คุณหูนตัวแสบพักยกมารักคุณชายขายน้ำแข็งใส - นิยาย คุณหูนตัวแสบพักยกมารักคุณชายขายน้ำแข็งใส : Dek-D.com - Writer
×

    คุณหูนตัวแสบพักยกมารักคุณชายขายน้ำแข็งใส

    รื่องราวเกี่ยวกับความรักของหนุ่มสาวที่มีพี่ชายสุดที่รักของเอมเป็นคนวางแผนเพื่อให้น้องสาวสุดที่รักของเค้าพ้นจากการจับคู่ของผู้เป็นพ่อแล้วเมื่อหญิงสาวรู้ว่าคนที่เค้าตกหลุมเกิดจากการวางแผนจะทำอย่างไร

    ผู้เข้าชมรวม

    80

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    80

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  28 มี.ค. 58 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                                                                        บทที่   1                                                                                                  

                    เช้าวันใหม่ที่สดใสในกรุงเทพมีหญิงสาวกำลังนอนพักผ่อนอย่างมีความสุขอยู่ในห้องที่ติดแอร์ปรับอากาศเนื่องจากวันนี้หญิงสาวไม่ต้องออกไปกองถ่าย  หญิงสาวเลยขอนอนให้เต็มอิ่มเนื่องจากหญิงสาวนอนไม่พอมาหลายวันแล้วเนื่องจากการถ่ายละคร  แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องลุกออกจากที่นอนเพราะมีแม่บ้านมาเคาะประตู

                    ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก......

                    “คุณหนูค่ะ  คุณหูน  ตื่นหรือยังค่ะคุณผู้หญิงโทรมาจากเชียงรายค่ะ

                    “คุณหนูค่ะ  คุณ…”

                    ไม่ทันที่แม่บ้านจะพูดจบหญิงสาวก็เปิดประตูออกมาโวยวายลั่นบ้านเนื่องจากถูกรบกวนจากการนอนพักผ่อน

                    “มีอะไรป้าเนียมเรียกอยู่ได้มีใครตายหรือไง

                    หญิงสาวเดินออกไปเปิดด้วยความโมโห  ที่ทำให้เธอต้องลุกมาจากที่นอน  เพราะง่วงอยู่และนี้ก็พึ่งจะแจ็ดโมงเช้าเอง

                    “ไม่มีใครตายหรอกค่ะคุณหนู

                    “แต่ว่าคุณผู้หญิงโทรมาจากเชียงรายค่ะคุณหนู

                    “คุณแม่โทรมาทำไม

                    “ไม่ทราบค่ะแต่คุณผู้หญิงบอกว่าจะคุยกับคุณหูนน่ะค่ะ

                    “นี่ค่ะคุณหนู

                    “อืม

    แม่บ้านส่งโทรศัพท์มาให้จากนั้นก็เดินกลับไปข้างล่างเพื่อที่จะได้กลับไปทำงานบ้านที่ข้างไว้และจะได้ทำอาหารให้คุณหนูของเธอ  ส่วนหญิงสาวเมื่อรับโทรศัพท์ก็กรอกเสียงหวานไปให้กับผู้เป็นแม่โดยทันที

                    (  คะคุณแม่  )

                    (  มีอะไรรึเปล่าค่ะคุณแม่โทรมาหาเอมแต่เช้าเลยค่ะ  )

                   

    2

    (  ไม่มีอะไรหรอกหนูเอม  )

                    (  แม่คิดถึงหนูเอมนะ แม่ก็เลยโทรไปหาหนูเอมไงจ๊ะ  )

                    (  เอมไม่เชื่อคุณแม่หรอกค่ะเพราะถ้าคุณแม่คิดถึงเอมจริงๆคุณแม่ก็ต้องมาหาเอมที่กรุงเทพแล้วล่ะค่ะ  ) 

                    หญิงสาวพูดด้วยนำเสียงน้อยอกน้อยใจเพราะเมื่อผู้เป็นแม่โทรมาทีไรก็บอกว่าคิดถึงแต่ว่าผู้เป็นแม่ก็ไม่เคยที่จะมาหาเธอเลยสักครั้ง  หญิงสาวจึงน้อยใจ

                    (  โธ่ๆอย่าพึ่งน้อยไปสิจ๊ะหนูเอมแม่นะคิดถึงหนูนะแต่แม่ไม่ว่างจริงๆนจ๊ะ  )

                    (  เอาไว้แม่ว่างเมื่อไรแม่จะรีบไปหาหนูเอมทันทีเลยนะจ๊ะ  )

                    (  ค่ะคุณแม่เอมเข้าใจ  )

                    (  เอมแม่รักหนูนะเอม  )

                    (  ค่ะคุณแม่เอมก็รักคุณแม่เหมือนกันค่ะแล้วก็คิดถึงคุณแม่มากเลยค่ะ  )

                    (  จ๊ะเอาไว้ค่อยคุยกันใหม่น่ะจ๊ะ  )

                    (  คะคุณแม่สวัสดีค่ะ  )

                    หลังจากที่หญิงสาววางสายจากผู้เป็นแม่ไปแล้วก็อดหน้าเสียไม่ได้เพราะมันทำให้เธออดคิดถึงเรื่องเมื่อสองปีที่ผ่านไปเสียไม่ได้เพราะมันเป็นสาเหตุทีทำให้เธอต้องออกจากบ้านมาอยู่ที่กรุงเทพ  เนื่องจากไม่ต้องการที่จะทะเลาะกับผู้เป็นพ่อ  เมื่อหญิงสาวนึกแล้วก็เหนื่อยใจกลับเรื่องที่เกิดขึ้น  หญิงสาวคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้สาระแต่สำหรับผู้เป็นพ่อแล้วนั้นไม่ใช่เลย

    ย้อนไปเมื่อสองปีก่อน

                    หญิงสาวนั่งอยู่ที่หน้าที่วีอย่างใจจดใจจ่อเพราะหญิงสาวกำลังนั่งรอดูละครที่หญิงสาวเล่นเป็นเรื่องแรกอย่างตื่นเต้นแต่แล้วหญิงสาวก็ต้องละสยายตาออกมาจากทีวีเนื่องจากผู้เป็นพ่อที่กำลังเข้ามาส่งเสียงเรียกชื่อของหญิงสาว

                    “หนูเอมทำอะไรอยู่ลูก

    3

    “พอมีเวลาว่างคุยกับพ่อหน่อยมั้ยลูก

                    “เอมกำลังรอดูละครที่เอมเล่นเป็นเรื่องแรกอยู่ค่ะคุณพ่อ

                    “คุณพ่อมีอะไรจะคุยกับเอมหรือค่ะ

                    “ไม่เป็นไรหนูเอมเอาไว้ค่อยคุยกันตอนที่หนูเอมดูละครจบก่อนก็ได้

                    “ค่ะคุณพ่อ

                    “ถ้าอย่างนั้นพ่อไปอาบน้ำก่อนน่ะแล้วพ่อจะมาดูละครที่ลูกเล่นด้วย

                    “ค่ะคุณพ่อ

                    หลังจากผู้เป็นพ่อบอกกับลูกสาวเสร็จก็เดินขึ้นห้องไปแล้วหญิงสาวก็หันหน้ามาดูทีวีต่ออย่างตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเพราะนี่เป็นละครเรื่องแรกของเขาไม่รู้จะมีคนดูมากน้อยเพียงใด  และแล้วการรอคอยก็มาถึงเพราะละครที่เธอแสดงกำเล่นแล้วพร้อมกับผู้เป็นพ่อและคนในครอบครัวมาถึงพอดี  ทุกนั่งดูละครที่หญิงสาวเล่นด้วยกันอย่างใจจดใจจ่อพร้อมกับชมหญิงสาวไปด้วยความอินดู  แต่แล้วความสุขก็ต้องดับลงหลังจากละครที่ละครจบ    

                    “เอมอยู่คุยกับพ่อก่อนน่ะพ่อมีเรื่องสำคัญจะพูดกับลูก”  

                    “ได้ค่ะคุณพ่อ

     “คุณพ่อมีอะไรหรือค่ะดูเครียดยังเลยค่ะ

    “หนูเอมวันลูกโตเป็นผู้ใหญ่แล้วน่ะ  มันทำให้พ่อรู้ว่าลูกของพ่อสามารถดูแลตัวเองได้และก็พร้อมที่จะสร้างครอบครัวได้แล้ว

                    “อะไรน่ะค่ะคุณพ่อเรื่องที่ว่าสามารถเลี้ยงตัวเองได้เอมเข้าใจค่ะ

                    “แต่เรื่องที่พร้อมที่จะสร้างครอบครัวเอมไม่เข้าใจค่ะ

                    หญิงสาวถามออกไปด้วยความงง เพราะผู้เป็นพ่อไม่เคยพูดถึงเรื่องการมีครอบครัวของหญิงสาวเลยและถ้าจะพูดเรื่องพวกนี้ถ้าพูดถึงน่าจะพูดกับพวกพี่ๆของเธอเสียมากกว่า

                    “เอมฟังพ่อนะพ่อไม่รู้หรอกนะว่าชีวิตของพ่อจะอยู่ดูแลเอมไปอีกนานเท่าไร  เพราะพ่อเองก็อายุมากแล้วจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้

                    “พ่อค่ะทำไมพ่อพูดแบบนี้ล่ะค่ะ  พ่อของเอมยังหนุ่มอยู่เลยค่ะพ่อต้องอยู่กับเอมไปอีกนานค่ะ

    4

    หญิงสาวพูดกับผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อนพลางยิ้มอย่างน่าอินดูไปให้ผู้เป็นพ่อแต่ผู้เป็นพ่อนั้นไม่มีทีท่าที่จะเล่นด้วยเลย

                    “เอมพ่ออยากให้ลูกแต่งงาน

                    เมื่อหญิงสาวได้เย็นก็ถึงกับหน้าชาไปทั้งหน้าเพราะไม่คิดว่าผู้เป็นพ่อจะพูดกับเธอเช่นนี้  แล้วก็นึกน้อยใจว่าผู้เป็นพ่อไม่รักเธอแล้ว  จึงอยากให้เข้าไปอยู่กับคนอื่น  เมื่อหญิงสาวคิดอย่างนั้นน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว  พร้อมตอบผู้เป็นพ่อออกไปด้วยความโมโห

                    “ไม่ค่ะพ่อเอมไม่แต่ง  เอมจะไม่ยอมแต่งกับคนที่เอมไม่ได้รักหรอกค่ะ

                    “ถ้าอยากแต่งก็แต่งไปคนเดียวเถอะค่ะเอมไม่แต่ง

                    “เอมพ่อไม่คิดว่าเอมจะเป็นแบบนี้ทำไมไม่เชื่อพ่อบ้าง

                    “ไม่รู้ล่ะยังไงลูกก็ต้องแต่งพ่อถือว่านี่คือคำสั่ง

                    “และถ้าลูกไม่ทำตามก็อย่ามาเรียกพ่อว่าพ่อ

     “พ่อ

                    หลังจากผู้เป็นพ่อเป็นพ่อพูดจบก็เดินขึ้นห้องไปโดยไม่หันมามองหน้าลูกสาวอีกเลย  และจากนั้นผู้เป็นพ่อไม่พูดกับเธอหรือบางครั้งถ้าพูดก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา  และก็ตามมาด้วยกับการทะเลาะทุกครั้ง  ทำให้หญิงสาวตัดสินที่จะมาอยู่กรุงเทพ  และทำงานการแสดงที่ตนชอบมาถึงสองปีแล้ว  และจะไม่ยอมกลับจนกว่าผู้เป็นพ่อจะยกเลิกเรื่องแต่งงานบ้าๆนั้นซะ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น