ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Empire Online ภาค มหาสงครามดาวเบสเทีย

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 ฝึกพลังจิตและเวทมนตร์(rewrite)

    • อัปเดตล่าสุด 21 ม.ค. 58


    ตอนที่ 2
     
         เช้าวันรุ่งขึ้นหลังทานอาหารเช้าเสร็จ ดาร์คเดินเข้ามาที่ห้องใต้ดินก่อนเวลาเล็กน้อย ผ่านไปได้สักพักทานาทอสก็เดินเข้ามาในห้องใต้ดิน
     
         "สวัสดีตอนเช้าครับท่านดาร์ค"ทานาทอสกล่าว ดาร์คพยักหน้าก่อนที่จะเริ่มแสดงผลการฝึกลมปราณให้ทานาทอสดู ซึ่งทานาทอสก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าดาร์คโคจรลมปราณได้เป็น100ครั้งในเวลาแค่10กว่าวินาที พลังลมปราณที่แกร่งเกินกว่าจะเรียกว่าพึ่งหัดเรียน และการผนึกปราณใส่ร่างกายส่วนต่างๆกับอาวุธในมือ ทั้งที่พึ่งสอนไปได้ไม่กี่วันแต่พัฒนาขึ้นมากทั้งที่พึ่งอายุแค่นี้ ทานาทอสยิ่งอยากเห็นว่าถ้าเด็กตรงหน้าตนเติบโตขึ้นมากกว่านี้จะทำอะไรได้บ้าง แค่คิดเขาก็ยิ้มแล้ว
     
         "ถือว่าผ่านเกณฑ์ครับ งั้นต่อไปข้าจะสอนพลังจิตให้ท่านเลยแล้วกันนะครับ"
     
         "ได้ครับ"ดาร์คตอบทันทีเพราะเบื่อที่ต้องฝึกแต่พลังปราณเต็มทีแล้ว แต่อยากถามอะไรทานาทอสนิดหน่อย
     
         "ก่อนที่จะฝึกคุณทานาทอสบอกฉันได้ไหมครับว่าหายไปไหนมา"ทานาทอสยิ้มแล้วตอบน้ำเสียงดุว่า
     
         "ธุระส่วนตัวนะครับเป็นเด็กดีอย่ายุ่งนะครับ เอาละงั้นมาเริ่มเลยเถอะครับ"ดาร์คหงุดหงิดเมื่อได้ยินคำตอบก่อนจะพยักหน้า ทานาทอสหยิบก้อนหินเล็กๆขึ้นมาก่อนจะพูดกับดาร์ค
     
         "ลองทำให้หินก้อนนี้ลอยขึ้นโดยใช้พลังจิตสิครับ"ทานาทอสวางก้อนหินไว้กับพื้น ดาร์คมองไปที่ก้อนหินแล้วพยายามเพ่งจิตให้มันลอยขึ้น
     
         'ลอยขึ้นๆๆ'ดาร์คคิดในใจซ้ำไปซ้ำมา ก้อนหินเริ่มขยับก่อนจะลอยขึ้นมาช้าๆแต่ไม่นานก็ตกพื้นไป ดาร์คทรุดลงนั่งกุมหัวตัวเอง
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับทักษะพลังจิตระดับ1ค่ะ"
     
         เสียงประกาศไม่ช่วยให้ดีใจเพราะดาร์ครู้สึกปวดหัวมากและปวดตาเล็กน้อยเพราะจ้องก้อนหินมากไป
     
         "ช่วงที่ใช้พลังจิตได้ครั้งแรกก็เป็นอย่างนี้กันทุกคนแหละครับเพราะการใช้พลังจิตต้องใช้ความคิดทำให้ส่งภาระไปที่สมองอย่างเดียวครับ ต่างจากการโคจรลมปราณหรือใช้พลังปราณที่ใช้พลังจากทั่วร่างกาย ถ้าฝึกอย่างหนักอาการนี้ก็หายไปเองครับ"ทานาทอสพูดแบบไม่ทุกข์ร้อนอะไร ดาร์คยังปวดหัวอยู่แต่ก็มองไปทางทานาทอสแล้วถาม
     
         "ฉันอาจสมองตายก่อนก็ได้นะ"ดาร์ครู้สึกว่าเมื่อกี้สมองเค้าเกือบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
     
         "นั้นเป็นกรณีที่จะเกิดขึ้นกับพวกที่ฝึกแบบไม่รู้อะไรครับ ถ้าท่านดาร์คจะฝึกพลังจิตให้คล่องเหมือนพลังปราณคงต้องใช้เวลานานกว่านะครับเพราะต้องฝึกแบบค่อยๆไป"ทานาทอสพูดแล้วสร้างก้อนหินจำนวนมากทั้งเล็กมากไปจนถึงใหญ่สุดๆขึ้นมาเป็นจำนวนมากกองไว้ที่พื้น
     
         "ท่านดาร์คหายปวดหัวเมื่อไหร่ก็ค่อยฝึกต่อนะครับ ยิ่งสิ่งของหนักและจำนวนเยอะเท่าไหร่ยิ่งทำให้ลอยยากขึ้น การฝึกอย่างอื่นของพลังจิตข้าจะรอจนกว่าผลจะออกมาตามที่ข้าหวังไว้นะครับ"ทานาทอสพูดจบแล้วเดินไปที่ประตู ดาร์คค่อยๆลุกขึ้นมองไปทางกองก้อนหินขนาดยักษ์ แต่ก็ได้ยินเสียงทานาทอสดังเข้ามา
     
          "อ้อ แล้วถ้าท่านดาร์คคิดฝืนจะฝึกให้ได้เร็วๆข้าจะมาหยุดไว้เองครับไม่ต้องห่วง"ทานาทอสกล่าวออกมาก่อนจะเปิดประตูเหล็กออกจากห้องไป เป็นอันว่าการสอนในวันที่สองจบแล้ว ดาร์คใจเย็นลงเลิกคิดฝืน นั่งลงรอจนหายปวดหัวก่อนแล้วค่อยฝึกพลังจิตต่อ
     
         ดาร์คลองใช้พลังจิตยกก้อนหินหลายก้อนดูปรากฎว่ายกไม่ขึ้น ดาร์คลองยกแค่ก้อนหินเล็กๆดูก็ยกได้และลอยได้นานกว่าครั้งแรก
     
         "ผู้เล่นดาร์คทักษะพลังจิตเลื่อนเป็นระดับ2ค่ะ"
     
         ดาร์คค่อยๆฝึกตามที่ทานาทอสบอก โดยที่ดาร์คพยายามยกก้อนหินแค่ก้อนเดียวให้ลอยขึ้นแล้วไม่ตกจนกว่าตนเองจะเลิกใช้พลังจิตก่อน ถ้าทำได้ก็ค่อยเอาจำนวนมากขึ้นและก้อนหินใหญ่ขึ้น เมื่อดาร์คปวดหัวหรือเหน่ือยก็นั่งพักถ้าหิวหรือฝึกพอแล้วก็ไปกินข้าวแล้วเข้านอน เป็นแบบนี้เป็นเวลานานจนทักษะพลังจิตของดาร์คเลื่อนขึ้นเรื่อยๆและอาการปวดหัวเริ่มหายไป
     
         "ผู้เล่นดาร์คทักษะพลังจิตเลื่อนเป็นระดับ20ค่ะ"
     
         ทานาทอสกำลังยืนอยู่ในพื้นที่รอบด้านเป็นสีดำสนิททั้งหมดไม่มีอะไรเลยมันคือภายในมิติแห่งนึง จนกระทั่งมีบางอย่างโผล่ขึ้นมาด้านหน้าทานาทอส เป็นชายหนุ่มสวมเกราะสีดำสนิทแต่ถ้าดูหน้าตาแล้วชายคนนี้ก็คือลูซิลนั้นเองแต่เป็นแค่จิตของลูซิลในโลกแห่งจิตของลูซิลเท่านั้น ทานาทอสคุกเข่าลงแล้วพูดว่า
     
         "นายแห่งข้า ผู้เป็นเจ้าแห่งความมืดทั้งปวง ยิ่งใหญ่แม้สวรรค์และนรกต้องเกรงกลัว ผู้ปกครอง..บลาๆๆ"ทานาทอสพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเคารพและยำเกรงชายตรงหน้าโดยที่กำลังพูดคำกล่าวร่ายยาวต่อลูซิลที่ข้ารับใช้ต้องพูดกันทุกคน ลูซิลเริ่มหงุดหงิดกับคำร่ายยาวข้ึนเรื่อยๆจนกระทั่งในที่สุด..
     
         "พอแล้ว!!"ทานาทอสหยุดพูดทันทีกับเสียงตะโกน ลูซิลเริ่มคิดว่าเค้าควรยกเลิกคำพูดนี้ไปเพราะมันน่ารำคาญมาก แล้วลูซิลก็พูดต่อ
     
         "การฝึกของลูกข้าเป็นยังไงบ้าง"
     
         "ตอนนี้ท่านดาร์คฝึกพลังปราณทั้งการโคจรลมปราณ การใช้พลังลมปราณและการผนึกปราณได้คล่องแล้วครับ ตอนนี้พลังจิตก็สามารถยกหินได้คล่องแล้วข้ากำลังจะเริ่มฝึกพลังจิตขั้นต่อไป แต่ข้าอยากถามเรื่องการฝึกทักษะในการต่อสู้ให้กับท่านดาร์คครับ รู้สึกเขาจะรู้วิธีจัดการพวกอันธพาลในเมืองอยู่แล้วนะครับ?"ลูซิลเอามือลูบคางใช้ความคิดอยู่สักพักก็ตอบว่า
     
         "เจ้าฝึกตามที่เห็นสมควรได้เลย ข้าอยากเร่งให้เจ้าฝึกลูกข้าให้ใช้พลังปราณกับพลังจิตให้เก่งก่อนส่วนเรื่องเวทมนตร์สอนแค่พื้นฐานก่อนก็ได้ เจ้าแค่เฝ้าดูอย่าให้เกิดเรื่องก็พอ ตอนนี้เวลาด้านนอกผ่านไปครึ่งปีแล้ว ข้าต้องการเห็นผลการฝึกของพลังสามสายของดาร์กภายในสิ้นปีนี้ ถ้าไม่เป็นไปตามที่ข้าหวังไว้หรือเกิดเรื่องขึ้นละก็ข้าจะลงโทษเจ้าอย่างหนักและเรื่องนี้จะถึงหูพี่ชายเจ้าและนายเจ้าในนรกแน่"ลูซิลพูดทั้งปล่อยจิตสังหารออกมาในระดับที่เทพเจ้าระดับสูงอย่างทานาทอสต้องเหงื่อตกและกลัวจนขยับไม่ได้ ทานาทอสรีบพูดขึ้น
     
         "ข้ารับรองว่าท่านจะต้องพอใจแน่นอนครับท่านลูซิล"ลูซิลหรี่ตาแล้วพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะสลายร่างจิตไป ทานาทอสเองก็ถอนหายใจแล้วสลายร่างจิตออกจากโลกของนายตนเช่นกันเพราะถ้าอยู่ต่อโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากลูซิลโทษที่ได้รับคือความตาย
     
         "ย๊ากกกก~~"ดาร์คที่กำลังฝึกพลังจิตอยู่ก็กำลังใช้พลังจิตยกก้อนหินอันที่ใหญ่ที่สุดอยู่ มันลอยอยู่นิ่งๆโดยที่ดาร์กเพ่งสมาธิลงไปมาก หลังผ่านไปหลายนาทีดาร์กก็เอาก้อนหินยักษ์ลงเพราะเริ่มปวดหัวอีกครั้งแล้ว
     
         "เฮ้อ~"ดาร์คถอนหายใจออกมาก่อนจะนอนลงกับพื้นรอจนกว่าจะหายปวดหัวแล้วค่อยฝึกต่อ หลังจากดาร์คสามารถยกก้อนหินหนักๆหลายก้อนได้ในที่สุดระดับทักษะก็เลื่อนเป็นระดับ20 แต่ก็ค้างอยู่แค่นั้นไม่ว่าจะฝึกเพิ่มแค่ไหนระดับก็ไม่เลื่อนเพิ่มขึ้น ดาร์คที่นอนไม่มีอะไรทำก็รู้สึกหิวขึ้นมาเลยกลับขึ้นไปด้านบน
     
         ดาร์คเดินมาออกมาไม่นานก็เห็นเมดสาวคนนึงเดินผ่านมา
     
         "ฉันอยากกินข้าว"เมดสาวพยักหน้าแล้วเดินไปทางห้องครัว ส่วนดาร์คไปรออยู่ที่ห้องทานอาหาร รอไม่นานเท่าไหร่อาหารก็มาวางอยู่ตรงหน้าดาร์ค ดาร์คก็นั่งกินอาหารโดนที่จริงก็ยังไม่หิวเท่าไหร่แค่สั่งมากินแก้เซ็งเท่านั้นเอง เมื่อดาร์กกินเสร็จแล้วคนรับใช้ก็ยกอาหารไปที่ห้องครัว
     
         ผ่านไปได้หลายวันดาร์คก็มาฝึกในวันที่สามกับทานาทอสอีกครั้ง วันนี้เขาก็ต้องแสดงผลการฝึกพลังจิตให้ดู
     
         "ข้าขอดูหน่อยว่าท่านใช้พลังจิตได้ขนาดไหนแล้ว"ดาร์คเริ่มคิดถึงคำเตือนในจดหมายขึ้นมารู้ว่าถ้าพลาดทานาทอสกับพ่อตนต้องเอาตายแน่ ดาร์คมองไปที่กองก้องหินตรงหน้าก่อนจะเริ่มใช้พลังจิต
     
         "ครืนๆๆ"เกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อยก่อนที่ก้อนหินทั้งใหญ่และเล็กจะลอยขึ้นมาโดยมีแสงสีดำอ่อนๆอยู่ด้วย ทานาทอสยิ้มพอใจกับผลที่ออกมาพลางบอกให้ดาร์ควางลง
     
         "พอได้แล้วครับท่านดาร์ค"ดาร์คเลิกใช้พลังจิตแล้วก้อนหินทั้งใหญ่เล็กก็ร่วงลงกับพื้นพร้อมแสงสีดำหายไป พื้นที่ถูกกดด้วยหินไม่มีร่องรอยเสียหายเพราะมีความแข็งแรงทนทานมาก ดาร์คมองไปทางทานาทอสว่าจะทำอะไรต่อไม่นานทานาทอสก็พูดว่า
     
         "ข้าจะขอสอนการใช้พลังจิตในการต่อสู้เลยแล้วกันนะครับ"ดาร์คดีใจอย่างลิงโลดแต่เก็บอาการไว้หน้ายังนิ่งอยู่
     
         ทานาทอสที่เริ่มฝึกการใช้พลังจิตต่อสู้ก็แบมือออกมาก่อนที่จะมีแสงสีดำรวมกันเป็นดาบธรรมดาเล่มหนึ่ง ดาร์คเห็นแล้วก็อึ้งไปเลย
     
         "การใช้พลังจิตในการต่อสู้ขึ้นอยู่กับจิตนาการของคนๆนั้น ถ้าผู้ใช้มีจิตใจอ่อนแอสิ่งที่สร้างก็จะอ่อนลงไปด้วย ถ้ามีพลังจิตไม่เพียงพอที่จะสร้างสิ่งที่ตนเองต้องการหรือใส่พลังจิตลงไปน้อยเกินไปก็จะสร้างออกมาไม่ได้ นี้เป็นข้อเสียของสายจิต"ทานาทอสพูดแล้วดาบที่สร้างจากพลังจิตก็เริ่มมีรอยร้าวมากขึ้นเรื่อยๆทั้งดูเก่าและสกปรกจากนั้นไม่นานดาบพลังจิตก็แตกสลายหายไป
     
         "นอกจากนี้ยังสามารถใช้พลังจิตที่ยกวัตถุขึ้นกับการสร้างของเอามาผสานกันได้"จากนั้นก็มีแสงสีดำเป็นรูปคล้ายดาบหลายสิบเล่มลอยอยู่ด้านหลังทานาทอส ทานาทอสใช้พลังจิตให้ดาบพลังจิตพุ่งไปชนกำแพงก่อนจะระเบิดขึ้นมา โดยที่กำแพงห้องฝึกไม่มีความเสียหายเพราะแข็งแรงทนทาน ทานาทอสมองดูดาร์คที่ตอนนี้แววตาดูเปล่งประกายสุดๆเหมือนอยากรีบใช้พลังจิตให้เป็นเพราะเห็นว่าพลังจิตเป็นพลังที่สะดวกที่สุดแถมทำอะไรได้เกือบทั้งหมด ถ้าเขาทำได้ก็จะเก่งขึ้นมากทีเดียว 
     
         "มันไม่ง่ายและสะดวกถึงขนาดนั้นหรอกนะครับพลังจิตน่ะ"คำพูดนี้ทำให้ดาร์คชะงัก
     
         "ท่านรู้มั้ยว่าการยกวัตถุที่ข้าให้ท่านฝึกเป็นการฝึกพลังจิตขั้นที่ง่ายที่สุดที่ผู้ใช้พลังจิตทำกันได้อยู่แล้ว การใช้พลังจิตเองก็แบ่งได้เป็นหลายสายนะครับ การฝึกแต่ละสายต้องใช้เวลานานอย่างการเคลื่อนที่วัตถุต่างๆเข้าโจมตีเป็นสายเทเลคิเนซิสที่ท่านฝึกไปถือเป็นขั้นพื้นฐานของสายนี้และยังเป็นสิ่งที่ผู้ใช้พลังจิตทุกคนต้องทำได้ การสร้างดาบแสงแบบเมื่อกี้เป็นการ'ผนึกจิต'และสร้างรูปอย่างง่ายๆขึ้นมาเพื่อใช้ต่อสู้ต้องสามารถแยกควบคุมได้ทุกเล่มถือว่ายังเป็นของธรรมดาอยู่ต่างกับแค่แต่ละคนจะควบคุมได้แค่ไหน นอกจากนี้ยังมีสายเทเลพอร์ต สายอ่านใจและการเรียกดาบที่สร้างจากจิตที่จับต้องได้เป็น.."ทานาทอสต้องหยุดไว้แค่นั้นหลังจากเห็นดาร์คไปนั่งยองๆอยู่ตรงมุมมืดของห้องเอานิ้วจิ้มพื้นดูเข้าโหมดมืดมนไปแล้ว ดาร์คทั้งรู้สึกเบื่อทั้งโมโหที่ทานาทอสพูดฉอดๆตัดกำลังใจ ทานาทอสต้องรีบเข้ามาปลอบเอาใจ(ไม่งั้นลูซิลฆ่าแน่ถ้ารู้เรื่องนี้)
     
         "ไม่เป็นไรหรอกนะครับ ข้าแค่อยากให้ท่านดาร์คอย่าละเลยการฝึกเพราะคิดว่าง่ายและสะดวกเท่านั้นเอง..บลาๆๆ"ทานาทอสต้องพูดอยู่นานกว่าดาร์คจะกลับเป็นปกติก่อนจะเริ่มฝึกการใช้พลังจิตต่อสู้กันจริงๆ
     
         "ก่อนอื่นท่านดาร์คพยายามรวมพลังจิตสร้างขึ้นมาเป็นก้อนก่อนนะครับ"ดาร์คหลับตาตั้งสมาธิแล้วเริ่มรวมพลังจิตคิดจะสร้างเป็นก้อนกลมๆ ด้านหน้าดาร์คเกิดประกายแสงสีดำอ่อนๆทั้งเล็กและกลมขึ้นมาอันหนึ่งเรืองแสงสีดำอยู่
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับทักษะผนึกจิตระดับ1ค่ะ"
     
         "ผู้เล่นดาร์คทักษะพลังจิตเลื่อนเป็นระดับ21ค่ะ"
     
         ดาร์คเห็นว่าระดับพลังจิตเลื่อนขึ้นแล้วก็ดีใจจนสมาธิหลุดทำให้ลูกบอลจิตสีดำที่รวบรวมอยู่หายไป
     
         "อย่าเสียสมาธิสิครับ ตั้งใจทำต่อไป"ดาร์คต้องรีบผนึกจิตอีกครั้งกลายเป็นลูกบอลจิตสีดำเล็กๆอีกครั้ง ก่อนที่มันจะค่อยๆใหญ่ขึ้นและเริ่มเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นรูปคล้ายกับดาบเหมือนที่ทานาทอสทำขึ้นมา1เล่มก่อนจะสลายไป
     
         "ผู้เล่นดาร์คทักษะผนึกจิตเลื่อนเป็นระดับ2ค่ะ"
     
          ดาร์คมีอาการปวดหัวอีกครั้งแล้วทรุดลงไปนั่งกับพื้น ดาร์คเห็นว่าการจะฝึกพลังจิตให้เร็วเหมือนพลังปราณไม่มีทางทำได้อย่างที่ทานาทอสพูดจริงๆ เมื่อดาร์คหายปวดหัวแล้วก็เริ่มฝึกต่ออีกครั้งโดยมีทานาทอสยืนคุมและอธิบายอยู่ข้างๆ
     
         "ตอนนี้ท่านดาร์คค่อยๆสร้างดาบจิตออกมาแค่เล่มเดียวก่อนแล้วควบคุมตามที่ท่านต้องการให้ได้แล้วค่อยเพิ่มจำนวนนะครับ"ดาร์คทำตาม หลังจากที่ดาร์คสามารถสร้างดาบจิตได้เล่มหนึ่งก็ควบคุมให้ลอยไปมาตามที่ต้องการหรือเอาพุ่งเข้าโจมตีใส่กำแพงห้องฝึก เมื่อดาร์คควบคุมได้ดีพอแล้วทานาทอสก็ให้เพิ่มจำนวนดาบจิตขึ้นเรื่อยๆ
     
         "ผู้เล่นดาร์คทักษะพลังจิตเลื่อนเป็นระดับ40ค่ะ"
     
         "ผู้เล่นดาร์คทักษะผนึกจิตเลื่อนเป็นระดับ35ค่ะ"
     
         หลังจากฝึกมาหลายวัน ระดับทักษะทั้งสองอย่างของดาร์คก็เพิ่มขึ้นและใช้คล่องจนทานาทอสพอใจก็ให้ฝึกขั้นต่อไป
     
         "ต่อไปข้าขอสอนท่านเรื่องการใช้พลังจิตในการอ่านใจกับการเทเลพอร์ตนะครับ"จากนั้นทานาทอสมองดาร์คได้พักเดียวก็พูดว่า
     
         "ท่านกำลังคิดว่าเมื่อไหร่จะได้เรียนทักษะต่อสู้ใช่ไหมครับท่านดาร์ค"ดาร์คตกใจเพราะเมื่อกี้เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ
     
         "การที่จะใช้พลังจิตอ่านใจให้ได้ต้องสามารถเข้าถึงความคิดของศัตรูได้นะครับ ถ้าสามารถอ่านความคิดศัตรูได้ระหว่างต่อสู้ก็จะได้เปรียบมหาศาลนะครับ ถ้าผู้ใช้พลังจิตสายอ่านใจสู้กันก็จะใช้ทักษะต่อสู้ช่วยและถ้าใครอ่านใจอีกฝ่ายได้ก่อนก็จะชนะขึ้นอยู่กับว่าทักษะพลังจิตของฝ่ายใดเหนือกว่า ส่วนการเทเลพอร์ตนั้น.."จากนั้นทานาทอสก็หายไปดาร์คมองดูรอบๆก็เห็นทานาทอสไปยืนอยู่ตรงมุมห้องฝึก
     
         "นี่แหละครับการเทเลพอร์ต ต้องรู้สภาพแวดล้อมของสถานที่นั้นถึงจะเทเลพอร์ตไปได้ ถ้ามองเห็นก็จะเทเลพอร์ตไปได้ง่ายมาก"ทานาทอสพูดจบก็เทเลพอร์ตกลับมาตรงหน้าดาร์ค
     
         "ก่อนอื่นก็เริ่มจากการเทเลพอร์ตส่วนการอ่านใจไว้ทีหลังนะครับ ท่านดาร์คมองไปที่มุมห้องแล้วเทเลพอร์ตไปให้ได้สิครับ"ดาร์กจ้องไปที่มุมห้องแล้วตั้งสมาธิใช้พลังจิตเพื่อที่จะไปโผล่ตรงมุมห้อง ดาร์คต้องใช้เวลาเกือบ10นาทีถึงจะเทเลพอร์ตได้ แต่พอเทเลพอร์ตไปโผล่แค่ใกล้กับมุมห้องเท่านั้น ดาร์คเห็นว่ายังไม่สำเร็จเลยหันกลับมามองทานาทอสที่ยืนดูอยู่
     
         "เป็นไงครับ"ดาร์คถามเสียงเรียบ
     
         "ถือว่าดีมากแล้วครับ ปกติคนธรรมดากว่าจะทำการเทเลพอร์ตได้ยังต้องใช้เวลาฝึกเป็นวันแต่ท่านสามารถทำได้ภายใน10นาทีถือว่าเยี่ยมมากครับ"ดาร์คโล่งใจกับคำตอบก่อนที่จะฝึกการเทเลพอร์ตต่อและฝึกพลังจิตสายเทเลคิเนซิสควบคู่ไปด้วย ส่วยการอ่านใจกับวิธีสร้างวัตถุจิตที่สามารถจับต้องได้นั้นทานาทอสเพียงแค่บอกว่า'ยังไม่ถึงเวลา'แค่นั้น ดาร์คก็ไม่ได้ถามอะไร
     
         หลังจากผ่านมา2สัปดาห์ ดาร์คก็สามารถควบคุมดาบจิตที่สร้างขึ้นได้เป็นร้อยเล่มและสามารถยกวัตถุไม่ว่าจะหนักหรือเบาได้อย่างอิสระ การเคลื่อนย้ายตนเองหรือการเทเลพอร์ตนั้นก็สามารถย้ายไปส่วนใดของปราสาทได้ในพริบตา ตอนนี้ทักษะพลังจิตของดาร์คอยู่ที่ระดับ50 ส่วนทักษะผนึกจิตอยู่ที่ระดับ40 ทักษะโคจรลมปราณอยู่ที่ระดับ 50 ทักษะลมปราณอยู่ที่ระดับ45 ทักษะผนึกลมปราณอยู่ที่ระดับ 40
     
         "ตอนนี้ทักษะในการใช้พลังจิตของท่านก็ดีพอแล้ว เพราะฉะนั้นข้าจะขอเริ่มฝึกสอนเวทมนตร์ให้ท่านดาร์คเลยนะครับ"ทานาทอสพูดแล้วดาร์คก็ยิ้มอยู่ในใจ เพราะตนอยากใช้เวทมนตร์ได้มานานแล้ว
     
         ทานาทอสเริ่มการฝึกพลังเวทมนตร์ให้กับดาร์คก็เริ่มอธิบายทันที
     
         "การที่จะสามารถใช้เวทมนตร์ออกมาได้นั้น ขั้นแรกต้องสัมผัสพลังเวทจากรอบตัวให้ได้ซะก่อน การที่เมื่อก่อนท่านใช้พลังเวทไม่ได้ก็เพราะท่านไม่รู้เรื่องนี้ ข้าแนะนำให้ท่านนั่งสมาธิแล้วพยายามสัมผัสพลังเวทรอบๆนี้ดู ปราสาทหลังนี้มีพลังเวทหนาแน่นสูง ยิ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หรือมีพลังเวทสูงก็จะสัมผัสถึงพลังเวทได้ง่าย"ทานาทอสอธิบายแล้วดาร์คก็นั่งสมาธิเหมือนตอนฝึกพลังปราณ
     
         ดาร์คพยายามสัมผัสพลังเวทที่อยู่รอบตัวให้ได้อย่างที่ทานาทอสบอก หลายสิบนาทีผ่านไปดาร์คก็ยังสัมผัสไม่ได้ แต่ดาร์คจำได้ว่าปราสาทดำนี้เกิดจากพลังเวทของทานาทอส ดาร์คเอามือซ้ายสัมผัสกับพื้นห้องแล้วเพ่งมองที่พื้นรวบรวมพลังที่มือซ้าย คราวนี้ดาร์คเริ่มสัมผัสได้ดาร์คเริ่มดึงพลังเวทจากพื้นห้องมาที่ตัวเองผ่านทางมือที่สัมผัสพื้น ดาร์คเริ่มรู้สึกว่ามีพลังเวทเล็กน้อยไหลมาที่มือซ้ายที่รมีไอร้อนขึ้นมา
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับทักษะผนึกเวทระดับ1ค่ะ"
     
         ดาร์คได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นในหัวแล้วก็ลืมตาขึ้นมา สิ่งที่เห็นคือมือซ้ายมีออร่าสีดำขึ้นมาเคลือบอยู่เล็กน้อย
     
         "ผมทำได้แล้ว"ดาร์คหันไปบอกทานาทอสที่ยืนอยู่ แต่ออร่าสีดำที่มือซ้ายก็หายไปเป็นเพราะดาร์คไม่มีสมาธิทำให้ผนึกพลังเวทที่มือซ้ายหายไป
     
         "ผมว่าท่านคงรู้นะครับว่าต้องทำอะไรต่อ"ทานาทอสพูดให้ดาร์คฟังแล้วก็เดินไปพิงผนังห้อง ดาร์คจึงนั่งสมาธิอีกครั้งแล้วพยายามผนึกพลังเวทให้ได้เร็วกว่าเดิม นอกจากนี้ดาร์คยังพยายามฝึกให้ตัวเองมีสมาธิมากขึ้นด้วย ทำให้ดาร์คผนึกพลังเวทได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับทักษะผนึกเวทระดับ4..5ค่ะ"
     
         เมื่อทักษะผนึกเวทของดาร์คถึงระดับ5 ดาร์คก็ยิ้มขึ้นมาเพราะแน่ใจว่าจะใช้เวทมนตร์ได้สักบท
     
         "ข้าแต่.."ดาร์คเริ่มร่ายมนตร์บทคาถาเพื่อลองใช้เวทมนตร์
     
         "หยุดก่อนครับ"เสียงของทานาทอสดังขึ้นทำให้ดาร์คต้องหยุดร่ายทันที ดาร์คหันไปก็เห็นทานาทอสเดินเข้ามาโดยที่มือมีคัมภีร์หลายเล่มถืออยู่ ทานาทอสเอาคัมภีร์ทั้งหมดวางที่พื้น
     
         "นั่งลงครับ"ทานาทอสเอ่ยเสียงเรียบ ดาร์ครีบนั่งลงตามที่บอกทันที
     
         "เพียงแค่สัมผัสพลังเวทจากรอบตัวและผนึกเวทได้อย่าพึ่งดีใจไปครับ ถ้าท่านอ่านคัมภีร์ไม่ออกมันก็ไม่มีประโยชน์"ทานาทอสพูดแล้วหยิบคัมภีร์เล่มนึงให้ดาร์คอ่านดู ดาร์คหยิบมาแล้วเปิดดูก็เห็นตัวอักษรที่เขาอ่านไม่ออกเลย
     
         "หนังสือเวทมนตร์ที่ท่านเคยอ่านมันเป็นของง่ายๆที่ไม่ได้ลงอักขระเวทมนตร์เอาไว้ คัมภีร์เวทมนตร์จะผนึกพลังเวทลงในคัมภีร์เป็นอักขระเวทมนตร์ ทำให้ต้องใช้พลังเวทในการอ่านอักขระเวทมนตร์เช่นกันมันเรียกว่าเนตรมนตรา เมื่อท่านผนึกพลังเวทเป็นแล้วก็ลองผนึกพลังเวทลงที่ดวงตาดูสิครับ"
     
         ดาร์คทำตามที่ทานาทอสบอก ดาร์คพยายามผนึกพลังเวทไปที่ดวงตาจนเวลาผ่านไปหลายนาที ดาร์คสัมผัสถึงพลังเวทที่ถูกผนึกลงที่ดวงตาของเค้าได้
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับทักษะผนึกเวทระดับ6ค่ะ"
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับทักษะเนรตมนตราระดับ1ค่ะ"
     
         ดาร์คลองอ่านอักขระเวทมนตร์ในคัมภีร์ดูก็เห็นว่าตัวเค้าอ่านออกแล้ว เขาเห็นคัมภีร์นี้เป็นบทร่ายเวทมนตร์'บอลเพลิง'ธรรมดา
     
         "อ่านได้แล้วครับ"ดาร์คพูดเสียงเรียบขึ้นก่อนที่ทานาทอสจะเปิดอีกคัมภีร์ขึ้นมา ดาร์คลองอ่านดูก็เห็นว่าอ่านไม่ออก
     
         "ที่ท่านอ่านออกมันเป็นคัมภีร์เวทมนตร์ธาตุไฟเริ่มต้นเท่านั้นครับ ถ้าท่านจะอ่านให้ออกอีกครั้งก็ต้องผนึกพลังเวทที่ดวงตามากขึ้น ยิ่งเป็นเวทมนตร์ที่มีพลังมากขึ้นก็ต้องใช้พลังเวทมากขึ้นตามไปด้วย แน่นอนว่าคนที่ใช้เวทมนตร์ระดับสูงได้ก็เป็นจอมเวทฝีมือดีเลย"ทานาทอสพูดแล้วมองดาร์คที่ยิ่งผนึกเวทลงที่ดวงตามากขึ้น
     
         "ผู้เล่นดาร์คเลื่อนระดับทักษะเนตรมนตราเป็นระดับ2ค่ะ"
     
         "ชื่อเวทมนตร์คือกระสุนน้ำครับ"ดาร์คบอกชื่อเวทมนตร์ในคัมภีร์ออกมาทำให้ทานาทอสยิ้มขึ้นมา
     
         "ทำได้ดีแล้วครับ ต่อไปก็ขอให้ท่านฝึกการผนึกเวทกับเนตรมนตราโดยอ่านคัมภีร์ระดับ1-3ที่เป็นเวทมนตร์ระดับต่ำให้ออกนะครับ"ทานาทอสเอาคัมภีร์เป็นร้อยให้ดาร์คนั่งอ่าน ดาร์คผนึกพลังเวทและอ่านดูต่อไปจนทำให้ทักษะทั้งสองอย่างเลื่อนระดับอย่างรวดเร็ว
     
         "ผู้เล่นดาร์คเลื่อนระดับทักษะผนึกเวทเป็นระดับ25ค่ะ"
     
         "ผู้เล่นดาร์คเลื่อนระดับทักษะเนตรมนตราเป็นระดับ20ค่ะ"
     
         หลังเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงทักษะผนึกเวทก็เลื่อนเป็นระดับ25 ทักษะเนตรมนตราเลื่อนเป็นระดับ20 ดาร์คสัมผัสได้ว่าพลังเวทในตัวเค้ามีมากขึ้นกว่าเดิมเพราะการฝึกพลังเวท ด้านทานาทอสที่นอนอยู่กับพื้นเห็นดาร์คอ่านคัมภีร์เวทมนตร์ได้เกือบทุกเล่มแล้วก็คิดจะเริ่มขั้นต่อไป
     
         "พอแล้วครับท่านดาร์ค ต่อไปข้าจะเริ่มสอนการใช้เวทมนตร์เลย"เมื่อทานาทอสพูดแล้วดาร์คก็หยุดฝึกไปแล้วรอทานาทอสพูดต่อ
     
         "อืม ก่อนอื่นข้าคงต้องเก็บพวกคัมภีร์ก่อนสินะ"ทานาทอสพูดขึ้น ดาร์คเห็นว่าเค้ายังอ่านคัมภีร์ได้ไม่หมดและยังจำบทร่ายไม่ได้จึงคิดจะเก็บไว้ ดาร์คหยิบเอาคัมภีร์เปิดหน้าต่างแล้วแล้วใส่ช่องเก็บไอเท็มไป ช่องเก็บของดาร์คตอนนี้มีแค่100ช่อง ดาร์คเลือกเฉพาะคัมภีร์เล่มที่เค้ายังไม่ได้อ่านและที่ยังจำบทร่ายมนตร์ไม่ได้เท่านั้น ส่วงคัมภีร์ที่เหลือยังถูกวางไว้ที่เดิม ดาร์คใส่คัมภีร์ที่ต้องการเสร็จแล้วก็ปิดหน้าต่างไป
     
         "เริ่มฝึกกันต่อดีกว่าครับ ท่านอ่านอักขระเวทมนตร์ออกแล้วก็ลองร่ายมนตร์ออกมาสิครับ"ทานาทอสบอกออกมาดาร์คก็ลองร่ายมนตร์ออกมา 
     
         "ข้าแต่จิตวิญญาณแห่งไฟ.."เมื่อดาร์คร่ายมนตร์จนจบก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดาร์คมองไปที่ทานาทอสคิดว่าคงมีอะไรผิดพลาด
     
         "การที่ท่านดาร์คยังไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้เป็นเพราะท่านยังไม่ได้ทำพิธีกรรมครับ"
     
         "พิธีกรรม?"
     
         "คัมภีร์เป็นสื่อที่ทำให้ผู้ที่ครอบครองใช้เวทมนตร์ออกมาได้ก็จริง แต่ก็ต้องผ่านการทำพิธีกรรมก่อน อย่างเช่นถ้าเป็นเวทมนตร์ระดับต่ำก็อาจจะแค่หาสัตว์อสูรธาตุนั้นมาฆ่าสองสามตัวหรือไม่ก็เก็บหินแร่ธาตุมาทำพิธีกรรมก็ได้ ท่านลองดูในคัมภีร์มั้งหมดสิครับนอกจากชื่อมันต้องมีบอกการทำพิธีกรรมด้วย"ดาร์คหยิบคัมภีร์เล่มนึงออกมาจากช่องเก็บไอเท็ม แล้วเปิดคัมภีร์ออกมาดู
     
    ศรเวทย์ ระดับ1
     
         เวทมนตร์ที่ทำให้ผู้ร่ายมนตร์เรียกลูกธนูเวทมนตร์ออกมาได้สามถึงห้าดอก ศรเวทย์ที่เรียกมาจะเป็นธาตุตามที่ผู้ร่ายมนตร์เลือกเอง พลังตามพลังเวทที่ใช้ไป
     
    พิธีกรรม
     
         ฆ่าสัตว์อสูรตัวใดก็ได้1ตัวภายใน1นาที
     
         ดาร์คเห็นพิธีกรรมที่บอกมาก็เหมือนจะง่าย แต่แถวนี้มีสัตว์อสูรอยู่แค่ตัวเดียวคือทานาทอสที่อยู่ตรงหน้าเค้า ดาร์คมองไปที่ทานาทอสแล้วคิดว่าจะบอกดีไหม
     
         "พิธีกรรมว่าไงครับท่านดาร์ค"ทานาทอสถามขึ้นมา
     
         "พิธีกรรมบอกว่าต้องฆ่าสัตว์อสูรตัวนึงภายใน1นาทีครับ"ดาร์คลังเลแต่ก็พูดออกมา
     
         "อะไรกันแค่นั้นเองเหรอครับ"ทานาทอสพูดแล้วก็เปิดช่องว่างมิติสีดำขึ้นมาก่อนที่จะมีสิ่งหนึ่งกระโดดออกมาจากมิติ
     
         "กิ๊ว"เสียงร้องที่น่ารัก ดวงตากลมๆสีดำเล็กๆสองข้างและทั้งตัวที่เป็นเยลลี่สีชมพู มันคือสัตว์อสูรที่กระจอกที่สุดในเกมRPGทุกเกมส์ ดูเหมือนมันจะหลงเข้ามาโดนไม่รู้เรื่องรู้ราว
     
         "ผู้เล่นดาร์คพอสัตว์อสูรสไลม์ ชั้นชาวบ้าน ระดับ 1 จำนวน 1 ตัวค่ะ"
     
         "กิ๊ว"มันร้องอีกครั้งแล้วมองที่ดาร์คตาแป่ว แต่มันไม่รู้หรอกว่าเหลือเวลาหายใจไม่ถึงนาทีแล้วเพราะดาร์คกับทานาทอสแสยะยิ้มชั่วร้ายขึ้นมาอย่างรู้กัน
     
         "ข้าแต่.."ดาร์คเริ่มร่ายมนตร์ตามบทพิธีกรรม เมื่อร่ายจบแล้วดาร์คก็รู้สึกว่าร่างกายร้อนขึ้นเล็กน้อย ทำให้ดาร์ครู้ว่าตอนนี้อยู่ระหว่างพิธีกรรม ดาร์คไม่รอช้ามือขวาถูอัดลมปราณแล้วชกใส่สไลม์ทันที
     
         "กิ๊ว"3,540!
     
         มันร้องขึ้นมาพร้อมทั้งค่าความเสียหายที่ออกมา ก่อนที่ร่างกายมันจะแตกเละเป็นเยลลี่ชิ้นเล็กชิ้นน้อย
     
         "ผู้เล่นดาร์คสังหารสไลม์ ชั้นชาวบ้าน ระดับ1 จำนวน1ตัว ได้รับค่าประสบการณ์100ค่ะ"
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับเวทมนตร์ ศรเวทย์ ระดับ1ค่ะ"
     
         ดาร์คได้เวทมนตร์มาแล้วก็ลองใช้ดูทันที ดาร์คร่ายมนตร์ออกมา เมื่อร่ายจบแล้วก็ปรากฏคันธนูเวทขึ้นมาที่มือซ้ายและลูกธนูเวทสามดอกที่มือขวา ดาร์คยกขึ้นมาเล็งไปที่ผนังห้องแล้วยิงออกไป
     
         "ตูม"ลูกธนูทั้งสามไปโดนผนังห้องแต่ไม่เกิดรอยไหม้ขึ้นมา แต่ดาร์คก็ดีใจที่ใช้เวทมนตร์เป็นแล้ว
     
         "ยิ่งอัดพลังเวทลงไปพลังก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นนะครับ ถ้างั้นมาเริ่มเวทมนตร์ต่อไปเลยดีกว่า เอาเป็นบอลเพลิงแล้วกันครับ"ทานาทอสพูด ดาร์คหยิบคัมภีร์บอลเพลิงออกมาเพื่อร่ายมนตร์ทำพิธีกรรม เมื่อเวลาผ่านไปทำให้ดาร์คได้เวทมนตร์หลายสิบบทคาถามาใช้มากขึ้น
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับเวทมนตร์ บอลไฟ ระดับ 1 ค่ะ"
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับเวทมนตร์ บอลน้ำ ระดับ 1 ค่ะ"
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับเวทมนตร์ บอลลม ระดับ 1 ค่ะ"
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับเวทมนตร์ บอลสายฟ้า ระดับ 1 ค่ะ"
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับเวทมนตร์ โล่น้ำ ระดับ 2 ค่ะ"
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับเวทมนตร์ โล่ดิน ระดับ 2 ค่ะ"
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับเวทมนตร์ พายุเพลิงผลาญ ระดับ 3 ค่ะ"
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับเวทมนตร์ พายุเหมันต์ ระดับ 3 ค่ะ"
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับเวทมนตร์ สายฟ้าฟาด ระดับ 3 ค่ะ"
     
         หลังจากที่ดาร์คได้เวทมนตร์หลายบทมาใช้แล้ว ทานาทอสก็ให้ดาร์คไปพักทานอาหารเที่ยงก่อน จากนั้นช่วงเวลาบ่ายก็เร่มเรียนต่อ ครั้งนี้ดาร์คดูจะกระตือรือร้นมากกว่าเดิม
     
         "เอาล่ะ มาเริ่มเรียนการวาดวงเวทกันได้แล้ว ข้าจะทำให้ดูช้าๆดูดีๆนะครับ"ทานาทอสพูดแล้ววาดวงเวทกลมด้วยชอร์กที่พื้น ตามวงเวทมีอักขระเวทมนตร์เต็มไปหมด เมื่อทานาทอสวาดเสร็จแล้ววงเวทก็ส่องแสงสีน้ำเงินออกมา
     
         "บึ้ม ซ่าๆๆๆ"มีสายน้ำพุ่งขึ้นมาจากวงเวทก่อนที่จะหยุดทำงานแล้วหายไป สภาพห้องตอนนี้เปียกแฉะไปหมดด้วยน้ำรวมทั้งดาร์ค ปากทานาทอสร่ายมนตร์ขมุบขมิบเพียงพริบตาเดียวก่อนที่น้ำจะหายไปจากห้อง เสื้อผ้าที่เปียกปอนของดาร์คกับทานาทอสก็แห้งสนิทเหมือนเดิม
     
         "นักเวทจะต้องจดจำอักขระเวทมนตร์ที่จะวาดวงเวทได้และนี่เป็นการวาดวงเวทลงบนพื้น ซึ่งวงเวทพวกนี้ส่วนใหญ่ไว้ทำวงเวทป้องกัน กับดักหรือเคลื่อยย้าย ตอนที่วาดจะใช้อะไรวาดก็ได้ไม่ว่าจะใช้คทา เท้า หรือชอร์กก็ตาม เมื่อวาดเสร็จแล้วที่เหลือก็แค่ผนึกพลังเวทลงในวงเวท วงเวทก็จะทำงาน เราสามารถเจาะจงได้ว่าจะให้วงเวททำงานตอนไหนหรือทำงานอัตโนมัติตามเงื่อนไขการใช้เวทมนตร์นั้น แต่ก็มีบางประเภทที่จะทำงานทันทีเช่นกัน ต่อไปอย่างที่สอง.."ทานาทอสว่าแล้วเริ่มใช้นิ้วมือวาดวงเวทกลางอากาศ โดยที่สีวงเวทเป็นสีน้ำเงิน เมื่อวาดเสร็จแล้วเวทมนตร์ก็ทำงานทันที สายน้ำพุ่งออกจากวงเวทตรงเข้าใส่ผนังห้อง
     
         "ตูม"เวทมนตร์น้ำที่โดนกำแพงห้องใต้ดินระเบิดออก ภาพที่เห็นคือกำแพงที่เสียหายยับเยิน ทานาทอสยิ้มก่อนจะทำให้ห้องกลับสภาพเป็นอย่างเดิมอีกครั้งแล้วมองหน้าดาร์ค
     
         "ก็อย่างที่เห็น การวาดวงเวทอีกแบบก็เป็นการวาดวงเวทบนอากาศโดยใส่พลังเวทลงไปด้วยเวลาวาด การสร้างวงเวทแบบนี้จะเป็นวิธีที่ใช้ในการต่อสู้ทั่วๆไป และเวลาวาดวงเวทต้องใช้ธาตุที่ตรงกับเวทมนตร์ที่วาดด้วย เหมือนอย่างที่เธอเห็นว่าเมื่อกี้ข้าใช้เวทธาตุน้ำ วงเวทจึงเป็นสีน้ำเงิน"
     
         จากนั้นทานาทอสก็หยิบหนังสือในกระเป๋าออกมาเล่มนึงแล้วยื่นให้ดาร์ค ดาร์ครับมาเปิดอ่านดู ด้านในเป็นภาพของวงเวทแต่ละเวทมนตร์ที่ใช้ ดาร์คตรวจดูแล้วยิ่งเป็นเวทมนตร์ที่ระดับสูงหรือมีพลังมากขึ้น วงเวทที่ต้องวาดก็ยิ่งซับซ้อนหรือมีหลายชั้นมากขึ้นไปอีก
     
         "การวาดวงเวทถ้าสามารถวาดวงเวทได้หลายชั้นก็จะทำให้เวทมนตร์ที่ใช้มีพลังมากขึ้นไปอีก มีเวทมนตร์ระดับต่ำบางเวทมีถึง20ชั้นเลยทีเดียว ท่านดาร์คต้องจำวงเวทพวกนี้ให้ได้นะ เพราะถ้าท่านใช้การวาดวงเวทแทนก็จะไม่ต้องร่ายมนตร์เอง หรือใช้พร้อมกันก็ได้ มันทำให้เวทมนตร์มีพลังมากขึ้นและใช้เวลาน้อยลง"ทานาทอสพูดจบแล้วก็นั่งลง ดาร์คเห็นทานาทอสไม่อธิบายอะไรต่อก็ถาม
     
         "ไม่มีการสอนอย่างอื่นแล้วเหรอ"ดาร์คถามเพราะน่าจะสอนอะไรเพิ่มไม่ใช่แค่อธิบายแล้วแสดงตัวอย่างเท่านั้น
     
         "ไม่มีแล้วครับ ท่านดาร์คที่สามารถใช้เวทมนตร์ระดับ3ได้ก็ถือว่ามีพลังเวทสูงพอสมควร ที่เหลือก็แค่วาดวงเวทให้เป็นเท่านั้น จากนั้นท่านก็ฝึกฝนใช้ให้เชี่ยวชาญ"ดาร์คฟังแล้วก็นั่งอ่านวงเวทดู ดาร์คลองวาดวงเวทบอลเวทมนตร์กลางอากาศดู นิ้วมือของดาร์คขยับวาดวงเวทสีแดง เมื่อวาดเสร็จแล้ววงเวทก็ปรากฏบอลไฟพุ่งออกมาใส่กำแพงชนเป็นรอยไหม้ ส่วนวงเวทที่ดาร์ควาดหายไป
     
         "ผู้เล่นดาร์คได้รับทักษะวาดวงเวทระดับ1ค่ะ"
     
         ดาร์คได้ยินเสียงประกาศแล้วไม่รอช้าอ่านวงเวทแล้วจดจำเพิ่มขึ้นอีก และยังทำให้พลังเวทสูงขึ้นด้วย ก่อนที่ดาร์คตะฝึกวาดวงเวทต่อ
     
         "ผู้เล่นดาร์คทักษะวาดวงเวทเลื่อนเป็นระดับ2..3ค่ะ"
     
         ดาร์คฝึกวาดวงเวทจนตอนจบการฝึกของวันนี้ทักษะเลื่อนขึ้นไปอยู่ที่ระดับ12
    _______________________________________
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×