ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : กระจุกดาว
Globular Clusters : กระจุกดาวทรงกลม คือกลุ่มดาวที่อยู่รวมกัน คล้ายเป็นก้อนด้วยแรงดึงดูดโน้มเอียงเข้าหากันลักษณะ เหมือนวงกลม คล้ายผลส้มโดย แต่ละกลุ่มมีดาวหนาแน่นสูงมาก ตั้งแต่ 10,000 1,000,000 ดวง มีเส้นผ่าศูนย์กลางราว10 ปีแสง หรือมากกว่า 300 ปีแสง มักพบบริเวณรอบๆ รัศมีส่วนที่โป่งออกมาของ กาแล็คซี่ทางช้างเผือก และพบใน กาแล็คซี่อื่นๆ เช่นกัน ที่น่าสังเกตว่า มีความหนาแน่นมากบริเวณ Galactic Center (ส่วนใจกลางกาแล็คซี่ทางช้างเผือก) หากทำการศึกษาด้วยการแยกค่าของแสง สี (Spectroscopic) พบว่ากระจุกดาว ทรงกลมส่วนมากมักจะแสดงค่าต่ำในกลุ่ม Heavy Elements (กลุ่มธาตุหนักของ สารประกอบซึ่งมีทั่วไปในดาวฤกษ์) ทำให้เชื่อว่าส่วนใหญ่นั้น มีอายุระหว่าง 12 -20 ล้านปี บริเวณทางช้างเผือก มีกลุ่มกระจุกดาวทรงกลมประมาณ 200 กลุ่ม แม้ว่ามีจำนวนนับล้านดวง การมองเห็นระยะไกล มักเห็นเหมือนเป็นจุดสว่างเพียง จุดเดียว เมื่อใช้กล้องดูจะเห็นถึงรายละเอียด ของจำนวนที่มากมายเหลือเชื่อ และ ลักษณะซ้อนทับกันก็มิได้อยู่ใกล้กันเลย บางกลุ่มมองเห็นการกระเพื่อมของแสง มีความสวยงามอย่างน่าประหลาด |
| ||
| ||
| ||
| ||
| ||
Open Clusters : กระจุกดาวเปิด รูปแบบทางกายภาพ ดาวกระจายตัวเป็นย่อมๆ โดยมีแรงดึงดูดร่วมกัน ด้วยรูปทรง อาจผิดแปลกกันออกไปในแบบต่างๆ มีความหนาแน่นของดาว ตั้งแต่ 10 ดวง จน หลายพันดวง เชื่อว่าต้นกำเนิดกระจุกดาวเปิด เกิดจากกลุ่ม Large Cosmic Gas - Dust Cloud (กลุ่มก๊าซอวกาศ-ฝุ่นก๊าซหมอกขนาดใหญ่มาก) ในทางช้างเผือก โดย กระจุกดาว โคจรไปรอบๆกาแล็คซี่ แล้วผสมรวมกับกลุ่มก๊าซฝุ่นหมอก เนบิวล่า (Nebula) ต่อมาจึงมีการพัฒนาการ กำเนิดรูปแบบดวงดาว (Stars Forming) จึงหยุดนิ่งการ เคลื่อนไหว เพราะฉะนั้นมักพบ กลุ่มกระจุกดาวเปิดอยู่บริเวณเดียวกันกับแหล่งต้น กำเนิดดาวใหม่ บางกรณี กลุ่มดาวได้โคจรล่องลอยไป ด้วยระยะเวลา ที่ยาวนานกว่า 100 ล้านปี ทำให้แรงดึงดูด และสนามพลังแม่เหล็กต่างๆลดน้อยลง จึงมีผลต่ออายุขัยของ กลุ่มดาวแบบนี้จะไม่มากไปกว่า 1 พันล้านปี ความเป็นจริงกลุ่มดาวก็ไม่ได้ใกล้ชิดกันนักในพื้นที่อวกาศ เพียงแต่ มีตำแหน่งอยู่ ร่วมกันบริเวณแหล่งกำเนิดนั้นๆ โคจรท่องไปในอวกาศ บางครั้งอาจเคลื่อนตัวเข้า ไปในกลุ่มทำให้หนาแน่นขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงในจำนวนที่เคยมีอยู่ อาจเพิ่ม ขึ้นหรือลดลงได้ (แต่ใช้เวลานับล้านปี) ทั่วไปแล้ว กระจุกดาวเปิด มีจำนวนดาว น้อยกว่า กระจุกดาวทรงกลม และยังไม่เคยสำรวจพบว่า กระจุกดาวเปิด สามารถรวมตัวจนเกิดการเปลี่ยนแปลง เป็นกระจุกดาวทรงกลม ได้เลย |
| ||
| ||
| ||
| ||
Binary Star Systems and Multiple Star Systems : ระบบดาวระบบคู่ และระบบดาวหลายดวง Binary Star : ระบบดาวระบบคู่ ดาว 2 ดวง มีตำแหน่งอยู่ใกล้เคียงกัน การมองจากพื้นโลก คล้ายซ้อนเลื่อมกัน แต่ความจริง แต่ละดวงมีระยะทางห่างกันมาก ทางทฤษฎีเกิดจากแรงดึงดูดซึ่งมี ความเพียงพอของกันและกัน ดาวทั้งสองดวง จึงผูกมัดทำให้เกิดวงโคจรต่อกัน เรียกว่า Binary Stars ดาวจะหมุนล้อมกันเป็นจังหวะ โดยสามารถคำนวณหาระยะ เวลาตำแหน่งของวงโคจรได้ กรณีดาวทั้งสอง มีจังหวะโคจรมาซ้อนทับสนิทกัน มองระยะใกล้จากโลกทำให้เห็น เหมือนดาวเป็นดวงเดียวกัน เรียก Optical Doubles ซึ่งทั้งสองกรณี บางครั้งเรียก Double Stars Multiple Star Systems : ระบบดาวหลายดวง เกิดจากแรงดึงดูด เชื่อมโยงกันของกลุ่มดาว ด้วยองค์ประกอบอย่างน้อยมี 3 ดวง หรือมากกว่า มองเห็นจากโลกเหมือนอยู่ใกล้เคียงกัน แท้จริงแล้วห่างไกลมากทาง ทฤษฎีเรียก Ternary หรือ Triple Star system บางดวงในกลุ่ม Triple Star system โคจรอยู่ตรงกลาง ส่วนที่เหลือโคจรล้อมรอบ อยู่ใกล้ๆ ทั้งหมดเกิดจากแรงดึงดูด ซึ่งมีความพียงพอของกันและกัน ดาวที่มีอยู่ จึงผูกมัดทำให้เกิดวงโคจรต่อกันในหลายแบบ บางครั้งจำนวน 3 ดวง เรียก Three stars และจำนวน 4 ดวง เรียก Quadruple |
| ||
| ||
| ||
| ||
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น