค่อยๆโน้มลงมาปิดทางเดินเอาไว้

    “แย่จริงเย็นแล้วเดี๋ยวแม่ต้องเป็นห่วงแน่เลย”เขารำพึงคนเดียวเบาๆ

    แต่ถึงบอกยั้งงั้นก็ช่วยไม่ได้เพราะที่กั้นปิดลงมาสนิทแล้ว ไฟสัญญาณที่ติดตั้งไว้ส่องแสงสีแดงแจ๋นั่นหมายความว่าห้ามข้ามเด็ดขาด แต่ในเมื่อยืนรอเฉยๆก็เปล่าประโยชน์

    เด็กชายจึงหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน แต่ทว่ายังไม่ทันอ่านจบหน้า สายตาก็เหลือบไปเห็นคนๆหนึ่งเข้ามายืนรอข้ามทางรถไฟอยู่ข้างๆเขา

    เด็กชายมองไม่เห็นหน้าของเขาหรอก



    เพราะส่วนสูงนั้นต่างกันมาก แต่ที่เขาเห็นก็คือผู้ชายคนนั้นสวมชุดสีดำทั้งชุดไม่เว้นแม้แต่ถุงมือ

    เด็กชายหันกลับมาสนใจหนังสือของเขาต่อ แต่ทันใดนั้นแก๊งๆๆ แก๊งๆๆๆๆ

    เสียงสัญญาณดังขึ้นอีกครั้งที่กั้นค่อยๆยกขึ้น ผู้ชายชุดดำเดินข้ามออกไปทันที

    “อ้าวรถไฟไปแล้วเหรอ?”เขาคิดในใจเพราะยังไม่ได้ยินเสียง หวูดหรือเสียงล้อเลย



    เขามองซ้ายมองขวาไปที่รางรถไฟก่อนจะข้าม แปลกไม่มีทีท่าว่ารถไฟจะผ่านมาเลย

    แม้แต่ขบวนเดียว แล้วที่กั้นกั้นลงมาทำไม? คงจะเสียละมั้ง เขามองออกไปข้างหน้า

    ชายชุดดำข้ามทางรถไฟไปเกือบจะสุดแล้ว เด็กชายจึงเริ่มออกเดิน

    ทันทีที่เท้าแตะรางรถไฟ แก๊งๆๆๆแก๊งๆๆๆ เสียงที่กั้นดังขึ้นอีกครั้งแล้วค่อยๆโน้มปิดลง

    ไฟสัญญาณส่องแสงสีแดงฉาน

    “เฮ้ย”เด็กชายอุทาน ชึกชัก ชึกชัก ชึกชัก เสียงรถไฟดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

    เด็กชายหันไปมอง หัวรถจักรอยู่ห่างตัวของเขาไปไม่ถึงเมตร

    ตาของเขาเบิกกว้างด้วยความกลัว ขาแข็งจนเหมือนมีอะไรมายึดไว้

    เขาไม่มีโอกาสที่จะกรีดร้องด้วยซ้ำไป “โพ๊ละ” ชึกชัก ชึกชัก ชึกชัก.........

    กว่าคนขับจะรู้ตัวร่างกายของเด็กชายได้ถูกลากติดไปกับล้อรถไฟไปหลายเมตร

    ทำให้เลือดของเขาทาทาบไปตามรางรถไฟไปเป็นทางยาวจนกลายเป็นเส้นตรงสีแดงฉานขนานไปกับรางรถไฟ......................



    ดวงจันทร์กลมโตสีขาวนวลทอแสงสว่างมัวๆในคืนเดือนมืด ชายหนุ่มกำลังหยุดรอที่จะข้ามทางรถไฟ

    เพราะเสียงสัญญาณเตือนว่ารถไฟจะมาได้ดังขึ้นก่อนจึงต้องหยุดรอ

    ขณะที่รออยู่นั่นเองอยู่ๆก็มีเด็กคนหนึ่งเข้ามายืนรอที่จะข้ามทางรถไฟอยู่ข้างๆเขา

    เท่าที่ดูจากรูปร่างแล้วน่าจะเป็นเด็กประถม ชายหนุ่มก้มมองนาฬิกาข้อมือ เป็นเวลา 5 ทุ่ม

    เด็กที่ไหนกันนะออกมาจากบ้านดึกๆอย่างนี้แต่ทว่าก่อนที่เขาจะทันได้คิดอะไรต่อไป

    แก๊งๆๆแก๊งๆๆๆเสียงสัญญาณดังขึ้นอีกครั้งที่กั้นค่อยๆยกขึ้นไฟสัญญาณสีแดงดับไปแล้ว เด็กชายก้าวเดินออกไปทันที

    “อ้าวเอ๋รถไฟไปแล้วเหรอ?”ชายหนุ่มคิดในใจแล้วออกเดินตามเด็กชายไปทันที

    แก๊งๆๆแก๊งๆๆๆเสียงที่กั้นรถไฟดังขึ้นอีกครั้ง ชึกชัก ชึกชัก ชึกชัก ชึกชัก

    โพ๊ละ..........

    แก๊งๆๆๆแก๊งๆๆแก๊งๆๆๆเสียงที่กั้นรถไฟยังคงดังก้องกังวาลไปเรื่อยๆ

    ยังคงดังไปเรื่อยๆในคืนที่เงียบงัน.....................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×