ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิโอะ เพลงดาบแด่ผู้พิทักษ์

    ลำดับตอนที่ #3 : เพลงดาบที่1

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 53


     

    เพลงดาบที่1

    สุดปลายของฟ้า  ความฝันที่หวังเอาไว้จะคอยอยู่ที่นั้น  เพียงแค่เชื่อในสิ่งที่ได้พบเจอ  ยิ่งผจญภัย ความฝันต่างๆก็จะเริ่มเป็นจริง  พลัง ที่ไม่เคยมีใครได้ครอบครอง  แต่ ความฝัน คนที่ไม่ได้พบเจอกลับมียิ่งกว่า  คงมีเพียงเศษเสี้ยวของผู้คนมากมายที่ได้ไปถึงยังขอบปลายฟ้าแห่งนั้น  บางไปถึงเพราะพวกพ้อง บางไปถึงเพราะความเชื่อใจ แต่ทุกอย่างที่ได้กล่าวมา กลับไม่มีสักคนเดียว คนที่ไปถึงที่แห่งนั้นด้วยตัวคนเดียว  ทุกคนต่างต้องมีเพื่อนเสมอ   ไปเถอะ... ไปกับพวกเรา ไปผจญภัยกับพลัง ความฝัน และพวกพ้อง ไปเถอะนะที่สุดปลายนภา... กับพวกเรา 4 ผู้พิทักษ์

    อ่า... ค่าจ้างเยอะจังเลยแฮะฮิเดะที่กำลังอ่านป้ายประกาศพึมพำขึ้นมา หรือเราจะไปทำบ้างดีนะ เขาว่าพลางมองไปรอบๆ ก่อนจะก้มหลบอย่างรวดเร็ว

    ผลั้ว!

              ซาสุเกะเหรอฮิเดะถาม ก่อนจะได้รับคำตอบเป็นหมัดที่ถูกส่งมาอีกครั้ง  และครั้งนี้ เขาโดนมันเข้าไปเต็มๆ  เลือดกำเดาสีแดงไหลออกมาจากจมูก เขาปาดมันขึ้นมาดูก่อนจะทำหน้าเสียดาย

              อ่า... เลือดไหลเลยล่ะเขาว่าด้วยสีหน้าเรียบๆ ทำให้ซาสุเกะที่กำลังก้มหน้าไปอ่านป้ายประกาศที่ถูกทำลายลงไปแล้วเงยหน้าขึ้นด้วยความโกรธที่กำลังประทุ

              ฮิเดะ! แกตายยยยยยยยยยยยย!!!แต่ก่อนที่ดาบ สุซาคุ จะได้โดนร่างกายของผู้ที่ทำหน้าซื่อจนถึงเซ่อแล้ว  ดาบบริสุทธิ์อีกเล่มก็เข้ามาขวางได้อย่างทันท่วงที ชื่อของดาบนั้นคือ... เกนบุ

              ไม่เอาหน่า ซาสุเกะ  ฮิเดะมันก็แบบนี้ เจ้ายังไม่ชินอีกเหรอยูคิว่าก่อนจะดันดาบในมือของซาสุเกะลง  แต่ก็ต้องตวัดดาบกลับขึ้นมารับดาบสุซาคุเล่มนั้นอีกครั้ง เมื่อเจ้าของดาบนั้นยังคงดื้อดึงไม่ยอมแพ้

              ยังไงวันนี้ข้าจะฆ่าเจ้านี้ให้ได้  ยูคิเจ้าดูเองสิ  นี้มันป้ายประกาศจับพวกเราชัดๆ แต่ไอ้บ้านี้กลับดูได้เฉยๆ แถมยังบอกว่าจะจับพวกเราเองเลยด้วยซาสุเกะบอกอย่างโมโห

              ไหนๆ  อืม... ค่าหัว หมื่นล้านเยน  เฮ้! ฮิเดะ เราจับสองคนนี้ไปเอาเงินกันดีกว่ามั๊ยยูคิบอกหลังจากอ่านจบ

              ยูคิ เจ้า!ซาสุเกะกำดาบแน่น แล้วฟันลงไปที่ร่างของยูคิอย่างแม่นยำ  แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายก้มหลบได้อย่างหวุดหวิด

              เฮ้ๆ  ขอโทษๆ  ว้ากกก~ อย่าเล่นท่าอิไอเซ่~”ยูคิว่าก่อนจะวิ่งหนีไปรอบๆ  เสียงร้องขอโทษที่ยิ่งยั่วให้โดนทำร้ายดังมากขึ้น  ฮิเดะมองทั้ง 2 คนก่อนจะเดินไปนั่งที่ใต้ต้นไม้ ที่ถูกปูเสื่อเอาไว้อย่างดี

              นี่! ถอนเกตะก่อนสิ เสื่อมันจะเปื้อนเสียงของอีกคนหนึ่งดังขึ้นมา   ฮิเดะหันไปมองก่อนจะหยิบน้ำที่ตั้งอยู่ข้างตัวขึ้นมาดูดแบบซื่อๆ

              เจ้าบ้าฮิเดะ   นั้นมันน้ำข้านะไซโซตะโกน ผู้ที่ถูกเรียกหันมามองก่อนจะคายน้ำในปากใส่แก้วไปเหมือนเดิม

              งั้นเหรอ... ขอโทษ ยังไงข้าก็คืนให้แล้ว คงไม่โกรธกันนะฮิเดะตอบอย่างง่ายๆแล้วส่งแก้วน้ำนั้นคืนให้เจ้าของ

              ฮิเดะ   เจ้าอย่าอยู่เล๊ย!!!!ดาบ เบี๊ยกโกะ ที่วางไว้ข้างตัวถูกชักออกจากฝักเตรียมปลิดชีวิตเพื่อนสนิทในทันที ฝ่ายฮิเดะที่เห็นแบบนั้นก็ยกแก้วน้ำที่ถืออยู่กินเข้าไปอีกครั้งแล้วลุกขึ้น

              ถ้าเจ้าไม่กิน ข้าขอแล้วกันนะ  แล้วถ้าข้ามองไม่ผิด  ข้ารู้สึกว่าตัวเจ้ามันมีไฟลุกขึ้นมา  เอ๊ะ! หรือข้าจะตาฝาดฮิเดะว่า  แล้วไม่นานเขาก็ได้รับคำตอบกลับมาจากคนที่กำลังสะกดอารมณ์อย่างถึงที่สุด เจ้าดูไม่ผิดหรอก  ที่ข้ามีไฟลุกก็เพราะว่า ข้าจะฆ่าเจ้ายังไงล่ะไซโซว่า

              อะไรกัน น้ำแค่แก้วเดียวเองนะเขาบอกก่อนจะยกดาบ เซริว ขึ้นกันดาบของอีกฝ่าย

              แฮกๆเสียงหอบที่ดังใกล้ๆตัวของทั้ง 2 เบนความสนใจไปยังร่างที่อยู่ใกล้กับตนมากที่สุด  ก่อนที่เสียงร้องจะดังขึ้น

              ว๊ากกก!!ไซโซร้องเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนที่ได้สู้กันไปเมื่อครู่  ก่อนจะหันไปมองฮิเดะที่นั่งเอานิ้วจิ้วแผลของซาสุเกะ เจ็บมั้ยฮิเดะถามหน้าซื่อ  แล้วหันไปหยิบยาทำแผลจากกล่องยาที่มักพกติดตัวไว้เสมอมาทำแผลให้อย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะเดินมาที่ยูคิแล้วเริ่มทำแผลให้เช่นเดียวกันกับซาสุเกะ

              เอ่อ... ยังไงเอาผ้าพันแผลออกดีกว่านะ ฮิเดะ ซาสุเกะว่าหลังจากที่ถูกพันเป็นมัมมี่ไปแล้ว  ฮิเดะที่ทำหน้าซื่อถึงเมื่อครู่หันมาตะโกนตอบอย่างรวดเร็ว และมันก็เป็นคำตอบที่ซาสุเกะไม่เคยต้องการ

              ไม่ได้ ไม่งั้นแผลจะเน่านะเสียงตะโกนนั้นทำให้ไซโซคิดขึ้นมา ไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ  ฮิเดะที่เห็นทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายๆ  แต่เมื่อเป็นเรื่องของคนอื่น เจ้านั้นกลับทำได้อย่างสุดพลังโดยไม่ห่วงตัวเองแม้แต่น้อย    

              ว่าแต่... เมื่อไรพวกเราจะไปโตเกียวกันซะทียูคิหันมาถาม  ซาสุเกะที่กำลังดึงผ้าพันแผลออกจากตัวหันมามองแล้วรอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ   ไซโซเองก็ถอนหายใจหน่ายๆ หันไปมองคนสุดท้ายในกลุ่ม

              เก็บของแล้วไปเลยล่ะกันตัดสินใจแบบง่ายๆ  ทุกคนที่รอฟังคำตอบถึงกับหน้าคะมำทันที  ซาสุเกะเดินไปหยิบดาบของตนแล้วหันมาเรียกคนอื่นๆ

              รอเดี๋ยวเซ่~ ขอข้าเก็บเสื่อก่อนไซโซตะโกนตอบกลับก่อนจะแบกเสื่อผืนใหญ่ขึ้นหลังแล้ววิ่งตามคนอื่นๆไป   ชักช้าจริงยูคิว่าก่อนที่ทั้งหมดจะเดินจากไป  ถึงจะยังไม่รู้ว่าจุดมุ่งหมายที่แท้จริงเป็นอย่างไร  แต่ขอให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันตลอดไปก็พอแล้ว

     

              เสียงลมที่พัดเบาๆ หมู่บ้านที่ถูกทำลายจนยับไม่เหลือซาก  เด็กชายตัวน้อยที่มองตาศัตรูอย่างไม่ยอมแพ้  ถึงแม้ว่าจะมีเพียงดาบเล่มเดียวไว้ป้องกันตัว  แววตาที่แข็งกร้าวบ่งบอกถึงความไม่ย่อท้อ  แววตาที่เป็นดั่งสัตว์ป่ากระหายเลือด ถึงจะเป็นแค่เด็กแต่จิตสังหารนั้นก็ไม่แพ้ผู้ใหญ่สักนิดเดียว

              เจ้า... ชื่ออะไรยูคิถามเด็กชายตัวน้อยที่เขาบุกเข้ามาช่วย แต่สุดท้ายที่เขาค้นพบก็มีเพียงเด็กชายคนหนึ่ง  แววตานั้นทำให้เขาถามออกไปโดยที่ไม่ทันได้คิดอะไร

              ซารุโทบิ  ซาสุเกะเสียงของเด็กชายตอบกลับมา  ดาบเล่มยาวถูกยกมาป้องกันตนเองจากศัตรูภายหน้า ยูคิมองแล้วยิ้มอย่างชอบใจ  ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ แต่ไม่ทันจะได้ก้าวเข้าไปหา เด็กชายก็พุ่งตัวเข้ามาพร้อมดาบในมือ  แต่ฝีมือเด็กหรือจะสู้นักดาบได้  ดาบสุซาคุถูกดันเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย

              สุซาคุงั้นรึ  เจ้าสนใจมาอยู่กับข้ารึเปล่าล่ะยูคิถามก่อนจะดันดาบนั้นให้พ้นไปจากตัว  เด็กชายที่ชื่อซาสุเกะมองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อ  แต่รอยยิ้มที่จริงใจก็ทำให้เด็กชายยิ้มตอบ  มือแกร่งถูกยื่นมาไว้ตรงหน้าเพื่อรอมือเล็กๆที่จะเติบใหญ่และมุ่งไปสู้จุดหมายด้วยกัน ไม่ต้องรอนานมือเล็กๆที่กำดาบแน่นจนชุ่มไปด้วยเลือดยื่นมาวางไว้บนมือใหญ่ทันที  ความอบอุ่นนั้นทำให้เด็กชายน้ำตาคลอแล้วโผหน้าซบหาไออุ่นจากร่างใหญ่   

              หึ! เจ้ายังต้องฝึกอีกมากนะยูคิบอกแล้วลูบหัวซาสุเกะอย่างเอ็นดู   ก่อนที่เสียงๆหนึ่งจะดึงให้ทั้ง 2 รู้สึกตัวขึ้นมา  

              ยูคิ   นั้นเด็กอะไรน่ะไซโซที่วิ่งตามเข้ามาจากด้านนอกตะโกนถามเมื่อเห็นร่างเล็กๆนั้น  ยูคิหันมายิ้มให้กับไซโซก่อนจะตอบ

              ก็แค่เด็กที่จะเป็น 4 ผู้พิทักษ์น่ะ  รอให้ฝึกให้เก่งกว่านี้แล้วค่อยพาไปหา ท่านผู้นั้น แล้วกันยูคิพูดแล้วอุ้มซาสุเกะออกมาจากหมู่บ้านนั้น  

              ตุบ!

              ร่างเล็กๆที่วิ่งตามผู้ที่พาตนเองออกจากหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย ล้มลงเลือดสีแดงเริ่มไหลจากแผลที่ถลอก  

              โอ๊ย!ซาสุเกะร้องก่อนจะก้มมองบาดแผลของตนตรงเข่า  เด็กชายเงยหน้ามองยูคิหวังว่าเขาคนนั้นจะหันกลับมาสนใจ แต่ก็ไม่เลย ตั้งแต่ที่ออกจากหมู่บ้านนั้น  ยูคิก็เอาแต่เดินนำหน้าเขาไม่สนใจเขาเลย  ไม่ว่าเขาจะหกล้มหรืออะไรก็ตาม  

              ไง  ยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ   ให้ตายเจ้ายูคิก็ไม่สนใจเจ้าหรอก แต่ข้าจะบอกให้นะ ถ้าเจ้าอยากให้ยูคิสนใจเจ้าละก็... เจ้าก็ลองตามเจ้านั้นให้ทันสิ   ตามแผ่นหลังของเจ้านั้นให้ทันไซโซที่เดินตามหลังมาบอกก่อนจะมองแผลของเด็กชาย

              แผลแค่นี้เดี๋ยวก็หายไซโซว่าก่อนจะใช้นิ้วแตะไปบนแผลนั้น

              อ๊ะ!ซาสุเกะสะดุ้ง

              อ้าว! เจ็บหรือ งั้นข้าแบกเจ้าไปหายูคิดีกว่ามั้ยเนี่ยไซโซพูดแล้วลุกขึ้น  ก่อนจะก้มมองหน้าเด็กชายแล้วยื่นมือไปให้  ถ้าแค่ตามเจ้านั้นไม่ได้ เจ้าก็ไม่มีความสามารถที่จะเป็น 4 ผู้พิทักษ์หรอกนะ

              หึย! เจ้าเป็นผู้หญิงจะมาแบกข้าได้ยังไงล่ะซาสุเกะพูดพลางพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น พยายามไม่สนใจมือที่ยื่นมาให้

              เจ้าว่ายังไงนะ!!ไซโซกล่าวขึ้นมา

    ข้าบอกว่าเจ้าเป็นผู้หญิงจะแบกข้าได้ยังไงล่ะซาสุเกะทวนคำก่อนจะรีบเดินทันทีเมื่อเห็นว่าไซโซชักดาบออกมา

    ข้าใช้ผู้หญิงที่ไหนเล่า เจ้าบ้า!ไซโซกล่าวก่อนจะรีบวิ่งตามซาสุเกะทันที ข้าจะไปรู้ได้ยังไงในเมื่อตัวเจ้าเหมือนผู้หญิงจะตายซาสุเกะพูดย้ำคำว่า ผู้หญิง

    เอาเถอะ! ข้าเห็นว่าเป็นเด็กหรอกนะ  อย่าบอกว่าข้าเป็นผู้หญิงอีก ไม่งั้นเจ้าตายแน่ไซโซระงับอารมณ์แล้วกล่าวขึ้น  รีบตามไปสิ  เดี๋ยวก็ตามไม่ทันหรอก ยูคิน่ะไซโซว่า

    อืมซาสุเกะหันมายิ้มให้แล้วรีบเดินตามไป ไซโซที่ยังไม่ไปไหนยืนมองแผ่นหลังของซาสุเกะที่ห่างออกไปเรื่อยๆ  ถึงจะพยายามแค่ไหนก็ยังเป็นเด็กอยู่ดีเขาคิดแล้วเริ่มเดินตามทั้งสองคนไป

     

    4 ผู้พิทักษ์ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังโตเกียวนั้นนอนพักกันอยู่ที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง   และเวรที่ต้องเฝ้ายามในคืนนี้ก็ตกเป็นของซาสุเกะอย่างช่วยไม่ได้  เขานั่งเขี่ยกองไฟเล่นๆ พร้อมกับนึกถึงเรื่องราวในอดีต

              คิดอะไรอยู่ล่ะยูคิเดินมานั่งข้างๆซาสุเกะแล้วกล่าวถาม

              เอ่อ... เปล่าสักหน่อย  ข้าก็แค่เซ็งๆเท่านั้นเองซาสุเกะปฏิเสธก่อนจะชันเข่าขึ้นมาทั้ง 2 ข้าง แล้วหันไปถามคนข้างๆ ว่าแต่ท่านเถอะ  นอนไม่หลับหรืออย่างไร

              ฮะๆ  คงจะแบบนั้น  เจ้าไปนอนเถอะ  เดี๋ยวข้าเฝ้าต่อให้ยูคิหัวเราะเบาๆ  ซาสุเกะลุกขึ้นตั้งท่าจะไปนอนแทน แต่ประโยคถนัดมาก็ทำให้เขาชะงักข้าฝึกเจ้ามา เรื่องที่ศิษย์ข้าคิด ทำไมข้าจะไม่รู้ล่ะ เจ้าว่าจริงไหม ยูคิว่า

              งั้นมั้ง  ข้าไปนอนล่ะซาสุเกะบอกลา แล้วเดินหายเข้าไปในบ้านร้าง

              แหมๆๆ  ดูแลดีจริงๆนะยูคิซังเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง  ก่อนที่เจ้าของเสียงจะปรากฏตัวขึ้น ยูคิเพียงแค่หันไปมองก่อนจะกล่าวขึ้น

              เจ้าเองรึ ไซโซ  ทำไมถึงยังไม่นอนล่ะยูคิว่า

              ถ้าข้าจำไม่ผิด  คืนนี้เป็นเวรของซาสุจังนี้หน่า แล้วทำไมเมื่อครู่ข้าเห็นซาสุจังเดินเข้าไปด้านในล่ะไซโซยังคงไม่เลิกถาม  ยูคินั่งทำหน้าหน่ายๆแล้วลุกขึ้นเดินห่างออกไปจากที่เดิมประมาณ 10 ก้าวแล้วหันกลับมา  

              ทำอะไรน่ะยูคิ  ปล่อยจิตสังหารงั้นหรือ  อ๊ะ!ไซโซที่หัวเราะคิกๆ คักๆ อยู่ต้องตกใจเมื่อเสื้อของตนนั้นขาดเป็นริ้วๆ ดูก็รู้ว่าเป็นฝีมือของยูคิที่ปล่อยจิตสังหารออกมา

              มังกรหลับ ก็ให้มันหลับต่อไปเซ่~ จะให้มันตื่นมาทำไมเล่า!ไซโซโวยวาย  ยูคิยิ้มเล็กๆก่อนจะเดินกลับมานั่งที่เดิม  แล้วกล่าวขึ้นลอยๆ มังกรน่ะ  อย่าปลุกมันเลยจะดีกว่านะ ไม่เช่นนั้นคราวหน้ามันคงจะตื่นขึ้นมาจริงๆแน่รอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยอันตรายรอบด้านเผยขึ้นบนใบหน้าของคนที่ได้ฉายาว่ามังกรหลับ...  ซานารุ  ยูคิ

     

              ทันทีที่แสงอรุณฉายทั่วท้องนภา เหล่า 4 ผู้พิทักษ์ก็เริ่มออกเดินทางเพื่อไปยังเมืองโตเกียวทันที  ขนมดังโงะที่ไซโซทำไว้นั้นก็เริ่มจะหมดไปและอาหารชนิดต่อไปที่ใกล้จะเกลี้ยงแล้วก็คือ... ข้าวปั้น

              เฮ้!  ก้อนนั้นของข้านะ อย่าแย่งข้าสิไซโซโวยวายเมื่อซาสุเกะหยิบข้าวปั้นของเขาไปกิน

              ก้อนเดียวเองหน่า  ไซโซเองก็กินของข้าไป 2 ก้อนนะ ข้าเห็นซาสุเกะโวยกลับ คนที่โวยวายตอนแรกหน้าเสียทันทีที่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้ว่าตนแย่งข้าวปั้นไปกิน

              โธ่! ซาสุจังละก็...ไซโซพึมพำอย่างเสียดายแต่เมื่อจะหันไปหยิบข้าวปั้นของตนเองก็ต้องร้องโวยวายขึ้นอีกครั้ง เจ้าบ้าฮิเดะ  นั้นมันข้าวปั้นก้อนสุดท้ายของข้านะ โวยวายอย่างเสียดาย ฮิเดะหันมามองในขณะที่ปากก็ยังคงเคี้ยว ข้าวปั้นก้อนสุดท้าย ของไซโซอยู่

              ยูคิซัง ข้าขอข้าวปั้นเจ้านะไซโซหันไปอ้อนยูคิที่ยังมีข้าวปั้นเหลืออีก 2 ก้อน

              เหลือให้ข้าอีกก้อนแล้วกันยูคิว่า  ไซโซรีบหันไปหยิบข้าวปั้นอีกก้อนเข้าปากทันที

              ออบอุนอะ  อูอิ(ขอบคุณนะ ยูคิ)ไซโซพูดทั้งๆที่ข้าวปั้นยังคงเต็มปาก   พวกเขาใช้เวลาไปประมาณครึ่งวันกับการเดินทางมายังเมืองโตเกียว   ที่จริงแล้วเมื่อวานพวกเขาก็อยู่ห่างจากเมืองโตเกียวไปนิดเดียวเท่านั้น

              เหล้า สุรา  นารียูคิพึมพำ แล้วเดินเข้าไปในหอนางโลมแห่งหนึ่ง

              เชิญพวกท่านไปนั่งรอในห้องก่อนนะเจ้าค่ะ  แล้วข้าจะส่งหญิงที่งามที่สุดในหอนี้ให้แก่ท่านหญิงวัย 30 กว่าเดินออกมาต้อนรับก่อนจะเชิญทุกคนเข้าไปนั่งรอที่ห้องแห่งหนึ่ง

              เอ่อ... หอข้าไม่ต้อนรับผู้หญิงและเด็กนะเจ้าค่ะหญิงสาวคนเดิมกล่าว  จิตสังหารถูกปล่อยออกมาจากผู้ที่ถูกกล่าวถึงทันที

              ข้ามิใช่หญิงสาวไซโซว่า  ก่อนจะหันมามองผู้พูด

              และข้า... มิใช่เด็กซาสุเกะพูด  ยูคิที่ยังไม่ได้เดินเข้าห้องไปเข้ามาขวางแล้วหันไปบอกแก่หญิงสาวด้วยน้ำเสียงและแววตาที่อ่อนโยน

              ข้าขอโทษด้วย แต่ว่าคนของข้าไม่มีใครเป็นผู้หญิงหรือเด็กเลยสักคนเดียว หวังว่าท่านคงเข้าใจหญิงสาวพยักหน้าอย่างหลงใหล  ยูคิยิ้มแล้วดันสองคนที่เหลือเข้าไปในห้องรับรองทันที

              ยูคิ เจ้าไม่น่ามาห้ามข้าเลย  ให้ตายเถอะ!ไซโซโวยวายอีกระลอกหนึ่งหลังจากครั้งแรกที่โวยวายตอนกินข้าวปั้น

              ไม่! ปล่อยข้านะ  อย่ามาจับตัวข้า ปล่อยเซ่~”เสียงหญิงสาวร้องตะโกนก่อนที่ประตูของห้องที่ยูคินั่งรออยู่จะเปิดขึ้น

              นี่เป็นเด็กใหม่  ข้าขอฝากท่านดูแลด้วยนะเจ้าค่ะหญิงคนเดิมเดินเข้ามาพร้อมกับหญิงสาวหน้าตาสวยงามราวกับเทพธิดา

              ไม่เอานะ! ปล่อยข้าไปนะหญิงสาวร้องตะโกน แต่ก่อนจะได้ทำอะไรก็ถูกผลักเข้ามาในห้องพร้อมกับบานประตูที่ถูกปิดลง

              นี้ๆ  หอนางโลมเขารุนแรงแบบนี้ทุกที่เลยเหรอฮิเดะนั่งยองๆเอานิ้วจิ้มแขนหญิงสาวแล้วถาม หญิงสาวที่มาใหม่ตวัดใบหน้าหันมามองด้วยความโกรธเกรี้ยวก่อนจะตวัดฝ่ามือหมายจะตบใบหน้าของคนตรงหน้า

              หมับ!

              อ๊ะ!หญิงสาวร้องอย่างตกใจ เมื่อมือที่ตวัดออกไปนั้นถูกคนตรงหน้าจับเอาไว้ได้ง่ายดาย  ฮิเดะหงายฝ่ามือขึ้นดูก่อนจะพบกับรอยแผลที่ถูกกรีดหลายแห่งบนข้อมือ

              ไม่เจ็บบ้างหรือไงนะฮิเดะกล่าวหน้าตายก่อนจะหันไปมองเพื่อนๆที่เหลือแล้วพูดขึ้น ข้าขอทำแผลก่อนได้รึเปล่าทุกคนพยักหน้ารับ เขาจึงบรรจงวางข้อมือนั้นลงอย่างแผ่วเบา  หญิงสาวลุกขึ้นนั่งแล้วมองหน้า     ฮิเดะอย่างสงสัยในการกระทำ

              เจ้าชื่ออะไรเขาถาม

              โอนุคุ...  วาตายะ  โอนุคุหญิงสาวตอบ  ฮิเดะค่อยๆทำแผลให้หญิงสาวอย่างเบามือพร้อมๆกันนั้นก็ชวนคุยไปด้วย

              โอนุจังสินะ  ซาสุเกะมานี้หน่อยสิเขานึกแล้วหันไปเรียกซาสุเกะให้มาใกล้ๆ

              ที่หลังของโอนุจังมีแผล  เจ้าช่วยทำแผลให้หน่อยสิฮิเดะบอกก่อนจะยื่นอุปกรณ์ทำแผลให้ซาสุเกะ  โอนุคุมองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อ  ก่อนจะไปสะดุดที่ต้นคอของคนตรงหน้า  ฮิเดะมองตามดวงตาของหญิงสาวมาแล้วตอบเสียงเรียบๆ เหมือนไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร

              มันคือสัญลักษณ์ของคนที่เคยเป็นปีศาจน่ะ ฮิเดะว่าก่อนจะลุกขึ้น เอาล่ะ ข้าทำแผลให้เสร็จแล้ว เขาพูดแล้วเดินไปนั่งข้างๆไซโซ  นิ้วเรียวหยาบแตะลงไปที่สัญลักษณ์นั้นเบาๆ  พลางหลับตาลงช้าๆ ไซโซที่เห็นดังนั้นจึงจับมือของฮิเดะเอาไว้แล้วยิ้มให้ เขาหันมามองหน้าคนที่นั่งข้างๆ แล้วยกมือออกจากสัญลักษณ์นั้น

              เอ่อ... ขอบคุณเจ้าค่ะโอนุคุกล่าวก่อนจะโค้งหัวขอบคุณ

              เจ้าตั้งใจมาทำงานที่นี่หรือยูคิถาม  หญิงสาวส่ายหน้าด้วยความเร็วก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับทุกคนฟัง เปล่าเจ้าค่ะ  แต่แม่ของข้าติดหนี้สินมากมาย แม้จึงจับข้ามาขาย ข้ามิได้มีความต้องการเลยสักนิดเดียว โอนุคุเล่า  ไซโซเมื่อได้ฟังจบจึงพูดขึ้นว่า

              งั้นเจ้าอยากทำงานให้พวกข้ามั้ยล่ะ  แต่ลำบากหน่อยนะ เขาพูด  โอนุคุพยักหน้ารัว ไซโซหัวเราะเบาๆแล้วบอกสิ่งที่ต้องการให้ฟัง  

              ...ห้องนั้นเงียบไปสักพักก่อนที่หญิงสาวจะตอบตกลง

              ได้เจ้าค่ะ  แล้วเรื่องที่นี่ คือ...

              ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้าจะคุยให้เองซาสุเกะบอก หญิงสาวลุกขึ้นแล้วโค้งตัวอย่างสวยงาม  งั้นข้าไปก่อนนะเจ้าค่ะ โอคุนุกล่าวแล้วเดินออกจากห้องนั้นไป

              พวกเจ้าว่า สามพันเยนจะพอรึเปล่านะยูคิถาม  ก่อนจะวางเงินเอาไว้ที่พื้นห้อง  ไปกันเถอะฮิเดะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องนั้นไปตามด้วยคนอื่นๆที่ทยอยกันออกไปจนหมด

    ...
    ข้ามีนามว่า ซานาดะ
      ยูคิมูระ
    ขอให้ทุกท่านติดตามเรื่องนี้ได้ในตอนต่อไปนะขอรับ
    ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×