ภาพประกอบ : http://strangesounds.org/2015/06/the-sixth-mass-extinction-is-here-and-already-under-way.html
เกริ่นนำ
ซึ่ง Shaena ได้เกริ่นแต่แรกไว้ว่า คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันเรื่มตระหนักถึงปัญหาเรื่อง การสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตนี้แล้ว แต่ก็มีคำถามสำคัญตามมาว่า'' สิ่งมีชีวิตที่เสียงต่อการสูญพันธุ์ มีมากกว่าที่เราควรจะตระหนักหรือไม่''
แล้วแนวโน้มที่จะเกิดการสูญพันธุ์หล่ะ?
จากผลการศึกษาวิจัยที่ Shaena ได้หยิบยกขึ้นมาก พบว่า แนวโน้มอัตราการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตนั้น มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นจากในอดีตเป็นอย่างมาก ซึ่งสิ่งที่ทำให้อัตราการสูญพันธุ์เพิ่มสูงขึ้นมาก นั่นก็เพราะเกิดจากพฤติกรรมการทำลายธรรมชาติของมุนุษย์นั่นเอง
ภาพประกอบ : http://irmgardebrown.com/2013/08/22/muddled-majesty/
แล้วยังไงต่อหล่ะ ?
นี่เป็นคำถามสำคัญเลยค่ะ ว่าทำไมเราควรที่จะตระหนักถึงเรื่องนี้ เพราะอย่างที่รู้กัน ว่า เราและสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็น ต้นไม้ หมา แมว ล้วนเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กัน และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างก็มีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ถ้าขาดสิ่งใดไปก็จะส่งผลต่อสิ่งอื่นๆด้วย เป็นโดมิโน ยกตัวอย่างง่ายๆ เลยคือ สมมติงูสูญพันธุ์ไป มันก็เหมือนจิ๊กซอว์ที่ขาดหายไป เกิดความไม่สมบูรณ์ขึ้น คือ เมื่องูไม่มี หนู นกก็จะมีจำนวนมาก ซึ่งสัตว์เหล่านี้เป็นตัวทำลายผลผลิตทางการเกษตร เมื่อผลผลิตเสียหาย ก็จะส่งผลกระทบโดยรวมต่อเราและด้านอื่นๆในที่สุด ซึ่งนี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น
ภาพประกอบ : http://discovermagazine.com/2014/jan-feb/72-arsenic-tainted-rice-is-harmful-to-humans
โดยในบทความนี้ยังได้กล่าวอีกว่า มีความจริงที่โหดร้าย คือ คนเรานี่แหล่ะค่ะ คือ ต้นเหตุสำคัญที่ทำให้สัตว์บางชนิดสูญพันธุ์ไป โดยได้กล่าวถึงตัวอย่างสัตว์สูญพันธุ์ที่นำมากล่าวถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งนี้ก็เพื่อให้พวกเรานี่แหล่ะ ตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ !!! ที่เห็นได้ชัดๆเลยคือ เจ้าวัวทะเลของสเตลเลอร์(อันนี้แปลจากชื่อ Steller's sea cow นะคะ) ซึ่งเจ้าตัวนี้เป็นสัตว์ที่ถูกล่าอย่างหนักจนต้องสูญพันธุ์ไปในที่สุด
เจ้า Steller's sea cow
ภาพประกอบ : http://www.rmdrc.com/archives/2534
แล้วคนอื่นๆว่าอย่างไร
เห็นอย่างนี้แล้ว เราเลยอยากจะนำความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ของคนอื่น หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกันมาให้อ่านกันดูว่าเป็นยังไงบ้าง
โดยเริ่มจากคนแรกนี้จะเป็นคนเล่นอินเทอร์เน็ตทั่วไปที่มาตอบเกี่ยวกับบทความนี้ในเว็บไซต์ของฟอร์บเองเลยค่ะ โดยเขาบอกว่า
'' ฉันเห็นด้วยกับเรื่องที่นำเสนอนี้นะ ว่าถ้าพวกเราอยู่อย่างเห็นใจกันและกัน สัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วเหล่านี้ คงจะได้รับการปกป้องคุ้มครอง อย่างมากที่สุดคือ ไม่ทำลายแหล่งที่อยู่ของพวกมัน ''
สัตว์ในอดีตที่สูญพันธุ์ไปแล้ว
ภาพประกอบ : http://www.britannica.com/science/extinction-biology/images-videos
และอีกอันคือ เราได้ตัดบางท่อนของข้อความมาจากหนังสือ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์ ที่คุณวัฒนา ตันเสถียรได้เขียนไว้ว่า
''แต่ในปัจจุบันสิ่งมีชีวิต สูญพันธุ์ได้เมื่อแหล่งที่อาศัย แหล่งน้ำ แหล่งอาหาร หรือสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติถูกทำลาย หากมนุาย์เป้นเหตุให้สิ่งมีชีวิตสูญพันธุ์เพิ่มขึ้น ย่อมมีผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพของโลกในปัจจจุบัน ซึ่งย่อมต้องส่งผลสะท้อนกลับมาสู่ตัวมนุษย์เอง''
ภาพประกอบ : http://www.bbc.co.uk/nature/extinction_events
เราคงเห็นแล้วใช่ไหมคะ ว่าสัตว์แต่ละชนิดสำคัญขนาดไหน เพราะถ้าหากขาดตัวใดตัวหนึ่งไป ก็จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุดท้ายก็จะส่งผลต่อพวกเราในที่สุด ฉะนั้นแล้ว อย่ารอช้าเลยค่ะ นับแต่นี้ต่อไป พวกเราทุกคนควรที่จะหันมาดูแล และรักษาสัตว์ต่างๆ และคงจะไม่ใช่เฉพาะสัตว์อย่างเดียว แต่หมายรวมถึงสิ่งมีชีวิตทุกชนิด รวมทั้ง''โลก'' อันเปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่ของเราด้วย'' เพราะสิ่งสำคัญ คือ เราและสิ่งมีชีวิตทุกคนบนโลก ไม่มีใครอยู่อย่างโดดเดี่ยว ทุกชีวิตต่างพึ่งพาอาศัยกันทั้งนั้น เพราะพวกเรา คือ ครอบครัวเดียวกัน เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน เป็นจิ๊กซอว์แต่ละชิ้นที่ประกอบกันเป็นโลกใบนี้
และแน่นอนว่าเราคงจะห้ามไม่ให้มีการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตไม่ได้ แต่อย่าลืมว่า เราสามารถปกป้องและชะลอการสูญพันธุ์นี้ได้ เพียงเราตระหนักและร่วมมือกัน สวัสดีค่ะ
ภาพประกอบ : http://gabbywild.com/
บทความนี้เขียนขึ้นโดยมีพื้นฐานจากบทความเรื่อง Humans Are Responsible For The Ongoing Sixth Mass Extinction โดยShaena Montanari
ที่มา : http://www.forbes.com/sites/shaenamontanari/2015/06/24/humans-are-responsible-for-the-ongoing-sixth-mass-extinction/
ความคิดเห็น