คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1 พบพาน(รีไรต์แล้ว)
บทที่ 1 พบพาน
“กลับมาแล้วค่ะ สวัสดีค่ะ พ่อ ป้าอเลน”หญิงสาวอายุประมาณ 16 ปี มีเรือนผมสีม่วงเฉกเช่นเดียวกับดวงตากล่าวขึ้น
“กลับมาแล้วเหรอ ลิบรา เป็นอย่างไรบ้างล่ะ ไปช่วยคุณวัฟเฟิลที่ร้านขนมวันแรก”ชายวัยกลางคนละจากหนังสือพิมพ์ มาคุยกับลูกสาวนามว่า “ลิบรา”
“ก็ดีค่ะ คุณวัฟเฟิลสอนลิบราทำขนมตั้งหลายอย่างเลย”หญิงสาวพูดกับผู้เป็นพ่ออย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะขอตัวเข้าห้องไปทำภารกิจส่วนตัว
“ลิบรา ทำภารกิจส่วนตัวเสร็จแล้ว มาพบพ่อที่ห้องสมุดด้วยนะ”
“ค่ะ พ่อ”ลิบราพยักหน้าก่อนหมุนตัวและเดินขึ้นบันไดไป
ห้องสมุด
“นั่งนี่สิ”ชายวัยกลางคนพูดพลางผายมือไปทางโซฟาที่อยู่ข้างๆตน
“พ่อ มีอะไรกับลิบราเหรอคะ”ลิบราถามพ่อด้วยความสงสัย นานแล้วที่พ่อของเธอไม่ชวนเธอมาคุยในห้องสมุดและทุกครั้งที่มาคุยก็จะมีเรื่องสำคัญที่บอกใครไม่ได้....แล้วครั้งนี้คืออะไรกัน
“ลูก อยากรู้ใช่ไหม ว่าแม่ของลูกเป็นใคร”ชายวัยกลางคนหันหน้ามาถามลิบรา ก่อนเดินไปหยิบสร้อยเส้นหนึ่งออกมาจากกล่องสีมุกบริสุทธิ์ที่เก็บอยู่ในลิ้นชักใต้โต๊ะเขียนหนังสือ
“อยากรู้ค่ะ แต่ถ้าพ่อยังไม่อยากบอกหนูก็ไม่เป็นไรนะคะ”ลิบราตอบคำถามชายวัยกลางคนด้วยท่าทีสบายๆแต่ในเวลาขณะหนึ่ง ดวงตาของเธอก็มีแววความสนใจและสั่นไหวเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรหรอก พ่อพร้อมที่จะบอกลูกแล้ว แต่ก่อนจะบอก พ่อขอให้ลูกเก็บสร้อยเส้นนี้ไว้ก่อนนะ อย่าทำหาย ทางที่ดีใส่ไว้กับตัวตลอด”ชายวัยกลางคนยิ้มให้ก่อนยื่นสร้อยที่ตรงกลางเป็นจี้ที่ประกอบด้วยอัญมณีโอปอลและมีเพชรเรียงรายคล้ายขนนกขนาบข้างทั้งสอง
“ค่ะ พ่อ”ลิบราตอบรับพร้อมสวมสร้อยเส้นนั้น
“สร้อยเส้นนี้เก็บรักษาไว้ให้ดีนะ เพราะ....”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามาได้”ชายวัยกลางคนกำลังจะบอก ก็มีเสียงเคาะประตูดังมาเสียก่อน ทำให้ชายวัยกลางคนต้องอนุญาตให้เข้ามาอย่างเสียมิได้
“ขอโทษค่ะ นายท่าน..เชิญที่ห้องอาหารได้แล้วนะคะ คุณอเลนทำอาหารเสร็จแล้วค่ะ”หญิงสาวฟน้าตาน่ารักและใส่ชุดสาวรับใช้เหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่นพูดขึ้น
“ลิบรา เราไปทานอาหารกันเถอะ ส่วนเรื่องนั้น พ่อว่า....เดี๋ยวลูกก็รู้เองดดยตัวลูกเอง”ชายวัยกลางคนพยักหน้าให้สาวรับใช้
“คะ(?) มันจะเป็นไปได้อย่างไร”ลิบราถามอย่างไม่เข้าใจคำพูดของพ่อของเธอ
“สักวัน อีกไม่นานลูกจะรู้เอง ไปทานอาหารเย็นกันเถอะ”ชายวัยกลางคนพูดทิ้งท้ายด้วยแววตาเศร้าสร้อย ก่อนเดินออกจาห้องเพื่อไปรับประทานอาหารที่ห้องรับประทานอาหาร
“ค่ะ”ลิบราตอบรับด้วยแววตางงๆ ก่อนเดินตามพ่อของเธอไป
วันรุ่งขึ้น
“พ่อคะ ลิบราไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”ลิบราย่อตัวให้ก่อนหมุนตัวออกจากบ้านที่เหมือนปราสาทซะมากกว่า
“โชคดีนะ ลิบรา”ชายวัยกลางคนตะโกนไล่หลังจากที่ลิบราออกจากบ้านไปแล้ว
ร้านวัฟเฟิลเลอรารี่
“สวัสดีค่ะ คุณวัฟเฟิล ลิบรามาแล้วค่ะ”ลิบราย่อตัวเป็นการเคารพและกล่าวทักทาย ก่อนเดินไปหลังร้านเพื่อนเปลี่ยนชุดเป็นชุดพนักงาน
“อ้าว หนูลิบรามาแล้วเหรอลูก สวัสดีนะจ๊ะ อีกอย่าง ป้าบอกแล้วนี่นาว่าให้เรียกป้า ไม่ต้องเรียกคุณหรอกนะ”คุณวัฟเฟิลซึ่งง่วนอยู่กับการนำขนมปังที่อบใหม่ๆใส่กล่องเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ก่อนจะทักทาย
“เอ่อ...ค่ะ ป้าวัฟเฟิล ว้าว! ขนมปังนี้คืออะไรคะ ทำไมกลิ่นหอมจังเลยล่ะคะ”ลิบราที่แต่งตัวในชุดพนักงานของร้านแล้วเข้ามาช่วยป้าวัฟเฟิลนำขนมปังที่อบใหม่ๆกบิ่นหอมกรุ่นใส่กล่อง พลางถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“อ๋อ ขนมปังนี่เหรอ...มีชื่อเรียกว่า ขนมปังไส้ราชเชอร์น่ะ เป็นไส้พิเศษที่ใช้ผลไม้ตระกูลเบอรี่ทั้งหมดมาผสมกับโกโก้และอะไรอีกสองสามอย่างน่ะ มีเฉพาะร้านป้าเลยนะ”ป้าวัฟเฟิลพูดพลางเก็บถาดขนมปังที่ก่อนนั้นใช้ใส่ขนมปังแล้วหันมาส่งยิ้มให้
‘น่าสนใจจังเลย’ลิบราคิดในใจ
“พรุ่งนี้หนูจะมาตั้งแต่เช้า ป้าวัฟเฟิลช่วยสอนหนูทำด้วยนะคะ”
“ได้สิจ๊ะ สูตรลับเลยนะเนี๊ย ลิบราออกไปรับลูกค้าหน่อยสิจ๊ะ”ป้าวัฟเฟิลหันมาบอกลิบรา หลังจากที่เห็นลูกค้าเดินเข้าร้านมา
“สวัสดีค่ะ ร้านวัฟเฟิลเลอรารี่ ยินดีต้อนรับค่ะ ไม่ทราบจะรับอะไรดีคะ”ลิบราโค้งตัวเคารพลูกค้าที่เข้ามาในร้านและเอ่ยทักทายด้วยหน้าเป็นมิตร
“ขนมปังไส้ราชเชอร์ 1 ชิ้นและชาเฟอรีกัน”ชายชุดคลุมสีดำ สวมหมวกไว้ทำให้ดูหน้าไม่ชัดพูดขึ้น
“ค่ะ ทั้งหมด 150 บาทค่ะ”ลิบรายิ้มรับก่อนจัดของที่ลูกค้าสั่งใส่ถุง
“เอ๊ะ สร้อยนั่น”ชายคนนั้นยื่นเงินที่ต้องจ่ายให้ ก่อนสังเกตเห็นสร้อยที่คอของลิบราและอุทานขึ้น
“สร้อยคอเส้นนี้ ทำไมเหรอคะ”ลิบราถามชายคนนั้นด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้อุทานออกมา
“เธอได้มันมาจากไหน”ชายคนนั้นถาม
“เอ่อ พ่อของดิฉันให้มาค่ะ”ลิบราจับสร้อยเส้นนี้ขึ้นมาดูแล้วตอบกลับไปแบบงงๆ
“งั้นเหรอ คงเป็นหล่อนสินะ”ชายคนนั้นพึมพำออกมาเบาๆก่อนเดินออกจากร้าน
“อ้าว ยังไงกันล่ะนี่”ลิบรามองตามหลังชายคนนี้ด้วยความไม่เข้าใจและได้แต่ยืนเกาหัวอย่างงงๆ
“แปลกจังเลยนะ ชายคนนั้นนี่ สั่งชาเฟอรีกันน่ะ”ป้าวัฟเฟิลเดินออกมาจากหลังร้าน แล้วเอ่ยขึ้นมาด้วยความแปลกใจ
“ทำไมเหรอคะ”
“เพราะชานั้นน่ะหายากน่ะสิ อย่างในร้านป้าเนี่ย ป้าชงไว้แค่แก้วเดียวเอง”ป้าวัฟเฟิลเอ่ยตอบก่อนที่จะชวนลิบราไปทำขนมหลังร้าน
ตอนเย็น
“กลับมาแล้วค่ะ”ลิบราเอ่ยขึ้นแล้วโค้งตัวเป็นการเคารพและยิ้มให้กับบิดาของเธอ
“กลับมาแล้วเหรอ ไปทำภารกิจส่วนตัวให้เสร็จแล้วมากินข้าวเย็นกันนะ เรามีนัดสำคัญที่ห้องสมุดหลังอาหารเย็นกัน”ชายวัยกลางคนผู้เป็นบิดาของลิบราพูดขึ้นหลังจากที่เห็นลิบราเดินเข้าบ้าน
“เอ๋ นัดสำคัญอะไรเหรอคะ”ลิบราถามด้วยความไม่เข้าใจ
“เดี๋ยวลูกก็รู้เอง”ชายวัยกลางคนตอบทิ้งท้ายก่อนเดินเข้าห้องอาหาร
ห้องสมุด
“พ่อมีนัดอะไรเหรอคะ”ลิบราเปิดฉากถามบิดาของตนหลังจากที่เก็บความสงสัยเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนเย็น
“ลิบรา พ่อของสร้อยที่พ่อให้ลูกเมื่อวานหน่อยสิ”ชายวัยกลางคนไม่ตอบแต่กลับขอสร้อยที่เพิ่งให้ลิบราไปเมื่อวาน
“ค่ะ”ลิบราถอดสร้อยที่สวมที่คอแล้วส่งให้บิดาของตนด้วยแววตาสงสัย
“สร้อยเส้นนี้เป็นสร้อยของแม่ของลูกน่ะ มันจะส่งต่อๆมาให้กับทายาทของตระกูลเรเนธิคทุกรุ่น แต่มันมีความสำคัญมาก และมันพิเศษก็เพราะลูกไม่ใช่คนของเรเนธิค”ชายวัยกลางคนหันมามองลิบราด้ายสายตาที่ยากจะคาดเดาได้
“ตระกูลเรเนธิค มันคือตระกูลอะไรคะ แล้วทำไมต้องส่งให้รุ่นสู่รุ่นด้วย แล้วแม่เป็นคนของตระกูลนี้เหรอคะ ทำไม..”ลิบราถามชายวัยกลางคนต่างๆนานา
“ลิบรา ลูกถามหลายคำถามเลยนะ พ่อจะอธิบายไปเรื่อยๆแล้วกัน ลูกอาจจะเข้าใจมากกว่าถามแล้วตอบไปเรื่อยๆก็ได้นะ
ตระกูลเรเนธิค ถือว่าเป็นตระกูลหลักสำคัญที่คอยค้ำจุดโลกแห่งหนึ่งไว้ The Zodiac...เคยได้ยินไหมลูก โลกแห่งนั้นแหละ เป็นโลกที่ต้องการหลักค้ำจุนและตระกูลเรเนธิคก็เป็นตระกูลค้ำจุนไว้ในฐานะตัวแทนราศีตุลย์ เป็นสิ่งที่น่าแปลกที่คนในตระกูลนี้เกิดในราศีตุลย์ทุกคนแต่ประเด็นมันไม่ใช่ตรงนั้นหรอกนะ แต่เป็นลูกเพราะลูกเป็นทายาทที่ได้รับอัญมณีสืบทอดแต่ลูกไม่ได้อยู่ในเรเนธิคน่ะและอีกอย่างก็คือ เมื่อรอบนี้เวียนบรรจบการทำภารกิจก็จะมีขึ้นมา ระวังตัวนะลูก พ่อบอกลูกได้แค่นี้แหละ”ชายวัยกลางคนกล่าวทิ้งท้ายด้วยแววตาเศร้าสร้อยแล้วเข้ามาลูบหัวพร้อมสวมสร้อยให้ลิบราก่อนเดินออกจากห้องสมุดไป
“อะ อ้าว แล้วนัดสำคัญคืออะไรล่ะ”ลิบราที่ยังงงๆอยู่ตั้งสติได้หลังจากที่บิดาของตนออกไปสักพักแล้ว
“นัดสำคัญรึ ก็นัดที่พวกเจ้าทุกคนมาร่วมฟังไงล่ะ หึๆ”
“เสียงอะไรกัน”ลิบราถามขึ้นมาเพราะไม่ทราบว่าเสียงนี้มาจากที่ไหนก่อนที่สติของลิบราจะเลือนรางก่อนจะวูบไป
“โอ๊ย!!”เสียงโอดครวญของลิบราและคนอื่นๆดังขึ้นในเวลาเดียวกัน
‘นี่มันที่ไหนนะ แล้วผู้หญิงตัวเล็กๆที่เกาะแขนชายหนุ่มปริศนาคนนั้นคือใครกันล่ะ??’
“ทะ…ที่นี้มันที่ไหนกันค่ะ ละ… แล้วพวกคุณเป็นใครกัน”สาวน้อยตาสองสีพูดขึ้น
“ใช่ๆ พวกเธอเป็นใครกันแน่”สาวน้อยผูกโบสีชมพูขนาดใหญ่พูดขึ้น
“อย่าเพิ่งสนใจเรื่องของชื่อเลย เราหาคนมาช่วยก่อนดีไหม อีกอย่างที่นี้มันคือที่ไหนกันแน่!!”สาวน้อยผมสีฟ้า ตาสีครามเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจพร้อมกับมองสถานที่รอบๆ
“ขอต้อนรับสู่ The Zodiac ครับ เทพแห่งราศีทั้ง 12”ชายหนุ่มปริศนาพูดขึ้นก่อนจะผายมือออกไปทางสิหารสีขาวขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงหน้า
‘นี่สินะ The Zodiac เทพแห่งราศีมันคือใคร อะไรกันล่ะ’ลิบราคิดอยู่ในใจ
“เทพแห่งราศีทั้ง 12 ??”สาวน้อยผมสีน้ำเงินเข้มและมีดวงตาสีมรกตพูดขึ้นเบาๆพร้อมกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“ว้าว!! ที่นี้สวยมากเลยโดยเฉพาะดอกไม้หน้าวิหารตรงนั้นน่ะ”สาวน้อยผมสีฟ้ามีดอกไม้ปักตรงผมคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยแววตาที่ตื่นเต้นพลางมองไปรอบๆและดูเหมือนว่าจะชอบธรรมชาติเอามากๆ
วิหารสีขาวขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้าของสาวน้อยทั้ง 12 คน มีลักษณะที่มีสีขาวทั้งวิหารอีกทั้งยังมีดอกไม้แลนำตกรายรอบอยู่บริเวณวิหานนั้น
“ว้าวๆ!! วิหาร วิหารสีขาว!! สาวน้อยที่มีหูกระต่ายสีน้ำเงินพูดขึ้นพร้อมกับวิ่งเข้าไปในวิหารนั้นโดยไม่รอใครด้วยความตื่นเต้น
“น่าสนุกนี่ ข้างในคงมีเงินเยอะน่าดู พวกเราเข้าไปกันเถอะ”สาวน้อยร่างเล็กผมสีชมพูเข้มเหมือนจะดำยิ้มขึ้นพร้อมกับชักชวนคนอื่นๆเข้าไปข้างใน
สิ้นเสียงของสาวน้อยผมสีชมพูเข้าคนนั้น คนอื่นๆก็เริ่มทยอยเดินเข้าไปในวิหาร
“อะ รอด้วยสิ”สาวน้อยคนหนึ่งที่ขณะนี้นั่งกินขนมอยู่ก็พลันลุกขึ้นแล้วเดินตามไปในทันที
“ทำไมที่นี้มันเงียบชอบกลนะ ทั้งๆที่วิหารแห่งนี้สวยงามขนาดนี้แท้ๆ”ลิบราเอ่ยขึ้นอย่างสงสัยพร้อมสังเกตไปรอบๆข้างในตัววิหารอย่างไม่ลดละ
“นั่นสินะคะ แปลกจริงๆ”สาวน้อยตาสองสีเอ่ยขึ้นอย่างสนับสนุนคำพูดของลิบราพร้อมกับเริ่มมองหาสาวน้อยที่เข้ามาก่อนเป็นคนแรก
กึก!!
สาวน้อยคนหนึ่งที่ขณะนี้ถือแมวอยู่ในมือหยุดเดินพร้อมชี้ไปที่แท่นศิลาขนาดใหญ่ใจกลางวิหาร ทำให้ลิบราต้องหยุดเดินแล้วมองตามที่สาวน้อยคนนั้นชี้
“นั้น?”อะไรน่ะ
“อะ....อะไรกันเนี่ย!! ทะ...ทำไม สติของเรา เริ่มเลือนราง”สาวน้อยผมสีชมพูเอ่ยขึ้นพลางพยายามดึงสติของตนเองให้อยู่กับเนื้อกับตัว
“พะ พวกเธอเป็นอะไรกันไหม!! ระวังตัวด้วย!!”สาวน้อยดวงตาสีมรกตผมสีน้ำตาลแก่พูดก่อนจะล้มลงไป
‘นะ...นี่มันอะไรกัน’ลิบราคิดในใจและพยายามข่มสติอันเลือนรางของตนเอง
วูบ!! และแล้วสติอันเลือนรางของลิบราก็ได้ดับวูบไปเช่นกัน
“นี่มันอะไรกัน!!”ลิบราเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นตระหนกเพราะเมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตนเองไม่ได้อยู่ในวิหารแล้ว ลิบราลุกขึ้นพลางสำรวจรอบๆก็พบว่ามีแท่นศิลาทีเหมือนในวิหารตั้งตระหง่านอยู่
“เจ้าคือ...ลิบรา นาลิเซีย เทพแห่งราศีตุลย์สินะ”เสียงนั้นดังขึ้นจากแท่นศิลา
‘เอ๊ะ! สิ่งนี้คืออะไรกันนะ รู้จักชื่อเราได้ไง’ลิบราครุ่นคิดกับสิ่งตรงหน้า
“ข้าคือแท่นศิลาแห่ง Zodiac ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังแล้วกัน เจ้าน่ะเกิดที่นี้เหมือนกับเทพแห่งราศีอื่นๆ
“แต่เราเกิดที่......”ลิบราตั้งท่าที่จะเถียงแต่ก็มีเสียงดังจากศิลาแทรกขึ้นมาไขข้อข้องใจ
“นั่นเป็นเพียงแค่การจุติเพื่อช่วยโลกแห่งนี้และโลกของเจ้าน่ะสิ พวกเจ้าน่ะคือผู้ที่จะช่วยโลกและจักรวาลแห่งนี้ แต่ละสมัยจะมีเทพมาจุติครั้งหนึ่ง...แต่ครั้งของเจ้ามันมีความพิเศษกว่าครั้งก่อนหรือเทพองค์อื่นๆ เจ้าจึงเป็นที่จะต้องช่วยโลกแห่งนี้รวมถึงจักรวาลและโลกของเจ้าให้พ้นจากหายนะ ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆว่าครั้งนี้ สาวน้อยเทพแห่งราศีตุลย์จะไม่ใช่คนของเรเนธิค”
‘เรเนธิค นั่นมัน....ตระกูลของคุณแม่นี่นา’ลิบราคำนึงถึงคำพูดของบิดาของเธอเมื่อไม่นานนี้ก่อนจะหันไปสนใจฟังสิ่งที่แท่นศิลาอธิบายต่อ
“แต่ก่อน ตระกูลเรเนธิคได้เข้ามามีส่วนร่วมในการตั้งโลกแห่งนี้และเป็นตระกูลค้ำจุนโลกแห่งนี้เพราะตระกูลเรเนธิคเป็นตระกูลที่มีแต่คนราศีตุลย์และทุกสมัยที่เทพนั้นได้หมดอำนาจและดับสูญไป อัญมณีก็จะเลือกเทพองค์ใหม่ขึ้นมา และสิ่งนั้นก็เลือกเจ้า...เจ้าที่ไม่ใช่คนในตระกูลเรเนธิคแต่เป็นสาวน้อยธรรมดา เจ้าอาจไม่รู้หรอกว่า อัญมณีนี้ได้อยู่กับเจ้าตลอดตั้งแต่เกิด แต่ตอนที่เจ้าเยาว์วัย เจ้าไม่อาจสัมผัสมันได้แม้แต่พลัง ไม่ว่าเจ้าจะสวมสร้อยหรือไม่ก็ตามแต่”
‘อัญมณี..?’ลิบราได้แต่ครุ่นคิดในใจ
“สร้อยอัญมณีโอปอลเส้นนั้นไงล่ะ เจ้าอาจยังไม่เข้าใจอะไรอีกมากมาย แต่ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องเข้าใจมันสักวันในอนาคต เชื่อข้าเถิด.... เอาล่ะ ข้ามีเวลาอีกไม่มากนักที่จะคุยกับเจ้าให้เข้าใจทุกอย่าง เจ้าจำต้องตามหาเพลิงสุริยัน สมบัติอันล้ำค่า แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย เจ้าต้องการคำใบ้หรือไม่”
“....”ลิบราเงียบ ได้แต่พยักหน้า
“มีแค่เพียงสถานที่นั้น....สถานที่เดียวที่มีกลิ่นหอมกรุ่น มีเพียงสถานที่เดียว”
“...??”ลิบรามองแท่นศิลาด้วยความไม่เข้าใจ
“หมดเวลาข้าแล้ว..ขอให้โชคดีเทพแห่งราศี”สิ้นเสียงแท่นศิลา ก็พลันเกิดแสงสว่างขึ้น
วูบ!!
‘เมื่อกี้มันอะไรกัน..’หลังจากที่ได้สติแล้วพบว่าตนเองยังอยู่ที่วิหารตามเดิม ลิบราจึงครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้น
“พะ....พวกเราเป็นอะไรกันไหม”เสียงของสาวน้อยตาสีมรกตพูดขึ้นและดูเหมือนเธอจะตั้งสติได้ก่อนคนอื่นๆ
“ฉันฝันอะไรแปลกๆ”สาวน้อยที่ถือถุงขนมอยู่ในมือพูดขึ้นพร้อมฉีกซองขนมออก
‘ความฝันเหรอ....ไม่ใช่หรอกมั้ง’ลิบราได้แต่เถียงในใจ
“มันไม่ใช่ฝันหรอก”ชายหนุ่มปริศนาพูดขึ้นทำให้ลิบราต้องหันไปมองด้วยแววตาสนใจและสงสัยปะปนกันไป
“ละ...แล้วเจอกันใหม่นะ ทุกคน”ลิบรามองเห็นสาวน้อยคนหนึ่งโบกมือลา
“แล้วเจอกัน..ถ้าได้เจอ”ลิบราพูดเบาๆ ก่อนเกิดหลุมมิติขนาดใหญ่ขึ้นต่อหน้าลิบรา
วูบ!!
20.00 น.
‘ทำไมเรามาอยู่ที่ห้องตัวเองได้ล่ะ หรือว่าคงเป็น...ไม่หรอกมั้ง’ลิบราส่ายหน้าไล่ความคิดไร้สาระนั้นออกไปก่อนลุกขึ้นเดินไปอาบน้ำ
ความคิดเห็น