ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บัญชารักจอมเถื่อน

    ลำดับตอนที่ #57 : บทที่ 12 (4)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.44K
      48
      8 ก.ย. 64



    อีบุ๊กพร้อมให้โหลดแล้วนะคะ ฝากโหลดหน่อยจ้าาาาา
    คุ้มๆ กับโปรโมชั่น ลด 41%




    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับกระดุมเม็ดสุดท้ายที่ถูกติด

    “เข้ามา” เอริคก้มลงมาจูบที่แก้มเนียนใสหนักๆ ทีหนึ่งก่อนจะพูดเสียงเรียบ ชายหนุ่มผละห่างร่างเล็กเดินอ้อมโต๊ะไปเก็บแฟ้มเอกสาร และแก้วกาแฟที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นวางไว้บนโต๊ะ เขาทำทั้งหมดเสร็จก่อนที่ประตูจะเปิดออกเพียงแค่เสี้ยววินาที

    “คุณเมริษามาขอพบครับ”

    “ให้เข้ามา” พอบอกกับวิลเลียมผู้ช่วยวัยหกสิบเสร็จ เอริคก็หันมาพูดกับหญิงสาวที่ขยับไปอยู่มุมหนึ่งของห้องด้วยน้ำเสียงล้อเลียน “ทำท่าแบบนั้น เดี๋ยวคนก็สงสัยหรอก” เอริคว่าพลางสาวเท้ากลับไปทรุดกายลงนั่งที่เก้าอี้ทำงานหนังสีดำ

    ใครจะไปเนียนเหมือนพี่ล่ะ เพราะคนที่ได้รับอนุญาตเข้ามาในห้องเสียก่อน รัตน์วลีจึงได้แต่ถลึงตาและต่อว่าคนที่ตีหน้านิ่งราวกับไม่มีอะไรขึ้นต่างจากเธอที่ระแวงไปหมดในใจ

    “เมญ่า มีอะไรหรือเปล่า”

    เสียงเรียบที่เอ่ยทักทำให้รัตน์วลีหันไปมองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะพบว่าหญิงสาวในชุดเดรสแขนยาวรัดรูปสีแดงเลือดนกเป็นใคร

    เพราะเธอกับเอริคไม่ได้รักกันปานจะกลืนกิน เธอจึงไม่ได้รู้จักกับเพื่อนของเขามากมายขนาดนั้น จึงไม่รู้ว่าเมริษา กับเมญ่า เป็นคนๆ เดียวกัน

    “ไม่มีอะไรแล้วฉันจะมาหานายไม่ได้หรือไง” เพราะคิ้วที่ขมวดเข้าหากันทำให้เมริษาคลี่ยิ้มแล้วพูดออกมาอีกครั้ง “ไปหาอะไรกินกัน มีเรื่องจะคุยด้วย”

    “นี่มันเวลางาน”

    “ก็คุยเรื่องงานนั่นแหละ ก็เรื่องที่ดินที่นายอยากได้มาสร้างโครงงานใหม่ไง ฉันช่วยนายได้นะ”

    “ก็ได้” เอริคว่าพลางลุกขึ้นเต็มความสูง มือหนาติดกระดุมสูทขณะเดินนำเมริษาไปที่ประตูห้อง มือหนาดึงประตูห้องให้เปิดออกแล้วรอให้หญิงสาวในชุดหรูสีแดงเดินออกไปก่อน แต่ก่อนที่ร่างสูงจะออกจากห้อง ชายหนุ่มก็หันกลับไปหาหญิงสาวอีกคนที่ยังยืนนิ่งอยู่มุมห้องแล้วพูดขึ้น “รอกลับพร้อมกัน”

    “รัตน์กลับเองก็ได้ค่ะ” คงเพราะใกล้เลิกงานแล้ว เขาเลยหันมาสั่งเธอแบบนั้น และคงเป็นเพราะนัยน์ตาสีเทาที่มองมาเหมือนตอนที่เขาบอกว่า ไว้คืนนี้ก็ได้ ที่ทำให้หน้าเนียนใสที่เพิ่งกลับมาเป็นปกติ ร้อนเห่อขึ้นอีกครั้ง

    “รอกลับพร้อมกัน” ชายหนุ่มย้ำคำเดิมอีกครั้ง เพื่อย้ำความต้องการของตน

    “ค่ะ”

    พอได้คำตอบที่ตัวเองพอใจ ร่างสูงก็ก้าวออกจากห้องไป แต่แวบหนึ่งก่อนที่ประตูจะปิดลงเธอก็ได้สบตากับหญิงสาวที่เธอรู้ว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่สนิทกันมากของเอริค

    ความหวาดหวั่นในดวงตาที่เหมือนกลัวจะถูกแย่งของรักไป และมือบางที่เข้ามาคล้องแขนเอริคไว้แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของก็ทำให้เธอรู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายได้

    คงเป็นเพราะเมื่อก่อนเธอไม่ได้รู้สึกกับเอริคอย่างที่รู้สึกอยู่ตอนนี้ และคงเป็นเพราะเธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้ใครมาก่อน เธอจึงมองไม่ออกว่าสายตาของเมริษายามมองเอริคมันไม่เหมือนเพื่อนมองเพื่อน ทว่าตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว เข้าใจดีเสียด้วย และทั้งๆ ที่บอกตัวเองซ้ำๆ ว่าสำหรับเอริค เมริษาก็เป็นแค่เพื่อนที่สนิทกันมานานเท่านั้น แต่คงเป็นเพราะเอริคไม่ได้ว่าอะไรและปล่อยให้เธอคล้องแขนเอาไว้โดยไม่มีท่าทีจะรั้งแขนตัวเองออกละมั้งที่ทำให้ผู้หญิงที่อยู่ในสถานะไม่ชัดเจนอย่างเธออดรู้สึกหวั่นใจไม่ได้

     

    แสงสว่างบนท้องฟ้าที่เห็นจากผนังด้านหนึ่งที่ทำจากกระจกบานใสสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดานถูกกลืนหายเข้าไปในความมืดมิดได้เกือบชั่วโมงแล้ว ทว่ากรุงเทพมหานครก็ยังสว่างไสวได้ด้วยแสงไฟหลากสีจากตึกรามบ้านช่อง

    รายงานการประชุมของวันนี้ ถูกพิมพ์ออกมา และจัดใส่แฟ้มวางไว้ที่โต๊ะทำงานของท่านประธานเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน หลังจากเสร็จประชุมตอนบ่ายสี่โมง ไหนจะถูกเขาเอาเปรียบอีก วันนี้มันไม่ควรจะเสร็จเสียด้วยซ้ำ ทว่าการทำงานเพื่อให้ตัวเองไม่มีเวลามานั่งคิดมาก คิดไปเองไร้สาระ ก็ทำให้มันเสร็จจนได้ แต่เพราะมันเสร็จก่อนที่คนที่บอกให้เธอรอจะกลับมา เธอจึงต้องมานั่งมองแสงไฟระยิบระยับอย่างฟุ้งซ่านอยู่แบบนี้

    “เขาแค่เพื่อนกัน อย่างี่เง่าน่า” หญิงสาวกระซิบบอกตัวเอง ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจากสถานะอะไรก็ไม่รู้ที่เป็นอยู่ ตัวเองมีสิทธ์หึงไหม มีสิทธิ์หวงหรือเปล่าแต่เธอก็ยังทั้งหึงทั้งหวงอย่างไร้เหตุผล

    ครืด...ครืด...

    เสียงสั่นของโทรศัพท์ที่ไถลตัวไปบนโต๊ะเมื่อมีคนโทรเข้าปลุกรัตน์วลีหลุดออกจากภวังค์ เพราะคิดว่าจะเป็นเอริคโทรมาเธอจึงรีบคว้ามันขึ้นไว้ในมือ แต่พอเห็นว่าไม่ใช่หัวใจที่พองโตขึ้นก็ฟีบแบนลงทันควัน

    “ว่าไงโอม”

    “อยู่ไหน”

    “บริษัท”

    “ทำโอทีเหรอ”

    “อืม” รัตน์วลีครางตอบรับความเข้าใจผิดของอีกฝ่ายไปสั้นๆ

    “เหมือนกันเลย ว่าแต่...”

    “โอม เดี๋ยวเราโทรกลับ พอดีมีสายซ้อน” อีกฝ่ายยังพูดไม่จบเธอก็พูดแทรกขึ้น เพราะมีเบอร์โทรเข้าแทรกเข้ามา แล้วก็เป็นเบอร์ของใครบางคนที่เธอรออยู่ หลังบอกอีกฝ่ายจบเธอก็กดวางสายทันทีโดยไม่รอให้ภูศิลป์ตอบกลับมา

    “ค่ะ” รัตน์วลีกรอกเสียงลงไปทันที

    “กินข้าวหรือยัง”

    เสียงห่วงใยที่ดังเข้ามาทำให้ริมฝีปากของเธอคลี่กว้างขึ้น

    “ยังเลยค่ะ แต่กินขนมรองท้องแล้ว” เพราะคิดว่าวันนี้คงได้กินข้าวเย็นด้วยกันเหมือนทุกวัน เธอจึงรองท้องด้วยขนมปังที่ลงไปซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ

    “ขอโทษ รออยู่ใช่ไหม”

    “ก็บอกให้รอ รัตน์ก็ต้องรอสิคะ พี่อยู่ไหนแล้วคะ”

    “ยังไม่เสร็จธุระเลย กลับก่อนเลยนะ แล้วก็หาอะไรกินด้วยไม่ต้องรอ”

    รอยยิ้มที่คลี่ขึ้นราวกับคนบ้าๆ ทั้งๆ ที่ก่อนนี้เครียดแทบตายค่อยๆ หุบลง

    “ค่ะ” เงียบอยู่นานเธอก็ตอบเขาไปในที่สุด

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×