อุษณกร นารายณ์
ตะวันยอแสงรอนลงลับผืนน้ำ จมื่นพจนทิพย์ส่งสายตาตามหัวใจดวงน้อยบนออริฟาลมม์ ที่ลับเส้นโค้งตรงขอบฟ้าไปอย่างช้าๆ เฌอเเตม มงนามูร์ เสียงแผ่วของโซลองจ์แว่วมากับสายลม เฌอเเตม
ผู้เข้าชมรวม
877
ผู้เข้าชมเดือนนี้
35
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
หัวใจของเจ้าสร้อยโซลองจ์และจมื่นพจนทิพย์หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ท่ามกลางความเเตกต่างของชาติ ภาษา และศาสนา เสียงกระซิบแผ่วหวานที่ฟังไม่เข้าใจ แต่ซาบซึ้งในความหมาย อุ่นหัวใจของหญิงสาวผมทองจากโพ้นทะเลอื่นให้ระอุ ใจเจ้าเอย...อ่อนไหวนัก นัยน์ตาเขียวเข้มชม้ายมองแล้วเหลือบหลบสะเทิ้นอาย
แต่ละชาติต่างก็มีดอกไม้งามตระการตาแตกต่างกันไป
สมควรแก่ชนชาตินั้นๆ ไฉน ดอกไอริสสีทองอร่ามเรืองจึงผลิบานในดินเดนเวนิสตะวันออก
ดวงตะวันยังคุณฉันใด หากไอร้อนจรัสจ้าเกินไปย่อมมีโทษฉันนั้น
หัวใจของชาวสยามร้อนรุม ฤๅ สุริยันจะแผดเผาแผ่นดินสิ้น
ตะวันยอแสงรอนๆ ลงลับผืนน้ำ จมื่นพจนทิพย์ส่งสายตาตามหัวใจดวงน้อยบนออริฟาลมม์ที่ลับเส้นโค้งตรงขอบฟ้าไปอย่างช้าๆ
...เฌอเเตม มงนามูร์... เสียงแผ่วของโซลองจ์แว่วมากับสายลม ...เฌอเเตม....
สร้อยสยาม นักศึกษาประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศสที่พบว่าชื่อของตนนั้นเป็นภาษาไทยหมายถึงดอกไม้ชนิดหนึ่งที่พบในประเทศไทยเท่านั้น จึงตัดสินใจเลือกทำวิทยานิพนธ์ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสและไทยในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่14 และค้นพบเอกสารสำคัญอีกสองชิ้น ที่น่าประหลาดคือคนเขียนบันทึกทั้งสองคือเทียดของเธอนั่นเอง เมื่อนำไปเทียบกับบันทึกของทูตชาวไทยที่เชื่อกันว่าผู้เขียนคือเจ้าพระยาโกษาปานแล้วพบว่าสอดคล้องกันจึงเริ่มทำการศึกษา สร้อยสยามไปที่สำนักมิซซังแห่งกรุงปารีสแล้วเปิดบันทึกอ่านเมื่อเวลาเช้า เรื่องราวที่จารึกหน้าบนกระดาษตั้งเเต่การรับทูตฝรั่งเศส ตลอดจนคณะทูตไทยไปเยือนฝรั่งเศสและความสัมพันธ์สิ้นสุดเมื่อทหารฝรั่งเศสถูกขับไล่ออกจากประเทศ จากเช้าเป็นเวลาเย็นย่ำ ทุกอย่างจบลงเหมือนพระอาทิตย์ขึ้นและตกและจะหวนคืนเมื่อวันใหม่เวียนมาถึง
ฝากอุดหนุน อีบุ๊กสักเล่มนะคะ
|
ผลงานอื่นๆ ของ bulanbanraasie ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ bulanbanraasie
ความคิดเห็น