ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kingdom War Online สงครามแห่งอำนาจ

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 5 เข้าใจผิด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.62K
      116
      5 เม.ย. 59

    บทที่ 5

    ปีK.W.993 เดือน 11 วันที่ 3

         เช้าวันต่อมา หลังงานฉลองเมื่อคืนจบลง เมืองฟาเรลกลับมาอยู่ในสภาพพร้อมรบเต็มอัตราศึก เหล่าทหารเฝ้ากำแพงเมืองหนาแน่นตลอด24ชั่วโมง

         "ฮ้าว~!!!"เด็กสาวร่างเล็กผมฟ้าตื่นขึ้นมาในห้องนอนของเธอในปราสาทเมืองฟาเรล เธอลุกขึ้นมานั่งและสั่นกระดิ่งที่หัวเตียง

         เมดสาวสองคนเดินเข้ามา มิโอเรียลุกให้ทั้งสองคนทำงานของพวกเธอ คนนึงเข้าห้องน้ำไปเติมน้ำร้อนในอ่างให้เธอใช้อาบน้ำ อีกคนจัดเตียงให้เรียบร้อย ไม่ถึง5นาทีพวกเธอก็ถอนสายบัวให้เธอและเดินออกจากห้องไป

         มิโอเรียเดินเข้าไปอาบน้ำร้อนที่เมดสาวเตรียมไว้ให้ เธอเดินออกมาเช็ดตัวมานั่งหน้ากระจกและหวีผมที่ยุ่งเหยิงให้เป็นทรง และรวบมัดผมยาวเธอให้เป็นทรงสั้นตามปกติ สวมชุดเกราะกับศาสตราประจำตัวแล้วเดินออกจากห้อง

         'อาโรน'ชื่อนึงแล่นเข้ามาในหัวเธออย่างหุงดหงิด

         เมื่อคืนนี้อาโรนโดนคานาเรียกับอาเดลยื้อฉุดแย่งกันตอนงานเลี้ยงใกล้เลิก มิโอเรีย อาเดลและอาโรนได้รับอนุญาติให้นอนในปราสาทได้ แต่ส่วนของห้องนอนในปราสาทแยกเป็นสองฝั่ง คานาเรียบอกว่าจะให้อาโรนนอนปราสาทฝั่งของราชวงศ์ที่หรูหรา แต่อาเดลจะให้อาโรนนอนอีกฝั่งที่เธอนอนอยู่ คานาเรียอ้างว่าอาโรนช่วยเมืองฟาเรลและช่วยเธอล้างแค้น เธอจึงอยากตอบแทน อาเดลอ้างว่าแค่นี้ก็มากพอแล้ว เพราะตอนนี้อยู่ในสภาวะสงคราม สุดท้ายอาโรนก็นอนในปราสามฝั่งเดียวกับอาเดลและมิโอเรีย

         มิโอเรียรู้ดีว่า คานาเรียเริ่มชอบอาโรนเข้าแล้ว และเหมือนตั้งแต่พี่สาวเธอรู้ว่าอาโรนเล่นเกมส์นี้ พี่เธอก็เริ่มจะรุกอาโรนหนักจนเกินหน้าเกินตาเธอซะแล้ว

        วันนี้มิโอเรียตื่นเช้ามาก เธอคิดจะไปปลุกอาโรนที่ห้อง แต่เพราะยังโกรธอยู่และไม่อยากเห็นหน้าตอนนี้ สุดท้ายก็ไม่ไปปลุกเดินออกจากปราสาทไปด้วยความฉุนเฉียว โดยที่แม่ทัพกับขุนนางทั้งหลายก็ไม่กล้าเข้าใกล้

         มิโอเรียเดินมาทานอาหารเช้าในโรงอาหารในค่ายทหารที่สร้างอย่างดี พวกทหารแปลกใจว่าทำไมเธอไม่ทานอาหารในปราสาท แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามเธอ

        "มิโอเรีย!!!!"เสียงตะโกนนึงดังขึ้นขณะที่เธอกำลังหาที่นั่ง มิโอเรียหันไปเห็นโจเซฟที่โบกมือให้ เธอเลยเดินมานั่งกินด้วย

         เด็กสาวได้รับความสนใจจากบรรดาหนุ่มๆมาก หลายคนชวนเธอคุยอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะมิโอเรียเป็นคนยิ้มยากและเย็นชาพอสมควร ต่างกับอาเดลที่ยิ้มง่ายจนเป็นเหมือนนางฟ้าในกองทัพ แต่มีคนนึงที่กล้าพูดตรงๆ

         "ว่าไงมิโอเรีย ตอนนี้อาโรนเป็นขวัญใจของทหารในกองทัพแล้วนะ แถมยังได้ตำแหน่งแม่ทัพด้วย"โจเซฟพูดขึ้น มิโอเรียคิ้วกระตุกเล็กน้อย

         "อาโรนยังไม่ได้รับตำแหน่ง เพราะฉะนั้นอย่าพึ่งพูด"

         "ไม่ต้องห่วงหรอกมิโอเรีย เส้นทางชีวิตของอาโรนในKMO จะเดินทางไหนก็รุ่งทั้งนั้น จะเอาตำแหน่งแม่ทัพใหญ่เมืองหลวงหรือเจ้าเมืองดีล่ะ"

         "หมายความว่ายังไง?"เธอถามเสียงเย็นยะเยือก

         "เธอก็น่าจะรู้นี่นา เมื่อคืนนี่อาโรนโดนท่านอาเดลกับเจ้าเมืองฟาเรลคนใหม่แย่งตัวกันตลอดทั้งงาน ไอ้คนมีสาวมาหลงรักนี่น่าอิจฉาจริงๆเลย ฉันเชียร์ให้อาโรนคบกับคุณอาเดล จะได้แฟนในโลกจริงด้วยไง"

         "ใช่ๆ/จริงด้วยๆ..."

         โจเซฟพูดจบแล้ว บรรดาชายหนุ่มกับสาวๆทั้งหลายพูดจาคล้อยตาม เห็นด้วยไปตามๆกัน และนั่นทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของเธอขาดในที่สุด

         น้ำแข็งพันธนาการ

         "ซูมมมม!!!!!...อ๊ากกก/โอ๊ยยยย/กรี๊ดดดด"

         น้ำแข็งพุ่งออกมาจากหอกเป็นเป็นวงกว้าง ทหารที่น้่งทานอาหารอยู่รอบตัวมิโอเรียกว่า30คนโดนแช่แข็งไป ยกเว้นโจเซฟที่ผนึกลมผราณป้องกันทัน แต่....

         "ชิ้ง!!!"โจเซฟโดนเด็กสาวผมฟ้า ที่ตอนนี้ดวงตาวาวโรจน์จนน่ากลัว เอามีดบนโต๊ะอาหารจ่อที่คอหอย

         "ยอมแล้วครับ ไม่พูดแล้วครับ"โจเซฟยกมือยอมแพ้ มิโอเรียเอามีดออกจากคอโจเซฟและนั่งกินต่อ สลายเวทมนตร์ไป ทำให้น้ำแข็งละลายไปอย่างรวดเร็ว

         "โจเซฟ!!!!"เด็กหนุ่มคนนึงวิ่งเข้ามาหาโจเซฟ เขามีผมสีม่วงเข้ม และดวงตาสีฟ้าคราม ใบหน้าไปทางหล่อออกแนวน่ารัก ดูแล้วอายุประมาณ15-16ปีเท่านั้น

         "มีอะไรลอรัส"โจเซฟถาม มิโอเรียก็เงยหน้าขึ้นมาฟัง

         "อ๊ะ คุณมิโอเรียก็อยู่ด้วยเหรอครับ คือว่า....ตอนนี้กองทัพโครอนเดินทางมาถึงเมืองฟาเรลแล้วครับ บาดเจ็บกว่าครึ่งทัพ เห็นว่าเมืองอิซาคถูกตีแตกแล้ว"

         มิโอเรียกับโจเซฟได้ยินที่เด็กหนุ่มพูดแล้วหันมามองหน้ากัน พวกเขาไม่อยากเชื่อเลยว่าโครอนจะแพ้ในการรบในเวลาเพียงไม่กี่วัน

         "ตอนนี้ท่านโครอนเรียกตัวขุนพลและแม่ทัพทุกคนให้ไปร่วมประชุมครับ อ้อ รวมถึงคุณอาโรนด้วยครับ"คำพูดหลังลอรัสเอ่ยถึงอย่างเคารพนับถือ

         มิโอเรียเดินจากไปโดยไม่พูดอะไร โจเซฟเข้ากอดคอลอรัส และกอดแน่นจนเด็กหนุ่มเริ่มหายใจไม่สะดวก

         "อะไรกันเนี่ยโจเซฟ"

         "ลอรัส ฉันอายุ17 มากกว่านายตั้ง2ปี ทำไม่กล้าเรียกฉันห้วนๆ แต่เรียกมิโอเรียกับอาโรนที่อายุเท่าฉันว่าคุณเลยล่ะ"โจเซฟถามเสียงเรียบ เห็นแบบนี้เขาก็เป็นคนคิดเล็กคิดน้อยนะ โดยเฉพาะกับคนที่เป็นเพื่อนรุ่นน้องที่โรงเรียน

         "ก็....ท่าทางของคุณอาโรนกับคุณมิโอเรียดูน่าเคารพกว่าไงครับ"

         "ช่างตอบตรงซะเหลือเกินนะไอัลอรัส!!!!!"โจเซฟออกแรงมากขึ้น ทำให้สีหน้าลอรัสเริ่มเขียว

         "อ๊ากกก!!!...ขอโทษครับพี่โจเซฟ...อ๊อก!!!!"

         มิโอเรียเดินกลับมาที่ปราสาทใจกลางเมืองฟาเรล เธอเดินเข้าประตูมาก็เห็นมาริคเดินสวนมาพอดี พร้อมกับหญิงสาวอีกคนที่เป็นขุนพลของสหพันธ์จอมเวท

         "มิโอเรีย อาเดลกับอาโรนอยู่ไหนเหรอ"

         "ไม่รู้ คงตื่นไปเดินในเมืองแล้ว เดี๋ยวก็คงกลับมา ส่วนอาโรนน่าจะยังหลับอยู่"มิโอเรียรู้ว่าอาเดลเป็นพวกตื่นเช้า และในเกมส์เธอก็ชอบออกไปเดินในเมือง และด้วยนิสัยของเธอที่เข้ากับคนอื่นง่าย ทำให้เธอเป็นที่รักใคร่ของชาวเมืองได้ไม่ยาก

         "งั้นเหรอ"สีหน้ามาริคดูไม่ค่อยพอใจ เพราะอยากหาเวลาส่วนตัวคุยกับอาเดล ก่อนที่อาโรนซึ่งเป็นพวกตื่นช้าจะตื่นขึ้นมา

         "ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะมิโอเรีย"หญิงสาวผมทองข้างๆมาริคเอ่ยทักทายเธอ

         "เช่นกันค่ะ คุณเกรเซีย"มิโอเรียพูดสุภาพด้วยความเกรงใจขุนพลสาวจากสหพันธ์จอมเวทคนนี้

         เกรเซีย เป็นหญิงสาวร่างสูงโปร่ง มีผมสีบรอนยาวสลวยกับดวงตาสีเขียวมรกตดุจอัญมณี เธอสวมจอมเวทที่ดูราวกับชุดราตรีสีเขียวอมขาว ถือคทาสีทองติดอัญมณีสีขาวไว้ที่หัวคทา เธอมีใบหน้าเรียวสวยงามมาก รูปร่างที่เซ็กซี่ และหน้าอกคัพF มีผิวขาวเนียนนุ่มน่าจับ มิโอเรียมองเธอแล้วอิจฉามาก เธอสวยพอๆกับพี่สาวที่เธออยากมีรูปร่างสวยแบบนั้นบ้าง หรืออาจเหนือกว่าพี่เธอก็ได้

         สาเหตุหลักที่มิโอเรียเกรงใจเกรเซีย เพราะเกรเซียในโลกจริงเป็นเพื่อนสนิทที่เรียนมหาวิทยาลัยปริญญาเอกกับอาเดลที่ญี่ปุ่น เธอก็เคยเจอเกรเซียในโลกจริง3-4ครั้ง เธอมีชื่อจริงว่ากาเรีย มิราเคิล อายุ20ปี ตระกูลมิราเคิลเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลมากในทวีปเอเชีย ครอบครองเศรษฐกิจโลกไว้2% เป็นรองฟอมิร่าที่ครอบครอง3%

         เกรเซียนอกจากเป็นหนึ่งในขุนพลของสหพันธ์จอมเวท พี่ชายเธอก็เป็นหัวหน้าสหพันธ์จอมเวท 1ใน12ราชัน มีฉายาว่า'ราชันจอมเวทขาว' ที่สหพันธ์ทั้ง2เป็นมิตรกันได้นาน นอกจากต้องการพันธมิตรในการทำสงคราม ก็เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างอาเดลกับเกรเซียนั่นแหละ เธอเคยถามอาเดลว่าเคยสู้กับเกรเซียไหม พี่เธอตอบว่าเคยประลองกับเธอ10ครั้ง อาเดลชนะ6ครั้งและเกรเซียชนะ4ครั้ง ฝีมือเธอถือได้ว่าไม่ด้อยกว่าอาเดลเลย

         "ก่อนอื่นพวกคุณช่วยเล่าให้ฉันฟังด้วย ว่าทำไมกองทัพเราถึงได้เสียเมืองอิซาคไป"มิโอเรียกล่าวเสียงเรียบ ทั้งสองนิ่งไปพักนึง มาริคหันไปมองทางอื่นเหมือนไม่อยากพูดถึง เกรเซียเลยเป็นคนพูดแทน

         "กองทัพเรามุ่งหน้าไปที่เมืองอิซาค เมื่อไปถึงเราก็พยายามตีฝ่ากองทัพโซลแลนด์ที่ล้อมรอบเมืองหลายวันแต่ไม่สำเร็จ กองทัพโซลแลนด์บุกเราบ้าง เราเป็นฝ่ายตั้งรับและผลักพวกมันถอยร่นไปได้ แต่ตอนนั้นก็มีอีกกองทัพหนึ่งบุกเข้าโจมตีเราจากด้านข้าง เป็นกองทัพของพวกซามูเรีย พวกเราโดนโจมตีอย่างไม่คาดคิดทำให้แนวรบแตก กองทัพโซลแลนด์หันกลับมาโจมตี และยังมีทหารเข้ามารายงานว่าเมืองอิซาคถูกตีแตกแล้ว ท่านโครอนจึงให้เราถอยทัพมาที่เมืองฟาเรล"

         "กองทัพซามูเรียมาช่วยโซลแลนด์เหรอ เป็นไปได้ยังไงกัน"มิโอเรียตกใจไม่น้อย ราชันของ2อาณาจักรเกลียดกันจะตาย

         "ฉันก็สงสัยอยู่เหมือนกันค่ะ แต่นี่อาจเป็นการร่วมมือเฉพาะกิจก็ได้ เพื่อที่จะแบ่งดินแดนคาออสระหว่าง2อาณาจักร"

         "เดี๋ยวก่อน คุณเกรเซียยังไม่ได้พูดถึงเรื่องที่สำคัญที่สุดเลยนะค่ะ ใครนำทัพซามูเรียมา"มิโอเรียพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ขอให้อย่าให้เป็นแบบที่เธอคิดเลย แต่เธอเริ่มจะผิดหวัง เพราะสีหน้าไม่สู้ดีของหญิงสาวผมบรอน

         "หัวหน้าสหพันธ์ แม็กนัส ราชันเหล็กไหล ยกทัพมาด้วยตัวเอง พร้อมขุนพลอีก2คน เราไม่รู้ว่าพาใครมา หน่วยข่าวกรองบอกว่ามันยกทัพมา200,000"

         มิโอเรียหนักใจมาก ศึกนี้ทางคาออสจะมีโอกาสชนะรึเปล่า พวกเธอจะขอกำลังเสริมจากสหพันธ์จอมเวทอีกก็ไม่ได้ เพราะทางนั้นติดพันการรบทางเหนืออยู่ ตอนนี้พวกเธอเสียเปรียบทั้งในเรื่องจำนวนคนและขุนพล
         "เดี๋ยวก็มีทางออกเองนั่นแหละมิโอเรีย แต่ยินดีด้วยนะที่ทำลายกองทัพโซลแลนด์ย่อยยับและฆ่าโดรกี้ได้อีกด้วยน่ะ ท่านโครอนกำลังอยากเจอคนที่คิดแผนนี้น่ะ ใครทำเหรอหรือว่าอาเดล"มาริคพูดแทรกมาเปลี่ยนเรื่องสนทนา

         "เอ่อ..คือว่า"เด็กสาวไม่กล้าพูด เพราะคำถามของเขาทำให้มิโอเรียลำบากใจที่จะตอบ มาริคต้องโกรธแน่

         "รีบพูดมาสิจ๊ะมิโอเรีย ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน"เกรเซียพูดเสริม มิโอเรียมองหญิงสาวอย่างหงุดหงิด เธอเป็นคนฉลาด ดูสีหน้ามิโอเรียก็น่าจะรู้ว่าเธอไม่กล้าพูด แต่เกรเซียจงใจแกล้งมาริค จอมเวทสาวมีนิสียเสียคือชอบแกล้งคนเล่น

         "อาโรนเป็นคนคิดแผนค่ะ เขาเลยกลายเป็นวีรบุรุษของเมืองนี้ไปเลย อาเดลบอกว่าจะให้โครอนให้มอบตำแหน่งแม่ทัพให้เขาค่ะ"

         "โห่ อาโรนงั้นเหรอ เขาเป็นใครค่ะ"เกรเซียถามอย่างสนใจ เพราะเธอไม่เคยได้ยินผู้เล่นชื่อนี่มาก่อนเลย

         "อาโรนก็เป็นเฟตไงค่ะ"มิโอเรียไม่อยากปิดบังเพื่อนของพี่สาวจึงตอบไป แต่เธอก็เหล่มองมาริคเล็กน้อย ที่รอยยิ้มหายไปตั้งแต่มิโอเรียพูดชื่ออาโรน

         "เฟตงั้นเหรอ หรือว่าจะเป็นเฟตคนนั้น"เกรเซียเบิกตากว้างขึ้น เธอจำได้ว่ามีเด็กผู้ชายคนนึงที่อายุพอๆกับมิร่า ที่อานิลชอบพูดถึงบ่อยๆ

         "ใช่ค่ะ เขาพึ่งเข้ามาเล่นเกมส์ไม่นาน แต่เขาเก็บเลเวลเร็ว แถมได้ค่าประสบการณ์จากการได้เป็นวีรบุรุษของเมือง อาเดลบอกว่าเลเวลอาโรนตอนนี้น่าจะอยู่คลาส2 เลเวล100แล้ว"มิโอเรียนิ้มขึ้นมา พอพูดถึงเฟตเธอก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ เพราะเธอมีความสุขทุกครั้งที่พูดถึงเขา

         "หืม ถ้าเขาขึ้นคลาส4 ให้ขึ้นเป็นขุนพลเลยดีไหม"เกรเซียเสนอขึ้นมา เพราะขุนพลของเหล่าราขันส่วนใหญ่ก็คลาส4คลาส5ทั้งนั้น ซึ่งการทำเควสอาชีพกับเลื่อนคลาส2ชั้นนี้ถือว่ายากมาก เธอก็พึ่งได้เป็นคลาส5ไม่นานมานี่เอง

         "ไม่ใช่ว่าฉันไม่คิดนะค่ะ แต่หมอนั้นบอกว่าไม่อยากเข้าสหพันธ์ค่ะ"มิโอเรียเลี่ยงที่จะไม่พูดเรื่องศึกชิงมรดก เกรเซียไม่รู้เพราะไม่ใช่คนวงใน

         "หืม ถ้างั้นยกให้ฉันดีไหมค่ะ ฉันจะลองชวนเขาเข้าสหพันธ์จอมเวทดู"

         "ไม่ได้ค่ะ!!!!"มิโอเรียปฎิเสธทันที เธอรู้ว่า(เข้าใจว่า)อาโรนเลือกจอมเวทสายอัญเชิญศพเป็นอาชีพคลาส2 แถมทรงพลังมาก จึงน่าจะเป็นอาชีพลับ เธอไม่อยากให้สหพันธ์จอมเวทได้ตัวเขาไปเสริมกำลัง ถึงแม้เธอรู้ว่าอาโรนเข้าสหพันธ์จอมเวทจะเหมาะกว่าอยู่ที่นี่ก็ตาม

         "ฉันชวนเขานะค่ะ ไม่ได้ชวนเธอ อาโรนมีสิทธิเลือกเองค่ะ ว่าแต่เขาเล่นอาชีพอะไรเหรอ"เกรเซียพูดแล้วมิโอเรียจนมุม เธอเริ่มเถียงไม่ออก

         "โครอนเรียกตัวขุนพลทุกคนนี่ค่ะ รีบไปกันได้แล้ว ฉันจะไปตามอาโรนก่อน"มิโอเรียรีบตัดบทและวิ่งหายไปทันที

         "ไปซะแล้ว มาริคฉันว่าเรา....เฟี้ยว!!!"เกรเซียยิ้มที่มุมปาก เธอคิดจะตามมิโอเรียไปดูหน้าดูตาเด็กหนุ่มที่อาเดลชอบพูดถึงบ่อยๆ เธอหันไปชวนมาริค แต่ชายหนุ่มวิ่งตามมิโอเรียไปแล้ว เกรเซียรีบวิ่งตามไป

         ห้องนอนของอาโรนเป็นห้องนอนสุดหรูที่อยู่ริมสุดของปราสาท ห่างจากห้อง จึงไม่มีใครเดินผ่านในช่วงเช้า มิโอเรียหยุดวิ่งมองหญิงสาวผมส้มออกแดงเบื้องหน้า

         "เธอมาทำอะไร"เด็กสาวถามคานาเรีย

         "ฉันก็แค่จะมาปลุกทานอาโรน"คานาเรียตอบเสียงเรียบนิ่ง แววตาทั้งสองเหมือนมีไฟฟ้าพุ่งเข้าใส่กัน

         สองสาวรีบวิ่งเพื่อไปถึงหน้าห้องอาโรนก่อน แต่พอมาถึงพวกเธอก็เจอสิ่งที่ไม่คาดคิดไว้

         "นี่มันอะไรกัน!!!!"มิโอเรียกับคานาเรียมองบริเวณพื้นหน้าห้องอาโรน มีเมดสาวกลายคนนอนอยู่ พวกเธอดูอาการเมดสาวก็เห็นว่าแค่สลบไป

         มิโอเรียรีบเคาะประตูเรียกอาโรน แต่ไม่มีเสียงตอบรับมา ทำให้เธอยิ่งเครียด

         "เรียกทหารเลยไหม"คานาเรียถามขึ้น

         "เรายังไม่รู้แน่ชัด อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่"

         "อาโรน!!!!!"เด็กสาวตะโกนและเคาะดังขึ้น ก่อนจะเปลี่ยนเป็บทุบประตูในที่สุด แต่อีกฝ่ายก็ไม่ตื่น เธอเคยชินแล้ว เพราะเฟตเป็นคนตื่นยากจนเธอต้องคอยปลุกแทบทุกครั้ง

         "ถ้านายไม่ลุกมาเปิดฉันจะพังเข้าไปแล้วนะ"แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบ นอกจากเสียงกรน เธอเริ่มคิดจะไปขอกุญแจจากพ่อบ้าน

         "มิโอเรียมีอะไร"มาริคกับเกรเซียววิ่งเข้ามาหาเธอ มิโอเรียได้พูดอะไร เพียงแต่ยกนิ้วโป้งชี้ที่ประตูอย่างเหนื่อยใจ

         "อีกแล้วเหรอ ถ้างั้นทุกคนถอยไปหน่อย"

         มิโอเรียได้ยินขมวดคิ้วมองชายหนุ่ม แต่พอสัมผัสได้ถึงจิตสังหารและรังสีอำมหิตของมาริค เธอกับเกรเซียก็ยอมถอยแต่โดยดี มาริคชักดาบออกมาและผนึกปราณใส่ดาบเล็กน้อย

         "ฉัวะๆๆ....!!!!!"ประตูไม้อาคมแข็งแกร่งที่ต้านเวทได้ในระดับนึงโดนมาริคฟันขาดเป็นชิ้นๆ มาริคเดินเข้าไปในห้องนอน

         "อาโรน แกรีบ....."มาริคพูดและหันซ้ายมามองที่เตียง เขาพูดค้างไว้แค่นั้น มิโอเรีย คานาเรียกับเกรเซียเห็นมาริคนิ่งไปก็ตามมาดู

         "ตายจริง"เกรเซียยกมือขึ้นปิดปากเช่นเดียวกับคานาเรียที่เบิกตากว้าง ในขณะที่มาริคกับมิโอเรียแข็งเป็นหินไปเรียบร้อยแล้ว

         ภาพที่เขาเห็นเบื้องหน้า คืออาโรนกำลังนอนหลับในสภาพที่เปลื่อยท่อนบน โดยมีอาเดลนอนหลับในชุดประจำตัวเธอ แต่ดาบถูกปลดวางไว้ข้างเตียง กระดุมเม็ดบน3เม็ดถูกลดทำให้เห็นเนินอกของเธอ มือของเธอจับหัวอาโรนมาซุกหน้าอก ที่สำคัญอาเดลกำลังตื่นอยู่และมองพวกมาริคหน้าแดงนิดๆ เธอคงพึ่งตื่นตอนมาริคพังประตูเข้ามา

         "ว่าไงทุกคน สวัสดีตอนเช้า"อาเดลยิ้มแห้งๆ

         "หืม...พี่อาเดล?"อาโรนสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา เขาเงยหน้าขึ้นจากบางอย่างที่เขาคิดว่าเป็นหมอนที่นุ่มมาก ท่าทางยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง มาริคกับมิโอเรียผนึกพลังลงไปในศาสตราพวกเขาเต็มที่

         "มิโอเรียอย่าพึ่งเข้าใจผิด พี่ไม่ได้มีอะไรกับอาโรนนะ"แต่ท่าทางขุนพลทั้งสองจะคิดแบบนั้นไปแล้ว

         "ฉันจะฆ่าแกx2!!!!!"ทั้งสองตะโกนพร้อมกัน และใช้สกิลระดับสูงโจมตีใส่ สายฟ้ากับน้ำทะเลพุ่งเข้ามา เกรเซียเห็นการกระทำของทั้งสองรีบใช้มนตร์ที่เธอเตรียมไว้ตั้งแต่เข้ามาเห็น

         The Holy Light Shied

         "ตูมๆๆๆบรึ้มๆๆๆๆ.......!!!!!!!"

         โล่โดมสีทองปรากฎขึ้นมาป้องกันรอบเตียง เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงไปทั่วห้อง อาโรนเริ่มหายง่วงและมองอาเดล

         "พี่เข้าห้องฉันมาได้ยังไง"อาโรนถามเสียงเรียบ ใบหน้าเขาแดงนิดๆจากการเห็นชุดที่เธอสวมตอนนี้

         "อาโรนไว้ทีหลังนะ เดี๋ยวพี่ค่อยอธิบาย"อาเดลร่ายมนตร์ โล่แสงของเกรเซียใกล้แตกแล้ว

         "เพล้งงงง!!!โล่แตกเป็นเสี่ยงๆ

         "ไว้ไปอธิบายต่อในนรกเถอะ"มิโอเรียกับมาริคแผ่พลังเวทมหาศาลออกมา อาเดลเหงื่อตก

         'บ้าจริง คลั่งจนคิดจะใช้มนตร์ไม้ตายเลยเหรอ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจนะ'อาเดลครุ่นคิดหาทางรอด แต่นึกไม่ออก

         คลื่นสูญสิ้นมนตรา

         "ครืนนนน!!!!!"ก้อนพลังเวทสีขาวพุ่งเข้ามาหามิโอเรียกับมาริคจากทางด้านหลัง ทั้งสองคนไม่ทันระวัง เลยโดนเข้าไปเต็มๆ

         "ตูมมมมม!!!!!"24,644!33,860!

         "อ๊ากกกก!!!!/กรี๊ดดดด!!!!!"มิโอเรียกับมาริคล้มลงพื้นไป พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บเท่าไหร่ แต่เวทมนตร์กับสกิลที่กำลังจะใช้สลายถูกยกเลิกไปแล้ว ทั้งสองหันไปมองคนที่มาขวางก็ผงะไป เกรเซียถอยห่างไป2-3ก้าว เธอใช้พลังจิตสร้างประตูที่ถูกพังไปขึ้นมาใหม่ โชคดีที่ไม่มีใครเดินผ่านมา

         "ข้าต้องใช้มนตร์ระดับสูงหยุดพวกเจ้าเชียวนะเนี่ย เอาล่ะที่นี่บอกมาซิว่านี่มันเรื่องอะไรกัน"โครอนถามเสียงเย็นชา





    ผ่านไปได้ประมาณ10นาที

         เวลานี้ พวกอาโรนทั้ง4รายต่างนั่บคุกเข่าเป็นหมาน้อยคอตก ด้านหน้าพวกเขาคือโครอนที่น้ำเสียงแสดงความโกรธออกมาชัดเจน ส่วนเกรเซียกับคานาเรียยืนพิงผนังมองเป็นผู้ชม พร้อมกับพวกเมดสาวที่ฟื้นแล้ว

         เรื่องของเรื่องก็คือ อาเดลอยากจะเข้ามาดูอาโรนสักหน่อย เพราะ3ปีก่อน ที่เธอจะไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่น อาโรนอายุ13ยังเป็นพวกกลัวผี บางวันก็มานอนในห้องเธอ แต่ประตูล๊อคอยู่ เธอจึงสร้างกุญแจผีจากน้ำแข็ง พยายามจะไขประตูห้อง ตอนนั้นเมดสาวหลายคนเดินมาเห็นพอดี ก่อนที่พวกเธอจะกรีดร้องก็โดนเธอทุบที่หลังคอสลบไปซะก่อน อาเดลเข้าห้องแล้วนั่งมองอาโรนที่หลับเป็นตายไม่ตื่น อาเดลตัดสินใจปลดดาบและปลดกระดุมเสื้อเล็กน้อย และนอนกอดเขาแบบเมื่อก่อน คิดว่าพักนึงจะออกจากห้อง แต่เธอดังเผลอหลับไป

         "ผมเป็นผู้บริสุทธินะครับท่านโครอน"อาโรนพูดขึ้นทันทีหลังปริศนากระจ่าง

         "เอาล่ะ เธอลุกขึ้นได้แล้วอาโรน"

         เด็กหนุ่มลุกขึ้นและเดินไปยืนข้างหลังโครอน เกรเซียเดินเข้ามาคุยกับอาโรนทันที

         "สวัสดีค่ะอาโรน"

         "อะ..เอ่อ สวัสดีครับ คุณ...."อาโรนมองเกรเซีย เขาเคยสู้กับเธอมาบ้าง แต่ไม่เคยสังหารเธอได้มีแต่เกือบเท่านั้น เป็นเพราะมนตร์ป้องกันกับมนตร์เสริมพลังที่ทำให้เธอรอดจากคมดาบอาโรนได้ทุกครั้ง

         "เกรเซีย ขุนพลสหพันธ์จอมเวท เธอไม่ต้องใช้คำสุภาพกับฉันก็ได้นะอาโรน เธอคงได้ยินอาเดลพูดถึงเพื่อนที่มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นมาบ้างสินะ"

         "พี่กาเรียงั้นเหรอ"อันนี้อาโรนแปลกใจจริง เขาเคยได้ยินชื่อกาเรียมาบ้าง แต่ไม่เคยเห็นหน้าเธอเลย อาโรนมองดูหน้าตาเกรเซียแล้วหน้าขึ้นสีแดงจางๆ

         'ฮิๆ น่ารักน่าแกล้งจริง'เกรเซียมองอาโรนอย่างถูกใจในหลายๆอย่าง

         "อาเดล ฉันไม่อยากนึกเลยว่าเธอจะกล้าทำอะไรแบบนี้"อาเดลไม่ค่อยฟังที่โครอนสาธยายเหมือนคนแก่เท่าไหร่ เอาแต่มองอาโรนกับเกรเซียคุยกัน เธออยากรีบลุกจากตรงนี้เร็วๆ

         "ไม่เห็นเป็นไรนี่ค่ะหัวหน้า ตอนเด็ก ฉัน อาโรนกับมิโอเรียก็นอนด้วยกันบ่อยจะตาย จริงไหม"อาเดลพูดเสียงหวานปนเจ้าเล่ห์ ทำให้ทั้งสองคนหน้าแดง

         "พอได้แล้วอาเดล เธอจะยังยืนยันตามเดิมหรือ"ชายในชุดคลุมแดงมองหญิงสาวบ้าง

         "ใช่ค่ะท่านโครอน ฉันแค่ละเมอเดินออกมานอกห้อง ทำร้ายเมดสาว ไขกุญแจเข้าห้องของอาโรนและเผลอหลับไปเท่านั้น หวังว่าหัวหน้าจะให้อภัยฉันนนะค่ะ"เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด ทุกคนคิดอย่างนี้เหมือนกันหมด แต่โครอนก็ไม่กล้าทำอะไรอาเดล ที่ผ่านมาเธอทำหน้าที่ได้ดีมาตลอด และเรื่องความรักก็เป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้

         "ก็แล้วแต่ว่าอาโรนจะว่ายังไง"เด็กหนุ่มได้ยินโครอนพูดถึงตนก็ต้องหยุดคุยกับเกรเซียไว้ก่อน

         "คือ..ผมไม่ว่าอะไรพี่อาเดลก็แล้วกัน แต่คราวหน้าถ้าจะทำก็ช่วยขอกันดีๆนะ ผมอาจจะให้ก็ได้"อาโรนพูดแกล้งอาเดลไปและส่งรอยยิ้มพิฆาตใจสาวออกมา ทำให้อาเดลหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ คานาเรียที่ยืนมองอยู่ก็หน้าขึ้นสีแดงจางๆ

         "พวกเจ้าล่ะ"โครอนมองพวกเมดสาว พวกเธอสะดุ้ง และเห็นอาเดลส่งรอยยิ้มมัจจุราชมาทางนี้

         "พวกเราไม่ว่าอะไรท่านอาเดลค่ะ

         "ขอบคุณมากค่ะ"อาเดลพูดเสียงหวานใสปนรังสีอำมหิตจางๆ

         "ถ้างั้นพวกเราขอตัวก่อนนะค่ะ"เมดสาวพวกนั้นพากันเดินออกจากห้อง โครอนเตือนไว้ด้วยว่าห้ามพูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง พวกเธอรับปากเพราะกลัวอาเดล

         "เธอลุกขึ้นได้แล้วอาเดล"

         อาเดลที่โครอนให้ลุกขึ้นได้เดินเข้ามาหาอาโรนและขอโทษเรื่องที่บุกรุกห้องอีกครั้ง โดยที่อาเดลไม่สบตามองอาโรนตรงๆ

         "ไม่เป็นไรครับ"ในใจเด็กหนุ่มคิดว่าตนก็ล่วงละเมิดเธอไปเหมือนกัน

         ด้านมิโอเรียกับมาริคถลึงตามองเด็กหนุ่ม แต่สายตาคาดโทษของโครอนทำให้ทั้งสองยอมก้มหน้าลงไปตามเดิม

         "อาเดล ฉันขอยืมตัวอาโรนไปพักนึงนะค่ะ"เกรเซียกอดแขนอาโรน กลิ่นหอมจากเส้นผมของเธอทำให้อาโรนเผลอเคลิ่มไปชั่วครู่ อาเดลได้ยินแล้วนิ่งไปพักนึง เธอมองตาอาโรนเพียงเสี้ยววินาทีแล้วรีบหลบสายตา พอเธอรู้ว่าเธอจับหน้าอาโรนนอนซุกหน้าอกเธอก็อายมากจนไม่กล้ามองเขาตรงๆ

         "กะ..ก็แล้วแต่อาโรน"

         "ได้ใช่ไหมอาโรน เราจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นไง และฉันจะสอนเวทให้เธอด้วย"

         อาโรนรู้สึกว่าตนแพ้รอยยิ้มของสาวสวยคนนี้จริงๆ และเขาก็เป็นประโยชน์ที่จะได้รู้เวทของเธอไว้ เผื่อประโยชน์ในวันข้างหน้า ไม่ว่าเธอจะเป็นมิตรหรือศัตรู

         "ได้ครับพี่เกรเซีย"

         เกรเซียกึ่งบังคับพาอาโรนออกจากห้อง แต่อาเดลเข้ามาจับแขนอาโรนไว้

         "เดี๋ยวก่อนอาโรน ทำไมเธอเรียกเกรเซียว่าพี่ล่ะ"หญิงสาวถามเสียงเรียบนิ่ง

         "พี่เกรเซีลขอให้เรียกอย่างงั้นนะครับ"อาโรนตอบ อาเดลหรึ่ตามองจอมเวทสาวผมบรอน ขุนพลน้ำแข็งกำลังอิจฉาอย่างเห็นได้ชัด เพราะที่ผ่านมาตำแหน่งนี่เป็นของเธอคนเดียว

         "ขอตัวก่อนนะอาเดล เราต้องรีบไปเดทกัน"เธอพูดแกล้งอาเดล คานาเรียและมิโอเรีย ซึ่งก็ได้ผล

         "เดี๋ยวก่อน ฉันไปด้วย"คานาเรียกับอาเดลรีบตามไป ส่วนมิโอเรียไม่มีสิทธิลุก

         "เดี๋ยวก่อน เรื่องนี้ฉันต้องการให้เก็บเป็นความลับ ห้ามใครพูดถึงอีกนะ"โครอนตะโกนขึ้นมา

         "รับทราบค่ะ"เสียงเกรเซียดังตอบมา ก่อนที่ประตูจะเปิดและปิดลง

         "ส่วนพวกเจ้าทำรายงานโทษฐานบุกรุกห้องคนอื่น ทำลายความเป็นส่วนตัว ใช้เวทเกินจำเป็น คิดฆ่าพวกเดียวกัน ให้ฉัน100หน้ากระดาษทั้งคู่ รีบไปจัดการซะ"

         ชายหญิงสองคนที่ได้ยินบทลงโทษของพวกเขาแล้ว ก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น

         "ม่ายยยยยยย!!!!"






         2วันผ่านไป ที่เมืองอิซาคก็มีการเจรจาระหว่าง2ทัพเกิดขึ้น การที่กองทัพซามูเรียโผล่มาช้วยเป็นเรื่องที่อาร์รอสไม่คาดคิด แต่ก็ทำให้ยึดเมืองได้ง่ายขึ้น อาร์รอสกับแม็กนัสประชุมกันมา3วันแล้ว จากการที่แม็กนัสต้องการแบ่งดินแดนคาออสระหว่าง2อาณาจักร

         มือของอาร์รอสเซ็นชื่อลงในสนธิสัญญา ที่ตกลงกันในเรื่องการแบ่งดินแดนและเป็นพันธมิตรกันจนกว่าคาออสจะถูกทำลาย โดยซามูเรียจะได้ดินแดนทางเหนือ ซึ่งเป็นดินแดนคาออส1ใน3และมีเมืองหลวงซิสการ์ดตั้งอยู่ ส่วนภาคกลางกับใต้จะเป็นของโซลแลนด์

         "ขอบคุณมากอาร์รอสที่เจ้าให้ความร่วมมือ"แม็กนัสกล่าว พลางหยิบสัญญามาดูอีกครั้ง

         แม็กนัสเป็นชายร่างสูงใหญ่ที่สวมชุดเกราะหนักสีเทาทั้งตัว ปกปิดหน้าตาไว้หมด แต่ตอนนี้หมวกเกราะถูกถอดออก เผยให้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มวัย27ปี เป็นใบหน้าหล่อที่ออกแนวคนเถื่อน มีผมสีดำระต้นคอ กับดวงตาสีเหลืองอมทองดุจสัตว์ป่า เห็นแบบนี้ แต่แม็กนัสเป็นน่าฉลาดไม่น้อยเลย

         "หึ แกบังคับฉันชัดๆ"อาร์รอสตะโกน

         แม็กนัสขู่ว่าถ้าอาร์รอสไม่ยอมเซ็นสัญญา กองทัพทั้งสองฝ่ายจะรบกันทันที อาร์รอสไม่อยากเปิดศึกที่ไม่ได้ประโยชน์อะไร จึงยอมเป็นพันธมิตรเพื่อจะได้กำลังเสริม เพราะเขาเสียโดรกี้กับทหารอีกแสนนายไปแล้ว ตอนที่มานิกอลมาแจ้งข่าวเขาก็ตกใจมากเหมือนกัน

         "คิดว่าโครอนจะถอยทัพไหม"แม็กนัสพูดขึ้น หน่วยข้าวกรองแจ้งพวกเขาแล้วว่าโครอนถอยไปตั้งหลักที่เมืองฟาเรล

         "ไม่มีทาง เมืองฟาเรลเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญของคาออส ถ้าเราปล่อยผ่านมันไปตีเมืองอื่น โครอนจะได้โอกาสตีตลบหลังเราทันที"

         "ยังไงก็ต้องสู้สินะ ถ้างั้นข้าขอตัวก่อน"แม็กนัสเดินออกจากกระโจมไป เมื่ออยู่คนเดียวแล้งอาร์รอสก็มีแววตาวาวโรจน์ขึ้นมา เขานึกถึงเรื่องผู้เล่นสายอัญเชิญคนตาย ที่เขาได้ยินว่าเป็นคนคิดแผนทำลายกองทัพนับแสน และเนื่องจากอาโรนกลายเป็นวีรบุรุษของเมือง ชื่อของเขาจึงรู้มาถึงหูอาร์รอสแล้ว

         "ไอ้เจ้าเด็กเนโครแมนเซอร์นั้น บังอาจมากำแหงกับฉันคนนี้ ไม่ว่ามันเป็นใครฉันจะทำลายมันไปพร้อมกับพวกเงาอสูร ยึดคาออส แล้วก็แม็กนัส แกก็จะเป็นรายต่อไป"
    ____________________________________
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×