ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF: Yaoi The Star) Sassy Love (โน่กัน / อสรพิษ)

    ลำดับตอนที่ #44 : Precious Gift [NoGun]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 458
      4
      24 ต.ค. 60

    Precious Gift


     

    [HBD กัน]


     

                ข้อความสั้นๆถูกส่งเข้าไปในกลุ่มของแก๊งอสรพิษภายใต้แอพลิเคชั่นสีเขียวก่อนที่มือหนาจะวางโทรศัพท์มือถือลงและเริ่มทำงานต่อ แผ่นหลังเอนลงพิงโซฟาก่อนจะเริ่มท่องบทของตัวเองโดยมีผู้จัดการส่วนตัวสาวนั่งอยู่ข้างๆ วันนี้เขามีถ่ายละครทั้งวัน แอบเซ็งเล็กน้อยที่ไม่ได้เจอหน้าเจ้าตัวดีในวันสำคัญ ทำได้แค่ส่งข้อความไปหาเท่านั้น ป่านนี้คงไปทำบุญวันเกิดและฉลองกับครอบครัวอยู่ที่บ้านเกิด

     


    ตึ้งตึง~

     


                แต่ยังทำงานได้ไม่เท่าไร เสียงไลน์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง ชายหนุ่มวางเอกสารลงและหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอ่านข้อความ คราวนี้เป็นน้องชายตัวแสบอีกคนหนึ่งของเขานั่นเองที่ทักมาเป็นการส่วนตัว คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อร่างเล็กส่งข้อความมาบ่นว่าวันสำคัญทั้งทีส่งข้อความสั้นๆแค่นั้นมันใช้ได้ที่ไหน  เขาจึงกวนประสาทกลับไปแล้วไม่นานสงครามไลน์ก็เริ่มขึ้น โตโน่กำลังเมามันกับการแกล้งน้องจนทำให้ไม่ได้สนใจหน้าที่ที่ต้องทำอีก

     


    “ โน่เข้าฉากได้แล้ว เป็นอะไร นั่งยิ้มอยู่คนเดียว ” ผู้จัดการสาวที่คอยดูแลตัวเองเอ่ยถามขึ้นมา


    “ แกล้งริทมันนิดหน่อย ”


    “ อีกแล้วเหรอ แล้วพอน้องงอนก็มานั่งบ่นไปง้อไปอีก ”


    “ ก็มันกวนประสาทก่อน ฮ่าๆ ”


    “ ไปทำงานเลย ” หญิงสาวพูดก่อนจะดึงพระเอกหนุ่มให้ไปทำหน้าที่ของตัวเอง


     “ เดี๋ยวๆ ขออีกแป๊บ ” แล้วเจ้าตัวก็กลับไปพิมพ์ไลน์ตอบน้องรักต่อ


    “ ให้อีกสามนาทีนะ ตามมาเร็วๆ จะได้เลิกงานแล้วกลับบ้านไวๆ ”


    “ คร้าบ~~~ ” โตโน่ตอบรับก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาคุยกับริทเหมือนเดิม พอครบกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้ เจ้าตัวก็ออกจากไลน์และไปทำงานตามปกติ

     


    ========== P R E C I O U S G I F T ==========


     

    “ เป็นอะไรโน่ ทำไมดูเครียดแบบนั้น ”

     


    ผู้จัดการส่วนตัวของโตโน่เอ่ยปากถามเมื่อเห็นสีหน้าของศิลปินในความดูแลผิดปกติไปจากตอนก่อนถ่ายทำละคร หลังจากทำงานเสร็จและชายหนุ่มได้จับโทรศัพท์ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที สีหน้าเครียดขึงแบบนี้เธอไม่ได้เห็นมานานแล้วจริงๆ


     

    “ แฟนคลับเมนชั่นมาตรึมเลยพี่ ทั้งทวิตและไอจี ”


    “ มันก็ปกติไม่ใช่เหรอ ”


    “ ไม่ปกติ ”


    “ หมายความว่ายังไง ”


    “ มีแต่คนบอกให้ผมช่วยดูกันให้ที กันอัพไอจีแปลกๆ แล้วพอผมเข้าไปดู มันก็เป็นแบบนี้ ” โตโน่โชว์หน้าจอให้ผู้จัดการดู มันเป็นรูปภาพสีดำสนิทพร้อมแคปชั่นว่า...


     

    [คนไม่สำคัญ ต่อให้มีลมหายใจหรือไม่มีก็ไม่มีใครสนใจอยู่ดี]

     


    “ ตายจริง ทำไมเขียนอะไรแบบนั้น รีบโทรไปหาเร็วๆ เผื่อน้องมีเรื่องไม่สบายใจอะไรเราจะได้ช่วยคิดแก้ปัญหา ”


     

                โตโน่ต่อสายหากันแต่ไม่ว่าจะกดโทรออกกี่ครั้งก็ยังไร้สัญญาณตอบรับ ลองโทรไปหาคนอื่นก็ไม่มีใครรู้ว่ากันเป็นอะไร เขาจึงโทรไปหาริท เจ้าน้องชายก็ไม่รับสายอีก เขาเดาเอาว่าริทน่าจะกำลังเที่ยวเล่นอยู่เพราะเจ้าตัวไปต่างประเทศตั้งแต่เมื่อวันก่อน ร่างสูงขยี้ผมก่อนจะลูบหน้าตัวเองไปมาอย่างคนอับจนหนทาง ยิ่งติดต่อกันไม่ได้มากเท่าไร หัวใจของเขาก็ยิ่งร้อนรนอยู่ไม่เป็นสุข นึกโกรธตัวเองที่มัวแต่ทำงานจนไม่ได้สนใจเจ้าตัวแสบของเขามากเท่าที่ควร

     


    “ พี่ครับ ไปส่งผมที่บ้านกันได้ไหม ” โตโน่เอ่ยขอ เขารู้ว่ามันดึกมากแล้วและควรปล่อยให้ทุกคนกลับไปพักผ่อนแต่เขาก็ห่วงกันเกินกว่าจะปล่อยเวลาให้ผ่านไปนานกว่านี้


     

                รถตู้มาถึงบ้านกันในเวลาไม่นานแต่บ้านทั้งหลังก็ปิดไฟเงียบ พอลองโทรเช็คไปที่บ้านเกิดของกัน คุณพ่อก็ตอบว่ากันกลับมาบ้านที่กรุงเทพฯแล้วเพราะมีธุระด่วน ตอนนี้ห้าทุ่มจะครึ่งแล้ว กันไม่น่ามีงานที่ไหนแต่บ้านกลับเงียบราวกับไม่มีคนอยู่ มันทำให้เขาร้อนใจ ร่างสูงหันไปมองผู้จัดการสาวที่ชะโงกหน้ามาช่วยดูทั้งที่หน้าตาอิดโรยมากทำให้เขาเกรงใจไม่น้อยจึงบอกให้ทุกคนกลับไปพักผ่อนก่อน เขาจะรอกันอยู่ที่บ้าน

     


    “ แล้วโน่จะอยู่ยังไง บ้านเงียบแบบนี้คงไม่มีใครอยู่ ”


    “ ผมมีกุญแจบ้านครับ กันเคยให้ไว้ ”


    “ ไม่ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนจริงๆเหรอ อย่างน้อยก็มีคนช่วยคิด ”


    “ ไม่เป็นไรครับ พี่กลับไปพักเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ”


    “ แต่พี่เป็นห่วงโน่นะ แล้วก็เป็นห่วงเจ้ากันด้วย ”


    “ ไว้ถ้ามีอะไรคืบหน้า ผมจะรีบบอกพี่ทันที ”


    “ ถ้าต้องการแบบนั้นก็ตามใจ มีอะไรให้ช่วยก็โทรหาพี่ได้ตลอดนะ บางทีน้องอาจแค่เครียด ลองค่อยๆคุยกันดู อย่าเพิ่งคิดล่วงหน้าไปไกล ”


    “ ครับ ขอบคุณนะพี่ที่มาส่งผม ฝากบอกพวกนั้นด้วยว่าวันนี้ผมคงไม่กลับคอนโด จะอยู่กับกัน ” โตโน่หมายถึงสมาชิกในวงของเขา ผู้จัดการสาวรับคำก่อนจะขับรถจากไป

     


                โตโน่มองตามท้ายรถไปจนสุดสายตาก่อนจะหันกลับมามองตัวบ้านอีกครั้ง เขาเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะควานหากุญแจบ้านในกระเป๋าแต่ยังไม่ทันไขเข้าไป เสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นจากภายในตัวบ้านเสียก่อน


     

    ปัง!!

     


    “ กัน!

     


                ร่างสูงรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน หัวใจของเขาเต้นรัวเพราะรู้ดีว่าเสียงที่ได้ยินนั้นมันคือเสียงอะไร เขาเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้และจับอาวุธมามากมาย ทำไมจะไม่รู้ว่านั่นคือเสียงปืน แล้วยิ่งดังมาจากในบ้านของคนสำคัญ เขายิ่งหวั่นใจมากกว่าเดิมเป็นหลายเท่า ทันทีที่เข้ามาภายในตัวบ้านโดยยังไม่ทันได้ทำอะไร หัวใจของเขาก็แทบแหลกสลายเมื่อพบว่าเบื้องหน้านั้นมีร่างบางของกันนอนจมกองเลือดอยู่

     


    “ กัน!!!!!!!!! ” โตโน่ถลันเข้าไปประคองกันขึ้นมาในอ้อมกอด หยดน้ำตาลูกผู้ชายไหลพราก สองมือของเขาเต็มไปด้วยเลือดของกัน


    “ พะ...พี่โน่... ” เสียงแผ่วหวิวดังมาจากริมฝีปากบาง มือน้อยเอื้อมขึ้นหมายจะสัมผัสใบหน้าของคนที่รัก ร่างสูงจึงคว้ามากุมไว้ข้างแก้ม


    “ กัน! อดทนหน่อยนะ พี่จะพากันไปโรงพยาบาล ”


    “ มะ...ไม่...ต้อง...หรอก... ”


    “ ไม่ พี่จะพาไปโรงพยาบาล แข็งใจหน่อยนะกัน ”


    “ มัน...ไม่ทัน...อึก...แล้ว... ”


    “ ต้องทันสิ ยังไงก็ต้องทัน กันจะต้องไม่เป็นอะไร เราต้องได้อยู่ด้วยกันต่อไปสิ เรายังไม่ทันได้ฉลองวันเกิดกันเลยนะ ”


    “ เว...ลา...ไม่...มี...แล้ว...  ”


    “ อย่าเพิ่งพูดสิกัน เราต้องรีบไปโรงพยาบาลนะ ” โตโน่พยายามช้อนกันขึ้นอุ้มแต่กันกลับขืนตัวไว้


    “ พี่โน่...กัน...รัก...พี่... ”


    “ พี่ก็รักกัน พี่รักกันมาก รักกันเพียงคนเดียว อย่าทิ้งพี่ไปนะกัน ”


    “ กันรักพี่...ที่สุด... ” สิ้นคำนั้น ดวงตากลมหวานที่โตโน่ชอบมองก็พลันปิดลงเป็นสัญญาณของการจากลา


    “ ไม่!!!! กัน!!!! กันตื่นสิ กัน!!!!!!!

     


    เสียงทุ้มร้องตะโกนเรียกให้กันลืมตาตื่นขึ้นมามองเขาแต่ก็ไร้สัญญาณใดๆตอบกลับ กันยังคงหลับตานิ่งไม่ไหวติง โตโน่สะอื้นไห้ด้วยหัวใจร้าวราน วันนี้เป็นวันเกิดของกัน เป็นวันสำคัญ ทำไมถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ มืออันสั่นเทารีบหยิบโทรศัพท์มือถือหมายจะเรียกรถพยาบาลแต่เงาวูบไหวบางอย่างกลับปรากฎขึ้นที่หางตา เขาจึงหันไปมองและพบว่ามีร่างในชุดดำกำลังย่องออกไปทางหน้าบ้าน เมื่อเห็นดังนั้นเขาจึงวางร่างของกันลงและวิ่งตามออกไป

     


    “ หยุดนะ!!


     

                ร่างในชุดดำนั้นหยุดชะงักและหันมามองโตโน่เพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะรีบมุ่งหน้าไปทางรั้วบ้านเช่นเดิม ร่างสูงรีบวิ่งตามไป เขามั่นใจว่าคนๆนี้คือคนที่ทำร้ายกัน กันไม่ได้ทำอะไรสิ้นคิดตามที่ลงไอจีแต่กันโดนคนๆนี้ฆ่า เพราะในมือของมันยังมีปืนอยู่ แต่เขาไม่กลัว มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาไม่มีอะไรที่ต้องกลัวอีกต่อไป เขากระโจนเข้าไปคว้าตัวคนร้ายได้ก่อนที่มันจะวิ่งออกจากบ้าน


     

    เขาสู้รบกับมันไม่นานก็สามารถกระชากหมวกไอ้โม่งออกจากศีรษะมันได้ แล้วเมื่อเห็นว่าคนร้ายคือใคร เขาก็ต้องตกตะลึง ชาไปทั้งร่างจนเผลอปล่อยร่างนั้นให้กลับมาเป็นต่ออีกครั้ง บัดนี้ชายหนุ่มอีกคนกำลังยืนมองเขาด้วยรอยยิ้มหวานใสพร้อมทั้งยกปลายกระบอกปืนมาจ่อหน้าเขา

     


    “ ระ...ริท... ” มันเกินกว่าที่คาดไปมาก คนที่เขาเข้าใจว่าไปต่างประเทศ ทำไมมาปรากฏตัวตรงนี้พร้อมทำเรื่องเลวร้ายขนาดนี้ได้ ทำไมต้องเป็นคนๆนี้ ทำไมต้องเป็นริท


    “ ไง ตกใจขนาดนั้นเลยเหรอพี่โน่ แค่เห็นหน้าริทเองเนี่ยนะ ” ใบหน้าหวานยังคงเต็มไปด้วยความสดใสเหมือนเคย ไม่เหมือนคนที่เพิ่งทำเรื่องร้ายกาจลงไป


    “ ทำไม...ริท... ” เสียกันก็ไม่ต่างจากเสียดวงใจแล้ว ยังต้องมารู้มาเห็นว่าริทเป็นคนทำอีก ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนโดนมือที่มองไม่เห็นควักเอาแก้วตาของเขาไปบดขยี้ไม่ต่างจากหัวใจ


    “ ทำไมน่ะเหรอ ไม่น่าถามนะ พี่กับกันทำอะไรกับริทไว้บ้างล่ะ ”


    “ ทำ? ทำอะไร? ”


    “ หึ นึกไม่ออกเหรอ ริทจะบอกให้ก็ได้ พี่กับมันเหยียบย่ำหัวใจริทไง!!


    “ อะไรนะ ”


    “ ริทรักพี่ ”


    “ ริท..! ” คำสารภาพรักของริททำให้โตโน่อึ้งไม่น้อย


    “ ตอนแรกริทก็ไม่คิดอะไร โดนจับคู่ก็เล่นตามน้ำไปด้วยความสนุก จนกระทั่งหลังๆพี่เอาแต่หยอด เอาแต่พูดหวานๆใส่ มันทำให้ริทหวั่นไหว ความใกล้ชิดทำให้ริทรู้สึกแปลกๆกับพี่จน...รัก...ไปตอนไหนไม่รู้... ”


    “ ..... ”


    “ แต่แล้วจู่ๆ พี่ก็มาบอกว่าชอบกัน พี่รู้ไหมว่าริทเจ็บแค่ไหน ในเมื่อไม่รักแล้วมาให้ความหวังริททำไม!


    “ พี่ขอโทษ พี่ไม่รู้... ”


    “ ไม่รู้เหรอ คนที่ผ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วนแบบพี่น่ะเหรอจะไม่รู้ว่าทำแบบไหนถึงทำให้อีกฝ่ายหลงรักได้น่ะ! พี่มันเลว ”


    “ ใช่ พี่มันเลว ในเมื่อพี่เลว ริทก็ทำร้ายพี่สิ ริททำร้ายกันทำไม กันมันเป็นเพื่อนริทนะ ”


    “ ใช่ มันเป็นเพื่อนริท เพื่อนที่รู้ว่าริทรักใครแต่มันก็ยังแย่งไป!


    “ เรื่องหัวใจมันบังคับไม่ได้นะริท ”


    “ ริทบังคับหัวใจใครไม่ได้ ริทถึงต้องส่งมันไปลงนรกก่อนพี่ไง พี่จะได้รู้ว่าริทเจ็บแค่ไหนเมื่อต้องเสียพี่ให้มัน!


    “ ได้ ถ้าริทจะฆ่าพี่ ก็เอาเลย ถ้าความตายของพี่มันจะชดเชยความผิดที่พี่ทำต่อริทได้ ก็ลงมือได้เลย  ” โตโน่พูดพลางหลับตาลงอย่างรอคอย ร่างเล็กมองภาพนั้นด้วยความเจ็บปวดใจแต่ความแค้นที่มีทำให้เขาไม่สามารถคุมตัวเองได้


    “ ถ้าพี่ต้องการ ริทก็จะสนองให้... ” มือบางขึ้นนกก่อนจะค่อยๆเหนี่ยวไกปืน


     

    ปุ๊ง!

     


    ~~Happy Birthday To You Happy Birthday To You Happy Birthday Happy Birthday  Happy Birthday To You~~


     

                            เสียงแปลกๆที่ดังขึ้นก่อนที่เสียงร้องเพลง Happy Birthday จะตามมาและความรู้สึกว่างเปล่าไร้ความเจ็บปวดจากการโดนยิงทำให้ร่างสูงลืมตาขึ้น ภาพเบื้องหน้าทำให้อ้าปากค้างและงุนงงมากเกินเดิมร้อยเท่าพันเท่า ปลายกระบอกปืนมันไม่ใช่ลูกกระสุนแต่เป็นธงที่มีตัวอักษร HBD แปะหราอยู่ แล้วเบื้องหน้าของเขาก็ไม่ได้มีแค่ริท...แต่มี กัน(ในสภาพเสื้อยืดที่มีเลือดท่วม)ยืนอยู่ด้วย ในมือบางถือเค้กที่จุดเทียนเรียบร้อยสวยงาม ด้านหน้าเค้กเขียนคำว่า สุขสันต์วันเกิดอสรพิษมันยิ่งทำให้โตโน่งงงวยไปกันใหญ่ วันนี้วันเกิดกันแล้วนี่มันอะไรกัน!

     


    “ พี่โน่ พวกเราไม่ได้ฉลองวันเกิดด้วยกันมานานแล้วนะ ไหนๆปีนี้ก็อยู่พร้อมหน้า เราฉลองกันทีเดียวเลยแล้วกันเนาะ ” กันยิ้มหวาน ไม่ได้สนใจสีหน้านิ่งเฉยของโตโน่สักนิด


    “ พี่โน่ยังไม่หายอึ้งอีกเหรอ ” ริทเอ่ยถาม


    “ นี่มัน...อะไรกัน? ” พอเริ่มตั้งสติได้ ร่างสูงก็เอ่ยถามออกไป


    “ อย่าเพิ่งถามได้ไหม เทียนมันจะละลายหมดแล้ว เดี๋ยวอดกินเค้กหรอก ” กันประท้วง เรื่องกินนี่เขายอมไม่ได้จริงๆ -_-


    “ วันนี้วันเกิดกัน กันก็เป่าสิ ”


    “ ไม่เอา~~~ กันอยากเป่าด้วยกันสามคน!


    “ อธิษฐานแล้วเป่าเค้กซะ ” โตโน่ยังไม่ยอม นั่นทำให้บรรยากาศมาคุแปลกๆ ริทจึงรีบแก้สถานการณ์


    “ กัน เป่าสิ เดี๋ยวค่อยจุดเทียนแล้วเป่าอีกรอบก็ได้ ยังไงนี่ก็วันเกิดกัน กันควรเป็นเป่าเค้กนะ ” ริทรีบเร่งพลางพยักพเยิดให้กันสังเกตสายตาโตโน่ดีๆ


    “ ก็ได้ ” กันยอมอย่างง่ายดาย ไม่ใช่อะไร เขารู้ดีว่าโตโน่กำลังมาคุ เขาไม่ควรงอนอีก เดี๋ยวไม่มีใครง้อ -//-


    “ มาๆ จุดใหม่ๆ ทีนี้ก็เป่าพร้อมกันสามคนเนาะ ” ริทหยิบไฟแช็กในกระเป๋ากางเกงออกมาและเริ่มจุดเทียนอีกครั้ง คราวนี้พวกเขาต่างหลับตาอธิษฐานและเป่าเทียนพร้อมๆกัน


    “ พวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปนะ ไม่ว่าทุกข์หรือสุข เราจะฝ่าฟันไปด้วยกัน ” ริทยิ้มทำให้อีกสองคนยิ้มตาม ไม่ต้องพูดอะไรมาก พวกเขาก็รู้ดีว่าจะไม่มีใครปล่อยมือจากกันไปอีก


    “ เอาล่ะ ทีนี้ก็อธิบายมาสักที ” โตโน่กระตุกยิ้มเย็น ทำให้ใบหน้าของคนเป็นน้องเจื่อนซีด


    “ เรายังไม่ได้กินเค้กกันเลย ไปกินเค้กกันก่อนเถอะ ” ริทพยายามหันเหความสนใจของโตโน่


    “ ก่อนกินเค้ก ขอไปล้างตัวก่อนได้ไหม เหนียวมากเลย ” กันก็พยายามเลี่ยงเผชิญหน้ากับพี่ชายเช่นกัน


    “ เล่ามา!!!

     


    ========== P R E C I O U S G I F T ==========


     

    เบื่อจัง~~~~ ’

     


                เรื่องมันเริ่มจากการที่ริทเบื่อ ไม่มีอะไรทำ มันว่างมากไปนิด ร่างเล็กจึงวางแผนแกล้งพี่ชายคนโตที่ช่วงนี้ฮอตจนน่าหมั่นไส้แต่จะให้แกล้งคนเดียวก็คงไม่สำเร็จและไม่สนุก เขาจึงไลน์ไปหาเพื่อนสนิทให้มาร่วมด้วยช่วยกันแกล้งพี่ชายผ่านวันเกิดของกัน ปกติการเซอร์ไพรส์วันเกิดต้องเป็นการแกล้งเจ้าของวันเกิดแต่คราวนี้ไม่ใช่ พวกเขาจะแกล้งแขกรับเชิญอย่างพี่ใหญ่แทน


     

    มันเริ่มจากการหลอกให้โตโน่เข้าใจว่าริทไปต่างประเทศเพื่อตัดหนทางไม่ให้โตโน่มีตัวช่วยเมื่อเกิดเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ ส่วนกันก็กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวตามปกติ รอจนโตโน่ทักมาอวยพรวันเกิด ริทจึงทักไลน์ไปแกล้งพี่ชาย ส่วนกันก็อาศัยจังหวะที่โตโน่ทำงานลงไอจีให้ใครต่อใครหวาดหวั่นไปทั่วและหลังจากที่กันเสร็จจากการฉลองวันเกิดกับที่บ้าน เขาก็รีบกลับมากรุงเทพฯและวางแผนกับริทให้รัดกุมอีกครั้ง หลังจากเตรียมของ ต่อบทและซักซ้อมกันดีแล้ว พวกเขาก็แค่รอเวลาให้โตโน่มาเท่านั้น จากนั้นมันก็เป็นไปตามที่มันควรจะเป็น

     


    “ เรื่องมันก็ประมาณนี้แหละพี่ ไม่มีไรมาก ” ริทพูดพลางตักเค้กเข้าปาก


    “ สบายๆ ล้อเล่นขำๆ ” กันยักไหล่พร้อมกับจัดการเค้กส่วนที่เหลือจนหมดเกลี้ยง


    “ พวกนายทำกันเองแค่สองคน? ”


    “ เปล่าๆ ทำกันหมดนั่นแหละ ” ริทบอก


    “ ฮะ? ทำกันหมด? หมายถึง... ”


    “ พี่เมย์ พี่ๆในวงของพี่ ครอบครัวกัน เพื่อนกัน พี่ๆเออาร์ ทุกคนรู้หมดแหละ ” กันตอบ


    “ หมดเลยเหรอ... ” โตโน่นึกถึงเสียงร้อนรนของเพื่อนเขาและกัน น้ำเสียงอ่อนโยนของบิดาของกัน แล้วก็ใบหน้าเป็นห่วงเป็นใยของผู้จัดการส่วนตัวของเขาด้วย ทั้งหมดนั่น...มันเป็นแผน...


    “ อาฮะ~~~~ ” สองแสบประสานเสียงกันด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่ง


    “ โว๊ยยยยยยยยยยยยยยยย ”


    “ ขอโทษษษษษษษษษษษษษษษ ”


    “ รู้หรือเปล่าว่าพี่ใจหายแค่ไหน เสียใจแค่ไหนกับเรื่องที่เกิดขึ้นน่ะ เล่นแบบนี้ได้ยังไง นี่มันเรื่องคอขาดบาดตาย มันแรงไปนะเว้ย!


    “ พวกเราขอโทษ ต่อไปพวกเราจะไม่เล่นแบบนี้อีกแล้ว ” ริทพูดเสียงอ๋อย คราวนี้พี่ชายดุจริงจังจนเขาไม่กล้าเถียงเลย


    “ คราวหน้าพวกเราจะเล่นพอดีๆ ไม่เอาเรื่องเป็นเรื่องตายมาเล่นอีก พี่โน่อย่าโกรธเลยนะ นะๆๆ ” กันส่งเสียงอ้อนพร้อมกะพริบตาปริบๆ มันทำให้โตโน่ใจอ่อนทุกครั้งและครั้งนี้...ก็น่าจะเป็นแบบนั้น


    “ เฮ้อ ห้ามเล่นอะไรแบบนี้อีกนะ ถ้าจะเล่นก็ไปเล่นกับคนอื่นไม่ใช่มาเล่นแบบนี้กับพวกเดียวกันเองเข้าใจไหม ”


    “ อ้าว นี่ไม่ห้ามเหรอ ” ริทถามด้วยความสงสัย


    “ ห้ามไง ห้ามเล่นงานกันเอง ถ้าจะเล่นให้ไปเล่นกับคนอื่น ”


    “ เราก็นึกว่าจะเป็นคนดี ”


    “ ยังอีก คดียังไม่หมดอายุความนะ อย่าเพิ่งวกมากัดพี่ เดี๋ยวเถอะ ”


    “ เออๆ ยอมให้ก็ได้ เห็นว่าคราวนี้ผิดจริงหรอก ”


    “ มาๆ เคลียร์กันจบแล้วก็มาหาอะไรเล่นกันเถอะ นานๆทีจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเนาะ ” กันชวนโตโน่กับริทให้กลับมาคุยเรื่องฉลองวันเกิดของเขาอีกครั้ง


     

                แล้วปาร์ตี้แสนเรียบง่ายแต่อบอุ่นของพวกเขาก็เริ่มต้นขึ้น พวกเขากิน ดื่มและเล่นกันอย่างสนุกสนาน ตั้งแต่แยกย้ายกันไปตามทางเดินของแต่ละคน พวกเขาก็ไม่มีโอกาสที่จะมีช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกเลย แม้จะมีงานด้วยกันบ้างแต่มันก็คือการทำงาน แม้จะสนุกที่ได้ทำงานด้วยกันแต่ก็ไม่ได้สบายใจเท่ากับการได้พบเจอกันโดยปราศจากเรื่องงาน มันทำให้พวกเขาหวนนึกไปถึงตอนที่อยู่ในบ้าน ทุกๆช่วงเวลามันคือความทรงจำที่งดงามและพวกเขาจะเก็บมันไว้ในใจตลอดไป

     


    “ โคตรมีความสุขเลย ” กันพูดพลางทิ้งตัวลงนอนบนพื้นห้องหลังจากที่ช่วยกันทำความสะอาดห้องรับแขกจนกลับมาเรียบร้อยดังเดิม


    “ อยากให้เวลานี้มันผ่านไปช้าๆจัง เราจะได้อยู่ด้วยกันนานๆ ยังมีหลายอย่างที่เคยอยากทำด้วยกันแต่ยังไม่ได้ทำเลยสักอย่างนะ ” ริทนอนลงข้างๆกัน


    “ บางทีโชคชะตามันก็กำหนดให้เราเดินคนละทางทั้งที่มีหลายอย่างที่เราชอบเหมือนกันและมันน่าจะไปด้วยกันได้ แต่ก็นั่นแหละ ในความเหมือนก็ย่อมมีความต่าง เรามีฝันเดียวกัน เราถึงได้มาเจอกัน แต่เราก็มีรายละเอียดยิบย่อยของความฝันและหน้าที่ความรับผิดชอบที่แตกต่างกันด้วย โชคชะตามันเลยแยกเราออกจากกัน ในความเหงามันก็มีบางสิ่งที่ดีนะ มันดีตรงที่ถ้าเราไม่ลองเดินกันคนละทาง ไม่ลองห่างกันไปดู แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเวลาที่อยู่ด้วยกันมันดีแค่ไหน ห่างกันบ้าง เจอกันบ้าง มันก็เป็นสีสันไปอีกแบบ ” โตโน่เอนกายลงนอนอีกฝั่งของกันบ้าง


    “ แต่คงจะดีถ้าทุกอย่างไปด้วยกันได้เหมือนตอนเริ่ม ” กันพูดขึ้นมาก่อนที่จะรู้สึกว่ามือทั้งสองข้างถูกกุมเอาไว้ เขามองไปทางโตโน่กับริทก็พบว่าทั้งคู่กำลังหันมามองเขา


    “ ระหว่างทางอาจไปด้วยกันไม่ได้แต่เราก็เดินเคียงข้างจนไปบรรจบกันที่ปลายทางได้นะ ถ้ามิตรภาพของเราจะยังเป็นเหมือนเดิม ” ริทพูดด้วยรอยยิ้ม ทำให้โตโน่กับกันยิ้มตาม มือของเขาพวกเขากระชับกันแน่นขึ้นเหมือนเป็นคำสัญญา


    “ มันต้องเหมือนเดิมสิ มันจะไม่มีวันเปลี่ยน หรือต่อให้มันจะเปลี่ยน พวกเราก็จะพยายามต่อให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม ” โตโน่เอ่ยออกมา


    “ พี่นั่นแหละชอบทำให้มันเปลี่ยน! ครั้งแรกก็แต่งงาน ครั้งที่สองก็เปลี่ยนน้องมาเป็นเมีย! ” ริทโพล่งขึ้นมา


    “ ไอ้ริท!! ยังไม่ถึงขั้นนั้น! ” กันร้องท้วง ใบหน้าหวานแดงระเรื่อด้วยความอาย


    “ คดีพี่แม่งไม่หมดอายุความสักทีวะ ”


    “ ล้อเล่นน่า ฮ่าๆๆๆ ” ริทขำออกมาพลอยทำให้คนอื่นหัวเราะตามด้วย


    “ ดึกแล้ว ไปนอนกันเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้านะ พี่จะพาไปเที่ยว ไหนๆก็ว่างกันอยู่นี่ ” โตโน่พูดพลางลุกขึ้นนั่ง


    “ ไปเที่ยวเหรอ!! ” กันกับริทดูกระตือรือร้นลืมเรื่องดรามาไปจากหัวทันที


    “ ใช่ ไปไหม ”


    “ ไป!!!!!! ” สองแสบประสานเสียงกัน สำหรับเรื่องเที่ยวมันไม่ต้องใช้เวลาคิดนานหรอก


    “ งั้นก็ไปอาบน้ำนอน พรุ่งนี้แต่งตัวหล่อๆแพงๆแล้วไปเที่ยวกัน ”


    “ เย้!! ” กันกับริทลุกพรวดและวิ่งขึ้นห้องไปอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกเขาไม่เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จากพี่ชาย


    “ อย่าคิดว่าจะแกล้งพี่ได้ฝ่ายเดียวไอ้ตัวแสบ หึหึ ”


    .


    .


    .


    ห้องนอนกัน


     

    หมับ!

     


    “ เฮ้ย! ” กันสะดุ้งด้วยความตกใจหลังเดินออกจากห้องน้ำมาแล้วโดนใครบางคนสวมกอดจากด้านหลัง


    “ ตกใจอะไรขนาดนั้น ” โตโน่ถามพลางอมยิ้มขำคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ


    “ ก็มาเงียบๆนี่ แล้วพี่เข้ามาได้ยังไง กันว่ากันล็อคแล้วนะ ” ไม่ล็อคได้ไง ทำความผิดไว้ ขืนเปิดห้องให้เดี๋ยวโดนลงโทษ


    “ ไขเข้ามาสิ กุญแจก็มี~~


    “ พี่นี่มัน...! ” กันจิ๊ปากอย่างขัดใจ เขาลืมไปเลยว่าให้กุญแจบ้านทั้งหลังกับโตโน่ไปตั้งแต่เริ่มคบกันใหม่ๆ


    “ วันนี้แสบมากนะไอ้ตัวดี ”


    “ ก็ขอโทษไปแล้วไง ปล่อยได้แล้ว กันง่วง ” กันพยายามขืนตัวออกจากอ้อมกอดแต่ทำยังไงก็ไม่หลุด


    “ นอนไม่ได้ กันยังไม่ได้ชดใช้ค่าเสียหายเลยนะ ” โตโน่กระซิบข้างหู ทำเอากันขนลุกซู่


    “ คะ ค่าเสียหายอะไร ”


    “ ที่ทำให้พี่เกือบหัวใจวายเพราะคิดว่ากันตายแล้วจริงๆไง ” ไม่พูดเปล่า ริมฝีปากหยักยังเม้มใบหูนิ่มเบาๆอีกด้วย


    “ กะ ก็พี่ไม่ฉลาดเองนี่ ” กันเบี่ยงตัวหลบแต่ก็หลบได้ไม่มากเพราะถูกกอดไว้ทั้งตัว


    “ หือ หมายความว่ายังไง ” ปลายจมูกคลอเคลียแก้มนุ่ม ยิ่งทำให้คนในอ้อมกอดสั่นไปหมดทั้งยังหน้าแดงไม่หยุด


    “ ก็ถ้าพี่สังเกต พี่จะเห็นว่ากันยังหายใจอยู่ พี่มันไม่มีสติเอง อย่ามาโทษคนอื่น ปล่อยนะพี่โน่ ” กันเริ่มดิ้นมากขึ้นเมื่อมือใหญ่ของอีกฝ่ายเริ่มลุกล้ำเข้ามาใต้เสื้อ


    “ ตอนนั้นพี่ตกใจนี่ เจอเรื่องแบบนี้เข้าไป ใครจะตั้งสติไหว ” โตโน่กดจมูกลงบนขมับบาง สูดกลิ่นหอมเฉพาะตัวของกันเข้าเต็มปอด


    “ ไม่รู้ล่ะ ยังไงกันก็ไม่ผิด ปล่อยสิพี่โน่ วันนี้วันเกิดกันนะ ห้ามขัดใจ!


    “ ไม่เห็นเกี่ยวเลย เอ้า ไม่เอาเรื่องที่หลอกพี่ก็ได้ งั้นมาต่อเรื่องของขวัญวันเกิด ”


    “ ของขวัญวันเกิดอะไร ”


    “ ก็ของพี่กับของกันไง กันยังไม่ได้ให้พี่ พี่ก็ยังไม่ได้ให้กันเลย มีแต่พ่อแม่กันให้พี่ แล้วก็พ่อแม่พี่ให้กัน ”


    “ พี่พูดอะไร พ่อแม่กันให้อะไรพี่ แล้วพ่อแม่พี่ให้อะไรกัน กันงงไปหมดแล้วนะ ” กันทำปากยื่น โตโน่ยิ้มกริ่มก่อนจะหมุนตัวคนในอ้อมแขนให้หันมาเผชิญหน้า ปลายนิ้วเชยปลายคางอีกฝ่ายให้เงยหน้าสบตา


    “ กันไง ”


    “ ฮะ? ” คำตอบของโตโน่ยิ่งทำให้กันงงไปกันใหญ่


    “ กันคือของขวัญชิ้นที่พิเศษที่สุดที่พ่อแม่ของกันมอบให้พี่ ถ้าไม่มีพวกท่านก็จะไม่มีกันเกิดมาให้พี่รักเหมือนตอนนี้ ” คำพูดหวานหูและอ่อนโยนทำให้กันเขินจนไม่กล้าสบตาคนตรงหน้า


    “ ..... ”


    “ ส่วนของขวัญที่พ่อแม่พี่มอบให้กันก็คือพี่ไง ”


    “ ไม่เห็นอยากได้เลย ”


    “ ไม่อยากได้จริงๆเหรอ ” สายตาคมฉายแววหยอกเย้ารวมทั้งแย้มยิ้มยั่วยวนจนกันอดที่จะทุบต้นแขนขาวของอีกฝ่ายด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้


    “ บ้าจริงๆเลย ”


    “ ฮ่าๆ นี่กัน พี่พูดจริงๆนะ ”


    “ อะไร ”


    “ กันคือของขวัญที่สำคัญและพิเศษสำหรับพี่ ถึงกันจะดื้อไปบ้าง งอแงไปนิด ขี้งอนมากไปหน่อย... ”


    “ พี่โน่!!


    “ แต่พี่ก็รักกันมากนะ ดังนั้นอย่าเล่นแบบวันนี้อีก เพราะถ้าพี่เสียกันไป พี่คงไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง ” ดวงตาเรียวฉายแววความจริงใจและจริงจังออกมาเด่นชัด


    “ อ่า..... ” กันรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนมากขึ้นกว่าเดิมซ้ำหัวใจยังเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมานอกอก


    “ พี่รักกันมาก รักกันแค่คนเดียว ต่อจากนี้พี่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ไม่รู้ว่างานที่ต้องทำในอนาคตมันจะมีใครมาเกี่ยวข้องในชีวิตพี่บ้าง ไม่รู้ว่าข่าวของพี่มันจะไปในทิศทางไหน แต่พี่ขอให้กันเชื่อใจและมั่นใจว่าไม่มีอะไรที่จะแทรกกลางระหว่างเราได้ ”


    “ ..... ”


    “ อย่าหวั่นไหว อย่าคิดว่าพี่เปลี่ยนใจ เพราะตั้งแต่ที่พี่เลือกกัน พี่ก็ตัดสินใจแล้วว่าพี่จะไม่มีวันเปลี่ยนใจ พี่เคยรักกันยังไง พี่ก็จะรักกันเหมือนเดิม...ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ”


    “ ..... ”


    “ กันคือของขวัญที่ล้ำค่า คือสิ่งดีๆในชีวิตของพี่ ขอให้เชื่อมั่นในตัวพี่ว่าคนๆนี้จะไม่มีวันทำให้กันเสียใจ ”


    “ พี่โน่.... ”


    “ ว่าไงครับ ”


    “ พูดขนาดนี้ไปหาแหวนมาขอกันแต่งงานเลยไหม ทำไมมันเลี่ยนแบบนี้ล่ะ กันคลื่นไส้!


    “ กัน ” โตโน่ทำหน้ามุ่ย คอตก เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากกันได้เป็นอย่างดี


    “ กันล้อเล่นน่า~~~  ” กันเอื้อมไปดึงมือแกร่งมากุมเอาไว้พร้อมทั้งมองสบตาคนอายุมากกว่าอย่างหวานซึ้ง  


    “ ..... ”


    “ พี่ไม่ต้องกลัวหรอกว่ากันจะเปลี่ยน นิสัยกันมันเปลี่ยนยาก ความรักก็เหมือนกัน ถ้ามันลองได้รักใครสักคนขึ้นมาจริงๆ มันก็เปลี่ยนใจไปรักคนอื่นไม่ได้หรอก ต่อให้พี่มีผู้หญิงหรือมีคู่จิ้นเข้ามาอีกสิบคู่ ถ้ากันยังรักพี่อยู่ มันก็คือรักนั่นแหละ กันไม่เปลี่ยนใจหรอก ”


    “ กัน... ” โตโน่ยิ้มแฉ่งแต่ก็ต้องหยุดยิ้มเมื่อเจอประโยคถัดมา


    “ นอกจากว่าพี่จะทำตัวไม่น่าเชื่อใจ โทรไปไม่รับสาย ไม่โทรกลับ ไม่ส่งข้อความมาหา เงียบหายไปเป็นอาทิตย์ๆ ว่างก็ไม่สนใจกัน เมินกัน เซอร์วิสคู่จิ้นจนเกินหน้าเกินตา มีเรื่องโกหกปิดบังกัน เมื่อถึงตอนนั้นแหละ กันจะเริ่มคิดว่าควรรักพี่ต่อไปไหม ” กันจ้องโตโน่ด้วยสายตาเอาเรื่อง ร่างสูงกลืนน้ำลายฝืดคอแต่สักพักก็ยิ้มออกมา


    “ พี่ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ แต่เรื่องคู่จิ้นมันอาจจะมีชงมากเกินไปบ้าง บางทีมันเพลินก็เผลอเล่นเยอะไป แต่เชื่อเถอะ หลังเล่นเสร็จ... ”


    “ ..... ” ร่างสูงโน้มใบหน้าลงมาจนจมูกชิดกับจมูกร่างในอ้อมแขนก่อนจะถูไปมาเบาๆ


    “ พี่จะมาให้กันเคลียร์ถึงที่...แบบตัวต่อตัวเลย... ”


    “ ทะลึ่ง! อุ๊บ! อื้อ!


     

                ไม่ทันได้พูดต่อ ริมฝีปากบางก็ถูกประกบปิด ริมฝีปากร้อนดูดดึงเบาๆก่อนจะแทรกเรียวลิ้นเข้าไปควานหาความหอมหวานในโพรงปากของร่างบาง กันขัดขืนได้ไม่นานก็เคลิบเคลิ้มไปกับจุมพิตหนักหน่วงแต่หวานซาบซ่านไปทั้งใจ โตโน่ตักตวงความหวานราวน้ำผึ้งเดือนห้าอย่างคนกระหายจนกันเริ่มประท้วงเพราะหายใจไม่ออก เขาจึงถอนริมฝีปากออกด้วยความเสียดาย

     


    “ พี่มันชอบฉวยโอกาส ”


    “ กันทำตัวน่าฉวยโอกาสเอง ชอบมายั่วพี่ดีนัก มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ”


    “ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย!


    “ แค่กันยืนเฉยๆก็ยั่วพี่จะแย่แล้ว ”


    “ บ้ากาม!


    “ ยอมให้ด่า ฮ่าๆ ตกลงว่าของขวัญวันเกิดจากกันมันไม่มีจริงๆเหรอ ” โตโน่ถามพลางกระชับกอดให้แน่นขึ้น


    “ ไม่มี ใครจะไปรู้ว่าวันนี้จะได้เจอพี่ล่ะ มันเตรียมไม่ทัน ”


    “ ไม่เป็นไร แต่พี่มีของขวัญที่จะให้กัน ”


    “ ของขวัญอะไร ” กันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย


    “ นี่ไง ” โตโน่ชูกล่องสี่เหลี่ยมขึ้นมาให้กันดู เจ้าตัวแสบถึงขั้นอ้าปากค้างด้วยความตะลึง


    “ พะ...พี่...เอาถุงยาง...มาทำไม... ” กันถามทั้งที่รู้ดีอยู่แล้ว สองขาพยายามถอยหนีแต่ก็ติดว่าโดนกอดอยู่ ไม่อาจหนีได้


    “ กัน ปีนี้อายุ 27 แล้วนะ โตพอสำหรับความรักแบบผู้ใหญ่แล้ว พี่รอวันนี้มานาน ในที่สุดก็ถึงเวลาอันควรสักทีนะ ”


    “ มะ ไม่เอานะพี่โน่ กันยังเด็ก แฟนคลับก็บอกแบบนั้นนะ ”


    “ ช่างแฟนคลับสิ สำหรับพี่ กันไม่เด็กแล้ว โตพอจะรับอะไรๆได้แล้ว เอ๊ะ หรือว่าเราจะไม่ใช้มันดี อืม ไม่ใช้ดีกว่าเนาะ ” พูดจบโตโน่ก็ขว้างถุงยางอนามัยไปมุมอื่นทันที


    “ ไม่เอานะพี่โน่ กันไม่พร้อม กันยังไม่อยากได้ของขวัญ! ” กันพยามยามดิ้นหนีแต่โตโน่ก็รวบตัวไว้แน่นมากขึ้น


    “ แต่พี่อยากให้เต็มแก่แล้ว ไม่สงสารพี่บ้างเหรอ พี่อดทนมาหลายปีเลยนะ ” โตโน่ส่งสายตาออดอ้อน


    “ ไม่เอา เดี๋ยวริทได้ยิน มันนอนอยู่ห้องข้างๆนะ!


    “ ไม่ได้ยินหรอก พี่แอบเอาสำลีอุดหูมันไปแล้ว ”


    “ เฮ้ย!! ” กันร้องด้วยความตกใจเมื่อถูกโตโน่อุ้มขึ้น


    “ ตัวหนักขึ้นนะ ของขวัญชิ้นนี้จะทำให้กันผอมลง มันเป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่ง มาเถอะ ให้พี่ช่วยไดเอตนะที่รัก ”


    “ ไม่เอา พี่โน่ ปล่อย!!!!!!! ” กันดิ้นไม่หยุด โตโน่จึงรีบสาวเท้าไปทางเตียงนอนอย่างรวดเร็วก่อนจะโยนกันลงบนเตียงและตามไปขึ้นคร่อมอย่างไว


    “ ไม่ดิ้นสิกัน พี่เหนื่อยนะ ”


    “ แล้วใครให้พี่จะปล้ำกันล่ะ ปล่อยเลยนะ ”


    “ ไม่ปล่อย พี่ทนมานานแล้วนะกัน กันไม่เห็นใจพี่บ้างเหรอ ” ร่างสูงพูดด้วยเสียงและสีหน้าอ้อนวอน


    “ ไม่เอา กันกลัวเจ็บ ”


    “ พี่จะทำเบาๆนะ ”


    “ มะ..อุ๊บ...อื้อ~~ ” ยังร้องไม่ทันจบคำดี ริมฝีปากหยักก็โน้มลงมาปิดกลีบปากสีแดงสดเสียแล้ว

     


    ................แล้วต่อจากนั้น กันก็หมดโอกาสได้โวยวายอะไรอีกเลย


     

    ========== P R E C I O U S G I F T ==========

     


    วันต่อมา

     


    “ จากแดนอีสานบ้านเกิดเมืองนอน... ” จู่ๆเสียงใสของรองแชมป์เดอะสตาร์ 6 ก็ดังขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายและอากาศอันร้อนระอุ


    “ มาเล่นละครบทชีวิตหนัก... ” เมื่อเพื่อนร้องจบ แชมป์เดอะสตาร์ 6 ก็ร้องต่อ


    “ ร้องไม่ได้แล้ว ”


    “ ไม่มีอารมณ์จะร้องแล้ว ”


    “ โดนปลุกมาตั้งแต่ตี 5


    “ ปวดไปทั้งตัว แล้วให้นอนในรถก็ไม่สบาย ”


    “ นายไปทำอะไรมา ” รองแชมป์หันขวับไปมองเพื่อน


    “ อย่ารู้เลย ” คนเป็นแชมป์เบนหน้าไปทางอื่นเมื่อรู้ตัวว่าพลาด


    “ ไม่อยากรู้ก็ได้ ดูดิ แต่งตัวมาอย่างเท่ ”


    “ หัวจรดเท้ามีแต่แบรนด์เนม ”


    “ ต้องมายืนกลางลานดินลานโคลนโล่งๆพร้อมจอบ เสียมและถุงปุ๋ยเนี่ยนะ!


    “ มีบัวรดน้ำกับต้นกล้าด้วยนะ ”


    “ นี่มันอะไรกันวะ! ” แล้วสองแสบก็ประสานเสียงกันบ่นออกมา


    “ อะไรๆ บ่นอะไรกัน? ” เสียงทุ้มต่ำของโตโน่ดังขึ้นด้านหลังกันกับริท เจ้าสองแสบหันมามองพี่ชายอย่างเอาเรื่อง


    “ พี่โน่! ไหนว่าจะพาไปเที่ยวไง? ” ริทเอ่ยถาม


    “ ก็เที่ยวนี่ไง ตอนนี้เราก็เที่ยวอยู่ เราอยู่ต่างจังหวัด เราไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ ” โตโน่ยกยิ้มพร้อมหันไปบอกให้เพื่อนร่วมวงเดอะดัสต์นำข้าวของไปวางไว้มุมหนึ่ง ทีมงานและชาวบ้านบางคนที่อาสาติดตามมาด้วยก็เริ่มกระจายไปมุมใครมุมมัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ตัวเอง


    “ เที่ยวบ้าอะไรของพี่ แถวนี้มันมีอะไรให้เที่ยวกัน ” กันถามต่อ ตอนนี้พวกเขายืนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ยังไม่โต พูดง่ายๆก็คือลานที่เขายืนมันเป็นลานดินโล่งๆที่รอบตัวมีเพียงต้นกล้าที่ยังไม่โตกับแสงแดดอันร้อนระอุ!


    “ นี่แหละเที่ยวในสไตล์ของพี่ มีสาระและเต็มไปด้วยประโยชน์ เดี๋ยวนี้บ้านเมืองเราไม่ค่อยมีป่าไม้ เราปลูกป่าก็ช่วยทั้งเราและช่วยสัตว์ให้มีที่อยู่อาศัยด้วย ดีและมีประโยชน์มาก!


    “ แต่มัน... ”


    “ เลิกบ่นแล้วตามมาสักที รีบปลูกต้นไม้ให้เสร็จ จะได้กลับบ้านไม่มืดมาก เผลอๆถ้ามีเวลาพออาจจะได้ไปช่วยกันกวาดใบไม้ที่วัดป่าบนเขาด้วย ” โตโน่ออกเดินนำไปโดยมีสองแสบร้องงุ้งงิ้งเดินตามมา


    “ เรื่องปลูกต้นไม้มันไม่เท่าไรหรอกแต่อย่างน้อยพี่ก็ควรบอกล่วงหน้าให้พวกเราเตรียมตัวสิ นี่อะไร ไม่บอกกันสักคำ แล้วดูพวกเราแต่งตัว มันเหมาะกับมาปลูกต้นไม้หรือไง ” ริทชี้ให้พี่ชายดูสภาพของเขากับกัน


    “ นั่นสิ พี่บอกให้พวกเราแต่งตัวเท่ๆ พวกเราก็แต่งไม่ยั้ง บนตัวรวมกันก็เกือบแสนแต่พี่ให้เรามาปลูกต้นไม้เนี่ยนะ ” กันท้วงบ้าง


    “ ถ้าบอกก็ไม่เรียกว่าลงโทษสิ อย่าลืมนะว่าก่อเรื่องอะไรกันไว้ ” โตโน่ชี้หน้าคาดโทษ


    “ โห ก็ขอโทษไปแล้วไง ”


    “ คำว่าขอโทษใช้ไม่ได้กับอสรพิษ ไปปลูกต้นไม้ ขนของเดินตามมา อ้อ...กัน ไม่ต้องถือหนักมากนะ ถืออะไรเบาๆก็พอ พี่รู้ว่ากันยังเดินไม่ค่อยไหว แต่ถ้าไม่ลงโทษอะไรเลย เดี๋ยวริทจะมองว่าพี่ลำเอียง ” โตโน่ยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินนำน้องไปอีกครั้ง ไม่สนใจกันที่กำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเจ็บใจ

     


    ไหนว่ารักมากไง รักภาษาอะไรกันเนี่ย!!!

     


    “ ตกลงเมื่อคืนนายกับพี่โน่ทำอะไรกัน ” ริทถามอีกครั้งแต่คราวนี้แววตากลับเต็มไปด้วยการล้อเลียน


    “ ไม่บอกเว้ย!


    “ ตามใจ ถึงไม่บอกก็พอจะเดาได้อยู่แล้ว...จากท่าเดิน ฮ่าๆ ” พูดจบก็เดินหนีไปอย่างรวดเร็ว


    “ ไอ้ริท!!! ” กันหงุดหงิดแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเดินไม่ไหว


    “ จำไว้เลยนะ ” ร่างบางทดไว้ในใจก่อนจะค่อยๆเดินตามคนรักและเพื่อนสนิทไป


     

                เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ในที่สุดการปลูกป่าอันหนักหน่วงก็จบลงด้วยดี เสื้อผ้าของกันกับริทต่างมอมแมมไม่ต่างจากลูกหมาซนๆทำให้โตโน่อดหัวเราะขำไม่ได้ เขาจึงได้ค้อนวงโตจากสองแสบก่อนที่จะกลับขึ้นไปบนรถ รถออกไม่ทันไร ริทก็หลับเป็นตายทันทีด้วยความเหนื่อยล้า ส่วนกันยังคงบ่นงึมงำแม้ว่าตาใกล้จะปิดแล้วก็ตาม

     


    “ เลิกบ่นแล้วนอนพักเถอะน่า เดี๋ยวก็ป่วยหรอก ” โตโน่พูดพลางสอดมือเข้าไปรั้งร่างของกันให้มานอนพิงไหล่


    “ ก็เพราะพี่นั่นแหละ รู้ทั้งรู้ว่ากันปวดตัวยังจะแกล้งแบบนี้อีก ไหนบอกว่ารักกันไง ทำไมใจร้าย ”


    “ พี่ไม่ได้ใจร้ายสักหน่อย แต่คนเรามันก็ต้องมีเอาคืนกันบ้าง ”


    “ นิสัยไม่ดี ”


    “ แต่คนนิสัยไม่ดีคนนี้ก็รักกันคนเดียวนะ ”


    “ แหวะ ”


     

                บ่นได้อีกไม่เท่าไร กันก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ร่างสูงขยับกายจัดท่าทางให้กันนอนสบายมากขึ้น ก่อนจะพินิจมองดวงหน้าหวานที่เขาแสนรักอีกครั้ง เขาไม่รู้เหมือนกันว่ารักกันไปตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีพื้นที่ในหัวใจก็มีแต่กัน มันไม่มีพื้นที่ให้ใครได้เข้าไปอีกเลย เขาอมยิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องเก่าๆตั้งแต่เจอกันครั้งแรกจนถึงวันนี้ ปลายจมูกโด่งกดลงบนกลุ่มผมชื้นเหงื่อ ถึงจะชอบบ่นว่าเหม็นแต่เขาก็ชอบกลิ่นของกันที่สุด ทุกๆอย่างที่เป็นกัน มันดีต่อใจของเขาทั้งหมด

     


                ร่างสูงโน้มใบหน้าลงไปใกล้อีกนิด กดจูบลงบนแก้มเนียนก่อนจะกระซิบคำหวานข้างหูคนที่กำลังหลับสนิท  


     

    “ รักนะ ไอ้ตัวแสบของพี่ ”


     

    ========== T H E E N D ==========


    :::Writer Talk:::

    โอ๊ยยย เลตมา 1 วินาที มัวแต่เม้าท์ 55555555 

    สุขสันต์วันเกิดนภัทรน้าา วันนี้เป็นวันดี เราจะไม่ให้น้องเสียซิง >< 

    รักนภัทรเหมือนเดิม รักโน่กัน รักอสรพิษด้วย 

    หวังว่าปีหน้าจะมีงานด้วยกันสักทีน้าาาา 

    ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ ขอบคุณทุกๆเม้นเลยยย 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×