คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #34 : งานต้อนรับ
ภายในปราสาทอันกว้างใหญ่ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด มีชายหนุ่มผมสีดำในชุดนชั้นสูงราวกับขุนนางกำลังเดินด้วยท่าทางเกร็งๆอยู่
ฮาฟ ที่โดนองค์ราชาดรักม่าจับเปลี่ยนชุด กำลังเดินตรงไปที่ชั้นล่างสุดของปราสาท เพื่อไปใช้งานวงเวทย์เคลื่อนย้ายเดินทางไปมหาทวีป ดินแดนรกร้าง
เมื่อเดินไปถึง -วันไดรฟ์- ผู้เป็นอาจารย์ของเขาก็ได้ยืนรออยู่ก่อนแล้ว
"มาเร็วจังเลยนะลุง เป็นคนว่างดีจังเลยนะ"
ลูกศิษย์ทักทายผู้เป็นอาจารย์...
"ไม่ให้เกียรติกันเลยสักนิดนะ.. แต่ก็ไม่คิดเลยนะว่าจะได้มาร่วมภารกิจกับเจ้าเร็วขนาดนี้นะเนี่ย อัศวินระดับ4 กับ ระดับ2 เนี่ยนะ เพราะไอ้ภารกิจการสำรวจป่าแห่งชีวิตนั่นแหละ ดึงเอาอัศวินของภาคีส่วนใหญ่ไป บุคลากรมันเลยขาดอยู่อย่างนี้เนี่ย.."
ชายสูงวัยบ่นพึมพำ
เมื่อก้าวเข้าไปให้เขตวงเวทย์เคลื่อนย้าย แสงสว่างสีขาวนวลก็ค่อยๆเติมเต็มวงเวทย์บนพื้น และหลังจากนั้น 5 นาที อัศวินแห่งภาคีทั้ง2 ก็หายวับไปจากพระราชวัง
ฟูม...
หลังจากแสงสว่างจ้าสีขาวได้จางหายลงไป ฮาฟได้ลืมตาขึ้นมา สิ่งแรกที่ได้สัมผัสที่ปลายจมูกก็คือกลิ่นแห่งความแห้งแล้ง ทั้งสองยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าของเมืองหลวงแห่งดินแดนรกร้าง รอบตัวไร้ซึ่งผู้คน แม้แต่ยามเฝ้าประตูก็ไม่มี บรรยากาศเหมือนดังไอความร้อนปะทุขึ้นจากพื้นดินที่แห้งกราดตลอดเวลา บรรยากาศนั้นทำให้ฮาฟขมวดคิ้ว สิ่งปลูกสร้างที่รายล้อมพวกเขานั้นดูทรุดโทรมและเงียบสงัด
"นี่น่ะเหรอ ดินแดนรกร้าง"
ฮาฟสบถออกมา
"ครั้งข้ามาบรรยากาศมันก็ประมาณนี้แหละนะ แต่ว่าก็ยังรู้สึกถึงชีวิต แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป.."
วันไดรฟ์กล่าวด้วยสีหน้าเครียด
"เอาเป็นว่าเข้าไปดูด้านในพระราชวังสีดำนั่นก่อนดีกว่า"
วันไดรฟ์พูดขณะจ้องมองไปยังปราสาทสีดำสูงตระหง่าตรงใจกลางเมืองที่เหมือนดังเมืองร้าง
........
ภายในพระราชวังของเผ่าดีเวียร์ -อาม่อน- อัศวินผมแดงในชุดเกราะสีดำที่ถอดออกมาจากศพของ -แอสทารอส- กำลังจ้องมองผู้มาเยือนอาณาจักรอันแห้งแล้งนี้ผ่านทางลูกแก้วสังเกตุการณ์ที่ให้นักผจญภัยโชคร้ายที่ถูกจับมาทำขึ้นและเมื่อหมดประโยชน์ก็ฆ่าทิ้งแบบไม่ใยดี กำลังเฝ้ามองและแสยะยิ้ม
"อีกหนึ่งอาทิตย์..หัวของพวกมันจะถูกเสียบประจารอยู่บนธงกองทัพเรา.. ส่งคนไปรับมันที่หน้าพระราชวัง.."อาม่อนออกคำสั่งทหารในชุดเกราะสีดำดูแวววาว เป็นสีเดียวกันกับสีของปราสาทแห่งนี้ อัญมณีคานาช..
.....
กลับมาทางด้านของฮาฟ ที่ตอนนี้ทั้งคู่กำลังเดินผ่านตัวเมืองหลวงอันแห้งแล้งและเงียบงัน สัมผัสได้ถึงสายตาที่ส่งมาถึงพวกตนเป็นระยะๆ เป็นสายตาของเหล่าชาวเมืองที่แอบซ่อนอยู่ตามมุมมืดของบ้านที่ทรุดโทรม.. เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงผ่านไปหลังจากที่ฮาฟและวันไดรฟ์ได้เดินตรงเข้าไปที่ปราสาทและได้หยุดตรงหน้าประตูทางเข้าราชวัง สักพัก ก็ได้มีอัศวินในชุดเกราะสีดำเดินเข้ามาต้อนรับ ประตูพระราชวังถูกถอนสมอและเปิดยกขึ้นต้อนรับทั้งสอง
และภาพตรงหน้าทำให้ฮาฟขมวดคิ้ว....ทหารในชุดเกราะสีดำเข้าแถวเป็นระเบียบเรียงรายตั้งแต่ทางเข้าพระราชวังยาวไปถึงทางเข้าปราสาท วันไดรฟ์ที่ลองคำนวนจำนวนทหารคร่าวๆในใจ ได้จำนวนออกมานับแสน ด้วยภาพนั้นทำเอาทั้งฮาฟและวันไดรฟ์ชะงัก
"ท่านราชาของเราอยากเข้าพบท่านทั้งสองครับ รบกวนพวกท่านตามข้ามาเข้าเฝ้าองค์ราชาด้วยครับ"
อัศวินคนนั้นพูดเสียงแข็งพร้อมกับเสียงรองเท้าศึกของเหล่าทหารที่ใช้จำนวนเคลื่อนที่มาปิดทางออก ทำให้ทั้งฮาฟและวันไดรฟ์ไม่มีทางเลือกอื่น...
ลูกศิษย์และอาจารย์หันมองหน้ากันก่อนจะต้องจำใจเดินตามอัศวินคนนั้นไป
ทั้งสองเดินทางมาถึงบรรลังกษัตริย์แห่งอาณาจักรดีเวียร์
ด้านบนบรรลังนั้นมีชายร่างใหญ่โตที่ไม่ใส่เสื้อผ้าท่อนบน เผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่นอันแข็งเเกร่ง นัยย์ตาของชายผู้นั้นทอประกายแสงสีเหลืองอำพัน..แววตาที่ฮาฟรู้จักดี...
บรรยากาศและแรงกดดันหนักอึ้งที่ทำเอาขนลุก ฮาฟเอื้อมมือไปกุมดาบของเขาแน่น โดยที่มีวันไดรฟ์จับแขนปรามเอาไว้
(บรรยากาศชวนขนลุกแบบนี้...ชิ้นส่วนแห่งเทพบรรกาล)
ลมหายใจของฮาฟหนักขึ้น ชายหนุ่มกำลังสั่นเทิ้มด้วยความกลัว
ด้านข้างของชายร่างใหญ่ที่นั่งอยู่บนบรรลังนั้น มีชายผมแดงที่สวมชุดเกราะสีดำของ แอสทารอส ยืนอยู่ข้างๆ
ชายผมแดงคนนั้นแสยะยิ้มและเอ่ยขึ้น
"ขอต้อนรับสู่อาณาจักรของเรา ข้าคือกษัตริย์องค์ใหม่ มีนามว่า อาม่อน ยินดีที่ได้รู้จัก"
"ข้ามีนามว่าวันไดรฟ์ อัศวินระดับ4 แห่งทวีปผืนแผ่นดิน องค์ราชาองค์ใหม่งั้นเหรอ เกิดอะไรขึ้นกับราชาคนก่อนกัน.."
วันไดรฟ์เอ่ยถาม
"ฆ่าทิ้งไปแล้วน่ะ..."
สิ้นสุดคำตอบกลับของอาม่อน ฮาฟและวันไดรฟ์ ชักดาบออกมาพร้อมกัน
"ข้าได้ส่งหัวขององค์ชายกับราชาคนก่อนไปให้ทาง-องค์ราชาดรักม่า-แล้วล่ะนะ อีกสักสองสามวันคงจะถึง ส่วนหัวของพวกเจ้าน่ะ ข้าจะเอาไว้ประดับธงกองทัพก็แล้วกัน อีกไม่กี่วัน พวกเราจะยกทัพบุกไปยัง-ทวีปผืนแผ่นดิน-"
สิ้นเสียงนั้นเหล่าอัศวินเผ่าดีเวียร์ในชุดเกราะสีดำก็กรูกันเข้ามาปิดล้อมทางออก ตั้งแถวล้อมรอบ ฮาฟกับวันไดรฟ์ไว้ เหลือพื้นที่ตรงกลางเป็นดังสนามประลองที่ถูกขีดเส้นรอบสนามเอาไว้ด้วยกองทัพอัศวิน
อาม่อนชักเคลย์มอร์ออกมาจากฝักพร้อมก้าวลงมาด้านบนบรรลังค์โดยมี -กายาแห่งบรรพกาล- เฝ้ามองอยู่ด้วยแววตาเบื่อหน่าย
"ข้าจะแสดงศักยภาพของเหล่าอัศวินให้เจ้าได้เห็นเอง หวังว่าจะทำให้เจ้าเปลี่ยนความคิดที่จะโจมตีทวีปเรานะ"
เคร้ง!
เสียงดาบกระทบกันดังขึ้น วันไดรฟ์กระโจนเข้าปะทะกับอาม่อน โดยที่มีฮาฟ กระโจนสวนทางอาม่อนไปโดยมีเป้าหมายเป็นชายที่อยู่บนบรรลังค์
เปรี้ยง!
อาม่อน ผละออกจากวันไดรฟ์และกระโจนเข้าใส่ฮาฟทันที เคลย์มอร์ ในมือฟันฟาดเข้าใส่ฮาฟ ทำให้ชายหนุ่มต้องยกดาบขึ้นป้องกันไว้ และถูกแรงกระแทกซัดกระเด็น
"พวกเจ้าทั้งสองคนไม่มีสิทธิแตะต้องท่านผู้นี้หรอก คู่ต่อสู้ของพววกเจ้าก็คือข้า!!"
อาม่อนตวาดลั่นก่อนจะกระโจนเข้าใส่ทั้งสอง จอมมายาและจอมยียวนอย่างวันไดรฟ์ หวังจะใช้เวทย์ความมืดที่ตนถนัดเล่นตุกติกกับอาม่อน ชายวัยกลางคนตั้งท่าจะร่ายเวทย์ แต่ทว่า วงเวทย์นั้นกลับปรากฏขึ้นมา และกระพริบอย่างผิดปกติแล้วสลายหายไป อาม่อนที่ใช้จังหวะที่วันไดรฟ์กำลังตื่นตระหนก
เบี่ยงคมดาบของฮาฟที่ฟาดเข้ามาด้วยเคลย์มอร์ พร้อมกับ ถีบสวนกลับไปจนฮาฟกระเด็นก่อนจะแทรกดาบเข้ากลางลำตัวของวันไดรฟ์ แต่ยังดีที่อัศวินระดับ4ไหวตัวทัน วันไดรฟ์กระโดดถอยฉากออกมาแต่ปลายดาบเคลย์มอร์ก็ยังเรียกเลือดออกมาจากแผ่นอกภายใต้ชุดเกราะของวันไดรฟ์ได้
ฉึบ..
"อึก.. วงเวทย์..ทำไมกัน.."
"แปลกใจงั้นเหรอ ฮ่าๆๆ ปราสาทนี้ที่เจ้ายืนอยู่น่ะ มันถูกสร้างด้วยแร่อัญมณี คานาช ยังไงล่ะ มณีสีดำที่ปฏิเสธพระเจ้า มันมีคุณสมบัติในการสลายพลังเวทย์อยู่ สินแร่ที่จะขุดพบได้แค่ใต้ดินของ-ดินแดนรกร้าง-แห่งนี้เท่านั้น นี่คือพลังที่ข้าจะใช้ ล้มล้างทุกเผ่าพันธ์ุและข้าก็จะครองโลก ด้วยพลังของอัญมณีนี้และพลังของท่าน -กายาแห่งบรรพกาล- ฮ่าๆๆๆๆ!!!!!!"
อาม่อนหัวเราะลั่น พร้อมกับกระชับดาบเดินตรงไปหาวันไดรฟ์
(แย่ล่ะสิ..แบบนี้แย่แน่ๆ)
ฮาฟยันตัวลุกขึ้น ในหัวของชายหนุ่มกำลังหมุนติ้ว เขากำลังหาทางที่จะรอดออกไปจากสถานการณ์นี้
"ฉันควรจะทำยังไงดี"
.....
.......
............................................
ความคิดเห็น