คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
“เห้ย!! ไอ้ต้น ลุกๆๆๆ” มือเรียวบางเขย่าปลุกเพื่อนสนิทเต็มแรงอย่างไม่นึกเกรงใจ
“อือออ ขออีก 10 นาทีน่า” มือหนาปัดมือเพื่อนออกด้วยความรำคาญแล้วพลิกตัวหันไปอีกฝั่งของเตียง
“ไอ้คุณต้นข้าวครับ คุณมึงลืมไปแล้วหรือไงว่าต้องไปส่งกูที่สนามบินน่ะ”
พรึ่บบบ!
ร่างสูงผุดลุกขึ้นนั่งทันทีแล้วขยี้หัวตัวเองแรงๆอย่างเรียกสติ
“เออ เชี่ย กูลืมไปเลย โทษๆๆ รอกูอาบน้ำแปบ”
พูดจบก็กุลีกุจอคว้าผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำ ให้คนข้างหลังยืนส่ายหัวขำๆ
‘สงสัยคราวนี้จะแฮ้งค์จริงๆ’
ร่างบางคิดอย่างนึกขำเพื่อนสนิทพลางเดินเข้าอีกห้องไปเก็บของต่อ ก็แหงล่ะ เมื่อวานพวกเขาไปดื่มฉลองสอบเสร็จกันมา เพื่อนแต่ละคนก็เมาหนักชนิดที่ต้องผลัดกันลากกลับหอ ส่วนตัวเขาแค่นั่งดื่มน้ำอัดลมรอแบกพวกมันกลับก็เท่านั้นเพราะไม่ค่อยถูกกับแอลกอฮอล์เท่าไรนัก ยังดีที่มีเพื่อนอีกคนที่ยังมีสติครบถ้วนมาช่วย ไม่อย่างนั้นลำพังเขาคนเดียวแบกไอ้ยักษ์พวกนี้ไม่ไหวแน่ๆ
ระหว่างที่กำลังเก็บของอยู่นั้นนิ้วเรียวก็ขยับไปหยิบรูปใบหนึ่งขึ้นมาดูแล้วฉีกยิ้มกว้าง “เดี๋ยวกูก็จะได้เจอมึงแล้วสินะ คิดถึงมึงจริงๆว่ะ พิงค์” ตาใสจ้องมองใบหน้าของคนในรูปที่เหมือนกับตัวเองราวกับคนเดียวกันนิ่ง
“มึงเก็บของเสร็จรึยังวะไอ้พาน กูเสร็จแล้วนะ!”
เสียงทุ้มที่ดังมาจากข้างนอกปลุกให้หลุดจากภวังค์ มือบางจึงวางรูปไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงแล้วลากกระเป๋าใบโตออกไป
แต่พอเขาเปิดประตูรั้วออกมายืนหยุดข้างคนตัวสูงกลับต้องขมวดคิ้วแน่น เมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเพื่อนที่กำลังยืนจ้องมือถือราคาแพงในมือ
“มึงเป็นไรวะ?”
มือหนายื่นมือถือมาตรงหน้าแทนคำตอบ เพราะเขาไม่เคยมีความลับอะไรต้องปิดบังไอ้เพื่อนตัวเล็กนี่อยู่แล้ว
ดวงตากลมโตมองไล่ไปที่ข้อความในโปรแกรมแชทแล้วถอนหายใจออกมาแรงๆ
“เฮ้อออ อีกแล้วเหรอวะ”
“อืม” ร่างสูงส่งเสียงในลำคออย่างเบื่อหน่าย ก็จะไม่ให้เขาเบื่อได้อย่างไรกัน ในเมื่อแฟนสาวคนแรกของเขากลับมาง้อขอคืนดีอีกแล้วน่ะสิ เขาจะทำเป็นไม่สนใจเธอก็ได้หรือไม่ไปตามนัดของเธอก็ได้ ………..ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ยังรักเธออยู่ล่ะก็นะ
“มึงนี่ก็จริงๆเลย ทีกับผู้หญิงคนอื่นฟันทิ้งๆ แต่ดันกลายเป็นหมานั่งรอเจ้าของกับยัยเพลงพิณ กูจะบ้า!”
“……….” เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กยังไม่หยุดบ่น ตาคมจึงหันมามองนิ่งๆ เป็นทำนองว่าจะไปกันได้หรือยัง
“เออๆๆ ไม่พูดก็ได้วะ ไปเปิดหลังรถสิ กูจะได้ยกประเป๋าขึ้น”
เมื่อเก็บของใส่หลังรถแล้ว ทั้งสองจึงเดินมานั่งประจำที่ของตัวเองโดยเด็กหนุ่มตัวสูงที่ชื่อต้นข้าวเป็นคนขับ รถสปอร์ตคันหรูเคลื่อนตัวออกจากหน้าบ้านอย่างไม่เร่งรีบเพราะพวกเขาเผื่อเวลารถติดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ระหว่างทางมีแต่บรรยากาศชวนอึดอัดภายใต้ความเงียบที่ผิดวิสัยของพวกเขา ร่างบางจึงตัดสินใจเอ่ยปากขึ้นก่อน
“กูขอโทษที่พูดแบบนั้นออกไป กูแค่เป็นห่วง กูไม่อยากเห็นมึงเศร้าบ่อยๆ มึงเข้าใจกูใช่ไหม”
“เออ กูรู้ แต่กูพยายามแล้วมึงก็รู้ กูตัดใจจากพิณไม่ได้จริงๆว่ะ!”
“กูก็ไม่ได้จะบอกให้มึงตัดใจตอนนี้สักหน่อย กูแค่อยากให้มึงพยายามห่างๆออกมาบ้าง กูเป็นห่วง ครั้งสุดท้ายที่เขาทิ้งมึงไปเมื่อสามเดือนที่แล้วมึงเอาแต่กินเหล้าจนเข้าโรงพยาบาล กูนี่ใจหายเลย ไหนจะต้องมาคอยตอบคำถามเพื่อนเรากับญาติๆมึงอีกว่าทำไมปล่อยให้มึงเป็นแบบนี้” ร่างบางพยายามอธิบายให้เพื่อนสนิทฟังด้วยน้ำเสียงหม่นๆ
“เอาเป็นว่ากูจะพยายามแล้วกัน โอเคไหม” คนตัวสูงจึงหันมายิ้มบางให้แว่บหนึ่งเพื่อให้คนข้างตัวสบายใจ แล้วหันกลับไปมองทางข้างหน้าต่อ
“โอเค ถ้าไม่ไหวก็โทรมาหากู หรือไม่ก็ไปนอนหอพวกไอ้บีมก็ได้” เมื่อได้ยินเช่นนั้น คนตัวเล็กก็ใจชื้นขึ้นนิด ก่อนจะชวนคนข้างตัวเปลี่ยนไปคุยเรื่องสับเพเหระจนไปถึงสนามบิน
..........................................................................................................................................................................
สนามบิน
“ส่งกูแค่นี้ก็ได้ เดี๋ยวไปต่อเอง มึงกลับไปนอนเถอะ อ้อ แล้วอย่าลืมต้มน้ำขิงที่กูซื้อให้กินด้วยล่ะ แก้แฮงค์ ผ้าที่กูตากไว้มีทั้งของมึงและของกูแหละ เก็บให้ด้วย อยู่บ้านก็หัดปัดกวาดเช็ดถูบ้าง ไม่ใช่กูกลับไปเหนื่อยๆแล้วกูต้องไปตามเก็บให้ ขอบคุณที่มาส่งนะ ขับรถดีๆ” ร่างบางกล่าวฝากฝังคนตรงหน้าอย่างอดไม่ได้ ก็ปกติเขาเป็นคนดูแลมันนี่นา เลยนึกไม่ออกเลยว่าถ้าไม่มีเขาไอ้คนไม่ได้เรื่องนี่จะอยู่อย่างไร
“ห่วงกูขนาดนี้มาเป็นเมียกูเลยไหม” คนหล่อดีกรีเดือนคณะวิศวะเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มกวนอวัยวะเบื้องล่าง
“………” เจ้าของใบหน้าหวานที่เกือบจะกลายเป็นดาวคณะไอทีจึงทำหน้านิ่ง แล้วชูนิ้วกลางขึ้นเป็นคำตอบ
“หึๆ เออ ไม่แกล้งแล้ว เดินทางปลอดภัยล่ะมึง ถึงแล้วก็โทรหากูด้วย เอาสาวๆกลับมาฝากด้วยนะ ฮ่าๆๆ” มือหนาขยี้กลุ่มผมนิ่มของเพื่อนตัวเตี้ยอย่างหมั่นเขี้ยวพลางหัวเราะร่วน
“หึ ตัวมึงเองเอาให้รอดก่อนเหอะ”
“คร้าบบบ” ต้นข้าวลากเสียงยาวเหมือนยอมแพ้ ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงด้วยนานเดี๋ยวเพื่อนรักได้ตกเครื่องกันพอดี
“กูไปล่ะ” ขาเรียวกำลังจะออกเดินแต่พลันถูกคว้ามือขาวไว้ก่อน
“เดี๋ยว มึงลืมอะไรหรือเปล่า”
“………..” คนตัวเล็กเลิกคิ้วขึ้นเป็นคำถาม
“ขอกำลังใจหน่อยสิ” เสียงทุ้มนุ่มพูดอ้อนชนิดที่ว่าถ้าเป็นสาวๆคงละลายไปกองกับพื้นแล้ว แต่บังเอิญว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ เขาจึงเพียงส่งรอยยิ้มเอือมๆให้ท่าทางเด็กน้อยของไอ้เด็กโข่งแล้วเดินเข้าไปกอดพร้อมลูบหลังเบาๆ
“ดูแลตัวเองดีๆนะ อย่าให้ใครเขามาย่ำยีหัวใจของมึงได้ล่ะ”
“อืม ถึงกูจะรับปากมึงไม่ได้ แต่กูสัญญาว่าจะพยายามให้ถึงที่สุด”
ร่างสูงของต้นข้าวยืนมองร่างบางของภูพานเพื่อนรักเดินจากไปจนลับตา ก่อนจะเดินไปขึ้นรถตัวเองมุ่งกลับบ้าน
Talk
และแล้วก็ได้ฤกษ์ลงบทนำกันซักทีนะคะ ทีแรกตั้งใจไว้ว่าจะเขียนให้ได้ซัก 5 ตอน แล้วค่อยทยอยลง
แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถ้ามัวแต่ยืดเวลาออกไปก็คงจะไม่ได้ลงซักที ฮ่าๆๆ ยังไงก็ฝากผลงานเรื่องนี้พร้อมติชมกันด้วยนะคะ จะหาเวลามาอัพเรื่อยๆค่ะ บ๊ายบาย :D
ความคิดเห็น