คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : ไม่คาดคิด
"ทำไมกันนะ ทำไมโลกใบนี้มันถึงได้โหดร้ายนัก" อนนะร่ำไห้ทว่าไร้ซึ่งน้ำตาและวิ่งออกไปอย่างไร้จุดหมาย
เธอรู้ดีอยู่แล้วว่าตัวเธอนั้นเป็นอะไร แต่ในใจก้ยังคงแอบหวังอยู่บ้างว่าจะอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ แต่ว่าความหวังนั้นพึ่งจะพังลงไปเมื่อครู่ ตอนนี้ผู้คนในหมู่บ้าน -นามิตะ- นั้น
ได้รับรู้แล้วว่าตัวเธอนั้นคืออะไร เป็นตัวอะไร..
ขณะที่เธอกำลังจมอยู่ในหมู่มวนห้วงความคิดนั้น สันหลังที่เย็นเยือกของเธอกลับรู้สึกเสียววูบขึ้นมา .... (อะไรกัน เมื่อกี้...)
พรึบ!! เสียงของปีกนกที่อยู่ๆก็กระพือพรึบดังขึ้นมาจากด้านหลังของอนนะจนเธอสะดุ้งโหย่ง
"โอ้ย่าาาาา---หา เจอ แล้ว ร่างพลังเวทย์อันน่าพิศวง"
เสียงชายแหลมสูงกล่าวทักทาย ชายผมสีทองในชุดที่คล้ายกับนักบวช พร้อมปีกบนหลังอีก2คู่ กำลังส่งยิ้มมาที่อนนะทว่ารอยยิ้มนั้นมันกลับไม่ได้ทำให้รู้สึกเป็นมิตรเลยสักนิด
(ร่างกายที่ดูสง่างามพร้อมกับปีกเช่นนั้น..เผ่าเซเลนเทียร์เหรอ..)
"มีอะไรงั้นหรือ"
"อ่อ ข้าน่ะไม่มีธุระอะไรกับเจ้าหรอกแต่ข้ามีะธุระกับหัวใจของเจ้าตางหาก"
เซเลนเทียร์หนุ่มแสยะยิ้มก่อนจะโฉบลงมาใช้มือข้างนึงบีบเข้าที่คอของอนนะและยกเธอลอยขึ้นกลางอากาศ
"ค๊อก!! อั๊ค! มะ มือ ของเจ้า..มันร้อน..ปล่อยข้า.."
"ร่างกายของเจ้าน่ะมันจะเป็นยังไงข้าไม่สนใจหรอก ก็บอกแล้วไงที่ข้าต้องการน่ะคือหัวใจดวงนั้นของเจ้าตางหาก หึๆๆ หัวใจที่เยือกแข็งและหยุดนิ่งไปเพราะไม่สามารถ
ควบคุมเวทย์มนต์ธาตุน้ำแข็งในตัวที่ตื่นขึ้นมาได้ แทนที่จะตายแต่กลับทำให้ร่างกายแปรสภาพเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะมองมุมไหนๆ มันก็ช่างน่าสนใจจริงๆ ช่างเหมาะกับการเป็นหนึ่งในงานวิจัยของข้าจริง"
อนนะพยายามดิ้นขัดขืนแต่แขนขาของเธอตอนนี้ถูกล็อคเอาไว้ด้วยเวทย์มนต์ธาตุแสงที่ไม่รู้ว่าร่ายขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่
"อ่าาาา ไม่ต้องดิ้นรนไปหรอก อีกนิดเดียวก็จบแล้ว" เซเลนเทียร์หนุ่มง้างมืออีกข้างตั้งท่าจะทลวงเข้าที่กลางอกของอนนะ
(อะไรกัน..ทำลายความหวังข้า..ถัดมาก็ให้ข้าต้องมาตายงั้นเหรอ..ไม่ยุติธรรม โชคชะตาบัดซบ ทำไมเรื่องแบบนี้..มันต้องเกิดกับข้า ทำไม..ข้าทำอะไรผิดงั้นเหรอโชคชะตา คำว่าความสุขนั้นข้าจะไม่อาจได้สัมผัสเลยงั้นเหรอ..ข้ายังไม่อยากตาย..ช่วยข้าด้วย...)
แม้แต่จะร่ำไห้กับโชคชะตาของตนยังไม่อาจทำได้ ฝ่ามือของชายเผ่าเซเลนเทียร์พุ่งตรงเข้ามาหาที่หัวใจเธอ
ทุกอย่างที่มี ลมหายใจ ความรู้สึก ราวกับถูกตัดขาดไปช่วงหนึ่ง
ฉึก!!!!!
ฝ่ามือของเผ่าเซเลนเทียร์คนนั้นกระแทกเข้ากับแผ่นน้ำแข็งหน้ารูปทรงเกล็ดหิมะที่ปรากฏขึ้น
"อะไรกัน!!!"
"-โหมดเคลื่อนที่!!!-"
ตูม!!! ด้วยความเร็วระเบิดจากไอพ่นฮาฟพุ่งตัวผ่านวงเวทย์น้ำแข็งอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าหาเผ่าเซเลนเทียร์คนนั้น
เพล้ง!!
เสียงดังราวกับแก้วที่แตก ฮาฟหวดมือทำลายเวทย์กักขังของเซเลนเทียร์หนุ่มพร้อมกับรับตัวอนนะที่หลุดออกจากพันธนาการเข้ามามาไว้ในอ้อมแขน
"แหม่ๆเสียมารยาทกันจังเลยนะครับ"
เซเลนเทียร์คนนั้นปัดๆแขนเสื้อ
ความรู้สึกอบอุ่นทำให้สตรีหิมะในอ้อมกอดค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ เพราะพึ่งพุ่งผ่านวงเวทย์น้ำแข็งทำให้ร่างกายของฮาฟเย็นลงอย่างรวดเร็วด้วยเหตุนั้นชายหนุ่มจึงสามารถสัมผัสกับเธอได้
"แกเป็นใครต้องการอะไรวะ!!"
ฮาฟตวาดลั่น
"อ่า ข้ายังมิได้แนะนำตัวสินะ ข้ามีนามว่า -ริดแวน- เป็นหัวหน้านักวิจัยด้านพลังเวทย์แห่งเผ่าเซเลนเทียร์ที่ยิ่งใหญ่ อันที่จริงข้าก็ไม่อยากลงมายุ่งกับทวีปผืนแผ่นดินนักหรอก ทว่าภูเขาใหญ่ลูกนี้มันเป็นเส้นแบ่งเขตแดนทวีป ข้าเลยลองข้ามมาสังเกตุการดู ไม่คิดว่าจะเจอสิ่งที่น่าสนใจเช่นร่างพลังเวทย์ที่อยู่กับเจ้านั่นล่ะ ไหนจะเป็นเวทย์หายากอย่างธาตุน้ำแข็งเสียด้วย
ข้าไม่อยากมีปัญหากับเผ่ามนุษย์ชั้นต่ำหรอก ส่งสิ่งนั้นมาให้ข้าได้แล้วแล้วกลับไปซะ"
"บ่นบ้าอะไรของแก ละเมอเหรอ"
ฮาฟตั้งใจจะหาเรื่อง
และดูเหมือนจะได้ผล ริดแวน ชักสีหน้าอย่างเสียอารมณ์และกางวงเวทย์ออกมา แทนที่วงเวทย์จะเกิดขึ้นเพียงวงเดียวและเป็นสีเดียวของธาตุนั้นๆ วงเวทย์ของริดแวนนั้น กลับเป็นสีรุ้งและมีหลายวงเวทย์ซ้อนทับกัน และดูสวยงามและอันตราย
"ข้าขอเตือนครั้งสุดท้าย ถ้าไม่อยากตายส่งนางมาซะ ข้าคือแนวหน้าด้านเวทย์มนต์ของเผ่าพันธ์ ไร้ประโยชน์ถ้าคิดจะต่อกร"
"ไม่ลองมันก็ไม่รู้!!!ฉันขอท้าดวลกับแก..ถ้าฉันชนะแกต้องห้ามยุ่งกับเธออีก!"
"โอ้ดูเจ้าเด็กน้อยนี่สิ งั้นแล้วถ้าข้าชนะ ข้าจะควักหัวใจนางออกมาต่อหน้าเจ้าและสะบั้นศีรษะนางเสียบประจารไว้ตรงหน้าเจ้าขณะที่เจ้าโดนตัดแขนตัดขาออกจนหมดก็แล้วกัน"
ฮาฟกัดฟันแน่น ชายหนุ่มค่อยๆร่อนลงกับพื้นและวางอนนะลงอย่างเบามือ
"เจ้า..ทำไมต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อข้าด้วยกัน เจ้ากับข้าแทบไม่รู้จักกันเลยแท้ๆ"
สตรีหิมะถามด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ สติของเธอตอนนี้กำลังเลือนลาง
ฮาฟถอนหายใจออกมา ก่อนจะยิ้มและตอบกลับเธอไป
"หลงรักไปแล้วยังไงล่ะ"
อนนะที่ได้ยินดังนั้นแสดงรอยยิ้มออกมาครั้งหนึงก่อนจะหลับลงไป
ฮาฟร่าย-ปราการน้ำแข็ง-ป้องกันเธอเผื่อเอาไว้ก่อนจะหันหลังและบินขึ้นเข้าประจันษ์หน้ากับ ริดแวน ฮาฟง้างหมัดขวาตรงเข้าหาริดแวนพร้อมกันกับที่ริดแวนกางวงเวทย์ออกมาเป็นวงเวทย์ที่แปลกประหลาดนอกจากจะกางออกมาพร้อมกัยสามวงรอบตัวแล้ว วงเวทย์นั้นยังหมุนรอบตัวผู้ใช้และแทนที่สีของวงเวทย์จะเป็นไปตามธาตุที่ใช้งาน แต่ของริดแวนนั้น
กลับเป็นวงเวทย์สีรุ้ง
ตึง!! ฮาฟซัดหมัดขวาใส่ริดแวน ทว่ากำปั้นนั้นถูกขวางเอาไว้ด้วยเกราะป้องกันโปร่งใส
(เวทย์ป้องกันเหมือนในสนามประลอง!!??) ฮาฟแสดงสีหน้าตื่นตระหนกออกมา
ฟึบ! คมดาบเล่มหนึ่งฟาดลงมาใส่ฮาฟทำให้ชายหนุ่มต้องถอยร่นออกมา ดาบที่สร้างจากเวทย์แห่งแสงลอยอยู่ข้างๆกับริดแวน เพียงแค่ชายหนุ่มเผ่าเซเลนเทียร์วาดมืดไปตามอากาศ
ดาบเล่มนั้นก็กวัดแกว่งตามด้วย ริดแวนโบกมือไปมาอย่าถี่รัว คอมดาบเล่มนั้นก็ไล่ฟันฟาดใส่ฮาฟอย่างบ้าคลั่ง และแล้วคมดาบนั้นก็ไล่ฮาฟจนทัน ดาบที่ฟันเข้ามาในแนวราบนั้น
ฮาฟไม่สามารถหลบพ้นได้
ฉั๊วะ!! และดาบนั้นก็เรียกเลือดออกมาจากแผ่นอกของชายหนุ่ม
"อั๊ก!! "
"หึๆ นี่เจ้ามนุษย์ชั้นต่ำ สำหรับเผ่าเซเลนเทียร์น่ะ นักวิจัยพลังเวทย์คือผู้ที่แข่งแกร่งที่สุดเหมือนแม่ทัพนั้นแหละ อย่าเอาชีวิตมาทิ้งเลยส่งนางมาให้ข้าซะ"
"ละเมออยู่หรือไง"
ตูม!!!
วงเวทย์เปลวเพลิงเข้มข้นปรากฏขึ้นที่ใต้เท้าของริดแวน ก่อนที่เสาเปลวเพลิงจะพวยพุ่งขึ้นมากลืนกินริดแวนเข้าไป
"หึๆ คิดว่าเกราะเวทย์มนต์ระดับสูงนี้จะพังเพราะเวทย์กระจอกๆแบบนี้หรือไง"
พรึบ! เสาเปลวเพลิงสูญสลายไปทันทีที่ริดแวนพูด ทว่าเมื่อเปลวเพลิงนั้นหายไป ร่างของฮาฟก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับดาบในมือตรงหน้าของริดแวน
"-คมเขี้ยววายุ-"
เพล้ง!
ด้วยการใช้กระบวนท่านั้นในระยะประชิด ทำให้เกราะป้องกันของริดแวนนั้นแตกลง
"ความคิดตื้นๆ" ริดแวนแสยะยิ้ม
คมดาบของฮาฟไม่สามารถเข้าถึงตัวเขา มีเกราะป้องกันเวทย์มนต์อีกชั้นนึงซ้อนทับชั้นแรกอยู่
ฉั๊วะะ!
"อึก!" คมดาบที่ลอยอย่างอิสระตวัดเข้าฟันที่ต้นแขนของฮาฟจนเลือดกระเซน ฮาฟสะบัดปีกเปลวเพลิงที่กางขึ้นแทน -โหมดเคลื่อนที่-ที่กลายเป็นดาบประคองตัวเองไว้กลางอากาศ
(โชคยังดีที่ไม่แข็งเท่าเกราะของสนามประลอง แต่มันดันมีอีกชั้นนึซ้อนไว้นี่สิ) หนำซ้ำเพียงทำลายไปแค่ไม่กี่วินาที เกราะชั้นที่พึ่งแตกไปของริดแวนก็ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
"จะทำยังไง.."
ตึกตึก...
(ปล่อยข้าออกมาซะสิ)
…
เสียงที่ดังกังวาลขึ้นมาในหัวทำเอาฮาฟหน้าซีดเผือก ตัวเขาอีกคนกำลังแสยะยิ้มท่ามกลางความมืดมิด
"ไม่ แกน่ะอยู่นิ่งๆไปแบบนั้นแหละ..ร่างกายเดียวกัน อะไรที่แกทำได้ฉันก็ต้องทำได้"
ฮาฟบ่นพึมพำกับตัวเอง
วูป! วงเวทย์แสงถูกฮาฟกางขึ้นมา ดาบเวทย์มนต์แบบเดียวกับริดแวนถูกสร้างขึ้นมาและลอยอยู่ข้างกายฮาฟ ตอนนี้บรรยากาศรอบๆตัวของชายหนุ่มได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
"???หื้ม???เวทย์มนต์ธาตุแสง ไฟ ก่อนหน้านี้ก็ธาตุน้ำแข็ง มนุษย์ไม่มีทางใช้เวทย์ได้แบบพวกเราแน่นอน อ่าาา ดูเหมือนข้าจะเจอของที่น่าสนใจเขาอีกชิ้นซะแล้วสิ"
ริดแวน แสยะยิ้ม พร้อมกับหัวเราะด้วยเสียงแหลมสูง ฮาฟสะบัดปีกเพลิงพุ่งเข้าใส่ริดแวนอีกครั้ง คมดาบของเผ่าเซเลนเทียร์ตอบสนองโดยทันที มันฟาดลงมาที่ฮาฟ ชายหนุ่มใช้ดาบเวทย์ที่ควบคุมด้วยมือซ้ายเหวี่ยงรับไว้ จากนั้นก็เหวี่ยงคาตานะในมือขวาฟาดใส่ริดแวน
เปรี้ยง!
ประกายแสงจากการปะทะแตกกระจาย
เปรี้ยง!เปรี้ยง!เปรี้ยง!
พอเริ่มจับจังหวะการโจมตีของริดแวนได้ ฮาฟสลับการรับดาบเวทย์และโจมตีไปเรื่อยๆ จนฮาฟเริ่มรู้สึกถึงความร้าวของเกราะชั้นแรก
(ชนะได้แน่! ถ้าเป็นแบบนี้เรื่อยๆล่ะก็!!)
ฮาฟเริ่มรู้สึกถึงเปอร์เซ็นต์ที่จะชนะ ทว่า..
"เยี่ยมยอด"
ริดแวนกางวงเวทย์ขึ้นมาตรงหน้าฮาฟ "นี่คิดจริงๆเหรอว่าที่ข้าใช้ได้จะมีแค่ดาบนี้น่ะ"
ตูม!!!!
เปลวเพลิงคำสาปสีดำถูกซัดเข้ามาตรงหน้าฮาฟอย่างจัง ฮาฟใช้ปีกเพลิงของเขายกขึ้นมาบังไว้ได้ทัน ยังไม่หมดเท่านั้น วงเวทย์อีกวงถูกกางขึ้นด้านหลังฮาฟ ลูกศรเวทย์แสงหลายดอกถูกยิงเข้ามา ฮาฟควบคุมดาบเวทย์มนต์ปัดทิ้งไปได้แต่ไม่ได้ทั้งหมด
ฉึก! อั๊ค..
ลูกศรดอกหนึ่งที่ฮาฟปัดได้ไม่หมดเสียบเข้ามาที่หัวไหล่ของชายหนุ่ม ก่อนจะสลายไปทิ้งไว้แต่บาดแผล ริดแวนไม่คิดจะปล่อยให้ฮาฟได้หยุดพัก
วงเวทย์อีก2วง ถูกร่ายขึ้นประกบด้านข้างฮาฟ ก่อนจะปล่อยคลื่นเปลวเพลิงออกมาทำให้ฮาฟต้องสะบัดปีกถอย ทว่าถอยก็ถอยไปเจอคมดาบเวทย์
ของริดแวนที่ฟาดลงมา เรียกเลือดออกจากแผ่นหลังของฮาฟ ต่อด้วยวงเวทย์อีกวงที่ถูกสร้างขึ้นในระยะประชิดที่ปล่อยสายลมคมกริบสร้างรอยบาด
หลายรอยให้กับฮาฟและพัดให้เขาลอยกลับไปทางริดแวนที่กางวงเวทย์รอไว้ราวกับคำนวนไว้แล้ว ซัดเปลวเพลิงคำสาปเข้ากลางอกของฮาฟอย่างจัง
ทำให้ฮาฟ ปลิวร่วงลงไปบนพื้นหิมะจนควันฟุ้ง
แฮก..แฮก..อั๊ค (แย่ล่ะ...เวทย์ของมัน..มองไม่ทัน..) ฮาฟกระอั๊คเอาลิ่มเลือดออกมาจากลำคอ ร่างกายของชายหนุ่มที่โดนเพลิงคำสาปซัดไปหมาดๆ
หนักอึ้งจนขยับไปไหนไม่ได้
(เน่ๆ รีบๆปล่อยข้าสักทีเซ่!! จะตายเอาแล้วไม่ใช่เหรอ!!!)เสียงในหัวของฮาฟดังขึ้นอีกครั้ง เสียงโซ่ตรวนถูกกระชากดังขึ้นอย่างรุนแรงพอๆกับอาการปวดหัวของฮาฟที่อยู่ๆก็แล่นขึ้นมา
"ไม่ แกน่ะ..อยู่เฉยๆไปเถอะ"
(ถ้าข้ายังถูกพันธนาการอยู่ ตอนเจ้าตายข้าก็ช่วยอะไรไม่ได้นะ ฮ่าๆๆๆๆ ถ้าเจ้าตายเจ้าก็ปกป้องอะไรไม่ได้ สตรีคนนั้นก็ด้วย)
"เออ..หุบปากไปเถอะ..ตอนนี้ฉันกำลังคิดอยู่..ว่าจะรอดจากไอ้ที่อยู่บนฟ้านั้นยังไงดี"
ฮาฟพูดกับอีกตัวตนของเขา บนท้องฟ้าตอนนี้ วงเวทย์นับร้อยไม่สินับพันถูกกางขึ้นเต็มฝืนฟ้าบริเวณนั้น นี่คือ เวทย์มนต์ต้นตำหรับของริดแวน
-นภาร่วงหล่น- โดยมีริดแวนที่เป็นผู้ร่ายลอยอยู่เหนือวงเวทย์เหล่านั้น ก่อนที่วงเวทย์ทั้งหมด จะปลดปล่อยพลังเวทย์หลากหลายสีสันร่วงหล่นลงมา
ดั่งสายฝน........
...............................................................................................................................................................................................
ความคิดเห็น