[FIC EXO] SMiLE :)
คุณเคยตกหลุมรักใครเพราะรอยยิ้มมัย ไม่เคยเหรอ น่าเสียดายจัง ผมว่าผมจะเล่าให้คุณฟังดีกว่า
ผู้เข้าชมรวม
429
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
SMILE :)
คุณเคยตกหลุมรักใครเพราะรอยยิ้มมัย ไม่เคยเหรอ น่าเสียดายจัง ผมว่ามันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก
เลยนะ ถึงมันจะมีบางครั้งที่เจ็บก็เถอะ ผมพึ่งจะรู้ว่าหมอนั้นยิ้มได้น่ารักขนาดนี้
ทั้งที่เจอกันทุกวันแต่ผมพึ่งรู้เอง เสียดายจังแหะ ผมว่าผมจะเล่าให้คุณฟังดีกว่า
เช้าวันจันทร์แสนสดใสของผมที่ตื่นนอนพร้อมไปโรงเรียนชีวิตเด็ก ม.ปลายปี3 คงไม่มีอะไรมากนอกจากเก็บความทรงจำกับเพื่อนไว้ให้มากที่สุด ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นเด็กนักเรียนที่เลือกจะไปโรงเรียนแต่เช้า ผมแค่อยากไปเล่นบาสกับเพื่อนเท่านั้นเองแหละ
“จงแด มานี่สิลูก”
“ครับม๊า”
“ม๊าทำบราวนี่ไว้ลองเอาไปให้เพื่อนชิมดูสิ”
แล้วผมก็รับกล่องบราวนี่มาจากม๊า ขี่มอไซ คู่ใจไปโรงเรียนตามปกติ
ผมจอดรถไว้หน้าโรงเรียนตอนโดดเรียนจะได้โดดสะดวก ผมเดินไปตามทางเดินของโรงเรียนก่อนที่ผมจะนึกได้ว่าผมมีกล่องบราวนี่อยู่ในมือถ้าเอาไปสนามบาสด้วยคงเละแน่นอน
เอาไงดีหว่า มองซ้ายมองขวาอยู่นานผมก็พบกับไอ้ซาลาเปาเด็กเรียนห้องผมเอง
เพื่อเป็นการผลักพาระผมว่าผมเอาบราวนี่ให้มันไปกินดีกว่า คิดได้อย่างนั้น
“เฮ้ มินซอก!!!”
“เอ่อ นายเรียกฉันเหรอ”
“ช่ายย อะแม่ฉันฝากมาให้...เอาไปแบ่งเพื่อนกินด้วยหล่ะ”
“ขอบใจนะ J”
… ถ้าตาผมไม่ได้ฝาดไปทำไม ไอ้รอยยิ้มเมื่อกี้
มันน่ารักจังวะ
ผมต้องบ้าไปแล้วแน่เลยไอ้อ้วนนั้นนะมันน่ารักซะที่ไหน ตัวเตี้ยๆอ้วนๆขาวๆกลมเป็นซาลาเปาเดินได้ มันน่ารักตรงไหน(ก็นิดนึง) ผมคงนอนน้อยไปสินะ เลิกบ้าแล้วนอนดีกว่า
-- ม๊าผมคงพึ่งไปเรียนทำขนมสินะทำได้ทุกวี่ทุกวันจริงๆ ผมก็ใช้วิธีเดิมนั้นแหละเอาให้ไอ้เตี้ยซาลาเปาของผมไปกินเหมือนทุกวัน แต่ไม่รู้ทำไมเวลาหมอนั้นยิ้มผมต้องเขินด้วยหล่ะ
“แม่ง ไม่เข้าใจโว้ย”
“เป็นเชี่ยไรครับคุณเพื่อนจงแด”
เสียงไอ้เปรตปาร์ค ชานยอล เพื่อนผมเองละครับไอ้นี่ก็สูงเหลือเกินไม่รู้แม่มันให้กินอะไรถึงได้สูงได้สูงดี โว้ยหงุดหงิด
“ไม่รู้กูหงุดหงิด”
“มึงไม่รู้แล้วกูจะตรัสรู้กับมึงไมคุณเพื่อน”
“สวัสดีครับ พี่จงแด พี่ชานยอล…เอ่อพี่จงแดเป็นอะไรรึป่าวครับ”
ส่วนนี่เสียงน้องแบคฮยอนครับรุ่นน้องที่เล่นบาสด้วยกัน น้องมันแอบชอบไอ้ชานยอล
เรื่องแบบนี้ถามไอ้ยอลคงไม่ได้คำตอบ ถามน้องแบคดีกว่า
“แบคกี้ พี่ถามไรหน่อยดิ”
“ครับ”
“ถ้าเกิดว่าเรารู้สึกเขินตอนคนอื่นยิ้มให้เนี่ย มันคือประหม่าเหรอ”
พรวดดดดดด
ไม่ใช่เสียงอะไรครับเสียงไอ้เชี่ยยอลพ่นน้ำ เต็มหน้าผมเลย เหนียวด้วยสาสสสส
“เชี่ยมึงถามเรื่องแบบนี้ด้วย”
“ยอลแถวบ้านเรียก สอเอือกอ”
“ถ้าพี่เป็นแบบนี้กับทุกคนก็คงประหม่า แต่ถ้าแค่คนเดียว...ผมว่าพี่คงชอบเขาแล้วหล่ะ”
พรวดดดดดด
คราวนี้ไม่ใช่ของไอ้ยอลครับของผมเอง สำลักกันเลยทีเดียว ไม่ใช่หรอกมั้ง
ห้าห้าห้าบวก
มันคงเป็นเวรกรรมของคนหน้าตาดี ที่ต้องมานั่งถางหญ้าปลูกผักบุ้งอยู่สวนเกษตร
ผมอยู่กลุ่มกับไอ้ยอลและคุณหัวหน้าห้องซูโฮ แต่ทำไมผมต้องทำคนเดียววะ
หัวหน้าห้องเนี่ยเข้าใจนะว่าไปประชุมแต่ไอ้ยอลมันไปไหนวะ
“จงแด ทำคนเดียวเหรอ”
ใครวะถามไม่คิดเห็นผมยืนอยู่ 4-5 คนหรือไงวะ ชะอุ้ยมินซอก
“อะ อืม”
“เราช่วยนะ”
“เอ่อของนายเสร็จแล้วเหรอ”
“อืม ช่วยกันทำน่ะเลยเสร็จแล้ว”
ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากพยักหน้า ผมไม่รู้ด้วยซ้ำหน้าผมแดงขนาดไหน
ผมรู้แค่ว่าอกข้างซ้ายผมมันจะหลุดออกมาแล้ว อย่าเข้ามาใกล้กว่านี้นะมินซอก
ผมไม่อยากให้เขาได้ยินเสียงหัวใจผมเลย จริงๆนะ
ไอ้แปลงผักบุ้งที่ผมเป็นคนถางหญ้าออกเองแล้ว ผมยังต้องคอยรดน้ำตอนเช้าอีกกรรมของเวรจริงๆ ให้ตายเถอะ อ้าวแล้วสายยางอยู่ไหนหล่ะ นั้นไง
ผมกำลังจะก้มลงไปหยิบสายยางมันเป็นจังหวะเดียวกับที่มีใครอีกคนเดินไปหยิบเหมือนกันพอผมเงยหน้าดูก็....มินซอก
“อะ โทษทีพอดี...”
หน้าเราอยู่ห่างกันไม่ถึง 2 นิ้ว อึก หัวใจเต้นแรงอีกแล้วทำยังไงดี
“อ้าวจงแด...นายเป็นเวรรดน้ำเหรอ”
“อืม....นายด้วยเหรอ”
“ใช่ทุกวันเลยแหละ”
ผมไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากปล่อยให้ความเงียบถูกปกคลุมด้วยเสียงน้ำที่ไหลรดต้นผักบุ้ง
ตึก ตึก ตึก ตึก
เต้นดังเกินไปแล้วนะ....หัวใจ
ฝนตก ผมชอบนะมันน่านอนหลับสบายไม่ร้อน ถ้ามันตกตอนกลางคืนอะนะ ตอนนี้ 6โมงเย็นผมยืนติดฝนอยู่ป้อมยามหน้าโรงเรียน จะได้กลับบ้านไมเนี่ย ผมไม่น่าเล่นบาสเพลินเลยจริงๆรีบกลับตั้งแต่แรกก็จบ นั้นมันมินซอกนี่
“ไง”
เก๊กท่าไว้ก่อนดีกว่า แหะๆ เขินจัง ><
“อะ จงแดยังไม่กลับเหรอ”
“ใช่ นายเรียนพิเศษ”
“อื้ม ใกล้สอบเรียนต่อแล้วนี่ต้องขยัน นายอย่าลืมอ่านหนังสือหล่ะ”
“อื้มมม”
ผมไม่ใช่คนเงียบนะแต่พออยู่กับไปซาลาเปานี่ทีไรผมพูดไม่ออก
เฮ้ยฝนสาด แล้วไอ้ซาลาเปานี่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวหรือไงอ่านหนังสืออยู่ได้ เดินไปบังให้ดีกว่า ^^
อย่ามองผมแบบนั้นสิ ถ้าไอ้ซาลาเปาอ้วนไม่สบายเดี๋ยวไม่มีคนกินขนมแม่ผมแน่เลย
ผมไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมตัวติดกับไอ้ซาลาเปานี่ทุกเช้าผมต้องเดินไปรดน้ำผักบุ้งกับมินซอก
ต้นรัก(ผักบุ้ง)กำลังผลิบานสิ เขินจัง ><
“อีกไม่กี่เดือนก็จะเทอม 2 เนาะมินซอก”
ไม่ใช่เสียงผม ไม่ใช่มินซอกด้วย เสียงไอ้แขกไม่ได้รับเชิญตะหาก
ร้อยวันพันปีไม่เคยมาแต่ทำไมวันนี้มันมาวะ...ไอ้หัวหน้าห้อง
“อื้ม”
สมน้ำหน้ามินซอกไม่คุยด้วย แบร่ :P
“จงแด ผักบุ้งของจงแดขึ้นเยอะมากเลยอ่ะดีจัง”
“คนปลูกน่ารักน่ะ มันเลยขึ้นดี”
นายจำได้ไหมว่าใครปลูกมัน นายทั้งนั้นเลยนะ
ผมรู้สึกแปลกๆช่วงนี้หัวหน้าห้องมันวนเวียนแถวมินซอกบ่อยมากเกินไป ผมหมั่นไส้วะ
บอกเลยจะว่า ผมหึงก็ได้นะผมยอมรับ ชิ หมั่นไส้วะ
“ดูหน้ามึงอารมไม่ดีนะครับเพื่อน”
เสียงเพื่อนปาร์คนั้นเองครับ ถามว่าผมมีเพื่อนคนอื่นไมมีนะครับแต่ไอ้ยอลผมสนิทที่สุดแล้วมันรู้ทุกเรื่องของผม เหมือนที่ผมรู้เรื่องของมัน เอ้อผมลืมบอกไป ไอ้ยอลกับน้องแบคเป็นแฟนกันแล้วนะ ตั้งแต่วันที่ผมถางหญ้ากับมินซอกนั้นแหละ ส่วนเรื่องมินซอกมันก็รู้...
“อืม มึงดูมันดิแม่งวุ่นวายชิปหาย”
ผมชี้ไปที่ไอ้หัวหน้าห้องที่นั่งเล่นกีต้าร์ให้มินซอกฟังอยู่ หล่อตายหล่ะ
อ้าวแล้วนั้นไปยิ้มให้มันทำไมหละ ใช้สิเรามันมือเบส คงไม่เท่เหมือนกีต้าร์ละสิ ชิ
หึ หึ หึ
“หัวเราะหาเตี่ยเอ็งวะไอ้เพื่อนยอล”
“มึงแม่งโง่วะ รุกหน่อยสิ หรือป๊อด”
หืม ขึ้นเลยขึ้นดูดิมันว่าผมป๊อด ไม่ยอมวะ แต่ผมจะรุกยังไงหล่ะ
ผมไม่รู้หรอกว่าคนอื่นเข้าจีบกันยังไง จีบกันแบบไหนผมทำเป็นแค่ขุนซาลาเปาของผม ให้อ้วนขึ้นเท่าแหละ ก็ผมชอบอะ จะทำไม
ตอนนี้ผมได้ศัตรูหัวใจเพิ่มอีกคนแล้วหละไม่ใช่ไอ้หัวหน้าห้องนะ แต่เป็นไอ้ลู่หาน นั้นนะนักฟุตบอลโรงเรียน หล่อลากมากเลยแหละ มันเคยจีบมินซอกตั้งแต่ ปี1 แล้วก็หายไป
ผมเลยเกิดความสงสัยขึ้นมาอย่างหนึ่ง
ทำไมเวลากูชอบใครต้องมีคนชอบเหมือนกูด้วยวะหะ WHY~!!!
แต่ก็นะผมกับมินซอกตัวติดกันตลอดเวลา เดี๋ยวนี้มินซอกไปเล่นบาสกับผมด้วยนะ
สงสัยอยากผ่อนคลาย ไปผ่อนคลายบ้านฉันไมมินซอก หึหึ
ฤดูฝนผ่านไปฤดูหนาวก็เข้ามาผมไม่อยากลุกจากเตียงเลยให้ตายสิ หนาวชะมัด
เสื้อกันหนาวอย่างหนาของผมไม่ได้ช่วยอะไรเลย ขี่มอไซตากลมแบบนี้ชามือหมดเลย TT
ผมเดินถูมือตัวเองตลอดทางไปห้องเรียน หนาวมากอะบอกเลย แล้วผมก็เห็นภาพบาดตาบาดใจ เมื่อเดินเข้ามาในห้อง ไอ้ลู่หานกำลังเทียบมือกับมินซอกอยู่ เจ็บ
มินซอกหันมายิ้มให้ผม ผมไม่ได้สนใจอะไรเดินไปนั่งที่ประจำของตัวเองตามปกติ
ปกติจริงๆแค่เตะโต๊ะไอ้จงอินที่หลับอยู่ข้างๆเท่านั้นเอง ส่วนไอ้จงอินลงไปวัดพื้นมันก็ยังไม่ยอมตื่น ขี้เซาจริงๆให้ตายเถอะ หนาวก็หนาว ดันอารมเสียอีก
“จงแด”
ผมเงยหน้าไปตามเสียงเรียก ก่อนจะเห็นมินซอกยืนอยู่ข้างๆโต๊ะผม แก้มสีชมพูระเรือเพราะอากาศหนาวนี้มัน น่าฟัดชะมัด เฮ้ยอย่าหื่นดิ
“มีอะไร”
ตอบปัดๆไปอย่างนั้นแหละ งอนวะ
“หนาวไม”
“อืม”
เฮ้ย มินซอกดึงมือผมไปจับเฉยเลย แหนะมีลูบด้วย ><
“มือเย็นจัง...เดี๋ยวไม่สบายนะ”
นั้นเป่ามือผมด้วย จะรู้ไมเนี่ยว่า แค่กุมมือไว้ก็อุ่นไปทั้งหัวใจแล้ว
ดูหน้าไอ้ลู่หานดิ หึหึอิจฉา ละสิ หึหึ สมน้ำหน้า
ผมว่าเดี๋ยวนี้มินซอกจับมอผมบ่อยเกินไปแล้วนะ ผมไม่อยากคิดไปเองหรอกนะแต่ผมคิดว่ามินซอกอาจจะชอบผมเหมือนกัน
“ขี้มโน”
แหมเบรกดัง เอี๊ยด เลยนะไอ้เพื่อนปาร์ค แต่มันอาจจะจริงอย่างที่ไอ้ยอลว่าก็ได้เพราะไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกที่มินซอกทำแบบนี้ด้วย เห้อ
ฤดูแห่งการเข้าค่ายพักแรมมาถึงแล้วครับ ผมอยู่กลุ่มกับมินซอกด้วยนะ นอนเต็นท์เดียวกันด้วย
ไม่ต้องอิจฉาครับผมไม่ได้นอนกันสองคนมีไอ้จงอินอยู่ด้วยครับ ตัวขัดคอโดยแท้
“มินซอกเต็นท์นายนอนได้กี่คนอะ”
เสียงไอ้ลู่หานครับ หืมถามทำไมวะ ผมไม่ได้เดินไปไหนหรอกยืนฟังมันคุยอยู่ข้างเต็นท์นั้นแหละ
“ 4 คน ทำไมหรอ”
“คือเต็นท์กลุ่มฉันมันเต็ม ขอนอนด้วยได้ไม”
มินซอกหันมามองผมที่ทำเป็นจัดเต็นท์อยู่ เป็นเชิงถามผมไม่ได้ตอบอะไรมากแค่ยักไหล่กับไปเท่านั้น ผมไม่ใช่คนใจร้าย แล้วแต่นายเลยมินซอก
“อื้มมาสิ”
เชี่ย!!!! ทำไมทำกับจงแดคนหล่อแบบนี้ นั้นดูมันยิ้มเยาะเย้ยผม มินซอกฉันงอนนาย
ผมไม่ได้คุยกับมินซอกเลยตั้งแต่ลู่หานย้ายสัมพาระมาเต็นท์ของเรา งอนวะบอกงอน
มื้อเย็นง่ายๆ รอบกองไฟ ค่ายพักแรม ผมนั่งข้างมินซอกโดยฝั่งตรงข้ามเป็นลู่หานและไอ้หัวหน้าห้อง นั่งมองผมด้วยสายตาอาฆาต
“จงแดเป็นอะไร โกรธอะไรฉันรึเปล่า”
มินซอกถามผมพลางขยับตัวเข้ามาหาเพราะอากาศที่เริ่มเย็นลง ให้มือของเราสองคนกุมประสานกันหัวทุยๆของมินซอกซบลงมาที่ไหล่ผม เป็นจังหวะเดียวกับที่ไอ้ปาร์คเพื่อนรักเล่นกีต้าร์เพลง ความลับ ของ พอส
~ ยิ่งฉันใกล้เธอเท่าไหร่ ยิ่งอยากจะเผยใจ~
~ยิ่งสบสายตาก็ยิ่งหวั่นไหว~
~มันยากเหลือเกินจะเก็บซ่อนความรักเอาไว้~
~แล้วความลับในใจของเธอมีฉันอยู่บ้างไม~
~ช่วยบอกความในใจให้ฉันรู้ทีนะเธอ~
ผมร้องเพลงคลอไปกับจังหวะกีต้าร์ของชานยอลเบาๆเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน
มินซอกหันมายิ้มให้ผมก่อนจะหลับตาลงแล้วร้องคลอไปด้วยกัน
‘แล้วความลับในใจนายมีฉันบ้างไมมินซอก’
ผมกระซิบเพียงแผ่วเบาเหมือนจะพูดกับตัวเองเสียมากกว่าผมไม่รู้หรอกว่ามินซอกได้ยินมันไม
ผมไม่รู้
มินซอกเปลี่ยนไปนะ ปกติเวลาว่างแบบนี้มินซอกจะมาเล่นกับผม
จะว่าใกล้สอบก็คงไม่ใช่ มินซอกไม่สบตาผมเหมือนหลบหน้าผมด้วยซ้ำ
ผมไม่รู้ว่าผมทำอะไรผิด ผมควรทำยังไงดี
“พี่ยอล พี่จงแดเป็นอะไรอะ ช่วงนี้ฟอร์มไม่ดีเลย”
“ไม่รู้สิอกหักมั้ง”
“ปากไม่สร้างสรรค์เลย”
เสียงพูดคุยของชานยอลกับแบคฮยอนไม่ได้เข้ามาในโสตประสาทของผมเท่ากับเพลงที่ชุมนุมเสียงตามสายเปิดเลยด้วยซ้ำ
~แค่เปิดอกไปว่ารักก็เจ็บยิ่งนักเหมือนไม่เหลือใคร~
~มันจบตรงคำว่ารักที่ทำให้เธอหนีหน้าฉันไป~
~สุดท้ายก็มีแต่คืนเหงากับใจร้าวๆนั่งเป็นเพื่อนดื่ม~
~เพื่อลืมความผิดพลั้งที่ทำให้ฉันต้องเสียเธอไป~
~มันผิดพลั้งที่ฉันพูดความในใจ~
วันนี้เป็นวันสอบไฟนอลวันสุดท้าย ชีวิตเด็ก ม.ปลาย ของผมกำลังจะจบลงวันนี้ผมจะบอกมินซอกทุกเรื่อง ทุกอย่าง หลังสอบวิชาสุดท้ายเสร็จแล้วผมจะไป ไม่ให้มินซอกเห็นหน้าอีก
ผมจะบอกแม้ว่าผมจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ผมจะบอก
เสียงออดบอกหมดเวลาทำข้อสอบ นักเรียน ปี3 ส่วนใหญ่ยังยืนออกันที่หน้าห้องสอบ บ้างกอดคอกัน บ้างยืนร้องเพลง ล่ำลากันเหมือนจะไม่ได้เจอกันอีก ผมเดินสาวเท้าอย่างเร็วก่อนจะลดความเร็วตามหลักทางฟิสิกส์ ที่เรียนมี เมื่อเห็นว่าลู่หานมันกำลังยืนคุยกับมินซอกอยู่
“มินซอกคบกับฉันนะ”
ผมแอบยืนอยู่ตรงบันไดตึกที่ไม่ห่างจากสองคนนั้นเท่าไหร่ให้ได้ยินเสียงชัดเจนพอที่จะรู้ว่าเขาคุยอะไรกัน ผมรู้สึกได้ว่าขอบตาของผมมันร้อนผ่าวขึ้นมา ผมกลืนน้ำลายหลายอึกมาผมต้องกลั้นใจยืนฟังสองนั้นคุยกัน หมัดของผมกำแน่นอย่างไม่ทราบสาเหตุ รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งใจเหมือนมีใครเอามีดมาปักกลางอก เจ็บปวดทั้งๆที่มินซอกยังไม่ได้ตอบเจ็บ เจ็บเหลือเกิน
แล้วผมตัดสินใจเดินออกมาจากตรงนั้น ผมยืนทนรอมินซอกตอบไม่ไหว
ปัก ปัก โครม
เสียงลูกบาสกระทบแป้นบาสอย่างแรง ด้วยแรงทั้งหมดที่มีมันไม่ใช่ความโกรธแต่มันคือความเจ็บปวด น้ำสีใสไหลออกจากดวงตาคู่คม พร้อมเม็ดฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ คล้ายปลอบประโลมแต่ กลับเหน็บหนาว ทรมานหัวใจ
เสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินไปหยุดที่ขอบสนามให้ผมต้องมองสบประสานเข้ากับดวงตาที่คอยหลบหน้าผมมาหลายสัปดาห์ ผมไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเหนื่อยหอบแค่ไหนที่วิ่งเพราะสายฝนทำให้สายตาผมพร่ามัว ผมหันหลังเตรียมจะก้าวเดินหนี แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีเรียวแขนของใครบางคนโอบกอดผมอยู่ อ้อมกอดที่ผมอยากสัมผัสมานาน
“นายจะหนีฉันอีกแล้ว”
“ใครหนีนาย”
ผมตอบไปพยายามที่สุดที่จะไม่ให้เสียงหลุดสะอื้น พยายามไม่ให้ไหล่ของตัวเองสั่นเทา
“ฮึก...นายไงจงแดนายกำลังจะหนีฉันไป”
เสียงสะอื้นของซาลาเปาของผมทำให้ผมต้องหันไปสบตากับมินซอกผมพึ่งรู้ว่ามินซอกตัวเล็กขนาดนี้ ผมพึ่งรู้ว่ามินซอกน่าถนอมขนาดไหน ผมพึ่งรู้ว่า...
เขาขโมยหัวใจผมอีกแล้ว
“ฉันอยู่นี่ไง”
ผมทำอะไรไม่ถูกผมควบคุมตัวเองไม่ได้ ผมห้ามตัวเองไม่ให้โน้มตัวลงไปหามินซอกไม่ได้
ผมไม่สามารถสั่งให้ตัวเองหยุดเอาริมฝีปากสัมผัสกับริมฝีปากของมินซอกได้
ผมสั่งตัวเองให้หยุดรักเขาไม่ได้
นี่คือจูบแรกของผมรสจูบผะแผ่วที่เพียงแค่เอาริมฝีปากสัมผัสกันแต่มันกับทำให้หัวใจผมแทบหลุดออกมาจากอก
“จงแด...”
ผมไม่ได้เปิดโอกาสให้มินซอกพูดผมกดจูบย้ำที่ริมฝีปากมินซอก ไม่ได้รุกล้ำเพียงแค่สัมผัส
ตึก ตึก ตึก
“ฉันรักนายมินซอก คบกับฉันนะ”
ผมไม่รู้ว่ามินซอกมีสีหน้ายังไงตอนนั้น ผมสัมผัสได้แค่ว่าริมฝีปากที่ผมรุกจูบมานานตอนนี้มันได้เป็นฝ่ายรุกจูบผมกลับมา ผะแผ่ว แต่ร้อนแรง และหวานฉ่ำ
ถึงแม้รสจูบนั้นมันจะผ่านมานานแค่ไหนมันยังคงตราตรึงอยู่ในใจผมไป.....ตลอดกาล
THE END
ผลงานอื่นๆ ของ SphinxGeGe ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ SphinxGeGe
ความคิดเห็น