ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kingdom War Online สงครามแห่งอำนาจ

    ลำดับตอนที่ #91 : บทที่ 87 กอลโดนา VS โรแลนด์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.1K
      11
      5 ม.ค. 60

    บทที่ 87

         เมืองฟาลัน หัวเมืองหนึ่งในแคว้นโรแลนด์ ที่ตอนนี้ถูกแคว้นกอลโดนายกทัพมายึดครองสายฟ้าแล็บ ลีโอโกรธมากเพราะเมืองหน้าด่านี่เป็นแหล่งเสบียงสำคัญ เขาทำการยกทัพโจมตี รวมทั้งเรียกกำลังเสริมมาเพื่อตีเมืองนี้คืนด้วย


         หน้ากำแพงเมือง ทหารกอลโดนากับปัลเทเบีย กำลังต้านทหารโรแลนด์ที่บุกเมืองฟาลันมาเกือบเดือนนึงแล้ว ด้วยความพียบพร้อมทั้งอาวุธและเสบียงอาหาร ทำให้กองทัพยกทัพออกนอกเมือง ทำสงครามกับโรแลนด์ได้เป็นเวลานาน แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ทหารกอลโดนาและปัลเทเบียก็เริ่มอ่อนแรงลง ในขณะที่ข้าศึกยกพลมาเสริมเรื่อยๆ ก็ทำให้ทัพกอลโดนาและปัลเทเบียต้องถอยกลับเข้ามาในเมือง และป้องกันเมืองมา3วันแล้ว


         กำแพงเมืองฟาลันทางทิศเหนือไม่ได้ทำไว้สำหรับรับศึก เพราะเดิมทีมันมีเพื่อรับศึกจากทางใต้มากกว่า กำแพงด้านนี้จึงอยู่สูงกว่าพื้นดินไม่มาก ประตูทำจากไม้และไม่ค่อยแข็งแรงนัก ทำให้คราว ต้องนำกำลังทหารส่วนนึงเปิดประตูออกไปต่อสู้สกัดทหารโรแลนด์ไว้หน้ากำแพง พยายามกันไม่ให้ทหารโรแลนด์พาดบันไดขึ้นไปบนกำแพงได้ หรือเอาเสามากระทุ้งประตู แต่ก็คงต้านได้อีกไม่นาน ข้าศึกมีจำนวนมากเกินไป


         "เปิดประตูเมือง วันนี้เมืองฟาลันต้องเป็นของเรา"ลีโอที่กำลังบัญชากองทัพอยู่ตะโกน


         ทหารโรแลนด์นับแสนบุกเข้าตีเมืองฟาลัน บนกำแพงเมือง ทหารกอลโดนาและปัลเทเบีย กำลังถือปินยาวและธนูยิงต้านพวกโรแลนด์ อีกฝ่ายก็โต้ตอบแบบเดียวกัน ทหารโรแลนด์ตั้งโล่เป็นครึ่งวงกลม และทหารยิงปืนยาวผ่านทางช่องโล่ ทหารกอลโดนาและปัลเทเบียต้องหลบก้มหัวหลบกระสุนฝั่งตรงข้าม เสียงยิงปืนยาวต่อสู้จึงดังไปทั่วสนามรบ


         "ตูมๆๆบรึ้มๆๆๆ....."ปืนใหญ่หลายกระบกพุ่งจากกำแพงเมือง ตกใส่ทหารโรแลนด์ตายน้อยมาก เพราะทหารโรแลนด์กระจายตัวกันเพื่อหลบปืนใหญ่ และรัศมีปืนใหญ่ก็แคบกว่าปืนใหญ่เพลิงปีศาจและปืนใหญ่เพลิงอสูรของแคว้นคาออสกับไอโรเนียมาก


         ทางด้านประตูเมือง คราวด์ก็กำลังตวัดมีดเชือดคอทหารโรแลนด์อย่างต่อเนื่อง มีทหารโรแลนด์นับพันที่ต้องตกเป็นเหยื่อนักฆ่าหนุ่ม แต่จำนวนที่เขาฆ่าได้ กับจำนวนที่ยังเหลือก็ยังคงแตกต่างกันมาก


         "เปรี้ยงงงงง!!!!!"เท้าของคราวด์เตะใส่เสากระทุ้งที่โรแลนด์นำมันมาใกล้ประตู เสากระทุ้งแตกละเอียดด้วยลมปราณของเขา


         "ฉัวะ!!!!!"คราวด์วิ่งอย่างรวดเร็ว มีดฟันใส่คอแม่ทัพคนนึงตายทันที จากในตัวเขาก็หายไปจากบริเวณนั้นในพริบตา คราวด์ทำงานลอบสังหารที่เขาถนัด คอยลอบสังหารพวกแม่ทัพ ทำให้การบัญชาการรบของโรแลนด์ปั่นป่วน แต่ก็ไม่มากพอจะพลิกสถานการณ์ได้


         "หัวหน้า ทางผมไม่ไหวแล้ว"เสียงนึงดังขึ้น คราวด์หันไปเห็นชายหนุ่มนักฆ่า หนึ่งในลูกน้องของเขาที่แขนซ้ายโดนฟันแผลใหญ่ที่แขนซ้าย กำลังต่อสู้ โดยที่แนวต้านพวกโรแลนด์ทางขวาของประตูใกล้แตกแล้ว


         "ถอยไปที่ประตูเมือง อย่าให้ข้าศึกเปิดประตูได้เด็ดขาด"


         คราวด์พูดแล้ว มีดของเขาเชือดคอทหารโรแลนด์คนนึง ก่อาจะหมุนตัวยกมีดแทงหน้าอกของทหารอีกคน ลูกน้องเขาพยักหน้าแล้วรีบวิ่งไป แต่ในจังหวะนั้นก็มีทหารโรแลนด์ตัวใหญ่ที่เล่นเผ่าอ๊อค สวมเกราะชั้นดี วิ่งเข้าไปหาลูกน้องเขาเพื่อจะฆ่าให้ตาย


         "ฟุ่บ...ฉึก!!!!!....ฉูดดดดด!!!!!"คราวด์ขว้างมีดออกไป มันเจาะทะลุหัวอ๊อคคนนั้นอย่างแม่นยำ มันล้มลงพื้น เลือดพุ่งกระฉูดออกมาจากศพ


         "แก!!!!!"พวกทหารโรแลนด์โกรธแค้นวิ่งเข้ามา จะล้างแค้นให้แม่ทัพตัวเอง


         มีดดาบเงาสังหาร


         "ฉัวะๆๆๆๆ....!!!"คลื่นสีดำพุ่งไหลออกจากมีดสองเล่มอย่างผิดธรรมดา มันเป็นคลื่นเงาที่เคลื่อนไหวตามการควบคุมของเขา คราวด์จึงต้องมองคลื่นอยู่ตลอดเวลา คมเงาพุ่งไปเชือดคอทหารกว่า30คนตายในเวลาเพียงชั่วอึดใจ


         ระเบิดมังกรน้ำ


         "ซูมมมมม!!!!!.......ตูมมมมมม!!!!!"คลื่นน้ำรูปมังกรพัดใส่คราวด์ แต่เขาไวพอจะกระโดดหลบได้ทัน คลื่นเงาหายไปทันทีที่สายตาเขาหายไป ทหารกอลโดนาไม่ต่ำกว่า50คนโดนน้ำอัดกระแทกตาย ส่วนที่เหลือในบริเวณนั้น ก็นอนเจ็บและโดนทหารโรแลนด์สังหาร


         "เฟี้ยวๆๆ....เคร้งๆๆๆๆ.....!!!!"ดาวกระจายผนึกปราณขว้างเข้ามาหาเขา คราวด์ใช้มีดสองมือปัดป้องมันได้หมด มองนินจาสาวเบื้องหน้า


         "เจอเธออีกแล้วเหรอ มายูระ ท่าทางโรแลนด์ก็มีคนไม่พอใช้เหมือนกันนะ"คราวด์พูดยั่วโมโหมายูระทันที ไอ้ความกวนประสาทนี่แหละที่ทำให้มายูระไม่ชอบหน้าคราวด์เอาซะเลย


         "นายเถียงฉันได้ไม่ตกฟากจริงๆ ขอถามหน่อย เรเฟียหายไปไหนล่ะ"


         "ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องบอกแกนี่นา"


         "เปรี้ยงๆๆๆเคร้งๆๆๆๆ......!!!!!!"สิ้นเสียงแล้ว 2ขุนพลก็เข้าต่อสู้กันในโลกความเร็วอีกครั้งนึง เสียงอาวุธเหล็กกระทบกันดังขึ้นไม่หยุด บนพื้นก็มีดาวกระจายกับมีดโผล่มาปักพื้นเรื่อยๆ


         "ผัวะๆๆ...ตึง!!!....ฉัวะ!!!!!"มายูระพลาดโดนคราวด์ชกจนล้มลงพื้น คราวด์แทงดาบเชือดคอนินจาสาวทันที


         "ป๊อง!!!!"ระเบิดควันลอยขึ้นมา ร่างมายูระกลายเป็นท่อนไม้ ส่วนมายูระตัวจริงมาอยู่ด้านหลังคราวด์แล้ว


         กระสุนคลื่นสูญญากาศ


         "ตูมๆๆๆ.....เปรี้ยงงง!!!!"กระสุนลมขนาดเล็กที่มีพลังทะลวงสูงหลายลูกยิงใส่คราวด์ แถมยังมองไม่เห็นอีกด้วย เขาดีดตัวหลบแต่ก็พลาดโดนเข้าที่แขนซ้ายทีนึง เขาขว้างมีดมือซ้ายใส่มายูระ แต่เธอยิงกระสุนลมสกัดไว้ได้ คราวด์กลับมายืนบนพื้นมองแขนซ้ายที่สั่นระริก มันขยับไม่ได้ดังใจ


         "ให้ตายสิ ใช้ของแบบนี้ไม่ถนัดซะด้วย"คราวด์เปลี่ยนอาวุธ มือขวาหยิบดาบสั้นขึ้นมาใช้แทนมีด


          "ฟู่.....ฟุ่บๆ....!!!!!"มายูระก็เดาอาการของคราวด์ได้ เธอพ่นลมสูญญากาศใส่ดาวกระจายสองอัน และปาใส่เขา ดาวกระจายพุ่งมาหาคราวด์อย่างรวดเร็ว


          "เกร็ง!!!!"ดาบสั้นแทงเข้าไปในช่องตรงกลางมีดดาวกระจาย ทำให้มีดหยุดอยู่อย่างงั้น จากนั้นเขาก็ใช้แรงลมปัดมีดอีกเล่มกระเด็น


          พิษเงาสังหาร


          คราวด์ปล่อยไอพิษเข้าไปในมีดดาวกระจาย แล้วขว้างดาวกระจายหลุดจากช่องดาบ ตรงเข้าไปหามายูระ ตัวดาวกระจายบินผิดวิถีจนมายูระไม่รู้ทิศทาง มันหายไปจากสายตาเธอและกำลังฟันใส่จากด้านหลัง


          "ฉัวะ!!!!!.....ฉูดดดดด!!!!!!"เสี้ยววินาทีก่อนที่มายูระจะพลาด ลีโอเข้ามาจากด้านหลังฟันดาบใหญ่ใส่คราวด์ แต่คราวด์ก็ไวพอจะเอี้ยวตัวหลบ ทำให้ไม่โดนฟันถึงตาย แต่ก็มีแผลยาวที่หลัง ทำให้ดาวกระจายพิษตกลงพื้น


          "อั๊ก...แค่กๆๆๆๆ......!!!!"คราวด์กระอักเลือดออกมาหลายครั้ง ลีโอยกดาบแทงใส่เพื่อปลิดชีพ ชายหนุ่มโยนบางอย่างลงพื้น


          หมอกพิษสังหาร


          "ฟู่ๆๆ...."ควันสีม่วงลอยกระจายไปทั่ว ลีโอกับมายูระรีบกระโดดถอยห่างออกมา ส่วนทางคราวด์ที่ใส่หน้ากากกันพิษก็รีบหนีหายไป


          ลีโอกัดฟันที่คราวด์หนีรอดไปได้ แต่คงหนีไปที่กำแพงเมืองฟาลันแน่


          "กลับไปโจมตีเมืองต่อ ประตูเมืองฟาลันใกล้แตกแล้ว"


          "ค่ะ!!!"


          บนกำแพงเมืองฟาลัน ประตูเมืองใกล้จะแตกอย่างที่ลีอพูดจริงๆ ตอนนี้พวกทหารกอลโดนากับปัลเทเบียต้องถอยกลับมาในเมืองกันหมด ทหารโรแลนด์นอกเมืองเอาเสากระทุ้งประตูอย่างต่อเนื่อง พวกทหารกอลโดนาเอาไม้ค้ำยันประตูเมืองไว้ แต่ประตูไม้ที่ไม่ค่อยทนทานก็เริ่มปริแตกแล้ว คราวด์ฝ่าทหารโรแลนด์จนหนีขึ้นมาบนกำแพงเมืองได้โดยที่มีบาดเจ็บหนัก พวกทหารรีบวิ่งเข้ามา


          "ท่านคราวด์ ประตูเมืองใกล้จะแตกแล้ว ท่านเรเฟียบอกให้เราต้านไว้ให้นานที่สุด แต่เขาหายไปไหนเนี่ย"


          "เขากำลังทำพิธีเวทอยู่ เราถ่วงเวลาได้นานมากแล้ว อีกไม่กี่อึดใจ พวกที่จะล้มตายคือพวกโรแลนด์"คราวด์แสยะยิ้ม






         ทางด้านเรเฟียกำลังร่ายมนตร์และวาดวงเวทโดยใช้เลือดจากทหารโรแลนด์อยู่ภายในค่ายทหารใกล้กำแพง มือก็กำลังเขียนอักษรเวทโบราณใส่ยันต์กระดาษเก่าๆอยู่ ใช้เลือดทหารโรแลนด์อีกเช่นกัน วงเวทเริ่มส่องแสง อักษรสีเลือดบนยันต์กระดาษเริ่มทำงาน เรเฟียยิ้ม


          แนวหน้ายิ่งแย่ลง หลังจากลีโอกับมายูระมาถึงหน้ากำแพงเมือง ก็นำทหารบุกพาดบันไดขึ้นไป ไม่มีแม่ทัพกอลโดนาคนไหนหยุดยั้งเขาได้ ทางด้านคราวด์ที่เป็นคนเดียวที่พอจะถ่วงเวลาได้ก็โดนมายูระสกัดไว้ เขาใกล้จะโดนมายูระจัดการด้วยซ้ำ เพราะบาดเจ็บหนัก


          "เคร้งๆๆ....ฉัวะ!!!!!"คราวด์โดนมายูระฟันเข้าที่ไหล่ กระเด็นล้มลงพื้น


          "ฉันรอวันนี้มาตั้งนานแล้วคราวด์ รู้ไว้ด้วยว่านินจาเหนือกว่านักฆ่า"มายูระแสยะยิ้มแล้วยกมีดประสานอิน เตรียมใช้คาถา


          จังหวะนั้นเองที่เรเฟียวิ่งมาที่กำแพงเมือง จากนั้นใช้พลังจิตทำให้ยันต์กระดาษกว่า30ใบ ลอยไปติดกำแพงเมืองทั้ง4ด้าน


          "วิ้ง!!!!!!"ตอนนั้นเองที่มีแสงสว่างสีแดงแผ่ออกมาจากกำแพงเมือง ทำให้ทหารทั้งสองฝ่ายต้องหยุดสู้กันชั่วครู่


          "ทหาร ถอยทัพเดี๋ยวนี้!!!!!"เสียงลีโอดังขึ้นมา ทหารทุกนายไม่เข้าใจแต่ก็รีบทำตาม


          ลูกบอลไฟยักษ์


          "ตูมมมมมม!!!!!!"มายูระพ่นบอลเพลิงใส่คราวด์ แต่ทหารกอลโดนาเข้ามาเป็นโล่ ทำให้บอลไฟไปไม่ถึงตัวคราวด์


          "ชิ!!!!"มายูระกระโดดไปยืนบนบันได และทำให้บันไดล้มออกไปนอกกำแพง ตอนที่บันไดเอียงเป็นแนว45องศา เธอก็ผนึกปราณไว้ที่เท้าและกระโดดสุดแรงเกิด


          กำแพงเพลิงผลาญสิ้น


          วงเวทขนาดใหญ่เริ่มทำงาน เปลวไฟเริ่มลุกลามไปทั่วกำแพง มันไม่ทำอันตรายกับทหารกอลโดนากับปัลเทเบีย แต่เปลวไฟเผาพวกทหารโรแลนด์ที่กำลังถอยหนี ใครที่สัมผัสโดนก็โดน เปลวไฟจะลุกลามทั่วร่าง และเผาร่างจนไหม้เกรียมอย่างรวดเร็ว ทหารโรแลนด์นับหมื่นที่อยู่ใกล้กำแพงเมืองมากเกินไปพะากันล้มตาย เปลวเพลิงหยุดห่างจากกำแพง100เมตร มายูระเกือบจะหนีไม่ทัน


           ลีโอมองดูวงเวทเพลิงที่โอบล้อมกำแพงเมือง ซึ่งดูไม่มีทีท่าจะหายไป เขามองดูซากศพทหารหลายหมื่นที่ตายไป ยังไม่นับรวมที่ตายในการบุกเมืองอีก สายตาได้แต่มองเรเฟียด้วยความอาฆาต ก่อนจะยกทัพกลับค่ายไป


           ทหารกอลโดนาและปัลเทเบียพากันดีใจที่ทหารโรแลนด์ถอยทัพไป


           "อย่าพึ่งดีใจ กำแพงไฟนี้อยู่ได้ไม่เกิน3วันหรอกนะ รีบปฐมพยาบาลคนเจ็บแล้วซ่อมแซมกำแพงเร็วเข้า"เรเฟียตะโกนขึ้น พวกทหารรีบทำตามคำสั่ง





    ทวีปแพนราเซีย


         อาโรนเดินกลับออกมาจากปราสาท แล้วหายไปจากบริเวณนั้นในพริบตา เขามาถึงตรอกมืด ที่เป็นจุดนัดพบกับคิริโกะและร๊อคในเวลาไม่กี่วินาที ทั้งสองที่คอยอยู่หันมามองเขาด้วยตาเป็นประกาย


         "เป็นไงบ้างอาโรน ซื้ออะไรมาบ้างค่ะ"คิริโกะถามเสียงหวาน


         "เหล้าของข้าล่ะ"ร๊อคถามตรงๆ


         อาโรนยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะพูดว่า


         "เสียใจด้วยนะ ข้าไม่ได้เอาคะแนนไปแลกซื้อสร้อยเพชรหรือเหล้าแพงๆมาให้พวกเจ้าหรอก"


         ทั้งสองได้ยินแล้วก้มหน้าลงเล็กน้อยด้วยความผิดหวัง และมีความโกรธเหมือนเด็กที่ไม่ได้ของที่ต้องการแล้วจะโวยวาย ร๊อคเป็นตัวอย่างที่ดี เพราะแสดงออกโดยไม่ปิดบัง


         "ท่านไม่รักษาสัญญา....."


         ก่อนที่ร๊อคจะพูดจบ อาโรนหยิบของอย่างนึงขึ้นมาให้ร๊อคเห็น ร๊อคเบิกตาโพล่งเมื่อเห็นมัน คิริโกะเห็นผลึกแร่โฮรูก้อนแล้วก็ตกใจเช่นกัน อาโรนยื่นให้ร๊อครับไปแบบอึ้งๆ ก่อนจะโยนของอีกอย่างให้คิริโกะ หอกสีดำอมแดงแผ่ออร่าสีดำออกมา


         "หอกของข้า"คิริโกะตกใจยิ่งกว่าเดิม


         "ชุดเกราะของข้า หอกของนายท่าน ท่านได้มันมายังไง แถมยัง....."


         "เอซุสให้ข้ามา พร้อมกับศาสตราและชุดเกราะที่ข้าสั่งสร้าง ฉันเองก็อยากรู้ว่าของพวกนี้ไปอยู่ในมือเอซุสได้ยังไงเหมือนกัน"ร๊อคยังพูดไม่จบ อาโรนก็ตอบให้ฟัง


         "ไม่แปลกหรอกที่เขาจะเก็บชุดเกราะของร๊อคไว้ เพราะชุดเกราะพวกนี้ได้เอซุสเป็นคนสร้างขึ้นมา"ร๊อคกล่าว


         "เธอกับเขารู้จักกันยังไง"เขาหันมาถามคิริโกะ เขาแปลกใจมากที่เอซุสยอมสร้างอาวุธจำนวนมากให้กับกองทัพคิริโกะในอดีต


         "ข้ารู้จักกับเขายามที่ต้องการคนสร้างอาวุธในกองทัพข้า เขาจึงมาร่วมกองทัพข้าระยะนึง ข้ากับเขาคุยถูกคอจนเหมือนเป็นเพื่อนสนิทกัน เขายังสนิทกับอสูรนรกอเวจีทุกตน เขาสร้างทั้งเกราะและศาสตราให้กองทัพข้าเลย การที่ข้าอยู่รอดในมหาสงครามได้นานก็ต้องขอบคุณเขาด้วย"


         "แล้วทำไมเอซุสถึงจากไป"


         อาโรนถามแล้วคิริโกะมีสีหน้าเศร้าลงก่อนจะเอ่ยปาก


         "พวกนักสร้างอาวุธคนอื่นในกองทัพข้า พวกเขาอิจฉาเอซุสที่มีผลงานเด่นเกินหน้าเกินตา เลยหาเรื่องใส่ร้ายเขาต่างๆนาๆ ตอนแรกข้าไม่เชื่อ แต่ท่านก็คงรู้ดี คำโกหกที่มาจากหลายคนที่มาพูดฟังกรอกหูไม่ซ้ำหน้าทุกวัน รวมทั้งความอดทนของเอซุสที่แต่เดิมก็ไม่ค่อยมี สุดท้ายเราก็มีปากเสียงกัน เมื่อเอซุสกับข้าแย้งกันในศึกใหญ่ครั้งนึง ข้าตะคอกเขาด้วยถ้อยคำรุนแรง ทำให้เขาจากข้าไป และศึกคราวนั้นข้าก็สูญเสียหนักเพราะแผนข้าด้วย หลังจากนั้นผ่านไปนานจนข้าจำไม่ได้ วันที่พวกปีศาจและเทพรุมกำจัดข้า พวกมันบางคนถือศาสตราที่เขาสร้าง มันทำให้ข้านึกแค้นใจจนกระทั่งถูกผนึกไป ข้ารู้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของเอซุส เขาเป็นนักสร้างอาวุธ มีหน้าที่แค่สร้างและไม่รับผลที่จะตามมา ข้ายังนึกเสียใจกับการพูดคุยครั้งสุดท้ายถึงวันนี้"


         คิริโกะพูดจบแล้วก้มหน้าลงปาดน้ำตาที่ใบหน้า ก่อนจะถามอาโรนทันที


         "เอซุสอยู่ไหนเหรอ ข้าอยากจะขอโทษเขาเรื่องในวันนั้น"


         "เสียใจด้วย เขาออกไปจากเมืองแล้ว ตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในนักสร้างผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสาม และแกล้งทำตัวเป็นตาแก่ติดหนี้ คงไม่อยากพบหน้าใครหรอก"


         อสูรโลกาวินาศสาวพยักหน้าเบาๆ ถ้าเอซุสคิดซ่อนตัว คิริโกะคงตามรอยไปไม่ได้แน่


         "ฉันเกือบลืมไป เอซุสฟากคำพูดมาบอกเธอด้วยนะ"


         "อะไร"


         "เขาบอกว่าตอนนี้เขาไม่อยากจะพบหน้าพวกเจ้า"คิริโกะได้แล้วดวงตาเศร้าจนแทบจะร้องไห้อีกรอบ แต่กลั้นเอาไว้


         "ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละนะ"คิริโกะยิ้มอย่างฝืนๆ ถึงร๊อคจะเงียบและทำสีหน้าโกรธ แต่ก็คงแอบเศร้าอยู่เหมือนกัน


         "และบอกด้วยว่า เรื่องวันนั้นเขายกโทษให้กับเธอ และขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข"คิริโกะกับร๊อคได้ยินคำพูดต่อมาของอาโรนแล้วนิ่งอึ้งไปชั่วครู่


         "นี่เอซุส ยกโทษให้ข้าแล้วเหรอ"หญิงสาวถามเสียงเบา


         "ไม่ดีใจเหรอไง"อาโรนถาม


         "แต่ความผิดของข้ามัน"


         "เรื่องแบบนี้คนเป็นเพื่อนกันเกิดขึ้นบ่อยจะตาย คนที่ทำผิดยิ่งกว่าเจ้าน่ะมีเยอะเต็มโลกนี้เลย เพราะฉะนั้นเลิกรู้สึกผิดซะที ทำแบบนี้ต่อไปคนที่ทุกข์ก็มีแต่เธอคนเดียวนะ"


         คิริโกะนิ่งเงียบไป จากนั้นสีหน้าเธอก็กลับมายิ้มตามเดิมและคุกเข่าลงเบื้องหน้าเด็กหนุ่ม ร๊อครีบทำตาม คิริโกะชักดาบออกมายื่นให้เด็กหนุ่ม


         "ท่านอาโรน ข้าจะขอติดตามท่านไปยังทวีปเรเซียด้วย และจะเป็นดาบให้ท่านตลอดไป ร่างกายและดาบของข้าเป็นของท่าน โปรดยอมรับสัญญานี่ด้วย"


         อาโรนรับดาบและเอาหอกทาบไว้ที่ไหล่คิริโกะ


         "ฉันรับสัญญานั้นคิริโกะ เพราะมันต้องเป็นแบบนั้นตั้งแต่แรกแล้ว"คำพูดหลัง อาโรนพูดเบาๆ


         "อะไรนะค่ะ"คิริโกะเหมือนได้ยินอาโรนพูดบางอย่าง


         "เปล่า ไม่มีอะไร"อาโรนรีบปฎิเสธ ก่อนจะทำแบบเดียวกันกับร๊อค


         ทั้งสองคนลุกขึ้นมา สีหน้าคิริโกะดูมีความสุขมากและชักดาบกวัดแกว่งไปมาจนร๊อคต้องหลบ สักพักเธอก็เก็บดาบไป


         "ท่านอาโรน ถ้าเกิดท่านยังไม่พอใจ เรามาทำพันธสัญญาผูกมัดนายบ่าวกันเลยดีไหมค่ะ"คิริโกะที่เหมือนจะไม่พอใจแค่พันธสัญญาติดตาม เลยขอเพิ่ม มันหมายถึงพันธสัญญาสัตว์เลี้ยงนั่นเอง


         "อย่าเลยดีกว่าคิริโกะ แบบนั้นมันทำให้เธอขัดขืนฉันไม่ได้เลยนะ"


         "ก็ดีแล้วนี่ค่ะ ข้ายินดีทำตามคำสั่งอาโรนทุกอย่างอยู่แล้ว แม้แต่เรื่องอย่างว่าก็ตาม"คิริโกะพึมพำเบาๆ


         "แต่เธอรู้ไหมคิริโกะ ถ้าเธอทำพันธสัญญาสัตว์เลี้ยง เธอจะโดนปรับลดคลาสกับเลเวล ลงมาอยู่ในระดับเดียวกับฉันทันที อยากได้แบบนั้นเหรอ"อาโรนพูดแล้วคิริโกะชะงักไปทันที


         "มะ...ไม่เอาแล้วค่ะ ว่าแต่ทำไมท่านอาโรนรู้ได้ละค่ะ"คิริโกะถามอย่างสงสัย


         "ก็เพราะมังกรที่อยู่กับฉัน เขาทำพันธสัญญาสัตว์เลี้ยงกับฉัน แล้วโดนปรับลดระดับไปน่ะสิ แถมยังโดนยังคับให้คงสภาพในร่างมนุษย์อีก แต่ก็ไม่เลว เธอดื้อน้อยลงกว่าเดิมเยอะ แถมร่างมนุษย์ก็สวยไม่แพ้คิริโกะเลยด้วย"อาโรนพูดแล้วนึกถึงมังกรไทฟอนสาว


         'ซวยแล้ว'ร๊อคเห็นสีหน้าคิริโกะที่เปลี่ยนไปแล้วหน้าซีดลงทันที


         พริบตานั้นเอง รังสีอำมหิตก็แผ่ออกมาจากร่างของอสูรโลกาวินาศสาวทันที


         "ช่วยเล่ารายละเอียดให้ฟังด้วยค่ะ"คิริโกะถามเสียงเย็นยะเยือก และส่งรอยยิ้มมัจจุราชให้เด็กหนุ่ม


    2ชั่วโมงผ่านไป


         ตอนนี้ทั้งสามกลับมาอยู่ที่ห้องพักในโรงแรมแล้ว อาโรนต้องยอมเล่าเรื่องลูน่าให้คิริโกะฟัง คิริโกะยังถามไปถึงผู้หญิงคนอื่น ทั้งอาเดล มิโอเรีย เกรเซีย คานาเรีย ซายะ ตอนที่คิริโกะรู้ว่าอาโรนเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับอาเดลและมิโอเรียก็แทบจะร้องไห้ราวกับอาโรนนอกใจ ทั้งที่พวกเขายังไม่เป็นอะไรกันเลย ร๊อคต้องคอยปลอบหญิงสาว เมื่อคิริโกะหายจากอาการเศร้าก็เริ่มมีสีหน้าโกรธแทน


         "ก็เท่านี้แหละ"


         "ฟุ่บ!!!!!"อาโรนเอียงหัวหลบหอกที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงได้ทันหวุดหวิด


         "ทำอะไรน่ะคิริโกะ"ใจจริงเขาก็รู้อยู่แล้ว แต่ก็ติดนิสัยแกล้งคนอื่น โดยเฉพาะผู้หญิงสองประเภท ซึนดาเระกับขี้อาย


         "จ้าแค่ลองหอกเท่านั้นเอง ฮึกๆ...แง้!!!!! คนหลายใจ"


         อาโรนอึ้งเมื่อคิริโกะร้องไห้ขึ้นมาและวิ่งหนีออกจากห้องนอนไป อาโรนคิดว่าเธอคงกลั้นน้ำตาไว้ตั้งนานแล้ว เขาคงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่แล้ว ไม่ใช่แค่ขี้อายเท่านั้น บ่อน้ำตายังแตกง่ายอีกด้วย แถมยังทำตัวเหมือนเด็กอีก


         "ร๊อค ช่วยไปปลอบทีนะ ว่าแต่เรื่องชุดเกราะเป็นไงบ้างล่ะ"อาโรนนึดสนใจชุดเกราะของพวกอสูรนรกอเวจีที่เอซุสเปลี่ยนรูปร่างเป็นแร่ผลึกไว้ ซึ่งตอนนี้โดนส่งไปให้อสูรนรกอเวจีทุกคนแล้ว และมีแค่ร๊อคที่ติดต่อพวกมันได้


         "ทุกคนดีใจกันมากครับ บอกว่าอยากใช้ในสงครามเร็วๆ พวกเขาฝากมาบอกท่านด้วยว่า พวกเขาโกรธที่ไม่ได้ร่วมในศึกคราวก่อน"


         "ติดนิสัยเจ้านายเก่านายมารึไง"อาโรนบ่น ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยากที่สุดในโลก


         "พวกเราอสูรนรกอเวจีเป็นทหารนะครับ ทั้งชีวิตรู้จักแต่การทำสงคราม โปรดเข้าใจด้วยครับ"ร๊อคพูดเสียงต่ำ ดูเหมือนจะไม่พอใจที่เขาบ่นถึงคิริโกะ


         "โทษทีละกัน ว่าแต่หอกคิริโกะทำอะไรได้"


         อาโรนรู้ว่าหอกนั้นผนึกพลังของศาสตราอีกครึ่งนึงของอสูรโลกาวินาศไว้ และจากที่เขาเคยเผชิญกับศาสตราชิ้นนี้ เขาก็คิดว่ามันก็อันตรายมากอยู่แล้ว ถ้าพลังเพิ่มจะทรงพลังขนาดไหนกันนะ


         "เอาไว้ท่านรอชมเถอะครับ ที่จริงข้ากับท่านคิริโกะก็อยากเห็นพลังของชุดเกราะและศาสตราชิ้นใหม่ที่เอซุสสร้างเหมือนกัน ท่านบอกว่าใช้วัสดุจากสัตว์อสูรระดับสูงสร้างทั้งนั้นเลยนี่นา"


         "หึหึ ยังไงเราก็ได้หนูทดลองชั้นดีมาลองของถึงที่แล้วนี่นา"


         สองหนุ่มหัวเราะอย่างรู้ใจกัน ก่อนที่ร๊อคจะไปปลอบคิริโกะ ส่วนอาโรนก็เปิดดูข้อมูลชุดเกราะและดาบเล่มใหม่


    ดาบจอมมารอสูรสายฟ้า - หนึ่งใน2ดาบของจอมมารที่ปลดผนึกแล้ว ทำให้ผู้ใช้สามารถเรียนรู้มนตร์สายฟ้าได้ทุกชนิด มีเวทสายฟ้าเผ่ามารสกิตในดาบให้เรียกใช้ได้ พลังโจมตี 800,000-900,000 ดูดเวทสายฟ้าและธาตุสายฟ้ารอบตัวมาเพิ่มพลังได้

    ดาบอสูรความมืด - หนึ่งใน2ดาบของจอมมารที่ปลดผนึกแล้ว ทำให้ผู้ใช้สามารถเรียนรู้มนตร์ความมืดได้ทุกชนิด มีเวทสายความมืดเผ่ามารสกิตในดาบให้เรียกใช้ได้ พลังโจมตี 800,000-1,000,000 ดูดกลืนเวทความมืดและคำสาปรอบตัวมาเพิ่มพลังได้

    ชุดเกราะชุดเกราะจอมมาร พลังป้องกัน 1,000,000 ป้องกันเวท 1,200,000 ตราบใดที่สวมชุดเกราะนี้ เวทธาตุความมืด ไฟ สายฟ้าและน้ำแข็งจะไร้ผล ลดเวทธาตุอื่นลง70% ลดเวทธาตุแสง1/4 


         'เอซุสสร้างของสุดยอดแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไงเนี่ย'อาโรนยิ้ม เขาปิดหน้าต่างระบบแล้วหยิบของอย่างนึงมาจากกระเป๋า มันคือคัมภีร์เวทมนตร์โบราณของจอมอสูร ที่เอซุสให้เขามา ปากแข็งบอกว่าจะไม่สอน แต่สุดท้ายก็ยอมยกคัมภีร์ให้จนได้


         อาโรนเปิดคัมภีร์เวทอย่างเบามือ เพราะมันเก่ามากแล้ว กระดาษเลยขาดได้ง่ายมาก ซึ่งเวทมนตร์ทุกชนิดตั้งแต่ระดับต่ำถึงสูงนั้น การจะได้เวทมนตร์ใหม่มาต้องทำพิธีกรรมตลอด บางครั้งต้องใช้ของแลก หรือเงื่อนไขอื่น สมัยที่เขาพึ่งเล่นใหม่ ก็ลำบากเรื่องนี้ไม่น้อย เขาเลือกสายนักดาบเวท จึงไม่ต้องทำพิธีกรรมมาก และเขาก็เลือกแค่มนตร์บางบทเท่านั้นเอง สายจอมเวทเป็นสายที่เก่งช้า อาโรนคิดขึ้นมาว่าถ้าเป็นพวกจอมเวทแล้วต้องลำบากขนาดไหน อย่างเช่น เกรเซีย


         เขาอ่านไม่นานก็จำบทคาถาได้เกือบหมดทั้งเล่ม ยกเว้นบางหน้าที่กระดาษฉีกขาดหรือไหม้ไฟไป ซึ่งเขาก็ร่ายทำพิธีไม่ได้ เพราะบทร่ายไม่สมบูรณ์ ตอนนี้ที่เขาต้องทำคือ หาของสำหรับทำพิธีกรรมเพื่อเอาเวทมนตร์โบราณมาใช้


         "คิริโกะ ร๊อค"อาโรนตะโกนแล้ว เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นแทบจะทันที


         "ท่านอาโรน"เสียงเคาะประตูดังขึ้น คิริโกะกับร๊อคเดินเข้ามาตามเสียงเรียก


         "มีอะไรค่ะ"คิริโกะถามเสียงหวานใส สีหน้าเธอร่าเริงขึ้นแล้ว อาโรนยิ้มแล้วยกมือขึ้นมาลูบหัวเธอ ทำให้หญิงสาวหน้าขึ้นสีแดงนิดๆ


         "ฉันมีงานให้พวกเธอทำ รวมถึงพวกอสูรนรกอเวจีด้วย เป็นงานที่พวกนายถนัดมาก"


         "อะไรครับ"ร๊อคถามอย่างกระตือรือร้น เมื่อพูดถึงเรื่องที่พวกเขาถนัด ก็คือการทำลาย


         "เราจะออกไปนอกเมือง และไปรวบรวมของพวกนี้สำหรับพิธีกรรมเวทโบราณ พวกนายล่าของได้เร็วสุดแค่ไหน"อาโรนยื่นกระดาษที่เขียนวัสดุและจำนวนที่ต้องการให้ร๊อคกับคิริโกะอ่านดู


         "ไม่ถึง3วันครับ"


         "ดี ถ้างั้นไปกันเลย"


         พวกอาโรนเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม ก่อนจะกางปีกบินออกไปนอกเมือง อาโรนอัญเชิญเหล่าอสูรนรกอเวจีทั้ง100ตนออกมา และให้พวกมันกระจายไปทั่วเพื่อล่าพวกสัตวอสูรเพื่อเอาชิ้นส่วนร่างสัตว์อสูรหรือไอเท็มดรอป แต่ก็ใช่ว่าไอเท็มดรอปจะได้ตรงกับของที่พวกเขาต้องการ แถมบางครั้งพวกอสูรนรกอเวจีก็ทำงานพลาด ดังไปทำลายชิ้นส่วนสัตว์อสูรที่เขาต้องใช้ ทำให้เสียเวลาไปไม่น้อย

    _____________________

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×