[FIC EXO] SMiLE :) - [FIC EXO] SMiLE :) นิยาย [FIC EXO] SMiLE :) : Dek-D.com - Writer

    [FIC EXO] SMiLE :)

    คุณเคยตกหลุมรักใครเพราะรอยยิ้มมัย ไม่เคยเหรอ น่าเสียดายจัง ผมว่าผมจะเล่าให้คุณฟังดีกว่า

    ผู้เข้าชมรวม

    434

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    434

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    12
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 ก.ค. 57 / 19:29 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    SMILE :)






     



    SPHINXGERGER :

    HELLO  สวัสดีครับ ผมมาทำอะไรเนี่ย อ๋อมาเปิดเรื่องสั้น(สั้นจริง)
    ครับแต่งมาเพื่อ เพื่อไรวะชั่งมัน
    เอาเป็นว่า ฝากฟิคเรื่องนี้แล้วก้เรื่อง
     
    ด้วยนะครับ ติดแท็กทวิต #ฟิคยิ้มซาลาเปา  ทวิตเตอร์ @pop_ntss

     
    อย่าลืมคอมเม้นนะครับ

     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ




       

      SMILE :)

       

       

      คุณเคยตกหลุมรักใครเพราะรอยยิ้มมัย ไม่เคยเหรอ น่าเสียดายจัง ผมว่ามันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก

      เลยนะ ถึงมันจะมีบางครั้งที่เจ็บก็เถอะ ผมพึ่งจะรู้ว่าหมอนั้นยิ้มได้น่ารักขนาดนี้

      ทั้งที่เจอกันทุกวันแต่ผมพึ่งรู้เอง เสียดายจังแหะ  ผมว่าผมจะเล่าให้คุณฟังดีกว่า

       

      เช้าวันจันทร์แสนสดใสของผมที่ตื่นนอนพร้อมไปโรงเรียนชีวิตเด็ก ม.ปลายปี3 คงไม่มีอะไรมากนอกจากเก็บความทรงจำกับเพื่อนไว้ให้มากที่สุด ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นเด็กนักเรียนที่เลือกจะไปโรงเรียนแต่เช้า ผมแค่อยากไปเล่นบาสกับเพื่อนเท่านั้นเองแหละ

       

      จงแด มานี่สิลูก

      ครับม๊า

      ม๊าทำบราวนี่ไว้ลองเอาไปให้เพื่อนชิมดูสิ

       

       

      แล้วผมก็รับกล่องบราวนี่มาจากม๊า  ขี่มอไซ คู่ใจไปโรงเรียนตามปกติ

      ผมจอดรถไว้หน้าโรงเรียนตอนโดดเรียนจะได้โดดสะดวก ผมเดินไปตามทางเดินของโรงเรียนก่อนที่ผมจะนึกได้ว่าผมมีกล่องบราวนี่อยู่ในมือถ้าเอาไปสนามบาสด้วยคงเละแน่นอน

      เอาไงดีหว่า มองซ้ายมองขวาอยู่นานผมก็พบกับไอ้ซาลาเปาเด็กเรียนห้องผมเอง

      เพื่อเป็นการผลักพาระผมว่าผมเอาบราวนี่ให้มันไปกินดีกว่า คิดได้อย่างนั้น

       

      เฮ้  มินซอก!!!”

      เอ่อ นายเรียกฉันเหรอ

      ช่ายย อะแม่ฉันฝากมาให้...เอาไปแบ่งเพื่อนกินด้วยหล่ะ

      ขอบใจนะ J

       

        ถ้าตาผมไม่ได้ฝาดไปทำไม ไอ้รอยยิ้มเมื่อกี้

       

       

       

      มันน่ารักจังวะ

       

       

      ผมต้องบ้าไปแล้วแน่เลยไอ้อ้วนนั้นนะมันน่ารักซะที่ไหน ตัวเตี้ยๆอ้วนๆขาวๆกลมเป็นซาลาเปาเดินได้ มันน่ารักตรงไหน(ก็นิดนึง) ผมคงนอนน้อยไปสินะ เลิกบ้าแล้วนอนดีกว่า

       

      -- ม๊าผมคงพึ่งไปเรียนทำขนมสินะทำได้ทุกวี่ทุกวันจริงๆ ผมก็ใช้วิธีเดิมนั้นแหละเอาให้ไอ้เตี้ยซาลาเปาของผมไปกินเหมือนทุกวัน แต่ไม่รู้ทำไมเวลาหมอนั้นยิ้มผมต้องเขินด้วยหล่ะ

       

      แม่ง ไม่เข้าใจโว้ย

      เป็นเชี่ยไรครับคุณเพื่อนจงแด

       

      เสียงไอ้เปรตปาร์ค  ชานยอล เพื่อนผมเองละครับไอ้นี่ก็สูงเหลือเกินไม่รู้แม่มันให้กินอะไรถึงได้สูงได้สูงดี  โว้ยหงุดหงิด

       

      ไม่รู้กูหงุดหงิด

      มึงไม่รู้แล้วกูจะตรัสรู้กับมึงไมคุณเพื่อน

       

      สวัสดีครับ พี่จงแด พี่ชานยอลเอ่อพี่จงแดเป็นอะไรรึป่าวครับ

       

      ส่วนนี่เสียงน้องแบคฮยอนครับรุ่นน้องที่เล่นบาสด้วยกัน น้องมันแอบชอบไอ้ชานยอล

      เรื่องแบบนี้ถามไอ้ยอลคงไม่ได้คำตอบ ถามน้องแบคดีกว่า

       

      แบคกี้ พี่ถามไรหน่อยดิ

      ครับ

      ถ้าเกิดว่าเรารู้สึกเขินตอนคนอื่นยิ้มให้เนี่ย มันคือประหม่าเหรอ

       

      พรวดดดดดด

       

      ไม่ใช่เสียงอะไรครับเสียงไอ้เชี่ยยอลพ่นน้ำ เต็มหน้าผมเลย เหนียวด้วยสาสสสส

       

      เชี่ยมึงถามเรื่องแบบนี้ด้วย

      ยอลแถวบ้านเรียก สอเอือกอ

      ถ้าพี่เป็นแบบนี้กับทุกคนก็คงประหม่า แต่ถ้าแค่คนเดียว...ผมว่าพี่คงชอบเขาแล้วหล่ะ

       

      พรวดดดดดด

       

      คราวนี้ไม่ใช่ของไอ้ยอลครับของผมเอง  สำลักกันเลยทีเดียว ไม่ใช่หรอกมั้ง

      ห้าห้าห้าบวก

       

       

      มันคงเป็นเวรกรรมของคนหน้าตาดี ที่ต้องมานั่งถางหญ้าปลูกผักบุ้งอยู่สวนเกษตร

      ผมอยู่กลุ่มกับไอ้ยอลและคุณหัวหน้าห้องซูโฮ แต่ทำไมผมต้องทำคนเดียววะ

      หัวหน้าห้องเนี่ยเข้าใจนะว่าไปประชุมแต่ไอ้ยอลมันไปไหนวะ

       

      จงแด ทำคนเดียวเหรอ

       

      ใครวะถามไม่คิดเห็นผมยืนอยู่ 4-5 คนหรือไงวะ ชะอุ้ยมินซอก

       

      อะ อืม

      เราช่วยนะ

      เอ่อของนายเสร็จแล้วเหรอ

      อืม ช่วยกันทำน่ะเลยเสร็จแล้ว

       

      ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากพยักหน้า ผมไม่รู้ด้วยซ้ำหน้าผมแดงขนาดไหน

      ผมรู้แค่ว่าอกข้างซ้ายผมมันจะหลุดออกมาแล้ว อย่าเข้ามาใกล้กว่านี้นะมินซอก

      ผมไม่อยากให้เขาได้ยินเสียงหัวใจผมเลย จริงๆนะ

       

      ไอ้แปลงผักบุ้งที่ผมเป็นคนถางหญ้าออกเองแล้ว ผมยังต้องคอยรดน้ำตอนเช้าอีกกรรมของเวรจริงๆ ให้ตายเถอะ อ้าวแล้วสายยางอยู่ไหนหล่ะ นั้นไง

      ผมกำลังจะก้มลงไปหยิบสายยางมันเป็นจังหวะเดียวกับที่มีใครอีกคนเดินไปหยิบเหมือนกันพอผมเงยหน้าดูก็....มินซอก

       

      อะ โทษทีพอดี...

       

      หน้าเราอยู่ห่างกันไม่ถึง 2 นิ้ว อึก  หัวใจเต้นแรงอีกแล้วทำยังไงดี

       

      อ้าวจงแด...นายเป็นเวรรดน้ำเหรอ

      อืม....นายด้วยเหรอ

      ใช่ทุกวันเลยแหละ

       

      ผมไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากปล่อยให้ความเงียบถูกปกคลุมด้วยเสียงน้ำที่ไหลรดต้นผักบุ้ง

       

      ตึก ตึก ตึก ตึก

       

      เต้นดังเกินไปแล้วนะ....หัวใจ

       

      ฝนตก ผมชอบนะมันน่านอนหลับสบายไม่ร้อน ถ้ามันตกตอนกลางคืนอะนะ ตอนนี้ 6โมงเย็นผมยืนติดฝนอยู่ป้อมยามหน้าโรงเรียน จะได้กลับบ้านไมเนี่ย ผมไม่น่าเล่นบาสเพลินเลยจริงๆรีบกลับตั้งแต่แรกก็จบ นั้นมันมินซอกนี่

       

      ไง

       

      เก๊กท่าไว้ก่อนดีกว่า แหะๆ เขินจัง ><

      อะ จงแดยังไม่กลับเหรอ

      ใช่ นายเรียนพิเศษ

      อื้ม ใกล้สอบเรียนต่อแล้วนี่ต้องขยัน นายอย่าลืมอ่านหนังสือหล่ะ

      อื้มมม

       

      ผมไม่ใช่คนเงียบนะแต่พออยู่กับไปซาลาเปานี่ทีไรผมพูดไม่ออก 

      เฮ้ยฝนสาด แล้วไอ้ซาลาเปานี่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวหรือไงอ่านหนังสืออยู่ได้  เดินไปบังให้ดีกว่า ^^

      อย่ามองผมแบบนั้นสิ ถ้าไอ้ซาลาเปาอ้วนไม่สบายเดี๋ยวไม่มีคนกินขนมแม่ผมแน่เลย

       

      ผมไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมตัวติดกับไอ้ซาลาเปานี่ทุกเช้าผมต้องเดินไปรดน้ำผักบุ้งกับมินซอก

      ต้นรัก(ผักบุ้ง)กำลังผลิบานสิ เขินจัง ><

       

      อีกไม่กี่เดือนก็จะเทอม 2 เนาะมินซอก

       

      ไม่ใช่เสียงผม ไม่ใช่มินซอกด้วย เสียงไอ้แขกไม่ได้รับเชิญตะหาก

      ร้อยวันพันปีไม่เคยมาแต่ทำไมวันนี้มันมาวะ...ไอ้หัวหน้าห้อง

       

      อื้ม

       

      สมน้ำหน้ามินซอกไม่คุยด้วย แบร่ :P

       

      จงแด ผักบุ้งของจงแดขึ้นเยอะมากเลยอ่ะดีจัง

      คนปลูกน่ารักน่ะ มันเลยขึ้นดี

       

      นายจำได้ไหมว่าใครปลูกมัน  นายทั้งนั้นเลยนะ

       

       

      ผมรู้สึกแปลกๆช่วงนี้หัวหน้าห้องมันวนเวียนแถวมินซอกบ่อยมากเกินไป ผมหมั่นไส้วะ

      บอกเลยจะว่า ผมหึงก็ได้นะผมยอมรับ ชิ  หมั่นไส้วะ

       

       ดูหน้ามึงอารมไม่ดีนะครับเพื่อน

       

      เสียงเพื่อนปาร์คนั้นเองครับ ถามว่าผมมีเพื่อนคนอื่นไมมีนะครับแต่ไอ้ยอลผมสนิทที่สุดแล้วมันรู้ทุกเรื่องของผม เหมือนที่ผมรู้เรื่องของมัน เอ้อผมลืมบอกไป ไอ้ยอลกับน้องแบคเป็นแฟนกันแล้วนะ ตั้งแต่วันที่ผมถางหญ้ากับมินซอกนั้นแหละ   ส่วนเรื่องมินซอกมันก็รู้...

       

      อืม มึงดูมันดิแม่งวุ่นวายชิปหาย

       

      ผมชี้ไปที่ไอ้หัวหน้าห้องที่นั่งเล่นกีต้าร์ให้มินซอกฟังอยู่  หล่อตายหล่ะ

      อ้าวแล้วนั้นไปยิ้มให้มันทำไมหละ ใช้สิเรามันมือเบส คงไม่เท่เหมือนกีต้าร์ละสิ ชิ

       

       

      หึ หึ หึ

       

      หัวเราะหาเตี่ยเอ็งวะไอ้เพื่อนยอล

      มึงแม่งโง่วะ รุกหน่อยสิ หรือป๊อด

       

      หืม ขึ้นเลยขึ้นดูดิมันว่าผมป๊อด ไม่ยอมวะ  แต่ผมจะรุกยังไงหล่ะ

       

      ผมไม่รู้หรอกว่าคนอื่นเข้าจีบกันยังไง จีบกันแบบไหนผมทำเป็นแค่ขุนซาลาเปาของผม ให้อ้วนขึ้นเท่าแหละ ก็ผมชอบอะ จะทำไม

       

      ตอนนี้ผมได้ศัตรูหัวใจเพิ่มอีกคนแล้วหละไม่ใช่ไอ้หัวหน้าห้องนะ แต่เป็นไอ้ลู่หาน นั้นนะนักฟุตบอลโรงเรียน หล่อลากมากเลยแหละ มันเคยจีบมินซอกตั้งแต่ ปี1 แล้วก็หายไป

      ผมเลยเกิดความสงสัยขึ้นมาอย่างหนึ่ง

       

       

      ทำไมเวลากูชอบใครต้องมีคนชอบเหมือนกูด้วยวะหะ  WHY~!!!

       

       

      แต่ก็นะผมกับมินซอกตัวติดกันตลอดเวลา  เดี๋ยวนี้มินซอกไปเล่นบาสกับผมด้วยนะ

      สงสัยอยากผ่อนคลาย ไปผ่อนคลายบ้านฉันไมมินซอก หึหึ

       

       

      ฤดูฝนผ่านไปฤดูหนาวก็เข้ามาผมไม่อยากลุกจากเตียงเลยให้ตายสิ หนาวชะมัด

      เสื้อกันหนาวอย่างหนาของผมไม่ได้ช่วยอะไรเลย ขี่มอไซตากลมแบบนี้ชามือหมดเลย TT

       

      ผมเดินถูมือตัวเองตลอดทางไปห้องเรียน หนาวมากอะบอกเลย แล้วผมก็เห็นภาพบาดตาบาดใจ เมื่อเดินเข้ามาในห้อง ไอ้ลู่หานกำลังเทียบมือกับมินซอกอยู่  เจ็บ

       

      มินซอกหันมายิ้มให้ผม ผมไม่ได้สนใจอะไรเดินไปนั่งที่ประจำของตัวเองตามปกติ

       ปกติจริงๆแค่เตะโต๊ะไอ้จงอินที่หลับอยู่ข้างๆเท่านั้นเอง ส่วนไอ้จงอินลงไปวัดพื้นมันก็ยังไม่ยอมตื่น ขี้เซาจริงๆให้ตายเถอะ หนาวก็หนาว ดันอารมเสียอีก

       

      จงแด

       

      ผมเงยหน้าไปตามเสียงเรียก ก่อนจะเห็นมินซอกยืนอยู่ข้างๆโต๊ะผม แก้มสีชมพูระเรือเพราะอากาศหนาวนี้มัน น่าฟัดชะมัด เฮ้ยอย่าหื่นดิ

       

      มีอะไร

       

      ตอบปัดๆไปอย่างนั้นแหละ งอนวะ

       

      หนาวไม

      อืม

       

      เฮ้ย มินซอกดึงมือผมไปจับเฉยเลย แหนะมีลูบด้วย ><

       

      มือเย็นจัง...เดี๋ยวไม่สบายนะ

       

      นั้นเป่ามือผมด้วย จะรู้ไมเนี่ยว่า แค่กุมมือไว้ก็อุ่นไปทั้งหัวใจแล้ว

      ดูหน้าไอ้ลู่หานดิ หึหึอิจฉา ละสิ หึหึ สมน้ำหน้า

       

      ผมว่าเดี๋ยวนี้มินซอกจับมอผมบ่อยเกินไปแล้วนะ ผมไม่อยากคิดไปเองหรอกนะแต่ผมคิดว่ามินซอกอาจจะชอบผมเหมือนกัน

       

      ขี้มโน

       

      แหมเบรกดัง เอี๊ยด เลยนะไอ้เพื่อนปาร์ค แต่มันอาจจะจริงอย่างที่ไอ้ยอลว่าก็ได้เพราะไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกที่มินซอกทำแบบนี้ด้วย เห้อ

       

       

      ฤดูแห่งการเข้าค่ายพักแรมมาถึงแล้วครับ ผมอยู่กลุ่มกับมินซอกด้วยนะ นอนเต็นท์เดียวกันด้วย

      ไม่ต้องอิจฉาครับผมไม่ได้นอนกันสองคนมีไอ้จงอินอยู่ด้วยครับ ตัวขัดคอโดยแท้

       

      มินซอกเต็นท์นายนอนได้กี่คนอะ

       

      เสียงไอ้ลู่หานครับ หืมถามทำไมวะ ผมไม่ได้เดินไปไหนหรอกยืนฟังมันคุยอยู่ข้างเต็นท์นั้นแหละ

       

      4 คน ทำไมหรอ

      คือเต็นท์กลุ่มฉันมันเต็ม ขอนอนด้วยได้ไม

       

      มินซอกหันมามองผมที่ทำเป็นจัดเต็นท์อยู่ เป็นเชิงถามผมไม่ได้ตอบอะไรมากแค่ยักไหล่กับไปเท่านั้น ผมไม่ใช่คนใจร้าย แล้วแต่นายเลยมินซอก

       

      อื้มมาสิ

       

      เชี่ย!!!!  ทำไมทำกับจงแดคนหล่อแบบนี้  นั้นดูมันยิ้มเยาะเย้ยผม มินซอกฉันงอนนาย

      ผมไม่ได้คุยกับมินซอกเลยตั้งแต่ลู่หานย้ายสัมพาระมาเต็นท์ของเรา งอนวะบอกงอน

      มื้อเย็นง่ายๆ รอบกองไฟ ค่ายพักแรม ผมนั่งข้างมินซอกโดยฝั่งตรงข้ามเป็นลู่หานและไอ้หัวหน้าห้อง นั่งมองผมด้วยสายตาอาฆาต

       

      จงแดเป็นอะไร โกรธอะไรฉันรึเปล่า

       

      มินซอกถามผมพลางขยับตัวเข้ามาหาเพราะอากาศที่เริ่มเย็นลง ให้มือของเราสองคนกุมประสานกันหัวทุยๆของมินซอกซบลงมาที่ไหล่ผม เป็นจังหวะเดียวกับที่ไอ้ปาร์คเพื่อนรักเล่นกีต้าร์เพลง ความลับ ของ พอส

       

       

      ~ ยิ่งฉันใกล้เธอเท่าไหร่ ยิ่งอยากจะเผยใจ~

      ~ยิ่งสบสายตาก็ยิ่งหวั่นไหว~

      ~มันยากเหลือเกินจะเก็บซ่อนความรักเอาไว้~

      ~แล้วความลับในใจของเธอมีฉันอยู่บ้างไม~

      ~ช่วยบอกความในใจให้ฉันรู้ทีนะเธอ~

       

       

      ผมร้องเพลงคลอไปกับจังหวะกีต้าร์ของชานยอลเบาๆเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน

      มินซอกหันมายิ้มให้ผมก่อนจะหลับตาลงแล้วร้องคลอไปด้วยกัน

       

       

      แล้วความลับในใจนายมีฉันบ้างไมมินซอก

       

      ผมกระซิบเพียงแผ่วเบาเหมือนจะพูดกับตัวเองเสียมากกว่าผมไม่รู้หรอกว่ามินซอกได้ยินมันไม

      ผมไม่รู้

       

      มินซอกเปลี่ยนไปนะ ปกติเวลาว่างแบบนี้มินซอกจะมาเล่นกับผม

      จะว่าใกล้สอบก็คงไม่ใช่  มินซอกไม่สบตาผมเหมือนหลบหน้าผมด้วยซ้ำ

      ผมไม่รู้ว่าผมทำอะไรผิด  ผมควรทำยังไงดี

       

      พี่ยอล พี่จงแดเป็นอะไรอะ ช่วงนี้ฟอร์มไม่ดีเลย

      ไม่รู้สิอกหักมั้ง

      ปากไม่สร้างสรรค์เลย

       

      เสียงพูดคุยของชานยอลกับแบคฮยอนไม่ได้เข้ามาในโสตประสาทของผมเท่ากับเพลงที่ชุมนุมเสียงตามสายเปิดเลยด้วยซ้ำ

       

       

      ~แค่เปิดอกไปว่ารักก็เจ็บยิ่งนักเหมือนไม่เหลือใคร~

      ~มันจบตรงคำว่ารักที่ทำให้เธอหนีหน้าฉันไป~

      ~สุดท้ายก็มีแต่คืนเหงากับใจร้าวๆนั่งเป็นเพื่อนดื่ม~

      ~เพื่อลืมความผิดพลั้งที่ทำให้ฉันต้องเสียเธอไป~

      ~มันผิดพลั้งที่ฉันพูดความในใจ~

       

      วันนี้เป็นวันสอบไฟนอลวันสุดท้าย ชีวิตเด็ก ม.ปลาย ของผมกำลังจะจบลงวันนี้ผมจะบอกมินซอกทุกเรื่อง ทุกอย่าง  หลังสอบวิชาสุดท้ายเสร็จแล้วผมจะไป ไม่ให้มินซอกเห็นหน้าอีก

      ผมจะบอกแม้ว่าผมจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ผมจะบอก

      เสียงออดบอกหมดเวลาทำข้อสอบ นักเรียน ปี3 ส่วนใหญ่ยังยืนออกันที่หน้าห้องสอบ บ้างกอดคอกัน  บ้างยืนร้องเพลง  ล่ำลากันเหมือนจะไม่ได้เจอกันอีก  ผมเดินสาวเท้าอย่างเร็วก่อนจะลดความเร็วตามหลักทางฟิสิกส์  ที่เรียนมี เมื่อเห็นว่าลู่หานมันกำลังยืนคุยกับมินซอกอยู่

       

      มินซอกคบกับฉันนะ

       

      ผมแอบยืนอยู่ตรงบันไดตึกที่ไม่ห่างจากสองคนนั้นเท่าไหร่ให้ได้ยินเสียงชัดเจนพอที่จะรู้ว่าเขาคุยอะไรกัน  ผมรู้สึกได้ว่าขอบตาของผมมันร้อนผ่าวขึ้นมา ผมกลืนน้ำลายหลายอึกมาผมต้องกลั้นใจยืนฟังสองนั้นคุยกัน หมัดของผมกำแน่นอย่างไม่ทราบสาเหตุ รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งใจเหมือนมีใครเอามีดมาปักกลางอก เจ็บปวดทั้งๆที่มินซอกยังไม่ได้ตอบเจ็บ เจ็บเหลือเกิน

       

      แล้วผมตัดสินใจเดินออกมาจากตรงนั้น ผมยืนทนรอมินซอกตอบไม่ไหว

       

      ปัก ปัก โครม

       

      เสียงลูกบาสกระทบแป้นบาสอย่างแรง ด้วยแรงทั้งหมดที่มีมันไม่ใช่ความโกรธแต่มันคือความเจ็บปวด  น้ำสีใสไหลออกจากดวงตาคู่คม พร้อมเม็ดฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ คล้ายปลอบประโลมแต่ กลับเหน็บหนาว ทรมานหัวใจ

       

      เสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินไปหยุดที่ขอบสนามให้ผมต้องมองสบประสานเข้ากับดวงตาที่คอยหลบหน้าผมมาหลายสัปดาห์ ผมไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเหนื่อยหอบแค่ไหนที่วิ่งเพราะสายฝนทำให้สายตาผมพร่ามัว ผมหันหลังเตรียมจะก้าวเดินหนี แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีเรียวแขนของใครบางคนโอบกอดผมอยู่ อ้อมกอดที่ผมอยากสัมผัสมานาน

       

      นายจะหนีฉันอีกแล้ว

      ใครหนีนาย

       

      ผมตอบไปพยายามที่สุดที่จะไม่ให้เสียงหลุดสะอื้น พยายามไม่ให้ไหล่ของตัวเองสั่นเทา

       

      ฮึก...นายไงจงแดนายกำลังจะหนีฉันไป

       

      เสียงสะอื้นของซาลาเปาของผมทำให้ผมต้องหันไปสบตากับมินซอกผมพึ่งรู้ว่ามินซอกตัวเล็กขนาดนี้ ผมพึ่งรู้ว่ามินซอกน่าถนอมขนาดไหน ผมพึ่งรู้ว่า...

       

       

      เขาขโมยหัวใจผมอีกแล้ว

       

      ฉันอยู่นี่ไง

       

      ผมทำอะไรไม่ถูกผมควบคุมตัวเองไม่ได้ ผมห้ามตัวเองไม่ให้โน้มตัวลงไปหามินซอกไม่ได้

      ผมไม่สามารถสั่งให้ตัวเองหยุดเอาริมฝีปากสัมผัสกับริมฝีปากของมินซอกได้

      ผมสั่งตัวเองให้หยุดรักเขาไม่ได้

       

      นี่คือจูบแรกของผมรสจูบผะแผ่วที่เพียงแค่เอาริมฝีปากสัมผัสกันแต่มันกับทำให้หัวใจผมแทบหลุดออกมาจากอก

       

      จงแด...

       

      ผมไม่ได้เปิดโอกาสให้มินซอกพูดผมกดจูบย้ำที่ริมฝีปากมินซอก ไม่ได้รุกล้ำเพียงแค่สัมผัส

       

       

      ตึก ตึก ตึก

       

      ฉันรักนายมินซอก คบกับฉันนะ

      ผมไม่รู้ว่ามินซอกมีสีหน้ายังไงตอนนั้น ผมสัมผัสได้แค่ว่าริมฝีปากที่ผมรุกจูบมานานตอนนี้มันได้เป็นฝ่ายรุกจูบผมกลับมา  ผะแผ่ว แต่ร้อนแรง และหวานฉ่ำ

       

       ถึงแม้รสจูบนั้นมันจะผ่านมานานแค่ไหนมันยังคงตราตรึงอยู่ในใจผมไป.....ตลอดกาล


       

      THE END

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×