NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gundam Seed Extended : Bluedevil from Mars

    ลำดับตอนที่ #13 : Phase 13 : Beyond the Clouds of Sand

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.23K
      60
      6 ม.ค. 65

    เฟส 13 : Beyond the Clouds of Sand

    28 กุมภาพันธ์ , CE71

    ฐานทัพของวอลเฟล

    จอห์นและวอลเฟลคุยกันเสร็จ


    “แล้วนายวางแผนจะทำอะไร”

    “ฉันหวังว่าจะพบหลักฐานพอจะส่งให้สภาสูงก่อนจะสายเกินไป นั่นคือทั้งหมดที่ฉันทำได้”จอห์นกล่าว”เรียบร้อยแล้ว เรียกเด็กๆกลับมาได้”

    วอลเฟลพยักหน้าและเรียกไอช่ากับเด็กๆกลับมา

    “แล้วฉันจะทำยังไงกับพวกเธอดี?”วอลเฟลยกปืนขึ้นอีกครั้ง

    “ครั้งต่อไปที่เราพบกันมันจะเป็นในสนามรบ”

    “พูดก็ถูก”

    “มีโอกาสชนะเท่าไหร่”

    “ก็50/50”

    “และการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นศึกสุดท้ายของเรา”จอห์นกล่าว”พวกเราคนนึงจะไม่ได้กลับมา”

    “มันเป็นเกียรติที่ได้เอาชนะนายเป็นครั้งสุดท้าย”

    “ตลกดี ฉันพูดได้เหมือนกัน ในตอนสุดท้ายของการต่อสู้พวกเราคนนึงจะหายไป”

    “เดี๋ยวก่อน พวกคุณเป็นเพื่อนรักกัน แล้วพวกคุณตกลงจะฆ่ากันในครั้งต่อไปได้ยังไง”

    “ถึงจะเป็นเพื่อนกัน แต่เราเป็นนักรบและเป็นทหาร”จอห์นกล่าว”เราละทิ้งหน้าที่ไม่ได้”

    “และเราทั้งคู่จะไม่ทำให้อีกฝ่ายเสื่อมเสียโดยการไม่ต่อสู้”วอลเฟลกล่าว”นั่นคือเหตุผลที่เราจะฆ่ากันเมื่อพบกันในสนามรบ”

    ไอช่าพาคางาริกับลักซ์ไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อ เสร็จแล้วไอช่าก็พาพวกเขาไปที่รถจี๊บเพื่อพาพวกเขากลับไปร้านอาหารที่พวกเขาพบพยัคฆ์ทะเลทราย ไม่มีใครพูดอะไร แต่คางาริจ้องจอห์น เมื่อพวกเขามาถึง รถจี๊บก็จากไป

    “เธอจ้องฉันเสร็จหรือยัง”จอห์นถาม”เธอจะคิดยังไงฉันก็ไม่ใช่ศัตรูของเธอ”

    “นายจะบอกซาอีฟและคนอื่นๆว่าตัวจริงนายเป็นใคร”

    “แน่นอน มันไม่ใช่ความลับอีกแล้ว”

    @@@@@@@@


    ฐานทัพกลุ่มรุ่งอรุณแห่งทะเลทราย


    “ฉันขอพูดตรงๆนะ”เมอริวกล่าว”ชื่อวิคเตอร์ เคนเป็นแค่ชื่อปลอม จอห์น อลาริค ผู้บัญชาการกองยานอิสระที่11ของซาฟท์ คุณแกล้งตายและในช่วง6เดือนที่ผ่านมาต่อสู้ในฐานะทหารรับจ้าง”


    “ใช่”จอห์นกล่าว”แม้ผมจะขอให้คุณเก็บเป็นความลับไว้ หากมีคนพูดว่าฉันเป็นใคร คนทั้งสองฝ่ายจะพยายามฆ่าฉัน”


    “คุณไม่สามารถบอกไม่ให้เราเขียนรายงาน”


    “แล้วกัปตัน ฉันจะรับใช้อาร์คแองเจิ้ลจนกว่าพวกคุณไม่ต้องการฉันและเพื่อแลกเปลี่ยนกับการปิดบังความ


    ลับของฉันไว้”จอห์นกล่าว”แม้เราจะชนะศึกนี้ แต่ก็ยังอีกไกลกว่าพวกคุณจะไปถึงกองบัญชาการกองทัพโลกและพวกคุณต้องการความช่วยเหลือทั้งหมดที่หาได้”


    เมอริวคิดอยู่ครู่หนึ่ง พวกเธอต้องการความช่วยเหลือจริงๆ


    “ตกลงค่ะ”


    “กัปตัน”นาทาลอุทาน


    “เขาพูดถูก”มูพูดเสริม”เรามีแต่สไตรค์ เรเวน สกอเปี้ยนและสกายแกรสเปอร์ของผมปกป้องยาน ครั้งนี้คงหวังพึ่งโมบิลสูทอาร์โกนอทช์ไม่ได้”


    “จริงๆแล้วพลทหารอาสาดันเต้อาสาขับสกายแกรสเปอร์ลำที่สอง”นาทาร์ลกล่าว


    “จริงเหรอ พี่ชายเธอรู้เรื่องหรือยัง”


    “ไม่ค่ะ”เมอริวกล่าว”ฉันบอกให้เธอบอกเขาก่อนที่ฉันจะอนุญาติให้เธอขึ้นบังคับสกายแกรสเปอร์”


    “เรื่องนี้ผมไม่เข้าไปยุ่ง”โมบิลสูทและสกายแกรสเปอร์ หนึ่งในนั้นขับโดยตคนที่ไม่มีประสบการณ์ เราต้องการความช่วยเหลือทั้งหมด”


    “แล้วนายล่ะซาอีฟ”จอห์นถาม”นายมีอะไรจะพูดเรื่องความลับที่ฉันปิดบังจากนาย”


    “ไม่มีอะไรหรอก มันไม่สำคัญสำหรับฉัน อย่างที่นายพูดไปก่อนหน้านี้ นายเป็นแค่ทหารรับจ้าง เรื่องส่วนตัวของนายไม่ใช่เรื่องของฉัน”


    “ตอนนี้ปัญหาเล็กๆจบแล้ว ตอนนี้เราต้องหาทางจัดการพยัคฆ์ทะเลทรายและฝ่าไปยังทะเลแดง“จอห์นกล่าว”ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย”

     

    "แถวๆนี้น่ะมีแต่โพรงของเหมืองร้างเต็มไปหมด ส่วนทางนี้คือจุดที่พวกเราฝังระเบิดเอาไว้ ถ้าจะใช้เป็นสนามรบละก็ต้องเป็นแถวนี้แหละ ฝ่ายโน้นก็คงจะคิดแบบเดียวกันนั่นแหละ ไหนๆก็วางไว้แล้ว คงต้องเอามาใช้ซะหน่อยละคราวนี้"

     

    "กัปตัน"เอลเนสตี้เดินเข้ามาขัดจังหวะ คนอื่นหันมามองเขา"โทษที ผมไม่รู้ว่าพวกคุณกำลังประชุมอยู่ ผมจะออกไปรอข้างนอกแล้วกัน"

     

    "มันใช้เวลาไม่นานหรอก"มูบอกเขาแล้วหันไปพูดกับซาอิฟ"แต่แบบนั้นจะดีจริงๆเหรอพวกเราน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่อาวุธของพวกคุณน่ะอาจจะเสี่ยงเกินไปก็ได้นะ"


    "ยอมให้เสือเลี้ยง ตกเป็นเบี้ยล่างของมัน ถ้าทำงานให้พวกมันละก็ พวกเราคงจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างสงบสุขแน่นอน เหมือนกับที่บานาดิย่าไงล่ะ พวกผู้หญิงเองก็เรียกร้องให้ทำแบบนั้น"


    ผู้หญิงคนนึงวิ่งตามลูกมาด้านหลังขณะที่ซาอีฟกล่าว

     

    "แต่จะไปเอาแน่อะไรกับคนพวกนั้นล่ะ คิดว่าบรรพบุรุษของเราต้องเสียน้ำตาเพราะพวกมันมากี่ร้อยปีแล้ว ไม่ให้ใครมาบังคับ และไม่บังคับให้ สิ่งที่เราหวังก็มีแค่นี้แหละ ถ้าหากเราชิงเหมืองทางตะวันออกที่เสือยึดไปคืนมาได้ละก็ ฝันของเราต้องเป็นจริงแน่"ซาอิฟถอนหายใจ"พวกเราจำเป็นต้องยืมกำลังของพวกคุณแล้วละนะ ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว ไม่ต้องกังวลไร้สาระหรอกนะ"

     

    "โอเคเข้าใจล่ะ"มูกล่าว"กัปตัน?"

     

    "เข้าใจแล้วค่ะ"เมอริวตอบ"งั้นความร่วมมือในแผนการทำลายเรเซ็ป เรายินดีรับไว้ด้วยความเต็มใจค่ะ"


    @@@@@@@@


    แพลนท์ , บ้านของนิโคล


    นิโคลแทบไม่สนใจประกาศข่าวการลักพาตัวลักซ์ ไคลน์ ไอดอลแพลนท์และการโฆษณาชวนเชื่อของแพทริค ซาล่า เขาดีใจที่ได้กลับบ้านที่ไมอุสซิตี้ แม้จะแค่ไม่กี่วัน แต่เขาอยากลืมเกี่ยวกับสงคราม ปกติแล้วพ่อแม่เขาจะตำหนิเขา แต่วันนี้พ่อต้องไปประชุมสภาสูง


    "คุณค่ะได้เวลาแล้วละค่ะ"


    "อืม รู้แล้วล่ะ"ยูริตอบกลับ เขาเป็นสมาชิกของสภาป้องกันประเทศและเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเครื่องกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการวิจัยและพัฒนาโมบิลสูท


    พ่อแม่เขาทั้งคู่มาจากครอบครัวที่มั่งคั่ง แม่ของเขาน่ารักและพ่อก็ใจเย็นและเป็นคนง่ายๆ


    "แล้วกระเป๋าเอกสารอยู่ที่ไหน"โรมิน่าพึมพำหาของ


    "นี่ครับ"นิโคลพูดยื่นให้เธอ


    "ขอบใจจ๊ะนิโคล"โรมิน่ากล่าว


    ตอนนั้นเองมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น


    "รถมารับแล้ว เร็วไปหน่อยรึเปล่า"เธอเดินไปที่ประตูและหันกลับมา


    "นิโคล เพื่อนมาเยี่ยมน่ะจ๊ะ"


    นิโคลหันไปมองเห็นเพื่อนร่วมทีมผมดำหน้าตาดี


    "สวัสดีซาอูล ลมอะไรหอบมาล่ะครับเนี่ย?"


    "ฉันออกมาเดินเล่นและอยู่ใกล้ๆเลยแวะมาทักทายน่ะ"เด็กหนุ่มผมบลอนด์ทักทาย


    "นั่งก่อนสิครับ"


    ซาอูลนั่งดูการปราศรัยของซาล่าทางทีวี


    "นอกจากการทรยศของออร์บแล้ว มันยังลักพาตัวคุณหนูลักซ์ ไคลน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่อภัยให้ไม่ได้"


    ยูริก้าวเข้ามาในห้องโถงโดยไม่สนใจแขกของลูกชาย เขากำลังครุ่นคิดอยู่ว่าตัวเขาเองรู้สึกเห็นด้วยกับซาล่ามากขึ้นเรื่อยๆ


    "ที่ซาล่าพูดน่ะถูกแล้ว ไคลน์ที่คอยคัดค้านนี่สิแปลกคน"


    "พ่อครับถึงเวลาแล้ว"นิโคลมองนาฬิกา


    ยูริเดินไปที่โถงทางเข้าโดยมีนิโคลตามไป โรมิน่ากำลังรอเขาพร้อมกระเป๋าเอกสาร เธอบอกสามีว่ารถมารับแล้ว"


    "คงต้องหาทางให้อนุมัติโอเปอเรชั่นสปริทเบรคเร็วๆซะแล้ว"เขาพูดกับลูกชายเรื่องปฎิบัติการเข้ายึดปานามา เพื่อการนั้นจำเป็นต้องเพิ่มกำลังทหาร ปฎิบัติการนี้ต้องได้รับการอนุมัติเพราะซาล่า จูลด์และสมาชิกสภาคนอื่นๆต่างสนับสนุน"ถ้าอนุมัติแล้ว ลูกเองก็คงต้องไปอีกแล้ว ขอโทษนะ"


    นิโคลบอกไม่เป็นไร เขาคิดว่าในที่สุดเขา อัสรัน ซาอูล และอิซาคก็จะไปสมทบกับรัสตี้ เลช่าและดีอัคก้าที่โลก ถ้าสถานการณ์ต่างออกไปเขาคงมีความสุขกับการไปเหยียบโลก แต่นี่คือสงครามไม่ใช่การท่องเที่ยว


    "พ่อภูมิใจในตัวลูกมากนะ ระหว่างที่อยู่บ้านก็ทำในสิ่งที่ชอบให้เต็มที่เถอะ"


    "ครับ"


    ยูริออกไปโดยโรมิน่าตามไปส่งข้างล่าง นิโคลกลับไปในห้องโถงที่เลออนยังนั่งดูทีวีอยู่ ตอนนี้การปราศรัยของซาล่าจบและมีการออกอากาศข่าวประจำวัน นิโคลปิดทีวีและเลออนหันมาหาเขา


    "งั้นงานยุ่งของพ่อนายตอนนี้คือสปริตเบรค"ซาอูลถามอย่างดูถูก


    "ใช่ เขาพยายามเร่งอนุมัติแผนยึดปานามา"นิโคล"หลังจากนั้นสงครามก็จะจบลง"


    ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น เมื่อตอนนี้แมสไดรเวอร์วิคตอเรียและคาชุนอยู่ในการควบคุมของซาฟท์


    "จะจริงเหรอ? หลายคนบอกว่าสงครามจะจบในไม่ช้าหลังมีการใช้N-แจมเมอร์คอนเซลเลอร์ แต่ก็ไม่เกิดขึ้น"


    "ก็จริง แต่เมื่อแมสไดรเวอร์ทั้งหมดถูกยึด กองกำลังโลกจะไม่สามารถส่งเชื้อเพลิงไปที่ดวงจันทร์ได้"


    "อาจจะ แต่มันมีสถานที่อื่นที่มีแมสไดรเวอร์"ซาอูลเตือนเขา"นายเคยได้ยินสำนวนเก่าๆเรื่องแมวไล่จับหนูไหม"


    นิโคลพยักหน้า คำพูดกล่าวถึงหนูที่โจมตีแมวแม้จะเล็กและอ่อนแอกว่า ตามประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่ากองทัพในสถานการณ์สิ้นหวังใช้มาตรการบ้าบิ่น เช่นกามิกาเซ่ของจักรวรรดิญี่ปุ่น หากไล่ต้อนกองทัพโลก พวกเขาอาจโจมตีอย่างสุดกำลังเพื่อยึดแมสไดรเวอร์คืน


    "ผมเห็นด้วยกับซีเกล ไคลน์ อย่างน้อยเราก็ควรพยายามใช้วิธีทางการฑูตก่อนจะปฎิบัติการทางทหารอีกครั้ง"


    นิโคลเห็นด้วยกับมุมมองของซาอูล เขาอยากให้สงครามนองเลือดนี้สิ้นสุดลง


    "ขอโทษนะซาอูล อยากดื่มอะไรไหม"โรมิน่าถาม


    "โอ้ ไม่ครับขอบคุณคุณอามาลฟี่"


    โรมิน่ามานั่งข้างลูกชายเธอ


    "นิโคลพูดถึงเธอว่าเป็นเด็กที่มีความสามารถ พ่อแม่ของเธอต้องภูมิใจในตัวเธอมาก"


    ซาอูลมีแววตาเศร้าขึ้นมาเล็กน้อย นิโคลรู้ว่าซาอูลไม่ได้อยากเป็นทหารเลยไม่ต่างจากเขา


    "ครับ"เขาฝืนยิ้มตอบ


    @@@@@@@@


    28 กุมภาพันธุ์ , CE71


    ยานเรเซ็ปส์

     

    กองกำลังของวอลเฟลรอโมบิลสูทบาคูทมาเสริมทัพจากยิบรอลต้า แต่ทางนั้นส่งซาอุสกับดูเอล บัสเตอร์และเซนติเนลมาแทน

     

    "ทำไมพวกที่ยิบรอลต้าส่งซาอุสมาให้เรา บาคูมีไม่พอใช้รึยังไงกัน"วอลเฟลถาม

     

    "ครับ เขาบอกว่าคงส่งมาให้อีกไม่ได้ คงใช้เจ้านั้นมาถ่มช่องว่างละมั้งครับ นักบินของครูเซ่น่ะ"ดาคอสต้า

     

    เขามองไปข้างนอก ยานขนโมบิลสูทลงมาจอดบัสเตอร์ CGUEและเซนติเนลเดินออกมา

     

    "ดีไม่ดีฉันว่าจะมาเกะกะเราซะมากกว่า เคยรบแต่ในอวกาศไม่ใช่เหรอ"

     

    "แต่ว่าเป็นหน่วยหัวกะทินี่ครับ"


    "ฉันไม่ชอบกองพันของครูเซ่ ฉันเกลียดหมอนั้น"วอลเฟลกล่าว

     

    ทางด้านพวกเอเลน่าขับหุ่นลงมาจากเครื่องบินขนส่งแล้วลงมาจากหุ่น เจอฝุ่นทรายพัดเข้าใส่

     

    "อะไรกันเนี่ย แย่ที่สุดเลยแฮะ"ดิอัคก้ากล่าวขณะปิดไม่ให้ฝุ่นทรายเข้าตา

     

    "พวกคุณอยากมาเองนะ"เอเลน่าเตือน

     

    "พายุทรายนั่นน่ะต้องเจอของจริงนะ"วอลเฟลพูดทำให้อิซาคกับดิอัคก้าหันไปมอง"ยินดีต้อนรับสู่เรเซ็ปส์ ฉันคือแอนดริว วอลเฟล ผู้บัญชาการที่นี่"

     

    พวกเขาเห็นวอลเฟลเดินเข้ามา รีบยกมือทำความเคารพ

     

    "สังกัดหน่วยครูเซ่ เอเลน่า แอชวาเรีย จูลด์ค่ะ"

     

    "หน่วยเดียวกัน ดิอัคก้า เอลฟ์แมนครับ"

     

    "หน่วยเดียวกัน รัสตี้ แม็กเวลครับ"


    "ลงมาอยู่ที่นี่คงลำบากหน่อยนะ ยังไงก็ยินดีต้อนรับ"วอลเฟลและดาคอสต้ายกมือทำความเคารพ

     

    "ขอบคุณมากค่ะ"เอเลน่ากล่าว"การเคลื่อนไหวของข้าศึกละค่ะ"

     

    "เรือลำนั้นละก็อยู่ที่ฐานทัพของพวกรีซิสแตนด์ ห่างจากที่นี่ไปตะวันออกเฉียงใต้180กิโล เราส่งเครื่องสอดแนมอัตโนมัติออกไป จะดูภาพไหมล่ะ"

     

    เอเลน่าพยักหน้า ก่อนที่วอลเฟลจะหันไปดูโมบิลสูทของทั้งคู่

     

    "เข้าใจแล้ว เครื่องรุ่นเดียวกันสินะ เหมือนเจ้า2ตัวนั้นมากเลย"วอลเฟลกล่าว

     

    "ได้ยินว่าหัวหน้าวอลเฟลเองก็เคยปะทะกับโมบิลสูทพวกนั้นมาก่อนนี่ครับ?"ดีอัคก้าถาม

     

    วอลเฟลนึกถึงโมบิลสูททั้ง2ตัวที่แสดงศักยภาพออกมา

     

    "นั่นสินะ ฉันคงหัวเราะเยาะหน่วยครูเซ่ไม่ได้หรอก"


    @@@@@@@@@@

     

    วันต่อมาที่ฐานทัพของรุ่งอรุณแห่งทะเลทราย ทุกคนกำลังเตรียมสู้กับพยัคฆ์ทะเลทราย อาร์คแองเจิ้ลกำลังเตรียมบินขึ้น กลุ่มกองโจรกำลังขนอาวุธขึ้นรถจี๊บ

     

    "เอ้า เร็วๆเข้า"

     

    "ไม่มีเวลาแล้ว"

     

    "เอ้าดีล่ะ ใช้ได้แล้ว"รถคันนึงใส่ลังกระสุนไว้เต็มและขับออกไป

     

    ชายคนนึงกำลังบอกลาครอบครัวของเขา

     

    "ไปก่อนนะ"เขาพูดและวิ่งออกไป

     

    "พ่อครับ"

     

    "ระวังตัวด้วยนะค่ะ"

     

    "เหลือเอาไว้ก็ไม่ได้ใช้นี่นา ยังไงก็เอาไปให้หมดเถอะ"

     

    "ไม่มีที่ให้ขนไปน่ะสิ"

     

    คิซากะกำลังขนอาวุธขึ้นรถ เขาหันไปเห็นหญิงสาวคนนึงมอบบางอย่างให้กับคางาริ

     

    เมื่อทุกอย่างพร้อม อาร์คแองเจิ้ลก็เริ่มบินออกจากหุบเขา

     

    "ไปกันได้แล้ว"ซาอีฟพูด กำลังพลของเขาทั้งหมดวิ่งออกจากหุบเขาโดยมีอาร์คแองเจิ้ลตามหลังมา ในขณะที่ครอบครัวของพวกเขาเฝ้ามองอยู่

     

    คางาริมองดูหินสีเขียวก้อนใหญ่ขนาดลูกปิงปอง มันสว่างไหวด้วยแสงแดดในทะเลทราย

     

    "นั่นอะไร?"คิซากะถามด้วยความอยากรู้

     

    "อาฟเหม็ดเขาทำไว้ กะจะยกให้ฉันน่ะ แม่ของเขาเอามาให้เมื่อกี้"

     

    "หินบาราไคงั้นเหรอ ใหญ่จังนะ"คิซากะกล่าว เขาไม่เคยเห็นก้อนใหญ่แบบนี้

     

    คางารินึกถึงวาระสุดท้ายของอาฟเหม็ด และนึกถึงวอลเฟลที่พูดเรื่องแววตาของเธอ

     

    "เพราะไอ้คนทุเรษแบบนั้น"คางาริกล่าว

     

     

    @@@@@@@@@

     

    ในขณะเดียวกันที่ยานเรเซ็ปส์ วอลเฟลได้พาอิซาค ดิอัคก้าและเอเลน่ามาที่บริดจ์

     

    "เริ่มเคลื่อนไหวแล้วอย่างงั้นรึ"

     

    "ครับ กำลังมุ่งหน้าขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือครับ"ทหารกล่าว พวกเอเลน่ามองดูภาพอาร์คแองเจิ้ลกับอาร์โกนอทช์และรถจี๊บของกลุ่มต่อต้าน


    บนหัวยานอาร์คแองเจิ้ลมีจินน์สีดำและแถบสีขาวตามแขนและขา รูปเหยี่ยวขาวสลักไว้บนไหล่ข้างขวา มือวางอยู่บนปากกระบอกปืนสไนเปอร์


    ทหารซาฟท์ทุกคนในเรเซ็ปส์รู้จักจินน์ตัวนั้น มันคือจินน์ของแบล็กฮอร์ค จากการโฆษณาชวนเชื่อของซาฟท์และจินน์เครื่องอื่นของกองยานที่11 มันเป็นสัญลักษณ์ของกองทัพซาฟท์ การได้เห็นมันบนยานของกองทัพโลกเหมือนโดนตบหน้า


    “ไม่จริงน่า นั่นคือแบล็กฮอร์คใช่ไหม”ดีอัคก้ากล่าว


    “เป็นไปไม่ได้”รัสตี้กล่าว”ต้องเป็นกลอุบายแน่"


    “ไม่ล่ะ”วอลเฟลพูดด้วยรอยยิ้ม”นั่นคือแบล็กฮอร์ค เขาวางมือ เขาเข้าข้างยานมีขาและต้องการสู้กับฉัน”


    ความเงียบปกคลุมบนสะพานเดินเรือ เผชิญหน้ากับเอซของกองทัพอย่างแบล็กฮอร์คเป็นฝันร้ายจริงๆ

     

    "มันมุ่งหน้าไปที่ซากโรงงานเทาบาเนีย แต่ถ้าจะฝ่าที่นี่ไปละก็ ฉันเองก็ต้องสั่งการแบบเดียวกับผู้บัญชาการของพวกมันนั่นแหละ"วอลเฟลกล่าว"อยากจะคอยอีกสักนิด แต่ช่วยไม่ได้"

     

    "จะออกไปรบเหรอค่ะ"เอเลน่าถาม

     

    "ใช่ เรเซ็ปส์เคลื่อนยานได้ แจ้งไปที่โค้ดอัลฟ่า เพนทรีกับเฮนรี่ คาเตอร์ด้วย"


    @@@@@@@@


    อาร์คแองเจิ้ล

     

    ภายในโรงอาหาร คิระกำลังนั่งกินข้าวข้างๆมู จอห์นยืนพิงกำแพง

     

    "อะไรกันยังไม่เสร็จอีกเหรอ รีบๆกินเข้าเถอะ เอ้า"มูพูดแล้ววางคาบับไว้ในถาดของคิระ

     

    "เอ๋ เอ่อๆ"คิระมองเจ้าหน้าที่ยศสูงกำลังกินคาบับ

     

    "ของท้องถิ่นเนี่ยมันอร่อยดีนะ"มูพูดแล้วกินต่อ

     

    "ผู้พันยังจะกินต่อเหรอครับเนี่ย?"คิระถาม

     

    "พวกเราน่ะกำลังจะไปรบกันอยู่นะ ถ้าไม่กินจะมีแรงได้ยังไงกัน"มูพูดแล้วเอาโยเกิร์ตให้คิระ"เอ้า ต้องใส่โยเกิร์ตซอส ถึงจะอร่อยนะ"

     

    คิระได้ยินแล้วนึกถึงวอลเฟลถอนหายใจออกมา

     

    "หืม?"

     

    "เปล่าครับ เสือก็พูดแบบนั้น เขาบอกว่าใส่โยเกิร์ตแล้วอร่อย"

     

    "งั้นเหรอ หมอนั้นเข้าใจเรื่องรสชาติดีนี่"มูกล่าวกัดคาบับเข้าปาก"แต่ว่าอย่าไปรู้เรื่องศัตรูมากนักจะดีกว่านะ รีบๆลืมไปซะเถอะ"

     

    คิระได้ยินแล้วก้มมองพื้นนึกถึงอัสรันขึ้นมา


    "เขาไม่ใช่เครื่องจักร การบอกให้เขาลืมแอนดี้ไม่มีความหมาย"จอห์นกล่าว


    "แล้วคุณจะแนะนำอะไร?"มูถาม


    "เตรียมจิตใจให้พร้อมสู้และชนะวอลเฟล"จอห์นกล่าว"การบอกให้เขาทำอย่างอื่นไม่มีความหมาย หนทางเดียวที่เราจะชนะคือจัดการเสือ"


    "คุณพูดแบบนั้นได้ยังไง เขาเป็นเพื่อนสนิทคุณนะ"คิระพูด


    "ถ้าฉันทำไม่ได้ โอกาสที่เธอจะทำได้ก็น้อยกว่ามาก มีหลายครั้ง ฉันสามารถเลือกไม่เข้าร่วมการต่อสู้ แต่ถ้าทำอย่างนั้นโอกาสที่เธอจะชนะก็ลดลงและถ้าต้องฆ่าเขาฉันก็จะทำ"

     

    "เรื่องของศัตรูที่เราจำเป็นต้องเอาชีวิตกันน่ะ ยิ่งรู้มากก็ยิ่งสู้ได้ลำบาก จริงรึเปล่า"

     

    คิระได้ยินแล้วนึกถึงอัสรัน ทำให้เขาถอนหายใจออกมา

     

    "ตึง!!!!"ทันใดนั้นยานก็สั่นสะเทือนและได้ยินเสียงระเบิด


    "มันเริ่มแล้ว"จอห์นดื่มกาแฟหมดถ้วยเดินออกจากห้อง"ขอให้โชคดี"


    ทุกคนรีบออกจากห้องโถงที่วุ่นวายไปปฎิบัติหน้าที่ของตัวเอง


    @@@@@@@@@@

     

    ยานเรเซ็ปส์เคลื่อนมาข้างหน้าผ่านทะเลทราย ยานอีกลำพุ่งมาอยู่ด้านข้าง

     

    "จากเพนตรี้ถึงหน่วยสกอเปี้ยน ออกปฏิบัติการได้"เจ้าหน้าที่สิ่อสารยานลำที่2กล่าว


    "แล้วเฮนรี่คาเตอร์ว่าไง?"ดาคอสต้าถาม

     

    "พวกเขามุ่งหน้าไปยังจุดที่กำหนดครับ ข้าศึกไม่มีวี่แววว่าจะรู้ตัวเลยครับตอนนี้"


    @@@@@@@@

     

    อาร์คแองเจิ้ลกำลังมุ่งหน้าไปที่โรงงาน

     

    มูกำลังพูดกับเมอร์ด็อกผ่านลำโพง ขณะที่คิระใส่ชุดนักบิน

     

    "ใช่แล้วล่ะ เครื่อง1ติดลอนเชอร์ เครื่อง3ติดดาบนะ ทำไมน่ะเหรอ เพราะว่าให้ฉันขับมันจะเร็วกว่ายังไงล่ะ"

     

    มูถอนหายใจตัดช่องสื่อสารหันไปมองคิระ

     

    "ถึงจะผิดต่อพวกนั้น แต่กำลังรบของรีซิสแตนด์พูดตรงๆว่าสู้มันไม่ได้แน่ เธอเองก็เต็มที่หน่อยล่ะ แต่ถ้าเป็นพวกเธอช่วงนี้ละก็คงไม่ต้องห่วงละมั้ง"

     

    มูมองลิซที่สวมชุดสีฟ้าอ่อน

     

    "แล้วก็เธอ บินตามฉันมาและระวังด้วย ของจริงมันต่างจากซิมูเลชั่นนะ"

     

    "รับทราบค่ะ"


    @@@@@@@@@

     

    เมื่อพวกเขาออกมาเรเวนกับสไตรค์ก็ถูกยิงด้วยเฮลิคอปเตอร์ทันที

     

    คิระยกโล่ของสไตรค์มาป้องกันตัวเอง ส่วนคริสหลบกระสุนก่อนที่จะยิงอีเกลสเตลลังไปใส่เฮลิคอปเตอร์ร่วงไป3ลำ สไตรค์ลงพื้นส่วนเรเวนเปลี่ยนเป็นโมบิลอาเมอร์

     

    เฮลิคอปเตอร์เริ่มยิงมิสไซล์ใส่ทั้งสองตัวทันที แต่ทำอะไรเกราะเฟสชิฟไม่ได้

     

    อาร์คแองเจิ้ลยิงอีเกลสเตลลังระเบิดเฮลิคอปเตอร์ไปหลายลำ

     

    จ่าฝูงบาคูยิงปืนเรลกันออกมา ก่อนที่ทั้งฝูงจะเริ่มกระจายกันไป

     

    เรเซ็ปส์ยิงปืนหลักยานใส่อาร์คแองเจิ้ล นัดนึงโดนเข้าที่แท่นส่งออก แต่แทบไม่เสียหาย

     

    "เชอะ ไม่มีทางแพ้หรอกน่า"มูยิงปืนทำลายเฮลิคอปเตอร์2ลำ

     

    "แวเรียต ยิง!!!"นาทาลสั่ง

     

    ปืนใหญ่แวเรียตยิงใส่เรเซ็ปส์แต่พลาดเป้า

     

    มูยิงเฮลิคอปเตอร์ตกไปเครื่องหนึ่ง สกายแกรสเปอร์อีกเครื่องบินตามหลังมา

     

    "จำไว้นะเธอแค่คอยดูแลตัวเองและอยู่ใกล้ฉันไว้ อย่าทำอะไรเกินตัวล่ะ"


    "ค่ะ"ลิซพยักหน้า

     

    "อ้อมไปทางขวาสิเฟลช ไป"ซาอีฟบอกลูกน้อง เขาเลี้ยวตามที่สั่ง รถจี๊บกระจายไปรอบบาคู

     

    "บาคูมีกี่ตัวกันเนี่ย"คิระถามตัวเอง"6...7ตัวเหรอ"

     

    จังหวะนั้นบาคูตัวนึงก็ยิงเรลกันใส่เขา คิระหลบหลีกและขับสไตรค์บินใกล้ผืนทราย

     

    ทางด้านเอลก็หลบมิสไซล์จากบาคูได้ทุกนัด ก่อนจะพุ่งเข้าไปและชักบีมเซเบอร์ฟันบาคูตัวนั้นขาดครึ่งระเบิดไป

     

    สไตรค์ยิงปืนอีเกลสเตลลังใส่เฮลิคอปเตอร์ด้านบนระเบิด ก่อนจะหลบเรลกันของบาคู


    @@@@@@@


    ภายในเรเซ็ปส์ วอลเฟลกับไอช่าในชุดนักบินกำลังเตรียมจะขึ้นบาคูตัวใหญ่สีส้มที่ถูกดัดแปลง ความเร็วและความคล่องตัวของเครื่อง เหนือกว่าบาคูอย่างน้อย2เท่า หัวเครื่องติดบีมเซเบอร์คู่ มีปืนลำแสงไว้ยิงด้านหลัง ซึ่งไอช่ารับหน้าที่ยิงปืน

     

    "หัวหน้าวอลเฟล"รัสตี้ ดิอัคก้าและเอเลน่าวิ่งเข้ามา"ทำไมถึงให้พวกเราประจำอยู่บนยานเรเซ็ปส์ขณะที่รีวองซ์อยู่แนวหน้าละครับ?"

     

    "อ้าว หน่วยครูเซ่เนี่ย เขาให้ทหารมีปัญหากับผู้บังคับบัญชาด้วยเหรอเนี่ย?"วอลเฟลถามล้อเลียน

     

    "เปล่าหรอกครับ แต่ว่าประสบการณ์ในการต่อสู้กับพวกนั้นน่ะ เรามีมากกว่านะ"รัสตี้เถียง

     

    "ประสบการณ์ในการแพ้เหรอ?"ไอช่าพูดเล่นๆ รัสตี้หันไปมองทันที

     

    "ว่าไงนะ!!"รัสตี้ตะโกน

     

    "ไอช่า"วอลเฟลกล่าว

     

    "ขอโทษทีนะ"ไอช่ากล่าว วอลเฟลหันไปมองพวกรัสตี้

     

    "เครื่องของพวกเธอน่ะเป็นแบบยิงสนับสนุนนะ คงตามสปีดของบาคูที่ใช้รบในระยะทางไกลไม่ทันหรอกจริงไหมล่ะ"

     

    "แต่ว่า"

     

    "รัสตี้พอเถอะ นี่เป็นคำสั่งนะ"ดีอัคก้าจับไหล่เพื่อนไว้"ขอประทานโทษด้วยครับ"


    ดิอัคก้ากับเอเลน่ายกมือทำความเคารพขอโทษ รัสตี้ทำตามและทั้งสามเดินออกไป

     

    "ใจเย็นๆ พอเปิดฉากสู้แล้วต้องมีโอกาสสิ"ดีอัคก้ากล่าวก่อนที่รัสตี้จะยิ้ม

     

    "เรื่องที่จะเลียนแบบเจ้าหนูคนนั้น ไม่ใช่ว่าใครๆก็จะทำได้เหมือนเขาหรอกนะรู้ไหม"วอลเฟลบอกไอช่าแล้วจับสายเคเบิ้ลพาขึ้นห้องนักบิน

     

    วอลเฟลกับไอช่าเข้ามานั่งในห้องนักบินที่มีที่นั่งสำหรับ2คนแบบเดียวกับเรเวน

     

    จากนั้นประตูโรงเก็บยานก็เปิดออก ไม่เหมือนยานรบส่วนใหญ่ที่มีแท่นดีดตัวออก เรเซ็ปส์ที่ใช้บาคูสู้ไม่ต้องการมัน

     

    "ถ้างั้นฝากยานด้วยนะดาคอสต้า"วอลเฟลกล่าว

     

    "ครับ"


    "วอลเฟล ราโก้ ออกได้"

     

    ราโก้กระโดดออกจากยานลงไปเหยียบผืนทรายและใช้โหมดราง เร่งเครื่องไปข้างหน้า

     

    @@@@@@@@@@@@ 


    เรเวนมีภารกิจเดียวคือทำให้CGUE บัสเตอร์และเซนติเนลของหน่วยครูเซ่ยุ่ง เขาบินไปที่เรเซ็ปส์ปืนบีมของเขายิงไปตลอด ยานของซาฟท์หุ้มเกราะอย่างดี ลำแสงของเขาสร้างความเสียหายได้เล็กน้อย แต่ก็พอดึงความสนใจ


    สไตรค์มุ่งเน้นไปที่บาคู คิระรู้ว่าแบบไอล์สไตรค์ทำให้เขาได้เปรียบ บาคูกระโดดได้แต่บินไม่ได้ โมบิลสูทซาฟท์โง่พอจะโดดขึ้นมาบนถิ่นของเขา เขาเหนี่ยวไกและบาคูก็ระเบิด


    เฮลิคอปเลอร์หลายลำรุมยิงเขา แต่เขาไม่ได้สนใจเพราะไม่ได้เป็นภัยคุกคาม พวกมันโดนจัดการเมื่อสกายแกรสเปอร์ของมูยินปืนอัคนียิงพลังงานสีแดงเข้มระเบิด3ลำหายไป


    ขณะที่สไตรค์ยังสู้หาเป้าหมายต่อไปคำพูดวอลเฟลดังก้องอยู่ในหัวเขา


    “ถ้าอย่างงั้นจะตัดสินผลแพ้ชนะกันยังไง จะให้มันจบตอนไหนถึงจะดี ตอนนี้ทำลายศัตรูหมดได้แล้วยังงั้นรึ”


    ที่เรเซ็ปส์ คริสเป็นหนามยอดอกของหน่วยครูเซ่ ยิงบีมและกระสุนปืน นักบินชุดแดงทั้งสามหลบได้ไม่ยาก


    “ตอดไปตอดมาน่ารำคาญชะมัด”บัสเตอร์ยิงไรเฟิลบัสเตอร์ แต่เรเวนยกโล่ขึ้นมาดูดพลังงานหายไปง่ายๆ


    “ดูเหมือนสนามรบภาคพื้นดินจะไม่เหมาะกับพวกนายนะ”คริสล้อเลียนแสดงความเห็น


    “หุบปาก”เขายิงปืนด้วยเรลกันอย่างไร้ประโยชน์อีกครั้ง


    “เปล่าประโยชน์น่า”เสาอากาศเรดาห์ละลายไปด้วยการยิงจากเรเวน”เป็นไปได้ยากที่พวกนายจะเอาชนะยานเราสองลำได้”


    “ว่าไงนะ”CGUEเปลี่ยนเป้าหมายและระเบิดรถจี๊บที่เข้ามาหลงมาในแนวยิงของเขาทิ้ง


    “สิ้นเปลืองพลังงาน รถจี๊บพวกนั้นไม่มีค่าอะไร”คริสส่ายหัว


    สถานการณ์ตอนนี้ไม่มียานฝ่ายไหนเคลื่อนไปไกลจากตำแหน่งตอนเริ่มสู้รบและการต่อสู้โมบิลสูทยังไม่เด็ดขาด แต่มันเปลี่ยนแปลง ทั้งแอนดริว วอลเฟลและจอห์น อลาริคต่างมีแผน


    @@@@@@@@@

     

    ขณะเดียวกัน ทางด้านคิระกำลังสู้กับราโก้ของวอลเฟล บีมแคนน่อนยิงใส่สไตรค์ แต่คิระยกโล่ป้องกันโดดหลบ


    “อะไรน่ะ”คิระมองบาคูตัวใหญ่สีส้ม


    “คู่ต่อสู้ของเธอคือฉันนะเจ้าหนู”วอลเฟลกล่าว

     

    เขายิงบีมไรเฟิลใส่ราโก้ แต่ราโก้พุ่งตัวหลบและหายไปในเนินทราย

     

    "ผิดกันบาคูตัวอื่น ตัวหัวหน้าเหรอ คนๆนั้นเหรอ?"คิระกล่าว

     

    ตอนนั้นเองราโก้ก็โผล่มาจากหลังเนินทราบและยิงบีมแคนน่อนใส่สไตรค์พร้อมพุ่งผ่านไป ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง3วิ

     

    "เข้าใจล่ะฝีมือดีจริงๆ"ไอช่ากล่าว ขณะที่วอลเฟลหันไปทางอื่น

     

    "ใช่มั้ยล่ะ วันนี้รู้สึกจะต่อสู้แบบเรียบร้อยอยู่นะ แต่ว่าคราวก่อนน่ะยอดมากเลย"

     

    "คุณดีใจอะไรของคุณล่ะ แย่หน่อยนะแอนดี้ เด็กแบบนั้นน่ะคุณชอบใช่ไหมล่ะ?"ไอช่ากล่าว

     

    "คิดว่าจะกล่อมได้เหรอ?"วอลเฟลถามกลับ

     

    "ไม่หรอก"ไอช่าตอบแล้วยิงปืนใหญ่ไป สไตรค์พุ่งไปด้านข้างป้องกันด้วยโล่ก่อนจะบินขึ้น

     

    ราโก้พุ่งกระโดดตามสไตรค์ คิระยกโล่ป้องกันและยิงบีมไรเฟิล ราโก้หลบกระสุนและกระแทกเข้าใส่โล่ แต่วอลเฟลก็ยกเท้ากระแทกใส่หัวสไตรค์

     

    สไตรค์ร่วงลงไปกระแทกพื้น ราโก้จะยิงจัดการให้จบ แต่จินน์สีดำของจอห์นยิงปืนไรเฟิลสไนเปอร์เข้ามา ปืนใหญ่นั้นทำให้ราโก้ต้องรีบพุ่งหลบออกไป ขณะที่สไตรค์ก็เริ่มลุกขึ้นยืน


    @@@@@@@

     

    ด้านคางาริก็วิ่งเข้ามาในโรงเก็บยานอาร์คแองเจิ้ล วิ่งมาที่สกายกลาสเปอร์เครื่อง3ที่ติดซอร์ดสไตรเกอร์ไว้

     

    "เฮ้ อะไรน่ะคุณหนู?"เมอร์ด็อกถาม

     

    "สถานการณ์แบบเนี่ยเก็บเอาไว้ดูเล่นได้ยังไงกัน ฉันจะเอามันออกไป"

     

    "ว่าไงนะ!!!"เมอร์ด็อกตกใจ ตอนนั้นเองคางาริก็สตาร์ทเครื่อง ทำให้ยานลอยขึ้นและมีแรงลมพัดไปทั่ว

     

    "ถอยไป เดี๋ยวก็โดนเป๋ากระเด็นหรอก เปิดทางออกสิ"คางาริสั่ง

     

    "โธ่เว้ย เด็กสมัยนี้นี่ เปิดทางออกให้เขาสิ"

     

    ทางออกเปิดออก สกายกลาสเปอร์บินออกไป

     

    "ถ้าทำตกละก็ไม่ยอมจริงๆด้วยนะ"เมอร์ด็อกตะโกนขณะเธอบินออกไป

     

    "สกายกลาสเปอร์เบอร์3ออกไปแล้วค่ะ"มิริอาเรียรายงาน

     

    "อะไรนะ!!"นาทาลตกใจ


    อาร์คแองเจิ้ลถูกโจมตีจากเฮนรี่ คาเตอร์ขณะที่เรเซ็ปส์กลเคลื่อนไปหายานรบ ทันใดนั้นสกายแกรสเปอร์เบอร์3พร้อมซอร์ดสไตรค์เกอร์บินออกไป

     

    "เฮ้ เครื่องที่3น่ะใครขับอยู่เหรอ"มูติดต่อมาที่บริดจ์

     

    "ฉันเอง“คางาริตอบ มู เซเรน ลิซและจอห์นต่างถอนหายใจ(คิระกับคริสยุ่งรับมือกับวอลเฟลและพวกรัสตี้)


    “โอเค พยายามตามหลังฉันไว้อย่าให้โดนยิงร่วง”

     

    มู ลิซและคางาริบินลงมาที่ยานเฮนรี่คาร์เตอร์ พวกเขายิงบีมไรเฟิลประจำยานทำลายปืนประจำยานไปคนละกระบอก



    @@@@@@@@@


    การต่อสู้ของวอลเฟลกับคิระเป็นที่จับตามองของพวกเอลซึ่งไม่ได้สู้กันจริงจังเท่าไหร่


    “นายควรจะยอมแพ้เรเวน”เอเลน่ากล่าว”พลังงานหุ่นนายน่าจะใกล้หมดและสไตรค์ไม่มีทางชนะราโกของผบ.วอลเฟลได้”


    “นายประเมินเขาต่ำไปอีกแล้วเอเลน่า จูลด์ ไม่เพียงคิระเป็นสุดยอดโคออดิเนเตอร์เท่านั้น แต่เขายังมีซี้ดด้วย”


    เอเลน่ายิงบีมไรเฟิลพร้อมสบถขณะที่โล่ของเรเวนรับไว้


    “อะไรนะ?”


    “สุดยอดการวิวัฒนาการ”คริสอธิบาย”ผู้ที่มีซี้ดสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง ฉันก็มีพลังนั้นเช่นกัน แต่เธอไม่มี"


    “แล้วซี้ดทำให้เขาเหนือกว่าฉันเหรอ?”เอเลน่าถามอย่างโมโห


    “ไม่ เขาเก่งกว่านายอยู่แล้ว ซี้ดแค่สิ่งยืนยันเรื่องนั้น"เรเวนยิงซาอุสอีกตัว”และสำหรับพลังงานที่เป็นปัญหา ลิซ ตอนนี้!”


    เอเลน่าเห็นการ์เดี้ยนโมบิลอาเมอร์โฉบลงมาและวางแปลกๆไว้บนมือว่างของเรเวน


    อิซาคไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แล้วอนุภาพแสงGNไดรฟ์ของเรเวนปะทุขึ้นอีก และเรเวนก็พุ่งกระแทกเซนติเนลตกจากยาน


    "เลช่า!!!"ดีอัคก้ากับรัสตี้ตะโกน


    “ดูซิว่าเธอจะรับมือกับทรายยังไง”คริสตะโกนขณะที่เครื่องของเขาเชื่อมต่อกับอาเชอร์กลับมาเป็นแบ็คแพ็ค


    บัสเตอร์กับCGUEยิงใส่เรเวน แต่เขาหลบได้อย่างง่ายดาย


    "มันยังไม่จบเรเวน"รัสตี้ตะโกน


    "ฉันบอกแล้วไงมันจบแล้ว"เขาพูดและบินสูงจากไป


    ในตอนนั้นปืนใหญ่ของอาร์คแองเจิ้ลเล็งมาทางนี้ ดีอัคก้ากับรัสตี้เห็นแล้วรีบลงจากยานมาบนผืนทราย ลำแสงพุ่งทำลายป้อมปืนและขีปนาวุธเสียหายหนักมีไฟลุกไหม้


    "เฮ้ยๆ นี่นะพยัคฆ์ทะเลทราย"ดีอัคก้าพูดก่อนจะเริ่มโดนทรายกดลง


    เอเลน่าสบถและพยายามบังคับเซนติเนลก้าวไปข้างหน้าและโดดแต่เธอกลับจมลงไปในทราย เขาทุบแผงควบคุมมองเรเวนบินจากไป


    @@@@@@@@@


    สไตรค์ยิงราโก แต่วอลเฟลหลบทันและยิงกลับทำลายบีมไรเฟิลของสไตรค์


    การต่อสู้ของพวกเขายาวนานและทั้งสองเครื่องมีพลังงานเหลือน้อย พวกเขารู้มันจะจบในไม่ช้า


    วอลเฟลมองไปที่เรเซ็ปส์ซึ่งเสียหายหนัก ซูโนหายไป พวกกันดั้มร่วงจากยาน ปืนใหญ่และมิสไซล์ถูกทำลาย เรเวน จินน์ สกายแกรสเปอร์ แม้แต่อาร์คแองเจิ้ลกับอาร์โกนอทช์ก็โจมตีใส่ยาน

     

    "ดาคอสต้า"วอลเฟลเรียก"ออกคำสั่งถอยทัพซะ"

     

    "หัวหน้า?"

     

    "รู้ผลแพ้ชนะแล้วนี่นา รวบรวมทหารที่เหลือกลับไปที่บานาดิย่าก่อน แล้วก็ติดต่อไปที่ยิบรอลต้าด้วย"

     

    "หัวหน้า...."คาดอสต้าไม่ทันพูดวอลเฟลก็ตัดการสื่อสารไป

     

    "เธอก็หนีไปซะไอช่า"วอลเฟลบอกเธอ

     

    "ถ้าต้องทำแบบนั้นแล้วละก็ ฉันขอตายซะดีกว่า"

     

    "เธอนี่บ้าจริงๆ"

     

    "จะว่าอะไรก็เชิญสิ"ไอช่าพูด แล้วหันไปส่องกล้องเล็งอีกครั้ง

     

    "งั้นก็ไปกับฉันก็แล้วกัน"วอลเฟลให้ราโก้พุ่งเข้าหาสไตรค์

     

    "คุณวอลเฟล"

     

    "ยังหรอกน่าเจ้าหนู"

     

    "พอดีเถอะครับ รู้ผลกันแล้วไม่ใช่เหรอ ถอยทัพซะ"

     

    วอลเฟลพุ่งเข้าใส่สไตรค์อีกครั้งและฟันซอร์ดบีมใส่ สไตรค์ใช้โล่ฟาดราโก้กระเด็นไป แต่แพ็คด้านหลังส่วนหนึ่งถูกตัดทิ้ง

     

    "ฉันบอกเธอแล้วนี่นา การสิ้นสุดสงครามน่ะมันไม่มีกติกามาตัดสินหรอกนะ"

     

    "คุณวอลเฟล..."คิระจะพูด แต่แล้วสัญญาณเตือนดังขึ้น พลังงานของสไตรค์ถึงจุดต่ำสุด บีมเซเบอร์ของสไตรค์สลายไปพร้อมกับเกราะเฟสชิพ

     

    ตัวราโก้ส่วนที่ควันลอยขึ้นมาระเบิด ทำให้แผงควบคุมหน้าไอช่ามีประกายไฟออกมา เธอกรีดร้องออกมา

     

    "ยังไงก็ต้องสู้ ตราบใดที่ต่างก็ยังเป็นศัตรูกัน จนกว่าจะพินาศกันไปข้างหนึ่งไงเล่า!!!!"

     

    ราโก้พุ่งเข้ามา อีกครั้งที่ซี้ดของคิระแตกกระจาย สไตรค์สละไอล์แพ็คด้านหลังและโล่ไป พร้อมกับชักอาเมอร์ชไนเดอร์ที่เอวออกมา มันเป็นอาวุธเดียวที่สไตรค์ใช้ได้

     

    "คุณวอลเฟล คุณไอช่า ได้โปรดหยุดเถอะ"ลักซ์ร้อง เธออยากหยุดการฆ่าฟันที่ไร้ความหมายนี่ แต่วอลเฟลไม่คิดจะหยุด

     

    ราโก้พุ่งเข้ามาชนในจังหวะที่สไตรค์แทงดาบใส่กลางหลังราโก้ได้ก่อนจะโดนฟัน สไตรค์กระเด็นออกไปนอนบนพื้นทราย ขณะที่ดาบที่แทงหัวทำให้ราโก้หยุดทำงานและล้มบนพื้นทราย

     

    "แอนดี้"ไอช่าร้อง เธอปีนขึ้นมา ขณะที่วอลเฟลเข้ามากอดเธอไว้

     

    แสงสว่างส่องออกมาจากกลางหลังของราโก้ จากนั้นมันก็ระเบิดเป็นลูกไฟใหญ่


    ในฟาร์ไซท์ จอห์นทำความเคารพวอลเฟลเช่นเดียวกับทหารซาฟท์ที่รอดชีวิตเมื่อเห็นผู้บัญชาการของพวกเขาจากไป


    ในสไตรค์ คิระมองซากทั้งหุ่นน้ำตา

     

    "ผม ผมน่ะ...ไม่ได้อยากฆ่าเลยสักนิด!!!!!"


    @@@@@@@@


    ที่โคโลนี่แพลนท์ของซาฟท์แห่งหนึ่ง อัสรันก็มาที่เวอซาเรียสที่จะออกเดินทางด้วยสีหน้าเศร้า หลายวันก่อนงานศพลักซ์ได้จบไปท่ามกลางความโศกเศร้าของชาวแพลนท์ แต่มีบางอย่างแปลกๆ เขาได้ยินว่าซีเกล ไคลน์ไม่ไปร่วมงานศพ

    อัสรันเจอซีเกลเมื่อวานและดูมีความสุขอย่างน่าประหลาดสำหรับชายที่เสียลูกสาวคนเดียวไป

    อัสรันเชื่อว่าลักซ์ต้องยังมีชีวิตอยู่อยู่ที่ไหนสักแห่ง บางทีซีเกลอาจรู้แต่ถ้ารู้ทำไมเขายังเงียบอยู่

    นิโคล อามาลฟี่ และซาอูล เคสเซล กำลังบอกลาครอบครัวตน

    ด้านซาอูลมีแค่แม่กับพี่สาวมาส่งเพราะพ่อติดงาน

    "ทำงานให้ดีๆนะ ไม่อย่างงั้น"ไดอาน่ากำลังแสยะยิ้มข่มขู่น้องชาย

    "แน่นอนครับ"

    "รักษาตัวด้วยนะซาอูล"แม่เขากล่าว

    "ครับ ผมไปนะ"ซาอูลพูดแล้วลอยเข้าเวอซาเรียสไป

    "จะกอดหน่อยก็ได้นี่นา"แม่บอกไดอาน่า

    "หึ!!!"ไดอาน่าเดินกลับไป

    นิโคลยกมือทำความเคารพพ่อ

    "อืม"พ่อของเขาพยักหน้าหน้า

    "ขอให้ปลอดภัยนะลูก"แม่เขากล่าว

    "ครับ ผมไปนะครับ"

    นิโคลหยิบกระเป๋า ลอยไปทางประตูยานวาเซเรียส พ่อแม่ของเขามองลูกชายจากไป

    นิโคลเข้ามาที่ระเบียงในยาน

    "นิโคล"มีเสียงเรียก นิโคลหันไปก็เห็นว่าเป็นเพื่อนรักเขาอัสรัน อีกคนคือซาอูล

    "อัสรัน ซาอูล"พวกเขายกมือมาตบทักทายกัน

    "เสียใจเรื่องลักซ์ด้วยนะ"ซาอูลกล่าว อัสรันมองเพื่อนพยักหน้าช้าๆ

    "ตอนนั้นน่ะขอบคุณมากนะครับ"นิโคลกล่าว

    "ไม่ล่ะ เป็นคอนเสิร์ตที่ดีนะ"อัสรันกล่าว

    "ไม่ได้หลับเหรอเนี่ย"นิโคลหัวเราะ

    "อ๊ะ"อัสรันกระพริบตา"ไม่หรอกน่า"

    "ฉันหลับ"ซาอูลพูดเล่นๆ

    "ซาอูล"อัสรันมองเพื่อนอย่างหงุดหงิด

    "ที่จริง ผมอยากจะทำให้มันดีกว่านี้นะ"นิโคลกล่าว

    "ถ้าโอเปอเรชั่นสปริตเบรคจบแล้ว สถานการณ์คงเปลี่ยนไปละนะ"อัสรันกล่าว

    ทหารซาฟท์รู้ดี ถ้าแมสไดรเวอร์ของกองทัพโลกถูกทำลายหมด ก็ไม่ต้องกลัวว่ากองทัพโลกจะส่งทัพมาโจมตีแพลนท์ได้

    "นั่นสิ แต่ว่าคราวนี้ได้พักกันเต็มที่เลยจริงไหม"นิโคลกล่าว

    "ใช่"อัสรันเห็นด้วย

    "ผมน่ะพึ่งจะเคยร่วมการใหญ่แบบนี้ครั้งแรก"นิโคลกล่าว

    "ฉันเองก็เหมือนกัน"อัสรันกล่าว

    ยานเวอซาเรียสมุ่งหน้าออกจากแพลนท์ตรงไปที่โลก


    @@@@@@@@@

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×