อุบัติรัก - นิยาย อุบัติรัก : Dek-D.com - Writer
×

    อุบัติรัก

    ผู้เข้าชมรวม

    54

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    54

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  26 ก.พ. 58 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เสียงสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสายภายนอกอาคาร  บวกกับเสียงจอกแจกจอแจของผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติ  ณ ท่าอากาศยานสนามบินนานาชาติปักกิ่งแห่งนี้ที่เดิมแน่นขนัดไปด้วยผู้คนมากมายอยู่แล้วก็ยิ่งเพิ่มจำนวนผู้คนที่ยังติดฝนอยู่ภายในอาคารให้มากขึ้นไปอีก   เมขลา นักท่องเที่ยวสาวชาวไทยก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ยังติดฝนอยู่ภายในอาคารผู้โดยสารขาเข้าแห่งนี้ 

    "ชั่วโมงนึงแล้วนะ ฝนยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเสียที  จะให้ฉันนอนค้างที่นี่หรือไงจ๊ะฝนจ๋า"เธอพึมพัมกับตัวเองเบาๆขณะที่สายตาก็จับจ้องผู้คนที่เดินไปมาภายในอาคาร  รวมถึงมองสถาปัตยกรรมอาคารผู้โดยสารที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติดอันดับโลกแห่งนี้  ก็พอช่วยบรรเทาอาการหงุดหงิดของเธอไปได้บ้าง  หากไม่ติดที่ว่าอี้ชิงเพื่อนสาวชาวจีนของเธอกำลังเดินทางมารับเธอแล้วล่ะก็  ป่านนี้เธอคงถึงที่พักของโรงแรมกระโดดขึ้นเตียงพักผ่อนร่างกายให้หายเมื่อยชดเชยกับที่ต้องนั่งเครื่องบินมาเป็นเวลานานแล้ว 

    "ป่านนี้แล้วอี้ชิงจะถึงไหนแล้วนะ  ฝนตกหนักเสียด้วยสิ"เธอยังคงพึมพัมกับตัวเองก่อนที่จะเดินหยิบกระเป๋าเดินทางเพื่อไปยังจุดนัดหมายของเธอกับเพื่อนสาว  ขณะที่ลากกระเป๋าเดินทางไปนั้นด้วยรูปร่างสูงโปร่งไม่ผอมจนเกินไปบวกกับดวงตากลมโตเป็นประกาย  จมูกโด่งเชิดเล็กน้อย  เข้ากับรูปปากเล็กๆของเธอ  รวมถึงผมดำยาวที่ถูกมัดไว้แบบหลวมๆ  ก็ส่งผลให้ดวงหน้าหวานล้ำของเธอเป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้คนในสนามบินได้ไม่ยาก  แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาสนใจสิ่งรอบข้างในเวลานี้เพราะโรงแรมที่เธอจองไว้ได้โทรมานัดหมายเวลากับเธอแล้วหากเธอยังไม่ได้ออกจากสนามบินภายในอีกชั่วโมงข้างหน้านี้หมายความว่าเธอจะต้องเตรียมตัวหาที่พักใหม่ได้เลย  ซึ่งแน่นอนอี้ชิงอาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ไม่รู้ได้  ถ้าหากเมขลาไม่มีที่พักเธออาจจะจะต้องไปค้างที่บ้านของอี้ชิง  แต่เธอไม่อยากจะไปรบกวนครอบครัวของเพื่อนสาวเธอ  จึงอยากจะรีบออกจากสนามบินแห่งนี้ให้ไวที่สุด

    เสียงโทรศัพท์ติดตามตัวดังขึ้น

    "เธออยู่ที่ไหนแล้ว"เมขลาถามปลายสาย

    "ฉันถึงแล้วเธอไปรอฉันที่ตรงประตูทางออกเลยนะ  รถฉันเธอจำได้ใช่ไหมที่เคยส่งให้ดูน่ะ"

    "อืม  แล้วเจอกัน"เมขลากดวางสายโทรศัพท์แล้วรีบวิ่งตรงไปที่ประตูทางออกทันที

    รถเก๋งสีแดงสี่ประตูขับเทียบเข้ามาทางฟุตบาท  เพื่อนสาวของเธอลดกระจกพลางตะโกนเรียกเธอทันที  เมขลาจึงรีบวิ่งไปหาเพิ่อนสาวเปิดประตูขึ้นรถอย่างรวดเร็วแล้วรีบปิดประตูก่อนที่จะโดนบีบแตรไล่หลัง

    "สวัสดีเม  รอฉันนานเลยสินะ  ขอโทษทีนะ ฝนตกหนักมากแล้วรถก็ติดมากจริงๆ"อู๋อี้ชิงกล่าวขอโทษเธอทันที ที่เธอเข้ามานั่งในห้องโดยสาร

    "ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันรู้ว่าเธอก็ลำบากเหมือนกันรถคงจะติดมากจริงๆ แค่เธอมารับฉันก็ดีใจมากแล้ว เธองานยุ่งขนาดไหน  ก็ยังแบ่งเวลามารับฉันเลย แค่นี้ฉันก็ขอบคุณเธอมากแล้ว"

    "เธอหิวหรือเปล่า  แวะกินอะไรก่อนไหม"

    "ไม่ล่ะ ฉันว่าจะไปเช็คอินที่โรงแรมก่อนน่ะ ก่อนที่จะโดนแคนนเซิลห้องไปซะก่อน  แล้วเราค่อยไปหาอะไรอร่อยๆกินกันดีไหม  เธอว่างหรือปล่าล่ะ  ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ  แวะส่งฉันท่โรงแรมก็พอ   ฉันค่อนข้างจะคุ้นเคยกับที่นี่อยู่แล้วเธอก็รู้ดีนี่"

    "เรื่องหลงทางฉันไม่ห่วงเธออยู่แล้ว ฉันรู้ว่าเธอเอาตัวรอดได้แต่ฉันกลัวเธอจะหิวจนเป็นลมไปซะก่อนที่จะถึงโรงแรมน่ะสิเพื่อนรัก  แล้วอีกอย่างวันนี้ฉันว่างทั้งวัน   เธอมาทั้งทีจะให้ฉันทำงานได้ไงล่ะ  วันนี้ยังไงฉันก็ต้องเลี้ยงข้าวเธอให้ได้นะเม  ห้ามปฏิเสธเพราะเราไม่ด้กินข้าวด้วยกันมาหลายปีแล้วนะหลังจากเธอเรียนจบไป"

    "ไปโรงแรมก่อนเถอะ  แล้วหลังจากนั้นไปไหนไปกันเลยอี้ชิง"เมขลาถอนหายใจ พลางหันไปยิ้มให้กับเพื่อนรักเก่าสมัยที่เธอมาใช้ชีวิตอยู่ที่ปักกิ่งในสมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย

    รถเก๋งสี่ประตูสีแดงขับฝ่าสายฝนมาเรื่อยๆจนมาถึงโรงแรมสี่ดาวแห่งหนึ่ง  ย่านถนนหวังฝูจิ่ง  หญิงสาวชาวไทยลงจากรถลากกระเป๋ามาตามทางเดินหลังจากนั้นมีพนักงานกุลีกุจอมารับกระเป๋าจากเธอ  เธอจึงเดินไปที่เคาน์เตอร์โรงแรมเพื่อเช็คอิน  หลังจากนั้นจึงไปเก็บของที่ห้องพักที่ได้ทำการจองไว้ล่วงหน้าทางอินเทอร์เนท   เมื่อจัดการข้าวของและทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้วจึงลงมาข้างล่างเพื่อไปหาอาหารกลางวันและเย็นทานทีเดียว  เนื่องจากเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงสี่โมงเย็นของเวลาท้องถิ่นแล้ว

    ."เอาล่ะคนสวย ไหนบอกฉันสิว่าเธออยากกินอะไรตอนนี้  ฉันจะได้พาเธอไป"อู๋อี้ชิงกระเซ้าเพื่อนสาวไปพลางพร้อมทั้งขับรถไปด้วย  ด้วยว่าเมขลาเป็นสาวสวยและป็นดาวเด่นตั้งแต่สมัยอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว  เธอจึงค่อนข้างที่จะชินชาเสียแล้วเมื่อไปไหนกับเธอมักจะมีสายตาของชายหนุ่มไม่ว่าหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่คอยส่งสายตามองเมขลาอยู่ตลอด  เสียแต่ว่าเพื่อนสาวของเธอค่อนข้างจะออกห้าวไปนิด  ใครเข้ามาประชิดตัวแม่คุณเผลอออกหมัดใส่  เนื่องจากเป็นลูกสาวคนเล็กของบ้านจึงถูกส่งให้ไปเรียนศิลปะการป้องกันตัวตั้งแต่เด็กทำให้เธอไม่ค่อยกลัวอะไรอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอชายหนุ่มเข้ามาสารภาพรักด้วยวิธีแปลกๆ ได้เจ็บตัวกันไปหลายรายเพราะความห้าวและความไวของเธอนี่ล่ะ  ไม่งั้นป่านนี้คงได้มีแฟนไปนานแล้ว  ตกใจทีไรแม่คุณปล่อยหมัดจนหนุ่มๆล่าถอยกันไปหมด 

    "กินอะไรก็ได้นะ  ตอนนี้ก็เริ่มหิวแล้วนะ เธอเป็นเจ้าบ้านนะ  พาฉันไปสิ  เอาให้สมกับที่เธอเลี้ยงด้วยนะ  นานๆทีฉันจะมาให้เธอเลี้ยง  อย่าให้เสียชื่อล่ะ "เมขลากล่าวพลางขยับเสื้อแจ๊กเกตยีนส์ของเธอให้เข้าที่พร้อมลูบหน้าท้องและส่งสายตาไปให้เพื่อนสาวที่ขับรถอยู่  พลางยิ้มหวานให้

    "อ๊ะๆ  เธออย่ามาส่งยิ้มให้ฉันแบบนี้นะ  ฉันไม่ใช่หนุ่มๆพวกนั้นที่เห็นรอยยิ้มของเธอก็ละลาย  สู้ตายถวายชีวิตให้เธอหรอกนะ  เธอใช้มันผิดคนแล้ว"อี้ชิงกระเซ้าเพื่อนสาว

    "อ้าว ฉันก็นึกว่ามันจะใช้กับเธอได้ผลด้วย   คราวหน้าฉันจะจำไว้นะว่าแผนนี้ใช้ไม่ได้กับเธอ"เมขลาหัวเราะในลำคอเบาๆ

               หลังจากนั้นไม่นานรถเก๋งสี่ประตูจึงขับไปถึงภัตตาคารหรูแห่งหนึ่งบริเวณใกล้กับโรงแรมที่พักของเมขลาและเข้าไปสั่งและทานอาหาร      ระหว่างที่ทานอาหารก็คุยยกันตามประสาเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนานหลายปี  ทุกเรื่องเท่าที่พวกเธอจะนึกได้ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาเพื่อเผากันเอง  รวมถึงการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบและถามถึงบรรดาเพื่อนเก่าที่ต่างแยกย้ายกันไปหางานทำ บางส่วนก็ได้แต่งงานมีครอบครัวซึ่งอี้ชิงก็ได้นำรูปที่เธอไปพบเพื่อนเก่าๆที่ถูกบันทึกไว้ในโทรศัพท์ให้เมขลาดู  เมขลาเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้เห็นรูปเพื่อนๆแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝามีลูกหน้าตาน่ารักน่าชังไว้ป็นโซ่ทองคล้องใจ   ทำให้เธอเองอดที่จะคิดถึงเพื่อนๆไม่ได้  วีรกรรมหลายอย่างที่พวกเธอทำไว้หลายอย่างยังคงผุดขึ้นมาในความทรงจำเหมือนเพิ่งเกิดมาไม่นานมานี้    หากเธอย้อนเวลากลับไปได้ก็คงจะกลับไปสมัยเป็นนักศึกษา  เพราะชีวิตมีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบเพียงเรื่องเดียวก็คือตั้งใจเรียนให้จบให้สมกับที่ได้ขอร้องบิดามารดามาเล่าเรียนยังต่างประเทศคนเดียวเช่นนี้

    "ไว้ไปหาอาจางไหม  ทำงานอยู่ใกล้ๆนี่เองเดี๋ยวฉันพาเธฮไป  อาจางไม่รู้ว่าเธอมาปักกิ่ง  ถ้ารู้ว่าเธอมาคงจะดีใจไม่น้อยเลยนะ"อี้ชิงสะกิดถามเพื่อนสาวเมื่อสังเกตุเห็นว่าเธอมีอาการเหม่อลอย

    เมขลาส่ายหน้า "ไม่ล่ะ   ไว้ก่อนดีกว่า  ฉันไม่อยากรบกวนเวลาทำงานของเขาน่ะ   ถ้าเขาต้องมาลางานกะทันหันเพื่อมาหาฉัน   เดี๋ยวจะถูกหัวหน้าตำหนิซะเปล่าๆ"

    "ทำไมเธอต้องคอยหลบหน้าอาจางด้วยนะ   เขาชอบเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะ  เธอเองก็รู้ว่าเขาเป็นคนดี  จนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่มีใคร เขาจะไปหาเธอที่เมืองไทยเธอก็ไม่ยอมมาพบเขา  เธอจะไม่ให้โอกาสเขาบ้างเลยหรือ  อีกอย่างเขารู้นะว่าเธอจะมาปักกิ่ง ฉันส่งข่าวเรียบร้อยแล้ว"

    "เธอนี่นะ   ให้ตายเถอะ ถ้าจะมีใครสักคนที่จุ้นจ้านกับฉันที่สุดก็คงจะเป็นเธอนี่ล่ะ  เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉัน  เธอก็น่าจะรู้นะไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหน  อาจางก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉันนะ   และสำหรับฉัน ฉันเชื่อว่าถ้าความรักจะเกิดขึ้น มันต้องเกิดขึ้นจากความรู้สึกลึกๆ ภายในใจของฉัน  ไม่ใช่จากแรงเชียร์ของเธอจ้ะ  จำไว้ด้วย แม่จอมจุ้น"เมขลาพูดพลางหันไปแลบลิ้นให้เพื่อนสาวของเธอซึ่งกิริยาที่เมขลาทำนั้นอู๋อี้ชิงมองแล้วก็ยังอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้กับความน่ารักของเมขลา เธอจึงยิ้มตอบรับการกระทำนั้นและส่ายหัวเบาๆ 

    "เอาล่ะฉันว่าเราเลิกพูดเรื่องนี้แล้วสั่งอะไรอร่อยๆมากินกันต่อดีกว่าไหม"เมขลาตัดบท  หลังจากนั้นจึงสั่งของหวานมาทานเป็นของว่างตบท้ายก่อนที่จะออกจากภัตตาคาร เพื่อไปเดินเล่นกันในยามค่ำคืนหลังจากที่ทานอาหารไปเป็นจำนวนมาก

    แสงไฟจากโคมไฟยามค่ำคืนของร้านค้าสว่างไสวบนถนนคนเดินหวังฝูจิ่งเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด    ผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติต่างมาเดินช้อปปิ้งกันบนถนนสายนี้    มองไปทางไหนก็จะเห็นจำนวนผู้คนมากมาย  อีกทั้งวัยรุ่นหนุ่มสาวก็มักจะมาเดินเล่นที่ถนนสายนี้ 

    "ฉันไม่ได้มาที่นี่นานเท่าไรแล้วนะ   ที่นี่เปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ"เมขลากล่าวกับตัวเองเบาๆ   พลางมองสองข้างทางด้วยความตื่นเต้น

    "พรุ่งนี้เธอจะไหนล่ะ  จะให้ฉันพาไปไหม  ฉันว่างนะ"อี้ชิงถามเพื่อนสาวในขณะที่เดินไปด้วยสายตาของเธอก็มองร้านรวงต่างๆไปด้วย  เนื่องจากเริ่มจะค่ำแล้ว อากาศจึงเริ่มเย็นลงเล็กน้อย   เธอจึงมองหาร้านชาร้อนๆเพื่อจะพาเมขลาเข้าไปจิบชาอุ่นๆ เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลายบ้าง แต่น่าเสียดาย  ร้านชาที่เธอต้องการกลับไม่เปิดบริการในวันนี้

    "เธอว่างจริงๆเหรอ  ทำไมเธอต้องมาลำบากลางานเพราะฉันเนี่ย  เธอก็รู้ว่าฉันไปไหนมาไหนคนเดียวได้  ฉันไม่อยากจะรบกวนเธอจริงๆนะ"

    "ถ้าเรายังเป็นเพื่อนกันอยู่  เธอจะต้องเลิกพูดคำนั้น   ฉันคิดถึงเธอขนาดไหนแลกกับการลางานแค่สองวัน ฉันว่าคงไม่ถึงกับโดนไล่ออกหรอกนะ   นี่ยังไม่รวมเรื่องที่เธอไม่ยอมไปพักที่บ้านฉันด้วย ฉันยังเคืองเธออยู่นะเรื่องนี้  เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้เธอจะไปไหน ฉันจะไปกับเธอ เข้าใจไหม"อี้ชิงกอดอก ยืนคาดโทษกับเพื่อนสาวของเธอประหนึ่งครูกล่าวโทษนักเรียนที่ทำความผิดมามากมาย และรอรับการลงโทษ

    "ตายแล้ว นี่ฉันกำลังถูกเธอโกรธอยู่ใช่ไหม  ฉันต้องทำยังไงดี  เธอถึงจะหายโกรธจ้ะ  แม่คนรวย ไหนบอกสิ"เมขลาทำท่าล้อเลียนเพื่อนสาว

    "เธอนี่  พรุ่งนี้ฉันจะไปรับเธอตั้งแต่แปดโมงเช้าเลยนะ  แล้วเธอก็คิดแผนไว้เลยนะว่าพรุ่งนี้จะไปไหน  ฉันจะพาเธอไปเอง  แล้วถ้าเธอหนีฉันไปเองคนเดียว ฉันจะไม่พูดกับเธออีกเลย คอยดูสิ"

    "จะตอนนี้หรือตอนไหนเธอก็ยังเป็นอี้ชิงขี้งอนของฉันเหมือนเดิมเลยนะ  เอาล่ะๆ ความจริงฉันก็คิดไว้แล้วว่าพรุ่งนี้ฉันจะไปไหน  แต่ตอนนี้ฉันหิวน้ำจังเลย  ไปซื้อน้ำผลไม้ต้องซุ้มนั้นดื่มกันเถอะ"เมขลากล่าวจบก็ดึงมือเพื่อนสาวไปที่ซุ้มขายน้ำผลไม้  หลังจากซื้อน้ำผลไม้และดื่มจนหมดแก้วแล้วเธอจึงเดินเล่นอีกสักพัก  แล้วจึงให้อี้ชิงพากลับโรงแรมที่พัก

    หลังจากกล่าวลากันและนัดหมายเวลาในวันพรุ่งนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว   เมขลาก็กลับเข้าห้องพักของเธอเพื่ออาบน้ำ  และจัดข้าวของเพื่อเตรียมเดินทางในวันพรุ่งนี้

    เสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น

    "สวัสดีค่ะแม่  เหมือนรู้เลยนะคะ  เมเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ  กำลังว่าจะโทรหาเลย"

    "ทำมาเป็นพูดเอาใจแม่  ถ้าแม่ไม่โทรมาก็คงไม่รู้ว่าลูกถึงไหนแล้ว   เรานี่ก็ชอบให้แม่เป็นห่วงอยู่เรื่อยเลยนะ"เสียงมารดาปลายสายอดตัดพ้อบุตรสาวไม่ได้

    "โธ่แม่คะ  พูดก็ไม่เชื่อที่ลูกพูด  เดี๋ยวเมหนีไปคุยกับพ่อแทน แม่อย่ามางอนเมละกัน"

    "เอาล่ะๆ  เดินทางเรียบร้อยดีใช่ไหมลูก   ถึงที่พักแล้วใช่ไหม แม่เป็นห่วงแค่นี้ล่ะ  ถ้าลูกไม่เป็นไรแม่ก็หายห่วงจะได้บอกพ่อของลูก   ถ้างั้นหนูก็นอนพักซะเถอะ   เดินทางมาคงจะเพลียมาก  ดูแลตัวเองด้วยนะลูก    อย่าไปไหนคนเดียวมันไม่ปลอดภัยนะ  พยายามชวนเพื่อนไปด้วยนะลูก"

    "ค่ะแม่   เมจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดีค่ะ   ฝันดีนะคะ  ฝากจุ๊บพ่อ กับพี่เมฆ  พี่แมน ด้วยค่ะ  เมจะนอนแล้วนะคะ  สวัสดีค่ะ"

    เมขลากดวางสายโทรศัพท์จากนั้นจึงวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง  หลังจากที่เดินขึ้นเตียงนอนขนาดใหญ่และห่มผ้าให้ความมอบอุ่นให้กับร่างกายตัวเองแล้ว  ก็คิดถึงเรื่องราวเก่าๆก่อนที่จะเผลอหลับไปด้วยความอ่อนล้าในคืนแรกที่ปักกิ่งนั่นเอง

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น