Mutagen : Lucky rises มิวทาเจน : ลัคกี้เรืองอำนาจ - นิยาย Mutagen : Lucky rises มิวทาเจน : ลัคกี้เรืองอำนาจ : Dek-D.com - Writer
×

    Mutagen : Lucky rises มิวทาเจน : ลัคกี้เรืองอำนาจ

    แม้ว่าสัตว์ร้ายกลายพันธุ์จะถูกค้นพบ แต่ว่าการจัดการที่ล่าช้าและความสับสนเปิดโอกาสให้ ลัคกี้ รวบรวมไพร่พลในหุบเขาได้สำเร็จ และการเคลื่อนไหวเริ่มขึ้นแล้ว

    ผู้เข้าชมรวม

    190

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    190

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    5
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  24 ก.ย. 61 / 16:23 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

            ท่ามกลางแสงสีส้มของดวงตะวันยามโพล้เพล้ ชายป่าดงอันเงียบสงบของหุบเขาดงโขมดเย็น สายลมหวีดหวิวไปมาราวกับเสียงดนตรีขับกล่อมให้สรรพสัตว์แห่งแดนเถื่อนได้ยิน เสียงจางๆดังแว่วมาตามวายุอย่างน่าประหลาด เหมือนกับเสียงกระซิบของธรรมชาติที่บอบช้ำเพราะการกระทำอันเลวร้ายของหลายๆคน

    "ในเถื่อนดงพงไพร       มนุษย์ใยมาสร้างรัง
     ท่าทางดูขึงขัง            เข้ามาจังในแดนเรา
     พวกเขาทำประหลาด    เกิดผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง
     เปลี่ยนแปลงไปถึงทรวง คงเพราะดวงข้าจึงคุม"

       แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดเข้ามาในกระท่อมหลังน้อยที่เคยเป็นบ่อนการพนันอันลือชื่อ เจ้าสิ่งมีชีวิตรูปร่างผิดขนาดค่อยๆปีนป่านไต่ผนังด้วยเท้าที่มีพลังในการเกาะมหาศาล มันหันหัวไปมาแล้วไต่เข้าไปในอาคารหลังน้อยอย่างรวดเร็ว เสียงร้องของมันดังขึ้นเป็นระยะชวนให้ใครก็ตามที่ได้ยินรู้สึกไม่สบายใจ

    "ในหนองเห็ดกระสือ      ที่ขึ้นชื่อลือน่ากลัว
     ใต้น้ำที่มืดมัว               มีตัวข้าที่คืบคลาน
     อาหารแอบข้ามมา        พวกพ้องข้าเข้าโรมรัน
     เข้าล้อมจนทางตัน        แต่มันกลับมีปืนไฟ"

        ดอกบัวดอกหนึ่งค่อยๆขยับไปมาอย่างผิดปกติบนสายน้ำนิ่งแห่งบึงที่เต็มไปด้วยตะไคร่ขุ่นคลั่กและพืชน้ำมากมาย ฟองอากาศผุดพรายขี้นมาบนผิวน้ำก่อนที่สัตว์เลื้อยคลานร่างยักษ์จะค่อยๆพาร่างกายอันใหญ่โตขึ้นเหนือน้ำ จระเข้ยักษ์เกล็ดแวววาวสีมรกตมองไปรอบๆคอยระแวงระไวไม่ให้ใครมาคุกคามไข่ใบน้อยๆของมันได้ เช่นเดียวกับสัตว์อื่นๆที่ค่อยๆขึ้นสู่ผิวน้ำแล้วชูร่างขึ้นรับลมเย็นยามอาทิตย์อัสดง

    "พวกพ้องพี่น้องข้า        ที่โดนล่าควบคุมจิต
     ผิดเพี้ยนวิปริต             ปรสิตเข้ายึดร่าง
     มีบ้างที่ข้าช่วย             แต่พ่ายด้วยจำนวนไง
     พวกมันแสนว่องไว        ข้านั้นไซร้ไล่ไม่ทัน"

       พญาหมูป่าตัวโตนั่งนิ่งอยู่บนเนินดิน จ้องมองป่ารกทึบยามเย็นที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อลวงนำพาสู่การโดนช่วงชิงอิสระภาพ มันมองเหล่าพันธมิตรและสหายร่วมฝูงที่บัดนี้กลายเป็นสิ่งที่ดูผิดธรรมชาติและน่าหวาดกลัว ช่างน่าเศร้าที่มันไม่สามารถปลดปล่อยพวกพ้องจากปรสิตที่ชั่วร้ายได้ มันหลับตาลง น้ำตาลูกผู้ชายไหลไปตามแก้มที่เต็มไปด้วยขนสีขาวหยาบกร้าน สายลมพัดผ่านร่างกายอันใหญ่โตจนขนสีขาวปลิวไสวดุจผืนธง

    "ดินแดนอาณาจักร        ที่เรารักมาช้านาน
     กลับถูกมันรุกราน         เปลวเพลิงผลาญไร้ปราณี
     พวกนี้อาละวาด           ไล่ยิงกราดเข้าทำลาย
     แผ่นดินพังทลาย          แต่เราจะไม่ตายฟรี"

       ณ อาณาจักรใหญ่ที่อยู่ใต้ป่าเสื่อมโทรมอันเต็มไปด้วยต้นไม้แห้งๆยืนต้นตาย เหล่าแมลงร่างใหญ่ผิดปกติเดินขบวนไปมาในรังขนาดมหึมาของพวกมัน ในห้องพิเศษสำหรับผู้ที่จะสืบทอดราชบัลลังก์ มกุฎราชกุมารีแห่งอาณาจักรกำลังมองน้องๆของเธอที่บาดเจ็บสาหัสจากการป้องกันอาณาจักรจากผู้รุกราน แม้ว่ามดงานจำนวนไม่น้อยจะคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง แต่ว่าก็ไม่สามารถรักษาปีกที่โดนเปลวไฟเผาผลาญของน้องสาวได้ เธอกำมือแน่น ก่อนที่จะออกจากห้องนี้เพื่อไปหามารดาแห่งอาณาจักร เธอจะต้องแก้แค้นให้พวกพ้องของเธอให้ได้ จิตใจที่รุ่มร้อนและแววตาที่มุ่งมั่น มดตัวใดได้เห็นต้องหลีกหนีกันทุกราย

    "ผืนป่าอันกว้างใหญ่       สายน้ำไหลเย็นสุดแสน
     ข้านั้นสุดหวงแหน         ก็ดินแดนที่ข้าครอง
     สิบสองคนชั่วนั้น           เสียงปืนลั่นแสนสะท้าน
     ตัวข้าแสนร้าวราน          โดนหลังอานมันกัดก้น"

        พญาหมีใหญ่นั่งอยู่ริมผาเดือนดับ มันมองอาทิตย์ที่กำลังลับฟ้าด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว ทุกครั้งที่มันขยับร่างกายที่เต็มไปด้วยขนสีดำสลวยสวยดกหนาของมัน มันจะต้องเจ็บปวดทุกครั้งไป รอยบาดแผลนับไม่ถ้วนที่อยู่บนร่างใหญ่หนาของมันทำให้มันรู้สึกแย่อย่างเห็นได้ชัด ไม่แม้แต่น้ำผึ้งหวานลิ้นหรือน้ำใสไหลเย็นจะช่วยบรรเทาบาดแผลบนกายาของมันได้ มันเงี่ยหูหลายอันของมันฟังเสียงเพรียกของสายลม ก่อนที่จะยืนขึ้นด้วย2ขาหลังแล้วร้องคำรามอย่างองอาจก่อนที่ตะวันจะหายไปจากสายตา เสียงกู่ร้องสะท้อนไปมาในหุบเขาแสดงถึงความพิโรธของพญาหมีควาย ดาวหมีใหญ่ขึ้นสู่ฟ้าแล้ว

    "เดินทางจากแดนไกล   แต่กลับไซร้ไปไม่ถึง
     เจ็บปวดแสนตราตรึง    จึงต้องจากแดนมารดา
     อำนาจโชคชะตา         ได้ปลุกข้าจนต้องตื่น
     คนตายจะหวนคืน         จะกลับฟื้นคืนชีวิต"

         ในป่าลึกที่ชื้นแฉะและรกชัฎ ท่ามกลางความชื้นชวนอึดอัดและความมืดมิดเพราะร่มไม้หนา ที่นี่เป็นสถาณที่ๆเรียกกันว่าป่าของผู้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ป่าลืมเลือน เห็ดสีเหลืองเหมือนน้ำหนองดอกแล้วดอกเล่าขึ้นเต็มพื้นที่ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยอาหารอันโอชะของเหล่าผู้ย่อยสลาย ร่างเล็กๆร่างหนึ่งที่ดูเหมือนกับเสียชีวิตแล้วกลับกระตุกทีละนิด ก่อนที่ดวงตาของผู้นั้นจะลืมขึ้นมองโลกเลวร้ายเกินแก้ เด็กน้อยคนหนึ่งค่อยๆพยูงร่างของตนเองขึ้นอย่างยากลำบาก แล้วเสียงสะอื้นก็ค่อยๆดังขึ้น ปลดปล่อยความทุกข์โศกให้พัดพาไปตามสายลมแห่งพงไพร เหงาหงอย ทุกข์โศก หนาวเหน็บ เดียวดาย เสียงร่ำไห้โหยหวนชวนขนลุกทำให้แผ่นดินที่เน่าหนอนและแปดเปื้อนนี้สั่นสะเทือน ได้เวลาทวงความเป็นธรรมแล้ว

    "สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยง        อยู่คู่เคียงเจ้าของไง
     แต่นายกลับทิ้งไป         ปล่อยให้ข้าต้องโรยรา
     ในป่าที่สาบสูญ            แสนอาดูร อนิจจัง
     มันปลุกเร้าเติมพลัง       เพลงศึกดังในจิตใจ" 

           เสียง เสียงที่ปลุกเร้าให้หมาน้อยตัวหนึ่งรู้สึกผิดปกติ นับตั้งแต่มันตามเหล่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาที่นี่ได้ไม่นานนัก มันรู้สึกปวดหัวแปลกๆ มันเริ่มมีความคิดที่ซับซ้อนกว่าเดิม มันเริ่มจำอดีตของมันได้ บางอย่างที่อยู่ลึกลงไปในก้นบึ้งของความทรงจำของมัน มันปวดร้าว มันเจ็บแบบที่ไม่มีอะไรสามารถอธิบายได้ มันค่อยๆหันไปมองซากโลหะและอุปกรณ์ที่บิดเบี้ยวและผุพัง มันรู้สึกว่าเจ้าของแข็งสีเขียวที่อยู่ในลูกแก้วนั้น มันมีพลัง มันทำให้ผืนป่านี้เปลี่ยนไป มันมอบพละกำลัง มันมอบความคิดพิจารณา และมันมีพลังที่เหนือธรรมชาติอย่างแน่นอน ฟ้าประทานโอกาสให้มันแล้ว และคราวนี้ มันจะไม่ยอมโดนกระทำฝ่ายเดียวอีกต่อไปแล้ว มันนึกถึงชื่อแรกที่เจ้าของเก่าของมันตั้งให้ ลัคกี้ นับแต่นี้ลัคกี้จะไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว รวมถึงเพื่อนพ้องทุกตัวของพวกมันด้วย 

    มันส่งเสียงขู่กรรโชกในลำคอ เงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วก็หอนยาว เสียงหอนนี้เปรียบเสมือนเสียงดนตรีบรรเลงปลุกเร้าความกล้าในจิตใจของสุนัข เหมือนเพลงของคณะปฏิวัติที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้น ทุกๆชีวิตที่ได้ยินเสียงหอนนี้ค่อยๆหันตรงมาทางศูนย์วิจัยลับกลางป่าก่อนที่จะทำตาลุกวาวแล้วส่งเสียงร้องตาม ค่ำคืนนั้น ดวงดาวพราวแสงและพระจันทร์วันเพ็ญ หุบเขาดงโขมดเย็นก้องกังวานไปด้วยเสียงเห่าหอนบรรเลงถักทอขึ้นมาเป็นบทเพลง เสียงที่จะเปลี่ยนทุกอย่างแบบที่ไม่มีใครคิดถึง 

    มันเริ่มขึ้นแล้ว . . . . .

    มีใครบางคนปล่อยยักษ์ออกมาจากตะเกียง และการที่จะทำให้ยักษ์กลับเข้าไปในตะเกียงอีกครั้ง มันไม่ง่ายแน่นอน


    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น