[ NCT DREAM X YOU ] Perhaps Love
You have no idea how hard it is to pretend all the time.
ผู้เข้าชมรวม
930
ผู้เข้าชมเดือนนี้
12
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บางทีฉันก็รู้สึกหวั่นไหวกับแกว่ะ
○○○○○○○○○○○○○○○○○
언제였던 건지 기억나지 않아
ฉันจำไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน
자꾸 내 머리가 너로 어지럽던 시작
ฉันคอยแต่คิดถึงเรื่องของคุณ
한 두 번씩 떠오르던 생각
มันเริ่มจากทีละครั้งสองครั้ง
자꾸 늘어나서 조금 당황스러운 이 마음
และมันก็เพิ่มมากขึ้นจนทำให้ใจนั้นสับสน
○○○○○○○○○○○○○○○○○○○
09:38 PM
ตืดดดด ตืดดดด
(เมื่อไรจะกลับห้องนี่มันดึกมากแล้วนะ) เมื่อฉันรับโทรศัพท์ ปลายสายก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงงัวเงียคล้ายคนจะหลับเต็มที
“เดี๋ยวก็กลับแล้วอีกแป๊ปเดียว” ฉันตอบกลับไป
(เธอก็พูดแบบนี้ทุกที กลับมาเดี๋ยวนี้ไม่งั้นฉันจะล็อกห้อง)
“ไอบ้า ถ้าแกล็อกแล้วฉันจะเข้ายังหล่ะ” ฉันขึ้นเสียงกับคนในสายเล็กน้อย
(กลับ เดี๋ยว นี้) อีกคนเน้นย้ำทีละคำ เป็นการกดดันฉันชัดๆ แล้วฉันเลือกอะไรได้หล่ะก็คงต้องกลับตามคำสั่งของไอเพื่อนบ้าคนนี้นี่แหละ
“อือๆ กลับเดี๋ยวนี้แหละค่ะพ่อ”
ตืด!
ฉันกดวางสายเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกงและเดินไปเก็บของที่ล็อกเกอร์เตรียมกลับห้องอย่างเซ็งๆ
คนที่ฉันเพิ่งคุยด้วยเมื่อกี้คือแจมินเพื่อนของฉันเอง สถานะของมันแค่เพื่อนแต่เสือกทำตัวเป็นพ่อ แจมินเป็นคนเรียนเก่ง พูดเพราะและมีมารยาทซึ่งต่างกับฉันอย่างสิ้นเชิง ฉันกับแจมินอยู่โรงเรียนเดียวกัน อาศัยอยู่ที่คอนโดเดียวกันไปไหนมาไหนด้วยกัน ส่วนใหญ่ฉันกับแจมินจะไปเที่ยว ไปเรียนหรือไปไหนก็ตามเราจะไปโดยรถเมย์หรือไม่ก็รถไฟเพราะทั้งฉันกับมันก็ไม่มีใครขับรถเป็นเลยยกเว้นแต่จักรยานอันนี้ขับเป็นเก่งมากเวยบอกเลย
มาถึงเรื่องของฉันบ้าง ฉันชื่อวานาคาตะ ยูมินฉันเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-เกาหลี อายุ 17 ปีจะ18แล้ว เรียนมอหกที่โรงเรียน sm high school ฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยเรียบร้อยและค่อนข้างหยาบคายแต่กับแจมินฉันต้องไม่พูดคำหยาบเพราะมันเป็นคนหัวอ่อนและเรียบร้อยกว่าฉันมากๆ ฉันมีเพื่อนสนิทคนเดียวก็คือมันส่วนเพื่อนคนอื่นก็ไม่สนิทเท่า ฉันกับแจมินรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆครอบครัวของเราสองคนเลยไว้ใจให้เราอยู่ด้วยกันได้ และฉันก็เต็มใจที่จะอยู่กับเพื่อนแสนน่ารักอย่างเขาโดยไม่ขัดเหตุผลอันดับหนึ่งคือจะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่าคอนโดแพง ฉันทำงานไพท์ไทม์อยู่ที่คาเฟ่ที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากคอนโดที่ฉันอยู่มากนัก ที่เพราพก็เพราะว่างฉันไม่อยากเรียนพิเศษเหมือนแจมินเพราะถึงเรียนไปยังไงมันก็ไม่เข้าหัวฉันอยู่ดี และการไม่เรียนรอให้แจมินติวให้ดีที่สุด
บ่นมานานจนรถไฟที่ฉันนั่งมาจอดอยู่ที่ป้ายใกล้ๆคอนโดของฉันและแจมิน ฉันเดินมาตามทางจนมาถึงหน้าคอนโด นี่ฉันตาฟาดไปหรือเปล่า ฉันรู้สึกเหมือนเห็นแจมินที่ใส่แว่นยืนตบยุงอยู่ที่ล๊อบบี้ ฉันคงง่วงจนเบลอไปแล้วแน่ๆ
“กว่าจะยอมกลับได้นะ” โอเคฉันไม่ได้ตาฟาดนั่นแจมินตัวจริงเสียงจริงเพื่อนฉันเอง
“มายืมทำอะไรตรงนี้ เดี๋ยวก็เป็นไข้เลือดออกเพราะยุงหรอก” ฉันว่าและทำดุเขาด้วย ถึงแจมินจะชอบสั่งฉันเหมือนพ่อคนที่สองแต่เขาก็ยังชอบทำตัวเป็นเด็กให้ฉันดุอยู่ตลอด
“ก็ฉันกลัวเธอจะไม่กลับก็เลยจะมาถ่ายรูปฉันยืนอยู่ตรงนี้ส่งไปให้ดู” ฉันพูดพร้อมกับเก็บมือถือของเขาใส่กระเป๋าเสื้อ
“ก็กลับมาแล้วไง กลับมาก่อนไม่โดนพี่โดยองด่าก็ดีแค่ไหนและ” พี่โดยองคือเจ้าของร้านคาเฟ่ที่ฉันทำงานอยู่
“โอเคๆ เลิกบ่นได้แล้วขึ้นห้องสักทีเถอะฉันเริ่มร้อนแล้วเนี่ย” แจมินบ่นและลูบแขนตัวเองไปด้วย
“ใครใช้ให้มายืนรอหล่ะ” ฉันว่าเขาไป และสิ่งที่ฉันได้กลับมาจากเขาคือความเงียบ แจมินเดินก้มหน้าเข้าไปในลิฟต์ฉันหันไปมองเขาก็หันหน้าหนี งอนหรอวะ?
“เป็นไร” ฉันถาม
“....”
“....” เขาเงียบฉันก็เงียบ นี่คืองอนจริงดิ ปกติเคยเป็นงี้ที่ไหนเวลาฉันทีไรก็สันหาคำเถียงมาทุกคำ หรือเมนส์มันมาผู้ชายเป็นเมนส์ได้หรอ ก็ไม่หนิ
ติ๊ง!
ประตูลิฟต์เปิดพร้อมกับร่างสูงของอีกคนเดินนำออกไปอย่างไม่คิดจะรอ เขาเดินไปจนถึงหน้าห้องพร้อมกับแตะคีย์การ์ดและเดินเข้าไปโดยไม่ลืมที่จะปิดประตู เดี๋ยวดิ
เห้ย!! ถ้าเขาปิดแล้วฉันจะเข้าไปยังไงอ่ะ!
ก๊อกๆๆ
“แจมินเปิดประตู”
“....”
ก๊อกๆๆ
“แจมิน”
“....”
“นาแจมินเปิดประตูเดี๋ยวนี้” ฉันพูดเสียงแข็ง ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินที่ฉันพูดหรือเปล่าแต่อย่างน้อยเขาก็ต้องได้ยิมเสียงเคาะประตูแน่ๆ
“ไม่เปิดงอนอยู่” นี่ไงฉันพูดผิดที่ไหน แจมินมันก็เด็กที่ไม่ชอบโดนขัดใจ(ไม่ต่างกับฉัน)นั่นแหละ
“แจมินเปิดประตู เราไม่ใช่เด็กแล้วนะที่งอนกันแล้วปิดประตูหนีอ่ะ”
แอดดด
เขาเปิดประตูและรีบเดินเข้าไปในห้องของเขาทันที
ฉันส่ายหัวให้กับนิสัยเด็กๆของแจมินและเดินไปถอดรองดท้าไว้ที่ชั้นและเข้าห้องตัวเองบ้าง
ฉันอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จก็มานั่งเช็ดผมอยู่ที่ปลายเตียงสักพักกลิ่นหอมอ่อนๆของรามยอนรสโปรดก็เตะจมูกฉัน ฉันเอาผ้าเช็ดผมพาดไว้ที่บ่าและเปิดตูเดินออกไปข้างนอก แจมินในชุดนอนสีน้ำเงินและผ้ากันเปื้อนลายกระต่ายบนตัวเขาทำเอาฉันแทบหลุดขำ ไม่ใช่ขำเพราะมันไม่เข้ากับเขานะแต่มันเข้ากับเขามากเลยต่างหาก น่ารักเหมือนเด็กเลยแต่ถ้าตอนนี้เขาเป็นเด็กก็คงเป็นเด็กเปรตแน่ๆก็ดูสิฉันสูงแค่ไหล่เขาเอง
“อุ้ย..” เขาหันมาเจอฉันเข้าก็ตกใจเล็กน้อย
“ทำอะไรอ่ะ” ฉันถามเขาเหมือนไม่มีอะไรเกินขึ้นก่อนหน้านี้
“ฉันคิดว่าเธอคงยังไม่ได้ทานอะไร ฉันเลยต้มรามยอนให้เธอไปนั่งรอก่อนนะเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” เขาพูดด้วยรอยยิ้มอันสดใสและหันไปงุ่นอยู่กับการรามยอนในหม้อ
“ฉันช่วย” ฉันไม่รอให้เขาตอบและแย่งกระปวยในมือเขามาและขนรามยอนในหม้อที่เขาเพิ่งใส่เครื่องปรุงลงไป
“ฉันบอกให้ไปนั่งรอไง” ฉันทำเป็นไม่ได้ยินและเดินไปหยิบถ้วยมาเตรียมไว้สองใบ “เอามาทำไมสองใบ ฉันไม่หิวนะ” และฉันก็ยังคงตีมึนไม่สนใจเขาอีกเช่นเคย สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้และเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
รามยอนสองถ้วยถูกวางลงบนโต๊ะโดยฝีมือฉัน เขามองถ้วยรามยอนตรงหน้าตัวเองพลางทำขิ้วขมวด เขาจะสงสัยอะไรนักหนากว่าฉันวางยาหรือไงกัน
“ทำไมของฉันเยอะจัง ของเธอนิดเดียวเอง” เขาพูดและแย่งถ้วยรามยอนของฉันไป เขาตักเส้นรามยอนในถ้วยของตัวเองมาใส่ในอีกถ้วยจนมันเริ่มเยอะขึ้นฉันจึงแย่งถ้วยที่เหลือไม่เยอะมาจากเขา
“ขอบใจน้าที่แบ่งให้” ฉันพูดและยิ้มตาหยี เขาหายใจฟึดฟัดแค่นั้นและสุดท้ายก็ยอมกินรามยอนในถ้วยนั้น
.
.
.
หลังจากที่ทั้งสองคนทานรามยอนเสร็จก็แยกย้ายกลับเข้าห้องของตัวเอง ร่างเล็กหยิบการบ้านวิชาคณิตขึ้นมาพร้อมกับถอนหายใจออกมายาวๆ และหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา
“สี่ทุ่มเก้านาที หวังว่าคงยังไม่หลับนะ” พึมพำกับตัวเบาๆก่อนจะลุกขึ้นยืนหยิบการบ้านและเดินไปห้องของอีกคน
10:10 PM
คิดถึง
อยู่ดีๆก็รู้สึกคิดถึงใครบางคนขึ้นมาสะงั้น แจมินนอนก่ายหน้าผากมองนาฬิกาบนกำแพงพลางคิดถึงอีกคนไปด้วย คิดถึงทั้งๆที่เพิ่งเห็นกันไปเมื่อกี้ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไรกันนะ
ก๊อกๆๆ
ได้ยิมเสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาเดินไปเปิดตูเผยให้เห็นร่างเตี้ยๆของยูมินที่ยืนถือหนังสือและสมุดแค่นี้แจมินก็รู้เหตุผลที่เธอมาหาเขาแล้ว
“สอนการบ้านหน่อย” ร่างบางพูดเสียงอ่อน
“ทำไมไม่หัดทำเองบ้าง” ถึงปากจะพูดอย่างนั้นแต่การกระทำกลับตรงกันข้ามแจมินเปิดประตูให้กว้างขึ้นเป็นการเชิญอีกคนเข้ามาในห้องของเขา
“ทำไม่เป็น ไม่ต้องพูดมากมาสอนเร็วๆง่วงนอน” ยูมินพูดและเดินไปนั่งที่โต๊ะทำการบ้านของอีกคนอย่างถือวิสาสะ
“เห้อ ไหนเอามาดู” แจมินยกเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้างร่างบางที่นั่งปิดปากหาวอยู่ “บททฤษฏีการหาพื้นที่ นี่มันเนื้อหาเทอมที่แล้วนะยูมินและฉันก็สอนเธอไปแล้วด้วย” แจมินวางหนังลงและหันไปพูดกับอีกคนอย่างจริงจัง
“ฉันลืม ฉันจำไม่ได้ ฉันไม่รู้เรื่อง นายจะด่ายังไงก็ได้แต่ขอร้องรีบสอนเถอะฉันง่วงนอน” ยูมินว่าและหาวอีกครั้ง แจมินส่ายหน้าเบาๆและเริ่มสอนด้วยการบอกและให้เธอเขียนตาม
“ส่วนอันนี้ก็เอาค่าที่ได้จากการหารของพื้นที่ฐานกับความสูงมาลบกับความกว้างของแปดเหลี่ยม”
“....”
แจมินหันมองคนตัวเล็กข้างๆที่หลับฟุบลงไปกับโต๊ะตั้งแต่เมื่อไรก็รู้ นี่เขาพูดคนเดียวมานานหรือยังเนี่ย
“ยูมิน ยูมิน ตื่นไปนอนที่ห้องดีๆ” เขาปลุกคนหลับลึกอย่างยูมินและสิ่งที่ได้กลับมาคืออะไรหล่ะ ไม่ตื่นไง
แจมินจัดการอุ้มคนตัวเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมแขนแกร่งไปวางที่เตียงนอนของเขา แจมินจัดท่านอนให้อีกคนดีๆและเผยยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะหันกลับมาทำการบ้านที่เหลือให้เธอ
แจมินทำการบ้านเสร็จโดยใช้เวลาไม่นาน เขานั่งกับพื้นและมองหน้าของอีกคน ใบหน้าสวยไร้เครื่องสำอางในเวลาหลับมันก็ไม่ต่างจากเด็กมัธยมต้นเลยสักนิด ยูมินชอบทำตัวเหมือนแม่คนที่สองของแจมินเช่นเดียวกันกับแจมินที่ชอบทำตัวเป็นพ่อคนที่สองของเธอ แจมินจับปอยผมที่ปกหน้าอยู่ไปทัดหูเล็กไว้และใช้หัวนิ้วมือลูบแก้มใสอมชมพูเบาๆ
แจมินเอาผ้าห่มและหมอนลงมานอนข้างเตียง ถึงทั้งสองคนจะสนิทกันมากแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยนอนเตียงเดียวกันสักที เรียกได้ว่าทั้งเธอและเขาต่างก็ยังคงให้เกียตความเป็นผู้ชายและผู้หญิงอยู่ถึงจะเป็นเพื่อนกันแต่ก็ต้องให้เกียตกันแจมินคิดอย่างนี้
“ฝันดีนะยูมิน” แจมินพูดเบาๆกับคนที่อยู่ในห้วงนิททาไปนานแล้ว ก่อนจะล้มตัวลงนอนลงบ้างและหลับไปในเวลาต่อมา
สวัสดีค่ะรีดที่หลงเข้ามาอ่าน
ไรท์ของฝากฟิคเรื่องนี้ด้วยนะคะ ถึงเนื้อเรื่องมันจะไม่ดีแต่ก็อ่านๆไปเถอะค่ะ 55555
ผลงานอื่นๆ ของ Q.ppoi ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Q.ppoi
ความคิดเห็น