คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : วันแรกในชุดม.ปลายกับนายสุดหล่อ
ยัยจอมเฟอะฟะ ปะทะ นายเย็นชาตัวร้าย
Story by: P@K~
ตอนที่1: วันแรกในชุดม.ปลายกับนายสุดหล่อ
สายลมอ่อนๆพักเอื่อยๆมาปะทะกับหน้าต่างไม้บุบางเฉียบบนชั้นสอง ณ บ้านเดี่ยวหลังโอ่อ่า ส่งผลให้หน้าต่างบานนั้นสั่นริกๆ ใบไม้ของต้นไม้สูงที่ขึ้นอยู่ที่ข้างหน้าต่างไหวไปตามแรงลม ใบไม้สีเหลืองอ่อนที่แปรสภาพจากสีเขียวสดร่วงโรยตกลงมาบนพื้น อีกไม่นานก็คงร่วงจนหมด คงเหลือแต่กิ่งไม้เปล่าๆรอเวลาใบไม้ใบใหม่งอกออกมาแทนที่ ราวกับมีความหมายอะไรซักอย่างกับบ้านหลังนี้....
“ยัยป่าน!!! ตื่นได้แล้ว จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนฮะ!! วันนี้เปิดเทอมวันแรกไม่ใช่รึไง!!”
เสียงอะไรน่ะ...หนวกหูชะมัด...
ฉันคิดอย่างรำคาญใจ ใครกันนะส่งเสียงดังลั่นมาปลุกสาวน้อยน่ารักๆอย่างฉันได้ น่ารำคาญเสียจริงๆ สงสัยคงไม่มีคนคอยสั่งคอยสอนถึงได้ไม่มีมารยาทอย่างนี้ ส่งเสียงดังโหวกเหวกอยู่ได้ เดี๋ยวพัดแม่หลังมือให้เลยนี่!!
ว่าแล้วก็ลืมตาดูให้ชัดๆไปเล้ย!! ใครหน้าไหนกันนะ -_-^
เอ่อ...แม่ ท่านแม่บังเกิดเกล้า....
แม่สุดที่รักของฉันเอง ^^”
“เมื่อไรจะลุกกัน ฮึ ยัยลูกคนนี้นี่ น่าตีจริงเชียว!!”
“ค่ะค่า....ฮ้าววว จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” เฮ้อ บาปแต่เช้าแล้วไงฉัน ดันไปคิดจะฟาดแม่เข้าให้ แต่ว่าคงไม่ถึงกับตกนรกหรอกมั้ง ก็คนมันเพิ่งจะตื่นนี่นา ^^
ดวงตาสีนิดตาลสุดแสนจะกลมโตคู่สวยของฉันกระพริบไล่ความมัวพร่าของตา เสียงของแม่ดังพอที่จะทำให้โสตประสาทของฉันตื่นตัวเต็มที่ แต่ก็นั่นล่ะ เป็นเสียงที่ทำให้ฉันตื่นไปโรงเรียนทุกวัน เป็นนาฬิกาปลุกที่ดีเชียวล่ะ -0-
“ยัยป่าน อาบนิดเร็วๆนะ แม่จะเตรียมข้าวเช้าให้”
เสียงของแม่อีกเช่นเคย ^^” ใช่แล้วค่ะท่านผู้อ่าน!! ฉันชื่อป่าน เด็กสาวอายุ 16ที่น่ารักที่สุดในโลก (เอ่อ...อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นสิคะ >.<)
วันนี้เป็นวันแรกของการไปโรงเรียนในฐานะนักเรียนม.ปลายของฉัน หลังจากที่รอคอยวันที่จะใส่ชุดนักเรียนหญิงม.ปลายมานานนับเดือน ในที่สุดความฝันของสาวสวยอย่างฉันก็เป็นจริงซะที ^^
“อื้มมม ใช่ได้แล้ว” ฉันพูดกับตัวเองอย่างพอใจ เมื่อมองร่างตัวเองในกระจก กระโปรงยาวถึงเข่าสีกรมท่าและเสื้อมีปกสีขาวสะอาดใหม่เอี่ยม นั่นทำให้ฉันแตกต่างจากม.ต้นอย่างมาก เพราะนอกจากทรงผมจะถูกมัดรวบตึงไว้ข้างหลังไม่เหมือนทรงผมสั้นเต่อตอนม.ต้นแล้ว ทางโรงเรียนยังอนุญาตให้ฉันใส่โบสีสวยได้อีกต่างหาก คนสวยก็งี้แหละ ทำอะไรก็ดูดี^^
“เอ้าๆ จะไปโรงเรียนมั้ยเนี่ยเธอ ชักช้ารำไรจริงๆ” ทายสิว่าเสียงใคร -__-
“ค่า ไปเดี๋ยวนี้แหละ -0-” แม่อีกนั่นแหละค่ะ แม่เนี่ยนะชอบทำลายมู้ดของฉันอยู่เรื่อยเลยแฮะ เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถึงตอนนี้ถ้าฉันยังมัวห่วงสวยอยู่ล่ะก็ ไปโรงเรียนสายวันแรกแน่ๆ เฮ้อ...คนสวยกลุ้ม (ฉันพูดผิดตรงไหนล่ะคะ ทำไมต้องมองด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ ^__^)
ฉันรีบเดินลงมานั่งบนโต๊ะ หยิบแก้วนมใบสวยที่คุณแม่บังเกิดเกล้าของฉันผู้แสนจะใจดี (หรือเปล่า) เพิ่งจะรินให้สดๆร้อนๆ และดื่มมันอย่างรวดเร็วราวกับตายอดตายอยากมาจากไหน -_-“
“กินให้มันสมหญิงหน่อย แล้วก็นั่งเอ้อระเหยจริงนะแม่คุณ! ดูนาฬิกาซะสิยะ -_-^” เอาอีกแล้ว หม่อมแม่ของฉันเริ่มเทศนาอีกรอบล้านแปด ก็ถ้าเป็นเหล่าเพื่อนสนิทของฉันเห็นท่าฉันกินแบบนี้ก็คงจะเฉยๆน่ะแหละ เพราะพวกมันเห็นจนชินแล้ว ก็คนสวยทำอะไรก็ดูดีนี่นา จริงมั้ย ??^^
“เห..แม่ก็นี่มันเพิ่งจะเจ็ดโม....หา!!”
ฉันมองนาฬิกาตาค้าง แทบอยากจะพ่นนมที่เพิ่งจะกระเดือกลงคอไปเมื่อตะกี้นี้จริงๆ นี่มันเจ็ดโมงจะครึ่งแล้ว โรงเรียนเข้าเจ็ดโมงสามสิบ โอย..ตายๆ นี่ฉันจะสายเปิดประทุนวันแรกเลยเหรอเนี่ย ภาพพจน์ผู้ดีที่ฉันสร้างมาจะเอาไปไว้ไหนกันล่ะ!! (ปกติหล่อนก็ไม่ได้เป็นผู้ดีอยู่แล้วนี่...ดูลักษณะท่ากินแล้วก็คงไม่ใช่ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ -0-)
“แม่ขาไปนะคะ เย็นๆจะกลับ”
“กลับดึกๆก็ได้ย่ะ แหม ทำยังกับกลับเร็วตายชัก”
‘หวายย...ไม่ทันแล้วๆ’
ฉันคิดขณะวิ่งมาถึงหน้าโรงเรียนสุดแสนจะรักและหวงแหน(??) นักเรียนที่เดินเข้าโรงเรียนก็น้อยเต็มที นั่นเป็นสัญญาณแสดงว่า นักเรียนทุกคนส่วนใหญ่เริ่มตั้งแถวเคารพธงชาติกันแล้ว แล้วฉันจะทำยังไงล่ะเนี่ย แบบนี้ต้องโดนรองผ.อ.สุดโหดนั่นฆ่าเอาแหงๆ T^T
ฉันเริ่มออกเดินอย่างเร็ว ดวงตาคู่สวยโฟกัสไปที่ประตูโรงเรียนอย่างมุ่งมั่น ขาเรียวสวยทั้งคู่ของฉันก้าวฉับๆด้วยความรวดเร็ว เพื่อไปให้ถึงแถวก่อนที่เข็มยาวของนาฬิกาจะชี้ไปที่เลขหก ซึ่งนั่นก็หมายความว่าชีวิตของฉันหมดสิ้นกันแล้วชาตินี้ -*-
ปึ้ก!!
พลั่ก!!
แน่นอน...ถ้าได้ยินเสียงอย่างนี้ก็คงกลายเป็นว่าฉันต้องเดินชนใครซักคนแล้วล้มกระเด็นกลิ้กกลุกๆไปไหนต่อไหนจนเสื้อเปื้อนเป็นจ้ำๆแน่ๆเลยใช่มั้ยล่ะ เหอะ! แต่ขอบอกก่อนนะ ว่าผิดถนัดเลยแหละ -0-
ก็เพราะว่าเราล้มทั้งคู่.....นายนั่นน่ะเหรอ หึ..กระเป๋าหล่น หนังสือกระจุยกระจายเลยแฮะ...นี่ฉันผิดรึเปล่าเนี่ย ไม่ใช่ความผิดฉันนะ นายเดินมาชนฉันนะเฟ้ย!!
“นี่เธอ...เดินภาษาลาวรึไง ไม่ได้มองถนนหนทางเลยนะว่าเป็นยังไง” นั่น...มาถึงก็พูดภาษากวนส้นเท้าเลยยังไง นี่นายคงไม่เคยโดนผู้หญิงเตะปากใช่ป้ะหา!!
ฉันตวัดตามองอีตาปากพุดเดิ้ลนี่ด้วยความฉุนเฉียว ปากเรียวงามของฉันตั้งท่าจะด่าหมอนั่นให้หายแค้น แต่แล้ว....ฉันก็ชะงักเปลี่ยนเป็นอ่อนยวบทันที...
เพราะอะไรน่ะเหรอ!!
เพราะ...อีตานี่....หล่อ O___O
หล่อมากกก หล่อสุดๆ หล่อราวกับดาราเกาหลีผสมญี่ปุ่นเลยล่ะ ผมยาวกระเซอะกระเซิงดูไม่เป็นระเบียบนั่นรับกับดวงตาสีเข้มคมกริบ จมูกโด่งเป็นสันสวยได้รูปแม้กระทั่งฝรั่งยังอาย ผิวหน้าเนียนใสไร้สิวและจุดด่างดำต่างๆ ริมฝีปากบางเฉียบเม้มอย่างโกรธเคือง กรี๊ดดดด หล่อชะมัดเลย นี่ถ้าไม่ติดว่านายนี่สูงกว่าฉันนิดเดียวนะ ฉันต้องคิดว่าอีตาปากเสียนี่เป็นดารานักร้องแน่ๆเลยล่ะ คนอะไรไม่รู้หล่อได้โล่ ^^
“นี่...เธอ เอาแต่มองหน้าฉันอยู่ได้ บ้ารึเปล่าเนี่ย -_-”
“อ่ะ...เอ้อ ขอโทษค่ะ” ฉันก้มหน้างุด ก็แหงล่ะ...ฉันเล่นไปจ้องเขาซะขนาดนั้น ทำเอาหมอนั่นตกใจไปเลยล่ะมั้ง ฮิฮิ ก็เล่นหล่อซะขนาดนั้น ไม่ให้มองได้ยังไงกันล่ะ ^^
“ช่างเถอะ ฉันเข้าโรงเรียนดีกว่า เธอเองก็รีบหน่อยล่ะ สายแล้วนะ” หมอนั่นถอนหายใจออกมาครั้งนึง ก่อนจะก้มลงไปรวบหนังสือทั้งหมดยัดใส่ลงไปในกระเป๋า (ไม่จัดบ้างเลยรึไงกันยะ -___-)
แล้วรีบเดินเข้าประตูรั้วโรงเรียนอย่างรวดเร็ว ฉันมองแผ่นหลังของสุดหล่อคนนั้นที่กำลังวิ่งเข้าไปในโรงเรียนอย่างเสียดาย ก่อนจะฉุกคิดได้ แล้วด่าตัวเองเบาๆอย่างอารมณ์เสีย
“บ้า....บ้าจริง ลืมถามชื่อเค้าซะได้ -3-”
*****************
“หา!!! ที่แกเล่าจริงเหรอ ไอ้ป่าน”
“ก็จริงอ่ะดิ ใครก็ไม่รู้หล่อชะมัดเลยอ่ะ รู้สึกคงจะอยู่ชั้นเดียวกับเราน่ะแหละ อายุคงไม่เกินนั้นหรอก” ฉันพูดอย่างตื่นเต้น หลังจากเล่าเรื่องของเทพบุตรสุดหล่อคนนั้นให้ ยัยนิด เพื่อนสนิทของฉันที่นั่งฟังทำตาโตอย่างอิจฉาตาร้อน ^^
“แกตาฝาดเปล่าวะ จะมีใครหล่อถึงขนาดที่แกเล่าวะ เพ้อป่าวเหอะ” ไอ้แจน เพื่อนในกลุ่มของฉันอีกคนโพล่งขึ้นมา ทำให้ฉันกับนิดหันไปมองที่มันพร้อมกันด้วยสายตาที่ว่า มันต้องมีล่ะน่า
“เพ้อจริงๆด้วยแฮะ” ไอ้แจนเพื่อนเลิฟถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะหันไปมองทางประตูเมื่อได้ยินเสียงแหลมๆของพวกสิ่งมีชีวิตมีนอทั้งหลายกรี๊ดกร๊าดกันหน้าห้อง
“อะไรกันวะ หนวกหูชะมัด” ฉันพูดอย่างหงุดหงิดใจ น่ารำคาญจริงๆเลย แต่ก็น่าสงสัยจริงๆนั่นแหละ มีอะไรเกิดขึ้นหน้าห้องรึยังไงนะ สงสัยคงจะเป็นนักเรียนใหม่ล่ะมั้ง -*-
“เอ๊ะ...นั่นมัน” ยัยนิดพูดพลางเบิกตากว้างอย่างกับตกใจอะไรสักอย่าง จนฉันกะไอ้แจนสงสัยว่ามันอ้าปากค้างน้ำลายไหลอย่างน่าเกลียดนั่นหมายความว่ายังไง มีตัวอะไรกำลังมาเรอะ -_-^
“เป็นบ้าอะไรวะ อ้าปากหวอเชียว ทุเรศจริง” ฉันพูดเสียงเบื่อๆใส่มัน ก่อนจะหันไปทางที่สายตาของมันจับจ้องลามเลียเล้าโลมอยู่ (มากไปป้ะ??)
O___O!!!!!
ทั้งฉันและไอ้แจนอึ้งไปตามๆกัน ก็คนที่เดินเข้ามาน่ะ มัน...มัน
มันคือสุดหล่อของฉันนี่นา ว้ายยย!! >___< (เค้าเป็นของหล่อนตั้งกะเมื่อไรกัน??)
“เอาล่ะๆ ก่อนที่มันจะมีอะไรเกิดขึ้นไปมากกว่านี้ ครูขอแนะนำหมอนี่หน่อยนะ เค้าเป็นนักเรียนใหม่แลกเปลี่ยนจากประเทศญี่ปุ่น ดูแลกันดีๆล่ะ” เสียงแก่ๆหง่อมๆของอาจารย์ดิษต์ ครูที่ปรึกษาประจำห้องของฉันพูดขึ้น แต่ฉันไม่ได้ยินหรอก ก็มัวแต่มองเจ้าชายสุดหล่อของฉันอยู่นี่นา มองแล้วมีความสุข ^^
“ไอ้ป่าน...เห้ย นายคนเนี่ยรึเปล่าที่แกเล่าให้ฉันฟังเมื่อกี้!!”
(- -)(_ _)(- -) ฉันพยักหน้ารับช้าๆ ดวงตาเหม่อลอยมองหน้าหนุ่มสุดหล่อนั้นอย่างชื่นชม^^ (แน่ใจว่าชื่นชม??) แต่แล้วฉันก็หลุดจากภวังค์ค์เมื่อเสียงทุ้มลึกของนายนั่นดังขึ้น
“สวัสดีครับ ผมชื่อปฤษฎิ์ จะเรียกว่าปั้นก็ได้นะครับ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วย”
ปั้นเหรอ!! ชื่อเพราะชะมัดเลย ^^ อ๊าย หน้าตาก็น่ารัก ชื่อก็เพราะ อูย...ใจจะละลาย >_<
เอ...แต่ว่าทำไมนายปั้นพูดเร็วจังเลยล่ะ อย่างกับคนไม่ค่อยชอบพูดเท่าไรเลยแฮะ -*-
“ป่าน...หล่อจริงๆด้วยว่ะ มีคนแบบนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอ >w<” ยัยนิดพูดอย่างตื่นเต้น พร้อมๆกับที่ฉันยิ้มกว้างอย่างสุขีสโมสร ขณะที่นายปั้นสุดหล่อเดินไปนั่งข้างๆ ไอ้ตั้นเพื่อนอีกคนของฉันที่สูงโย่งจนผิดกับตัวของปั้นสุดหล่อ (แต่เรื่องหน้าเนี่ย ปั้นชนะขาดค่ะ ^^)
“ช่าย...หล่ออยู่นะ แต่เตี้ยว่ะ”
เสียงยัยเพื่อนซี้มารผจญ ที่นั่งกอดอกด้วยท่าสุดแสนจะทอมบอย ไอ้แจนสุดห้าวถูกเรียกว่าจิ๊กกี๋ขาใหญ่ของห้อง ด้วยความหน้าตาหวานสวยธรรมชาติของมัน ทำให้มีสาวรุ่นน้องรุ่นพี่ที่มีอาการเบี่ยงเบนทางจิต ที่ฉันเรียกว่า “เลสเบี้ยน” ตามกันให้ว่อนราวกับแมลงวันตอมอึ ถึงขนาดที่ผู้ชายหลายๆคนต้องอิจฉา เพราะไอ้แจนนี่แหละที่ควงสาวเกือบทั้งห้องมาหมดไม่เหลือ (ยกเว้นฉันกับยัยนิด) เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่มันจะเขม่นเมื่อเห็นคนหน้าตาดีเข้ามาอยู่ใหม่ โดยเฉพาะผู้ชาย -___-
“ไอ้บ้า เค้าสูงกว่าฉันเลยนะเว้ย!!”
“เออ...ก็แกสูงแค่ 165 ผู้ชายที่ไหนเค้าก็สูงกว่าแกได้ทั้งนั้นแหละ” ไอ้แจนตอกย้ำฉันเรื่องความม่อต้อของตัวเอง ใช่ซี่!! ใครมันจะไปเก้งก้างอย่างแกล่ะ ไอ้บ้า!! สูงตั้ง 172 ผู้หญิงที่ไหนเค้าสูงถึงขนาดนั้นกันฟะ -3-
“แหม อย่างน้อยเค้าก็เตี้ยกว่าแกไม่เท่าไรนี่หว่า หา ไอ้แจน” ยัยนิดพูดขึ้นบ้างหลังจากนั่งฟังอาจารย์สอนมานานพอควร มันช่วยพูดแก้ต่างให้ปั้นสุดหล่อของฉัน ทำได้ดีมาก เพื่อนเลิฟ ^^
“เหอะ...ทุเรศว่ะ สูงแค่170เตี้ยกว่าฉันตั้งสองเซ็นฯ” อ่าวๆ ไม่เลิกแฮะไอ้นี่ แกจะตอกย้ำปั้นเรื่องความสูงทำไมย้า >O<
“จิรดา หยุดพูดเมื่อไรช่วยกรุณาบอกครูด้วยนะ ครูจะได้สอนต่อ” เสียงเข้มๆของอาจารย์มณิศราอาจารย์สอนวิชาชีววิทยาจอมเฮี้ยบ เอ่ยขึ้นเรียบๆทว่าแดกดันไอ้แจนเต็มที่ ถึงขนาดที่จิ๊กกี๋อย่างมันยังเสียวสันหลังอย่างเห็นได้ชัด ก็แน่ล่ะสิ อาจารย์แกน่ะ...เป็นป้าของมันนี่นา ไม่กลัวก็เว่อร์แล้ว ^^
“ค่ะ อาจารย์ป้า” ไอ้แจนพูดเสียงแผ่วด้วยความหวาดเสียว สีหน้าของป้ามันออกจะเคืองๆเล็กน้อย ก็แหงล่ะ หลานสาวจอมแก่นของท่านเฮี้ยวพอๆกับความเฮี้ยบของแกเลย อาจารย์แกคงจะปวดเฮดพิลึก
“แหม เป็นไงล่ะ จ๋อยเลยล่ะสิ”
“หึ...ไหน ใครจ๋อย พูดดีๆนะเว้ยไอ้ป่าน” น่าน ไอ้แจนยังไม่เลิกเถียงหัวรั้นชะมัด เสียฟอร์มไม่ได้เลยล่ะสิ หึหึ ถูกฟ้าลงโทษแล้ว ดันมาว่าปั้นสุดหล่อของฉันเอง ช่วยไม่ได้ ^^
“เหอะ เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อนทั้งกะปี คอยดูเหอะถ้าโดนทิ้งเมื่อไหร่ อย่ามาเกาะกระโปรงฉันร้อง แจนจ๊ะ แจนจ๋า เลยนะโว้ย” ไอ้แจนพูดงอนๆ แต่ฉันกะยัยนิดไม่ได้สนใจอะไรมันเท่าไรหรอก เดี๋ยวมันก็หายงอนแล้วแหละ ตอนนี้เราสองคนกำลังโฟกัสไปที่ปั้นอย่างสนอกสนใจ ^^
อ๊ะ!! ปั้นกำลังอธิบายโจทย์ให้นายตั้นฟังนี่นา ว้ายย นอกจากจะหล่อน่ารักแล้ว ยังเรียนเก่ง หัวดีอีกตะหาก อะไรมันจะเพียบพร้อมขนาดนี้นะ พ่อแม่เขาโชคดีตายเลยที่มีลูกแบบนี้ ^^
แหม! ดูยังไงก็หล่อ ต้องทำความรู้จักให้ได้เลย ^^
จบบทที่ 1
ความคิดเห็น