[ NCT DREAM X YOU ] Perhaps Love - นิยาย [ NCT DREAM X YOU ] Perhaps Love : Dek-D.com - Writer
×

    [ NCT DREAM X YOU ] Perhaps Love

    โดย Q.ppoi

    You have no idea how hard it is to pretend all the time.

    ผู้เข้าชมรวม

    858

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    16

    ผู้เข้าชมรวม


    858

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    48
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  26 มิ.ย. 61 / 10:05 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



    บางทีฉันก็รู้สึกหวั่นไหวกับแกว่ะ


    ○○○○○○○○○○○○○○○○○


    언제였던 건지 기억나지 않아
    ฉันจำไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน
    자꾸 내 머리가 너로 어지럽던 시작
    ฉันคอยแต่คิดถึงเรื่องของคุณ
    한 두 번씩 떠오르던 생각
    มันเริ่มจากทีละครั้งสองครั้ง
    자꾸 늘어나서 조금 당황스러운 이 마음
    และมันก็เพิ่มมากขึ้นจนทำให้ใจนั้นสับสน


    ○○○○○○○○○○○○○○○○○○○


                    09:38 PM


    ตืดดดด ตืดดดด

          

    (เมื่อไรจะกลับห้องนี่มันดึกมากแล้วนะ) เมื่อฉันรับโทรศัพท์ ปลายสายก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงงัวเงียคล้ายคนจะหลับเต็มที


    “เดี๋ยวก็กลับแล้วอีกแป๊ปเดียว” ฉันตอบกลับไป


    (เธอก็พูดแบบนี้ทุกที กลับมาเดี๋ยวนี้ไม่งั้นฉันจะล็อกห้อง)


    “ไอบ้า ถ้าแกล็อกแล้วฉันจะเข้ายังหล่ะ” ฉันขึ้นเสียงกับคนในสายเล็กน้อย


    (กลับ เดี๋ยว นี้) อีกคนเน้นย้ำทีละคำ เป็นการกดดันฉันชัดๆ แล้วฉันเลือกอะไรได้หล่ะก็คงต้องกลับตามคำสั่งของไอเพื่อนบ้าคนนี้นี่แหละ


    “อือๆ กลับเดี๋ยวนี้แหละค่ะพ่อ”


    ตืด!



    ฉันกดวางสายเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกงและเดินไปเก็บของที่ล็อกเกอร์เตรียมกลับห้องอย่างเซ็งๆ



    คนที่ฉันเพิ่งคุยด้วยเมื่อกี้คือแจมินเพื่อนของฉันเอง สถานะของมันแค่เพื่อนแต่เสือกทำตัวเป็นพ่อ แจมินเป็นคนเรียนเก่ง พูดเพราะและมีมารยาทซึ่งต่างกับฉันอย่างสิ้นเชิง ฉันกับแจมินอยู่โรงเรียนเดียวกัน อาศัยอยู่ที่คอนโดเดียวกันไปไหนมาไหนด้วยกัน ส่วนใหญ่ฉันกับแจมินจะไปเที่ยว ไปเรียนหรือไปไหนก็ตามเราจะไปโดยรถเมย์หรือไม่ก็รถไฟเพราะทั้งฉันกับมันก็ไม่มีใครขับรถเป็นเลยยกเว้นแต่จักรยานอันนี้ขับเป็นเก่งมากเวยบอกเลย


    มาถึงเรื่องของฉันบ้าง ฉันชื่อวานาคาตะ ยูมินฉันเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-เกาหลี อายุ 17 ปีจะ18แล้ว เรียนมอหกที่โรงเรียน sm high school ฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยเรียบร้อยและค่อนข้างหยาบคายแต่กับแจมินฉันต้องไม่พูดคำหยาบเพราะมันเป็นคนหัวอ่อนและเรียบร้อยกว่าฉันมากๆ ฉันมีเพื่อนสนิทคนเดียวก็คือมันส่วนเพื่อนคนอื่นก็ไม่สนิทเท่า ฉันกับแจมินรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆครอบครัวของเราสองคนเลยไว้ใจให้เราอยู่ด้วยกันได้ และฉันก็เต็มใจที่จะอยู่กับเพื่อนแสนน่ารักอย่างเขาโดยไม่ขัดเหตุผลอันดับหนึ่งคือจะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่าคอนโดแพง ฉันทำงานไพท์ไทม์อยู่ที่คาเฟ่ที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากคอนโดที่ฉันอยู่มากนัก ที่เพราพก็เพราะว่างฉันไม่อยากเรียนพิเศษเหมือนแจมินเพราะถึงเรียนไปยังไงมันก็ไม่เข้าหัวฉันอยู่ดี และการไม่เรียนรอให้แจมินติวให้ดีที่สุด



    บ่นมานานจนรถไฟที่ฉันนั่งมาจอดอยู่ที่ป้ายใกล้ๆคอนโดของฉันและแจมิน ฉันเดินมาตามทางจนมาถึงหน้าคอนโด นี่ฉันตาฟาดไปหรือเปล่า ฉันรู้สึกเหมือนเห็นแจมินที่ใส่แว่นยืนตบยุงอยู่ที่ล๊อบบี้ ฉันคงง่วงจนเบลอไปแล้วแน่ๆ




    “กว่าจะยอมกลับได้นะ” โอเคฉันไม่ได้ตาฟาดนั่นแจมินตัวจริงเสียงจริงเพื่อนฉันเอง


    “มายืมทำอะไรตรงนี้ เดี๋ยวก็เป็นไข้เลือดออกเพราะยุงหรอก” ฉันว่าและทำดุเขาด้วย ถึงแจมินจะชอบสั่งฉันเหมือนพ่อคนที่สองแต่เขาก็ยังชอบทำตัวเป็นเด็กให้ฉันดุอยู่ตลอด


    “ก็ฉันกลัวเธอจะไม่กลับก็เลยจะมาถ่ายรูปฉันยืนอยู่ตรงนี้ส่งไปให้ดู” ฉันพูดพร้อมกับเก็บมือถือของเขาใส่กระเป๋าเสื้อ


    “ก็กลับมาแล้วไง กลับมาก่อนไม่โดนพี่โดยองด่าก็ดีแค่ไหนและ” พี่โดยองคือเจ้าของร้านคาเฟ่ที่ฉันทำงานอยู่


    “โอเคๆ เลิกบ่นได้แล้วขึ้นห้องสักทีเถอะฉันเริ่มร้อนแล้วเนี่ย” แจมินบ่นและลูบแขนตัวเองไปด้วย


    “ใครใช้ให้มายืนรอหล่ะ” ฉันว่าเขาไป และสิ่งที่ฉันได้กลับมาจากเขาคือความเงียบ แจมินเดินก้มหน้าเข้าไปในลิฟต์ฉันหันไปมองเขาก็หันหน้าหนี งอนหรอวะ?


    “เป็นไร” ฉันถาม


    “....”


    “....” เขาเงียบฉันก็เงียบ นี่คืองอนจริงดิ ปกติเคยเป็นงี้ที่ไหนเวลาฉันทีไรก็สันหาคำเถียงมาทุกคำ หรือเมนส์มันมาผู้ชายเป็นเมนส์ได้หรอ ก็ไม่หนิ



    ติ๊ง!



    ประตูลิฟต์เปิดพร้อมกับร่างสูงของอีกคนเดินนำออกไปอย่างไม่คิดจะรอ เขาเดินไปจนถึงหน้าห้องพร้อมกับแตะคีย์การ์ดและเดินเข้าไปโดยไม่ลืมที่จะปิดประตู เดี๋ยวดิ



    เห้ย!! ถ้าเขาปิดแล้วฉันจะเข้าไปยังไงอ่ะ!





    ก๊อกๆๆ



    “แจมินเปิดประตู”


            “....”


    ก๊อกๆๆ


    “แจมิน”


            “....”


    “นาแจมินเปิดประตูเดี๋ยวนี้” ฉันพูดเสียงแข็ง ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินที่ฉันพูดหรือเปล่าแต่อย่างน้อยเขาก็ต้องได้ยิมเสียงเคาะประตูแน่ๆ



    “ไม่เปิดงอนอยู่” นี่ไงฉันพูดผิดที่ไหน แจมินมันก็เด็กที่ไม่ชอบโดนขัดใจ(ไม่ต่างกับฉัน)นั่นแหละ


            “แจมินเปิดประตู เราไม่ใช่เด็กแล้วนะที่งอนกันแล้วปิดประตูหนีอ่ะ”



    แอดดด



    เขาเปิดประตูและรีบเดินเข้าไปในห้องของเขาทันที



    ฉันส่ายหัวให้กับนิสัยเด็กๆของแจมินและเดินไปถอดรองดท้าไว้ที่ชั้นและเข้าห้องตัวเองบ้าง


    ฉันอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จก็มานั่งเช็ดผมอยู่ที่ปลายเตียงสักพักกลิ่นหอมอ่อนๆของรามยอนรสโปรดก็เตะจมูกฉัน ฉันเอาผ้าเช็ดผมพาดไว้ที่บ่าและเปิดตูเดินออกไปข้างนอก แจมินในชุดนอนสีน้ำเงินและผ้ากันเปื้อนลายกระต่ายบนตัวเขาทำเอาฉันแทบหลุดขำ ไม่ใช่ขำเพราะมันไม่เข้ากับเขานะแต่มันเข้ากับเขามากเลยต่างหาก น่ารักเหมือนเด็กเลยแต่ถ้าตอนนี้เขาเป็นเด็กก็คงเป็นเด็กเปรตแน่ๆก็ดูสิฉันสูงแค่ไหล่เขาเอง



    “อุ้ย..” เขาหันมาเจอฉันเข้าก็ตกใจเล็กน้อย


    “ทำอะไรอ่ะ” ฉันถามเขาเหมือนไม่มีอะไรเกินขึ้นก่อนหน้านี้


    “ฉันคิดว่าเธอคงยังไม่ได้ทานอะไร ฉันเลยต้มรามยอนให้เธอไปนั่งรอก่อนนะเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” เขาพูดด้วยรอยยิ้มอันสดใสและหันไปงุ่นอยู่กับการรามยอนในหม้อ


    “ฉันช่วย” ฉันไม่รอให้เขาตอบและแย่งกระปวยในมือเขามาและขนรามยอนในหม้อที่เขาเพิ่งใส่เครื่องปรุงลงไป


    “ฉันบอกให้ไปนั่งรอไง” ฉันทำเป็นไม่ได้ยินและเดินไปหยิบถ้วยมาเตรียมไว้สองใบ “เอามาทำไมสองใบ ฉันไม่หิวนะ” และฉันก็ยังคงตีมึนไม่สนใจเขาอีกเช่นเคย สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้และเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร



    รามยอนสองถ้วยถูกวางลงบนโต๊ะโดยฝีมือฉัน เขามองถ้วยรามยอนตรงหน้าตัวเองพลางทำขิ้วขมวด เขาจะสงสัยอะไรนักหนากว่าฉันวางยาหรือไงกัน



    “ทำไมของฉันเยอะจัง ของเธอนิดเดียวเอง” เขาพูดและแย่งถ้วยรามยอนของฉันไป เขาตักเส้นรามยอนในถ้วยของตัวเองมาใส่ในอีกถ้วยจนมันเริ่มเยอะขึ้นฉันจึงแย่งถ้วยที่เหลือไม่เยอะมาจากเขา



    “ขอบใจน้าที่แบ่งให้” ฉันพูดและยิ้มตาหยี เขาหายใจฟึดฟัดแค่นั้นและสุดท้ายก็ยอมกินรามยอนในถ้วยนั้น


    .

    .

    .


    หลังจากที่ทั้งสองคนทานรามยอนเสร็จก็แยกย้ายกลับเข้าห้องของตัวเอง ร่างเล็กหยิบการบ้านวิชาคณิตขึ้นมาพร้อมกับถอนหายใจออกมายาวๆ และหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา


    “สี่ทุ่มเก้านาที หวังว่าคงยังไม่หลับนะ” พึมพำกับตัวเบาๆก่อนจะลุกขึ้นยืนหยิบการบ้านและเดินไปห้องของอีกคน




    10:10 PM



    คิดถึง



    อยู่ดีๆก็รู้สึกคิดถึงใครบางคนขึ้นมาสะงั้น แจมินนอนก่ายหน้าผากมองนาฬิกาบนกำแพงพลางคิดถึงอีกคนไปด้วย คิดถึงทั้งๆที่เพิ่งเห็นกันไปเมื่อกี้ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไรกันนะ



    ก๊อกๆๆ

    ได้ยิมเสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาเดินไปเปิดตูเผยให้เห็นร่างเตี้ยๆของยูมินที่ยืนถือหนังสือและสมุดแค่นี้แจมินก็รู้เหตุผลที่เธอมาหาเขาแล้ว



    “สอนการบ้านหน่อย” ร่างบางพูดเสียงอ่อน


    “ทำไมไม่หัดทำเองบ้าง” ถึงปากจะพูดอย่างนั้นแต่การกระทำกลับตรงกันข้ามแจมินเปิดประตูให้กว้างขึ้นเป็นการเชิญอีกคนเข้ามาในห้องของเขา



    “ทำไม่เป็น ไม่ต้องพูดมากมาสอนเร็วๆง่วงนอน” ยูมินพูดและเดินไปนั่งที่โต๊ะทำการบ้านของอีกคนอย่างถือวิสาสะ


    “เห้อ ไหนเอามาดู” แจมินยกเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้างร่างบางที่นั่งปิดปากหาวอยู่  “บททฤษฏีการหาพื้นที่ นี่มันเนื้อหาเทอมที่แล้วนะยูมินและฉันก็สอนเธอไปแล้วด้วย” แจมินวางหนังลงและหันไปพูดกับอีกคนอย่างจริงจัง


    “ฉันลืม ฉันจำไม่ได้ ฉันไม่รู้เรื่อง นายจะด่ายังไงก็ได้แต่ขอร้องรีบสอนเถอะฉันง่วงนอน” ยูมินว่าและหาวอีกครั้ง แจมินส่ายหน้าเบาๆและเริ่มสอนด้วยการบอกและให้เธอเขียนตาม





    “ส่วนอันนี้ก็เอาค่าที่ได้จากการหารของพื้นที่ฐานกับความสูงมาลบกับความกว้างของแปดเหลี่ยม”





    “....”



    แจมินหันมองคนตัวเล็กข้างๆที่หลับฟุบลงไปกับโต๊ะตั้งแต่เมื่อไรก็รู้ นี่เขาพูดคนเดียวมานานหรือยังเนี่ย



    “ยูมิน ยูมิน ตื่นไปนอนที่ห้องดีๆ” เขาปลุกคนหลับลึกอย่างยูมินและสิ่งที่ได้กลับมาคืออะไรหล่ะ ไม่ตื่นไง


    แจมินจัดการอุ้มคนตัวเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมแขนแกร่งไปวางที่เตียงนอนของเขา แจมินจัดท่านอนให้อีกคนดีๆและเผยยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะหันกลับมาทำการบ้านที่เหลือให้เธอ



    แจมินทำการบ้านเสร็จโดยใช้เวลาไม่นาน เขานั่งกับพื้นและมองหน้าของอีกคน ใบหน้าสวยไร้เครื่องสำอางในเวลาหลับมันก็ไม่ต่างจากเด็กมัธยมต้นเลยสักนิด ยูมินชอบทำตัวเหมือนแม่คนที่สองของแจมินเช่นเดียวกันกับแจมินที่ชอบทำตัวเป็นพ่อคนที่สองของเธอ แจมินจับปอยผมที่ปกหน้าอยู่ไปทัดหูเล็กไว้และใช้หัวนิ้วมือลูบแก้มใสอมชมพูเบาๆ



    แจมินเอาผ้าห่มและหมอนลงมานอนข้างเตียง ถึงทั้งสองคนจะสนิทกันมากแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยนอนเตียงเดียวกันสักที เรียกได้ว่าทั้งเธอและเขาต่างก็ยังคงให้เกียตความเป็นผู้ชายและผู้หญิงอยู่ถึงจะเป็นเพื่อนกันแต่ก็ต้องให้เกียตกันแจมินคิดอย่างนี้



    “ฝันดีนะยูมิน” แจมินพูดเบาๆกับคนที่อยู่ในห้วงนิททาไปนานแล้ว ก่อนจะล้มตัวลงนอนลงบ้างและหลับไปในเวลาต่อมา






    สวัสดีค่ะรีดที่หลงเข้ามาอ่าน

    ไรท์ของฝากฟิคเรื่องนี้ด้วยนะคะ ถึงเนื้อเรื่องมันจะไม่ดีแต่ก็อ่านๆไปเถอะค่ะ 55555








    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น