จักรวาลดาราศาสตร์

ลำดับตอนที่ #1 : กลุ่มดาว แอนโดรเมดา

ชื่อทางดาราศาสตร์	Andromedae
	ชื่อไทย	กลุ่มดาวแอนโดรเมดา
	ชื่อย่อ	And
	ความหมาย	Princess of Ethiopia หรือ The Chained Lady
	ตำแหน่งบนท้องฟ้า	RA: 1 hour Dec: 40 degrees
	ตำแหน่งมองเห็นจากโลก	latitudes 90 and -40 degrees
	ขนาดพื้นที่ของกลุ่มดาว	722 square degrees
	ลำดับของพื้นที่กลุ่มดาว	19
	ช่วงเดือน	ตุลาคม-พฤศจิกายน

 

 

Alpha Andromedae [Alpheratz]
-----------------------------------------------------------------------
ประเภทวัตถุ  Multiple star (ระบบดาวหลายดวง)
ระดับความสว่าง 2.0 mag.
ขนาดรัศมีเป็น 4.7 เท่า (Sun=1)
ค่าสะท้อนรังสีเป็น 139 เท่า (Sun=1)
ความร้อนบนพื้นผิว 9,122 K
ระยะทางจากโลก 97 ปีแสง
ลำดับชั้นของดาว Main sequence stars (ดาวสามัญ)
มองระยะไกลเห็นเป็นสีส้ม

ชื่อ Alpheratz [คำอ่าน al fe rats] ความหมาย ม้า
ชื่ออื่น Alpherat; Sirrah; Sirah

Beta Andromedae [Mirach] ----------------------------------------------------------------------- ประเภทวัตถุ Multiple star (ระบบดาวหลายดวง) ระดับความสว่าง 2.0 mag. ขนาดรัศมีเป็น 187 เท่า (Sun=1) ค่าสะท้อนรังสีเป็น 3,848 เท่า (Sun=1) ความร้อนบนพื้นผิว 3,326 K ระยะทางจากโลก 199 ปีแสง ลำดับชั้นของดาว Giant star & Supergiant star (ดาวยักษ์) มองระยะไกลเห็นเป็นสีส้ม ชื่อ Mirach [คำอ่าน mi rak] ความหมาย เข็มขัด หรืออีกความหมายคือ ท้อง ชื่ออื่น Merach; Mirac; Mirak; (al Mizar)

Gamma 1-2 Andromedae ตำแหน่งดาว 2 ดวง มีวงโคจรทับซ้อนกัน เมื่อมอง จากโลก เห็นคล้ายเป็นดวงเดียว เพราะตำแหน่งที่บังกันเอง จากการวิเคราะห์ด้วย ข้อมูลระยะไกล เชื่อว่ามีอายุกำเนิดมาแล้ว 1.5 พันล้านปี Gamma 1 Andromedae [Almach] -------------------------------------------------------------------------------------- ประเภทวัตถุ Multiple star (ระบบดาวหลายดวง) ระดับความสว่าง 2.0 mag. ขนาดรัศมีเป็น 175 เท่า (Sun=1) ค่าสะท้อนรังสีเป็น 5,608 เท่า (Sun=1) ความร้อนบนพื้นผิว 3,783 K ระยะทางจากโลก 356 ปีแสง ลำดับชั้นของดาว Giant star & Supergiant star (ดาวยักษ์) มองระยะไกลเห็นเป็นสีส้มอมแดง ชื่อ Almach [คำอ่าน ul mak ] ความหมาย แมวป่ามีขนสีดำ หรือบางข้อมูลให้ความหมายว่า สัตว์โบราณมีขนที่เลี้ยงลูกด้วยนม ชื่ออื่น Alamak; Almak; Almaach Gamma 2 Andromedae -------------------------------------------------------------------------------------- ประเภทวัตถุ Star (ดาว) ระดับความสว่าง 5.0 mag. ขนาดรัศมีเป็น ----- เท่า (Sun=1) ค่าสะท้อนรังสีเป็น ----- เท่า (Sun=1) ความร้อนบนพื้นผิว 8,908 K ระยะทางจากโลก ---- ปีแสง ลำดับชั้นของดาว ----------- มองระยะไกลเห็นเป็นสีน้ำเงิน ขอบสีม่วงบางๆ

Deep sky object

Andromeda Galaxy [M31,NGC224] -------------------------------------------------------------------------------------- สำรวจพบโดยนักดาราศาสตร์โบราณ ชาว Persian ประเภทวัตถุ Spiral galaxy (กาแล็คซี่คล้ายกังหัน) ระดับความสว่าง 4.5 mag. ขนาดของวัตถุ 150,000 ปีแสง ความหนาแน่นของมวล 1,200,000,000,000 เท่า (Sun=1) หรือมากกว่า ระยะทางจากโลก 2,400,000-2,900,000 ปีแสง Andromeda Galaxy มีชื่อเสียงรู้จักกันดี ด้วยเป็นกาแล็คซี่ขนาดใหญ่ ถือว่าเป็น Local group หรือกลุ่มเพื่อนบ้านกับ Milky Way Galaxy สามารถสังเกตง่ายด้วย ตาเปล่าสภาพท้องฟ้าที่ ปราศจากแสงรบกวน เช่น ในชนบทหรือนอกเมืองเห็น เป็นวงรีฟุ้งๆ บันทึกไว้โดยนักดาราศาสตร์ชาว Persian ราวศตวรรษที่ 10 เป็นครั้งแรกเรียกว่า Little cloud (ปุ่ยหมอก) เพราะใช้กล้องโบราณขนาดเล็กเห็นเป็น กลุ่มหมอกฟุ้งๆ ภายหลัง ค.ศ.1920 นักดาราศาสตร์ได้สรุปความใหม่ ว่าเป็น Spiral nebulae (กลุ่มฝุ่นหมอกลักษณะกังหัน) ตั้งชื่อใหม่ Island universes (เกาะแห่งจักรวาล) หลังจากนั้นมีการสำรวจต่อเนื่อง จากสถาบันดาราศาสตร์ชั้นนำด้วยเครื่องมือที่ ทันสมัยขึ้นตามลำดับ ทำให้ทราบว่ามีลักษณะเป็นกระเปาะโป่งตรงกลาง (Bulge) ภายในเต็มไปด้วยดาว จำนวนมากถึง 300 พันล้านดวง แผ่นจานกลม (Disk) มี ความร้อนสูง เคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 185 ไมล์ต่อนาที โดยรอบส่วนใหญ่เป็นก๊าซ Neutral Hydrogen (HI) และรังสี กลุ่มกระจุกดาว แสดงถึงการเกิดจากธาตุประเภทโลหะที่พบเช่นเดียวกันกับ Milky Way Galaxy แต่มีความผิดปกติ ด้วยความหนาแน่นมากกว่า และเชื่อว่ามีหลุมดำอยู่ภายใน บริเวณวงรอบนอกสุดของ Andromeda Galaxy เห็นเป็นสีฟ้าใส ตัดสีดำเข้มของ Dark matter (สสารมืด) ส่วนชั้นในที่ถัดเข้าไป ริมขอบเห็นเป็นสีน้ำตาลอมเทา แสดงถึงกระแสพายุฝุ่นดำทึบของหมอกอวกาศ ในใจกลางสีขาวสว่างเป็นกลุ่ม คือ ก๊าซกองพอกสะสมอยู่จนหนาเป็นกระเปาะ ยิ่งความร้อนสูงมาก

M110 [NGC205] ----------------------------------------------------------------------- สำรวจพบโดย Charles Messier เมื่อ ค.ศ 1773 ประเภทวัตถุ Elliptical galaxy (กาแล็คซี่คล้ายรูปไข่) ระดับความสว่าง 10.0 mag. ขนาดของวัตถุ 12,000 ปีแสง ความหนาแน่นของมวล 3.6-15 พันล้านเท่า (Sun=1) ระยะทางจากโลก 2,400,000-2,900,000 ปีแสง

M32 [NGC221] -------------------------------------------------------------------------------------- สำรวจพบ โดย Guillaume-Joseph-Hyacinthe-Jean-Baptiste Le Gentil de la Galaziere (Le Gentil) เมื่อ ค.ศ.1749 ประเภทวัตถุ Elliptical galaxy (กาแล็คซี่คล้ายรูปไข่) ระดับความสว่าง 10.0 mag. ขนาดของวัตถุ 8,000 ปีแสง ความหนาแน่นของมวล 3 พันล้านเท่า (Sun=1) ระยะทางจากโลก 2,400,000-2,900,000 ปีแสง ส่วนใหญ่กลุ่มดาวใน M32 มีอายุขัยเก่าแก่ ทำให้มวลลดน้อยตามลำดับอายุ M110 และ M32 เปรียบเป็น Satellites หรือกาแล็คซี่บริวารของ Andromeda Galaxy และแบ่งย่อยเป็น Dwarf galaxy (ในกลุ่มกาแล็คซี่แคระ)

Open Cluster NGC752 ----------------------------------------------------------------------- สำรวจพบโดย Hodierna ก่อน ค.ศ.1654 แต่หลักฐานไม่ชัดเจน ภายหลัง William Herschel สำรวจใหม่ เมื่อ ค.ศ. 1786 ประเภทวัตถุ Open clusters (กระจุกดาวเปิด) ระดับความสว่าง 5.7 mag. ขนาดของวัตถุ 45 ปีแสง ความหนาแน่นของมวล ----เท่า (Sun=1) ระยะทางจากโลก 3,420 ปีแสง มีสมาชิกดาวทั้งกลุ่มรวม 100 ดวง มีความสว่างแบบกระจัดกระจาย โดยใน จำนวนนั้น มีดาว 60 ดวงสลัวกว่า ระดับความสว่าง 8.9 mag. ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม ดาว ประเภท A-2 Star ความร้อนสูง อายุกำเนิดมาแล้ว 1.1 พันล้านปี

Planetary Nebula NGC7662 -------------------------------------------------------------------------------------- สำรวจพบโดย William Herschel เมื่อ ค.ศ.1784 ประเภทวัตถุ Planetary nebula (นิวบูล่าคล้ายดาวเคราะห์) ระดับความสว่าง 9.0 mag. ขนาดของวัตถุ -------- ปีแสง ความหนาแน่นของมวล 0.605 เท่า (Sun=1) ระยะทางจากโลก 4,000-4,600 ปีแสง อีกชื่อเรียก The Blue Snowball อายุกำเนิดมาแล้ว 5 พันล้านปี กำลังเกิด ปฎิกิริยาโต้ตอบจากแกนภายในด้วยการระเบิดออกมา (จุดเล็กๆตรงกลางคือดาว) พร้อมกระแสพายุ ผลักดันแรงดึงดูดด้วยความร้อนสูงมาก รอบล้อมเหมือนเปลือก ห่อหุ้มเป็นอาณาเขตกว้างหลายปีแสง เป็นการพัฒนาสู่จุดจบสู่ White dwarf star (ดาวแคระขาว) ในระยะต่อไป ความแท้จริงสีที่สะท้อนออกมาจาก The Blue Snowball นั้นคือ Ions nebula (ละอองวัตถุที่จับขั้วไฟฟ้าของกลุ่มฝุ่นหมอกอวกาศ) เป็นระบบกลไกธรรมชาติ ของกลุ่มก๊าซพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว และมีรังสี Ultraviolet ออกมาจากแกนกลาง

ข้อมูลจาก www.sunflowercosmos.org ค่ะ