ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Empire Online ภาค มหาสงครามดาวเบสเทีย

    ลำดับตอนที่ #64 : ตอนที่ 59 การเรียนด้านการทหาร(แก้ไข)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.86K
      35
      30 ธ.ค. 57

    ตอนที่ 59
     
         หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง กลุ่มของดาร์คก็ชนะกลุ่มสุดท้ายและได้คะแนนกันไปคนละ50คะแนน ดาร์คก็เดินไปที่อื่นต่อ ส่วนสีหน้าหญิงสาวทั้งสี่คนและผู้หญิงบางคนก็รู้สึกเสียดายนิดๆ ครูชายผู้สอนกับนักเรียนชายมองดาร์คที่เอาคะแนนไปหมดอย่างไม่พอใจ

         ดาร์คเดินมาทางทิศเหนือของโรงเรียนที่เป็นเขตป่าไม้ มีภูเขาเป็นทางไว้ฝึกการเป็นทหาร สถานที่นี่บ่งบอกถึงความใหญ่โตของโรงเรียนอาโดเน่ได้เป็นอย่างดีว่ากินพื้นที่เมืองไปมากโข ดาร์คเดินมาถึงสนามฝึกของนักเรียนที่มาฝึกที่นี่ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นผู้ชาย มีนักเรียนหญิงอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดก็มาเพื่อเรียนรู้การปฐมพยาบาลทหารกันนั้นเอง แต่ก็มีบางคนที่ใจกล้าซ้อมฝึกทหารแบบพวกผู้ชายเหมือนกัน

         "ตึก ตึก ตึก"ดาร์คเดินเข้ามาในสนามฝึกให้ครูผู้ชายที่ตัวใหญ่และหน้าตาดูเถื่อนๆสามสี่คนเห็น เมื่อเขาเห็นดาร์คก็พูดเสียงดัง

         "มาทำอะไรที่นี่นักเรียนหอพักธาตุความมืด"ครูผู้ชายคนนึงถาม ซึ่งดาร์คก็ไม่อยากจะคิดว่าทั้งหมดที่เขาเห็นเป็นครู เพราะหน้าตาและชุดใส่ที่เป็นชุดเกราะของทหาร

         "มาเรียนที่นี่ครับ"ดาร์คพูดเสียงเรียบ

         "ถ้างั้นก็เดินไปรวมกับคนอื่นๆ แล้วก็เดินให้ดูกระฉับกระเฉงหน่อยทหาร"ครูชายคนนึงพูดเหมือนทหารโหดๆ ดาร์คเดินไปรวมกับนักเรียนคนอื่นในแถวหน้ากระดานที่ยืนกันเป็นระเบียบในสนาม มีคนที่เขาคุ้นหน้าด้วยก็คือราฟ แต่เนื่องจากแทบไม่เคยคุยอะไรกันจึงแต่เพียงแต่สบตาเท่านั้น ดาร์คคิดว่าคงเป็นความจริงที่ทุกคนว่ากันว่าครูในเขตนี้เคยเป็นทหารหรือถูกจ้างมา ทำให้ครูที่นี่โหดที่สุดในโรงเรียน นอกจากพวกที่อยากเป็นทหารไม่มีใครอยากมาที่นี่หรอก

         "ต่อจากการออกกำลังกายแล้ว เราจะเริ่มจับคู่สู้ฝึกใช้อาวุธสู้กัน นักเรียนทุกคนเดินมาหยิบอาวุธที่พวกครูเตรียมไว้ไป จะหยิบไปแค่ไหนก็ได้ไม่ว่ากัน เวลาสู้ห้ามใช้พลังใดๆช่วยนอกจากความสามารถในการต่อสู้ของตัวเอง"นักเรียนทุกคนมองตามครูผู้ชายที่หน้าตาเถื่อนสุดเหมือนเป็นหัวหน้าชี้ไป ก็เห็นลังอาวุธเป็นจำนวนมาก ไม่นานทุกคนก็เริ่มเข้าไปเลือกอาวุธกัน และจับขึ้นมาถืออย่างเกๆกังๆ มีไม่กี่คนที่เลือกได้ภายในไม่กี่นาที ส่วนดาร์คเลือกอาวุธได้ภายในสิบวิ ซึ่งทำให้เขาตกเป็นเป้าสายตาทันที

         "มันเป็นใครวะ เลือกได้เป็นคนแรกเลย"
         "ก็ไอ้เด็กที่ชื่อดาร์คที่ชนะการแข่งไง"
         "ดูยังไงมันก็อ่อนแอปวกเปียกชะมัด จะเข้ามาฝึกการเตรียมทหารทำไม"
         "เอาเถอะปล่อยเด็กฝันหวานไป"
         "จริงของแก ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆ"
         .....

         คำพูดดูถูกมากมายดังขึ้นมาเข้าสู่โสดประสาทดาร์ค แต่เขาไม่สนใจพลางกลับเข้าไปยืนรอในสนามก่อนใคร อาวุธที่เขาเลือกมามี3อย่างคือ ดาบสั้น มีด และคันธนูพร้อมลูกธนูในกระบอก เมื่อทุกคนเลือกอาวุธกันได้แล้วครูผู้สอนก็ให้ครูคนอื่นเริ่มจับคู่ให้สู้กันโดยแต่ละคู่อยู่ห่างจากคู่อื่นพอสมควร คนที่ดาร์คได้สู้ด้วยคือหนุ่มอ้วนที่ตัวใหญ่กว่าเขามากแต่อายุน่าจะพอๆกัน อาวุธของเด็กอ้วนคนนี้คือดาบสองคม แต่ดาร์คก็รู้ว่าคนตรงหน้าไม่เคยฝึกการใช้อาวุธ ดูเป็นคนท่าทางขี้กลัวเอามากๆ

         "ย๊ากกกกก"เมื่อครูผู้สอนให้สัญญาณเริ่มสู้กัน เด็กอ้วนที่เป็นคู่ต่อสู้ก็วิ่งตรงเข้ามาเสียงดัง ทั้งร้องปลุกใจตัวเองไปด้วย แต่ก่อนที่ดาบของเด็กคนนั้นจะฟันใส่ดาร์ค เขาก็หลบไปด้านข้างแล้วก็ยกขาขึ้นมา

         "พลั่ก"เด็กอ้วนล้มลงกันพื้นโดยที่หน้าโดนพื้นเต็ม อาวุธของเด็กอ้วนหลุดจากมือ ก่อนที่เด็กอ้วนจะได้เข้าไปหยิบดาร์คก็แย่งมาซะก่อน เด็กอ้วนมองอย่างตกใจที่อาวุธถูกแย่งไป ก่อนที่เด็กอ้วนลุกขึ้นแล้วโผเข้าใส่ดาร์คอย่างบ้าคลั่ง

         "เอามานะ!!"เด็กอ้วนร้อนแล้วร่างก็พุ่นชนดาร์คโดยที่ดาร์คไม่ทันระวัง ร่างของทั้งสองล้มลงกับพื้น ดาบในมือดาร์คทั้งสองเล่มหลุดจากมือ ทั้งตัวดาร์คถูกเด็กอ้วนทับอยู่ เด็กอ้วนได้โอกาสก็ยกหมัดขึ้นก่อนจะต่อยหน้าดาร์ค

         "ผัวะ"301!

         แม้ค่าความเสียหายที่ขึ้นมาบนหัวดาร์คจะเป็นตัวเลขเล็กน้อย แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้ดาร์คโกรธขึ้นมา เด็กอ้วนที่ชกดาร์คไปทีนึงแล้วรีบลุกออกจากตัวดาร์คเพื่อไปหยิบดาบของเขามาด้วยตัวที่สั่นเอามากๆ ทางดาร์คคิดแค่อย่างเดียว

         'หน้าฉัน แกต่อยหน้าฉัน'สำหรับดาร์คเขาไม่เคยถูกใครชกที่ใบหน้ามาก่อน พอถูกทำแล้วถึงรู้ว่ามันน่าโมโหเพียงใด ตัวดาร์คลุกขึ้นก่อนที่เค้าจะพุ่งเข้าไปหาเด็กอ้วนจากด้านหลังและเอาคันธนูทุบหัวเด็กอ้วน

         "ตึง!!"1,358,349!

         ความเสียหายขึ้นมาไม่มาก เพราะกำลังของเขามันน้อยแสนน้อย แต่มันก็ทำให้เด็กอ้วนล้มลงพื้นเอามือกุมศรีษะที่มีเลือดไหลออกมา แววตาดาร์คตอนนี้ไม่มีความคิดจะสงสารคนตรงหน้า ชักมีดออกมาแล้วล๊อกคออีกฝ่าย มีดของเขาค่อยๆกรีดคอ

         แต่ทันมดนั้นดาร์คก็ชะงักไป ภาพของบรรดาผู้เล่นที่ฆ่าสัตว์อสูรตายไปเป็นเบือผุึดขึ้นมาในหัวของดาร์ค ถ้าเขาฆ่าเด็กคนนี้ไปเขาจะต่างอะไรกับคนพวกนั้นล่ะ มีดของดาร์คออกห่างจากคอเด็กอ้วนอย่างช้าๆ

         "นักเรียน เธอทำอะไรลงไปเนี่ย เรียกพยาบาลมาเร็ว"ครูผู้ชายคนนึงพูดด้วยความตกใจ บรรดาผู้คนมองมาเห็นสภาพของเด็กอ้วยที่หัวแตกและคอเกือบฉีกเส้นเลือดขาด สายตาทุกคนมองมาที่ดาร์ค มีหลักฐานว่าเขาทำคือคันธนูกับมีดที่เปื้อนเลือด หลายคนที่เห็นรีบออกห่างจากดาร์คทันที

         "มานี่เลย"ครูตัวใหญ่2-3คนจับกุมตัวดาร์คเอาไว้ ก่อนที่จะพาดาร์คเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับครูผู้ชายที่เป็นหัวหน้าฝึกคนเดิมกับที่สั่งดาร์คตอนแรก เขามองดาร์คด้วยความโกรธ

         "เธอทำอะไรลงไปรู้ตัวไหม นี่มันเป็นแค่การฝึก ทำไมถึงกับจะฆ่าแกงกันด้วย"ครูผู้ชายร่างใหญ่ต้องการคำตอบ ดาร์คก็พูดออกมาอย่างเย็นชาว่า

         "ผมขอประทานโทษด้วยครับ พอดีผมถูกชกหน้าแล้วขาดสติไปวูบหนึ่ง"คำตอบของดาร์คเหมือนว่าพอดีโกรธจนลืมตัวเกือบฆ่าคน ครูผู้ชายตัวใหญ่อดกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป มือของเค้าชกใส่หน้าดาร์ค

         "เปรี้ยง!!"6,467!

         เป็นค่าความเสียหายที่มากต่างจากการชกของเด็กอมมือเมื่อกี๊ แก้มซ้ายดาร์คถูกชก ทั้งมีเลือดไหลออกมาจากปาก หน้าของดาร์คไปด้านข้างก่อนที่จะหันกลับมามองคนตรงหน้า

         "พอใจรึยังครับ เสียใจด้วยที่ผมไม่คอหักตายเพราะแรงชกเมื่อกี๊"ดาร์คพูดเสียงเย็นชาราวกับไม่สำนึกผิด บรรดานักเรียนและครูที่เห็นก็โกรธดาร์คกันมากขึ้น เพราะดาร์คเหมือนไม่รู้จักผิดถูก

         "เธอมันพวกไม่สำนึก"ครูผู้ชายร่างใหญ่ชี้หน้าดาร์คก่อนจะหยิบอุปกรณ์เวทมนตร์แผ่นเหล็กเล็กๆกลมๆขึ้นมา ก่อนที่มันจะฉายภาพของกาฟขึ้นมา หลังจากนั้นครูผู้ชายร่างใหญ่ก็พูดบอกความผิดของดาร์คทั้งหมดที่ทำ หลายคนยิ้มพอใจเพราะเรื่องแบบนี้ต้องโดนไล่ออกแน่นอน แต่คำตอบของกาฟคือ

         "อืม ถ้างั้นถือว่าเค้ามีทัณบนไปก่อนละกัน ถ้าเขาทำอะไรผิดอีกครั้งก็ให้พามาหาผมก่อน แค่นี้นะ"กาฟพูดแล้วแสงที่ฉายภาพเขาก็หายไป หลายคนอึ้งที่น้ำหนักของคำพูดเอนเอียงเข้าข้างดาร์คทั้งๆที่เขาทำผิดถึงขนาดนี้ ครูผู้ชายร่างใหญ่มองดาร์คอย่างเคืองๆก่อนที่จะพูดเสียงดัง

         "กลับเข้าไปยืนในแถว ห้ามก่อเรื่องอะไรอีก"ครูผู้ชายร่างใหญ่ตวาดแล้วครูที่จับตัวดาร์คไว้ก็ปล่อยเขาทันที ดาร์คกลับไปยืนในสนามซึ่งหลายคนรีบถอยห่างจากเขาทันที เพราะแค่ชื่อเสียงเรื่องเวทมนตร์ของดาร์คก็นับว่าน่ากลัวอยู่แล้ว เมื่อรวมกับเหตุการณ์เมื่อกี๊ทำให้ยิ่มน่ากลัวเข้าไปใหญ่ ไม่นานการฝึกครั้งต่อไปก็มา มันเป็นที่นั่งเก้าอี้แบบมีที่ครอบหัวอยู่ พร้อมทั้งที่ฉายภาพขึ้นจอใหญ่

         "ต่อไปเป็นการฝึกแบบซีมูเลชั่น นี่เป็นเครื่องมือฝึกทหารจากอาณาจักรแห่งจักรกลและเทคโนโลยี โดยพวกเธอจะหลับไปสักพักประมาณสิบนาที พวกเธอจะต้องทำภารกิจของกองทัพที่ได้รับมอบหมายมาให้สำเร็จให้จงได้ ใครที่ทำได้เอาไปเลย100คะแนน"คำพูดนี่สร้างแรงจูงใจให้บรรดานักเรียนชายมาก เพราะทุกคนต่างรู้จักอาณาจักรที่เป็นเจ้าของเครื่องนี่ดีว่าเป็นอาณาจักรที่มีความล้ำยุคยิ่งกว่าอาณาจักรใด และประกอบกับเป็นเครื่องมืออทางทหารของกองทัพแล้ว สำหรับเด็กที่อยากเป็นทหารยิ่งน่าสนใจมาก

         ดาร์คไม่ค่อยสนใจเครื่องที่เห็นมากนัก เขาไม่เคยคิดที่จะเป็นทหารยอมติดตามใคร ไม่นานก็มีนักเรียนคนนีงเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้สวมที่ครอบหัวเอาไว้ แล้วมันก็ส่องแสงออกมาก่อนที่ตัวเขาจะสลบไป ภาพที่หน้าจอฉายขึ้นมา มันเป็นภาพของเมืองในภูมิประเทศที่แห้งแล้งกันดาร ข้างๆหน้าจอมีลงรายละเอียดไว้ว่า

         อาณาจักรนี่เป็นอาณาจักรที่แห้งแล้งกันดารไม่มีสัตว์อาศัยอยู่เลย อากาศร้อนจัดฝนไม่ตกไม่มีแม่น้ำไหลผ่านเลย ในขณะที่อาณาจักรรอบข้างมีแม่น้ำและอาหารกินอุดมสมบูรณ์คุณจะทำยังไง โปรดแก้ปัญหาให้ได้ภายในสิบนาที จงบอกมาว่าคุณจะทำยังไง

         ดาร์คเห็นแล้วก็ยิ้มออกมา ถ้าเขาเป็นนักเรียนชายที่เข้าไปละก็ ก็พอจะรู้แล้วว่าต้องทำยังไงบ้าง นักเรียนชายพูดออกมาว่า

         "ให้ทหารขุดสร้างทางแม่น้ำสายอื่นมาไหลผ่านเข้ามาในอาณาจักร"คำพูดนั้นทำให้ดาร์คแทบอยากจะสรรเสริญในความโง่ของมัน นักเรียนส่วนใหญ่พูดคุยกันต่างคิดว่าเป็นความคิดที่เข้าท่าดี แล้วภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนเป็นทหารที่กำลังขุดสร้างทางแม่น้ำให้ไหลไปที่อาณาจักร มีทหารเจ็บป่วยตายไปเป็นจำนวนมาก แล้วยังถูกโจมตีจากอาณาจักรที่เป็นเจ้าของแม่น้ำ นอกจากนั้นก็ถูกบุกอาณาจักรจนล้มสะลาย ภารกิจล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

         "คนต่อไป"เสียงเรียกของครูให้นักเรียนอีกคนไปนั่งที่เก้าอี้ ส่วนคนแรกที่ทำภารกิจล้มเหลวทั้งเสียอาณาจักรก็หน้าเสียไม่กล้ามองใคร มีหลายคนที่หัเราะเยาะ ดาร์คที่มองอยู่ก็จะรอดูว่าพวกมันจะทำได้ไหม แต่แล้วก็มีคนมาสะกิดไหล่ดาร์ค

         "มีอะไรครับพี่ราฟ"ดาร์คถามชายหนุ่มแห่งเผ่าเอลฟ์ที่ยืนยิ้ม

         "ฉันคิดว่าคนฉลาดอย่างนายคงจะรู้แล้้วว่าต้องทำยังไง ไหนบอกความคิดของนายหน่อยสิ"ดาร์คแปลกใจว่าราฟจะถามทำไม ในเมื่อราฟน่าจะใช้พลังจิตอ่านได้

         "ใช้พลังจิตของคุณซะก็สิ้นเรื่อง"

         "ฉันทำไม่ได้ การอ่านจิตใจอีกฝ่ายจิตของเราจะต้องเหนือกว่า และพลังจิตต้องกล้าแข่งเท่าหรือมากกว่าอีกฝ่าย แต่ตอนนี้พลังจิตของเธอสูงกว่าฉันซะอีก ฉันพยายามลองอ่านใจเท่าไหร่ก็พบเห็นแต่ความมืดและความว่างเปล่าเท่านั้น"ดาร์คได้ยินแล้วชะงักไป แต่ก็ตั้งสติได้ก่อนจะพูดว่า

         "โดยปกติแล้วคนที่ถามควรบอกความคิดของตัวเองออกมาก่อนนะครับ พี่ราฟบอกมาก่อนสิ แล้วผมจะตอบให้ว่าเหมือนกันรึเปล่า"ราฟยิ้มแล้วก็ตอบอย่างมั่นใจว่า

         "ถ้าเป็นพี่ พี่จะส่งฑูตไปยังอาณาจักรอื่นแล้วก็เจริญสัมพันไมตรีด้วย เรานำของไปขายให้อาณาจักรที่ผูกมิตร แล้วของนำเข้าของเราที่จะได้มาก็คือน้ำนั้นเอง"แต่ดาร์คก็แย้งขึ้นมาว่า

         "เหมือนจะดีนะครับ แต่ก็ยังมีจุดบกพร่องอยู่ พี่ราฟจะรู้ได้ยังไงว่าอาณาจักรที่พี่ส่งฑูตไปเขาจะเป็นมิตรด้วย เพราะภูมิประเทษแห้งแล้งแบบนี้อาจทำให้หลายอาณาจักรไม่อยากค้าขายด้วย ดีไม่ดีอาจเห็นอาณาจักรพี่อ่อนแอเพราะว่าแห้งแล้งและอดอยาก แล้วตัดหัวฑูตที่มาเจริญสัมพันไมตรีทิ้งซะ แล้วก็บุกอาณาจักรพี่ก็ได้"ตำพูดนี้ทำให้ราฟนิ่งไป เขายอมรับความเห็นของดาร์คว่ามันมีทางเป็นไปได้ แต่ทำไมดาร์คถึงมองในแง่ร้ายขนาดนั้น

         "ก็อาจจะใช่ แต่..จะไม่แย่ไปหน่อยเรอะ ทำไมถึงคิดในแง่ร้ายขนาดนี้ล่ะ"

         "โลกนี้มันเป็นสีเทานะครับ เพราะฉะนั้นควรคิดในเรื่องเลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนดีกว่า ถ้างั้นผมขอบอกความคิดของผมนะครับ ถ้าเป็นผม ผมจะเสริมกองทหารของผมให้เข้มแข็งและมีจำนวนมหาศาล จากนั้นก็ยกทัพไปตีอาณาจักรใกล้ๆที่อุดมสมบูรณ์ยึดมาเป็นของตัวเอง แล้วให้คนในอาณาจักรเราอพยพไปอยู่ที่นั้น ไม่ก็ยึดแล้วสร้างทางแม่น้ำตัดมาที่อาณาจักรเราครับ"คำตอบของดาร์คเต็มไปด้วยกลิ่นของสงครามนองเลือด ราฟอึ้งกับคำตอบของดาร์ค

         "ถ้าทำแบบนั้นก็จะมีชาวเมืองตายเป็นจำนวนมากเลยนะ อีกอย่างการจะสร้างทางแม่น้ำไหลตัดไปที่อาณาจักรมันทำให้ทหารล้มตายกันเยอะไม่ใช่เหรอ นายจะทำไง"ดาร์คเมื่อได้ยินก็ตอบว่า

         "ง่ายมากครับ สำหรับข้อแรกในเมื่อชาวเมืองในนั้นมันเป็นศัตรูก็ไม่ต้องสงสารมัน ควรห่วงแต่คนของเรามากกว่า ส่วนการสร้างทางน้ำให้ไหลผ่านก็แค่บังคับพวกชาวเมืองที่ยึดได้สร้างแทนให้ก็สิ้นเรื่องแล้ว แต่ถ้าให้ผมเลือกผมคงอพยพประชาชนของอาณาจักรเราไปที่เมืองที่ยึดได้มากกว่า ถ้ามครไม่ยอมมาด้วยก็ปล่อยไปซะ"ราฟได้หังแล้วก็เห็นว่าเป็นความคิดที่ป่าเถื่อนและโหดเหี้ยมอำมหิตมากอย่างถึงที่สุด

         "นายคิดแบบนั้นจริงๆเหรอ นายทำได้จริงเหรอ"ราฟถามขึ้น

         "คนต่อไป ดาร์ค"เสียงเรียกบอกชื่อดาร์คให้เข้าทดสอบดังขึ้นมา

         "ผมจะแสดงให้พี่ราฟเห็นเดี๋ยวนี้ครับ"ดาร์คพูดแล้วเดินก้าวเท้าไปที่เก้าอี้ทดสอบสวมที่ครอบหัว ก่อนที่สติของเขาจะหมดไป ไม่นานเขาก็มายืนอยู่เบื้องหน้ากองทัพทหารประมาณสองพันนาย เบื้องหลังกองทหารสองพันคนนี้มีเมืองเล็กๆอยู่อีกเมืองด้วย พร้อมทั้งมีภารกิจปรากฏขึ้นมาบนฟ้า

         จงเข้าตีเมืองให้แตกให้จงได้ ข้าศึกในเมืองมีทหารอยู่ห้าพันคนทำให้ขวัญทหารฝ่ายคุณย่ำแย่ และคุณมีเสบียงเหลืออยู่พอสำหรับสามวันเท่านั้น คุณจะทำภารกิจให้สำเร็จได้ยังไง

         เมื่ออ่านภารกิจจบแล้วดาร์คก็คิคเพียงไม่กี่วินาทีก่อนจะออกคำสั่ง

         "ขอพบหัวหน้าผู้คุมเสบียง"จากนั้นภาพก็ตัดมาที่ดาร์คอยู่ในกระโจมส่วนตัว ตรงหน้าดาร์คมีนายทหารที่อายุประมาณ50กว่าๆอยู่

         "มีอะไรให้ข้ารับใช้ขอรับ"ผู้คุมเสบียงถาม

         "เนื่องจากอาหารเหลือน้อย เจ้าจงใช้จานเล็กตักข้าวให้ทหารกิน จะได้มีเสบียงไว้ใช้อีกหลายวัน"ดาร์คพูดเสียงเรียบ แน่นอนว่าหัวหน้าผู้คุมเสบียงไม่เห็นด้วย

         "ตะ..แต่ทหารอาจจะต่อต้านนะครับท่านแท่ทัพ"ดาร์คชะงักกับคำว่าแม่ทัพแล้วนึกขำในใจ

         "เจ้าทำตามที่ข้าสั่งก็พอ ไม่ต้องถามอะไรมาก"ดาร์คสั่งด้วยเสียงโกรธเคือง ทำให้นายทหารหัวหน้าผู้คุมเสบียงคำนับแล้วลาออกไป ภาพตัดมาที่ตรงหน้าทหารที่รับอาหาร พวกเขาไม่พอใจที่ได้ข้าวน้อยลงจนเกิดความวุ่นวายทั่วทั้งค่าย ภาพตัดเข้ามาในกระโจมของดาร์คแล้วร้องอย่างตื่นตระหนก

         "แย่แล้วครับท่านแม่ทัพ เหล่าทหารพากันโวยวายกันใหญ่แล้วขอรับ จะทำอย่างไรดี"แต่ดาร์คนิ่งไม่ตื่นเต้นอะไรก่อนจะพูด

         "ข้ามีวิธีหยุดพวกทหารแล้ว และเรียกขวัญกำลังใจด้วย แต่ข้าต้องขอยืมสิ่งนั้นจากเจ้า เจ้าจะยอมมอบให้ข้ารึไม่"

         "อะไรหรือขอรับ"หัวหน้าผู้คุมเสบียงถามอย่างแปลกใจ หัวหน้าผู้คุมเสบียงตำแหน่งเล็กน้อยอย่างเขามีอะไรให้ยืม

         "ข้าขอหัวเจ้าในการทำให้ทหารสงบลง"เมื่อได้ยินหัวหน้าผู้คุมเสบียงก็ตัวทรุดลงพื้นดิน แล้วร้องโอดครวญ

         "ข้าไม่เคยทำผิดอันใดเลยนะขอรับท่านแม่ทัพ เหตุไฉท่านจึงทำเยี่ยงนี้"ดวงตาของดาร์คสั่นไหวเล็กน้อย แต่เขาถอยหลังไม่ได้

         "ข้าต้องทำ เพื่อให้ทหารเราตีเมืองแตกได้ ทหาร"ดาร์คพูดคำสุดท้ายเสียงดังแล้วมีทหารเข้ามาสองคน

         "ขอรับ"

         "นำตัวหัวหน้าผู้คุมเสบียงไปตัวหัว โทษฐานโกงเสบียงแจกจ่ายอาหาร"แล้วทหารทั้งสองก็คุมหัวหน้าผู้คุมเสบียงออกไปประหาร แต่หัวหน้าผู้คุมเสบียงก็ร้องขึ้นมาว่า

         "ถ้าข้าเกิดเป็นคนสนิทของท่านหรือเป็นคนสำคัญของท่านทำจะทำข้าได้ไหม ทำไมท่านถึง.."

         "ฉัวะ"ดาบที่เอวของดาร์คถูกชักออกมาฟันหัวผู้คุมเสบียงขาดทันทีก่อนที่คนตรงหน้าจะพูดมากกว่านี้ คำพูดเมื่อกี้ทำให้เขาโกรธจนแทบคลั่ง

         "เอาร่างมันไปทิ้ง"

         "ขอรับ"แล้วทการทั้งสองก็ลากศพไร้หัวออกไป ดาร์คมองหัวของหัวหน้าผู้คุมเสบียง

         "แกไม่มีสิทธิพูดแบบนี้ ฉันไม่มีวันทำกับพวกเธอแบบนั้นเด็ดขาด"จากนั้นภาพก็ถูกตัดไปที่ลานกว้างในค่ายที่มีกองทหารอยู่เบื้องหน้าดาร์คอีกครั้ง

         "หัวหน้าผู้คุมเสบียงตายแล้ว จากนี้ไปเสบียงจะถูกแจกจ่ายเหมือนเดิม คืนนี้พวกเจ้าจงกินข้าวจนพอใจซะ แล้วพรุ่งนี้พวกเราจะไปกินข้าวในเมืองกัน

         "เฮเฮๆๆๆๆๆ"เหล่าทหารต่างส่งเสียงร้องดีใจ ดาร์คเห็นขวัญกำลังใจทหารกลับมาแล้วก็สั่งทัพบุกเข้าตีเมือง ไม่นานเมืองก็แตกในที่สุด ศพชาวเมืองตายกันไปมากมาย ภาพตรงหน้าดาร์คหายไป เหลือแค่ตนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ และมีสายตามองมาที่เขาเป็นตาเดียว

          "เธอผ่านแล้วได้100คะแนน"ครูผู้ชายร่างใหญ่พูดก่อนที่ดาร์คจะลุกจากเก้าอี้ให้คนต่อไปมานั่ง จากนั้นดาร์คก็เดินออกจากที่นี่เพื่อที่จะไปทานอาหารในโรง ซึ่งทุกคนก็ล้วนเหวกทางให้ดาร์คผ่านเหมือนแม่น้ำโมเสส ดาร์คไม่สนใจสายตาที่มองมาว่าจะมองเค้ายังไง เขาได้เลือกที่จะเป็นแบบนี้แล้ว และโลกนี้ก็ไม่เคยมีสิ่งใดถูกหรือผิดมาตั้งแต่ต้นแล้ว สำหรับเขามีเพียงแค่เป็นฝ่ายชนะหรือแพ้ เป็นฝ่ายฆ่าหรือถูกฆ่า เพียงเท่านั้น




    ณ สถานที่แห่งหนึ่ง

         "ผลรวบรวมกำลังพลเป็นยังไงบ้างราดิช"เสียงร้องของหญิงสาวเอ่ยขึ้นในห้องประชุมโต๊ะกลมที่มืดสนิม จนราดิชมองไม่เห็นอีก8คนที่นั่งอยู่

         "เรียบร้อยแล้ว เบ็ดเสร็จผู้เล่นจำนวน1ล้าน2แสนคนจากทั้งกิลด์ สมาพันธ์และสหพันธ์ที่รวบรวมกำลังมาได้ มีอาวุธและปืนใหญ่ครบถ้วน ว่าแต่ใครจะเป็นคนไปล่ะ"ราดิชถามขึ้นมา

         "ข้าไปเอง"เสียงดังดุจสัตว์ป่าดังขึ้นมาทำให้ราดิชยิ้ม

         "คุณจะเป็นคนไปเหรอครับ ถ้างั้นก็ตามสบายเพราะผมมีเรื่องอื่นที่น่าสนใจรออยู่"

         "เรื่องอะไรเหรอครับที่ทำให้คุณสนใจได้"เสียงเด็กหนุ่มอีกคนพูดขึ้นมา เป็นคนที่นั่งไม่ห่างจากราดิช คนอื่นก็มองชายหนุ่มที่ชอบเดินเที่ยวไปเรื่อยๆในโลกEMO นานๆทีถึงจะกลับไปที่สหพันธ์ของตัวเอง

         "ก็สืบกันเอาเองสิครับ ถ้างั้นนายไปเตรียมตัวได้แล้วมั้ง"ราดิชหันไปบอกผู้ที่อาสา

         "เออ แล้วเจอกัน รับรองว่าอาณาจักรลูเวนิสจะต้องตกเป็นของฉันแน่นอน"ชายคนนั้นพูดแล้วเดินออกจากห้องประชุมไป

         "หวังว่ามันจะทำได้อย่างที่พูดนะ"หญิงสาวคนนึงพูดขึ้นเหมือนไม่แน่ใจ

         "ถ้างั้นขอจบการประชุมไว้แค่นี้ค่ะ"เสียงหญิงสาวอีกคนตัดบทขึ้นมา ก่อนที่ทุกคนจะทยอยกันเดินออกจากห้องประชุมแห่งนี้ไป ราดิชเป็นคนเดียวที่มีเป้าหมายในสงครามนี้ต่างจากคนอื่น
    ___________________________________________________

        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×