คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : กองทัพปลาทู : Chapter 2
2
“ฉันขี้เกียจไปทำงานจังเลย”
เสียงของฟ้าใสดังขึ้นด้วยความงัวเงียเพราะเพิ่งจะตื่นนอนเมื่อกี้สดๆร้อนๆหลังจากรอให้น้ำเลิกคลาสอีกประมาณสิบนาทีเพราะมีเหตุขัดข้องบางอย่างเธอเลยดันลงวิชาที่ไม่ตรงกัน
“ลาออก” ฉันบอกเสียงเรียบ
“ลาออกแล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้วะ” เพื่อนสาวตรงหน้าตบโต๊ะเสียงดัง
อะไรของมันอะ มาบ่นว่าเหนื่อยก่อนไม่ใช่รึไง “ฉันก็แค่บ่นตามประสาแค่นั้นเอง
ว่าแต่แกเถอะ ไม่ทำงานรึไง?”
“กะจะทำนั่นแหละแต่เดี๋ยวหาก่อน” ฉันคว่ำปากเล็กน้อย
เพราะก่อนหน้านี้มัวแต่ยุ่งเรื่องย้ายหอเลยไม่ได้หางานทำแบบจริงๆจังๆซะเท่าไหร่นัก
Rrrr Rrrr
การสั่นของสมาร์ทโฟนแทรกบทสนทนาของเราทั้งสอง
ฉันล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายก่อนจะหยิบมันออกมาก็พบว่าเป็นเบอร์แปลกที่ฉันไม่ได้เซฟไว้
“สวัสดีค่ะ” ฉันกรอกเสียงลงไป
[อีหนูเรียนอยู่เหรอ?]
หือ...ฉันขมวดคิ้วมุ่นหลังจากได้ยินปลายสายพูดขึ้นมา
เสียงแบบนี้ คำพูดคำจาแบบนี้
“ตาลุง?”
[ว่าไงครับ] ใช่จริงๆด้วย!
“ลุงไปเอาเบอร์หนูมาจากไหน?” ฉันถามเสียงร้อนรนจนฟ้าใสทำสีหน้างงงวยกับอาการของฉัน
[ก็อีหนูให้มาเอง] ตาลุงกองทัพพูดเสียงสบายๆราวกับว่านี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือสำคัญอะไรมากมายสำหรับเขาแต่มันสำคัญสำหรับฉันโว้ย!
ฉันให้ไปเอง? แล้วฉันไปให้ตอนไหนวะ?
เพิ่งรู้จักกันแค่สามวันเองแถมยังพูดคุยไม่กี่คำล่าสุดก็ตอนกินมาม่าเมื่อวาน
เอ๊ะ...หรือว่า
“พร้อมเพย์เหรอ!?”
[อาหะ] เขายอมรับหน้าตาเฉย
ตาลุงนี่…เจ้าเล่ห์!
“แล้วลุงโทรมามีอะไร?”
ฉันถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยอยากจะเสวนาด้วยเท่าไหร่นัก คนอย่างเขาน่ะแค่คิดว่าต้องเจอหน้ากันทุกวันยิ่งปวดหัวแล้วดันมีเบอร์โทรฉันด้วยยิ่งปวดหัวกว่า
[คิดถึง]
“หนูวางนะ”
[เฮ้ย! เดี๋ยวก่อน] ปลายสายรีบประท้วงเมื่อฉันบอกว่าจะวาง
คือจะวางจริงๆนั่นแหละไม่ได้ขู่ ทำมาเป็นบอกว่าคิดถึง หยี๋...เชื่อตายล่ะ [ชอบทำขนมนี่ชอบกินด้วยปะ?] พอฉันเงียบเขาก็ถามคำถามมา
“ชอบดิลุง” ชอบมากขนาดที่ว่าเคยไปกินบุฟเฟต์ขนมหวานของเขาหมดเกลี้ยงหลังจากนั้นร้านก็ปิดไปเลยอะ
ไม่รู้ว่าเจ้าของร้านมีปัญหาหรือหนีฉันกันแน่
[ก็ดีดิ]
“มีไรเปล่าลุง?” คือพูดให้เคลียร์ได้มั้ยวะ
ไม่ใช่พูดมานิดหนึ่งแล้วรอให้ฉันตอบแบบนี้อะ ถ้าไม่ติดว่าอายุมากกว่านะแม่จะป้าปเข้าให้
[พอดีแถวนี้มีฟู้ดแฟร์ เลยกะว่าจะโทรมาชวน]
“จริงปะลุง!?” ดวงตาประกายแพรวพราวทันทีเมื่อได้ยินคำว่าฟู้ดแฟร์
และเสียงฉันมันคงจะดังเกินไปจนฟ้าใสที่ฟุบหน้าอยู่เงยขึ้นมามองแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ เรื่องอื่นไม่รู้แต่เรื่องกินปลาทูสู้ตาย!
“ที่ไหนอะ?”
[ไม่บอก] ลุงกองทัพพูดเสียงกวนๆ [อยากรู้ก็มาด้วยกัน]
โอ๊ย อิลุง!
“ฟ้าใส”
ฉันเอามือปิดสปีกเกอร์โทรศัพท์ไว้แล้วหันไปเรียกเพื่อนรักเสียงแผ่ว
เธอเลิกคิ้วให้ฉันเล็กน้อยเลยพูดต่อ “แถวนี้มีฟู้ดแฟร์มั้ย?”
เธอทำท่าคิดอยู่แว็บหนึ่งก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงติดงัวเงียเล็กน้อย
“ไม่รู้ดิ ช่วงนี้ทำงานไม่มีเวลาสนใจรอบข้างเลย”
“ชิ ไม่มีประโยชน์เลย”
ฉันจิ๊ปากให้ฟ้าใสซึ่งเธอถลึงตากลับมา เมื่อไม่ได้รับคำตอบฉันเลยคุยกับปลายสายต่อ “ไม่ใช่ว่าลุงโกหกหนูเหรอ?”
ไม่ใช่จะว่าเขาหลอกลวงนะแต่คนอย่างเขามันดูไม่น่าเชื่อถือ
[งั้นเดี๋ยวส่งไปให้]
“ส่งอะ...อ้าวลุง” ยังไม่ทันถามเสร็จลุงกองทัพก็วางสายไปดื้อๆ
ฉันมองโทรศัพท์ในมือด้วยสายตาว่า ‘อิหยังวะ’ ก่อนที่ไลน์จะเข้า
พอกดไปดูก็พบว่าคนส่งข้อความมาเป็นรายชื่อที่ถูกเพิ่มจากหมายเลขโทรศัพท์มีชื่อไลน์ว่า
‘Kongthap’
ตาลุงนี้แน่นอน!
ก่อนจะกดเข้าไปดูว่าเขาส่งอะไรมากฉันก็จัดการเปลี่ยนชื่อไลน์จากKongthapเป็นตาลุงซะก่อน
สิ่งที่เขาส่งมาคือแผ่นโบว์ชัวร์ของงานฟู้ดแฟร์ที่เริ่มจัดตั้งแต่วันนี้แต่สถานที่กลับถูกสติ๊กเกอร์รูปเต่าแปะไว้
ไม่ต้องถามก็รู้ว่าฝีมือใคร ร้ายนักนะ!
‘ตาลุง : เชื่อยัง?’
‘ตาลุง : ตกลงไปปะ?’
‘ตาลุง : เห็นว่ามีของกินเยอะเลย’
เกลียดความเอาของกินมาล่อ คิดว่าฉันเป็นพวกเห็นแก่กินรึไง?
‘คุณ : เดี๋ยวรอหน้าห้อง’
คิดถูกแล้วแหละ
หลังจากน้ำเลิกคลาสเราทั้งสามก็เดินออกมายังหน้ามหา’ลัย
โดยที่น้ำจะกลับหอ ฟ้าใสก็จะไปเตรียมตัวทำงานส่วนฉันน่ะเหรอ...
ฉันจะไปฟู้ดแฟร์!
“เชี่ย ใครอะ?” น้ำสะกิดแขนฉันพร้อมพยักพเยิดหน้าอย่างรีบๆ
ฉันและฟ้าใสจึงมองตามสายตาละห้อยของเพื่อนไปก่อนที่จะตาค้างกันทั้งคู่
“เท่สัส”
ฟ้าใสครางขึ้นมาพลางกัดริมฝีปากล่างตัวเองผิดกลับฉันที่...
“ลุง!” แทบจะล้มทั้งยืนไปแล้ว
ฉันมองบุคคลที่กำลังคร่อมบิ๊กไบค์คันโตด้วยท่วงท่าสบายๆหากแต่หล่อบาดใจสุดๆ
ยิ่งแจ็กเก็ตสีดำที่มาพร้อมด้วยกางเกงยีนส์นั้นกลับทำให้ดูสง่าผ่าเผยมากยิ่งขึ้นไปอีก
สายตานักศึกษารอบข้างทั้งชายและหญิงต่างมองไปที่เขาเป็นตาเดียว
โคตรเท่เลยแม่เจ้า
“ลุง?” ทั้งน้ำและฟ้าใสหันมาเลิกคิ้วใส่ฉัน
“อย่าบอกนะว่านี้คือลุงข้างห้องที่แกบอก?”
ฟ้าใสชี้ไปทางลุงกองทัพและหันกลับมาชี้ฉันต่อ
พอพยักหน้าตอบรับไปเธอก็เอามือปิดปากทันที “เชี่ย
อย่างหล่ออะ ตอนแกบอกว่าลุงแถมชอบม่อสาวฉันนึกว่าจะไม่ใช่แบบนี้อะ
อยากจะวิ่งเข้าไปซบไหล่กว้างๆนั่น”
“เออดิ เป็นฉันนะจะแอบปีนระเบียงไปหาทุกคืนเลย”
นี่เป็นเสียงของน้ำ
“เวอร์แล้ว” ฉันเขกหัวพวกเธอไปคนละหนึ่งที เขาหล่อ
เขาเท่ อันนี้ฉันยอมรับแต่มันติดอยู่กับอีแค่นิสัยเขาเนี้ยสิ!
“อีหนู”
คนที่ถูกพาดพิงพอเลื่อนสายตามาเจอฉันก็โบกมือยกใหญ่พลอยเอาสายตาของคนรอบข้างมาทางฉันด้วย
เขาลงจากรถแล้วก้าวฉับๆมาทางนี้
“ลุงจะมาทำไมเนี้ย? หนูบอกแล้วไงว่าจะรอหน้าห้อง” ฉันมองซ้ายมองขวาและกระซิบลอดไรฟัน
“มารับไง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปๆมาๆ”
เขาใช้มือยีผมตัวเองและแสยะยิ้มร้ายกาจออกมา
อุตส่าห์จะไม่ให้ใครเห็นว่าไปกับเขาแท้ๆแต่ดันมารอถึงมอ. ไม่รู้จะมาทำไมอิตาลุงบ้านี่!
“แล้วนี่?”
เขาหันไปมองเพื่อนทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างๆฉัน
“ฟ้าใสค่ะ”
ฟ้าใสแนะนำด้วยพร้อมส่งสายตาระยิบระยับไปด้วย
“น้ำค่ะ เราสองคนเป็นเพื่อนสนิ๊ทสนิทของปลาทู”
ส่วนน้ำก็ดัดเสียงให้เล็กลงจนอยากจะกระชากลิ้นไก่นั้นออกมาสับให้ขาด
“อ๋อ กองทัพครับ” ตาลุงยิ้มเล็กน้อยพร้อมโคลงศีรษะทักทายเล่นเอาเพื่อนๆของฉันรีบก้มหัวตามกันใหญ่
ก็เข้าใจเพราะเขาอายุมากกว่าเยอะ
“ไม่เห็นจะม่อตรงไหนเลย” น้ำเขยิบมากระซิบใกล้หู
“ไปได้แล้วลุง ฉันไปล่ะบาย”
ฉันเมินคำพูดของเธอโดยการผลักแผ่นหลังลุงกองทัพให้เดินตรงไปที่รถของเขาพร้อมกับหันมาโบกมือลาเพื่อนทั้งสอง
ตลอดทางเดินรับรู้ได้ถึงสายตาที่มองมาแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นมากว่านี้จนฉันแทบจะวิ่งอยู่แล้วผิดกับคนด้านหน้าที่เหมือนก้าวเร็วๆแค่นั้น
เกลียดจริงๆพวกคนขายาวเนี้ย!
“อะ หมวก” พอมาถึงบิ๊กไบค์คันโตตาลุงก็ยื่นหมวกกันน็อคสุดประหลาดมาให้
คือมันเป็นหมวกกันน็อคทรงเดียวกับที่เขาใส่แต่นี่เล่นเป็นสีชมพูแปร๊ดน่าเกลียดอะ
สีชมพูแม่งก็มีตั้งหลากเฉดสีทำไมถึงได้เลือกชมพูมาสไรเดอร์มาวะ เอาชมพูพีชหรือพาสเทลไรงี้ก็ได้
แถมรอบๆยังมีสติกเกอร์ลายคิตตี้แปะอยู่อย่างสะเปะสะปะอีกจนแอบสงสัยว่าเจ้าตัวไปซื้อมาติดเองรึเปล่า
ฉันรับมาไว้แล้วมองสลับกับใบหน้าหล่อนั้นด้วยสายตาเชิงว่า ‘เอาจริงดิ’
“ทำไมของลุงแม่งเท่แต่ของหนูถึงโคตรปัญญาอ่อนแบบนี้อะ?”
ฉันชี้นิ้วไปยังหมวกกันน็อคสีดำด้านสุดเท่ในมือของเขาแล้วชูของตัวเองขึ้นเหนือหัว
ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด!
“อันนี้เหมาะกับอีหนูดี” แล้วดูการตอบแบบใบหน้าที่บ่งบอกว่า
‘หยิบๆมา’ นั่นดิ ถ้าไม่ติดว่าแก่ขนาดนี้ฉันถีบตกรถไปแล้วย่ะ
ด้วยความที่ขี้เกียจจะพูดต่อจึงจำใจสวมหมวกกันน็อคนั่นอย่างอายๆแล้วรีบตวัดขาขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คันยักษ์นี้ทันทีแต่ด้วยความที่มันสูงบวกกับขนาดตัวฉันที่กะทัดรัดทำให้ตาลุงต้องหันมาช่วยยกฉันขึ้นอีกแรง
โอเค...อายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
“กอดไว้”
ตาลุงกองทัพพูดขึ้นมาหลังจากสตาร์ทรถของตัวเอง
ฉันมองซ้ายมองขวาหาที่เกาะแต่ไม่ทันไรมือก็ถูกคนตรงหน้าคว้าไปโอบกอดเขาในทันที
“ทำบ้าอะไรของลุงเนี้ย? ปล่อยหนูนะ” ฉันจะชักมือกลับแต่เขากุมมือไว้
“เดี๋ยวหล่น” เขาพูดเสียงเรียบ “จะกลายเป็นลูกหมากลิ้งขลุกขลักข้างถนน”
กรี๊ด! กล้าเอาฉันไปเทียบกับหมาได้ยังไง!?
“ไม่ตกหรอกน่า”
ฉันอาศัยช่วงที่เขาคลายมือออกดึงมือตัวเองกลับมาแล้วใช้กระเป๋าสะพายมาไว้คั้นกลางระหว่างเราไว้
เพื่อเซฟตัวเองเผื่อว่าตาลุงบ้านี่จะเกิดใช้มุกเร่งเครื่องเพื่อให้หน้าผู้หญิงชนหลังที่แสนเก่าคร่ำครึ
ซึ่งมันผิดซะที่ไหนล่ะ!?
“ว๊าย!” ฉันกรีดร้องพร้อมรีบถลาตัวไปคว้าหมับเข้าที่เอวเขาไว้เพื่อยึดเหนี่ยวหลังจากเจ้าตัวออกรถด้วยความเร็วจนฉันเกือบหงายหลังลงไปกลิ้งเหมือนหมาที่เขาว่าจริงๆ
“ตาลุงนี่จะฆ่ากันรึไง!?” ฉันโวยวายแต่เสียงลมกลับกลบเสียงฉันไปจนหมดทำให้คนข้างหน้าไม่ได้ยินคำต่อว่านั้น
ลุงกองทัพขับมาได้สักพักในที่สุดเราทั้งคู่ก็มาถึงฟู้ดแฟร์ที่เขาบอก
ฉันถอดหมวกกันน็อคแสนน่าชังนี่ออกก่อนที่สายตาจะปะทะเข้ากับกระจกข้างรถ ในนั้นปรากฏใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งผมช่วงบนลีบแต่ตั้งแต่คางลงมากลับฟูฟ่อง
“อ้าก! ไอ้หมวกกันน็อคบ้าทำผมฉันเสียทรงหมด!” ฉันโพล่งออกมาอย่างไม่สบอารมณ์พลางใช้มือสางๆผมให้มันเข้าที่เข้าทาง ตาลุงที่เพิ่งลงจากรถหันมามองฉันก่อนจะเอื้อมมือมาวางบนหัวแล้วยีไปมา
“ทำอะไรของลุงเนี้ย แบบนี้ผมมันก็ยิ่งยุ่งกว่าเดิมดิ”
ไม่ช่วยแล้วยังจะมาซ้ำเติม!
“ทรงผมไรก็น่ารักทั้งนั้นแหละ สนใจอะไรอะ” เขาพูดเสียงเอื่อยๆคล้ายไม่เข้าใจจริงๆว่าฉันจะไปใส่ใจทำไม
ใช่สิเขามันผมสั้นนิ ไม่เข้าใจหัวอกผู้หญิงผมยาวอย่าง... เอ๊ะ เดี๋ยวนะ
เมื่อกี้เหมือนเขาจะชมฉันว่าน่ารักรึเปล่า?
“ลุงบอกว่าหนูน่ารักเหรอ?” ฉันส่งหมวกกันน็อคคืนเขาไปก่อนจะหวีดเสียงร้องออกมาเมื่อถูกคนตรงหน้าหิ้วปีกให้ลงมายืนบนพื้น “ว๊าย! ทำอะไรของลุงเนี้ยหนูไม่ใช่เด็กนะ!”
“งั้นมาเป็นเด็กลุงปะ?” ผู้ชายหน้าหล่อยื่นใบหน้าตัวเองเข้ามาใกล้จนฉันชะงักไป
อึก... กลืนน้ำลายลงคอที่แห้งหนึ่งอึกก่อนจะรวบรวมสติแล้วผลักอกแกร่งให้ออกห่าง
“ฝันไปเหอะลุง” จากนั้นจึงรีบสับเท้าเดินตรงไปยังทางเข้างาน
“หึ” ได้ยินเสียงหัวเราะตามหลังมาด้วย “อย่าเดินเร็วสิตามไม่ทัน ข้อเข่ายิ่งไม่ดีอยู่”
โอ๊ยลุง! ฉันกรอกตามองบนให้กับประโยคของคนแก่ก่อนจะถอนหายใจหนักๆไปหนึ่งทีแล้วหันซ้ายหันขวามองผู้คนที่ทยอยกันเข้างาน
คนเยอะมากเหมือนกันแฮะ แต่ดูท่าแล้วไม่เยอะสิแปลก งานดูใหญ่แบบนี้ต้องมีของอร่อยๆเพียบแน่ๆเลย
คิดแล้วก็น้ำลายไหล
พอเข้ามาในซอยแรกฉันก็พุ่งตรงไปยังร้านขายเบเกอรี่ก่อนจะสั่งมาการองแสนน่ากินตรงหน้าโดยไม่คิดเลยสักนิด
“แวะตั้งแต่ร้านแรกเลยแฮะ” ระหว่างรอก็ได้ยินเสียงแซวตามมา
พอหันกลับไปมองที่มาของเสียงจึงเห็นตาลุงเดินล้วงกระเป๋าตรงมาทางนี้ เออลืมไปเลยว่ามากับลุงนี่หวา
เห็นของกินแล้วลืมทุกอย่างเลยฉัน
“เงินหน่อยลุง” ฉันแบมือไปตรงหน้าผู้ชายร่างสูงตรงหน้า
ตาลุงกองทัพเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจก่อนจะลากสายตากลับมามองฉัน
“เงินไรวะ?” พูดไม่เพราะอะลุง
“ก็เป็นคนพามาก็ต้องเป็นคนเลี้ยงปะ”
“เหอะ” เจ้าของเสียงหัวเราะแหยะๆยกไหล่เล็กน้อย “ไม่มีเงินอะ”
โอ๊ยลุง!
“แก่แล้วยังจน” ฉันบู้หน้าใส่ตาแก่ตรงหน้าแล้วหันไปรับขนมที่ตัวเองมาไว้ในมือ
ในตอนที่กำลังจ่ายเงินก็มีเสียงกระซิบดังอยู่ข้างๆหู
“เงินไม่มีมีแต่ตัว เอาปะ?”
เอาค่ะ!
ใจอยากจะตอบไปแบบนั้นเพราะตาลุงนี้หล่อแต่สมองกลับประมวลได้เร็วกว่าว่าไม่ควร
คือลุงหล่อน่ะยอมรับแต่ลุงแม่งก็ดูเจ้าเล่ห์ด้วยไง ดูเจ้าชู้ ง่ายๆเลยคือดูเฒ่าหัวงูอะ!
ม่อนักใช่มั้ยลุง ได้เลยในเมื่อลุงอยากจะม่อใส่หนูเดี๋ยวปลาทูคนนี้จัดให้
กลวิธีปราบคนแบบนี้...
ทำตัวเฉยๆทั้งๆที่ตั้งใจอ่อย!
ถ้าใครที่ไม่เข้าใจฉันจะอธิบายให้ฟัง ฉันจะปั่นหัวตาลุงนี่โดยการที่ภายนอกทำเป็นไม่สนใจแต่ภายในกำลังอ่อยเนียนๆอยู่
เอาให้แม่งหัวหมุนไปเลยอยากจะกินเด็กดีนัก
เดี๋ยวเด็กจะเล่นเข้าให้!
ฉันล่ะเซียนนักกับการอ่อยให้อยากแล้วจากไปน่ะ
“ตลกแล้วลุง” ฉันพูดเสียงเนือยๆพลางหมุนตัวกลับโดยการหันทางที่ใบหน้าที่ฝ่ายอยู่ทำให้ริมฝีปากเขาลากผ่านแก้มของฉันไปอย่างเฉียดฉิว
หางตาฉันเห็นว่าตาลุงชะงักไป
หึ เป็นไงล่ะลุง
หลังจากนี้ปลาทูจะตกลุงแล้วนะ
อย่างน้อยลุงก็แม่งหล่อถือว่าฉันมีแต่ได้กับได้แล้วกัน ถึงแม้ว่าบางทีเขาจะม่อจนฉันรำคาญก็ตาม
“เชี่ยแม่ง” ได้ยินเสียงลุงกองทัพตามมาหลังจากที่ฉันสาวเท้าไปยังร้านอื่น
ไม่นานร่างคนที่พาฉันมาก็เดินขนาบข้าง “หอมว่ะ” พูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “ขออีกทีดิ”
“จะบ้ารึไงเอาหน้าออกไปนะลุง!” ฉันสะดุ้งโหยงพร้อมกับใช้ฝ่ามือดันใบหน้าเขาให้ออกห่าง
ตาลุงบ้านี่ โอ๊ย!
ฉันคิดถูกคิดผิดที่จะแกล้งอ่อยเขาเนี้ย...
30% : คิดจะลวงปลาทูต้องลวงด้วยของกิน555555555 บอกแล้วว่าพร้อมเพย์มันไม่ชอบมาพากล
กลับมาแล้วค่าาาา จะขอแต่งเรื่องนี้เป็นหลักนะคะเนื่องจากไรท์อยู่ดีๆก็หมดแพชชั่นไปซะอย่างนั้นวันนี้เลยตัดสินใจมาแต่งเรื่องนี้ดู อารมณ์แบบนี้นี้ไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ เบาๆสมองน่าจะฮีลไรท์กลับมาได้ T^T
ความคิดเห็น