ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : เดอะไวท์โรด กับคำวิจารณ์ชำแหละถึงความเป็นขยะทางวรรณกรรม
คุณฐาวรา สิริพิพัฒน์หรือ-- Dr.pop -- เจ้าของนวนิยายวิทยาศาสตร์ แฟนตาซี เรื่อง ไวท์โรด ในเวบไซต์ http://www.dek-d.com/dek-d/entertain/story23 จน เป็นที่นิยมได้รับการโหลดเข้ามาชมมากที่สุดของเวบขึ้นชาร์ตอันดับ 1 คือตัวอย่างเด็กไทยรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนภาพพจน์ของเด็กเล่นเกมมาเป็นนักเขียนนวนิยายแฟนตาซีแทนที่จะเป็นชอบใช้ความรุนแรงตามคำนิยามเก่าๆ
ด้วยความที่ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เด็ก แค่อายุ 14 ปี ป๊อปสามารถวางพล็อตเรื่องได้ และเริ่มเขียนนวนิยายลงทางอินเทอร์เน็ตเมื่อเดือนตุลาคม 2544 โดยดึงเอาส่วนที่ดีและส่วนที่ไม่ดีในการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ มาสร้างตัวละคร..
"ไวท์โรด เป็นเรื่องราวของโลกอากาเซียคล้ายเมืองลับแลซึ่งคนปกติธรรมดาไม่รู้จักจะเป็นที่รู้จักเฉพาะกลุ่ม ผู้มีพลังพิเศษ ไวท์โรด เป็นโรงเรียนที่ทันสมัยไปด้วยอุปกรณ์การเรียนการสอนใช้เทคโนโลยีขั้นสูง แม้แต่พนักงานขายอาหาร สินค้าเบ็ดเตล็ด ยังเป็นหุ่นยนต์ เซราลอยด์ สามารถตอบโต้สนทนา
เนื้อที่ภายในโรงเรียนกว้างใหญ่ไพศาลที่พักจัดให้อยู่ลำพังภายในห้องพักมีคอมพิวเตอร์ให้ประจำส่วนตัวนักเรียนทุกคน และมีสถานที่พักผ่อนในรูปแบบเกมคอมพิวเตอร์ออนไลท์ขนาดมหึมา และตัวเอกของเรื่องก็คือ พอล ซึ่งมีพลังไฟฟ้าสถิตย์ 200,000 โวลต์ แถมยังเรียนสาขาปราบปรามและป้องกัน (ศิลปะการต่อสู้) แต่เขาไม่สามารถควบคุมพลังงานของตัวเองได้ ถ้าโกรธมากหรือจุดอับ มันจะระเบิดออกมา ดังนั้นเขาจึงถูกส่งตัวมายังโลกอากาเซีย เพื่อประเมินว่าสิ่งที่เรียนรู้ไปสามารถนำมาใช้หรือควบคุมที่ให้ได้หรือไม่...
ป๊อปบอกว่า ไวท์โรด จะเป็นเรื่องยาวซึ่งมีทั้งหมด 4 ภาค ที่เขียนลงทางอินเทอร์เน็ตมีเพียงเฉพาะภาคแรกเท่านั้น
ที่อ่านข้างต้นนั้นคือเกริ่นเรื่องราวคร่าวๆก่อนจะเข้าสู่หัวข้อหลักของBlogนี้ครับ เนื่องจากที่ผ่านมามีกระทู้ชำแหละกันแหลกถึงนิยายแฟนตาซีเรื่องนี้ทำให้เกิดวาทะเด็ดๆอย่างสงสารต้นไม้ที่สละชีพ..มาพิมพ์งานของ ดร. ท่านนี้จัง
มีกระทู้ถึงเรื่องนี้ทีไร ต้องมีประชดซะทุกครั้งไปทั้งๆที่ผมเองก็ไม่เคยอ่านเลยนะ พาลทำให้ผมไม่กล้าอ่านตามไปด้วย กลัวเสียเวลาทำมาหากินอันมีค่าไป
แต่ก็น่าแปลกที่ยังมีเยาวชนในบอร์ดเด็กดีดอทคอมอยู่หลายคนออกมาปกป้องสนับและสนุนผลงานอยู่เรื่อยไป ผมก็ไม่อยากพูดอะไรมากหรอกครับแค่เก็บตกเนื้อหาชำแหละมาเท่านั้นแถมไม่ได้ตามอ่านเรื่องนี้ด้วย
นี่คือคำวิจารณ์เมื่อนานมาแล้วจากในพันทิปซึ่งผมเก็บมาครับ
เริ่มแรกที่ได้อ่านไวท์โรด ความรู้สึกคือมันออกจะคล้ายกับเป็นการ์ตูนและผมก็รู้สึกแปลกมากขึ้นเรื่อยๆเมื่ออ่านถึงบทที่ 1 เป็นต้นไปฉากที่พระเอกตื่นขึ้นมาในห้องพยาบาล มันเหมือนกับไฟนอล 8 ชอบกล จากนั้นผมก็ต้องแปลกใจไปเรื่อยกับการที่เนื้อเรื่องเป็นการผสมกันระหว่าง ไฟนอล 8 และ แฮรรี พอตเตอร์
จุดผิดพลาดที่ทุกคนน่าจะรู้กันคือ
1.การมั่นใจในการเขียนของตัวเองมากเกินไปของคนเขียน ซึ่งอาจจะเป็นผลที่เขาไม่เคยอ่านหนังสืออะไรมากเท่านักเขียนปกติ หรือการที่มีแต่เด็กซึ่งประสบการณ์พอกันมาชมเรื่องของตัวเองก็ตาม ทำให้เกิดการใช้โปรโมทด้วยถ้อยคำโฆษณาเกินจริง ซึ่งส่งผลสะท้อนกลับให้เป็นการคาดหวังที่สูงเหลือเกินของคนที่ได้ยินและเมื่อเขาได้อ่านแล้วพบว่ามันไม่สมราคาคุยนั้นก็ ความผิดหวังจะมากกว่าเรื่องอื่นๆเป็นเท่าตัวน่าเสียดายเหลือเกินเป็นการไม่ฉลาดเลยที่ต้องการดังจนทำแบบนี้ เพราะแทนที่จะได้คำวิจารณ์แบบว่า “ก็ดีนะแต่ต้องปรับปรุงอีก” ก็ได้เป็นความเกลียดของคนจำนวนมากแบบตอนนี้แทน
2.เนื้อเรื่องที่ไม่กลมกลืนไม่สมจริงเหมือนคนเขียนไม่เข้าใจในเทคนิคการเขียนเรื่องพื้นฐาน เช่นการที่ให้ทุกคนในโรงเรียนนี้รักพระเอกกันหมดและ รู้สึกดีกับพระเอกกันทันที ให้พระเอกเป็นคนดังทันทีที่ก้าวมาในโรงเรียนโดยเหตุผลแค่ว่าเขาหล่อ ดูจะเบาหวิวเหลือเกิน เหมือนคนเขียนลอกสูตรมาจากแฮรรี่ ว่าคนอ่านชอบตรงมีคนอื่นชื่นชมแฮรรี่ ดังนั้นเขาจึงทำให้พอลมีคนรักมากๆ และรักมากกว่าแฮรรี่อีกโดยหวังจะให้คนอ่านชอบมากกว่า แต่สิ่งที่ออกมากลายเป็นความไร้เหตุผล เพราะไม่มีอะไรมารองรับคนเขียนอาจจะไม่เข้าใจว่าแฮรรี่มีการปูพื้นมาทั้งในเรื่องและกับคนอ่านเพื่อให้คนอ่านรู้สึกดีก่อนแล้ว แต่ตัวละครพอลของเขาไม่ได้เป็นเช่นนั้น ที่แย่ที่สุดคือการให้ผู้หญิงทั้งโรงเรียนเป็นเหมือนตัวการ์ตูนที่งี่เง่าที่ไร้ตามจีบพระเอก เหมือนจะปล้ำผู้ชาย และให้พระเอกวิ่งหนีเข้าห้องน้ำเป็นการเขียนที่แสดงถึงนิสัยเพศชายของคนเขียนที่ไร้มารยาทและดูถูกเพศแม่ของตัวเอกสิ้นดี ไม่ว่าเขาจะหวังให้ชีวิตของตัวเองเป็นอย่างไรก็ตามก็ไม่ควรจะเขียนอย่างนี้
3.การต่อสู้แบบดาร์ก้อนบอล ที่ลอยไปปล่อยพลัง ชื่อไฟนอลแฟลช (ที่ชื่อเหมือนท่าของเบจิต้า) ทำให้เรื่องออกมาเป็นการ์ตูนที่ไม่มีภาพ และทีให้เรื่องดูไร้คลาสไปชอบกล และตรงนี้ก็แสดงให้เห็นอีกว่า เรื่องที่ผ่านมาดูจะไม่ได้ปูให้เห็นเลยว่าทำไมพระเอกที่ตอนแรกไม่เข้าใจพลังของตัวเองเลยจนอายุ 18 แต่อยู่ดีๆก็ลอยได้ เหาะได้แบบกระโดดข้ามพัฒนาการ ของตัวละคร
4.การออกแบบตัวละครที่ผิดพลาดอย่างสิ้นเชิง คือคนเขียนคงจะชินกับเกมมากไปที่คนเล่นจะพอใจที่ตัวละครของตัวเองเก่ง แต่ในนิยาย คนอ่านเป็นบุคคลที่ 3 การที่ให้ทุกอย่างมาดีตรงพระเอกหมดไม่ว่าจะหล่อที่สุด เก่งที่สุด เล่นเกมก็ชนะ แข่งอะไรก็ชนะ ทำอะไรดีไปหมด ทำให้คนอ่านรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องลุ้นเอาใจช่วยอะไรพวกตัวเอกแล้วและทำให้เกิดความชอบในตัวละครน้อยลง นอกจากนี้ตัวละคร ชื่อรีเมียสก็เรียนเก่งสุดและหล่ออันดับ 1 เฟริสก็หล่อ ผู้หญิงในกลุ่มก็สวยอันดับ 1 กับ 2 ของโรงเรียน ทำให้จุดดีๆมากองกันที่กลุ่มตัวเอก จนตัวละครอื่นในโรงเรียนไร้ค่าไปเลย คนเขียนลืมแม้กระทั้งพวกอาจารย์ในโรงเรียนจนออกมาดูเหมือนนักเรียนพวกนี้เก่งกว่าอาจารย์ 10 เท่า แล้วคนอ่านจะต้องลุ้นอะไรอีกล่ะในเมื่อพวกนี้เก่งตลอด
5.ความไม่สมจริงของเนื้อเรื่อง โรงเรียนไม่เก็บค่าเล่าเรียนแต่ดันมีเงินให้และยังสร้างห้องที่มีโฮมเธียเตอร์ อ่างน้ำกุชชี่ คาราโอเกะ ให้นักเรียนใช้กันได้ ให้สอบหยุดกระสุนปืนที่ดูราวกับว่าถ้าตัวเอกมันทำไม่สำเร็จแล้วก็ไม่สามารถให้อาจารย์คนไหนมาช่วยได้เลย การแข่งขันที่เกือบจะให้นักเรียนฆ่ากันตาย ถามว่าความปลอดภัยในความเป็นจริงอยู่ที่ไหนครับ ดูอาจารย์ ผู้ใหญ่ทั้งหลายในเรื่องช่างไร้ประโยชน์เหลือเกินทำอะไรไม่ได้เลย ขนาดตอนเกิดเรื่องในตอนแข่งขัน อาจารย์เป็น 10 คนก็หยุดนักเรียนคนเดียวไม่ได้แล้วมาสอนทำไมครับ โครงการลับของรัฐบาล แต่ป้องกันเด็ก 4 คนไม่ให้บุกเข้าไปไม่ได้แถมเป็นการบุกแบบซึ่งๆหน้าด้วยไม่ได้ใช้แผนเลย โอย..พวกพระเอกจะเก่งถึงไหนชนะทั้งโลกแล้ว
6.เนื้อเรื่องเริ่มมั่ว ตอนแรกบอกว่าพระเอกโดนเก็บมาโรงเรียนเพราะเป็นคนมีพลังพิเศษในโลก เหมือนเรื่อง Xmen แต่อยู่ดี พระเอกโอนสัญชาติเป็นชาวโลกอากาเซียโดยอัตโนมัติ กลายมาเป็นความหวังของโลกในภายหลังเฉยเลย และอยู่ดีๆเรื่องก็ขยายขึ้นมีเผ่าต่างโผล่ออกมา ราวกับว่าคนเขียนพึ่งจะได้ดูหนังเรื่อง lord of the ring ตอนปลายปีที่ผ่านมาจึงคิดเพิ่มเรื่องตัวเองให้ยิ่งใหญ่ไปด้วย
7.ฉากบรรยายแต่ วีดีโอเกม โฮมเธียเตอร์ใหญ่ที่สุด ห้องนอนสุดสบาย ระบบอินเตอร์เน็ตหรู แม้แต่ยานของทางการก็บอกว่ามีแต่ของพวกนี้ อ่างอาบน้ำกุชชี่ ที่เล่นเกม สถานที่พักผ่อน สาวๆตามหลงรักตัวเอง แสดงถึงความเป็นวัตถุนิยมของคนรุ่นใหม่และนิสัยของคนเขียนอย่างแท้จริง ที่ทำให้เนื้อเรื่องช่างมีแต่ความสบายเสวยสุขกันของพวกตัวเอกจนคนอ่านไม่รู้ว่าวันๆพวกเขาจะต้องลำบากบ้างไหม สบายกว่าพวกเราอีกที่ผจญน้ำท่วมกันอยู่ตอนนี้ และคนอย่างนี้นะจะมากู้โลก
ตัวอย่างเจ็ดข้อนะครับ จริงมีอีกสัก 93 ข้อ คนอื่นคิดอะไรออกก็เขียนเองแล้วกัน ความจริงถ้าเขาจะแก้ให้ดีคือต้องเปลี่ยนทั้งเรื่องแน่ๆ
ข้อดีของการที่เรื่องนี้ออกมาคืน ความกล้าที่อาจจะส่งเสริมทำให้ค่ายอื่นมาสนับสนุนวรรณกรรมเยาวชนฝีมือคนไทยมากขึ้น บางที พวกอิมเมจ อมรินทร์ เนชั่น นานมี อาจจะคิดทำบ้างแล้วก็ได้เพราะไวท์โรดได้วางฐานไว้แล้ว แต่สำหรับตอนนี้ไวท์โรดไม่ดีพอจะให้ซื้อครับ ผมจะรอเรื่องอื่นซึ่งอาจจะเป็นแนวใหม่อย่างนี้และมีความสมบรูณ์มีมาตรฐานสมควรเป็นวรรณกรรมมากกว่า ตอนนี้อ่านครุฑน้อย กับส้มสีม่วง ของอมรินทร์ไปพลางๆก่อนแม้จะไม่หวือหวาแต่มีสาระมากกว่าเล่มหนาๆแต่ไม่มีอะไรเยอะ และใครที่คิดจะซื้อคุณควรเอาเงินไปซื้อหนังสือดีๆมากมายดีกว่า
เรื่องนี้เอาไป 3 เต็ม 10 ครับ
จากคุณ : 555 - [ 8 ต.ค. 45 08:47:44 A:202.183.228.67 X:202.183.157.41 ]
ด้วยความที่ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เด็ก แค่อายุ 14 ปี ป๊อปสามารถวางพล็อตเรื่องได้ และเริ่มเขียนนวนิยายลงทางอินเทอร์เน็ตเมื่อเดือนตุลาคม 2544 โดยดึงเอาส่วนที่ดีและส่วนที่ไม่ดีในการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ มาสร้างตัวละคร..
"ไวท์โรด เป็นเรื่องราวของโลกอากาเซียคล้ายเมืองลับแลซึ่งคนปกติธรรมดาไม่รู้จักจะเป็นที่รู้จักเฉพาะกลุ่ม ผู้มีพลังพิเศษ ไวท์โรด เป็นโรงเรียนที่ทันสมัยไปด้วยอุปกรณ์การเรียนการสอนใช้เทคโนโลยีขั้นสูง แม้แต่พนักงานขายอาหาร สินค้าเบ็ดเตล็ด ยังเป็นหุ่นยนต์ เซราลอยด์ สามารถตอบโต้สนทนา
เนื้อที่ภายในโรงเรียนกว้างใหญ่ไพศาลที่พักจัดให้อยู่ลำพังภายในห้องพักมีคอมพิวเตอร์ให้ประจำส่วนตัวนักเรียนทุกคน และมีสถานที่พักผ่อนในรูปแบบเกมคอมพิวเตอร์ออนไลท์ขนาดมหึมา และตัวเอกของเรื่องก็คือ พอล ซึ่งมีพลังไฟฟ้าสถิตย์ 200,000 โวลต์ แถมยังเรียนสาขาปราบปรามและป้องกัน (ศิลปะการต่อสู้) แต่เขาไม่สามารถควบคุมพลังงานของตัวเองได้ ถ้าโกรธมากหรือจุดอับ มันจะระเบิดออกมา ดังนั้นเขาจึงถูกส่งตัวมายังโลกอากาเซีย เพื่อประเมินว่าสิ่งที่เรียนรู้ไปสามารถนำมาใช้หรือควบคุมที่ให้ได้หรือไม่...
ป๊อปบอกว่า ไวท์โรด จะเป็นเรื่องยาวซึ่งมีทั้งหมด 4 ภาค ที่เขียนลงทางอินเทอร์เน็ตมีเพียงเฉพาะภาคแรกเท่านั้น
ที่อ่านข้างต้นนั้นคือเกริ่นเรื่องราวคร่าวๆก่อนจะเข้าสู่หัวข้อหลักของBlogนี้ครับ เนื่องจากที่ผ่านมามีกระทู้ชำแหละกันแหลกถึงนิยายแฟนตาซีเรื่องนี้ทำให้เกิดวาทะเด็ดๆอย่างสงสารต้นไม้ที่สละชีพ..มาพิมพ์งานของ ดร. ท่านนี้จัง
มีกระทู้ถึงเรื่องนี้ทีไร ต้องมีประชดซะทุกครั้งไปทั้งๆที่ผมเองก็ไม่เคยอ่านเลยนะ พาลทำให้ผมไม่กล้าอ่านตามไปด้วย กลัวเสียเวลาทำมาหากินอันมีค่าไป
แต่ก็น่าแปลกที่ยังมีเยาวชนในบอร์ดเด็กดีดอทคอมอยู่หลายคนออกมาปกป้องสนับและสนุนผลงานอยู่เรื่อยไป ผมก็ไม่อยากพูดอะไรมากหรอกครับแค่เก็บตกเนื้อหาชำแหละมาเท่านั้นแถมไม่ได้ตามอ่านเรื่องนี้ด้วย
นี่คือคำวิจารณ์เมื่อนานมาแล้วจากในพันทิปซึ่งผมเก็บมาครับ
เริ่มแรกที่ได้อ่านไวท์โรด ความรู้สึกคือมันออกจะคล้ายกับเป็นการ์ตูนและผมก็รู้สึกแปลกมากขึ้นเรื่อยๆเมื่ออ่านถึงบทที่ 1 เป็นต้นไปฉากที่พระเอกตื่นขึ้นมาในห้องพยาบาล มันเหมือนกับไฟนอล 8 ชอบกล จากนั้นผมก็ต้องแปลกใจไปเรื่อยกับการที่เนื้อเรื่องเป็นการผสมกันระหว่าง ไฟนอล 8 และ แฮรรี พอตเตอร์
จุดผิดพลาดที่ทุกคนน่าจะรู้กันคือ
1.การมั่นใจในการเขียนของตัวเองมากเกินไปของคนเขียน ซึ่งอาจจะเป็นผลที่เขาไม่เคยอ่านหนังสืออะไรมากเท่านักเขียนปกติ หรือการที่มีแต่เด็กซึ่งประสบการณ์พอกันมาชมเรื่องของตัวเองก็ตาม ทำให้เกิดการใช้โปรโมทด้วยถ้อยคำโฆษณาเกินจริง ซึ่งส่งผลสะท้อนกลับให้เป็นการคาดหวังที่สูงเหลือเกินของคนที่ได้ยินและเมื่อเขาได้อ่านแล้วพบว่ามันไม่สมราคาคุยนั้นก็ ความผิดหวังจะมากกว่าเรื่องอื่นๆเป็นเท่าตัวน่าเสียดายเหลือเกินเป็นการไม่ฉลาดเลยที่ต้องการดังจนทำแบบนี้ เพราะแทนที่จะได้คำวิจารณ์แบบว่า “ก็ดีนะแต่ต้องปรับปรุงอีก” ก็ได้เป็นความเกลียดของคนจำนวนมากแบบตอนนี้แทน
2.เนื้อเรื่องที่ไม่กลมกลืนไม่สมจริงเหมือนคนเขียนไม่เข้าใจในเทคนิคการเขียนเรื่องพื้นฐาน เช่นการที่ให้ทุกคนในโรงเรียนนี้รักพระเอกกันหมดและ รู้สึกดีกับพระเอกกันทันที ให้พระเอกเป็นคนดังทันทีที่ก้าวมาในโรงเรียนโดยเหตุผลแค่ว่าเขาหล่อ ดูจะเบาหวิวเหลือเกิน เหมือนคนเขียนลอกสูตรมาจากแฮรรี่ ว่าคนอ่านชอบตรงมีคนอื่นชื่นชมแฮรรี่ ดังนั้นเขาจึงทำให้พอลมีคนรักมากๆ และรักมากกว่าแฮรรี่อีกโดยหวังจะให้คนอ่านชอบมากกว่า แต่สิ่งที่ออกมากลายเป็นความไร้เหตุผล เพราะไม่มีอะไรมารองรับคนเขียนอาจจะไม่เข้าใจว่าแฮรรี่มีการปูพื้นมาทั้งในเรื่องและกับคนอ่านเพื่อให้คนอ่านรู้สึกดีก่อนแล้ว แต่ตัวละครพอลของเขาไม่ได้เป็นเช่นนั้น ที่แย่ที่สุดคือการให้ผู้หญิงทั้งโรงเรียนเป็นเหมือนตัวการ์ตูนที่งี่เง่าที่ไร้ตามจีบพระเอก เหมือนจะปล้ำผู้ชาย และให้พระเอกวิ่งหนีเข้าห้องน้ำเป็นการเขียนที่แสดงถึงนิสัยเพศชายของคนเขียนที่ไร้มารยาทและดูถูกเพศแม่ของตัวเอกสิ้นดี ไม่ว่าเขาจะหวังให้ชีวิตของตัวเองเป็นอย่างไรก็ตามก็ไม่ควรจะเขียนอย่างนี้
3.การต่อสู้แบบดาร์ก้อนบอล ที่ลอยไปปล่อยพลัง ชื่อไฟนอลแฟลช (ที่ชื่อเหมือนท่าของเบจิต้า) ทำให้เรื่องออกมาเป็นการ์ตูนที่ไม่มีภาพ และทีให้เรื่องดูไร้คลาสไปชอบกล และตรงนี้ก็แสดงให้เห็นอีกว่า เรื่องที่ผ่านมาดูจะไม่ได้ปูให้เห็นเลยว่าทำไมพระเอกที่ตอนแรกไม่เข้าใจพลังของตัวเองเลยจนอายุ 18 แต่อยู่ดีๆก็ลอยได้ เหาะได้แบบกระโดดข้ามพัฒนาการ ของตัวละคร
4.การออกแบบตัวละครที่ผิดพลาดอย่างสิ้นเชิง คือคนเขียนคงจะชินกับเกมมากไปที่คนเล่นจะพอใจที่ตัวละครของตัวเองเก่ง แต่ในนิยาย คนอ่านเป็นบุคคลที่ 3 การที่ให้ทุกอย่างมาดีตรงพระเอกหมดไม่ว่าจะหล่อที่สุด เก่งที่สุด เล่นเกมก็ชนะ แข่งอะไรก็ชนะ ทำอะไรดีไปหมด ทำให้คนอ่านรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องลุ้นเอาใจช่วยอะไรพวกตัวเอกแล้วและทำให้เกิดความชอบในตัวละครน้อยลง นอกจากนี้ตัวละคร ชื่อรีเมียสก็เรียนเก่งสุดและหล่ออันดับ 1 เฟริสก็หล่อ ผู้หญิงในกลุ่มก็สวยอันดับ 1 กับ 2 ของโรงเรียน ทำให้จุดดีๆมากองกันที่กลุ่มตัวเอก จนตัวละครอื่นในโรงเรียนไร้ค่าไปเลย คนเขียนลืมแม้กระทั้งพวกอาจารย์ในโรงเรียนจนออกมาดูเหมือนนักเรียนพวกนี้เก่งกว่าอาจารย์ 10 เท่า แล้วคนอ่านจะต้องลุ้นอะไรอีกล่ะในเมื่อพวกนี้เก่งตลอด
5.ความไม่สมจริงของเนื้อเรื่อง โรงเรียนไม่เก็บค่าเล่าเรียนแต่ดันมีเงินให้และยังสร้างห้องที่มีโฮมเธียเตอร์ อ่างน้ำกุชชี่ คาราโอเกะ ให้นักเรียนใช้กันได้ ให้สอบหยุดกระสุนปืนที่ดูราวกับว่าถ้าตัวเอกมันทำไม่สำเร็จแล้วก็ไม่สามารถให้อาจารย์คนไหนมาช่วยได้เลย การแข่งขันที่เกือบจะให้นักเรียนฆ่ากันตาย ถามว่าความปลอดภัยในความเป็นจริงอยู่ที่ไหนครับ ดูอาจารย์ ผู้ใหญ่ทั้งหลายในเรื่องช่างไร้ประโยชน์เหลือเกินทำอะไรไม่ได้เลย ขนาดตอนเกิดเรื่องในตอนแข่งขัน อาจารย์เป็น 10 คนก็หยุดนักเรียนคนเดียวไม่ได้แล้วมาสอนทำไมครับ โครงการลับของรัฐบาล แต่ป้องกันเด็ก 4 คนไม่ให้บุกเข้าไปไม่ได้แถมเป็นการบุกแบบซึ่งๆหน้าด้วยไม่ได้ใช้แผนเลย โอย..พวกพระเอกจะเก่งถึงไหนชนะทั้งโลกแล้ว
6.เนื้อเรื่องเริ่มมั่ว ตอนแรกบอกว่าพระเอกโดนเก็บมาโรงเรียนเพราะเป็นคนมีพลังพิเศษในโลก เหมือนเรื่อง Xmen แต่อยู่ดี พระเอกโอนสัญชาติเป็นชาวโลกอากาเซียโดยอัตโนมัติ กลายมาเป็นความหวังของโลกในภายหลังเฉยเลย และอยู่ดีๆเรื่องก็ขยายขึ้นมีเผ่าต่างโผล่ออกมา ราวกับว่าคนเขียนพึ่งจะได้ดูหนังเรื่อง lord of the ring ตอนปลายปีที่ผ่านมาจึงคิดเพิ่มเรื่องตัวเองให้ยิ่งใหญ่ไปด้วย
7.ฉากบรรยายแต่ วีดีโอเกม โฮมเธียเตอร์ใหญ่ที่สุด ห้องนอนสุดสบาย ระบบอินเตอร์เน็ตหรู แม้แต่ยานของทางการก็บอกว่ามีแต่ของพวกนี้ อ่างอาบน้ำกุชชี่ ที่เล่นเกม สถานที่พักผ่อน สาวๆตามหลงรักตัวเอง แสดงถึงความเป็นวัตถุนิยมของคนรุ่นใหม่และนิสัยของคนเขียนอย่างแท้จริง ที่ทำให้เนื้อเรื่องช่างมีแต่ความสบายเสวยสุขกันของพวกตัวเอกจนคนอ่านไม่รู้ว่าวันๆพวกเขาจะต้องลำบากบ้างไหม สบายกว่าพวกเราอีกที่ผจญน้ำท่วมกันอยู่ตอนนี้ และคนอย่างนี้นะจะมากู้โลก
ตัวอย่างเจ็ดข้อนะครับ จริงมีอีกสัก 93 ข้อ คนอื่นคิดอะไรออกก็เขียนเองแล้วกัน ความจริงถ้าเขาจะแก้ให้ดีคือต้องเปลี่ยนทั้งเรื่องแน่ๆ
ข้อดีของการที่เรื่องนี้ออกมาคืน ความกล้าที่อาจจะส่งเสริมทำให้ค่ายอื่นมาสนับสนุนวรรณกรรมเยาวชนฝีมือคนไทยมากขึ้น บางที พวกอิมเมจ อมรินทร์ เนชั่น นานมี อาจจะคิดทำบ้างแล้วก็ได้เพราะไวท์โรดได้วางฐานไว้แล้ว แต่สำหรับตอนนี้ไวท์โรดไม่ดีพอจะให้ซื้อครับ ผมจะรอเรื่องอื่นซึ่งอาจจะเป็นแนวใหม่อย่างนี้และมีความสมบรูณ์มีมาตรฐานสมควรเป็นวรรณกรรมมากกว่า ตอนนี้อ่านครุฑน้อย กับส้มสีม่วง ของอมรินทร์ไปพลางๆก่อนแม้จะไม่หวือหวาแต่มีสาระมากกว่าเล่มหนาๆแต่ไม่มีอะไรเยอะ และใครที่คิดจะซื้อคุณควรเอาเงินไปซื้อหนังสือดีๆมากมายดีกว่า
เรื่องนี้เอาไป 3 เต็ม 10 ครับ
จากคุณ : 555 - [ 8 ต.ค. 45 08:47:44 A:202.183.228.67 X:202.183.157.41 ]
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น