คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #251 : Extra Log 247: The Foundation E (2)
Extra
Log 247: The Foundation E (2)
“จะว่าไปโทรศัพท์พวกเรามันสลายหายไปแล้วนี่นะ”
เป็นอย่างที่เมษาพูด
เพราะโทรศัพท์เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงพวกเขากับโลกที่ล่มสลายพอได้พลังคืนมามันก็หายไป
ตอนนี้เลยไม่รู้จะติดต่อไปหาคนอื่นอย่างไร
แต่แล้ว
เมษาก็เสนอความคิดที่นึกไม่ถึงมา
“แต่ว่าตอนนี้ก็น่าจะโทรไปหาเจ้านั่นได้นะซีลอร์ดน่ะ”
“จะว่าไปก็จริงของนาย”
อิงศรเรียกหน้าจอสื่อสารขึ้นมา
บนนั้นยังมีรายชื่อของพวกพ้องทั้งหมดรวมถึงซีลอร์ดหรือ ออร์ฟี่ด้วย
…แล้วก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า
“ลองติดต่อหาทุกคนด้วยไอ้นี่ดูก่อนไหม”
แต่ยังไม่ทันที่เมษาจะตอบคำถามเขา
พลันก็มีเสียงเรียกเข้าดังจากหน้าจอเสียก่อน
บนหน้าจอสื่อสารปรากฏไอคอนรูปหูโทรศัพท์ขึ้นมา
อิงศรแตะไปที่ไอคอนนั้นเพื่อรับสาย
‘โทรติดแล้ว’
เสียงที่ดังมาจากปลายสายนั้นไม่ใช่ใครอื่น
“ขวัญ”
มิ่งขวัญนั่นเอง
พอเขาพูดไปน้องชายที่อยู่ปลายสายก็ถามมาทันที
‘ศรอยู่ที่นั่นใช่ไหมตอนนี้เป็นยังไงบ้าง’
ดูเหมือนว่าระบบสื่อสารของเกมจะสามารถใช้ติดต่อกับมือถือของพวกพ้องได้อยู่
แล้วไหนยังจะเรื่องที่มิ่งขวัญเป็นฝ่ายโทรมาหาแถมยังถามมาแบบนั้น
”พวกนายรู้สถานการณ์กันแล้วเหรอ”
‘หา? เรื่องอะไรน่ะ แต่ช่างก่อนเหอะ
เมื่อกี้ที่ทีวีออกข่าวพวกศรมีประกาศจับจากกรมตำรวจเนี่ยมันหมายความว่ายังไง’
ประกาศจับออกสื่อเลยเหรอ
เจ้าพวกฟาวเดชั่นอีท่าทางจะปกครองประเทศนี้
ไม่สิอาจจะโลกทั้งใบที่พวกเขารับรู้อยู่นี่เลยก็เป็นได้
อิงศรพูด
“แล้วทางพวกนายยังไม่เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
‘ไม่นะ ยังไม่มีอะไรเลย’
ยังไม่มีอะไรเลย...ได้ไงกัน?
ขนาดเขากับเมษาแค่โดดเรียนออกมายังกลายเป็นเรื่องขนาดนี้แต่ทำไมมิ่งขวัญกับกวินทร์ที่โดดทัศนศึกษาตั้งแต่เช้าไปรอพวกนรินทร์ที่จุดจัดงานถึงไม่โดนสงสัยกันล่ะ
“แล้วตอนนี้ที่นั่นมีใครบ้าง”
‘ก็มากันหมดแล้วนี่แหละ’
จากนั้นก็มีเสียงของกวินทร์ดังลอดเข้ามา
‘พวกพี่นรินทร์มากันครบแล้วครับแถวนี้เริ่มกางเต้นท์จัดร้านค้ากันแล้ว’
ข้อมูลจากกวินทร์ทำให้รู้สถานการณ์ของ
ทางนั้นเกือบทั้งหมดได้ในทันที
“หมายความว่าพวกมันเพิ่งจะรู้ตัวอย่างนั้นเหรอ”
พอพึมพำออกไปแบบนั้นมิ่งขวัญก็ส่งเสียงมา
‘หา?’
“คืองี้นะเมื่อกี้พวกฉันเพิ่งปะทะกับศัตรูมา
คนที่ทำให้พวกเราติดอยู่ที่นี่ก็คือฟาวเดชั่นอี”
น้ำเสียงของมิ่งขวัญฟังดูจริงจังขึ้นมาทันที
‘แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง’
“ฉันกับเมษาปลอดภัยดีแต่คงไปหานายกับทุกคนที่นั่นไม่ได้แล้วพวกเราเพิ่งได้พลังของเกมคืนมาถ้าออกไปข้างนอกได้เป็นเป้าสายตาแน่แล้วเมื่อกี้นายก็บอกว่ามีประกาศจับพวกฉันอยู่ใช่ไหมล่ะ”
‘แล้วจะทำยังไงกันต่อดีล่ะ’
“งั้นขอสายนรินทร์หน่อยฉันจะฝากให้หมอนั่นบอกวิธีเอาพลังคืนมาก่อนแล้วค่อยว่ากันต่อ”
’เข้าใจแล้ว’
มิ่งขวัญตอบกลับมาอย่างนั้น
แล้วก็มีเสียงดังกุกกักก่อนที่เสียงของนรินทร์จะดังขึ้นมา
‘ตอนนี้ผมพูดอยู่
ว่าไงบ้างอิงศร’
อิงศรเริ่มอธิบายวิธีการเรียกพลังกลับคืนมาให้นรินทร์โดยละเอียด
...จนเมื่อบอกไปหมดทุกอย่างรวมถึงย้ำเรื่องปุ่มที่ต้องเลือกหลังจากติดตั้งแอพพลิเคชั่นแล้ว
“ก็ประมาณนี้แหละที่เหลือฝากนายพาทุกคนไปหาที่เหมาะๆ
ก่อนค่อยทำนะ”
‘เข้าใจละถ้าเสร็จแล้วจะติดต่อกลับไปนะ’
จากนั้นสายก็ถูกส่งกลับไปให้มิ่งขวัญ
‘งั้นวางละนะ’
แล้วสายก็ถูกตัดไป
ทีนี้ก็แค่รอให้นรินทร์ติดต่อมา
ระหว่างนี้เองเขาเลยคิดจะต่อสายไปหามีนา
หล่อนเป็นคนเดียวที่ยังไม่รู้สถานภาพว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร
อิงศรแตะลงไปที่ขื่อของมีนาซึ่งแสดงอยู่บนหน้าจอสื่อสาร
สายถูกรับหลังเสียงสัญญาณครั้งที่ห้า
นั่นถือว่านาน บางทีหล่อนอาจจะกำลังยุ่งอยู่กับการให้สัมภาษณ์
‘ว่าไงคะคุณอิงศร’
“ทางนั้นเป็นไงบ้าง”
‘หมายถึงเรื่องอะไรเหรอคะ’
ดูเหมือนทางหล่อนเองก็ยังไม่มีเรื่องเกิดขึ้น
กฤษณะอาจจะเพิ่งรู้สึกตัวเรื่องที่พวกเขารู้ว่าโลกใบนี้วนอยู่ในวันที่ 1 พฤศจิกายน จริงๆ นั่นแหละ
“ช่างเถอะเธอปลอดภัยก็ดีแล้ว”
พอพูดไปแบบนั้นหล่อนก็ส่งเสียงมา
‘เห เป็นห่วงฉันขนาด…’
แต่เขาก็พูดขัดคำพูดเธอทันที
“เดี๋ยวฉันจะบอกสิธีเอาพลังคืนมาให้เธอช่วยหาที่ดีๆ
แถวนั้นหลบสายตาคนหน่อยล่ะ”
‘เอ๋?’
“เร็วเข้าหน่อยเถอะพวกฉันโดนศัตรูตามล่าอยู่”
น้ำเสียงของมีนาเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น
‘เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาแล้วสินะคะ
ศัตรูเคลื่อนไหวทันทีที่พวกเราออกนอกลู่นอกทาง’
“ใช่
ตอนนี้ฉันเลยคิดว่าจะให้พวกเราไปรวมตัวกันที่ๆ
เธออยู่แทนที่นั่นพวกเรายังไม่เคยไปแล้วอีกอย่างตอนนี้ศัตรูคงจะไปดักรออยู่ที่จุดนัดพบกับพวกนรินทร์แล้วด้วย”
‘งั้นที่โทรมานี่คือจะให้ใช้เวตาลพาทุกคนมารวมพลสินะคะ’
มีนาอ่านความคิดเขาได้ขาด
หล่อนเป็นแบบนั้นตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นนักเรียนทหารด้วยกันแล้ว
อิงศรพูด
“ก็ตามนั้นแหละ”
‘แต่มันมีระยะทำการอยู่นะคะถึงจะอยู่ปาร์ตี้เดียวกันก็เถอะค่ะแล้วถ้าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าจะโดนถามพลังของเวตาลก็จะใช้ไม่ได้เอานะคะ’
จะว่าไปเงื่อนไขเดม่อนแอพของหล่อนคือต้องเล่นทีเผลอด้วย
ดังนั้นแผนนี้จึงล่มไป
พวกนรินทร์น่าจะใกล้ติดต่อกลับมาแล้วดังนั้นเขาจึงตัดบทให้เธอไปเอาพลังคืนมาก่อน
“งั้นเรื่องอื่นเอาไว้ทีหลังตอนนี้เธอหนีออกมาจากงานซะแล้วเอาพลังคืนกลับมาก่อนที่เหลือค่อยว่ากัน”
‘ค่ะ’
จากนั้นอิงศรก็บอกวิธีเอาพลังกลับคืนมาให้เธอ
แล้ววางสายไป
ครู่ต่อมา
สายจากนรินทร์ก็เข้ามา
เป็นการสื่อสารจากตัวนรินทร์เอง
อิงศรกดรับสายนั้น
‘อิงศรเหรอ
พวกเราได้พลังกลับคืนมาแล้วจะให้ทำยังไงต่อ’
ตอนนั้นเองสายของมีนาก็แทรกขึ้นมา
‘งั้นเอาแบบนี้ไหมล่ะคะ’
การที่หล่อนแทรกเข้ามาได้แสดงว่าได้พลังคืนมาแล้ว
มีแต่ฟังชันก์ของระบบสื่อสารในเกมเท่านั้นที่จะคุยสายซ้อนพร้อมกันได้แบบนี้
อิงศรพูด
“ไหนลองว่าแผนของเธอมาสิ”
‘ ‘วันนี้คือวันอะไรคะ’
จู่ๆ
หล่อนก็ถามมาแบบนั้น
“หา? พูดเรื่องอะไรของเธ....”
ก่อนที่คำพูดของเขาจะจบลง
ก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้น
จู่ๆ
ก็เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง
บริเวณรอบๆ
ที่พวกเขาอยู่เหวี่ยงไปมา
….โลกกำลังเหวี่ยงไปมา
“เหวอ!”
อิงศรร้องผวา
ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ สมดุลร่างกายเสียจนล้มคลานกับพื้น
จนเมื่อกระทั่งทุกอย่างสงบลง...
“นี่มัน...”
อิงศรกวาดตามองบริเวณรอบตัวด้วยความฉงน
ค่อนข้างจะมั่นใจว่าการสั่นไหวเมื่อครู่ทำให้พวกเขาถูกย้ายสถานที่
พวกเขาถูกย้ายจากดาดฟ้าของตึกมาโผล่กลางสนามหญ้าที่ดูคุ้นตา
ที่นี่คือภายในมหาลัยที่เคยใช้เป็นค่ายฝึกทหารของเมตไตรยนั่นเอง
สถานที่ที่เขาฝึกฝนตัวเองในโลกที่ล่มสลายและได้พบเจอพวกพ้องมากมาย
แล้วก็ไม่ได้มีแค่เขากับเมษาที่หลุดมาที่แห่งนี้แต่นรินทร์กับคนอื่นๆ
ก็นอนกองอยู่รอบๆ ด้วย
“ทุกคน”
เสียงของอิงศรทำให้ทุกคนเริ่มเคลื่อนไหว
นรินทร์ชันตัวขึ้นมาหันมองสำรวจไปรอบๆ
แล้วถามคำถามที่เขาเองก็อยากจะรู้คำตอบ
“เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ”
อิงศรลุกขึ้นยืนแล้วมองสำรวจบริเวณโดยรอบอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง
บริเวณในมหาลัย
ในวันจันทร์แบบนี้แต่กลับไม่มีคนอยู่แถวนี้เลยแม้แต่คนเดียว
สนามหญ้าเล็กๆ
ที่พวกเขายืนกันอยู่นั้นเป็นแค่สวนเล็กๆ
ที่รายล้อมไปด้วยตึกเรียนแต่กลับเงียบสงบจนผิดปกติ
เมื่อตระหนักถึงความแปลกประหลาดของสถานที่แล้วอิงศรก็นึกทบทวนเรื่องก่อนที่จะมาถึงที่แห่งนี้
พวกพ้องของเขาอยู่กันครบทุกคน
แต่ละคนช่วยกันดูแลกันและกันอยู่
พวกพ้องที่ว่านั่นรวมถึงมีนาซึ่งคุยสายอยู่กับเขาก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ประหลาดที่ทำให้พวกเขามากองกันอยู่ที่นี่
หล่อนนอนสลบไม่ได้สติอยู่ห่างไปจากจุดที่พวกเขารวมตัวกัน
ใกล้กับพุ่มไม้ที่ปลูกติดทางเท้าพอดีทำให้ไม่มีใครในพวกเขาสังเกตเห็นเธอ
“มีนา”
อิงศรวิ่งเข้าไปดูอาการด้วยความเป็นห่วงรวมถึงสงสัยในตัวของมีนาตอนนี้ด้วย
เขาไม่ลดการระแวงภัยในทุกก้าวที่เดินเข้าไปหาหล่อน
เพราะก่อนที่จะเกิดเรื่องนั้น จู่ๆ หล่อนก็พูดออกมาอย่างแปลกประหลาด
วันนี้คือวันอะไรคะ....หล่อนพูดเอาไว้แบบนั้น
ทำไมถึงถามแบบนั้น
อิงศรเข้าใจขึ้นมาทันทีที่เดินมาถึงตัวหล่อนที่ยังนอนฟุบพื้นอยู่
แต่สายตาของเขาทอดเลยข้ามตัวหล่อนไป
เขามองข้ามไปยังฟากตรงข้ามที่อีกฝั่งของถนน
“ทำอะไรอยู่น่ะศร”
เมษาพูดจากนั้นก็ได้ยินเสียงชะงักฝีเท้า
“มีนา!”
เสียงของเมษาเปลี่ยนเป็นกึ่งจะตะโกน
หมอนั่นวิ่งเข้ามาหามีนาที่อยู่แทบเท้าเขา จากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าของคนอื่นๆ
ไล่ตามมา
อิงศรปล่อยมีนาให้คนอื่นๆ
ดูแลไป ตอนนี้ความสนใจของเขาไปอยู่ฟากตรงข้ามหมดแล้ว
วันนี้คือวันอะไร
วันที่ 1 พฤศจิกายน
วันที่เขาได้รับเดม่อนแอพมาจากมีนานั่นเอง
แล้วสถานที่นั่นก็คือ
“ร้านอีคริปส์”
อิงศรจ้องมองไปยังร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ฟากตรงข้ามของถนน
ความคิดเห็น