ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Cubic Castle : เกมวงกต คฤหาสน์กลลวง

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2: นัดหมาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 169
      3
      3 มี.ค. 58

    สวัสดีครับ ผมชื่อธีระเด็กหนุ่มร่างสูงมาดสุภาพบุรุษเผลอเอามือลูบจมูกโด่งเป็นสันด้วยความประหม่าขณะกำลังให้สัมภาษณ์

    ครับ ความใฝ่ฝันของคุณคืออะไรครับ เอรันถามแบบไม่ใส่ใจนักขณะนึกทบทวนประวัติของคนผู้นี้ และพบว่าเขาเป็นที่นิยมชมชอบของคนมากมายในทุกสังคมที่เขาไปปรากฏตัวหรือมีส่วนร่วม มีเพื่อนฝูงและคนรู้จักมากมาย ฐานะทางบ้านก็ค่อนไปทางดี เรียกได้ว่าเป็นคนที่แทบจะไร้ที่ติใด ๆ

    ยกเว้นเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่น้อยคนจะรู้ แต่เอรันก็สามารถล่วงรู้ได้ถึงความผิดใหญ่หลวงของคนคนนี้

    ความใฝ่ฝันของผมคือธีระกลืนน้ำลายก่อนพูด อยากให้สังคมนี้เป็นสังคมที่คิดดี ประพฤติดี และดีไปถึงข้างในจิตใจ ถ้าทุกคนทำได้ตามนี้ ปัญหาอื่น ๆ ก็จะหายไปเองครับ

    เอรันเงยหน้าขึ้นก่อนเบิกตากว้างเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับตกใจจนอ้าปากค้าง เขายิ้มมุมปากก่อนหัวเราะในลำคอ และพูดพึมพำกับตนเองโดยยังไม่ได้เปิดไมโครโฟนว่า คุณนี่ก็ร้ายไม่ใช่เล่น ไม่แพ้คุณภูผาเลยนะครับเนี่ย

     

    สวัสดีครับ ผมชื่ออนัญ เด็กหนุ่มใบหน้าตกกระท่าทางอวดดีพูดราวกับรอเวลานี้มานานแล้ว คงเพราะเขาคิดว่าการสัมภาษณ์ครั้งนี้อาจมีการให้คะแนนซึ่งนำไปสู่การตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะในเกมนี้ เขาจึงตั้งใจเต็มที่และน่าจะซักซ้อมบทพูดที่จะตอบคำถามสัมภาษณ์อย่างละเอียดรอบคอบหลายครั้งแล้ว ซึ่งเมื่อมองจากสายตาของเอรัน ความตั้งใจนั้นมากเกินไปจนดูเสแสร้งที่สุดในบรรดาผู้เล่นคนอื่น เพราะเขาแสดงละครไม่เก่งและไร้ชั้นเชิงในการพูด

    เสียเหลือเกิน

    ความใฝ่ฝันของผมคือ การต้องการให้โลกนี้มีสันติภาพ เพราะปัจจุบันโลกเต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดี...”

    ทันทีที่อนัญพูดถึงความฝันที่ปั้นแต่งขึ้น เอรันก็รีบหมุนปุ่มเพื่อหรี่เสียงพูดของอนัญลงทันที เขาถอนหายใจก่อนจะบ่นว่า แค่ประโยคแรกที่พูดก็ขัดกับตัวตนของคุณแล้วล่ะครับ คุณอนัญ

     

    สวัสดีครับ ผมชื่อโพคิณ เด็กหนุ่มที่ดูไม่มีจุดเด่นอะไรมากนัก พฤติกรรมและลักษณะนิสัยของเขานั้นมีส่วนที่คล้ายกิ้งก่ามากพอสมควร นั่นก็คือการไม่มีตัวตนชัดเจนแต่กลับพยายามกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมหรือกลุ่มคนต่าง ๆ ราวกับเป็นคนที่โหยหาการเข้าสังคมและต้องการให้ทุกคนมาสนใจตลอดเวลา

    ความใฝ่ฝันของผมคือ การได้อยู่ในบ้านหลังใหญ่ มีสระน้ำอยู่หลังบ้านโพคิณพูดพลางเหลือบตาขึ้นด้านบน นั่นไม่ใช่พฤติกรรมที่เข้าข่ายว่ากำลังนึกเรื่องโกหกอยู่แต่อย่างใด แต่ราวกับว่าเขากำลังเพ้อฝันอยู่ต่างหาก นอกจากนี้ การที่เขาเอาแต่พูดเรื่องความฝันของตนเองนั้นก็พอจะอนุมานได้ว่า เขาไม่ใช่คนชอบสร้างภาพเหมือนคนอื่นที่เอาแต่พูดเรื่องห่างไกลตนเองไปเป็นเรื่องของสังคมส่วนรวมแทนอย่างไรก็ดี หากมองในมุมกลับกัน มันก็สามารถตีความได้ว่าเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจคนรอบข้างแม้ยามอยู่ในกลุ่มเพื่อน เขาอาจจะพยายามพูดแต่เรื่องของตนเองเพื่อจะได้หลุดพ้นจากการเป็นเพียงกิ้งก่าในสายตาของเพื่อน ๆ และมีสีสันเป็นของตัวเองได้บ้างเสียที

    โพคิณพล่ามฝันของตัวเองไปอีกราวห้านาที ก่อนจะถามอย่างสงสัย ว่าแต่... ถ้าชนะเกมนี้ จะได้เงินรางวัลหลายล้านจริงเหรอ

     

    สวัสดีค่ะ ฉันชื่ออารยาหญิงสาวรูปร่างหน้าตาคล้ายนางแบบพูด เธอนั่งประสานนิ้วมือทั้งสิบเข้าด้วยกันแล้ววางมือลงบนเข่า ซึ่งบ่งบอกว่าเธอกำลังประหม่าแต่พยายามสงบอารมณ์ ความใฝ่ฝันของฉันคือ... ไม่รู้สิคะ ฉันไม่ใช่คนที่มีความฝันอะไรสูงส่งยิ่งใหญ่มากมาย ฉันไม่ใช่คนดีเลิศพอจะฝันถึงโลกที่สวยงาม สังคมที่ดีงาม เพราะตัวฉันเองยังทำตัวเองให้เหมาะสมกับโลกแบบนั้นไม่ได้เลย ฉันเคยทำผิดพลาดไปตั้งหลายครั้ง และด้วยอาชีพของฉันทำให้ฉันต้องปั้น

    หน้ามั่นใจสวมใส่เสื้อผ้าแปลก ๆ เพื่อถ่ายแบบมากมาย ไม่มีโอกาสได้ปลดปล่อยจิตใจตัวเองสักเท่าไหร่ ...ขอโทษค่ะ ตอบนอกเรื่องไปเสียเยอะ

    เอรันตอบกลับอย่างนุ่มนวล ไม่เป็นไรครับ ลองยกตัวอย่างความปรารถนาอะไรสักอย่างที่คุณต้องการตอนนี้มาแทนความใฝ่ฝันของคุณแล้วกันครับ จะเล็กน้อยแค่ไหนก็ได้

    อารยาเอียงคอเล็กน้อย สีหน้าของเธอจมอยู่กับความทุกข์ ก่อนจะตอบว่า ฉันอยากหลุดพ้นจากสิ่งที่ฉันยังจมปลักอยู่ในใจของตัวเอง ไม่อยากมีความทุกข์ค่ะ

    เด็กหนุ่มปริศนาเอามือลูบคางตนเอง ก่อนจะพูดผ่านไมโครโฟนว่า ขอบคุณครับ ความปรารถนาของคุณน่าจะเข้ากับคำถามต่อไปซึ่งเป็นคำถามสุดท้ายพอดี...

     

    สวัสดีครับ ผมชื่อโอจิน

    เอรันจ้องมองสีหน้าที่ตอบคำถามแบบทีเล่นทีจริงของโอจิน เด็กหนุ่มคนนี้คืออัจฉริยะคอมพิวเตอร์ และเป็นคนที่กล้าหาญมากกว่าเด็กเนิร์ดทั่วไปพอสมควร อันที่จริงถ้าจะพูดว่าชอบท้าทายสังคมตามประสาวัยรุ่นทั่วไปน่าจะเหมาะกว่า แต่ก็มีนิสัยเสียอย่างหนึ่งคือเป็นคนที่ชอบรู้มากแล้วเก็บเงียบไม่ให้ใครรู้ จะได้แอบใช้คนอื่นเป็นหนูทดลองได้ อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่คนที่ชอบหลอกใช้คนอื่นโดยสันดาน แค่เป็นคน

    ที่ไม่มีกาลเทศะหรือรู้ถูกผิด จึงทำไปตามที่ตนเองคิดว่าสนุกหรืออยากรู้อยากลองก็เท่านั้น

    ความใฝ่ฝันของผมคือ การได้ลองใช้คอมพิวเตอร์เปลี่ยนโลกครับ ...ผมได้ผ่านเหตุการณ์หนึ่งซึ่งทำให้ผมตระหนักว่า ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ของผมสามารถทำเรื่องดี ๆ ได้มากพอกับที่สามารถทำเรื่อง

    ร้าย ๆ มันอยู่ที่ว่าผมจะเลือกไปทางไหน ผมเคยสับสนหลายครั้งและเคยเลือกทางผิดไปบ้าง ผมลองมองย้อนดูว่า จริง ๆ แล้วที่ผมสนใจด้านคอมพิวเตอร์ เพราะผมมีความสุขที่ได้ลองทำมัน ลองพัฒนาแอพลิเคชันต่าง ๆ และดูว่าคนที่ใช้มันจะชอบหรือไม่ ผมคิดว่าต่อไปนี้ผมจะเริ่มต้นจากจุดนั้น ทำแอพลิเคชันด้วยความสุขและความสนุก และหวังให้คนที่ใช้มันจะได้สิ่งดี ๆ กลับไปครับ

    รอยยิ้มของเด็กเนิร์ดนั้นยากที่จะใช้ตัดสินได้ว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องโกหกหรือพูดด้วยความจริงใจ คงมีเพียงเจ้าตัวและเอรันเท่านั้นที่รู้ว่าเป็นอย่างไรกันแน่

     

    หลังจากที่การสัมภาษณ์ทุกคนจบสิ้น เอรันก็นั่งทบทวนอะไรต่าง ๆ อยู่พักหนึ่งก่อนลุกขึ้นบิดขี้เกียจแล้วพึมพำว่า ครบสิบสองคนแล้ว...ได้เวลาเริ่มเกมแล้วสินะ

    เขาหยิบอุปกรณ์ขนาดเล็กลักษณะคล้ายโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วพิมพ์ข้อความบางอย่างลงบนหน้าจออย่างใจเย็น

     

    การสัมภาษณ์จบสิ้นลงแล้ว ขอให้ทุกคนออกจากห้องสัมภาษณ์ แล้วเปิดประตูเหล็กบานตรงกลางห้องได้เลยครับ ผมจะพาทุกท่านไปยังห้องอาหารเอง

    ทันทีที่เอรันพูดจบ ทุกคนก็เดินออกมาจากห้องสัมภาษณ์ ธีระมองหน้าศิตาพักหนึ่งแล้วยิ้มด้วยท่าทางสุขุมเรียบร้อยราวกับจะทักทาย ทำให้เยาวภาอดแซวไม่ได้ ดูเหมือนคุณธีระจะเป็นคนดีนะคะพี่ แบบนี้สเปกพี่เลยล่ะสิ หนูรู้น่า

    เดี๋ยวเถอะ !” ศิตาใช้ศอกกระทุ้งน้องสาวตนเอง ขณะที่ผู้เล่นคนอื่น ๆ เริ่มจับกลุ่มคุยกันอีกครั้ง

    ที่แท้นายก็เป็นผู้เล่นเกมอีกคนนี่เอง มิน่าฉันถึงเห็นนายป้วนเปี้ยนแถวท่าเรือกรีฑาพูดกับโพคิณ

    ฉันต่างหากที่ต้องพูดประโยคนั้น ฉันเห็นนายหงุดหงิดจนเตะข้าวของไปทั่ว ยังอดคิดไม่ได้เลยว่า นายคงรอเข้าร่วมเกมนี้มานานแล้วเพราะฉันก็หงุดหงิดที่รอนานเหมือนกันโพคิณตอบ

    ในขณะที่ทุกคนเดินไปยังประตูเหล็กกลางห้อง อนัญก็ตัดสินใจถามออกไป ตอนอยู่แถวท่าเรือนายเดินอยู่ใกล้ร้านขายของชำแล้วซื้อน้ำอัดลมกระป๋องหนึ่งใช่ไหม

    ธีระตกใจ นี่นายเห็นฉันด้วยเหรอ จำได้ละเอียดจริงนะ

    แปลว่าที่ฉันเห็นเป็นนายจริง ๆ ด้วย มิน่าล่ะ ฉันก็สงสัยว่า ทำไมต้องให้ฉันไปรอที่สวนสาธารณะที่ไกลจากตัวท่าเรือด้วย ที่แท้คงเป็นเพราะผู้จัดเกมนั่นนัดพวกเราสิบสองคนให้ยืนรอคนละส่วนของท่าเรือ จะได้ไม่เจอกันแล้วคุยทำความรู้จักกันก่อนเริ่มเกม เพราะพวกเราอาจจะรวมตัวกันทำอะไรแปลก ๆ ก็ได้เด็กหนุ่มหน้าตกกระสันนิษฐาน ภูผาที่ยืนฟังอยู่ก็พยักหน้าเล็กน้อยเพราะคิดตรงกัน

    ดีไซเนอร์สาวผู้ทาลิปสติกสีแดงเข้มเดินผ่านอนัญแล้วพูดว่า ฉันเองก็เห็นเธอก่อนเริ่มเกมเหมือนกัน ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ มองธีระแบบนั้น แปลว่าเธอเองก็สงสัยตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าผู้เล่นเกมนี้คงมีหลายคนสินะ

    อนัญตกใจ คุณเดินผ่านผมด้วยเหรอ ทำไมผมไม่เห็นคุณเลย

    เพราะฉันไม่ทำตัวเด่นไง พอฉันเห็นท่าทางเธอก็พอเดาได้แล้วว่าเธอน่าจะเป็นผู้เล่นของเกมนี้ที่กำลังสงสัยว่าธีระจะเป็นผู้เล่นเกมอีกคน ดังนั้นฉันก็แค่ทำตัวเป็นปกติ ไม่เหมือนกำลังรอใครและกำลังแอบมองใครอยู่ด้วย พวกเธอก็เลยไม่ได้สนใจฉันไงล่ะนิตยาพูดอย่างดูแคลน ขณะที่อนัญทำท่าตกใจเพราะไม่คาดคิดว่าคนรอบคอบอย่างตนจะมองข้ามนิตยาไปได้

    ทุกคนเข้าไปนั่งล้อมวงที่โต๊ะอาหารซึ่งทำจากหินแกรนิตสีดำสนิทและมีเชิงเทียนราว ๆ สามอันวางอยู่กลางโต๊ะพร้อมจานอาหารว่างเปล่าที่หัวโต๊ะมีเก้าอี้ทรงสูงเหมือนกับเก้าอี้สำหรับให้เด็กน้อยนั่งทานอาหารและมีแมวสีตะกั่วนอนขดตัวอยู่บนนั้นอย่างเกียจคร้าน

    อย่าบอกนะว่าไอ้แมวนั่นคือผู้คุมเกม มันจะอธิบายเกมให้เราฟังหรือไงอนัญประชด

    ในวินาทีถัดมา แมวตัวนั้นก็อ้าปากกว้าง สวัสดีครับ ผมชื่อเอรัน

    โพคิณตกใจ เฮ้ย ! อย่าบอกนะว่ามันพูดได้จริง ๆ

    เสียงจากลำโพงที่ตัวแมวน่ะโอจินบอก เขานั่งลงตามตำแหน่งของกระดาษที่วางไว้บนโต๊ะ พร้อมอุปกรณ์คล้ายโทรศัพท์มือถือขนาดใหญ่ซึ่งวางไว้ข้างกัน

    นี่มันอะไรเนี่ยกรีฑาหยิบอุปกรณ์ประหลาดนั้นขึ้นมาแล้วหันไปถามแมวตัวนั้น

    อุปกรณ์รับสัญญาณน่ะครับ จอเรดาร์จะบอกพิกัดของผมในบ้านหลังนี้ เพราะผมจะพกเครื่องส่งสัญญาณติดตัวเอาไว้ พูดง่าย ก็คือ เอาไว้ให้ทุกคนหาตำแหน่งของผมในคฤหาสน์หลังนี้ให้พบ

    แล้วเราจะอยากหาตัวนายให้เจอไปทำไมภูผาแกล้งถาม ทั้งที่เขาพอจะคาดเดาคำตอบได้

    ก็เพื่อเงินหลายร้อยล้านยังไงล่ะครับ

    ทุกคนเงียบไปพักหนึ่ง และลอบมองหน้าผู้เล่นคนอื่น ๆ

    กติกาของเกมนี้ง่ายมากครับ เอรันพูดคล้ายกำลังกลั้นหัวเราะ แค่ตามหาตัวผมให้พบก็พอ

    นิตยาหัวเราะ ง่ายตรงไหน บ้านนายออกจะใหญ่ ข้างนอกนั่นก็ต้องเป็นสวนกว้าง ๆ แน่...”

    ผมจะซ่อนตัวอยู่ในตัวคฤหาสน์นี่แหละ ไม่ต้องหนีไปไกลถึงนอกสวนหรอก เพราะแค่ในบ้านนี้ก็ยากกว่าที่คุณจะจินตนาการได้แล้วล่ะครับ แม้คำพูดของเขาจะเต็มไปด้วยความมั่นใจเกินเหตุและค่อนข้างโอ้อวดจนน่าหมั่นไส้ แต่ไม่รู้เพราะอะไร ทุกคนกลับรู้สึกหวาดกลัวและสังหรณ์ร้ายในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด

    แต่คฤหาสน์นี้กว้างมากจริง ๆ หลงได้ง่าย ๆ เลยศิตาพยายามพูดเพื่อกลบเกลื่อนความกลัวในสิ่ง เหนือจินตนาการที่ผู้จัดเกมพูดถึง โดยกำหนดกรอบให้ความยากของเกมนี้อยู่แค่ความกว้างใหญ่ของสถานที่เท่านั้น

    หึหึ คฤหาสน์นี้ไม่ใช่แค่กว้างเฉย ครับ มันซับซ้อนเป็นเขาวงกตเลยล่ะ ผมไม่ได้เปรียบเปรยนะครับ คฤหาสน์นี้ถูกสร้างเพื่อให้เป็นเขาวงกตจริง เอรันพูดพลางเดาะลิ้นไปมา ราวกับกำลังนึก อยู่ว่าควรจะพูดอะไรต่อดี มนุษย์ทั่วไปจินตนาการไม่ถึงหรอกครับ

    จินตนาการไม่ถึงอีกแล้วเรอะ แล้วนายเป็นใครมาจากไหนถึงได้จินตนาการเหนือมนุษย์ขนาดนั้นกรีฑาถามเสียงห้วน

    อาจเป็นเพราะ... ผมไม่ใช่มนุษย์ล่ะมั้งครับ เอรันตอบทีเล่นทีจริง ซึ่งทำให้บางคนถึงกับชะงัก ขณะที่บางคนไม่ได้ใส่ใจคำพูดดังกล่าวมากนัก เพราะคิดว่าถึงอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้

    มัวแต่ถามคำตอบคำแบบนี้เสียเวลาเปล่า น่าหงุดหงิดด้วย ผมสรุปให้เลยแล้วกัน คฤหาสน์นี้ไม่น่าจะใช่คฤหาสน์ธรรมดา ๆโอจินพูดแทรกขึ้นมาขณะสายตายังจับจ้องที่แท็บเล็ต นิ้วมือพิมพ์อะไรบางอย่างรัวเร็วเช่นเดียวกับเด็กติดเกมที่ตอบคำถามพ่อแม่โดยไม่มองหน้าใครเพราะยังเล่นเกมไม่เสร็จ ทำให้ทุกคนประหลาดใจและกังขาในตัวเด็กเนิร์ดผู้นี้มากขึ้น

    ทำไมคุณถึงคิดอย่างนั้นล่ะครับ เสียงของเอรันแฝงความสนุกสนานเอาไว้เล็กน้อย

    บางส่วนของบ้านที่ควรจะมีหน้าต่าง... กลับไม่มีหน้าต่างสักบาน ภูผาพูดขึ้น

    ธีระเพิ่งนึกได้ว่าเป็นเช่นนั้นจริง แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกันแน่ จึงเอ่ยถามขึ้น หมายความว่ายังไง

    ไม่ใช่ว่าหน้าต่างถูกรื้อออกหรือถูกปิดตาย แต่ผนังมันเรียบจนเหมือนกับว่าคนสร้างจงใจไม่ติดหน้าต่างเข้ามาตั้งแต่แรกนิตยาตั้งข้อสังเกตต่อ พวกเธอหมายความว่าอย่างนั้นใช่ไหม

    เมื่อดีไซเนอร์สาวหันไปถาม ทั้งภูผาและโอจินก็พยักหน้าพร้อมกัน

    มันอาจเป็นแค่คฤหาสน์ธรรมดาที่ไม่มีหน้าต่างก็ได้นี่ครับ อาจเป็นเพราะรสนิยมส่วนตัวของผม เอรันกล่าว

    ผนังคฤหาสน์ซีกหนึ่งเต็ม ๆ ไม่มีหน้าต่างเลยทุกชั้นเนี่ยนะ ฉันว่ามันไม่ปกติแน่ ๆนิตยาส่ายหน้า ขณะที่โอจินหัวเราะราวกับเด็ก ไม่งั้นก็คงหมายความว่ารสนิยมนายผิดปกติสุดๆ ทำเป็นพวกเด็กเก็บตัวไม่อยากเห็นแสงเดือนแสงตะวันไปได้

    หรือไม่ก็... นายไม่ได้อยากเก็บตัว แต่ไม่อยากให้พวกเราเห็นโลกภายนอกในระหว่างที่อยู่ในเกมนี้ภูผาพูดสรุปอย่างชัดเจนพลางยกแขนขึ้นกอดอก

    แล้วก็เหมือนกับจะซ่อนอะไรเอาไว้ ไม่ให้คนข้างนอกมองเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นด้านในโอจินตัดสินใจวางแท็บเล็ตลงแล้วจ้องมองไปที่กล้องซึ่งติดอยู่ที่ตัวแมวราวกับต้องการส่งสายตาท้าทายเอรัน

    หรือไม่ก็ทั้งสองอย่างสินะนิตยาเองก็จ้องมองเจ้าแมวเช่นกัน

    พวกคุณทุกคนช่างสังเกตมาก ครับ อา... โดนรุมแบบนี้ ผมตั้งหลักไม่ถูกเลย กลัวแล้วจริง ครับ เสียงของเอรันไม่ได้มีความกลัวเจือปนแม้แต่น้อย ความเสแสร้งของเขาทำให้ทุกคนรู้สึกอึดอัด

    หรือจริง ๆ บ้านนี้จะถูกสร้างขึ้นไม่นานเพื่อเป็นฉากในเกมเหมือนพวกรายการเกมโชว์เยาวภาตั้งข้อสังเกต

    ไม่หรอก อายุบ้านหลังนี้น่าจะหลายสิบปีอยู่อารยามองไปรอบ ๆ ห้องอาหาร

    ที่ดูเก่าอาจจะเพราะเป็นการตกแต่งฉากก็ได้นี่พีตาแย้ง

    ไม่หรอก มันดูเก่ามากจริง ๆ นะ อย่างกับถูกสร้างมาเป็นร้อยปีแล้วธีระพูดอย่างรู้สึกขนลุกขณะเดินไปจับผนังที่มีรอยร้าวซึ่งบ่งบอกความเก่าแก่ของสิ่งก่อสร้าง

    เมื่อทุกคนนึกภาพว่า มีใครบางคนจงใจสร้างโดยไม่คิดจะติดหน้าต่างสักบานในบริเวณซีกหนึ่งของตัวคฤหาสน์หลังนี้ด้วยจุดประสงค์บางอย่างมาตั้งแต่ร้อยกว่าปีก่อน และจุดประสงค์นั้นก็ถูกสืบทอดมาจนปัจจุบัน พวกเขาต่างก็อดรู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมาไม่ได้

    ความยากของเกมไม่ได้อยู่แค่ตรงที่คฤหาสน์นี้เป็นเขาวงกตหรอกครับ เอรันกล่าว ความยากที่แท้จริงก็คือ ถ้าพลาดในเกมนี้... หมายถึงความตายครับ

    ทุกคนเงียบไปชั่วขณะ เด็กหนมุ่ ปริศนาจึงกล่าวย้ำ เป็นการตายจริง ครับ ไม่ใช่แค่การสมมติแบบในเกมทั่วไป

    จะย้ำอะไรนักหนาวะอนัญหงุดหงิด ขณะที่ธีระได้แต่บ่นกระปอดกระแปดว่า โกหกชัด ๆ จะตายจริงได้ยังไง

    ขอถามหน่อยสิ เอรันภูผายกมือขึ้นราวกับกำลังอยู่ในชั้นเรียน นายจะเอาคลิปวิดีโอที่สัมภาษณ์พวกเราไปทำอะไร

    เอรันที่แอบเฝ้ามองภูผาอยู่พยายามพินิจพิเคราะห์อารมณ์ความรู้สึกที่แอบแฝงอยู่ในแววตาของเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักคนนี้ มันช่างเย็นชาและดำมืด เดี๋ยวคุณก็ได้รู้เองครับ

    ทุกคนรู้ดีว่า หากยังไม่ถึงเวลาอันสมควร เอรันก็คงไม่คิดจะตอบคำถามแน่นอน ดังนั้น แม้กรีฑาจะไม่ค่อยพอใจวิธีการตอบของอีกฝ่ายนักแต่ก็เลือกที่จะเงียบ

    เอาล่ะ พร้อมจะเล่นเกมหรือยังครับ เด็กหนุ่มปริศนาถาม เสียงของเขาทำให้ทุกคนนึกภาพออกเลยว่าขณะที่กำลังพูดประโยคนี้ อีกฝ่ายคงกำลังยิ้มมุมปากอยู่เป็นแน่

    พร้อมมาตั้งนานแล้วอนัญบ่นพึมพำด้วยความมั่นใจในตัวเอง

            ผมขออธิบายเรื่องกติกาของเกมก่อนนะครับ คนที่ออกจากคฤหาสน์หลังนี้ได้เป็นคนแรก จะได้รับเงินรางวัลและรอดชีวิตออกไปได้ ส่วนคนอื่น ผมคงไม่ต้องบอกชะตากรรมนะครับ

    สถิตได้ยินดังนั้นก็ถามอย่างหวาดกลัว ถะ... ถ้าอยากออกไปจากเกมนี้พร้อมกันหลายคนล่ะ

    ก็ต้องจับผมให้ได้พร้อมกัน แล้วออกจากคฤหาสน์หลังนี้ให้ได้พร้อมกันยังไงล่ะครับ

    เรื่องแบบนั้นจะเป็นไปได้เหรอเนี่ย

    อันนี้ก็แล้วแต่จะตกลงกันครับ เอรันพูดอย่างมีเลศนัย

    ศิตากับเยาวภามองหน้ากัน เพราะในเกมนี้มีแค่พวกเธอสองคนที่รู้จักกันอย่างลึกซึ้ง เนื่องจากมีสัมพันธ์กันแบบพี่น้องร่วมสายเลือดดังนั้นทั้งคู่จึงกังวลว่าจะสามารถรอดออกจากเกมนี้ไปได้พร้อมกันหรือไม่แต่อีกใจพวกเธอก็พยายามจะปลอบใจตัวเองว่า ถึงอย่างไรเกมนี้ก็คงไม่โหดร้ายถึงขั้นคร่าชีวิตคนอื่นได้หรอก

    เดี๋ยวสักพักจะมีรูปของผมปรากฏบนหน้าจอเครื่องรับสัญญาณของทุกคนครับ

    ผู้เล่นทุกคนพากันก้มมองอุปกรณ์รับสัญญาณ ก็พบภาพของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ใบหน้าเกินครึ่งถูกเงามืดบดบัง แต่ก็พอจะดูออกว่าเป็นคนหน้าตาหล่อเหลา ทว่ารอยยิ้มมุมปากกลับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์จนน่าขนลุก ในภาพนั้นเขาอุ้มแมวสีตะกั่วเอาไว้ ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ทุกคนเห็นอยู่ขณะนี้

    ถ้าดูภาพเสร็จแล้ว ต่อไปก็เชิญดูตำแหน่งของผมได้จากเครื่องรับสัญญาณ แล้วก็เตรียมไล่จับผมได้เลยครับ เอรันกล่าวต่อ

    ทุกคนก้มมองอุปกรณ์ก่อนจะเบิกตาโพลง เพราะตำแหน่งที่ปรากฏบนหน้าจอนั้นบอกว่า ...เอรันอยู่ห้องข้าง ๆ นี่เอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×