NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One piece Another Nakama 2

    ลำดับตอนที่ #219 : สิ่งเปลี่ยนไปสองสิ่งที่ต้องรู้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.6K
      68
      25 มี.ค. 62

    เหล่าโจรสลัดมนุษย์ยินดีเมื่อได้รับการปลดโซ่ตรวนและได้รับอิสระ

    "ไชโยเป็นอิสระแล้ว"

    "สมน้ำหน้าเจ้าโฮดี้"

    "นึกว่าต้องเป็นทาสตลอดชีวิตซะแล้ว"

    "กลุ่มหมวกฟางฉันเป็นหนี้พวกนาย"

    "ใช่แล้ว ฉันจะเป็นราชาโจรสลัดให้ได้เลย!!!"

    "เอ๋? แบบนั้นไม่ไหวมั้ง"

    "เจ้าบ้าต้องเป็นได้สิ!!!"

    "ในที่สุดก็จะได้ไปนิวเวิลด์แล้ว!!!"

    เสนาซ้ายขวามองอดีตทาสโจรสลัดต่างพากันวิ่งจากไปด้วยความกังวล

    "ปล่อยไปจะดีเหรอครับ พวกนี้แค้นโฮดี้ก็จริง แต่อาจจะมาลงกับเผ่ามนุษย์เงือก"เสนาขวากล่าว

    "ไว้เป็นงั้นค่อยว่ากันใหม่ เดิมทีเกาะนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนของโจรสลัดอยู่แล้ว ที่พวกเขามาที่นี่ไม่ได้มีเจตนาร้าย ไม่จำเป็นต้องกักตัวไว้หรอก"

    พวกเขาหันไปมองพวกเขตเมืองมนุษย์เงือก

    "เอาล่ะ สำหรับโจรสลัดมนุษย์เงือกรุ่นใหม่ที่เหลือ"

    โจรสลัดมนุษย์เงือกรุ่นใหม่หวาดกลัว

    "อย่าตัดหัวพวกเราเลย"

    "พวกเราไม่รู้มาก่อนเลยว่าโฮดี้เป็นคนสังหารราชินี ไอ้หมอนั้นมันเสียสติชัดๆ"

    "จากนี้ไปพวกเจ้าต้องมาอาศัยอยู่บนเกาะมนุษย์เงือก"เนปจูนกล่าว

    "หา!!?"

    "ว่าไงนะ จะให้อยู่ภายใต้กฎหมายเหรอ?"

    "แต่ฉันโอเคนะ ดีกว่าอยู่ภายใต้โฮดี้"

    "ไม่เอานะครับองค์ราชา จะให้เจ้าพวกนี้มาเดินอยู่ในเมืองได้ยังไง"

    "ฉันไม่กล้าให้เด็กๆออกนอกบ้านหรอกคะ"

    "พวกเจ้าจะต้องมาทำงานภายใต้การดูแลของกองทัพ เพื่อเป็นการชดเชยความผิดจามอน จงใช้เรี่ยวแรงที่มีมากเกินไปนั้นมาทำประโยชน์ซะ ส่วนเขตเมืองมนุษย์เงือกที่อยู่ไกลหูไกลตาจะถูกปิดตั้งแต่นี้ไปจามอน"

    "เมื่อรู้ตัวจริงของคนร้ายที่สังหารราชินีโอโตฮิเมะ ความครุมเครือภายในเผ่ามนุษย์เงือกก็ได้รับการเฉลย แผนการยึดเกาะมนุษย์เงือกของโจรสลัดโฮดี้ โจนส์ ได้ถูกขัดขวางโดยโจรสลัดกลุ่มนึงที่แวะมาที่เกาะ"

    "นี่ หมวกฟาง ลูฟี่ อยู่ไหนเหรอจามอน?"เนปจูนถาม

    "เอ่อ คือว่า...หนีไปแล้วครับ"ฟุคาโบชิตอบ

    "หนีไปแล้ว!!?"

    _________________

    เรือเธาซันต์ ซันนี่ลอยอยู่บนอากาศด้วยบอลลูนฟองสบู่โดยมีเมกาโลลากเรือให้

    "ทุกท่านคะ ทำไมต้องหนีจากลานมาแบบนี้ด้วยละคะ?"

    "ถามอะไรโง่ๆ ถูกคนเป็นฝูงเห็นตอนอยู่ที่ลานนั่นน่ะ ขืนอยู่ต่อมีหวังโดนมองว่าเป็นฮีโร่กันพอดี แค่คิดก็ขนหัวลุกซู่แล้ว"

    "ถูกมองเป็นฮีโร่แล้วอย่างงั้นไม่ดีเหรอคะ?"ชิราโฮชิถาม

    "ทำไมต้องปฎิเสธด้วยล่ะจินเบ ไปผจญภัยด้วยกันเถอะ"ลูฟี่จับคอเสื้อพยายามเอาจินเบเข้ากลุ่ม

    "ใช่แล้วมาเป็นพวกเดียวกันเถอะลูกพี่!!"อุซปตะโกน

    "ถ้าได้อดีตเจ็ดเทพมาเป็นพวกคงใจชื้นขึ้นเยอะ"ช็อปเปอร์ร้องและมองกัปตัน"ส่วนลูฟี่ก็พักผ่อนมากๆนะ"

    "ข้าบอกแล้วไงว่าสำหรับตอนนี้ยังไม่ได้ ที่จริงข้าดีใจมากนะที่พวกเจ้าชวนข้า การได้ออกทะเลไปพร้อมกับพวกเจ้าน่ะต้องสนุกแน่ๆเลย แต่ตอนนีข้ายัวมีเรื่องที่ต้องทำอยู่อีก ด้วยสถานะที่เป็นอยู่ยังมีเรื่องต้องจัดการ ตอนนี้ข้าเพียงแต่ผละออกมาชั่วคราว เมื่อใดที่ข้าเสร็จสิ้นภาระและหมดเรื่องที่กังวลแล้ว ข้าสัญญาว่าจะเป็นฝ่ายไปพบพวกเจ้าเองเลย เมื่อถึงตอนนั้นแล้วถ้าความรู้สึกของเจ้ายังเป็นเหมือนเดิม เจ้าก็ชวนข้าเข้ากลุ่มหมวกฟางอีกครั้งจะได้ไหม?"

    "นายห้ามผิดสัญญานะ"ลูฟี่กล่าว

    "ในเมื่อคนเขาบอกว่ามีภาระต้องทำ นายก็อย่าไปไล่บี้นักสิ"ซันจิกล่าว

    "ท่าทางจะชอบเอามากๆเลยนะ"โรบินกล่าว

    วี่วี่ เซียร์และอุซปหัวเราะกันเบาๆ

    คิรัวร์ โซโล และนามิยิ้มเล็กน้อย

    "นายเป็นคนที่ลูฟี่ถูกใจ แล้วจะรอนะจินเบ"แฟรงกี้กล่าว

    "อา ขอบใจนะ"จินเบกล่าว

    "แล้วจะเอาไงต่อ จะเข้านิวเวิร์ลกันเลยมั้ย?โซโลถาม

    "เอ๋? จะไปจากเกาะนี้แล้วเหรอคะ"ชิราโฮชิถาม"เราอยากจะไปตอบแทนแล้วก็คุยกับพวกท่านเยอะๆก่อนคะ"

    "โอเค ไปอยู่ที่เมอร์เมดคาเฟ่สักอาทิตย์นึงก่อน"ซันจิตะโกนแล้วโดนอุซปทุบหัว

    "นายแค่อยากจะไปไม่ว่า แต่ฉันเห็นด้วยนะ"อุซปกล่าว

    "คอยก่อนกลุ่มหมวกฟางทุกคน!!!"พวกเขาหันไปเห็นทหารเนปจูนขี่ปลาบินตามมา"ราชาเนปจูนตามเรือทันแล้วครับ"

    "งั้นเหรอ ลูฟี่คุง เราจะจัดงานเลี้ยงใหม่อีกครั้งจามอน!!!"

    "งานเลี้ยงเหรอ งั้นฉันไป ไปพาฮาจิกับเคมี่มากันเถอะ!!!"ลูฟี่ตะโกน

    "รีบไปกันได้แล้ว"คิรัวร์ดึงกัปตันกลับมา

    "แอตแลนต้าก็มาด้วย"เนปจูนกล่าว"นางอยากเจอภรรยาลูกนางทุกคน"

    พวกนามิแก้มแดงหรือตื่นเต้นเมื่อจะพบแม่คิรัวร์

    "ว้าว ราชินีแอตแลนติส อยากเจอ...เปรี้ยง!!!!"ซันจิพูดแล้วเจอคิรัวร์ฟันเลือดพุ่งกระเด็นจากเรือ

    "ซันจิ!!!!"ช็อปเปอร์ร้อง
    ____________________

    เขตเมืองมนุษย์เงือกถูกปิดตายและตอนนี้มีทหารเนปจูนเฝ้าเต็มไปหมด

    จะไม่มีใครเติบโตขึ้นที่นี่และเรียนรู้ความเกลียดชังมนุษย์อีก

    _____________________

    คุกในวังริวงู โฮดี้ โจนส์ กับพรรคพวกและฟานเดอร์ เดคเคนถูกส่งเข้าคุก

    พวกเขาจะไม่ได้อาจมาก่อความวุ่นวายอีกแล้ว

    ______________________

    ที่ประตูทางเข้าเกาะมนุษย์เงือก ซุรุเมะกำลังว่ายเอาวาดาสิมิออกไป

    "ฝากทีนะคราเคน เอาไปให้ไกลๆเลย"

    "วาดาสึมิ เราไม่มีคุกใหญ่พอจะขังแก จากนี้ไปห้ามแกเข้ามาในอาณาจักรอีก"

    ______________________

    ที่เขาโครัล ประชาชนมากมายหาอาหารได้ ปลา หอย เนื้อและเกล้า

    "จับได้มั้ย"

    "ได้มาเพียบเลย"

    "รีบแล่ปลาแล้วส่งไปที่วังริวงู เดี๋ยวจะมีงานเลี้ยงใหญ่ที่เชิญพวกหมวกฟางมาเป็นแขก"

    "เชื่อมือได้เลย พวกนั้นน่าจะชอบเนื้ออสูรทะเลนะ"

    "เอาขนมกับเค้กไปส่งด้วยละกัน"

    "มีเหล้าพอรึเปล่าเอาไปเยอะๆเลย"

    ______________

    กลุ่มหมวกฟางมาถึงวังริวงู รวมทั้งจินเบ เร็น เคมี่ ปั๊กปากุ เคมี่ และฮาจิ

    "ลูฟี่คุงและสหาย เอาเป็นว่าไว้ไปคุยต่อในงานเลี้ยงนะ ขึ้นปลาลิ้นหมายาวไปยังที่จัดเลี้ยงกันเลย"

    พวกเขาขึ้นปลาที่มีผิวหนังเหมือนฟองสบู่เข้าไปในห้องมืดสนิท

    "มีแต่น้ำแถมยังมืดตืดตื๋อ"นามิกล่าว

    "จะดีเหรอที่ให้ฉันมาด้วย?"เคมี่ถาม

    "นิว ฉันไม่เคยเข้าวังริวงูมาก่อนเลย"ฮาจิกล่าว

    "เนื้ออยู่ไหนล่ะ?"ลูฟี่ถาม

    "ฉันรู้สึกได้ถึงทหารจำนวนมาก แต่พวกเขาไม่ได้จะทำร้ายเรา"เร็นกล่าว

    จากนั้นพวกเขาก็เห็นทหารเนปจูนด้านล่าง

    "โอ้ ฮีโร่มาถึงแล้ว!!!"

    "ข้างล่างมีทหารเต็มเลย!!!"ช็อปเปอร์ร้อง

    "ขอบคุณมากนะที่ช่วยปกป้องอาณาจักรนี้!!!"

    "จะไม่บืมบุญคุณครั้งนี้เลย!!"

    กลุ่มหมวกฟางต่างยิ้มออกมา

    "หนวกหู ฉันจะกินเนื้อเฟ้ย"ลูฟี่ตะโกน

    "ส่วนฉันจะกินเหล้า"โซโลกล่าว

    "ทุกท่านคะ"ชิราโฮชิเรียก"ด้านนี้คือเวทีคะ"

    จากนั้นพวกเขาก็เห็นหญิงตัวอ้วนรมฝีปากกว้างยืนอยู่บนเวที

    "ยินดีต้อนรับกลุ่มหมวกฟาง ขอเชิญพบกับนักร้องหญิงอันดับ1ของเกาะมนุษย์เงือก มาเรีย นาโปเร่"

    หญิงสาวเริ่มร้องเพลงออกมา

    "อา เสียงร้องฟังแล้วแทบจะละลายเลย"นามิกล่าว

    "จริงด้วยคะ"วีวี่กล่าว

    "เพราะมากท่านมาเรียครับ"อุซปกล่าว

    "ไพเราะจนสะเทือนถึงวิญญาณเลยครับ โอ้เย้!!!"บรู๊คร้อง

    "แล้วพวกอิชลี่ย์ล่ะ?"เซียร์ถามขึ้นมา"ได้ยินว่าปลอดภัยแล้วนี่คิรัวร์คุง?"

    "ไม่ต้องห่วง"คิรัวร์ยิ้มออกมา

    "รวมทั้งแขกรับเชิญพิเศษ ความงดงามที่ทำให้หนุ่มๆแทบจะลืมหายใจ"

    "แม่เจ้า!!!"ซันจิตาเป็นหัวใจ

    "สงบอารมณ์หน่อยสิ!!"ช็อปเปอร์ร้อง

    "แดนเซอร์จากเมอร์เสดคาเฟ่ครับผม!!"

    เหล่านางเงือกร้านเมอร์เมดพากันออกมาเต้น หนึ่งในนั้นคืออิชลี่ย์

    "เคมี่!!!"เธอทักทายเพื่อนเธอ

    "อิชลี่ย์ ปลอดภันดีสินะ"

    "งดงามดีจัง"คิรัวร์สนุกกับงานเลี้ยง

    "ยกอาหารเข้ามาได้เลย ร้องเลย ดื่มเลย เต้นเลย!!!"

    กลุ่มหมวกฟางต่างสนุกกับงานเลี้ยง ลูฟี่กับช็อปเปอร์กินอาหารไปมากมาน ปั๊กปากุไปเต้นกับนางเงือกจิ๋ว โซโล แฟรงกี้ ฮาจิ ดื่มเท่าที่พวกเขาต้องการ ซันจิ บรู๊ค คิรัวร์และอุซปไปสนุกกับสาวเมอร์เมดคาเฟ่ มีคนนึงูบแก้มบรู๊คและซันจิกลายเป็นหิน

    นามิแข่งดื่มเหล้ากับเจ้าชายฟุคาโบชิและนามิเป็นผู้ชนะ

    โรบินกำลังสนุกกับงานเลี้ยงและคุยเสนาซ้าย

    เซียร์เองก็ไม่ต่างกัน แต่เธออยู่กับทหารเนปจูนและเสนาขวา เพราะเป็นอดีตทหารรับจ้าง

    ด้านเนปจูนก็สนุกและคุยกับวีวี่ อดีตเจ้าหญิงอลาบัสต้า ก่อนที่นามิที่ชนะจะมาแจมยกเหล้าให้เจ้าหญิงดื่ม

    เวลาต่อมา5สาวต่างมานั่งข้างคิรัวร์ อลิซโดนเรียกออกมาอีก เซียร์ใช้เวทแปลงกายท่อนล่างตนเองเป็นนางเงือกและใช้การเลียนแบบเต้นระบำด้านหน้าคิรัวร์ โรบินกับอลิซคอยเติมเหล้าให้เขา นามิกับวีวี่นั่งใกล้ๆ

    "ว่าไงจ๊ะสาวๆ"มีหญิงสาวผมเงิน ดวงตาสีอำพันว่ายเข้ามาหา

    "คะ...คุณแม่ของคิรัวร์ สวัสดีคะ"วีวี่พูดอย่างประหม่า

    "ไม่เจอกันสักพักเลยนะวีวี่จัง ไม่นึกว่าลูกข้าจะคว้าเจ้าหญิงมาได้นะเนี่ย"แอตแลนต้ายิ้ม นางรู้แล้วว่าคิรัวร์รู้จักวีวี่สมัยเด็ก

    "แล้วก็เจ้าคือนิโค โรบินผู้โด่งดังสินะ"

    "ยินดีที่รู้จักคะ"โรบินก้มหัวอย่างสุภาพ แอตแลนต้ามองไปในดวงตาเห็นความฉลาดและไหวพริบเธอ

    "เจ้าชอบแบบนี้สินะ....สวย ฉลาด เซ็กซี่ เป็นผู้ใหญ่กว่าเพราะเจ้าขาดความอบอุ่นแม่"

    "หนวกหูน่า"คิรัวร์อายหน้าแดงก้มหน้าลง

    "มานี่คิรัวร์คุง"เซียร์ดึงเขาไปซุกอกเธอหายใจลำบาก"ฉันอนาตาเซียคะ"

    "แม่มดขาวสินะ"

    "และฉันต้นหนเรือ นามิคะ"

    "แล้วนี่ใคร?"แอตแลนต้ามองอลิซ

    "ข้าชื่ออลิซ เป็นเมดรับใช้ของมาสเตอร์คะ"

    "มีสาวใช้ด้วย"แอตแลนต้ามองลูกชาย

    แอตแลนต้าคุยถามไถ่เรื่องราวที่คิรัวร์เจอกับสาวๆ

    _______________

    คิรัวร์เห็นโรบินเดินออกไปจากงานเลี้ยง เขาจึงตามเธอออกมา

    โรบินมองเนปจูนที่เดินออกมาในสภาพเมาเหล้า

    "จะคุยเรื่องอะไรเหรอสาวน้อยโจรสลัด"

    "ขอโทษด้วยนะคะ ถ้าเป็นตอนนี้คงคุยกันสองคนได้นะคะ"

    "ขอบอกไว้ก่อนนะ เราสาบานว่าจะรักโอโตฮิเมะ ถึงนางจะตายไปแล้วเราก็ไม่นอกใจหรอก"

    "โรบินมาถามเรื่องประวัติศาสตร์"คิรัวร์พูด เขามากอดโรบินจากด้านหลัง

    โรบินยิ้มจูบแก้มเขาแล้วกันมามองเนปจูนสีหน้าจริงจัง

    "จอยบอยคือใครกันเหรอคะ?"โรบินถาม

    เนปจูนทิ้งขวดเกล้าลงพื้นมองโรบินด้วยความตกตะลึง

    "ฉันอ่านโพเนกลีฟที่ป่าแห่งทะเลแล้วละคะ เขาขอโทษใครเรื่องอะไรงั้นเหรอคะ?"

    "เจ้าอ่านออกเหรอ แผ่นดินนั้น?"

    "ฉันเป็นผู้เหลือรอดจากโอฮาร่า ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรหรอกคะ"

    "ไม่หรอก เราจะบอกเรื่องที่รู้ให้เจ้าฟัง ถ้าเป็นพวกเจ้าเรายินดี ผู้ที่เชื่อว่าจอยบอยคือมนุษย์บนดินที่เคยอาศัยอยู่ในช่วง100ปีที่ว่างเปล่าจามอน"

    "คงสัก800ปีก่อนอย่างงั้นสินะ"

    "ส่วนข้อความที่เห็นเป็นสิ่งที่เขาส่งถึงเจ้าหญิงเงือกในยุคนั้นจามอน เป็นคำขอโทษที่เขาผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเกาะมนุษย์เงือก"

    "สัญญาเหรอ?"

    "เราเองก็ไม่ได้รับการบอกเล่าถึงรายละเอียด แต่สักวันจะต้องมีคนผู้หนึ่งมาสานต่อสัญญาแทนจอยบอยอย่างแน่นอน เรื่องนี้คือตำนานที่เล่าต่อกันมาในราชวงศ์ของเรา พวกเราเชื่อว่าวันนั้นจะต้องมาถึง บรพบุรุษแต่ละรุ่นจึงเฝ้าเรือโนอาตามสัญญาที่ให้ไว้กับเขา เมื่อใดที่วันนั้นมาถึง เรือยักษ์โนอาก็จะได้ทำหน้าที่ของมันจามอน"

    "วันนี้หลังจากจบเรื่องบนฟ้าเหนือเกาะ ได้ยินว่าโนอาที่พังไปครึ่งถูกลากไปที่ป่าแห่งทะเลโดยเหล่าจ้าวทะเล บางทีจอยบอยที่ใช้เรือโนอา อาจมีพลังควบคุมเหล่าจ้าวทะเล"

    "ไม่ใช่"เนปจูนส่ายหัว"ผู้ที่มีพลังดังกล่าวคือเจ้าหญิงเงือกในตอนนั้นจามอน"

    "ว่าแล้วเชียว แปลว่าเจ้าหญิงชิราโฮชิมีพลังนั้นงั้นเหรอ?"

    "อืม จากที่เห็นวันนี้ พลังคงจะตื่นขึ้นโดยสมบูรณ์แล้ว....เราไม่รู้ว่าควรจะดีใจมั้ย"

    "ฉันเข้าใจคะ เมื่อ2ปีก่อนฉันได้อ่านโพเนกลีฟบนเกาะท้องฟ้าที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องอาวุธโบราณ ซึ่งที่อยู่ของอาวุธชี้มาที่เกาะแห่งนี้ บางทีเจ้าหญิงเงือกที่อยู่ในยุคเดียวกับจอยบอย อาจจะไม่ได้ถูกเรียกว่าเจ้าหญิงเงือก แปลว่าเจ้าหญิงเงือกที่มีพลังนั้น น่าจะได้รับสืบทอดชื่อเดียวกันมา อีกชื่อหนึ่งของเธอคนนั้น คืออาวุธโบราณโพไซดอน"

    คิรัวร์นึกถึงแผ่นหินที่เขาเจอพร้อมกับโรบินที่นั่น

    "ไม่รู้ว่าทำไมในอดีตถึงมีอาวุธที่มีพลังขนาดทำลายโลกใบนี้ได้ อาวุธโบราณเหล่านั้น ตั้งชื่อตามเทพเจ้า พลูตัน ยูเรนัสและโพไซดอน"

    "ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเธอ"โรบินกล่าว

    "ใช่แล้ว"

    "ถ้ามีใครรู้เรื่องนี้เข้าคงจะแย่ ทุกขุมอำนาจในโลกคงอยากได้พลังของเจ้าหญิงชิราโฮชิเป็นแน่ ทั้งรัฐบาล ทั้งโจรสลัด"

    พวกเขาไม่รู้ว่าไม่ไกลมีกลุ่มก้อนโคลนอยู่

    "อาวุธโบราณเหรอ พลังขนาดที่จะทำลายโลกเหรอ พอได้สมบัติมาแล้วกำลังจะชิ่งหนีดังได้ยินเรื่องสุดยอดซะได้นะเรา งั้นเหรอเจ้าหญิงเงือกคนนั้นสินะ เคี๊ยะๆๆ"

    ___________________

    "เออ ลูฟี่ เจ้ารู้หรือยังว่าตอนนี้ในโลกมันเป็นยังไงบ้างแล้ว?"จินเบถาม

    "ไหงจู่ๆก็ถามล่ะ?"ลูฟี่ถามกลับ

    "ดูท่าจะยังไม่รู้นะ เจ้านี่ไม่ตามข่าวจนข้านึกห่วงเลย"

    "อย่างงั้นเหรอ"ลูฟี่กล่าว

    "ออกไปคุยกันแป๊บนึงได้มั้ย?"

    "ได้ รอแป๊บนึงนะ ขอเอาของกินไปด้วย"

    ________________

    พวกเขาเดินออกมาแล้วเจอนามิ ซันจิ โซโล อุซปและช็อปเปอร์

    "อะไรกันพวกเธอก็อยู่นี่ด้วยเหรอ?"ลูฟี่ถาม

    "ดื่มมากไปหน่อยก็เลยมาพักให้สางน่ะ"นามิกล่าว

    "ฉันมาพักให้ย่อย"อุซปกล่าว

    "ซันจิพักจากนางเงือก"ช็อปเปอร์มองซันจิที่นอนแผ่

    "สุดยอดไปเลย เมอร์เมดไอแลนด์"

    "วีวี่คุยกับแม่คิรัวร์ถูกคอใหญ่เลย"เซียร์กล่าว

    "ผมจะไป--"

    "เปรี้ยง!!!"เซียร์ตีหัวกระเด็น

    "ไม่ต้องยะ!!!!"

    จินเบเล่าเรื่องให้ลูฟี่ฟังพร้อมกับทุกคน

    "เอ๋? อาคาอินุสู้กับอาโอคิยิอย่างงั้นเหรอ?"

    "กะแล้วเชียว ข่าวใหญ่ขนาดนี้เจ้ายังไม่รู้อีกงั้นเหรอเนี่ย เรย์ลี่คงเข้างวดน่าดู"จินเบกล่าว

    "แต่ว่าเรื่องนั้นฉันรู้นะ ฉันรู้"ช็อปเปอร์กล่าว

    "ไม่รู้จักอ่านหนังสือพิมพ์เลย"เซียร์บ่น

    "2ปีก่อนทันทีที่สงครามจบลง จอมพลเซ็นโงคุก็ลงจากตำแหน่ง เซ็นโงคุตั้งใจจะให้อาโอคิยิ ลูกน้องที่ตนเชื่อใจรับตำแหน่งจอมพลต่อ แต่พวกระดับสูงในรัฐบาลหลายคนผลักดันอาคาอินุ ทั้งคู่เลยต้องชิงตำแหน่งกัน อาโอคิยิไม่ได้สนใจตำแหน่งสักเท่าไหร่ แต่เขาคัดค้านเรื่องที่จะให้อาคาอินุขึ้นเป็นจอมพลอย่างรุนแรง การเปชิญหน้าระหว่างพลเอกเป็นเรื่องไม่เคยมีมาก่อน การตัดสินของทั้งคู่เกิดขึ้นบนเกาะแห่งหนึ่ง คนตายไม่มีสิทธิ คนแพ้ไม่มีปากเสียงใดๆ อำนาจสั่งการกองทัพจะตกเป็นของผู้ชนะในครั้งนั้น"

    ลูฟี่จ้องมองจินเบฟังอย่างจริงจัง

    "การต่อสู้นาน10วันได้กลายเป็นที่โจษจันของโลก แม้พลังจะไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน แต่ในที่สุดก็รู้ผล ผู้ชนะคืออาคาอินุ จอมพลใหม่ของกองทัพเรือจึงเป็นซาคาสึกิ"

    "อาคาอินุ"ลูฟี่จับหน้าอกที่โดนหมัดแม็กม่าชก

    "อาโอคิยิตายอย่างงั้นเหรอ?"

    "ทั้งคู่ต่างบาดเจ็บสาหัส แต่เมื่อเห็นเพื่อนทหารด้วยกันล้มอยู่ตรงหน้า อาคาอินุจึงพอจะปราณีอยู่บ้าง อาโอคิยิไม่ต้องการเป็นลูกน้องของอาคาอินุ จึงลาออกจากกองทัพไป"

    "เอ๋?"อุซปอุทาน

    "งั้นอาโอคิยิก็ไม่ใช่ทหารเรือแล้วน่ะสิ"ลูฟี่กล่าว

    "อา...ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรอยู่ที่ไหน งานนี้นับว่ารัฐบาลเสียกำลังรบไปมากพอดูเลย"จินเบกล่าว

    "พลเอกเนี่ยเป็นกำลังรบที่แกร่งที่สุดของกองทัพเลยนะ"เซียร์กล่าว

    "แผนที่รัฐบาลใช้เพื่ออุดช่องว่างกำลังรบนั่นทำให้กองทัพได้พลังที่พวกเขาไม่คาดคิดมา พวกเจ้าฟังให้ดี 2ปีนี้มีเรื่องเกิดขึ้นในนิวเวิร์ลมากมาย แต่ขอให้จำเรื่องสำคัญ2เรื่องนี้ไว้ด้วย"

    กลุ่มหมวกฟางต่างมองจินเบตั้งใจฟัง

    "เรื่องแรกคือศูนย์ใหญ่ฯที่นำโดยจอมพลซาคาสึกิทำให้กองทัพแห่งความเที่ยงธรรมยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก ส่วนอีกเรื่องคือความก้าวหน้าของกลุ่มโจรสลัดหนวดดำ"

    "พวกที่เจอในม็อคทาวน์สินะ"นามิกล่าว

    "คนที่ทำลายบ้านเกิดของฉันน่ะ"ช็อปเปอร์พูดเสียงโกรธ

    "เดิมทีมันเคยอยู่กับกลุ่มหนวดขาว มันเลยรู้จักอาณาเขตของกลุ่ม หลังพ่อหนวดขาวตายแค่แป๊บเดียวมันก็ไปยึดเป็นอาณาเขตของตัวเอง แถมยังใช้พลังผลกุระกุระที่ชิงมาจากพ่อหนวดขาวอีกด้วย ตอนนี้ทั่วโลกจึงยกให้มันเป็น1ใน4จักรพรรดิเทียบเท่าผมแดง ไคโดและบิ๊กมัม เจ้าผู้ชายน่ารังเกียจนั้น!!"

    "เหมือนเข้าแทนที่หนวดขาวเลยสินะ ขี้โกงชะมัด"เซียร์กล่าว

    "ฟังจากที่คนลือ ตอนนี้พวกมันกำลังล่าผู้มีพลังพิเศษ ไม่รู้ว่ามันทำได้ยังไง แต่มันคงมีวิธีชิงพลังมาหลังจากฆ่าเหยื่อทิ้งไป เป้าหมายของพวกมันคือผู้มีพลังผลปีศาจที่แข็งแกร่ง ระวังไว้ด้วยล่ะ"

    "ซวยแล้วไงฉัน!!!"ช็อปเปอร์ร้อง

    "เขาไม่เอาผลฮิโตะฮิโตะหรอก"อุซปกล่าว

    "นั่นสินะ ดีจังเลย...ว่าไงนะ!!!"

    "และลูฟี่คุงเคยมีเรื่องกับทีชมาไม่น้อย คงมากพอที่...."

    "งั้มๆๆๆ"แต่ลูฟี่เอาแต่กิน

    "ลูฟี่ ได้ฟังข้าบ้างไหมเนี่ย!!!!!"

    "หือ?"ลูฟี่หันมามอง

    "เจ้าเป็นกัปตันนะ อย่างน้อยก็จำเรื่องสำคัญๆเอาไว้บ้างสิ"

    "ช่างเถอะจินเบ พวกฉันฟังไว้แล้วล่ะ"นามิกล่าว

    "เอ๋? นึกว่ากัปตันคือคนที่ไม่ต้องฟังอะไรซะอีก"ช็อปเปอร์กล่าว

    "กัปตันไม่ใช่แบบนั้นช็อปเปอร์ แต่...ลูฟี่เป็นข้อยกเว้น"เซียร์ถอนหายใจ

    "คนเป็นกัปตันน่ะคือคนรับผิดชอบชีวิตของลูกเรือไม่ใช่เหรอลูฟี่"จินเบถาม

    "เอาน่าจินเบอย่าซีเรียสเลย ฉันชอบปล่อยไปตามดวงน่ะ"ลูฟี่กล่าว

    "พวกเจ้าคงลำบากกันน่าดู"จินเบคอตก

    "ถูกต้องเลย"กลุ่มหมวกฟางพยักหน้า

    ตอนนั้นเองเคมี่กับปั๊กปากุโผล่มา

    "โอ้ เคมี่"ลูฟี่ร้อง"จะว่าไปไม่เห็นยัยใจอ่อนโฮชิเลย ไปไหนน่ะ?"

    "เจ้าหญิงบอกว่าเหนื่อยนิดหน่อยเลยอยากพัก พึ่งกลับเข้าห้องไปน่ะ"

    ในตอนนั้นเองลูฟี่ก็ลุกขึ้นยืนเพราะสัมผัสบางอย่างได้

    "นี่ โซโล ซันจิ เซียร์ เหมือนมีสัตว์ร้ายอยู่ในนี้นะ"

    "จริงด้วย"โซโลกล่าว

    "เหมือนมีอะไรสักอย่าง"โซโลกล่าว

    "ไปดูกันเถอะ"เซียร์กล่าว

    ทางด้านคิรัวร์สัมผัสได้จึงแยกจากเนปจูนและโรบินไปเช่นกัน

    กลุ่ม5สัตว์ประหลาดมุ่งหน้าไปห้องชิราโฮชิ

    ________________

    ชิราโฮชิโดนคาริบูจับไว้ด้วยพลังโคลนของเขาปิดปากไม่ให้ส่วเสียงเรียกคนช่วย

    "กรุณาหยุดเถอะคะ ท่านเป็นใครกันเหรอคะ?"ชิราโฮชิถาม

    "เคี๊ยกๆๆ อย่าทำหน้ารังเกียจกันนักสิจ๊ะ เจ้าหญิงไม่เจ็บหรือทรมาณหรอก ถึงจะขี้เกียจขโมยสมบัติกับขายนางเงือกแล้วก็เถอะ แต่เธอน่ะเป็นกรณีพิเศษ ขอทำให้เธอสลบสักพักละกันนะ พวกน้องชายฉันพึ่งติดต่อมาว่ามาอยู่ที่ท่าเรือแล้ว เพราะงั้นเราไปนิวเวิลด์ด้วยกันเถอะนะ"

    "เฮ้ แก!!!"

    คาริบูหันไปเห็นกลุ่ม5สัตว์ประหลาด และลูฟี่ถือก้อนเนื้อชิ้นโตไว้

    "หมวกฟางเหรอ"คาริบูกล่าว"อย่าพึ่งมาขัดได้ไหม เคี๊ยกๆๆ.....หมวกฟาง แล้วก็ นักดาบทมิฬ เจ็ดเทพโจรสลัด"

    ลูฟี่กับคิรัวร์มองหน้ากันก่อนคิรัวร์ยกหมัดชกส่งคาริบูกระเด็นไปนอกวังริวงู

    "ไอ้เจ้านั่นมันยังอยู่อีกเหรอเนี่ย"ลูฟี่กล่าว

    ตอนนั้นเองชิราโฮชิมาคว้าตัวคิรัวร์ไว้ แน่นอนเพราะเขาเป็นญาติเธอนี่นา

    "แง!!!!"ชิราโฮชิร้องไห้"ท่านคิรัวร์ เรากลัวแทบตายแน่ะคะ!!!!"

    "ฮึ้ย น่าอิจฉาจังโว๊ย ไอ้จิ้งเหลนเพลิง รู้งี้เตะเองซะดีกว่า"ซันจิทรุดทุบพื้นร้องไห้

    เวลาต่อมาเนปจูน นามิ เสนาขวามาถึง

    "เกือบไปแล้วขอบคุณท่านมากที่ช่วย"เสนาขวาคุกเข่าให้"ไม่นึกว่าโจรขโมยสมบัติจะยังอยู่ในปราสาท ปกติปลาข้าวสารสักตัวยังลอดเข้ามาไม่ได้ แต่นี่ประตูถูกเปิดทิ้งเอาไว้ตอนที่สู้กันวุ่นวาย ดูสิ หอคอยทางขวายังถูกฟันซะแหว่ง ดูท่าจะถูกฟันตอนที่พวกเราไม่อยู่"

    "เปล่านะคนฟันคือหมอนี่ต่างหาก"วีวี่ชี้ที่โซโล"ตอนออกจากกรงมันฟันทั้งลูกกรงทั้งห้องทิ้งซะเหี้ยนไปเลย"

    "โป๊ก!!"โซโลทุบหน้าผากวีวี่ด้วยวาโดอิจิมอนจิ

    "ให้เขาโทษหมอนั้นไปสิฟะยัยบ้า"

    "อะไรกันเล่า การขโมยเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นโจรนะคะ"

    "เราเป็นโจรสลัดนะ ต่างกันตรงไหน!!"โซโลตะโกน

    "เฮ้ แกทำอะไรวี่วี่จังฟะ!!!"ซันจิเข้ามา

    "ผัวะๆๆตุบตับๆๆ"ทั้งสองเริ่มทะเลาะกัน

    "เดี๋ยวก่อนเสนาขวาจัง โจรขโมยสมบัติอะไรกันน่ะ?"นามิถาม

    "อย่างที่พูดนั่นแหละ ชายคนนั้นขโมยสมบัติในปราสาทไปจนหมด"

    "เอ๋ ทั้งหมด?"นามิร้อง

    "อึ๋ย ท่าไม่ดีแฮะ"ลูฟี่ วี่วี่ และเซียร์กล่าว คิรัวร์นิ่งเงียบ อีก2คนยังทะเลาะกัน

    "สมบัติของประเทศเลยนะไม่ตามไปเหรอ?"นามิถามเนปจูน

    "เทียบกับที่ประชาชนรอดตายมาได้ แค่สมบัติน่ะเรื่องเล็ก"เนปจูนกล่าว

    "แล้วถ้าพวกฉันไปเอาคืนมาล่ะ"นามิตาเป็นเบรี

    "เราจะยกให้สำหรับผู้มีพระคุณ เรายินดีให้"เนปจูนกล่าว

    "จริงเหรอ"นามิยิ้มกว้าง

    นามิพุ่งเข้ามาหาพวกลูฟี่และเข้าไปกอดคิรัวร์

    "คิรัวร์คุง"นามิพูดอ้อนจับหน้าอกเขย่าระยะประชิดทำให้คิรัวร์หน้าแดง"ที่รักช่วยไปเอาสมบัติกลับมาได้มั้ย"

    นามิปล่อยมือให้หน้าอกสั่นๆเล็กน้อย

    "พรวด!!!"คนที่เลือดกำเดาพุ่งคือซันจิ

    "ได้เลยที่รัก"คิรัวร์ยิ้มให้

    "ขอบใจจ๊ะ"นามิกอดคิรัวร์พลางจูบแก้ม

    "ฮือๆๆ"ซันจิเอาเสื้อกัดปาก

    "เมื่อไหร่แกจะยอมรับสภาพล่ะ นามิมีทาสสุดแกร่งคนใหม่แล้วนะ"โซโลได้ทีล้อเลียนซันจิ"แต่วิธีปฎิบัติคงต่างจากแกเยอะ"

    "หนวกหูเฟ้ย!!!"

    "แค่ขอก็พอไม่ต้องทำแบบนี้หรอก"คิรัวร์ยิ้มพลางลูบแก้มต้นหนเรือ

    "จริงเหรอ?"นามิยิ้มอายๆ

    "แน่นอน ก็สุดที่รักผมนี้ อื้อ"คิรัวร์จูบนามิและวิ่งออกไปเพื่อเอาสมบัติคืน

    "ช่วยไม่ได้นะ"เซียร์วิ่งตามคิรัวร์ไป

    "นี่พวกนาย ไปซัดหมอนั้นจนปลิวทำไม ทำไมไม่มัดและจับมัดไว้ล่ะห๊ะ!!!"

    "เอ๋!!!?"ลูฟี่ร้อง

    "คุณนามิตอนโกรธก็สวย!!!!"ซันจิตะโกน

    "เดี๋ยวก่อนสิ สามีเธอน่ะเป็นคนส่งเจ้านั้นลอยกระเด็นนะ!!!"โซโลอ้าง

    "หนวกหูยะ รีบไปตามหาเดี๋ยวนี้เลยนะ"นามิตะโกน

    "ตูมๆๆ"จากนั้นทั้งสามโดนเตะส่งลอยออกจากริวงู

    พวกเขาพุ่งตามคิรัวร์ที่ใช้เดินชมจันทร์และอุ้มเซียร์ไว้ไป

    "ว่าแล้วต้องโดนส่งมาด้วย"คิรัวร์ยิ้ม

    "จะได้สมบัติแล้ววี่วี่"นามิพูดพลางจูบแก้มภรรยาเจ้าหญิงอลาบัสต้า

    "ดีใจด้วยนะคะ"วี่วี่ยิ้มแห้งๆ

    เมื่อพวกลูฟี่ไปแล้วก็มีทหารวิ่งมารายงานเนปจูน

    "องค์ราชา เกิดเรื่องขึ้นกับพวกโฮดี้ครับ กุญแจมือหลุดออก!!"

    "อะไรนะ!!!"เนปจูนตกใจ

    _______________________

    ภายในห้องขัง

    "ไอ้พวกมนุษย์แค้นนี้ต้องชำระ เวลาแห่งการล้างแค้นจะหวนมาอีกแน่ ไปพาหมวกฟางมา ฉันจะได้ฆ่ามัน!!!"

    โฮดี้และหัวหน้าหน่วยทุกคนกลายสภาพเป็นตาแก่ไปแล้ว!!

    "เมารึไงนะ ทำไมเมื่อยๆ"เฮียวโซกล่าว

    "ฮึๆๆ ฉันคงแก่ลงต่างหาก"เซโอกล่าว

    "ต้องแก้แค้นพวกหมวกฟาวก่อนโฟซุน"โดซุนกล่าว

    "เฮี๊ยะๆๆ...แฮ่กๆๆ"ดารุมะกัดฟันแล้วหอบหนัก

    "มูฮิ พวกเราจะพิพากษามนุษย์เอง"อิคารอสกล่าว

    จินเบ เสนาขวา เนปจูนและเจ้าชายทั้งสามมองด้วยความตกใจ

    "นี่มันอะไรกันน่ะ?"จินเบกล่าว

    "นี่มันพวกโฮดี้เหรอเนี่ย?"ริวโบชิกล่าว

    "คิดเหรอว่าจะขังฉันไว้ในกรงได้"โฮดี้มือจับลูกกรงพยายามดึง"ลูกกรงแค่นี้...กร็อบ!!!"

    "อ๊ากกก กระดูกหัก!!!"

    "กัปตันโฮดี้....กร็อบ!!!"คิซาเมะเดินมาแล้วหลังหักตาม

    "เป็นแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย?"ฟุคาโบชิถาม

    "คิดแล้วเชียว อย่าเอเนอจี้สเตียรอยด์ที่พวกมันใช้คือยาในตำนานที่ถูกผนึกอยู่ในกล่องทาบาเตะ ที่จริงเมื่อ10ปีก่อนมีคดีที่สมบัติที่อยู่ในกล่องเกิดหายไป คนร้ายเป็นใครไม่รู้ องค์ราชาจึงตัดสินใจให้พับคดีไปเพื่อไม่ให้วุ่นวาย พอลองคิดดูนั่นเป็นช่วงเดียวกับที่แกออกจากกองทัพพอดี โฮดี้"

    "แฮ่กๆ ถูกต้อง ฉันขโมยไปเองไอ้พวกหน้าโง่"โฮดี้กล่าว

    "แม้แต่เรื่องเล่าเกี่ยวกับยาในตำนานนั่นก็ยังครุมเครือ เรื่องหนึ่งบอกว่ามันเป็นยาที่เพิ่มพลังให้เป็น10เท่า อีกเรื่องบอกว่าเป็นยาที่ทำให้แก่ สมบัติอาณาจักรเป็นสิ่งที่แปลกนัก บางทีคงเป็นเพราะสรรพคุณที่มีอันตราย ยาชั่วร้ายนี้ถึงถูกปิดผนึกเอาไว้ พวกเจ้าได้เปิดกล่องที่ไม่ควรจะเปิด พอได้รับพลังจึงฝันเห็นในสิ่งที่โง่เขลาจามอน"

    "......"จินเบมอบเงียบๆ

    "หุบปากนะเนปจูน แค่กๆๆ"

    "แบบนี้เจ้าคงแก้แค้นไม่ได้แล้ว"เนปจูนเดินจากไป

    "หุบปากซะหุบปาก พวกฉันถูกเลือกให้มาแก้แค้น ทั้งพวกแกและพวกมนุษย์จะต้องถูกฉันฆ่าทิ้ง"

    "เห็นแล้วน่าเวทนานัก เราจะพิจารณาโทษของพวกเจ้าใหม่"

    "โง่จริงๆเลยพวกนี้นี่"นามิพูดขึ้นพลางหยิบเม็ดยาสีดำใส่ปาก"ยอมอายุสั้นเพื่อให้ได้พลัง การอยากเป็นอมตะของมนุษย์เพื่ออยู่กับคนรักไปนานยังฉลาดกว่าอีก"

    "หนอย!!! ไอ้พวกมนุษย์!!!"

    "ไปเถอะนามิ"วี่วี่ดึงพาเธอไป

    "ฟุคาโบชิไอ้คนทำเผ่าเสื่อมเสีย"โฮดี้กล่าว

    "เกาะมนุษย์เงือกถือกำเนิดใหม่แล้ว แม้เจ้าจะฆ่าแม่ของเรา เราก็จะไม่คิดแค้น"ฟุคาโบชิกล่าว

    "หา!?"

    "เพราะงั้นขอร้อง อย่าได้พูดอะไรอีกเลย เพราะถ้าเด็กๆบนเกาะได้ยินมันจะไม่ดี"ฟุคาโบชิกล่าว

    ฟุคาโบชิเดินจากไปเช่นกัน

    __________________

    เสนาซ้ายก็ออกจากงานเลี้ยงมาที่ทางเดินเพื่อพักชั่วคราวเหมือนกัน

    "ท่านเสนาฝ่ายซ้าย!!!!"

    "หืม?"

    "คุณเพคอมกับบารอนทามาโกะมาที่โรงงานทำขนมน่ะครับ"

    "ข้ารับใช้ของบิ๊กมัมมาถึงแล้วเหรอ"

    "เดือนนี้เราไม่มีขนมส่งเลยครับ โรงงานถูกพวกโฮดี้ทำเสียหาย ส่วนขนมดีๆถูกนำไปที่งานเลี้ยงหมดเพราะอยากให้กลุ่มหมวกฟางได้ทานน่ะครับ"

    เสนาซ้ายเอามือบูบเคราด้วยความเครียด

    "ไม่รู้จะแก้ตัวรอดรึเปล่า"เสนาซ้ายกล่าว"เพราะอีกฝ่ายเป็นสัตว์ประหลาดที่ทำลายประเทศได้เพื่อขนม 4จักรพรรดิบิ๊กมัมนั่น"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×