ท่ามกลางแสงสีส้มของดวงตะวันยามโพล้เพล้ ชายป่าดงอันเงียบสงบของหุบเขาดงโขมดเย็น สายลมหวีดหวิวไปมาราวกับเสียงดนตรีขับกล่อมให้สรรพสัตว์แห่งแดนเถื่อนได้ยิน เสียงจางๆดังแว่วมาตามวายุอย่างน่าประหลาด เหมือนกับเสียงกระซิบของธรรมชาติที่บอบช้ำเพราะการกระทำอันเลวร้ายของหลายๆคน
"ในเถื่อนดงพงไพร มนุษย์ใยมาสร้างรัง
ท่าทางดูขึงขัง เข้ามาจังในแดนเรา
พวกเขาทำประหลาด เกิดผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง
เปลี่ยนแปลงไปถึงทรวง คงเพราะดวงข้าจึงคุม"
แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดเข้ามาในกระท่อมหลังน้อยที่เคยเป็นบ่อนการพนันอันลือชื่อ เจ้าสิ่งมีชีวิตรูปร่างผิดขนาดค่อยๆปีนป่านไต่ผนังด้วยเท้าที่มีพลังในการเกาะมหาศาล มันหันหัวไปมาแล้วไต่เข้าไปในอาคารหลังน้อยอย่างรวดเร็ว เสียงร้องของมันดังขึ้นเป็นระยะชวนให้ใครก็ตามที่ได้ยินรู้สึกไม่สบายใจ
"ในหนองเห็ดกระสือ ที่ขึ้นชื่อลือน่ากลัว
ใต้น้ำที่มืดมัว มีตัวข้าที่คืบคลาน
อาหารแอบข้ามมา พวกพ้องข้าเข้าโรมรัน
เข้าล้อมจนทางตัน แต่มันกลับมีปืนไฟ"
ดอกบัวดอกหนึ่งค่อยๆขยับไปมาอย่างผิดปกติบนสายน้ำนิ่งแห่งบึงที่เต็มไปด้วยตะไคร่ขุ่นคลั่กและพืชน้ำมากมาย ฟองอากาศผุดพรายขี้นมาบนผิวน้ำก่อนที่สัตว์เลื้อยคลานร่างยักษ์จะค่อยๆพาร่างกายอันใหญ่โตขึ้นเหนือน้ำ จระเข้ยักษ์เกล็ดแวววาวสีมรกตมองไปรอบๆคอยระแวงระไวไม่ให้ใครมาคุกคามไข่ใบน้อยๆของมันได้ เช่นเดียวกับสัตว์อื่นๆที่ค่อยๆขึ้นสู่ผิวน้ำแล้วชูร่างขึ้นรับลมเย็นยามอาทิตย์อัสดง
"พวกพ้องพี่น้องข้า ที่โดนล่าควบคุมจิต
ผิดเพี้ยนวิปริต ปรสิตเข้ายึดร่าง
มีบ้างที่ข้าช่วย แต่พ่ายด้วยจำนวนไง
พวกมันแสนว่องไว ข้านั้นไซร้ไล่ไม่ทัน"
พญาหมูป่าตัวโตนั่งนิ่งอยู่บนเนินดิน จ้องมองป่ารกทึบยามเย็นที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อลวงนำพาสู่การโดนช่วงชิงอิสระภาพ มันมองเหล่าพันธมิตรและสหายร่วมฝูงที่บัดนี้กลายเป็นสิ่งที่ดูผิดธรรมชาติและน่าหวาดกลัว ช่างน่าเศร้าที่มันไม่สามารถปลดปล่อยพวกพ้องจากปรสิตที่ชั่วร้ายได้ มันหลับตาลง น้ำตาลูกผู้ชายไหลไปตามแก้มที่เต็มไปด้วยขนสีขาวหยาบกร้าน สายลมพัดผ่านร่างกายอันใหญ่โตจนขนสีขาวปลิวไสวดุจผืนธง
"ดินแดนอาณาจักร ที่เรารักมาช้านาน
กลับถูกมันรุกราน เปลวเพลิงผลาญไร้ปราณี
พวกนี้อาละวาด ไล่ยิงกราดเข้าทำลาย
แผ่นดินพังทลาย แต่เราจะไม่ตายฟรี"
ณ อาณาจักรใหญ่ที่อยู่ใต้ป่าเสื่อมโทรมอันเต็มไปด้วยต้นไม้แห้งๆยืนต้นตาย เหล่าแมลงร่างใหญ่ผิดปกติเดินขบวนไปมาในรังขนาดมหึมาของพวกมัน ในห้องพิเศษสำหรับผู้ที่จะสืบทอดราชบัลลังก์ มกุฎราชกุมารีแห่งอาณาจักรกำลังมองน้องๆของเธอที่บาดเจ็บสาหัสจากการป้องกันอาณาจักรจากผู้รุกราน แม้ว่ามดงานจำนวนไม่น้อยจะคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง แต่ว่าก็ไม่สามารถรักษาปีกที่โดนเปลวไฟเผาผลาญของน้องสาวได้ เธอกำมือแน่น ก่อนที่จะออกจากห้องนี้เพื่อไปหามารดาแห่งอาณาจักร เธอจะต้องแก้แค้นให้พวกพ้องของเธอให้ได้ จิตใจที่รุ่มร้อนและแววตาที่มุ่งมั่น มดตัวใดได้เห็นต้องหลีกหนีกันทุกราย
"ผืนป่าอันกว้างใหญ่ สายน้ำไหลเย็นสุดแสน
ข้านั้นสุดหวงแหน ก็ดินแดนที่ข้าครอง
สิบสองคนชั่วนั้น เสียงปืนลั่นแสนสะท้าน
ตัวข้าแสนร้าวราน โดนหลังอานมันกัดก้น"
พญาหมีใหญ่นั่งอยู่ริมผาเดือนดับ มันมองอาทิตย์ที่กำลังลับฟ้าด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว ทุกครั้งที่มันขยับร่างกายที่เต็มไปด้วยขนสีดำสลวยสวยดกหนาของมัน มันจะต้องเจ็บปวดทุกครั้งไป รอยบาดแผลนับไม่ถ้วนที่อยู่บนร่างใหญ่หนาของมันทำให้มันรู้สึกแย่อย่างเห็นได้ชัด ไม่แม้แต่น้ำผึ้งหวานลิ้นหรือน้ำใสไหลเย็นจะช่วยบรรเทาบาดแผลบนกายาของมันได้ มันเงี่ยหูหลายอันของมันฟังเสียงเพรียกของสายลม ก่อนที่จะยืนขึ้นด้วย2ขาหลังแล้วร้องคำรามอย่างองอาจก่อนที่ตะวันจะหายไปจากสายตา เสียงกู่ร้องสะท้อนไปมาในหุบเขาแสดงถึงความพิโรธของพญาหมีควาย ดาวหมีใหญ่ขึ้นสู่ฟ้าแล้ว
"เดินทางจากแดนไกล แต่กลับไซร้ไปไม่ถึง
เจ็บปวดแสนตราตรึง จึงต้องจากแดนมารดา
อำนาจโชคชะตา ได้ปลุกข้าจนต้องตื่น
คนตายจะหวนคืน จะกลับฟื้นคืนชีวิต"
ในป่าลึกที่ชื้นแฉะและรกชัฎ ท่ามกลางความชื้นชวนอึดอัดและความมืดมิดเพราะร่มไม้หนา ที่นี่เป็นสถาณที่ๆเรียกกันว่าป่าของผู้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ป่าลืมเลือน เห็ดสีเหลืองเหมือนน้ำหนองดอกแล้วดอกเล่าขึ้นเต็มพื้นที่ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยอาหารอันโอชะของเหล่าผู้ย่อยสลาย ร่างเล็กๆร่างหนึ่งที่ดูเหมือนกับเสียชีวิตแล้วกลับกระตุกทีละนิด ก่อนที่ดวงตาของผู้นั้นจะลืมขึ้นมองโลกเลวร้ายเกินแก้ เด็กน้อยคนหนึ่งค่อยๆพยูงร่างของตนเองขึ้นอย่างยากลำบาก แล้วเสียงสะอื้นก็ค่อยๆดังขึ้น ปลดปล่อยความทุกข์โศกให้พัดพาไปตามสายลมแห่งพงไพร เหงาหงอย ทุกข์โศก หนาวเหน็บ เดียวดาย เสียงร่ำไห้โหยหวนชวนขนลุกทำให้แผ่นดินที่เน่าหนอนและแปดเปื้อนนี้สั่นสะเทือน ได้เวลาทวงความเป็นธรรมแล้ว
"สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยง อยู่คู่เคียงเจ้าของไง
แต่นายกลับทิ้งไป ปล่อยให้ข้าต้องโรยรา
ในป่าที่สาบสูญ แสนอาดูร อนิจจัง
มันปลุกเร้าเติมพลัง เพลงศึกดังในจิตใจ"
เสียง เสียงที่ปลุกเร้าให้หมาน้อยตัวหนึ่งรู้สึกผิดปกติ นับตั้งแต่มันตามเหล่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาที่นี่ได้ไม่นานนัก มันรู้สึกปวดหัวแปลกๆ มันเริ่มมีความคิดที่ซับซ้อนกว่าเดิม มันเริ่มจำอดีตของมันได้ บางอย่างที่อยู่ลึกลงไปในก้นบึ้งของความทรงจำของมัน มันปวดร้าว มันเจ็บแบบที่ไม่มีอะไรสามารถอธิบายได้ มันค่อยๆหันไปมองซากโลหะและอุปกรณ์ที่บิดเบี้ยวและผุพัง มันรู้สึกว่าเจ้าของแข็งสีเขียวที่อยู่ในลูกแก้วนั้น มันมีพลัง มันทำให้ผืนป่านี้เปลี่ยนไป มันมอบพละกำลัง มันมอบความคิดพิจารณา และมันมีพลังที่เหนือธรรมชาติอย่างแน่นอน ฟ้าประทานโอกาสให้มันแล้ว และคราวนี้ มันจะไม่ยอมโดนกระทำฝ่ายเดียวอีกต่อไปแล้ว มันนึกถึงชื่อแรกที่เจ้าของเก่าของมันตั้งให้ ลัคกี้ นับแต่นี้ลัคกี้จะไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว รวมถึงเพื่อนพ้องทุกตัวของพวกมันด้วย
มันส่งเสียงขู่กรรโชกในลำคอ เงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วก็หอนยาว เสียงหอนนี้เปรียบเสมือนเสียงดนตรีบรรเลงปลุกเร้าความกล้าในจิตใจของสุนัข เหมือนเพลงของคณะปฏิวัติที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้น ทุกๆชีวิตที่ได้ยินเสียงหอนนี้ค่อยๆหันตรงมาทางศูนย์วิจัยลับกลางป่าก่อนที่จะทำตาลุกวาวแล้วส่งเสียงร้องตาม ค่ำคืนนั้น ดวงดาวพราวแสงและพระจันทร์วันเพ็ญ หุบเขาดงโขมดเย็นก้องกังวานไปด้วยเสียงเห่าหอนบรรเลงถักทอขึ้นมาเป็นบทเพลง เสียงที่จะเปลี่ยนทุกอย่างแบบที่ไม่มีใครคิดถึง
มันเริ่มขึ้นแล้ว . . . . .
มีใครบางคนปล่อยยักษ์ออกมาจากตะเกียง และการที่จะทำให้ยักษ์กลับเข้าไปในตะเกียงอีกครั้ง มันไม่ง่ายแน่นอน
ความคิดเห็น