ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF: Yaoi The Star) Sassy Love (โน่กัน / อสรพิษ)

    ลำดับตอนที่ #43 : Onsen [NoGun]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 486
      4
      22 ก.ค. 60

    Onsen

     


    ริท~ ขอกินบ้าง~~

     


    เสียงหวานของชายหนุ่มร่างบางผู้มีผิวสีน้ำผึ้งและเป็นเจ้าของดวงหน้าหวาน ดวงตากลมโต จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางสีชมพูและสองข้างแก้มมีลักยิ้มน่ารักกำลังอ้อนเพื่อนสนิทตัวเล็กให้แบ่งไอศกรีมโคนในมือให้เขาทานบ้างแต่ดูเหมือนความปรารถนาของเขาจะโดนปฏิเสธเพราะเพื่อนรักดันโยกไอศกรีมหนีซะงั้น

     


    พวกเขาสองคนเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ซึ่งกำลังปิดภาคเรียนก็เลยถือโอกาสมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกันตามลำพัง ตอนนี้พวกเขากำลังสวมชุดยูกาตะที่ยืมมาจากร้านเช่าชุดร้านหนึ่งภายในย่านฮาราจูกุ เนื่องจากเป็นย่านสมัยใหม่ ชุดยูกาตะของพวกเขาจึงผสมผสานระหว่างแบบดั้งเดิมและโมเดิร์นเข้าด้วยกันทำให้ดูดีไปอีกแบบ


     

    การมาเดินเล่นในชุดนี้ออกจะเรียกสายตาแปลกประหลาดจากคนอื่นบ้างแต่พวกเขากลับพอใจเพราะรู้สึกโดดเด่น -_- แล้วตอนนี้สองเพื่อนรักก็กำลังยื้อแย่งไอศกรีมกันชนิดที่ว่าใครมาเห็นย่อมคิดว่าพวกเขาเป็นเด็กไม่รู้จักโตแน่ๆ แต่ใครจะสนล่ะ พวกเขาสนไอศกรีมมากกว่า 


     

    ไม่ กันไปซื้ออันใหม่สิ ร่างเล็กที่ส่วนสูงและรูปร่างลักษณะหน้าตาไม่ต่างกันมากนัก (ยกเว้นสีผิวที่ตัดกันอย่างเห็นได้ชัด -..-) เอ่ยบอกพร้อมกับยกมือข้างที่ถือไอศกรีมหนีเพื่อน


    ไม่เอา ขี้เกียจต่อแถว กินหน่อย~~~ กันพยายามยื่นหน้าเข้าไปใกล้ไอศกรีม ยื้อยุดกับริทโดยไม่เกรงใจสายตาคนอื่นที่กำลังมองพวกเขาสองคน


    ไม่ให้กิน กันปล่อย~~ เดี๋ยวชุดเปื้อน เช่ามาแพงนะเว้ย อย่าสิ ชุดจะหลุดแล้วเห็นไหม!! ริททั้งร้องห้าม ทั้งเอี้ยวหัวหนี ทั้งดัน แต่กันก็ใช้ความพยายามอันล้นเหลืออ้าปากงับไอศกรีมไปได้เรียบร้อย 


    อร่อย~~ กันเอ่ยขึ้น เรียวลิ้นเล็กแลบเลียรอบริมฝีปากตัวเองที่เปื้อนไอศกรีม เขาจัดชุดยูกาตะที่คลายตัวออกอันเนื่องมาจากการเล่นของตนเองจนเห็นแผ่นอกเปลือยสีน้ำผึ้งเนียนให้เรียบร้อย ก่อนจะมองไอศกรีมที่เหลือในมือเพื่อนด้วยดวงตาเป็นประกายอีกครั้ง


    พอเลย ให้กินคำเดียว อยากได้ก็ไปซื้อ ไม่พูดเปล่า ริทยังพยายามยัดส่วนที่เหลือใส่ปากตัวเองด้วย ทำให้กันเบะปากพลางมองเพื่อนอย่างขัดเคือง


    ขี้งก


    กันงกกว่านะ เพราะกันไม่ได้จ่ายแต่มาแย่งริทกินแทน -*-


    มันแพง


    อย่ามาแถ แค่ไอศกรีมไม่กี่เยน เทียบเป็นเงินไทยก็ไม่เท่าไร ไม่ต้องมาพูดว่าแพง ของเล่นกันแพงกว่าไอศกรีมเยอะไม่เห็นกันจะบ่น


    มันขึ้นอยู่กับความพึงพอใจไงริท กันพอใจจะจ่ายก็เลยไม่คิดว่ามันแพง


    งั้นก็อดกินไอศกรีมไปแล้วกัน


    ใจร้าย แบ่งหน่อยก็ไม่ได้ เป็นเพื่อนกันแท้ๆ กันทำหน้างอแกล้งงอนเพื่อน


    ไม่ง้อนะ ริทจะไปหาอย่างอื่นกินต่อ แล้วริทก็เดินนำกันไปอีกทาง


    โหย ริท! ง้อหน่อยก็ไม่ได้!


     

    กันโวยวายเล็กน้อยก่อนจะรีบเดินตามริทไปและความรีบร้อนของเจ้าตัวก็ทำให้เขาชนกับใครบางคนจนเสียหลักแต่ยังไม่ทันที่จะล้มลงเขาก็ถูกแขนของใครอีกคนโผเข้ามารั้งเอวไว้ได้ทันจนร่างเซถลามาปะทะแผ่นอกแกร่ง หลังจากหายตกใจกันก็เงยหน้าขึ้นมองคนที่ช่วยเขาเอาไว้ อีกฝ่ายเป็นชายหนุ่มรูปร่างสมส่วน สูงกว่าเขาประมาณ 5 – 6 เซนติเมตรได้ ผิวขาว ดวงตาเรียวเล็กคมกล้าที่มองมาทำให้เขารู้สึกแปลกประหลาดเล็กน้อย มันเหมือนมีมนต์สะกดบางอย่างที่ทำให้เขาไม่กล้าขยับตัว แทบจะลืมจังหวะหายใจเสียด้วยซ้ำ


     

    กัน!! ” แล้วเสียงของริทก็ดังขึ้นมาเรียกสติของกัน ร่างบางรีบขืนตัวออกจากอ้อมแขนหนาซึ่งอีกฝ่ายก็ยินยอมปล่อยแต่โดยดี


    ริท


     

    กันหันไปหาเพื่อนพลางจัดชุดให้เรียบร้อยเช่นเดิมพลางนึกในใจว่านิสัยซุกซนของเขามันไม่เหมาะกับชุดที่ต้องใช้ความเรียบร้อยสูงแบบนี้จริงๆ ขยับมากหน่อยก็เปิดตรงนั้นเผยตรงนี้ หากต้องใส่ตลอดทริป เขาคงได้โชว์เปลือยสักวันแน่ๆ -*-

     


    เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ทำไมไม่เดินตามริทไป ริทหาแทบแย่


    กันโดนชนจนเกือบล้มน่ะ ดีว่าพี่เขาช่วยไว้ทัน กันชี้นิ้วไปทางชายหนุ่มที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม เขาเรียกอีกฝ่ายว่า พี่ เพราะเดาเอาว่าน่าจะอายุมากกว่าเนื่องจากลักษณะท่าทางของอีกฝ่ายดูโตกว่าเขาพอสมควร


    พี่โน่!! ” ริทพูดชื่ออีกฝ่ายเสียงดังหลังจากมองตามกันและพบใบหน้าของคนคุ้นเคย


    อ้าว ริท ชายหนุ่มส่งยิ้มอ่อนโยนก่อนจะผายมือรับร่างน้องชายที่โผเข้ามากอด ทั้งคู่กอดกันครู่หนึ่งก่อนจะผละออก ริทจึงหันมาแนะนำพี่ชายให้เพื่อนสนิทที่กำลังยืนหน้างงได้รู้จัก


    พี่โน่ นี่กัน เพื่อนสนิทที่มหาวิทยาลัยของริท ส่วนกัน คนนี้คือพี่โตโน่ หรือกันจะเรียกพี่โน่แบบริทก็ได้นะ พี่เขาเคยเป็นเพื่อนบ้านกับริทสมัยเด็กๆ พอเรียนปริญญาตรีจบ พี่เขาก็ย้ายมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่น เราไม่ได้ติดต่อกันเลย ไม่นึกว่าจะได้มาเจอกันที่นี้ ริทยิ้มกว้างด้วยความดีใจอย่างปิดไม่มิด


    พี่ก็ไม่นึกว่าจะได้เจอริทที่นี่ ยินดีต้อนรับสู่ญี่ปุ่นนะริท แล้วก็...กัน โตโน่ยื่นมือมาตรงหน้ากัน กันลังเลเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือไปจับตอบเพื่อทักทาย


    ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่โน่


    ไม่ต้องพูดเพราะหรอก ทำตัวตามสบายนะ โตโน่ยิ้มให้กันอย่างจริงใจ ทำให้กันส่งยิ้มหวานตอบกลับไป


    “ พี่โน่มาเที่ยวเหรอหรือว่าบ้านพักอยู่แถวนี้


    พี่มาเที่ยวน่ะ เพิ่งเลิกเรียน แล้วนี่เราจะไปไหนกัน


    “ ว่าจะเดินเล่นอีกสักพักแล้วจะกลับ พรุ่งนี้ต้องไปคาวากุจิโกะแต่เช้าเลย ไม่อยากกลับโรงแรมมืด เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไม่ไหว


    พรุ่งนี้พี่ว่าจะไปที่นั่นเหมือนกันนะ แล้วพวกเราพักที่ไหนล่ะ เผื่อพี่จะได้ไปหา ชวนกินข้าวสักมื้อ โตโน่เอ่ยถาม ริทจึงบอกชื่อที่พักไป โตโน่พยักหน้ารับรู้ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมามองหน้าจอจากนั้นจึงพูดขึ้น 


    งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ ต้องกลับแล้ว มีธุระด่วน ไว้เจอกันใหม่ที่นู่น


    โอเคครับ บาย ริทโบกมือลาพี่ชายก่อนจะชวนกันเดินเที่ยวต่อ

     


    พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคนอยู่


     

    +-+-+-+-+-+-+-+-=O=N=S=E=N=+-+-+-+-+-+-+-+

     


    อีกไกลไหมกัน!! ริทตะโกนถาม


    ไม่ไกล ถ้าริทเดินเร็วกว่านี้! ” กันตะโกนตอบกลับ


    ก็มันเมื่อย เราเดินมานานแล้วนะ!!


    ก็ใครชวนลงรถผิดป้ายล่ะ!!


    แค่จำผิดนิดเดียวเอง!!


    เลิกบ่นแล้วตามมาได้แล้วเตี้ย!!


    แกสูงตายเลย!! -*- ” ริทบ่นก่อนจะลากขาเดินตามที่เดินนำเขาอยู่ข้างหน้า


     

                    วันนี้เป็นวันที่สามของการมาเที่ยวญี่ปุ่น ตอนนี้พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังที่พักที่ตั้งอยู่บริเวณทะเลสาบคาวากุจิโกะซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 ที่อยู่รอบภูเขาไฟฟูจิและเป็นสถานที่สวยติดอันดับในการถ่ายภาพวิวภูเขาไฟฟูจิ


     

    แล้วก็เพราะพวกเขามัวแต่ตื่นตาตื่นใจกับการได้เห็นภูเขาไฟฟูจิครั้งแรกในชีวิต ทำให้พวกเขาลงรถเมล์ผิดป้าย จากที่ต้องลงแถวที่พักกลับมาโผล่แถวพิพิธภัณฑ์มิวสิคฟอร์เรสแทน ด้วยระยะทางที่กันคิดว่าไม่ไกลมากนัก เจ้าตัวจึงตัดสินใจลากเพื่อนเดินเพื่อที่จะได้ไม่เสียเงินเพิ่ม แต่ดูเหมือนว่าไอ้ที่คิดว่าใกล้ มันจะไม่ใกล้อย่างที่คิด เขายังคงเดินไหวแต่เพื่อนสนิทที่ไม่ค่อยได้เล่นกีฬาแบบเขานี่สิ ดูท่าจะไม่ค่อยรอด ใช้เวลาเดินต่อเกือบยี่สิบนาที พวกเขาสองคนก็มาถึงที่พักในที่สุด

     


    แต่ทว่า...............


     

    หา? ไม่มีชื่อที่จองไว้??!! กันถามเสียงหลงเมื่อส่งริทไปเจรจากับพนักงานแล้วได้รับคำตอบที่น่าอึ้ง


    อือ ไม่ว่าจะชื่อริทหรือกันก็ไม่มีเลย! กันแน่ใจนะว่าจองเรียบร้อยแล้ว


    แน่ใจสิ ทำไงดีล่ะ เขาเช็คดีแล้วใช่ไหม


    ใช่ แล้วตอนนี้ก็ไม่มีห้องว่างเหลือเลย ลองให้เขาเช็คดูที่อื่นก็เต็มหมด โอ๊ย ทำไงดีเนี่ย นี่ก็เย็นมากแล้วด้วย! ” ริททิ้งตัวลงนั่งบนม้านั่งด้านหน้าที่พักอย่างหมดอาลัยตายอยาก


    อ้าว ริท เป็นอะไร แต่ดูเหมือนว่าชีวิตเขายังไม่สิ้นหวังเสียทีเดียว


    พี่โน่ ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นว่าใครเป็นคนทัก เขาก็รีบกระโดดตัวลอยไปกอดแขนพี่ชายอย่างว่องไว ยิ่งเห็นโตโน่สะพายเป้ด้วยแล้ว ยิ่งเข้าข้างตัวเองว่าพี่ชายพักที่นี่แน่นอน


    “ ไม่น่าเชื่อว่าเราจะเจอกันอีกแล้วนะ พักที่นี่เหมือนกันเหรอ คำถามของโตโน่ทำให้ริทตาวาว


    “ ทีแรกก็ใช่หรอกแต่เมื่อกี้เขาบอกว่าไม่มีชื่อที่จองไว้ ริทกำลังกลุ้มใจอยู่เนี่ย ไม่รู้คืนนี้จะนอนที่ไหน


    หือ? ไม่มีชื่อจอง? สงสัยเกิดความผิดพลาดตอนจอง ปกติที่ญี่ปุ่นไม่ค่อยพลาดนะ นานๆทีจะมีเคสแบบนี้


    พวกเราคงกำลังดวงซวย ริททำหน้างอ โตโน่อมยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปยีหัวน้องด้วยความหมั่นเขี้ยว


    โอ๊ย พี่โน่! หัวยุ่งหมด!


    อืม งั้นคืนนี้พักกับพี่แล้วกัน พี่มาคนเดียวแต่จองบ้านพักไว้ มีเราสองคนมาอยู่ด้วยคงอบอุ่นและไม่เหงา โตโน่พูดพลางมองไปยังกันที่ยืนนิ่งอยู่นานก่อนจะหันกลับมาสนใจริทเหมือนเดิมเมื่อเห็นว่ากันหลบสายตามองไปทางอื่น


    จริงเหรอ ไม่รบกวนพี่แน่นะ


    แน่สิ ถือว่าพี่เลี้ยงต้อนรับเราแล้วกัน ค่าใช้จ่ายตอนอยู่ที่นี่ พี่จะออกให้


    สวรรค์!! ขอบคุณมากนะพี่!! ” ริทโผเข้ากอดพี่ชายด้วยความดีใจก่อนจะผละออกเพื่อปล่อยให้โตโน่ไปเช็คอิน


     

                    ที่พักแห่งนี้เป็นบ้านพักแบบโฮมสเตย์ มีอุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ครบครันไม่ต่างจากบ้านพักส่วนตัว ภายในบ้านมีห้องนอนเพียงห้องเดียวแต่นอนได้หลายคน มีห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องน้ำ แบ่งสัดส่วนชัดเจนและลงตัว ทำให้กันกับริทถูกใจสถานที่นี้ไม่น้อย ตั้งใจว่าคราวหน้าจะกลับมาพักอีกและจะไม่ทำพลาดแบบคราวนี้อีกแล้ว


     

    หลังจากเช็คอินและเก็บของไว้ในบ้านเรียบร้อย พวกเขาก็พากันไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแถวนั้นและเดินกลับมาถึงที่พักในตอนหัวค่ำ ทั้งสามคนนั่งรถของที่พักซึ่งนำออกมาให้บริการรับ ส่งระหว่างบ้านพักกับร้านสะดวกซื้อ เพราะที่นี่ไม่มีอาหารให้บริการ พวกเขาจึงต้องออกมาซื้ออาหารด้วยตนเอง เมื่อมื้ออาหารเย็นผ่านพ้น โตโน่ก็ขอตัวเข้าไปทำงานที่หอบหิ้วมาด้วยภายในห้องนั่งเล่น กันกับริทจึงชวนกันขึ้นไปยังห้องนอน

     


    ริทกับพี่โน่เป็นแฟนกันเหรอ กันยิงคำถามทันทีที่เข้ามาในห้อง


    บ้าเหรอ ไม่ได้เป็นอะไรกัน ริทปฏิเสธทันควัน


    จริงเหรอ แต่ท่าทางเหมือนคนเป็นแฟนกันเลย หรือว่า...........แอบกิ๊กกันอยู่ กันทำหน้าล้อเลียนเพื่อนรัก


    หยุดเลยนะ ริทกับพี่โน่เป็นพี่น้องกัน ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้น กันเองเถอะ ที่ถามนี่เพราะสนใจพี่โน่หรือเปล่า ริทถามกลับ กันรีบส่ายหน้ารัวทันที


    สนใจบ้าอะไร กันเป็นผู้ชายนะ


    ริทก็เป็นผู้ชายไง


    แต่ริทหน้าหวาน~~~~~~~~ กันเชยปลายคางเพื่อนรักพลางทำท่าส่งจูบ ทำให้ริทแทบจะตบเพื่อนหัวทิ่ม


    หน้าหวานก็ชอบผู้หญิงได้เว้ย!


    แต่มันน่าจิ้นนะ ตอนที่เจอคราวก่อนมีคนมองริทกับพี่โน่เต็มเลย กันว่าเขาต้องคิดว่าริทกับพี่โน่เป็นแฟนกันแน่ๆ ถ้าเป็นเมืองไทยคงมีคู่จิ้นคู่ใหม่เกิดขึ้นในเพจมหาลัยแน่นอน!


    เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว ไม่ต้องสวมวิญญาณนักข่าวนอกมหาลัยก็ได้นะ แค่เรียนอย่างเดียวก็ปวดหัวจะแย่แล้ว ไม่อยากตอบคำถามสื่อใกล้ชิดอีก


    เพราะกลัวเก็บความลับไม่ไหวสินะ~~~


    ไอ้กัน!! ” ริทเตรียมจะเหวี่ยงเพื่อน กันจึงรีบกระโดดหลบไปอีกมุมของห้อง


    อย่าโมโหสิริท กันแค่แกล้งขำๆเอง~~ เห็นสนิทขนาดนั้นมันน่าจิ้นนะ บางทีที่เขาโผล่มาที่นี่อาจจะเป็นเพราะตามริทมาก็ได้ใครจะรู้~~~~ โอเค ไม่พูดแล้ว ที่นี่มีออนเซ็นด้วยนะ เราไปแช่น้ำร้อนกันไหม ไหนๆก็มาถึงที่นี่แล้ว กันรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่เพื่อนจะโมโหเขามากกว่านี้


    ไม่ ริทขี้เกียจ ริทง่วงแล้ว เดี๋ยวจะอาบน้ำและนอนเลย ตอนนี้มันสามทุ่มแล้ว วันนี้เหนื่อยทั้งวัน พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปถ่ายรูปและกลับโตเกียว ไม่มีอารมณ์ไปเล่นอะไรอีก จบ! พูดจบริทก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงทันที


    โห ริท ไปเป็นเพื่อนกันหน่อย กันอยากเล่น~~~~~~


    ไม่!! ” ริทปฏิเสธเสียงแข็งพลางฟุบหน้าลงบนหมอน ไม่ว่ากันจะเขย่าหรือเรียกด้วยน้ำเสียงแบบไหน ริทก็ไม่มีทีท่าจะใจอ่อนเลยสักนิด


    เออ กันไปคนเดียวก็ได้!


    บาย


     

    กันทำหน้างอ มองค้อนเพื่อนเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปหยิบอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้และเดินลงจากบันไดบ้าน ออนเซ็นที่นี่เป็นห้องอาบน้ำแบบแยกชาย-หญิงและอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักของเขามากนัก กันมองไปยังห้องนั่งเล่นเห็นว่าโตโน่ฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะคาดว่าน่าจะหลับ เขาไม่อยากรบกวนจึงไม่ได้บอกคนอายุมากกว่าว่าจะไปเล่นน้ำ ร่างบางสวมรองเท้าที่ทางที่พักจัดไว้ให้ก่อนจะเดินออกจากบ้านพักไปตามลำพัง


     

    และทันทีที่ประตูปิดลง คนที่แกล้งหลับก็ลืมตาขึ้น เขาขยับกายนั่งตัวตรงเช่นเดิมและหยิบบางสิ่งบางอย่างที่เตรียมไว้ออกมาก่อนจะลุกเดินออกจากห้อง มองตรงไปยังประตูบ้านด้วยสายตาที่ไม่อาจคาดเดาได้

     


    +-+-+-+-+-+-+-+-=O=N=S=E=N=+-+-+-+-+-+-+-+


     

                    ท่ามกลางอากาศหนาวยามค่ำคืน ร่างบางของกันเดินห่อตัวมายังโรงอาบน้ำ เนื่องจากเป็นโฮมสเตย์หลังเล็กๆเท่านั้นทำให้ในเวลานี้โรงอาบน้ำปราศจากผู้คน ริมฝีปากบางยิ้มกับตัวเองเบาๆเพราะอันที่จริงเขาค่อนข้างอายไม่น้อยถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วย พอเห็นแบบนี้ก็รู้สึกโล่งอกมากขึ้น  


     

    กันเปลื้องเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่า วางอุปกรณ์ที่จำเป็นของตัวเองไว้บนชั้นวางของจากนั้นจึงไปอาบน้ำล้างตัวก่อนจะเดินเข้ามาภายในโซนแช่น้ำ ร่างบางค่อยๆยื่นส่วนต่างๆของร่างกายลงไปแช่น้ำจนกระทั่งร่างกายสามารถปรับสภาพได้ เขาจึงหย่อนกายลงไปนั่งแช่ทั้งตัว ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเริ่มผ่อนคลายลงจนเขารู้สึกสบายตัว นึกเสียดายแทนเพื่อนที่ไม่ยอมมาแช่น้ำด้วยกันจนพลาดความรู้สึกดีแบบนี้              

     


    ครืด!


     

                    แต่เสียงเปิดประตูก็ขัดจังหวะอารมณ์สุนทรีของเขา กันหันไปมองทางต้นเสียงก็พบว่าบุคคลมาใหม่เป็นพี่ชายคนสนิทของเพื่อนรักนั่นเอง ภายในมือของโตโน่มีขวดเครื่องดื่มและแก้วติดมาด้วย ดวงตากลมโตเผลอมองสำรวจร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของอีกฝ่ายแต่เมื่อเงยขึ้นสบดวงตาคมที่จ้องมองมาทำให้เขารู้สึกตัวว่าเผลอทำกิริยาประหลาดออกไป กันจึงรีบหันกลับไปทางเดิมอย่างรวดเร็ว ใบหน้าหวานเห่อร้อนด้วยความอาย


     

    ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วยล่ะ


     

    เสียงทุ้มเอ่ยถามพลางสาวเท้าเข้าใกล้บ่อน้ำร้อนมากขึ้น เขาวางขวดสาเกและแก้วที่ถือมาด้วยลงบนพื้นใกล้กันก่อนจะหย่อนกายลงในน้ำบริเวณใกล้ตัวกัน ร่างสูงหันไปมองเพื่อนสนิทของน้องชายที่นอกจากจะไม่ตอบคำถามแล้วยังขยับตัวออกห่างจากเขาอีกด้วยแต่นั่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกขัดเคือง ตรงกันข้าม ท่าทีไว้ตัวของกันกลับทำให้เขายิ่ง...พึงพอใจ...มากขึ้น 

     


    พี่ไม่รู้เลยว่ากันมาแช่น้ำ คิดว่าออกไปเดินเล่นด้านหน้าโรงแรมเสียอีก โตโน่พยายามชวนคุย


    “ ใครเขาจะมาเดินเล่นในเวลาแบบนี้ล่ะครับ กันตอบไปเพื่อไม่ให้เสียมารยาท เขายังคงอายจนไม่กล้าหันไปสบตากับโตโน่


    นั่นสินะ พี่ก็ลืมนึกไป ปกติเวลามาที่นี่พี่ชอบมาแช่น้ำเวลานี้เสมอ มันเงียบสงบดีนะ กันว่าไหม ร่างสูงขยับเข้าไปใกล้กันมากขึ้นอีกนิด ริมฝีปากหยักยกยิ้มเมื่อเห็นว่ากันไม่ขยับหนีแล้ว อาจเป็นเพราะกลัวเสียมารยาท


    อืม ครับ มันสงบดี กันตอบรับพร้อมกับยกขาขึ้นมานั่งกอดเข่า รู้สึกประหม่ากับสายตาที่มองมาของโตโน่ แม้จะไม่ได้หันไปมอง เขาก็รู้สึกได้ว่ากำลังถูกอีกฝ่ายมองแทบจะพรุนไปทั้งร่าง


    ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เรามาดื่มด้วยกันหน่อยไหม โตโน่เอ่ยพลางรินสาเกใส่แก้วในขณะที่ดวงตาก็ลอบมองผิวสีน้ำผึ้งของกันไปด้วย แม้จะมีไอร้อนและมีเข่าที่ยกมาบดบังสายตาก็ไม่เป็นอุปสรรคในการมองสำรวจเรือนร่างของคนอายุน้อยกว่าสักเท่าไร 


    กันไม่ดื่มครับ กันปฏิเสธเมื่อโตโน่ยื่นแก้วกระเบื้องมาให้พร้อมกับขยับออกห่างแต่โตโน่ก็ขยับตามมาใกล้จนบัดนี้กันหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วเพราะตัวติดกับมุมของบ่อน้ำร้อนพอดี


    ดื่มสักหน่อยน่า ถือซะว่าเป็นการฉลองเพื่อมิตรภาพดีๆระหว่างเรา


    กันดื่มไม่เป็น


    “ ไม่เป็นก็ต้องหัดนะจะได้ไม่ถูกใครมอมเหล้าไง อีกอย่างสาเกขวดนี้มันหวาน มีแอลกอฮอล์น้อย รับรองได้ว่าไม่ขมและไม่เมาหรอก โตโน่หว่านล้อมพร้อมกับขยับมาประชิดร่างกายของกันมากขึ้น ดวงตาคมลอบมองผิวสวยอีกครั้งก่อนจะเลียริมฝีปากของตนเองแผ่วเบา


    แต่กันไม่ชอบครับ


    ไม่ชอบหรือว่ารังเกียจ ร่างสูงยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนอายุน้อยกว่า


    ปะ เปล่า กันไม่ได้รังเกียจ กันแค่มะ... กันหันหน้ามาหาโตโน่เพื่อจะแก้ไขความเข้าใจผิดแต่ก็ชะงักไปกับสายตาคมที่จ้องมองมา มันดูหวานเยิ้มแต่ก็แฝงไปด้วยความเย็นชาที่ทำให้เขาไม่กล้าเอื้อนเอ่ยอะไรออกมา


    “ ดื่มเป็นเพื่อนพี่หน่อยไม่ได้เหรอครับ โตโน่พูดเสียงเบาหวิวก่อนจะส่งแก้วให้กันที่รับไปอย่างงุนงง


    แต่...กัน... กันพยายามจะตอบปัดอีกครั้ง


    นะครับ แต่โตโน่ก็ไม่ยอมซ้ำยังจ้องมองเข้ามาในดวงตากลมโตราวกับจะสะกดให้กันทำตามคำขอ


    คือ...


    นะ โตโน่พูดพร้อมกับจับมือกันซึ่งกำลังถือแก้วอยู่นั้นให้ขยับไปจรดที่ริมฝีปากบาง


    กัน... ไม่ทันได้ปฏิเสธอีก เขาก็รู้สึกว่าของเหลวสีใสนั้นกำลังแทรกซึมเข้าไปในริมฝีปากจนต้องยอมกลืนมันลงไปจนหมด


    เป็นยังไง ขมไหม โตโน่ถามหลังจากรับแก้วคืนมาจากกัน


    ก็...ไม่ขมเท่าไรครับ ออกหวานๆมากกว่า


    ใช่ไหมล่ะ มันเป็นตัวที่อ่อนที่สุด ไม่มีใครดื่มแล้วเมาหรอก


     

                    จากนั้นโตโน่ก็ชวนกันคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อยๆโดยไม่ลืมที่จะส่งแก้วสาเกให้กันดื่มเป็นระยะ คนที่ปฏิเสธคนอื่นไม่ค่อยเก่งก็จำใจรับมาดื่มจนแก้วหลังๆเริ่มไม่มีท่าทีปฏิเสธอีกต่อไปเพราะรู้ว่าห้ามไปก็ไม่ได้ผล เขากับโตโน่สลับกันดื่มแต่ไม่รู้ทำไมเขากลับรู้สึกเหมือนตนเองดื่มอยู่คนเดียว โตโน่ยังดูเป็นปกติแตกต่างจากเขาที่เริ่มมึนหัวจนเห็นภาพรอบกายเบลอไปไม่น้อย ร่างบางขยับกายลงใต้น้ำมากขึ้นและวางศีรษะไปกับขอบบ่อ

     


    แล้วพองานวันนั้นจบลง พี่ก็รีบพาริทไปส่งโรงพยาบาล หมอนั่นมีไข้ตั้ง 39 องศาแต่ก็ยังมาช่วยงานพี่อีก ไม่อยากจะเชื่อเลย เพื่อนนายมัน...อ้าว...กัน... โตโน่หยุดเล่าเรื่องในอดีตทันทีที่เห็นกันนอนพิงขอบบ่อน้ำร้อนด้วยดวงตาปรือปรอย


    กัน...เมาแล้วเหรอ... โตโน่เอ่ยถามพร้อมกับสอดแขนเข้าไปรั้งร่างของกันให้เอนศีรษะมาซบไหล่เขาแทน มืออีกข้างกดขาของกันให้เหยียดออก กันไม่ได้ขัดขืนเพราะกำลังมึนงงแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร 


    อืม พี่ชวนกันดื่มแต่ทำไมพี่เหมือนดื่มไปนิดเดียวเอง กันพูดเสียงหงุงหงิง ลมหายใจร้อนที่รินรดลาดไหล่รวมทั้งเรือนร่างเปลือยเปล่าภายใต้ผืนน้ำทำให้โตโน่ปั่นป่วนไปหมด


    พี่ดื่มไปเยอะแล้ว กันไม่เคยดื่มก็คิดว่าตัวเองดื่มไปเยอะน่ะสิ มา ดื่มอีกสักแก้วนะ โตโน่รินแก้วใหม่มายื่นให้กันอีกโดยที่ดวงตาไม่ได้ละจากสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ใต้น้ำเลย 


    ไม่เอาแล้ว กันมึนหัว


    แก้วสุดท้ายแล้วครับ หมดแก้วนี้ก็พอแล้วนะ


    ไม่เอา พี่ดื่มเถอะ


    น่า นะครับ นิดเดียวนะ ครึ่งแก้วก็พอ นะ


    กันไม่ไหวแล้ว


    นิดเดียวเอง พี่ป้อนนะ แค่จิบเดียวเท่านั้น นะครับ โตโน่เว้าวอนและเขาก็สมใจเพราะในที่สุดกันก็ยอมดื่มสาเกที่เขาป้อนก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายดื่มส่วนที่เหลือเสียเอง


    อื้อ!


     

                    กันตกใจเมื่อจู่ๆก็ถูกมือใหญ่เชยคางให้หันไปทางที่อีกฝ่ายนั่งอยู่ก่อนที่ริมฝีปากอุ่นร้อนจะฉกวูบทาบทับลงบนกลีบปากนุ่มอย่างรวดเร็วจนเขาตั้งตัวไม่ทัน จากนั้นมือหนาก็เปลี่ยนไปกดท้ายทอยของเขาให้แนบแน่นขึ้นพร้อมทั้งป้อนสาเกในปากตนเองให้เขาได้ลิ้มรส ปลายลิ้นร้อนตักตวงน้ำเมาในเรียวปากบางก่อนจะถอนริมฝีปากออกพร้อมด้วยถอยใบหน้าห่างออกมาเพื่อสบตา


     

    ดวงตาคมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาหวานฉ่ำของคนอายุน้อยกว่า ริมฝีปากหยักยกยิ้มเมื่อเห็นคนที่หมายปองยังคงมึนงงคุมสติไม่ได้และเขาก็คงไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปง่ายๆ เขาโน้มลงกดจูบบนริมฝีปากบางอีกครั้งคราวนี้ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิม ความหวานของอีกฝ่ายแผ่ซ่านไปทั่วโพรงปาก ยิ่งลิ้มลองยิ่งติดใจ เขาไม่เคยรู้สึกต้องการใครมากขนาดนี้มาก่อน


     

    โตโน่ผละออกเมื่อรู้สึกว่ากันเริ่มหายใจไม่ออกแต่ไม่นานก็แนบริมฝีปากลงไปอีกครั้ง เขากดท้ายทอยกันไว้เพื่อให้จุมพิตได้ลุ่มลึกยิ่งขึ้น มืออีกข้างรวบเอวบางเข้ามากอดแน่นเพื่อกันไม่ให้อีกฝ่ายหลบหลีก รสจูบของโตโน่แทบทำให้คนไม่เคยจูบใครอย่างกันหลอมละลายราวขี้ผึ้งถูกไฟลน ยิ่งโตโน่รุกเข้ามาเท่าไรเขาก็ยิ่งรู้สึกปั่นป่วนมากขึ้นเท่านั้น สติที่มีเพียงน้อยนิดก็ยิ่งดูเหมือนจะหลุดลอยไปทุกที 


    =====CUT=====

    (อยากอ่านแปะเมลค่ะ ขออนุญาตส่งให้เฉพาะคนที่เม้นฟิคเท่านั้นนะคะ ขอบคุณค่ะ^^)


     

    ฝันดีนะครับเด็กน้อยของพี่


    +-+-+-+-+-+-+-+-=O=N=S=E=N=+-+-+-+-+-+-+-+



    อื้อ~~


     

                    เสียงครางอือแผ่วเบาดังขึ้นเรียกความสนใจจากคนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงข้างๆกันให้รีบลุกมาใกล้ มือเรียวเช็คอุณหภูมิร่างกายของเพื่อนสนิทและเมื่อเห็นว่าอาการของเพื่อนไม่ได้น่ากลัวอะไรจึงโล่งอกขึ้นมาบ้าง หลังจากที่เขาชักมือกลับไม่นานคนบนเตียงก็ลืมตาขึ้นช้าๆ กันกะพริบตาปริบๆจากนั้นจึงมองไปรอบห้องจนกระทั่งภาพหนึ่งผุดขึ้นมาในความทรงจำ ร่างบางจึงลุกพรวดขึ้นมานั่งด้วยความตกใจ


     

    โอ๊ย! ” แต่เพราะลุกเร็วเกินไป ทำให้ร่างกายที่ระบมอยู่แล้วได้รับการกระทบกระเทือนจนรู้สึกเจ็บ


    ค่อยๆลุกสิกัน ยังไม่หายดีนะ ทานยาก่อนๆ ริทส่งยาแก้ปวดและยาลดไข้ให้เพื่อนสนิท กันรับมาทานอย่างว่าง่ายก่อนจะเอ่ยถามขึ้น


    กัน...มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง กันสงสัย เพราะก่อนหมดสติไปเขาจำได้ว่าอยู่ที่ออนเซ็น ตอนนี้เขาอยู่ในบ้านพักและโตโน่ก็ดูเหมือนจะไม่อยู่เสียด้วย เขาไม่แน่ใจว่าโตโน่ได้เล่าอะไรให้เพื่อนตัวเล็กฟังบ้างหรือเปล่า


    พี่โน่อุ้มพามาน่ะสิ วันหลังไม่ต้องไปแช่ไอ้บ่อน้ำร้อนอะไรนั่นแล้วนะ มาถึงเหนื่อยๆก็หัดพักก่อนบ้าง ไปแช่ตอนเช้าก็ยังไม่สาย ดูสิ พอไปตอนกลางคืนแช่นานๆก็เป็นลม โชคดีที่พี่โน่ไปแช่น้ำพอดีไม่งั้นกันคงขึ้นอืดอยู่ในนั้น แล้วแผลที่ล้มยังเจ็บอยู่ไหม ริททำแผลให้แล้วนะแต่ก็ต้องระวังมันอักเสบ โชคดีที่แผลไม่ลึก ริทจับไปที่ผ้าก็อตบนหน้าผากกัน เจ้าตัวถึงได้รู้ว่าแผลที่ศีรษะได้รับการปฐมพยาบาลแล้ว


    กันเป็นลมงั้นเหรอ


    ก็ใช่น่ะสิ ป่วยจนเลอะเลือนหรือไง


    แล้วที่กันปวดตัวล่ะ


    กันล้มไง นี่จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ ไปหาหมอไหม สมองน่าจะกระทบกระเทือน


    ไม่ต้องหรอก กันรีบบอกปัดเพราะเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเพื่อนสนิท


    ถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องรีบบอกนะ ห้ามเกรงใจเด็ดขาด


    รู้แล้วน่า


    ลุกไหวไหม ไปล้างหน้าล้างตาเช็ดตัวสักหน่อยจะได้ทานข้าวกัน


    อือ ไหว งั้นกันไปอาบน้ำก่อนนะ


    อือ


     

                    กันลุกจากเตียงและเดินลงบันไดไปห้องน้ำซึ่งอยู่ชั้นล่างของบ้านพักอย่างยากลำบาก เขาปวดระบมไปทั้งตัวโดยเฉพาะสะโพก ทุกย่างก้าวที่เดินยิ่งทำให้เจ็บมากขึ้น ในสมองของเขากำลังประมวลเหตุการณ์เมื่อคืน คำบอกเล่าของริททำให้เขาเริ่มสับสนว่าตกลงโดยพรากเวอร์จิ้นจริงๆหรือเปล่า ดังนั้นเมื่อเข้ามาในห้องน้ำ กันจึงเริ่มสำรวจตัวเองแต่บนร่างกายของเขาก็ไม่พบร่องรอยผิดปกติ ทว่าเมื่อเห็นแผลบนหน้าผากก็เริ่มลังเลอีกครั้งเพราะหากมันไม่ใช่เรื่องจริงแล้วทำไมเขาถึงมีแผลบริเวณเดียวกันได้


     

                    แต่กันก็ได้คำตอบในเวลาไม่นานเมื่อระหว่างเช็ดตัวเขาพบสิ่งแปลกปลอมจากช่องทางด้านหลัง มันทำให้เขาแน่ใจว่าเรื่องเมื่อคืนมันเป็นเรื่องจริงและสิ่งที่โตโน่บอกริทมันคือคำโกหกของคนทำผิด กันเม้มริมฝีปากด้วยความเจ็บใจและโกรธเคือง เขารีบเช็ดตัวและสวมเสื้อผ้าก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อเอาเรื่องโตโน่เต็มที่ ถ้าริทสงสัย เขาก็จะตอบเลี่ยงไปว่าเขาต่อยพี่ชายเพื่อนสนิทเพราะหมั่นไส้

     


    กลับไปแล้ว? ” กันทวนคำตอบ หลังจากตะโกนหาโตโน่สักพัก เขาก็ได้คำตอบจากเพื่อนว่าโตโน่มีงานด่วน เก็บของกลับไปตั้งแต่เช้ามืดแล้วซ้ำยังใจดีจ่ายค่าที่พักให้เรียบร้อยแล้วอีกด้วย


    อือ มีอะไรหรือเปล่า ริทถามด้วยความสงสัย


    เปล่า ไม่มีอะไรหรอก กันแค่อยากขอบคุณที่เขาช่วยกันน่ะ กันปดออกไปพลางยิ้มเจื่อนๆแต่ในใจกำลังลุกเป็นไฟพร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ!!


    อ๋อ เอาไลน์ไปไหม ริทแลกกับพี่โน่ไว้เมื่อคืน ไว้เราไปถึงเมืองไทยเราค่อยนัดเจอก็ได้ เดี๋ยวอีกไม่กี่เดือนพี่เขาก็จะกลับไปอยู่ไทยแล้ว


    งั้นเหรอ อ่า ไว้เจอตอนนั้นก็ได้เนาะ ไว้เขากลับมาแล้วริทค่อยบอกกันแล้วกันนะ


    อือ ถ้าริทไม่ลืมนะ


     

    ริทยิ้มหวานให้เพื่อนก่อนจะลงมือเตรียมอาหารเช้าให้เพื่อนสนิทต่อ ทิ้งให้กันยืนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่เพียงคนเดียว

     


    หนอย! ฟันแล้วทิ้งชัดๆไอ้สารเลว!


     

    +-+-+-+-+-+-+-+-=O=N=S=E=N=+-+-+-+-+-+-+-+


     

    3 ปีต่อมา


     

    กัน เดี๋ยวช่วยไปเก็บภาพตรงมุมนั้นให้ทีนะ มีแขกผู้ใหญ่คนสำคัญเยอะเลย ริทจะไปสัมภาษณ์ท่านประธานในห้องรับรอง ริทที่บัดนี้อยู่ในชุดสูทสีชมพูดูเรียบร้อยเอ่ยปากบอกเพื่อนสนิท


    อือ ไปเถอะ กันที่อยู่ในชุดสูทสีฟ้าอ่อนยิ้มให้ริทก่อนจะหันมาถ่ายรูปต่อเมื่อเพื่อนเดินหายออกไปจากห้องจัดงาน

     


                    ณ เวลานี้กันกับริทเรียนจบแล้วและเข้าทำงานในบริษัทสิ่งพิมพ์แห่งหนึ่งด้วยกัน วันนี้บริษัทผลิตรองเท้ากีฬาส่งออกรายใหญ่ของประเทศจัดงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าและหุ้นส่วนรวมไปถึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ บ.ก.จึงส่งเขาสองคนมาทำข่าว


     

                    กันเก็บภาพบรรยากาศภายในงานไปเรื่อยๆก่อนที่จะรู้สึกขนลุกแปลกๆ ร่างบางลดกล้องถ่ายรูปในมือลงพลางหันไปมองรอบๆแต่ก็ไม่มีอะไรผิดสังเกต กันจึงหันกลับมาเก็บภาพต่อ แต่ความรู้สึกเหล่านั้นมันก็ไม่จางหาย เขารู้สึกว่าตนเองกำลังถูกจับจ้องจากใครบางคน มันเป็นความรู้สึกเดียวกับตอนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นคราวก่อน


     

    กันหยุดถ่ายรูปและเริ่มมองหาต้นตอของความรู้สึกแปลกๆนี้แต่เขาก็ยังไม่เห็นใครที่พอจะเป็น...โตโน่ เรื่องครั้งนั้นเขาไม่ได้เล่าให้เพื่อนฟังแต่ก็คอยระวังตัวอยู่เสมอและเขาคิดว่ามันคงไม่เกิดอะไรขึ้นอีกต่อไป เพราะโตโน่หายไปจากวงจรชีวิตของเขาและริทราวกับว่าไม่เคยมีตัวตนมาก่อนจนเขาวางใจ แล้วตอนนี้ความรู้สึกตอนนั้นก็กลับมาอีกครั้ง

     


    พลั่ก!

     


    ว้าย! ” เสียงร้องดังขึ้นตามมาด้วยความชื้นแฉะบริเวณแขนเสื้อของกัน


    เฮ้ย! ”  กันร้องออกมาด้วยความตกใจหลังจากเห็นแล้วว่าเสื้อที่เช่ามานั้นเลอะคราบไวน์แดง


    ขอโทษค่ะ ดิฉันขอโทษจริงๆ ขอโทษค่ะ ขอโทษ ดิฉันมัวแต่มองหาแขกที่สั่งไวน์แดงเอาไว้จึงไม่ได้ทันมองว่าคุณยืนอยู่ตรงหน้า ขอโทษนะคะ


    ไม่เป็นไรครับ คราวหลังก็ระวังหน่อยนะ กันพูดออกไป เขาไม่อยากเอาเรื่องเพราะรู้ว่าถ้าทำแบบนั้น หญิงสาวอาจโดนตำหนิหรือไล่ออกได้ เขาไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้ใครโดยเฉพาะคนที่มีชีวิตอยู่อย่างยากลำบากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว


    ค่ะ งั้นเดี๋ยวดิฉันพาไปห้องน้ำนะคะ เชิญค่ะ หญิงสาวผายมือให้กันเดินตามมาจนถึงห้องน้ำใกล้ห้องจัดเลี้ยง เธอจึงผายมือให้กันเดินเข้าไป


    ขอบคุณนะครับ


    ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ หญิงสาวกล่าวอีกครั้ง กันยิ้มให้บางๆก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำและทันทีที่ประตูปิดลงเธอก็ก้มหน้าล้วงเงินในกระเป๋าเสื้อออกมาพร้อมกับพำพึมเบาๆ


    พวกคนรวยเดี๋ยวนี้รสนิยมแปลก ผู้หญิงสวยๆมีเยอะแยะดันมาจ้างให้หลอกผู้ชายมาส่งแถมแพงซะด้วย แต่ก็ดี ได้เงินห้าพันมาใช้แบบไม่ต้องเปลืองแรงมาก เธอยิ้มกริ่มจากนั้นจึงหยิบป้าย กำลังทำความสะอาดมาวางขวางประตูเอาไว้ตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง


     

                    ทางด้านกัน หลังจากเดินเข้ามาด้านในห้องน้ำแล้ว เขาก็บ่นเรื่องค่าเช่าชุดที่ดูจากลักษณะเสื้อแล้วคงต้องซื้อต่อจากร้าน ร่างบางถอนหายใจยาวจากนั้นจึงเริ่มต้นถอดเสื้อสูทตัวนอกออกมาทำความสะอาด ตั้งหน้าตั้งตาซักแขนเสื้อจนไม่ทันได้มองว่ามีใครเดินออกมาจากห้องน้ำห้องที่อยู่ริมสุดทางเดิน ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าใครคนนั้นเดินเข้ามาซ้อนหลังและสูดกลิ่นหอมของเขาจากด้านหลังไปกี่ครั้งแล้ว


     

    และเมื่อกันเงยหน้าขึ้นมามองกระจกอีกครั้ง เขาก็ตกใจจนทำเสื้อหล่นจากมือเพราะในกระจกไม่ได้มีเงาของเขาเพียงคนเดียวอีกต่อไป ร่างบางหันหลังกลับมามองร่างหนาที่ยืนอยู่ด้านหลัง ดวงตากลมเบิกกว้างและสั่นไหวระริกอย่างเห็นได้ชัดและมันทำให้คนมองพึงพอใจ ความรู้สึก...กระหายใคร่ได้...เกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากมันบรรเทาไปเนิ่นนานจนเขาไม่อยากจะคิดเหมือนกันว่าตนเองสามารถทนห่าง...กัน...มากขนาดนี้ได้อย่างไร

     


    พะ พี่โน่


     

    กันเรียกชื่อชายหนุ่มเสียงเบาหวิว เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความตกใจระคนหวาดกลัว แข้งขาอ่อนแรงจนเกือบทรุดลงกับพื้น โชคดีที่แขนแกร่งรวบเอวบางไว้ได้ทัน ดวงตาคมสบเข้าไปในดวงตาหวาน ริมฝีปากหยักยกยิ้มอ่อนโยนแต่ดูน่าหวาดหวั่น ปลายนิ้วยาวไล้ไปตามดวงหน้าน่ารักและหยุดลงตรงริมฝีปากอิ่มสีชมพูอ่อน เขาลูบมันอย่างเบามือหากแต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยไฟปรารถนา 

     


    ได้เจอกันสักทีนะ ที่รักของพี่

     

     


    +-+-+-+-+-+-+-+-=T=H=E=E=N=D=+-+-+-+-+-+-+-+


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×