คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : กฎของการเป็นประธานที่ดีข้อที่ 4 ประธานที่ดีต้องมีคนเลี้ยง!
กฎของการเป็นประธานที่ดีของที่ 4 ประธานที่ดีต้องมีคนเลี้ยง!
อย่างทีผมบอกไปในเมื่อไม่นานมานี้ใช่ไหมครับ? ว่าผมจะพาไอ้คินไปเลี้ยงไอติม ถ้าผู้อ่านคนไหนคิดว่าผมจะพามันไปเลี้ยงในสถานที่หรูๆอาทิเช่น สเวนเซ่นส์ คุณคิดผิดครับ ผมอ่ะงกจะต่าย เรื่องอะไรต้องไปเลี้ยงมันในที่หรูแบบนั้นด้วย เอาร้านไอติมกะทิข้างทางอร่อยกว่ากันเยอะ หรือใครจะเถียง? ( ไรท์เตอร์ : ใครก็ไม่กล้าเถียงกับความงกของเอ็งแล้วล่ะ )
ผมเดินไปที่ห้องสำหรับประธานหยิน ไม่เข้าใจเหมือนว่าจะแยกห้องไว้ 2 ฝั่งเพื่ออะไร เหมือนประกาศศัตรูกันงั้นแหละ หลังจากที่ผมเดินไปบ่นไปสักชั่วครู่นึง ผมก็เดินมาถึงห้องของมันซักที
“ ก๊อก ก๊อก ” ผมลองเคาะประตู ตามมารยาทของผู้ดี
“ … ”
“ ก๊อก ก๊อก ”
“ … ”
“ ก๊อก ก๊อก...โครม!!! ” ทนไม่ไหวละครับ แม่มไม่ยอมเปิดให้ซักที เท้าผมเลยเรียกร้องอยากถีบประตูขึ้นมา ผมเลยสนองความต้องการให้เท้าของผมโดยการถีบประตูเข้าไปด้วยใจรัก ผมไม่รู้ว่าการถีบประตูมันเกี่ยวอะไรกับลูกบิด ลูกบิดถึงได้หลุดมาจากประตูได้ =___=;
แต่ห้องนี้กลับมีเพียงแต่ความว่างเปล่า หาได้มีร่างของเจ้าของห้องนี้ไม่ แล้วผมจะเคาะประตูไปเพื่ออะไรมิทราบวะครับ ; - ; แต่ห้องนี้มันช่างหยินสมชื่อจริงๆครับ ตั้งแต่เป็นประตูก็สีดำ พอเข้ามาดูในห้องมันก็สีดำอีก มันจะดำอะไรหนักหนาฟระ ในเมื่อไม่เห็นเจ้าของร่างผมควรจะยังไงน่ะเหรอ? ก็ต้องตามหาตัวสิครับ!
ผมลัดเลาะตามซอกหลืบของโรงเรียนเพื่อตามหามัน ผมหามาครึ่งชั่วโมงกว่าๆผมก็ไม่เจอมันอ่ะ จนโรงเรียนเลิกผมก็ยังหาตัวไม่เจอ ผมเลยกะไว้ว่าจะค่อยเลี้ยงมันพรุ่งนี้ก็ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็เลยเดินกลับไปที่ห้องของผมเอง
ผมเป็นคนชอบสีขาว เพราะงั้นการเป็นประธานหยางข้อดีของมันก็คือผมจะได้เห็นสีขาวทุกวันนี่ล่ะ~ แน่นอนว่าถ้าห้องประธานหยินเป็นสีดำทั้งหมด ห้องประธานหยางอย่างผมก็ต้องเป็นสีขาวทั้งหมดเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะประตู โต๊ะ เก้าอี้ หน้าต่าง หรืออีกมากมาย ว่าแล้วก็เปิดประตูเข้าไปห้องของผมกันดีกว่าเนอะ
“ … ” ผมว่าห้องของผมไม่มีอะไรที่เป็นสีดำเลยนะ แล้วไอ่วัตถุใหญ่ๆก้อนดำๆที่อยู่บนเก้าอี้ผมมันคืออะไรกัน ผมคิดพลางค่อยๆย่องไปสำรวจสวดส่องไปที่วัตถุที่อยู่บนเก้าอี้ของผม ทันใดนั้น! มันก็ขยับตัว!
“ เชี่ยยยยยยยยย!!! ” ผมร้องอย่างตกใจเมื่อไอ่วัตถุนั้นมันหันตัวมาทางผมแล้วเอามือมาวางตรงไหล่ และผมก็รู้แล้วว่าวัตถุนั้นคือ...ไอ่คินนั่นเอง -*- พ่อจะกรีดร้องงง~ ผมหามันจนไฟดับตับแลบก็ไม่เจอ มาเจอในห้องตัวเองเนี่ยนะ ฟายยยยยยยยยยยยย
“ นายมาที่ห้องของฉันทำไมไม่ทราบฮะ! ” ผมจ้องมันด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อขั้นรุนแรง
“ ก็ตอนนี้มันใกล้งานกีฬาสีแล้วนี่นา ฉันก็เลยเอาใบกิจกรรมมาให้นายดูจะได้จัดเตรียมทันไง แต่นายตั้งหากที่หายไปไหนมา ฉันรออยู่ที่นี่นานแล้วนะ ” มันบอกผมพลางจ้องผมด้วยสายตาเย็นเฉียบ
“ กะ...ก็ไปเดินตรวจความเรียบร้อยของโรงเรียนน่ะ - -; ” ผมต้องโกหกมันไป ถ้ามันรู้ว่าผมตามหามัน ผมจะต้องอับอายขายขี้หน้าแน่ๆ
“ หา...นั่นมันหน้าที่ของฉันไม่ใช่ของนายซักหน่อย จะไปตรวจทำไมล่ะ? ”
“ อะ...เออ ผมไปเดินเล่นมา พอใจยัง ”
“ ก็บอกอย่างนี้ซะตั้งแต่แรก มันก็จบแล้วนี่นะ อ่ะ! เอาไปสิ ใบกำหนดงานน่ะ ” ว่าแล้วมันก็เอาใบกำหนดงานมาแปะเต็มหน้าผม แหม โต๊ะก็มีทำไมไม่วางเนอะ - * -
“ ว่าแต่...อะไรอยู่ในมือนายน่ะ เห็นตั้งนานละ ” เหยดเข้! ผมลืมนี่หว่าว่าผมถีบประตูจนลูกบิดมันหลุด จะตอบว่าไงดีล่ะเนี่ย = 0 =;
“ เอ่อ...เอ่อ ก็แบบว่า... ” จะให้ตอบว่าไงดีวะ ‘ แบบว่ากำลังกระทืบคนที่มากวนผมอยู่ แล้วร่างมันกระเด็นกระดอนไปโดนประตูห้องนาย ลูกบิดมันก็เลยทะลัก(?)ออกมาน่ะ ^0^ ’ หรือว่าจะ ‘ ลูกบิดนายมันอุดอู้อยู่ที่ประตูมากเกินไป มันเลยอยากมาสูดอากาศกับโลกข้างนอกเพื่อมาตามหาฝัน(?) มันเลยออกมาจากประตูตอนที่ฉันกำลังเดินเล่นพอดีน่ะ ^0^ ’
“ หืม? น่าสงสัยจังนะนาย ช่วยพูดความจริงออกมาด้วยนะครับ ^^+ ” หน้าตามันซาดิสม์มากคร้าบท่านผู้อ่าน T0T ถ้าผมไม่บอกความจริงมันไป ผมจะถูกมันฆาตกรรมแล้วเอาหัวไปหมกในโถส้วมไหมเนี่ย
เอาก็เอาวะ! ลูกผู้ชายต้อง...
“ ผมเดินไปหานายที่ห้องน่ะครับ แล้วไปเคาะประตู ปรากฏว่านายไม่เปิดซักที(เพราะมันไม่อยู่) ผมเลยเผลอใช้ความรุนแรงไปหน่อย ลูกบิดมันก็เลยออกมาน่ะครับ ^^;; ”
… ต้องยอมรับความจริงสิครับ…
“ หา! นายนี่ซาดิสม์รึยังไง ชอบทำลายข้าวของคนอื่นเนี่ย คราวที่แล้วก็มีเรื่องกับนายโจ้นั่นไม่ใช่รึไง?
ยังไม่เข็ดอีกเรอะ คราวนี้นายพัฒนาการจากทำร้ายคนไปทำร้ายประตูแทนแล้วสินะ - - + ” แต่ลูกบิดมันหลุดออกมาเองนะเฟ้ย ผมถีบประตู ไม่ได้ถีบลูกบิด = =
“ เอาน่าๆ เดี๋ยวฉันให้ไอ้สิงห์มาจัดการให้เอง โอเคป่ะ? เพื่อเป็นการไถ่โทษ กระผมจะเลี้ยงไอติมให้นายท่านแดก เอ้ย! กินนะขอรับ ” ผมพูดพลางตาเป็นประกาย ในที่สุดก็จะได้ทำตามแผนการซักที ถึงจะไม่ค่อยถูกแผนเท่าไหร่ก็เถอะ * *
“ อืม...เอางั้นก็ได้ ” เยส!!! มันตกลงแล้วครับ
“ แต่ผมขอเลือกร้านเองแล้วกันนนะครับ ^^+ ” มีแต่มาทำไม~ แต่ไปเพื่ออะไร~~ ผมได้แต่กรีดร้อง กระเป๋าตังค์ก็ใช่ว่ามีเงินเยอะนะ แถมให้มันเลือก คนอย่างมันก็ต้องเลือกร้านที่หรูๆอยู่แล้วครับ แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะ T^T
“ ให้ผมเลือกให้ก็ได้นี่นา * - * ” ผมทำตาประแวววับน่าจับมอง(?) อย่างน้อยก็ให้มันสงสารผมบ้างซักนิดก็ยังดี
“ ไม่เอาหรอกครับ ผมอยากเลือกเอง ” ม๊ายยยยยยย~ ทำไมชะตาชีวิตนอกจากจะมาเจอหมอนี่แล้วยังต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย
...หรือว่าจะกลับไปอยู่บ้านจะดีกว่านะ... ไม่สิ...ฉันใม่อยากจะกลับไปอยู่บ้านที่มีคุณแม่คนนั้นรออยู่หรอก!
“ เฮ้อ~! งั้นก็รีบไปกันเถอะ ”
…………………………………………………………
ตอนนี้ผมมาอยู่หน้าร้านสเวนเซ่นส์เรียบร้อยแล้วครับ ผมว่าแล้วเชียวว่ามันต้องเลือกร้านนี้~! ผมคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วล่ะ ถ้ามีกรณีนี้เกิดขึ้น ถ้าผมมีตังค์ไม่พอ ก็ต้อง...ให้มันช่วยจ่ายครับ!( ไหนเอ็งบอกจะมาเลี้ยงเขาไงฟระ! )
“ รีบๆเลือกที่นั่งกันเถอะ ไม่อยากอยู่นานน่ะ ” ผมเบื่อร้านแบบนี้ ผมชอบกินไอติมกะทิมากกว่าอ่ะ! ถึงผมจะชอบไอติมรสช็อกโกแลตก็เถอะ - 3-… อีกอย่างถึงผมจะไม่ใช่เด็กอนามัยที่ชอบนอนก่อน 3 ทุ่ม แต่ผมก็อยากกลับหอไปเล่นเกมส์บ้างอะไรบ้างนะ! ถึงผมจะรู้จักเกมส์ออนไลน์และเล่นอยู่เกมส์เดี๋ยวก็เถอะ = 3 = ...
สรุปแล้ว ผมไม่มีข้อขัดแย้งอะไรเลยสินะ!? (_ _)lll
“ งั้นเอามุมนู้นแล้วกัน ” คุณมรึงจะเลือกที่นั่งในสุดไปทำไมวะครับ กินไม่นานเดี๋ยวก็ออกกันแล้ว =____=
“ เอางั้นก็ได้ รีบไปกัน ” ว่าแล้วก็ลากมันไปสิครับ ตัวก็หนัก หน้าก็นิ่ง เดี๋ยวพ่อปั๊ดถีบเลยหนิ ผมก็ได้แต่โวยวายล่ะครับ มันเล่นสูงซะขนาดนี้ ( ไม่ได้จงใจด่าว่าตัวเองเตี้ยนะ ; w ; )
พอนั่งแล้ว มันก็รีบถามทันทีว่าจะสั่งอะไร ผมบอกได้มั้ยว่าอยากกินไอติมกะทิ = w =;
“ ไปกินไอติมกะทิไม่ได้เหรอ? ” ผมพูดเผื่อมันจะเปลี่ยนใจ แต่เหมือนว่ามันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่นะ
“ นายจะบ้ารึไง มานั่งขนาดนี้แล้วจะไปกินไอติมกะทิ ทำไมไม่บอกก่อนเข้าร้านมาล่ะ? ” แล้วมิทราบว่าคุณมรึงให้โอกาสกรูบอกไหมล่ะ ไอ่ห่าาาาาาาาาาา~
“ งั้นกินอันนี้ก็ได้ ” ผมแย้งมันไม่ได้แล้วครับ ทำไมน่ะเหรอ? คนจดเมนูเดินมายืนอยู่ตรงที่นั่งของผมกะมันแล้วไง ดูหน้าตาท่าจะโหดเอาเรื่อง ถามว่าทำไมถึงรู้ เพราะว่ามันเป็นกระเทยน่ะสิ! กล้ามมาเป็นมัดๆเชียว ถ้าผมบอกว่าจะไปกินไอติมกะทิอีก เจ๊คนนี้แกคงจะเหวี่ยงผมออกจากร้านแน่ๆเลย
“ ‘เอาไอติมรสไหนดีล่ะฮ้าาาา~ สุดหล่อ ” กร๊าก~! เจ๊คนนี้ไม่ได้มองผมครับแต่เจ๊แกมองไปที่ไอ่คินตั้งหาก! สมดีแล้วล่ะครับ ถ้ามองผมขึ้นมาผมก็ซวยอ่ะดิ แล้วไอ่คินมันจะตอบว่าไงหว่า มาฟังพร้อมกับผมกันนะครับ
“ คนตรงข้ามผมต้องการรสอะไร ก็รสนั้นแหละครับ ^^ ” เห็นไหมว่ามันต้องไม่...เอ๋!? WTF!!? What The Fuck!!!? ทำไมต้องมาถามความเห็นของผม(อีกแล้ว)ล่ะ! ได้ข่าวว่าผมมาเลี้ยงไถ่โทษมันนะ ไม่ใช่มันเลี้ยงไถ่โทษผม
มันกลับกันนะเฮ้ย=0=!?
“ เดี๋ยวๆ คุณชายต้องเป็นคนเลือกสิครับ ก็กระผมน่ะมาเลี้ยงไถ่โทษคุณชายนะครับ ” ไหนๆก็เบ๊เต็มรูปแบบแล้วนี๊T^T เรียกประชดมันซะเลย
“ งั้นเอารสช็อคโกแลตแล้วกันนะครับ คุณเบ๊จิปาถะกินได้ใช่ไหมครับ ^^? ”
“ เรียกผมซะเสื่อมเสียเลยนะนาย ผมแค่พูดเล่นๆเอง ผมกินได้อยู่แล้วล่ะครับ ” พอผมพูดอย่างงั้นมันก็หันไปสั่งเจ๊กระเทยหน้าใส หัวใจเกือบหยุดเต้น(?) ที่ทำหน้าแทบจะลวนลามทางสายตาและร่างกายแทบทุกทีแล้ว พอเจ๊จดเสร็จก็เดินกลับไปที่เคาท์เตอร์ครับ แต่เหมือนจะซุบซิบอะไรบางอย่างกับผู้หญิงกลุ่มนึงแล้วชี้มาที่พวกผม What? ผมก็ทำได้แต่งงนั่นล่ะครับ เพราะผมไม่อยากมีเรื่องกับเจ๊แก
“ มาแล้วฮ๊าาาา~ ไอศกรีมแบบพิเศษที่ใส่หัวใจของเจ๊ไปด้วยนะฮ๊า ทานให้อร่อยนะฮ๊า ” ผมกำลังดีใจที่เจ๊แกพูดว่าขนาดพิเศษอยู่แล้วเชียว ตัดประโยคออกไปเถอะได้โปรด!
หลังจากที่เจ๊วางระเบิด(?) ใส่พวกผมแล้วเดินกลับไปแล้วก็ทิ้งผมกับคินอยู่ด้วยกัน ก็แน่ล่ะ ใครจะมานั่งจ้องเวลาคนอื่นเขาจะกินกันล่ะ
...แต่ผมกินไม่ลงแล้วล่ะ...
เพราะเจ๊แกทำสูตรพิเศษให้ไอ่คินนี่นา กร๊ากกกก! เราไม่ควรไปขัดขวางความรักที่เจ๊มีต่อคินใช่ไหมล่ะครับ เพราะฉะนั้นให้มันกินไปเหอะ!
“ เอิ่ม...เอาเป็นว่านายกินไปคนเดียวละกันนะ โอคะ...!! ” ‘งื้อ! ผู้อ่านทุกท่านครับ เหมือนมันจะอ่านใจผมออกมันเลยไม่รอช้าที่จะยัดไอติมใส่ปากผมง่า T^T
“ หึหึ...คิดว่าฉันไม่รู้รึไงว่านายตั้งใจจะให้ฉันกินคนเดียว คนเลี้ยงก็ต้องมีส่วนในการกินบ้างสิ ”
“ ว้อท!? ใครจะกินก็กินไปเซ่...อุ๊บ! ” มันพูดเสร็จก็เอามายัดใส่ผมอีกคำ ผมจึงไม่รอช้า คว้าช้อนที่วางไว้อีกอันนึงแล้วตักไอติมยัดใส่ปากมันคืน วะฮ่าฮ่า สงสัยตักคำใหญ่ไปหน่อย ตอนนี้หน้ามันเลยมีไอติมเปื้อนอยู่ใกล้ริมฝีปากหนาของมัน แต่ผมไม่คิดจะบอกมันหรอก เพราะว่าการแกล้งมันออกจะสนุกสนานขนาดนี้นี่นา!
แล้วพวกเราก็กินไอติมเสร็จทั้งๆที่รอยของไอติมที่เลอะอยู่ที่ใกล้ๆริมฝีปากของมันก็ยังคงเดิม จนกระทั่งเมื่อเราทั้งคู่ลุกไปจ่ายตังค์ พนักงานคนนึงก็พูดขึ้นมา
“ ฮิฮิ...น่ารักจังนะคะ...มีไอศกรีมเลอะที่ปากของคุณน่ะค่ะ ” พนักงานกล่าวออกมาอย่างน่ารักพร้อมกับชี้ไปที่ตรงใกล้ๆปากของมัน
“ จริงเหรอครับ? ” ,มันหันมามองทางผมอย่างรวดเร็ว แถมยังจ้องอย่างไม่วางตาเลย เอิ่ม...ไม่ทราบว่าผมแค่ไม่บอกมันว่ามีไอศกรีมเลอะปากเฉยๆนะ แต่มันจ้องผมอย่างกะผมไปฆ่าน้องสาวมันงั้นแหละ
...รึว่ามันจะเป็นโลลิค่อนเก็บกด?...
หลังจากที่ผมคิดไปไกลถึงอลาสก้าแล้ว( ทำไมต้องอลาสก้า ผมไม่รู้ ถามคนแต่งเอานะฮะ//โดนตบ ) ผมก็ต้องกลับมาสู่ประเทศไทย เพราะได้ยินที่มันพูดกับพนักงานด้วยหน้าตาอันดัดจริตเต็มที่ว่า
“ แย่จัง แฟนของผมก็ไม่บอกผมเลยแหะ ยังไงก็ขอบคุณที่บอกผมนะครับ ” อืม...ใช่ มันก็พูดว่าอย่างงั้นแหละ...
อาเร๊ะ!?...
“เห้ย! .ใครเป็นฟะ...อุ๊บ!! ” ใครเป็นแฟนนายฟระ! ผมได้แต่พูดในใจเพราะปากผมถูกปิดด้วยมือของมัน ( มือนะครับมือ หาใช่ปากไม่ โปรดอย่าคิดไปไกล เดี๋ยวหัวใจผมจะวายตายเอย // โดนคนอ่านปารองเท้าใส่ )
“ ไม่ต้องคิดมากครับ แฟนผมมันปากไม่ค่อยจะตรงกับใจอย่างงี้เสมอนั่นแหละ แก้ยังไงก็แก้ไม่หายซักที ”
“ คิกคิก...พวกคุณ 2 คนน่ารักดีนะคะ ฉันให้สิ่งนี้สำหรับคู่รักอย่างพวกคุณแล้วกันค่ะ ” พนักงานคนนั้นยื่นที่ห้อยโทรศัพท์แบบคู่รักให้ไอ่คิน คู่รัก!? =[]= นี่กลายเป็นว่าเธอคิดว่าผมกับมันเป็นแฟนกันแล้วสินะ T ^ T
ไอ่คนรับมาแล้วก็จูงมือผมเดินออกจากร้านไปด้วยสีหน้าที่ดูมีความสุขเหลือเกิ๊น ส่วนผมเป็นยังไงน่ะเหรอ โห ไม่อยากจะ said อ่ะครับ
“ นี่! ทำไมต้องบอกพนนักงานคนนั้นว่าเราเป็นแฟนกันด้วย ฉันไม่ใช่แฟนนายซักหน่อย! ไปพูดอย่างงั้นทำไมห้ะ! ”
“ อย่ามาทำเป็นพูดดี นายไม่ยอมบอกฉันเรื่องไอศกรีมที่เลอะปากเองนะ ชดใช้ให้ฉันซะ ”
“ แล้วแค่นี้มันต้องถึงขั้นเป็นแฟนกันเลยรึไงวะ!? ”
“ สำหรับฉันเรื่องภาพพจน์ต้องมาก่อน แต่นายทำให้ภาพพจน์ฉันเสสียหาย ก็ต้องชดใช้ด้วยวิธีนี้นั่นแหละ ”
“ หา! อย่ามาพูดอะไรตอบใจชอบสิฟระ! ”
[ KIN PART ]
“ หา! อย่ามาพูดอะไรตอบใจชอบสิฟระ! ” พอมันพูดเสร็จก็เดินไปที่รถของผม ผมก็เลยเดินไปไขกุญแจรถ ก่อนจะเข้าไปนั่งแล้ว start รถ (จะพูดเสียงให้มันแหวกแนวเฉยๆ) จู่ๆมันก็พูดขึ้นมาว่า
“ ฉะ...ฉันไม่ได้อยากจะกลับกับนายหรอกนะ แต่ยังไงเราก็อยู่ที่เดียวกัน และนายเป็นคนพาฉันมาที่นี่ ก็พอฉันกลับด้วยละกัน ” แล้วมันก็เข้าไปนั่งในรถ เอ่อ...เฮ้อ~ เมื่อไหร่ที่ผมจะแก้ไขไอ้นิสัยปากไม่ตรงกับใจของมันได้ซักทีกันน้าาาาา~
[ END KIN PART ]
...........................................................................
ในที่สุดตอนนี้ก็แต่งจบซักทีหลังจากที่ดองกันมานาน ต้องขอโทษแฟนคลับทุกคนด้วยนะคะ แต่ไรท์มีบทสัมภาษณ์มาให้ได้ชมกันค่ะ
[ บทสัมภาษณ์ ]
ไรท์เตอร์ : เซย์ฮายค่าแฟนคลับนิยายเรื่องนี้ทุกคน ในที่สุดก็ถึงเวลาสัมภาษณ์ตัวละครหลักในเรื่องแล้วล่ะค่ะ ขอเชิญพบกับ ริน คิน และสิงห์ค่า
ริน : ดีฮะ!
คิน : หวัดดี
สิงห์ : ฮายยยยยยย~!
ไรท์เตอร์ : มากันคนละแบบเลยแหะ เรื่องนั้นช่างมันก่อน เอาเป็นว่าเรามาเริ่มที่คำถามแรกกันเลยดีกว่า รูสึกยังไงที่ได้มารับบทนี้คะ เริ่มจากรินก่อนเลย
ริน : เสียใจมากที่ได้คนอย่างหมอนี่มาเป็นพระเอก *หันหลังไปแล้วแอบหยอดน้ำตาเทียม*
คิน : พูดอย่างงี้ก็สวยสิครับ ส่วนตัวผมก็ชอบนะ ได้เงินเยอะดี ถึงจะไม่ค่อยมีฉากเซอร์วิสซักเท่าไหร่ก็เถอะ เมื่อไหร่จะให้ผมกดหมอนี่ซักทีก็ไม่รู้
สิงห์ : ผมน่ะดีใจมากเลยครับที่ได้รับบทนี้ แต่เมื่อไหร่คู่ของผมจะมาปรากฏตัวในเรื่องซักทีล่ะครับ~!
ไรท์ : เสียใจเรื่องกดนะ เพราะว่าไรท์คนนี้แต่งไม่เป็น ไปจินตนาการต่อเอาเองดีกว่าเนอะ! ส่วนคู่ของสิงห์ ไรท์อย่างฉันจะให้โผล่มาก็ต่อเมื่อคิดนิสัยของคู่นายออกอ่ะนะ! XD
คิน / สิงห์ : ผมไม่ยอมหรอกนะครับไรท์เตอร์ / ผมก็ไม่ยอมด้วยนะเฮ้ย
ไรท์ : ช่างพวกนายสิ เรื่องนี้ ฉันใหญ่ กร๊าก! มาคำถามต่อไปกันดีกว่า! รินกับคินเนี่ย ใครไปชอบใครก่อนงั้นรึ?
ริน : ผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะฮะ ไรท์ยังแต่งไม่เสร็จเลยนี่ - 3 -
คิน : ไปติดตามในเรื่องจะดีกว่านะครับ ผมไม่อยากสปอยผู้อ่าน :)
ไรท์ :แล้วสิงห์ นายรู้สึกยังไงที่โผล่มาตอนละเสี้ยวนึง! //โดนต่อย
สิงห์ : เหวย! ตอนนี้ผมยังไม่ได้โผล่เลยตั้งหาก ยัยไรท์ตัวแสบ ผมก็เป็นตัวละครหลักในเรื่องนะเฮ้ย ไม่ใช่ตัวประกอบบบบบบ~
ไรท์ : มันก็กลับมาที่คำตอบเดิมก็คือรอให้ฉันคิดนิสัย ลักษณะ และท่าทาง ของคู่นายได้ก่อน เมื่อนั้น นายจะไม่เป็นตัวประกอบอีกต่อไป >w<
สิงห์ : แสรดดดดดด~ แล้วชาติไหนผมจะได้โผล่(วะ)ครับ!
ริน / คิน : ...//เห็นเถียงกันนาน คินเลยโอบเอวรินแล้วพาออกจากที่สัมภาษณ์ไปเรียบร้อย
ไรท์ : อ่าวเฮ้ย!? อย่าพึ่งไปเซ่!!...ไม่ทันแล้วแหะ สงสัยต้องจบการสัมภาษณ์เพียงเท่านี้ค่ะ แล้วเจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการเน้อ!
[ จบบทสัมภาษณ์ ]
:) Shalunla
ความคิดเห็น