คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Phase 1 : False Peace
เฟส 1 : สันติภาพลวง
25 มกราคม , CE 71
เฮลิโอโปลิส
คิระ ยามาโตะถอนหายใจขณะพิมพ์แล็บท็อปของเขา ศาสตราจารย์คาโต้ให้งานมากมายกับเขา และคนที่ควรจะทำงานด้วยก็ได้ตัดสินใจพักเมื่อ30นาทีก่อนและไม่ทำงานต่อ
"รู้ไหม นายควรกลับมาทำงานได้แล้ว"เขาพูดเงยหน้าขึ้นมองคนอื่นในศาลา
อีกคนเป็นโคออดิเนเตอร์ชื่อคริสโตเฟอร์ ดันเต้ กำลังเล่นกีตาร์อยู่ คริสเป็นชื่อที่ทุกคนเรียกเขา อายุ16ปี สูงกว่าเขา2-3นิ้ว เขามีตาสีเขียวอมเทาและผมสีน้ำตาลเข้มที่จัดทรงให้เป็นทรงแหลมสั้นสไลไปด้านหลัง สวมกางเกงยีนสีน้ำเงินกับเข็ดขัดหนังเรียบง่าย และเสื้อฮู้ดสีเทาแบบรูดซิป มีป้ายห้อยคอคู่หนึ่ง
คิระรู้จักเขาแค่2-3เดือน และเขาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อพบเขา คิระได้ยินข่าวลือว่าคริสมักทะเลาะกับคนอื่น แรกๆคิระเชื่อว่าเขาเป็นพวกใช้ความรุนแรง เขารู้ภายหลังว่าไม่เป็นความจริง แม้เขาจะทะเลาะ แต่เขาไม่เคยเห็นคริสเริ่มการต่อสู้ ในทางกลับกัน การทะเลาะวิวาททั้งหมดของเขาคือการป้องกันคนที่โดนรังแกหรือเพื่อปกป้องตัวเอง
"ฉันทำได้"คริสตอบยังเล่นกีตาร์ต่อไป"แต่นายเก่งกว่าฉันเยอะ"
"หุบปากเดี๋ยวนี้คริส"เสียงที่3ในศาลา เซ็ตสึนะ เอฟ เซย์เอย์ พูดพลางพิมพ์คอมพิวเตอร์ของเขาอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับอีกสองคน เขาได้รับมอบหมายงานของตัวเอง แต่เขาถูกกำหนดงานคนละอย่างกับพวกเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาตัดสินใจ"ช่วยงานระหว่างทำงาน"ศาสตราจารย์คาโต้ขอให้พวกนายสองคนทำ ลองนึกภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขารู้ว่านายอู้งาน"
"โอเคๆ คิระ นายทำเพจเสร็จแล้ว ฉันจะรับช่วงต่อแล้วนายหยุดพักได้ โอเคไหม"คริสพูด
"ดีแล้ว"เซ็ตสึนะพูด ตัดสินใจไม่ยุ่งเรื่องคริส
“เฮ้ เซ็ตสึนะ สบายดีไหม”คิระหันไปถามเพื่อน
เซ็ตสึนะ เอฟ เซย์เอย์ อายุ15ปี ต่างจากทั้งคู่เขาเป็นเนเชอรัลแม้หลายคนจะตั้งข้อสงสัย เขามีผมสีเงินและนัยน์ตาสีรุ้ง สวมเสื้อเชิ้ตและผ้าพันคอสีขาวจากตะวันออกกลาง กางเกงขาสั้นสีดำ รองเท้าสีดำ
เซ็ตสึนะเพิ่งมาเฮลิโอโปลิสไม่นานจึงไม่ได้สนิทกับใครเป็นพิเศษ ยกเว้นคิระ ยามาโตะ เนื่องจากทั้งคู่เคยเป็นเพื่อนสมัยเรียนอยู่ที่ดวงจันทร์
แม้เขาจะเป็นคนเงียบๆแต่เซ็ตสึนะก็ห่วงใยเพื่อน แต่เขาก็ไม่ได้ใกล้ชิดกับใครมากนัก
“ฉันไม่เป็นไรคิระ”เซ็ตสึนะตอบเสียงเรียบตามปกติ
“โอเค”คิระตอบทำงานต่อ
คิระเริ่มพิมพ์ต่อไปอย่างรวดเร็วขณะที่เซ็ตสึนะจดจ่อกับรายงานข่าวทางทีวี การบุกโจมตีคาชุนของซาฟท์ ก่อนโทริตกลงมาบนหัวคริส
“โทริๆๆๆ”นกหุ่นยนต์ร้อง
"เฮ้ ออกไปนะ"คริสปัดโทริออกจากหัว
คิระและเซ็ตสึนะหัวเราะชณะที่ฟังรายงานข่าว
“น่าสมเพช...พวกเขาโจมตีคอมเปอนิคัสแล้วกล้าจะตำหนิซาฟท์หรือ”
เซ็ตสึนะส่ายหัวด้วยความรังเกียจ ขณะที่เขามีสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับซาฟท์(เขามีญาติพี่น้องที่มีตำแหน่งสูงที่นั่น) เขาไม่ค่อยมีประโยชน์สำหรับแพลนท์หรือสำหรับผู้นำแพทริค ซาล่า เขาเรียนรู้มาระยะนึงแล้วว่าซาล่าต้องการกำจัดเนเชอรัลทั้งหมดไป
"เฮ้ คิระ คริส เซ็ตสึนะ!!!!"
มีเด็กหนุ่มกับเด็กสาวสองคนเดินเข้ามา ทอลล์ , แฟนสาวของเขา มิริอาเรีย ฮาล์ว อลิซาเบธ น้องสาวของคริส(โคออดิเนเตอร์และอายุน้อยกว่า1ปี) เซ็ตสึนะเพิกเฉยต่อพวกเขาเพิ่มความเร็วในการพิมพ์
เอลิซาเบธเตี้ยกว่ามิลี่ มีดวงตาสีเขียวและสีน้ำตาลอ่อน ผมสีบลอด์ดูรุงรัง ผมยาวประบ่า สวมกางเกงยีนสีน้ำเงินซีดมีรอยขาดที่หัวเข่าซ้าย และเสื้อฮู้ดลายทางสีม่วงและดำแปลกประหลาด
"ไง"คิระทักทาย
"โย่ ทอลล์ มิลี่ ลิซ"คริสทักทายขณะโทริออกจากหัว
"ศาสตราจารย์คาโต้กำลังตามหาพวกนายอยู่น่ะ?"ทอลล์บอก
"อย่าบอกว่าเขามีงานให้พวกฉันอีก"คริสถามหงุดหงิดวางกีตาร์ไว้
"ศาสตราจารย์บอกว่าถ้าเจอตัวพวกนายจะต้องลากคอไปให้ได้เลยล่ะ"มิริอาเรียกล่าว
"งานที่ให้มาเมื่อวานยังทำไม่เสร็จแท้ๆ"คิระถอนหายใจ
"ใช่"คริสพูดเห็นด้วย"ทำไมศาสตราจารย์ไม่ทำเองบ้างล่ะ"
"ทำไมนายถึงบ่น? เป็นไปได้ว่าคุณให้คิระทำงานส่วนใหญ่อยู่แล้ว"เฟลท์กล่าวเดินไปหาเด็กผมเงิน"เซ็ตสึนะ จะไม่ทักทายหน่อยเหรอ?"
"สวัสดี"เซ็ตสึนะพูดอย่างทื่อๆ ทำให้เฟลท์หน้าบึ้ง แม้ไม่มีใครสังเกตแต่ริมฝีปากของเซ็ตสึนะก็กระตุกยิ้มเล็กน้อย
"เขาควรจะมอบมันให้คิระ เขาเป็นคนที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี"คริสกล่าวแก้ตัว เพิกเฉยต่อบทสนทนาระหว่างเซ็ตสึนะกับเฟลท์
ทอลล์และมิริอาเรียนั่งลงข้างคิระดูข่าวในแล็ปท็อป
"โห่ นี่มันข่าวเมื่ออาทิตย์ก่อนนี่นา แบบนี้ละก็ป่านนี้คาชุนคงเสร็จไปแล้วละมั้ง"ทอลล์พูดขณะที่คิระปิดแล็ปท็อป
"คาชุนน่ะมันอยู่ใกล้ๆออร์บไม่ใช่เหรอ แล้วที่นี่จะไม่เป็นไรเหรอเนี่ย?"มิริอาเรียกล่าว
"เรื่องนั้นน่ะคงไม่ต้องเป็นห่วงละมั้ง ถึงจะใกล้กันแต่ที่นี่เป็นกลางนะ ออร์บน่ะคงจะไม่มีทางเป็นสนามรบได้หรอกน่า"ทอลล์กล่าว
"เหรอ งั้นก็ดีแล้วล่ะ"มิริอาเรียกล่าว
คิระยืนเงียบนึกถึงเพื่อนสมัยเด็กของเขาที่เฮลิโอโปลิส
"ตอนนี้นายกำลังทำอะไรอยู่นะ อัสรัน?"
ด้านเซ็ตสึนะก็หยิบรูปถ่ายมาดู มันเป็นภาพที่เขาถ่ายกับเด็กหนุ่มและเด็กสาวผมเงินอีกสองคน
"อิซาค....เลช่า"
@@@@@@@@@@@@
ลานจอดเฮลิโอโปลิส
ยานมาเซลทรี ยานขนส่งรุ่นเก่ากำลังเคลื่อนเข้าไปในลานจอดยาน
"เส้นทางนำร่อง ทางขวา6.5พ้อยท์ เส้นทางเข้าปลอดโปร่ง"
"ยึดการควบคุมอัตโนมัติ เปลี่ยนฉนวนนำร่องพลังแม่เหล็ก"
"อัตราลดความเร็ว2.56 กำลังจะหยุดยานโปรดระวัง"
เมื่อยานเข้าจอดแล้วกัปตันก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกถอดหมวกออก
"เท่านี้ภารกิจสุดท้ายของยานลำนี้เสร็จสิ้นโดยสวัสดิภาพละนะ ขอบใจมากที่พวกคุณมาช่วยคุ้มกันยานให้เรา ร้อยเอกฟลาก้า"
ชายหนุ่มผมสีทองอายุ28ปีกล่าวขึ้น
"ไม่หรอกครับ นับว่าเราโชคดีมากกว่าที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วการเคลื่อนไหวของยานซาฟท์ที่อยู่แถวนี้ละ?"
"เราวางกำลังไว้สองทางแล้ว แต่ว่าถึงจะเข้ามาได้ ซาฟท์ก็คงจะไม่กล้าทำอะไรหรอกนะ"
"หึหึ เพราะว่าที่นี่เป็นประเทศเป็นกลางสินะครับ ผมได้ยินมาจนเบื่อแล้ว"
"ฮะๆๆ แต่เพราะเรื่องนี้ทำให้เราดำเนินแผนการมาได้ขนาดนี้ ออร์บก็เหมือนประเทศหนึ่งของโลกนั่นแหละ"
"ถ้าอย่างงั้นกัปตันครับ"ชายหนุ่มคนนึงในกลุ่ม8คนกล่าว พวกเขายกมือทำความเคารพแล้วออกจากบริดจ์ไป
"แน่ใจแล้วเหรอครับ ที่จะให้พวกเขาขึ้นไปข้างบนกันเอง"มูถาม
"ถึงจะยังเด็ก แต่ก็เป็นพวกท็อปกันที่ถูกเลือกมาบังคับGนะ"กัปตันพูดแล้วยิ้ม"แต่คนอย่างพวกคุณสิถ้าโผล่ไปละก็สะดุดตาคนแย่เลย"
มูยิ้ม นั่นเพราะเขามีชื่อในฐานะเหยี่ยวแห่งเอนดีเบียน
@@@@@@@@@@@@
อวกาศใกล้กับเฮลิโอโปลิส
กองยานของซาฟท์3ลำกำลังซ่อนตัวอยู่ เพื่อเตรียมการบุกเข้าโคโลนี่
"เรื่องนี้รายงานสภาก่อนไม่ดีกว่าเหรอครับ"รองกัปตัน อาเดสพูดขึ้นอย่างกังวล
"สายไปสิ เพราะลางสังหรณ์ของฉันมันบอกแบบนั้น หุ่นรุ่นใหม่ของกองทัพโลก เราจะต้องแย่งมาให้ได้"
ราอูล เลอ ครูเซ่ มองดูรูปโมบิลสูทที่ถ่ายได้จากเฮลิโอโปลิส
เขาสั่งเรียกตัวเหล่าทหารซาฟท์มา ซึ่งเหล่าทหารซาฟท์ชุดแดงถือเป็นหัวกะทิของซาฟท์ที่จบจากโรงเรียนมา
ราอูลสั่งการเหล่าทหารซาฟท์ ให้เตรียมเข้าโจมตีเฮลิโอโปลิส
อัสรัน ซาล่าถอนหายใจขณะกำลังเปลี่ยนชุดนักบิน ภารกิจที่ราอูลกำลังสั่งให้พวกเขาทำ จะทำให้เกิดวิกฤตทางการทูตกับประเทศเป็นกลางอย่างออร์บ
เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมออร์บถึงช่วยกองกำลังโลกในกาสร้างโมบิลสูทรุ่นใหม่ ทั้งที่พวกเขาต้องการดำรงอยู่เป็นเอกเทศ และมีนโยบายไม่รุกรานและไม่ยอมให้ใครรุกราน แล้วทำไมทำแบบนี้ มันไร้เหตุผลสิ้นดี
"เป็นอะไรไปอัสรัน"อิซาค จูล ถามขึ้น อัสรันหันไปมองคนที่เป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่ง"นายไม่อยากทำภารกิจเหรอไง หรือว่ากลัว"
ซาอูล เคสเซล เขาเป็นเด็กหนุ่มผมดำและดวงตาสีเขียว มีนิสัยค่อนข้างขี้เกียจที่สุดในกลุ่มทหารซาฟท์ชุดแดง หลายคนยังแปลกใจที่เขาจบจากโรงเรียนทหารโดยได้เป็นพวกชุดแดง
"ปล่อยเขาไปอิซาค นายไม่รู้สึกกังวลบ้างรึไง ว่าเรากำลังเข้าไปในดินแดนที่อาจจะเป็นศัตรู"ซาอูลกล่าว
ดิอัคก้ายิ้มเมื่อได้ยินซาอูลพูด เขามองว่าการลอบบุกเฮลิโอโปลิสเป็นเรื่องง่าย
"ไม่ต้องห่วงหรอกน่าซาอูล พวกเนเชอรัลไม่รู้หรอกว่าเราจะโจมตีพวกมัน"ดิอัคก้ากล่าว
ดิอัคก้าพูดแล้วหันไปพูดเยาะเย้ยอัสรัน
"นายคงไม่กลัวพวกเนเชอรัลหรอกนะอัสรัน"
"ความคิดแบบนั้นจะทำให้นายโดนฆ่านะดีอัคก้า อย่าเชื่อเรื่องความเหนือกว่าของโคออร์ดิเนเตอร์มากไป"รัสตี้ แม็กเวลพูดขึ้น
"นายจะหลบอยู่ข้างหลังก็ได้รัสตี้ถ้านายกลัวพวกเนเชอรัล"ดิอัคก้าตอบ ทำให้รัสตี้โมโห
"พอแล้วดิอัคก้า!!!! นี่เป็นภารกิจที่อันตราย เราไม่ควรประมาทแค่เพราะว่าออร์บเป็นประเทศเป็นกลางนะครับ"นิโคล อามาลฟี่ตะโกนขึ้น
"ฉันเห็นด้วยกับนิโคลนะ"เอเลน่า แอชชาวิน่า จูลด์ เด็กสาวผมเงิน ผิวขาวสวยและหน้าอกโตมีเสน่ห์พูด ทุกคนมักเรียกเธอว่า"เลช่า" เธอเป็นน้องสาวของอิซาคที่มีนิสัยต่างจากพี่ชายอย่างสิ้นเชิง สุขุม รอบคอบ ใจดี จนพวกเขาแทบไม่อยากเชื่อว่าเป็นพี่น้องกัน
"ภารกิจนี้สามารถตัดสินทิศทางของสงครามได้ เราไม่สามารถประมาทหรือหยิ่งผยองได้เหมือนใครบางคน"
"ว่าไงนะ!?"อิซาคโกรธเพราะรู้ดีน้องสาวหมายถึงเขา
"เอาน่าๆ"ทริซ่า เมสัน ทหารซาฟท์หญิงชุดแดงอีกคนพูด เธอเป็นหญิงผมสีน้ำตาลหน้าตาสวยแม้ไม่เท่าเลช่า
"นิโคลกับเลช่าพูดถูกแล้ว"เสียงของชายคนนึงดังขึ้น เขาเข้ามาในห้อง ทุกคนหันไปมองก็เห็นว่าเป็นพันเอกครูเซ่
ราอูลมองนักบินซาฟท์ชุดแดงทั้ง8คน พวกเขายังเด็ก แต่ก็เป็นยอดนักบินของซาฟท์ที่จบจากโรงเรียนมา
"ภารกิจนี้สำคัญมาก กองกำลังโลกได้ทำการสร้างโมบิลสูทอย่างลับๆ ภารกิจพวกเราคือชิงมาหรือทำลายมันซะ อย่างที่ลีออนบอก ผลของภารกิจนี้อาจตัดสินผลแพ้ชนะในสงครามกับกองทัพโลกได้เลย"
ราอูลพูดจบแล้วยกมือขึ้นที่หน้าผาก ทำสัญลักษ์ทำความเคารพ
"ชะตากรรมของแพลนท์และซาฟท์อยู่บนบ่าพวกเธอ ฝากด้วยนะ"
ทั้ง8คนรู้สึกตกใจที่ผู้บัญชาการทำความเคารพพวกเขา ซึ่งถือเป็นการให้เกียรติมาก รีบทำความเคารพพลเอก
"แน่นอนครับ/ค่ะ เพื่อเกียรติยศและความรุ่งโรจน์ของซาฟท์!!!!"
จากนั้นกองทหารซาฟท์ก็เริ่มส่งกองกำลังและโมบิลสูทจินน์เข้าไปในเฮลิโอโปลิส
@@@@@@@@@@@
ทอลล์ มิริอาเรีย คริสและคิระก็กำลังเดินไปมหาวิทยาลัยและเจอเฟรย์ที่โดนเพื่อนสองคนหยอกล้อ เธอหันมาทักทายมิริอาเรียที่เป็นเพื่อนกัน
สายตาเฟรย์หันไปมองเฟลท์ เกรซทันที และหญิงผมแดงหรี่ตาลงด้วยความเกลียดชังและรังเกียจ ในกลุ่มคิระมีแต่เซ็ตสึนะที่สังเกต
พวกสาวๆคุยเรื่องเฟรย์ได้จดหมายจากไซ อาไกแต่ไม่เล่าอะไรให้ฟังเลย คิระตกใจและทอลล์มองอย่างรู้ทัน
เซ็ตสึนะหันไปทางอื่นไม่สนใจการสนทนา แต่โกรธปฎิกิริยาของคิระเล็กน้อย เขารู้ว่าคิระหลงรักเฟรย์ที่น่ารัก เธอแต่งตัวและทำผมหรูหรา สวมชุดสีชมพู เธอทำตัวเหมือนเจ้าหญิงในบ้านตุ๊กตา แต่เขาไม่ชอบเธอแม้เขาจะไม่ได้เกลียดเธอก็ตาม มีบางอย่างทำให้เขารู้สึกไม่ดี เขาเชื่อด้วยสัญชาตญาณว่าเฟรย์เป็นพวกบลูคอสมอส
มีเสียงไอดังมาจากข้างหลัง เด็กๆหันไปเห็นเป็นหญิงสาวผมดำสวมแว่นดำกับชายอีก2คน เธอดูเหมือนเป็นนักธุรกิจหญิง
"ถ้าไม่ขึ้นรถละก็ ฉันขอไปก่อนได้ไหม?"
"ขอโทษครับ"กลุ่มวัยรุ่นรีบหลีกทางให้ พวกเขาเดินผ่านไปขึ้นรถคันขาวขับออกไป
เฟรย์เบื่อกับคำหยอกล้อเพื่อนๆและวิ่งไปขึ้นรถและเพื่อนๆเธอตามขึ้นขับออกไปอีกกลุ่ม
"เขาว่าไซส่งจดหมายน่ะ นึกไม่ถึงเลยนะว่าจะเป็นเฟรย์ อัสตาร์"ทอลล์พูดหันมามองคิระ"แต่ว่านายเจอคู่แข่งแล้วนะ คิระ ยามาโตะคุง"
พวกสาวๆพากันหัวเราะขณะที่คิระพยายามปฎิเสธ เซ็ตสึนะกลอกตา เขาไม่เชื่อว่าเฟรย์เหมาะกับคิระ แต่มันยังไม่มีอะไรเขาจึงไม่พูดอะไรและตามทุกคนไป
พวกเขาขึ้นรถและคิระก็ขับไปโรงงานมอเก้นเรท
รถของกลุ่มคนเหมือนนักธุรกิจวิ่งมาตามถนน หญิงสาวมองออกไป
"ช่างสงบสุขอะไรอย่างนี้นะ ให้ตายสิ"เธอพูดแล้วเอาแว่นดำออก เผยให้เห็นดวงตาสีม่วงเข้ม"ทั้งๆที่มีเด็กมากมายถูกส่งออกไปแนวหน้าทั้งที่อายุพึ่งจะแค่นั้นแท้ๆ"
@@@@@@@@@@@
ด้านพวกทหารของซาฟท์แทรกซึมเข้ามายังประตูซ่อมบำรุงบล็อค6
"เริ่มทำการบุก"รัสตี้ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมากด ทำให้ประตูเปิดออก แต่ปรากฏแสงสีแดงคอยป้องกันคนบุกเต็มไปหมด
แต่นาฬิกากระพริบอีกครั้งทำให้ทั้งหมดหายไป พวกซาฟท์พากันบุกเข้ามาในโคโลนี่และบินเข้ามาเรื่อยๆ
พวกทหารซาฟท์กลุ่มแรกผ่านเข้ามาถึงด้านบนท่อเหนือโรงเก็บยานรุ่นใหม่ของกองทัพโลก
พวกซาฟท์เริ่มวางระเบิดไว้ตามจุดต่างๆเพื่อจัดการทำลายยานลำนี้
@@@@@@@@@
เวอซาเรียส
ราอูล เลอ ครูเซ่มองนาฬิกาแล้วยิ้ม
"ได้เวลาแล้ว"
"เวอซาเรียส ออกตัวได้"อาเดสสั่ง
เวอซาเรียสและกาโมฟเคลื่อนไปที่เฮลิโอโปลิส สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นที่ท่าเรือ ยานกองทัพโลกที่เพิ่งเทียบท่าและในห้องควบคุมที่จอดอาร์คแองเจิ้ล
ขณะเฮลิโอโปลิสกำลังต่อสู้ป้องกัน ลูกเรือของอาร์คแองเจิ้ลก็เตรียมออกยานหากจำเป็น เกิดระเบิดทำลายโรงเก็บยานอาร์คแองเจิ้ลสังหารลูกเรือในห้องควบคุม ลูกเรือทั้งหมดและนักบินG
@@@@@@@@@@
โรงงานมอเก้นเรท
"ร้อยเอกราเมียส เราติดต่อยานแม่ไม่ได้ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นครับ"
"ปังๆๆๆ"จินน์สองตันบินมาระดมยิงทำลายรถบริเวณนั้น ราเมียสและเจ้าหน้าที่หลายคนหมอบหลบแรงระเบิด
"อะไรนะ พวกซาฟท์โจมตีโคโลนี่เหรอ"นิค ดันเต้ตะโกนมองดูจินน์
"เราต้องรีบนำGไปที่อาร์คแองเจิ้ลเดี๋ยวนี้"เธอสั่งหัวหน้ามอเก้นเรท
"โซล บลิตซ์ บัสเตอร์และดูเอลพร้อมแล้ว แต่เราต้องการเวลาเตรียมอีก5เครื่องและสไตรค์เกอร์แพ็คสำหรับการขนส่ง"ดันเต้ตอบ
เขาหันไปหามอเก้นเรทหลายคน
"เมนเดซ คาร์เตอร์ พาทีมของนายกับ4ตัวออกจากนี่ไปอาร์คแองเจิ้ล"
"ครับหัวหน้า"
"เจนกินส์ , ไรลี่ , โจแอนนา นำลูกเรือที่เหลือเตรียมหุ่นให้พร้อมขนย้าย"
ชายสองคนพยักหน้าทำงานอย่างรวดเร็ว หญิงสาวโจแอนนา ดันเต้ มองสามีด้วยความกังวล
"ฉันรู้คุณเป็นห่วงพวกเด็กๆ แต่พวกเขาฉลาด พวกเขาอาจไปที่เชลเตอร์หลบภัยขณะเราคุยกันอยู่ พวกเขาจะสบายดี เรามีงานต้องทำ เราจะหาพวกเขาหลังจบเรื่อง ฉันสัญญา"
โจแอนนาพยักหน้าและตามทีมที่เหลือไป
เขาหันไปหาร้อยเอกราเมียสที่หยิบอาวุธ
"ซาฟท์รู้เรื่องได้ยังไง"
"ฉันไม่รู้ แม้ฉันคิดว่ามันไม่สำคัญอีกแล้ว"
@@@@@@@@@@
ห้องทดลองของศาสตราจารย์คาโต้
แล็บสั่งสะเทือนอุปกรณ์ต่างๆตกลงพื้น
"เมื่อกี้คืออะไร?"คริสคิดตั้งสติได้จับขอบโต๊ะที่เขา คิระและไซอยู่
เมื่อมันสงบลงเขาร้องขึ้น"ทุกคนสบายดีไหม"
"ฉันไม่เป็นไร"มิลี่ตอบ
"เหมือนกัน"ลิซพูด
"ฉันสบายดี"ทอลล์กล่าว
ชายผมบลอนด์ที่รอศาสตราจารย์พยักหน้า
"ถ้าไม่คงไม่ยืนอยู่หรอก"เซ็ตสึนะพูดเสียงเรียบ จ้องไปที่เพดานหรี่ตาลง เด็กหนุ่มเพิกเฉยต่อแรงสั่นสะเทือน
"อุกกาบาตพุ่งชนโคโลนี่รึเปล่า"ไซถาม
"ฉันไม่คิดงั้น"เซ็ตสึนะกล่าว"เราควรรู้แล้วถ้ามันเกิดขึ้น"
"ฉันเห็นด้วยกับเซ็ตสึนะ"เฟลท์กล่าว"แต่เราควรไปที่เชลเตอร์เผื่อไว้"
"ฉันเห็นด้วยกับเฟลท์"คริสกล่าว"เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไปเชลเตอร์น่าจะดีที่สุด"
@@@@@@@@@@
กลุ่มทหารซาฟท์ที่ลอบเข้ามาอยู่บนยอดเขา
รถลำเลียงและอุปกรณ์หุ่น4ตัวถูกขนออกไป ซึ่งเข้าทางทหารซาฟท์ที่กำลังรอให้ทหารสหพันธ์โลกนำหุ่นออกมา
"นั่นไงล่ะ เหมือนที่พลเอกครูเซ่บอกเลย"อิซาคพูดส่องกล้องดู
"ถ้าปล่อยให้มันทำต่อจะออกจากรูนี่ไปอย่างงั้นเหรอ"ดิอัคก้าพูด
"หึ พวกเนเชอรัลงี่เง่าเอ๊ย"อิซาคพูดอย่างดูถูก และซาอูลส่ายหัว
"นายไม่ควรประมาทศัตรูนะอิซาค มันจะทำให้นายถูกฆ่าได้ อย่าลืมว่าเนเชอรัลสร้างโคออร์ดิเนเตอร์ขึ้นมา"ซาอูลกล่าว
"หึ ไอ้พวกรักเนเชอรัล"อิซาคพูดแล้วทำให้ซาอูลหัวเราะ
"ฉันไม่ได้ชอบเนเชอรัลอิซาค ฉันแค่ไม่ตัดสินความเหนือกว่าแค่เพราะเป็นเนเชอรัลหรือโคออร์ดิเนเตอร์ เพราะทั้งสองต่างก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน"ซาอูลกล่าว
"พอแล้วสำหรับปรัชญาซาอูล เรามีงานต้องทำ มิเกลกับแมทธิวจะมาถึงเร็วๆนี้"ดิอัคก้ากล่าว
หน่วยทหารซาฟท์ติดต่อจินน์ที่บุกเข้ามาในโคโลนี่ เมื่อพวกจินน์ทราบตำแหน่งก็บุกลงมายิงถล่มใส่รถลำเลียงหุ่น และยังบุกเข้าไปถล่มโรงงาน
พวกทหารซาฟท์ลงมาจากเขาเพื่อบุกเข้าชิงหุ่น
"เฟี้ยว...ฉัวะ!!!!"เอเลน่าบินพุ่งลงพื้นเลี้ยวหลบกระสุนและพุ่งเข้าไปฟันคอทหารกองทัพโลก
"ชิ้นส่วนกับอุปกรณ์ต่างๆที่เอาไปไม่ได้น่ะทำลายให้หมด"อิซาคตะโกนบอกทุกคน"ตามรายงานมันน่าจะมี8ตัวนี่นา"
"หมายความว่าอีก5ตัวยังอยู่ข้างใน"ซาอูลกล่าวขณะยิงเจ้าหน้าที่ข้างล่าง
"ฉัน เลช่า เอริค ทริซ่าและรัสตี้จะเข้าไปเอง พวกอิซาคจัดการ4ตัวที่เหลือเถอะ"อัสรันกล่าว
"โอเค ไว้ใจได้เลย"อิซาคพยักหน้าหันไปหาคนอื่นๆ"เมื่อเข้าไปในหุ่นได้แล้ว รีบปลดระบบทำลายตัวเองออกซะ"
ซาอูล อิซาค นิโคล ดีอัคก้า และทหารซาฟท์ครึ่งหนึ่งลงจอดใกล้รถบรรทุกขนหุ่นเครื่องแรกและกำจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใกล้ๆอย่างรวดเร็ว
"ฉันเอาตัวนี้"ซาอูลตะโกนปีนเข้าประตูรถด้านข้างที่เปิดโล่ง"พวกนายเอาอีก3ตัวที่เหลือ"
"มาดูกันว่าออร์บกับกองทัพโลกมีอะไรบ้าง"
@@@@@@@@@@@
ที่อื่น
อาคารสั่นสะเทือนมากขึ้นเมื่อนักเรียนออกจากห้องทดลองมาถึงลิฟท์และบันได
"เกิดอะไรขึ้น"คริสถาม
"เรามากังวลเรื่องออกไปจากที่นี่ก่อน แล้วค่อยกังวลเรื่องนั้น"ไซพูดขณะกดปุ่มเรียกลิฟท์
แต่แล้วลิฟท์ไม่ทำงาน
"ดูเหมือนเราต้องลงบันได"ทอลล์เปิดประตูชั้นบันได
มีคนอื่นลงบันไดไปยังพื้นและเชลเตอร์
"มันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ"ทอลล์ถามผู้ใหญ่
"ซาฟท์บุกน่ะสิ"ชายคนหนึ่งพูด
"มันส่งโมบิลสูทเข้ามาในโคโลนี่แล้ว"อีกคนเสริม
"อะไรนะ!?"คริสตะโกนอย่างตกตะลึง"ทำไมซาฟท์ถึงโจมตีพวกเรา"
ทันใดนั้นชายผมบลอนด์ที่รอศาสตราจารย์คาโต้ก็เดินออกจากโถงทางเดิน
"เฮ้ จะไปไหนน่ะ"คิระตะโกนไล่ตามชายคนนั้น และเซ็ตสึนะวิ่งตามไปติดๆ
"คิระ เซ็ตสึนะ!!"ทอลล์ตะโกนเรียกเพื่อนของเขา
"ฉันจะตามพวกเขาไป พวกนายไปที่เชลเตอร์ เราจะไปพบพวกนายที่นั่น"คริสพูดตามพวกเขาปก่อนจะมีใครคัดค้าน
ไม่นานเขาก็ตามทั้งสามทัน น่าเสียดายเมื่อเขาตามทัน โถงทางเดินด้านหลังก็ทรุดตัวลง ทำให้ทั้งกลุ่มสะดุดล้มลงกับพื้น
"เธอเป็นผู้หญิงเหรอ"คิระกล่าว
เซ็ตสึนะเห็นว่าข้อสัญนิษฐานของเขาถูกต้องว่าเธอเป็นผู้หญิง หมวกของเธอถูกพัดออกไปทำให้ผมสีบลอนด์ของเธอร่วงลงมาและเห็นรูปลักษณ์ที่สวยงามและดวงตาสีเหลืองอำพัน เขาเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเธอคือคางาริ ยูระ อัสฮา หัวหน้าผู้แทนออร์บ
"แล้วพวกนายคิดว่าฉันเป็นอะไรล่ะ"คางาริถามกลับอย่างหยาบคาย หน้าแดงอย่างหงุดหงิดที่โดนเห็นเป็นผู้ชาย
"เอ่อ คือ คิดว่า..."
อาคารสั่นสะเทือนอีกครั้งขัดจังหวะ
"ฉันว่าเราควรรีบออกไปจากที่นี่"คริสพูดยกตัวขึ้น
"พวกนายน่ะรีบหนีไปซะสิ ฉันมีสิ่งที่ต้องไปดูให้เห็นกับตาก่อนนะ"
"ทางมันถล่มไปแล้ว มันย้อนกลับไปไม่ได้แล้วนี่นา"คริสกล่าว
"แต่มีเชลเตอร์อื่นในโรงงาน ไปกันเถอะ"คิระพูด
@@@@@@@@@@@
มอเก้นเรท
อัสรัน รัสตี้ เอริค เลช่า และทหารซาฟท์ อยู่ใกล้โรงเก็บโมบิลสูทกองทัพโลกที่เหลือ5เครื่อง พวกเขาหลีกเลี่ยงการต่อสู้ส่วนใหญ่เพราะการเบี่ยงเบนความสนใจที่มิเกลกับแมทธิวในจินน์
พวกเขาเดินไปรอบๆอย่างเงียบๆไปยังทางเข้าเล็กๆด้านหนึ่งของรถถังที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนา
อัสรันเปิดประตูข้างหนึ่งอย่างช้าๆ และเขากับรัสตี้ก็ขว้างระเบิดใส่ ไม่กี่วินาทีต่อมา ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น
"ไปไปไป"
พวกเขาบุกเข้าไปในโกดัง เสียงปืนดังขึ้น
@@@@@@@@@@@
ที่อื่น
ซาอูลถอนหายใจเมื่อเขียนระบบปฎิบัติการของหุ่นใหม่เสร็จแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยเกี่ยวกับระบบOSที่ค่อนข้างเส็งเคร็ง ไม่นึกว่าจะใช้ระบบOSแบบนี้กับหุ่นยนต์ตัวขนาดนี้ ก็นะ กองทัพโลกมีแต่โมบิลอาเมอร์
"อืม ฉันเสร็จแล้ว"เขาพูดผ่านวิทยุ"พวกนายเป็นไงมั้ง"
"อะไรนะ! เสร็จแล้ว! ไอ้ขี้เกียจอย่างนายทำเร็วขนาดนี้ได้ไง"อิซาคตะโกนอย่างตกตะลึง
"มันแน่อยู่แล้วที่เขาเสร็จคนแรก"ดีอัคก้าหัวเราะ
"คุณเก่งด้านนี้เสมอ"นิโคลกล่าว
"ทำยังไงได้ ฉันรู้ภาษาคอมพิวเตอร์"เขาตอบ"พวกนายรีบไปกันดีกว่า"
แน่นอน ซาอูลรู้ว่าต้องใช้เวลาอีก2-3นาทีก่อนที่พวกเขาจะทำเสร็จ เหตุผลเดียวที่เขาทำได้เร็วก็เพราะเขาได้รับพรสวรรค์ด้านคอมพิวเตอร์
เขาตัดสินใจฆ่าเวลารอคนอื่นทำเสร็จดูสเป็กของเครื่อง
"GAT-X209 โซล อืม เกราะเฟสชิฟ น่าประทับใจ เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง อาวุธ...ว้าว ฉันเริ่มจะชอบสิ่งนี้ ฉันหวังว่าจะได้ใช้หุ่นตัวนี้หลังเสร็จสิ้นภารกิจ"
@@@@@@@@@@
มอเก้นเรท
อัสรันยิงกระสุนใส่เจ้าหน้าที่มอเก้นเรทติดอาวุธ เขาล้มลงกับพื้นและได้ยินเสียงร้อง"นิก!!!"
“อัสรัน เอริค เรามีปัญหาแล้ว”รัสตี้ตะโกนหมอบอยู่หลังที่กำบัง”มีบางอย่างผิดพลาด มันมีอีก1ตัว”
“อะไรนะ?”อัสรันแปลกใจ”นายพูดเรื่องอะไร”
“ลองดูสิ”รัสตี้กล่าว อัสรันเหลือบมองรอบๆ แต่ไม่พบร่องรอยของตัวอื่น”นายเห็นโมบิลสูทกี่เครื่อง”
อัสรันหมอบหลังที่กำบังมองไปรอบๆอย่างรวดเร็ว เขาตระหนักว่ารัสตี้พูดถูก มีตัวที่5ในโกดัง หมายความว่ามี9ตัว ไม่ใช่8ตัวตามข้อมูล
“บ้าจริง”เขาพึมพำ
“เราต้องทำลายหุ่นตัวที่5"เขาสั่ง"ต้องมีคนเข้าไปในหุ่นตัวนั้นและเปิดระบบทำลายตัวเอง"
@@@@@@@@@@
เมื่อเซ็ตสึนะ คริส คิระและสาวผมบลอนด์มาถึงย่านโรงงาน พวกเขาพบเขตสงคราม คนงานติดอาวุธของมอเก้นเรทและกองกำลังรักษาความปลอดภัยเฮลิโอโปลิส กำลังต่อสู้กับทหารซาฟท์และโมบิลสูท5ตัว
ดวงตาของเซ็ตสึนะเบิกตากว้างเมื่อเขาเห็นโมบิลสูท2ตัวที่ดูเหมือนที่เขาเคยเห็นในตอนนั้น...
"โธ่เอ๊ย นึกแล้วเชียว หุ่นยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของกองทัพโลก คุณพ่อทรยศ!!!!"เด็กสาวร้องลั่นทรุดลงพื้น ดึงเซ็ตสึนะออกจากความคิด
ตอนนั้นเองที่วิศวกรหญิงคนนึงเล็งปืนมาทางนี้
"เฮ้ย ไม่ตลกนะแบบนี้"คิระรีบคว้าแขนคริสกับคางาริวิ่ง"เราต้องออกจากที่นี่"
อย่างไรก็ตามเซ็ตสึนะไม่ขยับ
"เซ็ตสึนะ นายทำอะไรน่ะ"คริสมองย้อนกลับไป เซ็ตสึนะมองที่คริสด้วยสายตาเยือกเย็นที่ทำให้เขากลัว ก่อนเด็กผมเงินจะทำสิ่งโง่เขลาที่สุดเท่าที่คริสเคยเห็น เขากระโดดลงไปในสนามรบ
คนอื่นไปถึงเชลเตอร์หลบภัยที่ใกล้ที่สุด เหนือประตูลิฟท์2ประตูมีไฟสีแดง แปลว่าที่หลบภัยเต็มแล้ว แต่อันนึงยังมีไฟสีเขียว ที่บอกว่ายังเหลือที่ว่าง
คิระกดปุ่มที่แผงควบคุม
"มีใครอยู่ข้างนอกเหรอ"
"ครับ ผมกับเพื่อนๆนะครับ ช่วยเปิดให้หน่อยครับ"คิระตอบ
"มากันหลายคนเหรอ"
"ครับ"
"ที่นี่มันเต็มแล้ว ฝั่งโน้นด้านซ้ายมีเชลเตอร์ที่37อยู่ ไปที่นั้นได้ไหม"
"แค่คนเดียวก็ได้ครับ ขอร้องล่ะเธอเป็นผู้หญิงนะครับ"
"ก็ได้"
ประตูเปิดออก คิระกับคริสผลักเธอเข้าไป
"เดี๋ยวสิ ฉันไม่ ..."เสียงคางาริเงียบเมื่อประตูปิดและพาเธอลงไปเชลเตอร์
"งั้นเราไปกันเถอะคิระ"
พวกเขารีบวิ่งกลับไปที่โกดัง
@@@@@@@@@@@
โกดัง
เมื่อเซ็ตสึนะลงจอดข้างๆทหารซาฟท์ที่พยายามแอบเข้าไปด้านข้างฝ่ายรับ นักบินชุดแดงประหลาดใจ และเซ็ตสึนะก็ขาเตะหว่างขาและส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดจับ"ดาบ" เขารีบกระแทกศอกเข้าที่ซี่โครงของเขาอย่างรวดเร็วและเห็นบางสิ่งสาดกระเซ็นภายในกระบังหน้าก่อนเขาจะล้มลง
ที่ไหนสักแห่งในตัวเขา เขาสวดภาวนาหวังว่า"พวกเขา"จะยังมีชีวิตอยู่
อย่างไรก็ตาม เสียงดังกล่าวได้ดึงความสนใจของทหารที่ปกป้องโกดัง แต่ดูเหมือนไม่มีใครสนใจโจมตีคนที่เพิ่งจัดการทหารซาฟท์ไป สำหรับตัวเขาเอง เซ็ตสึนะปล่อยให้สัญชาตญาณในการฝึกฝนของเขามาแทนที่
"ไอ้หนู แกเป็นใคร"พนักงานชายคนนึงถามที่เพิ่งยิงฆ่าทหารซาฟท์คนนั้นไปถือปืนมองเด็กน้อยอย่างระวัง
"เอริค!!!"เสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้น
เซ็ตสึนะคำรามด้วยความโกรธลุกขึ้นและพุ่งไปหาทหารซาฟท์หญิงที่จ้องมาที่เขาอย่างตกตะลึง
"พี่เอล....เดี๋ยว!!"
เจ้าหน้าที่มอเก้นเรทอุ้มเด็กน้อยหายเข้าไปหลังตู้โกดัง เอเลน่าจะตามไปโดนพวกมอเก้นเรทยิงต้องหาที่กำบังและยิงโต้
ขณะเดียวกันบนระเบียงที่คริสกับคิระวิ่งกลับมา และและเห็นทหารซาฟท์คนนึงกำลังเล็งปืนไปที่ผู้หญิงคนนั้นจากด้านหลัง
"ข้างหลังครับ!!!!"คิระตะโกน
ผู้หญิงคนนั้นหลบทันและยิงปืนฆ่าทหารซาฟท์คนนั้นตาย เปลี่ยนแม็กกระสุนพร้อมหันมามองพวกเขา
"คริส คิระ เธอสองคนมาทำอะไรที่นี่"เสียงของโจแอนนา น้าของคริสดังขึ้นจากด้านบนโมบิลสูทตัวนึง
"เรื่องยาว ไม่ต้องห่วงครับ พวกเราจะไปเชลเตอร์อีกฝั่งนึง"คริสตะโกนบอกป้าของเขา
ทันใดนั้นก็มีระเบิดจากบล็อกทางซ้าย
"พวกเธอทั้งคู่ลงมาที่นี่ซะ"ผู้หญิงที่พวกเขาช่วยไว้สั่ง
"ดูเหมือนเราจะไม่มีทางเลือกมากนักคิระ"เขาพูด"ตอนนี้คำถามคือเราจะลงไปที่นั่นได้ยังไง"
"ฉันมีความคิด"คิระตอบก่อนกระโดดข้ามราวบันไดไปที่โมบิลสูทตรงกลางที่ผู้หญิงคนนั้นอยู่
"ฉันจะต้องเสียใจแน่"คริสก่อนกระโดดจากระเบียงอีกฟากหนึ่งแล้วขึ้นไปบนเครื่องที่ป้าเขาอยู่
คริสลงจอดที่ไหล่ซ้ายของเครื่อง เจ็บนิดหน่อยแต่ยังโอเค
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมซาฟท์ถึงโจมตีเรา"เขาตะโกนขณะที่ป้ายิงใส่ทหารซาฟท์
"เรื่องมันยาว พูดง่ายๆซาฟท์ต้องการหุ่นที่พวกเราสร้าง"โจแอนนาตอบขณะยิงปืนพกฆ่าทหารคนนั้น
"นั่นมันละเมิดสนธิสัญญาไม่ใช่เหรอ"
โจแอนนากำลังจะตอบเมื่อเกิดระเบิดที่ส่วนหนึ่งของโกดัง เปลวไฟลามไปทั่วโกดังอย่างรวดเร็ว
"บ้าจริง ที่นี่อยู่ได้ไม่นาน"เธอพูด"เข้าไปในโมบิลสูท เราต้องออกไปจากที่นี่"
กลับมาด้านเซ็ตสึนะ เขาอยู่ใกล้กับเจ้าหน้าที่ติดอาวุธที่ยิงปืนใกล้กับเมอริว
"ราเมียส เครื่องนี้พร้อมใช้งานแล้ว"ทหารชายตะโกน"ระบบปฎิบัติการเป็นยังไงบ้าง"
"ไม่สมบูรณ์ แต่เราต้องลองดู"เมอริวพูดขณะยิงปืนขณะที่อาวด์ขมวดคิ้ว
"ไม่สมบูรณ์ เธอหมายความว่ายังไง เครื่องพวกนี้ใช้ได้จริงรึเปล่า"เด็กหนุ่มคิดในใจ
"เฮ้ย ระวัง!!"ทหารวิ่งมาผลักเด็กผมเงินออกไป เขาล้มลงและเห็นกระสุนปืนพุ่งมาเจาะร่างเขาเลือดสาดกระจาย
เซ็ตสึนะมองขึ้นไปที่ซาฟท์ชุดแดงยืนอยู่ที่ส่วนท้ายของแท่น ปืนกลเล็งมาที่เขา
"เด็ก?"
เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งสำหรับเซ็ตสึนะ เขาคิดว่าเห็นเมล็ดพันธุ์สีเงินแตกกระจายและรูม่านตาของเขาหดลง
เด็กผมเงินคว้าแขนที่ร่วงหล่นของฮานาม่า เล็งไปที่ซาฟท์ชุดแดงก่อนนักบินจะเล็งอีกครั้ง เหนี่ยวไกปืน เลือดพุ่งออกมาจากหน้าอกนักบินซาฟท์ กระสุนนัดที่3โดนที่หัวของทริซ่า ขณะเดียวกันทหารหญิงเหนี่ยวไกแต่กระสุนยิงแบบสุ่มไม่โดนอะไรเลย
เซ็ตสึนะหอบกับสิ่งที่เขาเพิ่งทำไป เขาได้รับการฝึกฝนให้ฆ่า ยิงปืน แม้กระทั่งนักบิน....แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาเคยฆ่าคน แม้แต่การป้องกันตัว ใช่ เขาอาจทำให้ทหารซาฟท์บาดเจ็บ แต่ตอนนั้นเขายังมีชีวิตอยู่ แต่คราวนี้เขาเพิ่งฆ่าคนจริงๆ
เสียงระเบิดดึงสติเขากลับมา เขาต้องออกไปจากที่นี่
จากนั้นเซ็ตสึนะปีนขึ้นไปบนแท่น แต่การมองเห็นเขาดีกว่าที่เคยเป็นมา
เขาสังเกตว่าไม่ได้อยู่คนเดียว ทหารซาฟท์อีกคนยืนอยู่ที่เท้าโมบิลสูท อีกฝ่ายเห็นเขายกปืนขึ้น แต่เซ็ตสึนะลงมือก่อน ยกอาวุธที่ยืมมาและยิง2ครั้งที่ทหารซาฟท์ เขาไม่รู้กระสุนโดนรึเปล่า แต่เห็นเขากระเด็นออกจากโมบิลสูท และเขารีบวิ่งไปห้องนักบินสังเกตเห็นบริเวณหัวของโมบิลสูท
"กันดั้ม"เขาพูดเบาๆ พลางหลงใหลกันดั้มที่อยู่ตรงหน้า เซ็ตสึนะรู้ว่าเขาต้องทำอะไรจึงไปที่ห้องนักบินและเข้าไปข้างใน
บนหุ่นที่คิระลงจอด เขาและทหารซาฟท์ชุดแดงจ้องตากันด้วยความตกใจ
"อัสรัน?"คิระพูดอย่างตกตะลึง
"คิระ!?"อัสรันเบิกตากว้างไม่นึกว่าจะเจอเพื่อนสมัยเด็กเขาที่นี่ ในสถานการณ์นี้
เมอริวฉวยโอกาสนั้นยิงใส่อัสรันแต่เขาโดดถอยหนีไป
เมอริวคว้าตัวคิระผลักเขาลงไปในคอกพิทและโดดตามเข้าไป
ในเครื่องถัดจากที่เซ็ตสึนะเพิ่งยิงรัสตี้ไปคือX308 มีเอเลน่าวิ่งไปทางนั้น
"เอริค รัสตี้และทริซ่าตายแล้ว"เธอคิด เธอกำลังจะหมดกระสุน เธอไม่ได้พยายามยิงเด็กชายคนนั้นที่ยิงรัสตี้ แม้สัญชาตญาณเธอจะกรีดร้องให้ฆ่าเด็กคนนั้นก็ตาม
แต่เธอทำไม่ได้....เพราะถ้าหากเป็นเขาขึ้นมาจริงๆ
เอเลน่ากลับมาตั้งสติและโดดเข้าไปในค็อกพิท
เซ็ตสึนะที่อยู่ในค็อกพิทของกันดั้มก็เปิดใช้งานโมบิลสูทอย่างรวดเร็ว
เกิดระเบิดใหญ่ในโกดัง โมบิลสูท4ครื่องที่รอดจากการระเบิดค่อยๆลุกขึ้นยืน GAT-X303 เอจิส, GAT-X308เซนติเนล , GAT-X105สไตรค์ , GAT-X305 เรเวน และGN-001 เอ็กเซียยืนขึ้นขณะที่ระเบิดกลืนกินโกดังที่ลุกไหม้รอบตัวพวกเขาจนหมด
ความคิดเห็น