คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่หนึ่ง (๒/๒)
บทที่หนึ่ง
สามชั่วยามที่นางได้รู้จักหลี่ชิงไป๋ เด็กน้อยนั้นตรงต่อกฎระเบียบ อดทน แข็งแรงเกินเด็กทั่วไป ฉลาดในบางเรื่อง แต่ไร้เดียงสา เด็กที่สามารถเติบโตเป็นเช่นนี้ได้โดยไร้มารดาถือมีบุญวาสนานัก
นางอยากเห็นเด็กผู้นี้เติบใหญ่ ถึงกล่าวไปเด็กน้อยอาจตายได้แต่โอกาสน้อยนิด นางสามารถเร่ร่อนเกือบสองร้อยปีไม่ใช่แค่โชคช่วยอย่างเดียว ตอนเป็นมนุษย์นางคงแข็งแกร่งมากพอเป็นวิญญาณเร่ร่อนยังคงมีปราณใช้ได้ยาวนานเช่นนี้
ณ ตอนนี้นางต้องการคำตอบของเด็กหน้ามึน หลี่ชิงไป๋ไม่ส่งเสียงตอบตั้งแต่ถามนางคิดว่าเจ้าเด็กนี้ต้องการเวลาคิดทบทวนให้ดี
แต่นี้แสงจันทรน์แทนแสงแดดแล้วหนา ไฉนยังคิดไม่ได้อีก..
“เจ้าหนู ข้าเข้าใจว่าเจ้าคิดหนักแต่ช่วยหยุดออกกำลังเสียที รีบๆ ตอบข้ามาได้แล้วข้าไม่ได้มีเวลามากพอที่จะรอ” นางว่า หันมาอีกทีเจ้าเด็กนี้ออกกำลังอีกแล้ว สตรีในห้องหอเขาไม่อุ้มก้อนหินยักษ์เดินไปมาหรอกนะ
อุ้มหินยังกะอุ้มลูกหมา
“ข้าไม่ต้องการ”หลี่ชิงไป๋ตอบเรียบๆ พร้อมวางหินหมุนตัวชิ่งหนีคำตอบของเฟิ่งไป๋ทว่านางมั่วเสียเวลาอีกไม่ได้ เฟิ่งไป๋ไม่รอช้าโผล่ไปตรงหน้าเด็กน้อย
“เจ้าแน่ใจ? คิดให้ดีเสียก่อนนี้อาจเป็นโอกาสสุดท้ายในชีวิตเจ้า”เฟิ่งไป๋แสดงสีหน้าจริงจัง ทำเอาเด็กน้อยก้มหน้าเงียบ
“มีอะไรก็พูดสิ เจ้าเงียบทำไมทีเมื่อกี้โวยวายเสียงดัง”เฟิ่งไป๋คิ้วขมวดดุว่าเด็กน้อย นางไม่ชอบคนเงียบใส่
ความเงียบนั้นน่ากลัวสำหรับนาง มีเหตุใดทำไม่กล่าวออกมาใจคิดเช่นไรก็พูดออกมาให้หมดสิ ได้ไม่ต้องเคลือบแคลงต่อกันเพราะอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พบ..
“ข้าขอโทษ ฮึก”หลี่ชิงไป๋กัดริมฝีปากพยายามกลัดกลั้นอารมณ์ นางจะมาฟูมฟายต่อหน้าผู้นี้อีกไม่ได้ การร้องไห้สองครั้งติดมันน่าอายเกินสำหรับหลี่ชิงไป๋
หลี่ชิงไป๋คงลืมตัวไปตนเองพึ่งสิบสอง เงาตรงหน้าเริ่มจืดจางมือเล็กโดนจับแบมือบางสวมประสานทะลุผ่านไป เม็ดน้ำค่อยๆ หยดลงมือเล็ก
“ไม่เอา ไม่เอา ข้าไม่ต้องการพลังเจ้าข้าไม่ต้องการ ได้โปรดอย่าจากข้าไปเลย ได้โปรด”เด็กน้อยเสียงสั่นอ้อนวอนต่อร่างลาง พยายามกุมมือบางลอดผ่านทะลุซ้ำเติมตน เข่าเล็กทรุดลงหิมะฝืนหนา พายุหิมะเริ่มร่ายรำ
“ชิงไป๋ ยอมรับความจริงเถิด ดวงวิญญาณข้าใกล้ดับเต็มทน หากข้าเจอเจ้าไวกว่านี้สักสิบปีห้าสิบปีข้ามิยอมมอบพลังอันแสนมีประโยชน์นี้ให้เจ้าหรอก ข้าจะเป็นวิญญาณคอยหลอกหลอนเจ้าไม่ว่ายามนอน ยามตื่น ยามกิน หรือยามเจ้ากลายเป็นโฉมสะคราญ จะคอยอยู่ข้างๆ เจ้าให้ขนหัวลุกเลยแต่เพลาการเดินทางอันยาวนานของข้าได้สิ้นสุดแล้ว ปล่อยข้าเถิดข้ามิอาจทนอยู่ได้อีก เจ้าจักยอมรับพลังของข้าได้หรือไม่”
สายหิมะพัดร่ายรอบกาย หลี่ชิงไป๋ไม่รู้สึกหนาวสักนิดในหัวแสนล้าอยากหยุดคิดทุกสิ่ง
หากนางกลับไปใช่ว่ามีคนดีใจ หากนางมีปราณไปนางสามารถใช้ได้หรือท่านพ่อจะหาคนมาสอนสุดท้ายพลังอันยิ่งใหญ่ก็มาพร้อมภาระอันหนักยิ่ง ไม่มีใครหวังดีต่อนางหรอก ทุกคนล้วนเข้ามาเพราะ ชื่อเสียง ลาภ ยศ พลังนางโง่อย่างนี้จะไปรู้ทันใครและหากนางตายไปท่านแม่จะเสียใจไหม
‘ข้าควรทำอย่างไรดี’
‘แล้วถ้าเจ้ามอบกายเนื้อให้นางเล่า’ สองเสียงปริศนาทับซ้อนดังขึ้นมาในหัวหลี่ชิงไป๋
‘ร่างกายข้า?’
‘ถูกต้อง ดวงจิตของนางและเจ้าประสานเป็นหนึ่งเดียว ร่างกายเจ้าจักเป็นของนางอย่างสมบูรณ์’
‘ได้สิ’
‘ชิงไป๋แน่ใจนะ ถ้าเจ้าเลือกแล้วเจ้าจะหลับลึกไม่อาจตื่นขึ้นรู้สึกสิ่งใดได้อีกเพียงแต่หากนางทำปรารถนาเจ้าเป็นจริงเจ้าจะรับรู้ นางหมดลมหายใจสุดท้ายเมื่อไหร่เจ้าถึงไปเกิดใหม่ได้’
‘ข้าแน่ใจ ถ้าไม่ได้นางช่วยข้าคงตายไปแล้วเรื่องแค่นี้เอง ได้พบท่านแม่ด้วยโดยไม่ต้องให้ท่านมาหาข้าดีจะตาย’หลี่ชิงไป๋ตอบอย่างสดใส ตานิลกลับมาฉายแวว
กำไลหยกบนข้อมือเล็กปรากฎลำแสงชี้ตรงไปด้านหลังเฟิ่งไป๋ เผยเด็กชายหญิงส่งยิ้มให้โค้งคำนับต่อเด็กน้อย
‘เอ่ยนามของตน ตั้งปณิธานขานรับนาง’ ทั้งสองว่าพลันหายไป ราวกับหลี่ชิงไป๋คิดไปเอง
ตอนแรกร้องไห้มาตอนนี้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ผู้เดียว เฟิ่งไป๋อดส่ายหัวกับเจ้าหนูมากอารมณ์ไม่ได้
“ข้าตัดสินใจได้แล้ว!!” หลี่ชิงไป๋โผงขึ้น เฟิ่งไป๋สะดุ้งเล็กน้อยนางปรับตามไม่ทันจริงๆ
“อะ..อ่าดีเลยงั้นเจ้าพูด...”
“ข้าหลี่ชิงไป๋ อยากเจอท่านแม่อีกสักครั้งไม่ว่าจะยังอยู่หรือตายขอเพียงให้ได้เห็นร่างนางก็เพียงพอ ขอยอมรับวิญญาณนามว่าเฟิ่งไป๋ตรงหน้าข้าผู้นี้!” ไม่รอช้าเด็กน้อยรีบปฏิญาณตัดหน้า
เด็กสมัยนี้ใจร้อนเสียจริง!
แสงจันทราเชื่อมรวมส่องมายังเฟิ่งไป๋ เปลวเพลิงสีแดงฉานปะทุครอบร่างลางค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสะเก็ดไฟ จากล่างสู่บน
“เก่งมากเจ้าหนู ถึงเจ้าพูดยาวไปหน่อยก็เถอะ ฮ่าฮ่า” เฟิ่งไป๋ว่า มอบรอยยิ้มแสนงามให้แก่เด็กน้อยนับเป็นรอยยิ้มแรกที่ไม่สามารถควบคุมมันได้
นี้สินะที่เขาเรียกกันว่า ยิ้มจากใจ
ช่วงเวลาผ่านมาแสนยากลำบากเหงาเดียวดายเดินทางเพียงลำพัง พบเจอผู้คนมากมายกับมีน้อยคนที่ได้เสวนา หลายเหตุการณ์ที่ผ่านพบในชีวิตต่างให้ความรู้สึก สุข ทุกข์ โลภ โกรธ กลัว ยินดี ปนเปกันไปจนกลายเป็นเฟิ่งไป๋ผู้ท่องโลกมามาก.
เหล่าเด็กพวกนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างหวังว่ายังคงสุขสบายดี นางไม่อาจกลับไปหาพวกเขาได้แล้ว....สองบุรุษที่ชอบโผล่ขึ้นมาในหัวทำเอานางเจ็บปวดดวงใจทั้งทีปราศจากรู้จักคงมิอาจได้พบกันและสาเหตุการตายของนาง? เป็นดั่งว่าคนใกล้ตายมักนึกย้อนเรื่องราวผ่านมาของตน
ช่างมันปะไร นางจะไปสบายแล้วหมดห่วงเป็นพอ
“สวรรค์เจ้าจะได้เจอข้าแล้วจงดีใจเสียละ”นางปิดกลีบตาทว่าเหมือนมีก้อนอะไรพุ่งมากอด
“ครั้งนี้ข้าจะไม่ร้องไห้!”เด็กน้อยเอ่ย เอาหน้ามุดลงที่อกเฟิ่งไป๋ นางส่ายหน้ามือลูบแผ่นหลังเล็กจวบจนร่างลางสลายหายไป เหลือเพียงเปลวไฟก้อนเล็กลอยอยู่บนมือหลี่ชิงไป๋ ร้อนแต่กับอบอุ่น...
จ้องมองสลักเก็บความงดงามนี้ไว้ในดวงใจ
“ไว้พบกันนะ ท่านเทพของข้า” เสียงเล็กล่ำลา ยกมือทั้งสองปล่อยก้อนไฟไหลเข้าปากกลืนกินจนหมดสิ้น
ไฟลุกโชนอาบร่างเล็กทรุดนอนกลางหิมะได้ละลายลงนำร่างสู่พื้นดิน มองฟ้าเจอดวงดาวมากมายส่องแสงเปล่งประกายอวดโฉมตนดวงใดเด่นกว่ากัน
ดวงตาเล็กแสนล้าค่อยๆ ปิดลง
ข้าไม่เสียใจเลยเฟิ่งไป๋..
ความคิดเห็น