Pai Love ตอนที่ 1 - นิยาย Pai Love ตอนที่ 1 : Dek-D.com - Writer
×

    Pai Love ตอนที่ 1

    การพบกันอีกครั้งของกิ๊กเก่า ปมปริศนาของการเลิกลาในอดีต ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกของ"เมืองปาย" การรอคอยจะสิ้นสุดลง

    ผู้เข้าชมรวม

    109

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    109

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 66 / 17:57 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

         ปายยามค่ำพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่ออกมาเดินเล่น ถนนสำหรับรถรากลายร่างเป็นลานเจรจาซื้อขาย แสงไฟสะท้อนสีสันจากข้าวของพื้นเมืองและเสื้อผ้าของพ่อค้าแม่ค้าชาวเขา
          ร้านโปสการ์ดและเสื้อยืดสกรีนยังคงเป็นแหล่งรวมตัวของผู้คนเช่นเดียวกับทุกคืนในเทศกาลท่องเที่ยว

          ค่ำนี้ ปายยังไม่หลับ เช่นเดียวกับฉันที่เดินดูภาพทิวทัศน์และภาพผู้คนที่แสดงในแกลอรี่โล่งๆ ตรงกันข้ามกับร้านขายโปสการ์ด หยุดพินิจบางภาพที่สะดุดความรู้สึก กระทั่งสะดุดจนแทบหัวคะมำกับภาพเสี้ยวหน้าของหญิงหนึ่งที่นั่งริมฟุตบาทกลางแดดเช้า

    "ภาพเต็มตัวที่เห็นเพียงใบหน้าด้านข้าง สันจมูก และริมฝีปากที่พ้นหมวกออกมา
    ไม่อยากคิดก็ต้องคิด  ใครบางคนยังวนเวียนอยู่ที่นี่"
    .
    .
    .
    .

    เจ้าของแกลลอรี่เหลือบตาขึ้นมองเมื่อฉันถามถึงคนถ่ายภาพนั้น

    "อ่อ เมื่อเช้าผมเจออยู่นะครับ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่ามันไปไหนแล้ว"

    "................"

    " คุณอยากเจอเหรอครับ.....ซัก 2 - 3 ทุ่มมันน่าจะมานะ เดี๋ยวผมบอกมันให้เอามั้ยครับ"

    เจ้าของแกลลอรีเอ่ยอย่างมีน้ำใจเมื่อเห็นฉันยังยืนนิ่งอยู่


    "เอ่อ...........ไม่เป็นไรค่ะ"

     ฉันพึมพำก่อนจะเดินจากแกลอรี่มาอย่างเฉื่อยชา

     สีสันของแสงไฟและสินค้าที่สดใสเมื่อครู่หม่นลงทันตา...............เพราะเริ่มมืดมากแล้วหรือเพราะอะไร

    เสียงดนตรีเร้กเก้ดังออกจากร้านเหล้าริมถนน  ค่ำนี้ คงหลับตาโดยปราศจากสุราไม่ได้ 


    ขณะกำลังลังเลว่าจะเข้าผับเร้กเก้หรือร้านเหล้าปั่นฝั่งตรงข้าม ใครบางคนก็เดินเบียดแซงเข้าร้านเร้กเก้ไปต่อหน้าต่อตา

    "ขอโทษครับ......................................................อ้าวว"  คนแซงคงรู้ตัวว่าทำให้ฉันเซไปจึงหันมาเอ่ยคำขอโทษ ก่อนจะนิ่งอึ้งไป

    "หวัดดี........" ฉันเอ่ยออกมาเบาแสนเบาพยายามทำสีหน้าให้สดชื่นที่สุดเท่าที่จะทำได้

    "โอ้ยยย โชคดีจังเลยแพร มาเที่ยวเหรอ ดีจัง มากะใครอ่ะ นั่งโต๊ะเราสิ นั่งด้วยกัน" คนตรงหน้าพูดออกมายืดยาว สีหน้าดีใจไม่ปิดบัง
    พลางคะยั้นคะยอให้เข้าไปนั่งร่วมโต๊ะ

    "เอ้อ...........มาคนเดียว  ไม่ดีกว่าจะไปกินเหล้าปั่น ร้านนู่น...."

    "ทำไมล่ะ กินคนเดียวไม่สนุกหรอก มานั่งกับเราดีกว่าเพื่อนเพียบเลย"

    "ไม่อ่ะจ่ะ ขอบคุณนะ เดี๋ยวเราไปแล้ว"

    ยังเพื่อนเยอะ ชอบปาร์ตี้ รวมถึงไม่แยแสกับเรื่องเก่าๆ เหมือนเดิม  ฉันอดที่จะค่อนขอดในใจขณะหันหลังเดินหนี

    "แพร .........ไม่ได้รีบใช่ไหม?  มานั่งด้วยกันก่อนเถอะ  มีเรื่องคุยด้วยเยอะเลย"

    เอาล่ะสิ  T^T มามุกนี้ ถึงอยากเดินหนีก็คงทำไม่ได้

    "มาสิ กินด้วยกัน" แล้วคนพูดก็เดินมาจับข้อมือฉันลากเข้าไปในร้านเร้กเก้
    .
    .
    .
    .
    สุนทรภู่ กล่าวไว้ว่า

    "ไม่เมาเหล้า แต่เรายังเมารัก"

    .
    .
    .
    ++++++
    ดึกนี้บางร้านในเมืองปายยังเปิดอยู่และทำท่าว่าจะเปิดต่อไปจนรุ่งสาง ฉันกระชับเสื้อกันหนาวให้แน่นเข้าอีกนิดพลางยกมือกอดอก
    ดึกๆ อย่างนี้อากาศหนาวนัก คนอาสาเดินมาส่งยังสาวเท้านำหน้าไปเรื่อยๆ

    "ต้น รูปเราที่แกลอรี ขอซื้อได้มั้ย"

    "แพรชอบเหรอ เดี๋ยวเราอัดให้"  ยังพูดจาใจดีเหมือนเดิม

    "ไม่ต้องลำบากหรอก เราขอซื้อรูปนี้แล้วกัน"

    "ทำไม? เอารูปนี้มาโชว์ล่ะ"

    "แสงมันสวยดี   ไม่ต้องซื้อหรอก อยากได้เรายกให้"

    "เอามาเลยได้มั้ย เราไม่อยากให้ติดโชว์"

    "ทำไม? "

    "เราอาย ไม่อยากให้ใครเห็น"

    เขาหยุดเดินทันทีและหันหน้ามามองฉันอย่างจริงจัง

    " คุณโกหกอีกแล้วนะแพร"

    " ไม่ได้โกหก เราอายจริงๆ" ฉันพูดเสมองไปที่พื้นแทนการสบตาคนตรงหน้า

    "อายอะไร มันเห็นหน้าคุณแค่เสี้ยวเดียว แล้วรูปนี้แสงมันก็สวยออกจะตาย"
    .

    .

    .

    .


    ".........................................................ขอได้มั้ยต้น"

    "คุณไม่มีเหตุผล" เขาพูดอย่างอ่อนใจ

    .

    .

    .

    "จะคิดแบบนั้นก็ได้"


    "คุณก็แบบนี้ มันจะอะไรกันหนักหนาแพร แค่รูป รูปเดียว" เขากระชากเสียง

    "ถ้าแค่รูปๆ เดียว ต้นก็เอามาให้เราสิ " ฉันก็กระชากเสียงกลับไปทันทีเช่นกัน

    "คุณเมาแล้วแพร วันหลังค่อยคุยได้มั้ย"

    "เราไม่เมาต้น วันนี้ เราไม่ได้เมา เราอยากได้รูปนั้นจริงๆ ต้นจะเอาเท่าไหร่ บอกเราสิ เราขอซื้อไง"

    "ไม่ขายแพร  ถ้าอยากได้ เราจะอัดให้ใหม่" เขาย้ำช้าๆ แต่ทว่าชัดเจน

    "สรุปจะไม่เอาออกจากแกลอรีนั่นใช่มั้ย"

    "ช่ายยยยยยยย"

    "ขอบใจ!" ฉันกระแทกเสียงประชด ก่อนจะเดินเข้าที่พักปิดประตูใส่หน้าเขาที่เดินมาส่ง

    .
    .
    .
    +++++++++++

    "ผมขายให้ไม่ได้จริงๆ ครับ ถ้าคุณอยากได้ ก็ต้องคุยกับเจ้าของเค้าเอาเอง เหมือนที่ผมบอกนั่นแหละ"
    เจ้าของแกลอรีปฏิเสธคำรบเร้าของฉันเป็นครั้งที่ห้าในรอบเช้านี้

    "คุณคุยกับเค้าให้ได้มั้ยคะ ฉันจ่ายค่านายหน้าให้คุณด้วยก็ได้"

    "คุณครับ ผมเปิดร้านแกลอรีเพราะผมรักนะครับ ไม่ใช่เพื่อธุรกิจเหมือนขายที่ดิน"

    " ...................................."

    " ฉันคุยกับเค้าแล้ว  เค้าไม่ยอมขาย คุณช่วยคุยหน่อยไม่ได้เหรอ ฉันอยากได้รูปนั้นจริงๆ" เสียงอ่อนตั้งท่าอ้อนเต็มที่

    "งั้นก็ต้องตามที่มันบอกล่ะครับ  เจ้าต้นลองได้ตัดสินใจแล้ว คำไหน คำนั้นครับ"

    "...................."

    .
    .
    .
    ให้มันได้อย่างนี้สิ

    ฉันเดินโผลเผลออกจากแกลอรีไปยังร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามเพื่อปรับกลยุทธ์ใหม่ การตัดสินใจของคนหนึ่งคนมักจะมีอิทธิพลต่อคนอื่นเสมอ
    เช่น การตัดสินใจของนายต้นน้ำผู้ชายที่ฉันเคยรู้จักคนนี้ เคยรู้จัก ใช่ แค่เคยรู้จัก

    "จ้องมันเข้าไป แก้วกาแฟน่ะ จะเสกให้มันเป็นกระต่ายรึไง" เสียงกวนๆ ดังแทรกเข้ามาทำลายภวังค์
    คนตัวโตยืนยิ้มเผล่ อยู่ข้างโต๊ะ

    "นั่งด้วยสิ ได้มั้ย"

    "......................"

    "เฮียอู้ดบอกว่าคุณมาขอซื้อรูปแต่เช้า"

    "บอกได้มั้ยทำไมถึงอยากได้ เอาเหตุผลจริงๆ ของคุณนะ บางทีผมอาจจะเดินไปปลดลงมาให้คุณตอนนี้เลยก็ได้"

    "............................"


    "............................"


    "............................"

    "แพร..........................." 

    คนพูดลากเสียงยาวอย่างอ่อนใจเมื่อเห็นฉันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ และ ไม่ตอบ

    "...................................เราอยากได้  ไม่มีเหตุผล  อยากได้ตอนนี้  และจะเอาตอนนี้  และต้องรูปที่ร้านนี้ด้วย"

    ฉันค่อยพูดทีละประโยค ช้าและชัด เจตนาย้ำคนฟังให้กระจ่างจะได้ไม่ต้องอธิบายเพิ่มอีก

    "โอเค! เดี๋ยวเราเดินไปเอาลงมาให้"

    ก็เท่านี้ ฉันคิดในใจ ก่อนจะส่งยิ้มอย่างผู้ชนะให้ต้นน้ำ

    "แต่เราก็จะไปอัดรูปนี้ แล้วเอามาโชว์ที่นี่ใหม่" รอยยิ้มอย่างลิงโลดของฉันหุบลงทันที

    "ไม่! อย่าโชว์ด้วย ได้มั้ย เราไม่อยากให้โชว์"

    " พอแล้วแพร............กับความไม่มีเหตุผล และเอาแต่ใจของคุณ นานที่เราไม่ได้เจอกัน ผมดีใจมากรู้มั้ยที่เจอคุณอีกที่นี่
    ผมตั้งใจว่าจะทำดีๆ กับคุณเพราะอย่างน้อยระหว่างเราผมก็อยากให้เหลือความรู้สึกดีๆ บ้าง พอรู้คุณอยากได้รูปนั้นผมก็ตั้งใจจะให้
    แต่คุณก็ยังเป็นคนเดิมแพร  เอาแต่ใจ  ไม่มีเหตุผลเหมือนเดิม"
    .

    .

    .

    .

    ".....................ใช่เรายังเป็นคนเดิม"

    "เพราะงั้น เข้าใจใช่มั้ย? ว่าต้นควรจะทำอะไรให้เรารู้สึกดี  ถ้าไอ้ความรู้สึกดีๆ ที่ต้นว่ามันยังเหลืออยู่ซักนิดละก็
    เอาภาพนั้นมาให้เรา แล้วไม่ต้องเอามาแสดงที่นี่หรือที่ไหนอีก  ถ้าต้นทำได้    แค่นี้..................เราจะรู้สึกดีมาก"

    ฉันพูดยืดยาว ด้วยน้ำเสียงเย็นชาเจตนาให้ทุกคำพูดเสียดย้ำลงบนหัวใจคนตรงหน้า
    ต้นน้ำยืนมองหน้าฉันด้วยสายตานิ่งเฉยและปวดร้าว ราวกับว่าฉันได้ตอกตะปูตัวโตลงหัวใจเขาอีกหนึ่งดอก ก่อนจะผลุนผันข้ามถนนไปยังแกลอรีฝั่งตรงข้าม

    ฉันนั่งมองเขาผ่านม่านน้ำตาที่รื้นขึ้นจนภาพตรงหน้าพร่าเบลอ ต้นน้ำเข้าไปกระชากภาพลงมาจากจุดที่แสดง ตะโกนบอกบางคำกับเฮียอู้ด
    ก่อนจะเดินกระแทกเท้าข้ามถนนกลับมา

    ฉันหันหน้าหลบทันทีเงยหน้าไม่ให้น้ำตาที่ทำท่าว่าจะหยด ไหลออกมาให้เขาเห็น เอ่ยคำขอบคุณเบาๆ

    เขาวางภาพบนโต๊ะ ก่อนจะเดินจากไป

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น