valentine story
ในเมื่อความรู้สีกที่มีให้ มั่นใจว่าเรียกมันว่ารัก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไงมันก็ไม่เปลี่ยนไปง่ายๆหรอก
ผู้เข้าชมรวม
400
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ความรักคือการให้ ใช่ ความรักคือการให้ มีคนเคยพูดกับฉันแบบนี้เมื่อปีที่แล้ว
ดอกกุหลาบสีขาว พร้อมการ์ดวาเลนไทน์สีแดง แถมด้วยคำสารภาพสุดโรแมนติกที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะได้ฟังจากปากเขา...ผู้ชายเงียบๆ ท่าทางเย็นชา เคร่งขรึมกับทุกๆเรื่อง และดูเหมือนจะเข้ากับเพื่อนๆคนได้ไม่ได้เลย
วันวาเลนไทน์ เป็นวันพิเศษในสังคมนักเรียน วันที่จะได้บอกรักคนที่รัก วันที่จะได้ดอกกุหลาบจากคนที่รัก แต่สำหรับฉัน มันก็เพียงแค่วันธรรมดาวันนึง วันที่ฉันจะได้มองเพื่อนๆบอกรักคนที่พวกเขารัก วันที่ฉันจะได้มองแฟนของเพื่อนเอาดอกไม้มาให้เพื่อนของฉัน
วันที่คนมีความรักมีความสุขที่สุด วันที่สุดแสนจะโรแมนติกสำหรับคู่รักหลายๆคู่ วันที่น่าตื่นเต้นสำหรับคนที่กำลังจะสารภาพ ....แล้วฉันก็นั่งเฉยๆ อย่างเงียบๆ เพียงคนเดียว....เพราะอะไรน่ะเหรอ...เหตุผลนั้นไม่สำคัญ แต่ปีนี้ มันเทียบกับปีที่แล้วไม่ได้เลย...
' ปีที่แล้ว '
เช้าของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ฉันมาโรงเรียนแต่เช้า มันไม่ใช่วันที่พิเศษอะไรนักหรอก ก็แค่วันวาเลนไทน์เอง....
บรรยากาศของดอกกุหลาบ รอยยิ้มของบรรดาเจ้าของกุหลาบและผู้รับ มันเป็นภาพที่ฉันเห็นจนเจนตา ก็ฉันอยู่โรงเรียนนี้มานานพอที่จะเดาออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้...
แต่ดูเหมือนว่าปีนี้มันจะมีอะไรบางอย่างที่แปลกไป เมื่อเขา เพื่อนชายร่วมห้องของฉันคนหนึ่ง (ซึ่งไม่เคยคุยกันแม้แต่คำเดียว) เดินมาโรงเรียนพร้อมกับดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่...ใครๆก็รู้ว่ากุหลาบขาวน่ะมันแพงแค่ไหน อีกอย่าง สิ่งที่ทุกๆคนสงสัย ก็คือ ...เขาจะเอามาให้ใคร...
พูดตรงๆว่าฉันก็แอบคิดว่า ผู้หญิงคนที่ได้รับกุหลาบขาวจากเขา คงจะเป็นคนที่โชคดีน่าดู ผู้ชายอย่างเขา ไม่ใช่คนที่จะบอกรักหรือสารภาพกับใครง่ายๆ
ทุกคนในห้องหันไปมองที่กุหลาบขาวช่อใหญ่ในมือเขาด้วยความตกตะลึง ผู้หญิง มีสายตาอยากได้ระคนอิจฉา ส่วนผู้ชาย....เอ่อ...มันอยากได้ เฮ้!!! ฉันว่าฉันมองสายตาพวกมันออกนะ มันอยากได้งั้นเหรอ....เกย์ป่าววะ....
จนฉันได้เข้าใจความหมายของสายตาแบบนั้นเมื่อ "เฮ้ สาวไหนหลงผิดให้แกมาวะนั้น" ฉันจึงได้เข้าใจว่าพวกมันเข้าใจผิด แต่ถ้าเกิดมันเป็นเกย์ขึ้นมาจริงๆล่ะ....หยึ๋ยย!! แค่คิดก็สยอง...
เขาไม่ตอบคำถาม แล้วเดินไปที่โต๊ะ ไอ้เพื่อนคนที่ถามเลยบ่นแกมด่าบวกประชดขึ้นมาเสียงดัง "แหม ได้ดีแล้วไม่บอกเพื่อนนะ"
ดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ในมือเขา ไม่ได้ถูกส่งให้ใคร จนกระทั่งตอนเที่ยง...
หลังจากที่ฉันกลับมาจากกินข้าวกลางวันกับเพื่อนๆ ก็ต้องยืนค้างที่ประตูห้อง...ทำไมดอกกุหลาบช่อใหญ่นั่น ถึงมาอยู่บนโต๊ะฉัน!! ทำไมเขาถึงลืมของสำคัญขนาดนี้ไว้บนโต๊ะคนอื่น....
...เพื่อนๆตัวดีของฉันรีบวิ่งไปที่โต๊ะฉันพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย คงจะเดาออกนะคะว่ามันจะทำอะไรกัน...
"เฮ้ โบว์ ไอ้เอกมันให้แกว่ะ"
"เป็นไปได้ไง อย่างไอ้เอกเนี่ยนะ"
"มีการ์ดด้วยอ่ะ"
"แหวะ เน่าโว้ยยยย"
"มานี่ดิ๊ไอโบว์" เพื่อนเรียกฉันที่ยืนค้างที่ประตูห้องให้เข้าไปดู แล้วฉันก็ต้องค้างอีกรอบเมื่อพบว่า เขาให้ฉันจริงๆ ข้อความในการ์ดวาเลนไทน์สีแดง ไม่ได้ระบุชื่อคนส่งเอาไว้ แต่ฉันก็รู้ว่าต้องเป็นของเขาแน่นอน
....ทำไมเขาไม่เอามาให้เองล่ะ...เอาเหอะ เดี๋ยวก็ได้เจอแล้ว เขาคงจะบอกฉันเองว่าเอามาให้ฉันเพราะอะไร....
ไม่นานนัก เขาก็กลับมาพร้อมกับเพื่อนสนิทไม่กี่คน ใบหน้าเขาเรียบเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขามองมาที่ฉันแว๊บหนึ่งแล้วจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ(ปกติเขาก็ไม่พูดอยู่แล้ว) ฉันจึงตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปถามเขาเอง
"นาย...เอ่อ...นายให้ดอกไม้ฉันเหรอ" ฉันพูดติดขัดเนื่องจากไม่เคยพูดกับเขามาก่อน
เขาพยักหน้า แต่ก็ไม่มีคำพูดอะไรตามมา ฉันกำลังจะเอ่ยปากถาม แต่เขากลับลุกขึ้นแล้วเดินนำฉันออกไปหน้าห้องซึ่งไม่ค่อยมีคน
"ฉันชอบเธอมานานแล้ว และความชอบก็กำลังจะกลายเป็นความรัก พูดตรงๆว่าฉันไม่เคยชอบใครเท่าเธอ ถ้าเธอคิดกับฉันแค่เพื่อน ฉันก็ไม่อยากบังคับจิตใจเธอ แต่อยากให้เธอรู้ไว้ ฉันไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนใจ" น้ำเสียงทุ้มๆของเขา ฟังแล้วลื่นหู ฉันไม่เคยได้ยินเขาพูดแบบชัดๆแบบนี้มาก่อน ทั้งๆที่อยู่ห้องเดียวกับเขามาหลายปีแล้ว ฉันพยักหน้า แล้วยิ้มน้อยๆอย่างอายๆ
เขาถามฉันอีกว่า "ว่าไง จะตกลงหรือเปล่า" ฉันบอกเขาว่าขอคิดดูก่อน เขาหน้าจ๋อยไป แล้วบอกว่า "ไม่เป็นไร ฉันรอเธอได้เสมอ ความรักคือการให้ ฉันให้เวลาเธอ"
เมื่อฉันมาคิดๆดูแล้ว ฉันว่าเขาก็เป็นคนดี ความจริงแล้ว ฉันก็แอบปลื้มเขามานานพอสมควรแล้วล่ะ แต่ใครจะไปคิดว่าเขาจะคิดกับฉันมากกว่าเพื่อน
หลังจากวันนั้น เขาก็ไม่มาคุยกับฉันอีก เป็นเหมือนก่อนที่เขาจะสารภาพ คือ ดุๆ ขรึมๆ ไม่พูดกับใคร
วันนึง ไอ้เพื่อนตัวแสบมันมาบอกฉันว่าเขาไม่สบาย ทำให้เขายิ่งเงียบกว่าเดิมเป็น 2เท่า ฉันเดินไปหาเขาด้วยความเป็นห่วง แล้วถามว่า "นายไม่สบายเหรอ" เขามองไปทางอื่น แล้วพยักหน้า ฉันเพิ่งสังเกตว่าหน้าเขาดุชะมัด "กินยาหรือยัง" เขาพยักหน้าอีกครั้ง มันน่าน้อยใจนักนะ ไม่คิดจะหันมามองกันมั่งเลยหรือไง.... "รู้มั๊ย คนอื่นเค้าเป็นห่วง" คำพูดนี้ทำให้เขาหันมามองฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม ฉันพยักหน้าแล้วพูดต่อไป
"ฉันจะมาตอบคำถามของนาย ฉันตกลงล่ะ" ฉันว่าฉันคิดดีแล้วที่ตัดสินใจแบบนี้ ฉันไม่ได้ชอบเขาเพราะเขาชอบฉัน แต่....เหตุผลนั้นไม่สำคัญ ฉันคิดดีที่สุดแล้ว ยิ่งเวลานี้เขาต้องการคนดูแล ฉันไม่อยากต้องปิดบัง ทั้งเขา ทั้งเพื่อน และตัวเอง เวลาเป็นห่วงและดูแลเขาอยู่ห่างๆอีกต่อไป เขายิ้ม...รอยยิ้มของเขาทำให้โลกของฉันสดใสขึ้นมาทันทีเลยล่ะ....
ฉันกับเขาคบกันมานานพอดู ชีวิตของเราสองคนราบรื่นมาโดยตลอด ทะเลาะก็มีบ้าง แต่ก็จบลงด้วยคำว่ารัก แต่ครั้งนี้มันไม่เป็นอย่างนั้นน่ะสิ
ฉันมาโรงเรียนแต่เช้าตามปกติ แต่ที่แปลกคือ ทำไมวันนี้เขามาถึงโรงเรียนก่อนฉัน ทั้งๆที่ปกติแล้ว เขาจะมาสายกว่าฉันเกือบครึ่งชั่วโมง
"เอก ทำไมนายมาเร็ว" ฉันถามยิ้มๆ "เรื่องของฉัน" เขาเป็นอะไร ???? ใจเย็นเอาไว้โบว์ เธอเป็นคนใจเย็น ท่องเอาไว้สิ
"เป็นอะไรหรือเปล่า ดูเครียดๆ" ฉันถามดีๆอีกครั้ง "เรื่องของฉัน" คำตอบเดิม ทำเอาฉันน้ำตาไหลเป็นสาย กัดฟันแน่น ป้องกันตัวเองพูดอะไรร้ายแรงออกไป แต่ดูเหมือนฉันจะห้ามตัวเองอยู่เพียงนิดเดียวเท่านั้น
"ฉันแค่ถามนายเพราะความเป็นห่วงอย่างที่คนรักกันเค้าถามกัน นายไม่เคยเข้าใจฉันเลยจริงๆ...." ฉันทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆเขา ฉันเห็นเขาหันมามอง "โถ่เว้ย!!!" เขาสบถเสียงดังแล้วเดินจากไป...
ฉันร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนเพื่อนๆคนอื่นๆเริ่มทยอยเข้ามาในห้อง ฉันจึงหยุดร้องและทำสีหน้าให้ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้
เดือนมกราคมผ่านไป ไวเหมือนโกหก เดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก ค่อยๆคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆอีกครั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขา ยังคงค้างคาตั้งแต่วันนั้น แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่วัน...แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่ผ่านไปช้าๆอย่างทรมานที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมา
วันที่10กุมภาพันธ์ เมื่อ 4วันที่แล้ว เขาเดินมาหาฉัน...เป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน เราไม่ได้คุยอะไรกันเลย เหมือนเป็นแค่คนรู้จัก เหมือนก่อนที่เราจะคบกัน...
"โบว์ ฉันคิดดีแล้ว" เขาหยุดพูด ฉันกำลังคิดว่าเขาจะมาขอโทษ และขอคืนดี แต่ฉันก็คิดผิด "เราเลิกกันเหอะ" น้ำตาฉันไหลพรากโดยที่ไม่รู้ตัว เขายืนมองฉันร้องไห้ สายตาเรายังคงสบกัน
"ทำไม" ฉันถามด้วยเสียงสั่นเครือ เขาสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เข้าปอด และคำตอบของเขา ก็ไม่ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย "เราเข้ากันไม่ได้" ฉันขมวดคิ้ว น้ำตายังไหลลงมาไม่ขาดสาย
...ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันว่าฉันกับเขารักกันมาก จนหลายๆคนยังอิจฉา แต่ทำไมจู่ๆ เขาถึงยกข้ออ้างนี้ขึ้นมาเป็นเหตุผล..
"เอก นายก็รู้ว่าฉันรักนายมากแค่ไหน นายก็บอกว่ารักฉัน แต่ทำไม.......หรือตลอดเวลาที่ผ่านมา นายโกหกฉันมาตลอด" เขาพยักหน้าแล้วเดินจากไป ฉันร้องไห้โฮอย่างไม่อายใคร
"โบว์ ถึงแกจะโดนทิ้ง แต่แกก็ยังมีฉันนะ" เสียงจากเพื่อนสนิท ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น
....ฉันจะลืมเขาให้ได้ ลืมว่าครั้งนึงเราเคยรักกัน......ลืมว่าครั้งนึงเราเคยห่วงใยกัน.....ลืมว่าครั้งนึงเราเคยเป็นคนรักกัน...ลืมวันวาเลนไทน์ปีที่แล้วไปให้หมด....ฉันสาบาน!!!
วันนี้
14 กุมภา เวียนมาอีกครั้ง ฉันนั่งเหงาอยู่คนเดียวเหมือนปีก่อนๆ ไม่มีคนถือดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ พร้อมการ์ดวาเลนไทน์สีแดง ไม่มีคำบอกรัก ไม่มีสายตาห่วงใยจากเขาคนนั้น
ฉันสัญญาว่าฉันจะลืมเขาให้ได้ แต่ฉันก็ทำไม่ได้สักที
วันพิเศษวันนี้ยังคงเงียบเหงาดังเดิม .... เสียงออดบอกเวลาเข้าเรียนดังขึ้น นักเรียนทุกคนอยู่ในท่าเตรียมพร้อม รอรับครู สายตาทุกคนจับจ้องไปที่กระดานดำที่ไร้ซึ่งตัวหนังสือใดๆทั้งสิ้น แต่สายตาฉัน กลับมองไปที่โต๊ะเรียนที่ว่างเปล่าของเขา.....เขาไปไหน...
ราวกับสวรรค์ประทานคำตอบมาให้ เขาเดินมาในห้องพร้อมดอกกุหลาบสีแดง 1ดอก เขาจะเอาไปให้ใครอีกนะ...
เขาเดินมาที่ฉัน ทุกสายตาในห้องมองไปที่เขา เขายื่นกุหลาบให้ฉัน แล้วพูดว่า "โบว์ เรากลับมาคบกันได้มั๊ย ฉันอยู่ไม่ได้เมื่อไม่มีเธอ"
น้ำตาฉันไหลช้าๆ...นี่ฉันกลายเป็นคนขี้แยไปแล้วหรือไง.....แต่ทำไมเขาต้องทำกับฉันแบบนี้ เขาจะทำร้ายจิตใจฉันไปถึงไหน บอกรักวันวาเลนไทน์ แล้วอีกปีค่อยบอกเลิกเนี่ยนะ.....มันง่ายไปหรือเปล่า ฉันเสียใจเพราะเขามามาก แค่ดอกกุหลาบดอกเดียว จะทำให้ฉันกลับไปให้เขาทำร้ายจิตใจต่อไปหรือ....
สมองฉันกำลังสั่งให้ฉันปฏิเสธเขาซะ ฉันต้องเข้มแข็ง...
แต่หัวใจฉัน กลับสั่งให้ฉันให้อภัยเขาแล้ว ยอมให้เขาทำร้ายจิตใจตัวเองอีกครั้ง
...และดูเหมือนหัวใจฉันจะชนะ ... ฉันเอื้อมมือไปรับดอกไม้จากเขาทั้งน้ำตา เขาเริ่มพูดต่อไป
"ฉันรักเธอมากนะ ขอโทษที่ทำให้เธอเสียใจ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ทำให้เธอต้องร้องไห้เพราะฉันอีก ฉันสัญญา" สิ่งที่ฉันอยากรู้มากที่สุดก็คือ ทำไมเขาถึงทำกับฉันแบบนั้น ในวันนั้น...แต่ฉันก็ไม่กล้าถาม...ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน..
ช่างมันเหอะน่าา ฉันตอบตกลงเขาไปอีกครั้ง
ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากนี้ ฉันจะต้องเสียใจเพราะเขาอีกสักกี่ครั้ง ไม่มีใครรู้ว่าวันวาเลนไทน์ปีหน้าจะเป็นอย่างไร ฉันจะได้รักกับเขาไปอีกนานแค่ไหน แต่สิ่งที่ฉันรู้ในวันนี้ก็คือ
ผลงานอื่นๆ ของ รุ้งสลับสี ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ รุ้งสลับสี
ความคิดเห็น