คุณหูนตัวแสบพักยกมารักคุณชายขายน้ำแข็งใส
รื่องราวเกี่ยวกับความรักของหนุ่มสาวที่มีพี่ชายสุดที่รักของเอมเป็นคนวางแผนเพื่อให้น้องสาวสุดที่รักของเค้าพ้นจากการจับคู่ของผู้เป็นพ่อแล้วเมื่อหญิงสาวรู้ว่าคนที่เค้าตกหลุมเกิดจากการวางแผนจะทำอย่างไร
ผู้เข้าชมรวม
78
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เช้าวันใหม่ที่สดใสในกรุงเทพมีหญิงสาวกำลังนอนพักผ่อนอย่างมีความสุขอยู่ในห้องที่ติดแอร์ปรับอากาศเนื่องจากวันนี้หญิงสาวไม่ต้องออกไปกองถ่าย หญิงสาวเลยขอนอนให้เต็มอิ่มเนื่องจากหญิงสาวนอนไม่พอมาหลายวันแล้วเนื่องจากการถ่ายละคร แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องลุกออกจากที่นอนเพราะมีแม่บ้านมาเคาะประตู
ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก......
“คุณหนูค่ะ คุณหูน ตื่นหรือยังค่ะคุณผู้หญิงโทรมาจากเชียงรายค่ะ”
“คุณหนูค่ะ คุณ…”
ไม่ทันที่แม่บ้านจะพูดจบหญิงสาวก็เปิดประตูออกมาโวยวายลั่นบ้านเนื่องจากถูกรบกวนจากการนอนพักผ่อน
“มีอะไรป้าเนียมเรียกอยู่ได้มีใครตายหรือไง”
หญิงสาวเดินออกไปเปิดด้วยความโมโห ที่ทำให้เธอต้องลุกมาจากที่นอน เพราะง่วงอยู่และนี้ก็พึ่งจะแจ็ดโมงเช้าเอง
“ไม่มีใครตายหรอกค่ะคุณหนู”
“แต่ว่าคุณผู้หญิงโทรมาจากเชียงรายค่ะคุณหนู”
“คุณแม่โทรมาทำไม”
“ไม่ทราบค่ะแต่คุณผู้หญิงบอกว่าจะคุยกับคุณหูนน่ะค่ะ”
“นี่ค่ะคุณหนู”
“อืม”
แม่บ้านส่งโทรศัพท์มาให้จากนั้นก็เดินกลับไปข้างล่างเพื่อที่จะได้กลับไปทำงานบ้านที่ข้างไว้และจะได้ทำอาหารให้คุณหนูของเธอ ส่วนหญิงสาวเมื่อรับโทรศัพท์ก็กรอกเสียงหวานไปให้กับผู้เป็นแม่โดยทันที
( คะคุณแม่ )
( มีอะไรรึเปล่าค่ะคุณแม่โทรมาหาเอมแต่เช้าเลยค่ะ )
2
( ไม่มีอะไรหรอกหนูเอม )
( แม่คิดถึงหนูเอมนะ แม่ก็เลยโทรไปหาหนูเอมไงจ๊ะ )
( เอมไม่เชื่อคุณแม่หรอกค่ะเพราะถ้าคุณแม่คิดถึงเอมจริงๆคุณแม่ก็ต้องมาหาเอมที่กรุงเทพแล้วล่ะค่ะ )
หญิงสาวพูดด้วยนำเสียงน้อยอกน้อยใจเพราะเมื่อผู้เป็นแม่โทรมาทีไรก็บอกว่าคิดถึงแต่ว่าผู้เป็นแม่ก็ไม่เคยที่จะมาหาเธอเลยสักครั้ง หญิงสาวจึงน้อยใจ
( โธ่ๆอย่าพึ่งน้อยไปสิจ๊ะหนูเอมแม่นะคิดถึงหนูนะแต่แม่ไม่ว่างจริงๆนจ๊ะ )
( เอาไว้แม่ว่างเมื่อไรแม่จะรีบไปหาหนูเอมทันทีเลยนะจ๊ะ )
( ค่ะคุณแม่เอมเข้าใจ )
( เอมแม่รักหนูนะเอม )
( ค่ะคุณแม่เอมก็รักคุณแม่เหมือนกันค่ะแล้วก็คิดถึงคุณแม่มากเลยค่ะ )
( จ๊ะเอาไว้ค่อยคุยกันใหม่น่ะจ๊ะ )
( คะคุณแม่สวัสดีค่ะ )
หลังจากที่หญิงสาววางสายจากผู้เป็นแม่ไปแล้วก็อดหน้าเสียไม่ได้เพราะมันทำให้เธออดคิดถึงเรื่องเมื่อสองปีที่ผ่านไปเสียไม่ได้เพราะมันเป็นสาเหตุทีทำให้เธอต้องออกจากบ้านมาอยู่ที่กรุงเทพ เนื่องจากไม่ต้องการที่จะทะเลาะกับผู้เป็นพ่อ เมื่อหญิงสาวนึกแล้วก็เหนื่อยใจกลับเรื่องที่เกิดขึ้น หญิงสาวคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้สาระแต่สำหรับผู้เป็นพ่อแล้วนั้นไม่ใช่เลย
ย้อนไปเมื่อสองปีก่อน
หญิงสาวนั่งอยู่ที่หน้าที่วีอย่างใจจดใจจ่อเพราะหญิงสาวกำลังนั่งรอดูละครที่หญิงสาวเล่นเป็นเรื่องแรกอย่างตื่นเต้นแต่แล้วหญิงสาวก็ต้องละสยายตาออกมาจากทีวีเนื่องจากผู้เป็นพ่อที่กำลังเข้ามาส่งเสียงเรียกชื่อของหญิงสาว
“หนูเอมทำอะไรอยู่ลูก”
3
“พอมีเวลาว่างคุยกับพ่อหน่อยมั้ยลูก”
“เอมกำลังรอดูละครที่เอมเล่นเป็นเรื่องแรกอยู่ค่ะคุณพ่อ”
“คุณพ่อมีอะไรจะคุยกับเอมหรือค่ะ”
“ไม่เป็นไรหนูเอมเอาไว้ค่อยคุยกันตอนที่หนูเอมดูละครจบก่อนก็ได้”
“ค่ะคุณพ่อ”
“ถ้าอย่างนั้นพ่อไปอาบน้ำก่อนน่ะแล้วพ่อจะมาดูละครที่ลูกเล่นด้วย”
“ค่ะคุณพ่อ”
หลังจากผู้เป็นพ่อบอกกับลูกสาวเสร็จก็เดินขึ้นห้องไปแล้วหญิงสาวก็หันหน้ามาดูทีวีต่ออย่างตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเพราะนี่เป็นละครเรื่องแรกของเขาไม่รู้จะมีคนดูมากน้อยเพียงใด และแล้วการรอคอยก็มาถึงเพราะละครที่เธอแสดงกำเล่นแล้วพร้อมกับผู้เป็นพ่อและคนในครอบครัวมาถึงพอดี ทุกนั่งดูละครที่หญิงสาวเล่นด้วยกันอย่างใจจดใจจ่อพร้อมกับชมหญิงสาวไปด้วยความอินดู แต่แล้วความสุขก็ต้องดับลงหลังจากละครที่ละครจบ
“เอมอยู่คุยกับพ่อก่อนน่ะพ่อมีเรื่องสำคัญจะพูดกับลูก”
“ได้ค่ะคุณพ่อ”
“คุณพ่อมีอะไรหรือค่ะดูเครียดยังเลยค่ะ”
“หนูเอมวันลูกโตเป็นผู้ใหญ่แล้วน่ะ มันทำให้พ่อรู้ว่าลูกของพ่อสามารถดูแลตัวเองได้และก็พร้อมที่จะสร้างครอบครัวได้แล้ว”
“อะไรน่ะค่ะคุณพ่อเรื่องที่ว่าสามารถเลี้ยงตัวเองได้เอมเข้าใจค่ะ”
“แต่เรื่องที่พร้อมที่จะสร้างครอบครัวเอมไม่เข้าใจค่ะ”
หญิงสาวถามออกไปด้วยความงง เพราะผู้เป็นพ่อไม่เคยพูดถึงเรื่องการมีครอบครัวของหญิงสาวเลยและถ้าจะพูดเรื่องพวกนี้ถ้าพูดถึงน่าจะพูดกับพวกพี่ๆของเธอเสียมากกว่า
“เอมฟังพ่อนะพ่อไม่รู้หรอกนะว่าชีวิตของพ่อจะอยู่ดูแลเอมไปอีกนานเท่าไร เพราะพ่อเองก็อายุมากแล้วจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้”
“พ่อค่ะทำไมพ่อพูดแบบนี้ล่ะค่ะ พ่อของเอมยังหนุ่มอยู่เลยค่ะพ่อต้องอยู่กับเอมไปอีกนานค่ะ”
4
หญิงสาวพูดกับผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อนพลางยิ้มอย่างน่าอินดูไปให้ผู้เป็นพ่อแต่ผู้เป็นพ่อนั้นไม่มีทีท่าที่จะเล่นด้วยเลย
“เอมพ่ออยากให้ลูกแต่งงาน”
เมื่อหญิงสาวได้เย็นก็ถึงกับหน้าชาไปทั้งหน้าเพราะไม่คิดว่าผู้เป็นพ่อจะพูดกับเธอเช่นนี้ แล้วก็นึกน้อยใจว่าผู้เป็นพ่อไม่รักเธอแล้ว จึงอยากให้เข้าไปอยู่กับคนอื่น เมื่อหญิงสาวคิดอย่างนั้นน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว พร้อมตอบผู้เป็นพ่อออกไปด้วยความโมโห
“ไม่ค่ะพ่อเอมไม่แต่ง เอมจะไม่ยอมแต่งกับคนที่เอมไม่ได้รักหรอกค่ะ”
“ถ้าอยากแต่งก็แต่งไปคนเดียวเถอะค่ะเอมไม่แต่ง”
“เอมพ่อไม่คิดว่าเอมจะเป็นแบบนี้ทำไมไม่เชื่อพ่อบ้าง”
“ไม่รู้ล่ะยังไงลูกก็ต้องแต่งพ่อถือว่านี่คือคำสั่ง”
“และถ้าลูกไม่ทำตามก็อย่ามาเรียกพ่อว่าพ่อ”
“พ่อ”
หลังจากผู้เป็นพ่อเป็นพ่อพูดจบก็เดินขึ้นห้องไปโดยไม่หันมามองหน้าลูกสาวอีกเลย และจากนั้นผู้เป็นพ่อไม่พูดกับเธอหรือบางครั้งถ้าพูดก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา และก็ตามมาด้วยกับการทะเลาะทุกครั้ง ทำให้หญิงสาวตัดสินที่จะมาอยู่กรุงเทพ และทำงานการแสดงที่ตนชอบมาถึงสองปีแล้ว และจะไม่ยอมกลับจนกว่าผู้เป็นพ่อจะยกเลิกเรื่องแต่งงานบ้าๆนั้นซะ
ผลงานอื่นๆ ของ annsarin19522 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ annsarin19522
ความคิดเห็น