ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] EXO ,CHANBAEK - Calories Love Season 2 ♥

    ลำดับตอนที่ #6 : ♥ Calories Love Season 2 Chapter : 5000 kcal. - ต่างคน ต่างความเข้าใจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.63K
      13
      15 เม.ย. 56

    CALORIES LOVE SEASON 2

    PAIRING : CHANBAEK / KRISHUN / KAISOO .

    CHAPTER : 5000 kcal.

     

     

     

     

    ความเข้าใจอยู่บนความไม่เข้าใจ

    เพราะมันไม่ใช่คนๆ คนเดียวกัน

    ...

     

               

                แกร่ก แกร่ก แกร่ก...

                เสียงเคาะปากกาดังกระทบกับโต๊ะเบาๆ ไม่มีใครได้ยินนอกจากคนทำ แพคฮยอนนั่งฟังอาจารย์ที่กำลังสอนเรื่องจำแนกชนิดของอาหารอย่างมึนๆ คยองซูเองก็แทบจะฟุบหลับไปกับโต๊ะเลตเชอร์สีขาววิชานี้สามารถเป็นยานอนหลับชั้นดีจริงๆ

     

    “คยองซูอ่า เลิกเรียนแล้ว” แพคยอนสะกิดบอกเพื่อนของตัวเอง ดวงตากลมโตปรือขึ้นมาแล้วสะบัดหัวอย่างมึนๆ ก่อนจะอ้าปากหาว

    “วิชานี้น่าเบื่อชะมัดเลย” บ่นเสร็จแล้วก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย แล้ววันนี้พวกเขาก็ต้องรอเรียนอีกหนึ่งวิชาในตอนเย็น ระหว่างที่รอเรียนมันเป็นเวลาที่น่าเบื่อที่สุดถ้าพวกเขาไม่หาอะไรทำเพื่อฆ่าเวลา

    “นี่ต้องอีกห้าชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเรียน ให้ไปทำอะไรล่ะคราวนี้ ตารางเรียนบ้าบอจริงๆ เลย” คยองซูพูดขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังเดินลงจากคณะแล้วหาจุดหมายที่จะไป

    “ไปนั่งที่ร้านคาเฟ่ขนมไหมล่ะ” แพคฮยอนเสนอร้านคาเฟ่เล็กๆ ให้กับคยองซู

    “อืม ไปไหนก็ไปเถอะ” พยักหน้าตามใจแพคฮยอนแล้วทั้งคู่ก็เดินออกจากตัวคณะไป แต่ว่าได้ยินเสียงเรียกเสียก่อน

    “พี่แพคฮยอนครับ! พี่คยองซู!” แล้วก็ต้องหันไปมองตามเสียง เขาเห็นรุ่นน้องบัดดี้ของตัวเองที่โบกมือเล็กๆ ให้อยู่ไม่ไกล แล้วจื่อเทาและเฉินก็เดินเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้ม

    “กำลังจะไปไหนกันเหรอครับ” เฉินถาม

    “ไปร้านคาเฟ่อ่ะ ไปด้วยกันไหม” คยองซูเป็นคนตอบแล้วเอ่ยชวนตามประสารุ่นน้องที่สนิทด้วยแล้ว เฉินยิ้มกว้างให้แล้วพยักหน้าก่อนจะหันไปหาจื่อเทา

    “ไปด้วยนะครับ พอดีว่างๆ ไม่รู้จะไปไหน” จื่อเทาบอกแล้วยิ้มให้แพคฮยอนกับคยองซู

     

    แพคฮยอนไม่ได้ห้ามหรือพูดอะไรที่ไม่ให้รุ่นน้องทั้งสองคนนี้ไปด้วย เขากลับยินดีเสียอีกที่เวลาไปไหนด้วยกันหลายๆ คนน่าจะสนุกแล้วก็ไม่น่าเบื่อเสียอีก

     

    “อื้ม ไปหลายๆ คนจะได้ไม่น่าเบื่อเนอะ” แพคฮยอนบอกแล้วยิ้มกว้างให้ก่อนที่จื่อเทาเดินมายืนข้างๆและชวนแพคฮยอนคุยตามประสา ส่วนเฉินก็หันไปคุยกับคยองซูในระหว่างที่กำลังเดินร้านคาเฟ่ขนม

    “วันนี้ผมเรียนอาหารเกาหลีพื้นเหมืองด้วยนะ”

    “หือ? อุบ...คิกๆ...” แพคฮยอนหลุดหัวเราะที่จื่อเทาพูดเกาหลีเพี้ยน อีกฝ่ายยังไม่รู้ตัวเลยทำหน้างงใส่

    “พื้นเมือง”

    “อ่าใช่ครับ พื้น..เมือง...ถูกไหมครับ?” ทวนประโยคอีกครั้ง แพคฮยอนพยักหน้าหงึกหงักให้แล้วยิ้ม

    “แฮะๆ สงสัยพี่ต้องสอนเกาหลีผมด้วยนะ”

    “ฮ่าๆ แค่นี้นายก็พูดเก่งแล้วนะ”

    “แต่ก็ยังผิดอยู่ใช่ไหมครับ ” จื่อเทาพูดไปถ่อมตัวไป เขาชอบให้แพคฮยอนสอนเขาทุกอย่างเพราะเข้าใจง่ายแล้วก็สนุกอีกด้วย ที่สำคัญได้เห็นหน้ารุ่นพี่ตัวเล็กๆ ตอนกำลังตั้งใจทำอะไรสักอย่างแล้วมันดูน่ามองมากจริงๆ

    “ฉันไม่ว่างขนาดนั้นหรอกนะ” แพคฮยอนพูดติดตลกแล้วจื่อเทาก็ทำหน้ามุ่ยให้

    “โห...”

    “โหอะไร”

    “ก็อยากให้สอนนี่ครับ พี่สอนแล้วเข้าใจง่าย..นะ...สอนผมหน่อยนะครับ”

    “ฮ่าๆ ก็ได้ ฉันว่างแล้วจะสอนให้นะ” ตอบตกลงไปอย่างว่าง่าย จื่อเทาปรบมือให้ตัวเองอย่างดีใจแล้วยิ้มจนตาหยี

     

    ดีจัง...วันนี้ผมอ้อนพี่แพคฮยอนได้อีกแล้ว...

     

     

    ทั้งสี่คนใช้เวลาเดินไปร้านคาเฟ่ขนมไม่นานมากนักแล้วเข้าไปจับจองที่นั่งสำหรับสี่คน จื่อเทาเทากวักมือให้แพคฮยอนนั่งข้างๆ เฉินที่เห็นอย่างนั้นก็อดแซวเพื่อนตัวเองไม่ได้

     

    “ทำเนียนนะแก” พูดจีนออกมาแล้วจื่อเทาก็ยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี

    “เขาต้องนั่งเป็นคู่บัดดี้กัน เข้าใจไหม” ตอบกลับหน้าตายส่วนแพคฮยอนและคยองซูก็ทำหน้างงที่ทั้งสองคนนี้คุยกันเป็นภาษาจีน

    “คุยจีนกันอีกแล้ว อย่าให้ฉันฟังออกนะ” คยองซูพูดขึ้นทันที ส่วนเฉินกลับยิ้มไปให้แล้วเลื่อนใบหน้าไปกระซิบเบาๆ ให้รุ่นพี่ของตัวเองฟัง

    “ความสุขของเขาล่ะ ใช่ไหมจื่อเทา” ทำหน้าเจ้าเล่ห์เมื่อเฉินบอกว่าพวกเขาคุยอะไรเมื่อครู่ ถึงคยองซูจะรู้ว่าจื่อเทาแอบปลื้มเพื่อนสนิทเขาแค่ไหนยังไงก็ตาม เขาไม่ได้กีดกันให้เลิกปลื้มหรือทำอะไรเลยเพราะนิสัยอย่างแพคฮยอนเมื่อรักใครแล้ว คนๆ นั้นย่อมเป็นที่หนึ่งของตัวเองเสมอนั่นก็คือชานยอลของแพคฮยอนนั่นเอง

     

    จื่อเทาก็นิสัยดีพอที่จะไม่เข้าไปแทรกเรื่องของระหว่างแพคฮยอนและชานยอล จากที่ดูๆ นิสัยมาร่วมเดือนก็รู้ว่าเด็กจีนสองคนนี้อัธยาศัยดี คุยสนุก จื่อเทาเองก็เป็นคนน่ารัก สุถาพแล้วก็ถ่อมตนมากๆ มันก็ไม่แปลกหรอกที่พวกเด็กสองคนนี้จะเข้ากับใครได้ง่ายๆ

     

    “เฉิน...เตี้ย”

    “พูดงี้...ออกไปคุยกันข้างนอกเลย ไอ้หมี” เฉินแทบลุกขึ้นเมื่อจื่อเทาล้อเรื่องความสูงของเขา มันหยาบคายมากๆ เลยนะ ถ้าจะล้อว่าเขาหูกางยังจะดีเสียกว่าอีก

    “ฮ่าๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกัน จะกินอะไรรีบสั่งเลย” แพคฮยอนเป็นคนรีบห้ามทัพเสียก่อนแล้วมองดูเมนูอย่างตั้งใจ จื่อเทาที่นั่งข้างๆ เหลือบมองเมนูที่แพคฮยอนถืออยู่ คนตัวเล็กใช้นิ้วชี้จิ้มที่ปากเมื่อเขายังเลือกสิ่งที่ตัวเองอยากจะกินไม่ได้ มันดูน่ารักในสายตาของจื่อเทาเอามากๆ เหมือนเด็กที่ตั้งใจเลือกขนมอร่อยๆ ยังไงอย่างงั้น

    “เลือกได้ยังครับ” จื่อเทาถาม แต่คนตัวเล็กส่ายหน้าก่อนจะจิ้มมั่วๆ เผื่อจะมีของที่ถูกใจ

    “เอานี่” นิ้วเรียวๆ จิ้มไปที่เมนูโดยที่ไม่ได้ดู จื่อเทาที่เป็นคนถือไว้เลยเป็นคนอ่านให้ช้าๆ

    “นมสดเย็นครับ”

    “อื้อ นมสดเย็นก็ได้” แพคฮยอนพยักหน้าตลกลง

    “เอานมสดเย็นสองแก้วครับ แกล่ะเลือกได้ยัง” จื่อเทาเลือกนมสดเย็นเหมือนแพคฮยอนแล้วหันไปถามเฉิน

    “พี่คยองซูเอาวาฟเฟิ้ลใช่ไหมครับ..ผมเอาชาแอปเปิ้ลครับ” บอกกับพนักหน้างานที่ยืนรับออเดอร์แล้วส่งเมนูกลับคืนไปให้

     

    แพคฮยอนที่เอนหลังพิงเก้าอี้โซฟาอย่างสบายๆ นั้นฟังคยองซูกับเฉินคุยกันอย่างตั้งใจ ส่วนจื่อเทาก็พูดภาษาจีนสลับไปมากับเกาหลีแบบผิดๆ ถูกๆ แพคฮยอนก็ต้องคอยบอกว่าคำที่จื่อเทาใช้นั้นมันผิด

     

    “ไม่ใช่ๆ...ไม่ใช่คำนั้นนะจื่อเทา” แพคฮยอนบอกด้วยเสียงนุ่มแล้วอธิบายเมื่อจื่อเทาใช้คำเกาหลีผิดและเพี้ยนจนกลายเป็นคำอื่น

    “ต้องออกเสียงยังไงครับ” หันไปถามอย่างตั้งใจ แต่เมื่อแพคฮยอนกำลังจะอธิบายต้องหยุดชะงักทันที

    “แพคฮยอนอ่า” เสียงทุ้มๆ ดังอยู่ไม่ไกล ทั้งหมดหันไปมองตามเสียงเรียกทันที ร่างสูงโปร่งของชานยอลยืนอยู่พร้อมกับจงอินและเซฮุน

    “ชานยอล...” แพคฮยอนทักด้วยเสียงใสก่อนจะทำหน้าแปลกใจเล็กๆ ที่ไม่คิดว่าจะเจอชานยอลที่นี่

    “มานั่งด้วยกันเร็ว” คยองซูเรียกให้ทั้งสามคนมานั่งด้วยกัน ใบหน้าของชานยอลยิ้มให้กับทุกคนก่อนที่จะเดินมานั่งลงข้างๆ แพคฮยอน ส่วนจงอินก็ลากเก้าอี้เสริมอีกตัวมานั่งข้างๆ กับคยองซู

    “จงอินครับ ลากให้ผมด้วยสิ” เซฮุนบอกกับจงอินแล้วทำหน้าเหมือนกับเด็กๆ ที่อยากให้ผู้ใหญ่ลากเก้าอี้มาให้ตัวเอง

    “ลากเองสิ มือก็มี” บอกอย่างไม่ใส่ใจแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้

    “ไม่มีน้ำใจเลยนะครับ ผมไม่คิดว่างจงอินจะไม่มีน้ำใจ แค่ตัวเองไปลากเก้าอี้มาแล้ว อีกมือก็จะลากมาให้ผมไม่ได้เลยเหรอครับจงอิน?” พูดยาวเฟื้อยด้วยใบหน้าตาย จนจงอินถอนหายใจดังพรืดก่อนที่จะลุกไปลากเก้าอี้ให้คุณชายเซฮุน

    “เชิญครับ” จำใจลุกขึ้นไปลากเก้าอี้ให้เซฮุนด้วยหน้าเอือมๆ

    “ขอบคุณครับ” ยิ้มกว้างให้อย่างน่ารักเพราะจงอินยอมลากเก้าอี้มาให้เขาแต่โดยดี เซฮุนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดเล่นคาคาโออย่างไม่สนใจเพื่อนๆ แต่ก็เงยหน้าขึ้นมาคุยบ้างบางเวลา

     

    “นี่รู้จักกันหรือยังนะ” คยองซูพูดขึ้นเมื่อเขานึกขึ้นว่าได้ต้องแนะนำเฉินและจื่อเทาให้รู้จัก

    “ก็รู้แล้วล่ะ แต่อีกคนยังน่ะ” ชานยอลบอก จงอินพยักหน้าตาม

    “ผมยังไม่รู้จักครับ” เซฮุนบอกแต่ตาก็ยังจ้องไปหน้าจอมือถือของตัวเองอยู่

    “งั้นแนะนำใหม่แล้วกัน...นี่เฉินน้องบัดดี้ของฉัน นี่จื่อเทาบัดดี้ของแพคฮยอน”

    “มีบัดดี้อะไรพวกนี้ด้วยเหรอ” จงอินถามแล้วคยองซูก็รีบตอบให้ทันที

    “ก็ต้องมีสิ คณะนายไม่มีรึไง”

    “ไอ้มีมันก็มี แต่ก็ไม่สนิทขนาดนี้หรอก” ยักไหล่ไหวๆ แล้วหันไปขอเมนูกับทางร้าน จงอินนั่งมองอยู่นานแต่ก็ยังเลือกไม่เซฮุนที่รออยู่นั้นเลยแย่งไปจากมือ

    “เลือกช้าจัง ผมเลือกก่อนแล้วกันครับ” ว่าแล้วก็กวาดสายตาดูรายการที่ตัวเองต้องการ

    “ผมเอานมน้ำผึ้งเย็นครับ” บอกกับพนักงานร้านในทันที ส่วนจงอินทำปากขมุบขมิบแล้วก็เลือกโกโก้เย็นมาหนึ่งแก้ว

    “เลือกเครื่องดื่มได้เหมาะกับตัวเองจังเลยนะครับจงอิน คิกๆ...” หัวเราะอย่างน่าหมั่นไส้ จงอินแยกเขี้ยวใส่เซฮุนก่อนที่จะผลักหัวทุยๆ ให้เอนไปอีกทาง

    “ปากมากจริงๆ เลยแก”

    “อย่าเล่นหัวครับ ไม่ชอบ ไม่สุภาพเลย ใช่ไหมครับคยองซู ว่างๆ ผมฝากจัดการด้วยนะ” เซฮุนโผล่หน้าข้ามจงอินไปแล้วคุยกับคยองซู ส่วนคยองซูเองก็แยกเขี้ยวใส่จงอินเช่นกัน

    “นายไม่ต้องไปฟังมันนะคยองซู”

    “ฉันว่าเครื่องดื่มที่นายสั่งมันก็เข้ากันกับนายดีนี่” คยองซูพูดหน้าตายพร้อมกับยักไหล่ให้ทำเอาเซฮุนหัวเราะชอบใจที่มีคนเข้าข้างตัวเอง

    “แสบนักนะแก หาพวกเหรอ”

    “เปล่าครับ” ส่ายหน้าแล้วกันไปคุยกับชานยอลแทน

    “ชานยอลเอาอะไรครับ” เซฮุนหันไปถามส่วนชานยอลรับเมนูมาก่อนที่จะก้มหน้าเลือก

     

    คิดไม่ออกว่าจะกินอะไร รู้แต่ว่าทำไมจะต้องมาเจอกันโดยบังเอิญ ทำไมไม่เห็นบอกกันก่อนว่าจะมานั่งที่ร้านคาเฟ่กับรุ่นน้องบัดดี้อะไรแบบนี้นี่ ถ้าไม่เจอครั้งนี้แล้วครั้งหน้าล่ะ อะไรกัน..นี่เขากำลังคิดฟุ้งซ่านไร้สาระอีกแล้วใช่ไหม...

     

    ชานยอลผ่อนลมหายใจอย่างเบื่อหน่ายตัวเองก่อนจะสุ่มเลือกเครื่องดื่มมา

     

    “ลาเต้เย็นครับ” บอกแล้วก็คืนเมนูให้พนักงานไป ชานยอลเอนหลังพิงเก้าอี้ นิ้วเรียวยาวของเขาเคาะโต๊ะไปพลางๆ ส่วนแพคฮยอนเองก็รู้สึกแปลกๆ ชานยอลจะว่าเขารึเปล่าที่เขามากับจื่อเทาโดยที่ไม่ได้บอกอะไรเลย...

     

    อ่า..กลัวจัง...

    แต่คยองซูก็มาด้วยนี่นา...มากันตั้งหลายคน คงไม่เป็นอะไรหรอก...

     

    “ชานยอลอ่า”

    “หืม” รับอือด้วยเสียทุ้มลำคอ

    “เป็นอะไรรึเปล่า” กระซิบถามเบาๆ ทุกคนในโต๊ะต่างก็เริ่มรับรู้ถึงความเงียบของชานยอลเรียบร้อย แต่คยองซูก็พยายามไม่ทำให้บรรยากาศเสียเลยชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย

    “เปล่า” ตอบแล้วก็ยิ้มบางให้แพคฮยอนแต่เขาก็ยังคงคุยบ้าง เงียบบ้างบางเวลาจนเครื่องดื่มทั้งหมดค่อยๆ ทยอยเข้ามาเสิร์ฟให้กับพวกเขา และก็เป็นนมสดเย็นสองแก้วของแพคฮยอนและจื่อเทาที่ถูกนำมาเสิร์ฟให้ก่อน จื่อเทาเป็นคนแกะหลอดในซองกระดาษแล้วเสียบลงแก้วลงของแพคฮยอนเรียบร้อย

     

    ชานยอลเห็นแล้วมองด้วยหางตา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

     

    “เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ชานยอลบอกด้วยเสียงทุ้มๆ ใบหน้านิ่งๆ นั้นไม่หันมามองแพคฮยอนเลย เขาก้าวฉับอย่างรวดเร็วแล้วหายไปทางห้องน้ำของร้าน

     

    “เอาแล้วไอ้ชานยอล”  จงอินส่ายหน้าอย่างเอือมๆ ช่วงนี้อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ บ่อยเหลือเกินเป็นเพราะหวงแพคฮยอนไม่เข้าเรื่องเนี่ยแหละ ทำไงได้วะก็คนนี้มันหวงอย่างกับอะไรดี น่ารักซะขนาดนี้

    “แพคฮยอนจัดการเลย” คยองซูพยักเพยิดหน้าไปทางแพคฮยอน คนตัวเล็กรีบลุกขึ้น

    “ขอโทษนะ เดี๋ยวฉันมา...” บอกก่อนจะรีบเดินไปทางห้องน้ำทันที

    “เอ่อ...คือพี่ชานยอลเขา?” จื่อเทาทำหน้าเกรงใจปนสงสัยเล็กๆ

    “เดี๋ยวให้แพคฮยอนไปคุยเดี๋ยวก็หายแล้ว”

    “ครับ..คือ พี่เขาจะว่าหรือเปล่าที่ผมมาสนิทกับพี่แพคฮยอนจนเกินไป” เขาถามอย่างอยากรู้ คยองซูโบกมือปัดเล็กๆ

    “ช่างเถอะน่า”

    “คือผมก็พอจะเข้าใจอยู่ว่าพี่ชานยอลบางทีอาจจะ..เอ่อ..หึง...ใช่ไหมครับ”

    “ก็จื่อเทาหล่อซะขนาดนี้ ชานยอลต้องหวงแพคฮยอนเป็นธรรมดาครับ” เซฮุนพูดขึ้นมาลอยๆ ทั้งๆ ที่ยังก้มหน้าก้มตากดที่แป้นคีย์บอร์ดบนมือถือก่อนจะเงยหน้าขึ้น

    “อ่า..ผม” จื่อเทาเกาหัวแกร่กๆ เพราะรู้สึกเกร็งๆ ที่อยู่ๆ ก็ถูกชมแบบนี้

    “แล้วกลัวว่าแพคฮยอนจะหลงชอบจื่อเทาด้วยแหละครับ” พูดเสริมอีก จื่อเทาได้แต่ยิ้มแหยๆ แล้วหันไปมองเฉินที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ แต่เขาก็พยายามหาเรื่องชวนคุยเพื่อสร้างบรรยากาศให้กลับมาระหว่างที่ชานยอลและแพคฮยอนหายไป

    “เครื่องดื่มมาแล้วครับ...นี่ครับพี่คยองซู” เฉินรับจานวาฟเฟิ้ลมาให้ก่อนจะวางไว้ตรงหน้าคยองซู จงอินเหลือบมองนิดๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้วหันไปมองเซฮุนที่เอาแต่พิมพ์คาคาโอกับพี่หมอคริสไม่หยุด

    “เอ๊ะ นี่จะคุยอะไรนักหนาน่ะ”

    “จงอินมายุ่งอะไรด้วยครับเนี่ย ยุ่งจริงๆ เลย” ทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอก่อนจะส่ายหน้า จงอินแทบหน้าหงายเพราะเซฮุนทำเป็นไม่สนใจเขา ก่อนจะคว้าช้อนมาตักวาฟเฟิ้ลของคยองซูแทน

    “นายนี่!” คยองซูถลึงตาโตใส่จงอิน แต่อีกคนดันทำหน้าตายก่อนจะเคี้ยววาฟเฟิ้ลตุ้ยๆ จนแก้มพอง

    “อร่อยดี สั่งให้อีกจานสิ”

    “สั่งเองสิ” พูดเสร็จก็แย่งช้อนไปจากมือของจงอิน แต่สุดท้ายจงอินก็แย่งคยองซูกินเหมือนเดิม กลายเป็นว่าทั้งสองแทบจะตบตีกันเพื่อแย่งวาฟเฟิ้ลกัน

     

     

    ...

     

     

    ร่างเล็กๆ ที่เดินมาถึงห้องน้ำแล้วก็เห็นชานยอลยืนกอดอกพิงขอบอ่างล้างมืออยู่ เขาหันมามองแพคฮยอนก่อนจะลุกขึ้นยืนธรรมดาแล้วเดินเข้าไปหา

     

    “ชานยอล...”

    “ไปคุยข้างนอกดีกว่า” ชานยอลบอกแล้วคว้าข้อมือเล็กๆ เดินออกจากห้องน้ำไป เขาไม่อยากให้คนที่มาเข้าห้องน้ำนั้นมารบกวนเขา แพคฮยอนได้แต่เดินตามหลังชานยอลไปคุยกันข้างนอกร้านอย่างเงียบๆ

    “หมอนั่นอีกแล้วเหรอ” ถามแพคฮยอนด้วยเสียงเรียบ

    “ก็พอดีเจอกันที่ใต้คณะไง แล้วก็เลยชวนมานั่งที่ร้านนี้ด้วยกัน...มากันหลายๆ คนจะได้สนุกๆ ไง...” แพคฮยอนพยายามอธิบายให้ชานยอลฟัง

    “ฉันไม่ชอบหน้าหมอนั่น”

    “แต่ชานยอลอ่า คยองซูก็มาด้วยนี่นา...” แพคฮยอนก้มหน้าแล้วพยายามจะอธิบายให้ฟังอีกครั้ง

    “ทำไมต้องนั่งข้างกันด้วย ทำไมคยองซูไม่มานั่งข้างนาย” เริ่มถามอีก เพราะความหึงหวงของเขามันเริ่มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

    “ก็...ปกติแล้วก็นั่งตรงข้ามกัน แต่..โธ่ ชานยอล...” คนตัวเล็กไม่รู้จะอธิบายยังไงให้อีกฝ่ายอารมณ์ดี แพคฮยอนเองก็ไม่เข้าใจว่าการที่จื่อเทามานั่งข้างๆ เขาก็ไม่มีได้เจตนาไม่ดีอะไรเลย แล้วเขาเองก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย แต่ทำไมชานยอลต้องโกรธเขาอย่างนี้ด้วย

    “จื่อเทาไม่ได้เป็นคนไม่ดีนะ”

    “นายไม่รู้เหรอว่าหมอนั้นชอบนาย” ชานยอลพูดออกไปตรงๆ

    “คือ..” แพคฮยอนจะอธิบาย แต่ชานยอลก็พูดขัดขึ้นมาเสียก่อน

    “แล้วถ้าฉันไม่บังเอิญมาร้านนี้ล่ะ”

    “...”

    “จะบอกกันหรือเปล่า” เสียงทุ้มนั้นกดต่ำลง แพคฮยอนก้มหน้า แล้วเผลอกำมือตัวเองแน่น

     

    ยิ่งพูดก็ยิ่งไม่เข้าใจ ทำไมกันนะ...

    ทำไมถึงเข้าใจอะไรยากแบบนี้

     

    “นายไม่ฟังที่ฉันพูดเลย”

    “ทำไมฉันจะไม่ฟังล่ะ...แล้วสิ่งที่ฉันบอกนายฟังบ้างรึเปล่า”

    “...”

    “แพคฮยอนอ่า”

    “...”

    “กลับ”

    “...” ชานยอลพยายามจะความมือเล็กแล้วพาออกจากร้าน แต่แพคฮยอนขืนตัวเอาไว้

    “ทำไม?” ชานยอลถามออกไปแต่คนตัวเล็กส่ายหน้า

    “ไม่กลับ ฉันมีเรียน ถ้านายอยากกลับก็กลับไปก่อน”

    “แพคฮยอน”

    “...นายไม่เข้าใจหรอก...ไม่เข้าใจเลย” แพคฮยอนบิดข้อมือตัวเองออก แล้วมองหน้าชานยอลที่ขมวดคิ้วใส่เขา ดวงตาเล็กๆ มองชานยอลอย่างตัดพ้อ

     

    เขาพูดไม่เก่ง เขาสื่อความรู้สึกไม่เก่ง เขาแสดงความรักก็ไม่เก่ง

    ทำอะไรให้ชานยอลรู้สึกดีก็ไม่ได้สักอย่าง...

    เขามันโง่เอง ที่ทำอะไรไม่ได้เลย

     

     

    แล้วแพคฮยอนก็หมุนตัวเดินกลับเข้าร้านไป ชานยอลได้แต่ยืนนิ่งก่อนจะเตะพื้นอย่างอารมณ์เสีย ตอนนี้คงไม่มีอารมณ์เดินเข้าร้านไปเจอหน้าใครอีกแล้วล่ะ ร่างสูงเลยเดินกลับไปรถของตัวเองแล้วขับรถออกไปทันที

     

    แพคฮยอนมีสีหน้าไม่ดีกลับมาที่โต๊ะของตัวเอง ทั้งหมดงงกับเหตุการณ์ที่เกิดก่อนที่คยองซูจะรีบถามในทันที

    “เกิดอะไรขึ้น แล้วหมอนั่นล่ะ”

    “...” แพคฮยอนส่ายหน้าแทนคำตอบ สีหน้าแพคฮยอนไม่ดีเอามากๆ จื่อเทาเองก็นั่งมองอยู่เงียบๆ ในใจก็รู้สึกไม่ดีที่ตัวเองเป็นต้นเหตุ แต่เขาก็ไม่อยากให้รุ่นพี่ของตัวเองเสียใจแบบนี้

    “ให้ตายสิ ทำไมหมอนั่นถึงได้เด็กแบบนี้นะ” คยองซูบ่น

    “ผมว่าชานยอลเขาคงมีอาการแบบแตกเนื้อหนุ่มน่ะครับ” เซฮุนเสริม ทำเอารอบโต๊ะงงกันใหญ่

    “แตกเนื้อหนุ่มอะไรของแกวะ” จงอินเกาหัวแกร่กๆ อย่างไม่เข้าใจ ร่างผอมๆ นั้นถอนลมหายใจแล้วก็พูดต่อ

    “ก็อาการแบบว่าเพิ่งแรกเริ่มหัดรัก หัดงอน หัดหวงอะไรอย่างงี้น่ะครับ จงอินเคยรู้อะไรกับเขาบ้างเนี่ยชีวิตนี้” ส่ายหน้าอย่างปลงๆ จงอินผลักหัวเซฮุนอีกครั้ง แต่เซฮุนดันเตะเข้าไปที่หน้าแข้งของจงอิน

    “ผมบอกแล้วไงอย่าเล่นหัว เดี๋ยวให้พี่คริสฉีดยาแก้บ้าให้เลย” เชิดปากอย่างไม่ชอบใจ ส่วนคยองซูเองก็กำลังคิดหาวิธีดีๆ อยู่

    “เฮ๊อะ อะไรๆ ก็พี่คริส”

    “ทำไมครับ หึงรึไง” เซฮุนซัดประโยคเจ็บๆ กลับไปจนจงอินพูดไม่ออกเลยได้แต่นั่งเงียบ แพคฮยอนเองก็ก้มหน้าแล้วมองมือของตัวเองไม่พูดไม่จาอะไรเลย

    “พี่คยองซูครับผมว่าผมกับจื่อเทากลับกันก่อนดีกว่า พวกพี่โทรตามให้พี่ชานยอลกลับมาเถอะครับ..ผมเกรงใจจริงๆ” เฉินเสนอส่วนจื่อเทาก็พยักหน้าเล็กๆ อย่างเห็นด้วย คยองซูส่ายหน้าไปมา

    “ไม่เป็นไรหรอก ฉันว่าหมอนั่นคงไม่กลับมาแล้วล่ะ ถ้าออกไปอย่างนั้นน่ะ”

    “แพคฮยอนไม่ต้องคิดมากนะ”

    “พี่แพคฮยอน..ผมขอโทษนะ” จื่อเทาขอโทษด้วยสำเนียงแปร่งแปลกแต่แฝงด้วยความรู้สึกผิด แพคฮยอนเองก็ไม่ได้รู้โกรธอะไรจื่อเทาเลย

    “ไม่ต้องขอโทษหรอก นายไม่ได้ทำอะไรผิดนะ” พยายามยิ้มให้อีกฝ่าย แต่ตอนนี้เขารู้สึกไม่ดีจริงๆ เขาไม่ชอบใบหน้าของชานยอลที่มองเขาแบบนั้นเลย...

     

    ชานยอลไม่เชื่อใจเขารึไง แล้วความพยายามที่เขาทำมามันไม่สูญเปล่าไปเลยเหรอ

    ชานยอลเคยนึกถึงจุดๆ นั้นบ้างหรือเปล่า...เคยนึกถึงบ้างไหม?

     

    เคยนึกบ้างไหมว่าเขาก็น้อยใจเป็นเหมือนกัน...

     

     

     

     

     

    ถ้าความเชื่อใจมันไม่มีผล

    ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ดูแย่ไปหมด

    ...

     

     

    “ขอบใจนะที่เดินมาเป็นเพื่อน” แพคฮยอนบอกขอบใจจื่อเทาที่เดินมาส่งเขาที่บ้าน

    “ไม่เป็นไรครับ ผมว่า...พี่แพคฮยอนคงต้องการคนอยู่เป็นเพื่อน ใช่ไหมครับ” จื่อเทายิ้มให้บางๆ คนตัวเล็กหัวเราะในลำคอแล้วก็เงียบไป 

     

    เสียงของรองเท้าดังขึ้นเบาๆ ท่ามกลางความเงียบในขณะที่พวกเขาเดินอยู่ ไฟบนทางถนนเปิดส่องสว่างตามทาง ตอนนี้ก็ค่ำมากแล้วด้วยเพราะเขาเองก็เพิ่งเลิกเรียน ส่วนจื่อเทาก็นั่งรอแพคฮยอนเพื่อไปส่งกลับบ้าน

     

    “อย่าคิดมากเลยนะครับ”

    “...”

    “ผมจะพยายามไม่ทำให้พี่แพคฮยอนลำบากใจนะ” จื่อเทาบอกกับแพคฮยอน ส่วนเขาเองก็พยายามรักษาระยะห่างเอาไว้ไม่ให้เข้าใกล้แพคฮยอนไปมากกว่านี้ จริงอยู่ที่เขาชอบแพคฮยอนแต่เขาเองก็ไม่อยากให้ความสัมพันของพวกเขาต้องมีปัญหาก็เพราะเขา

    “นายต่างหากล่ะ...”

    “ผมทำไมเหรอครับ”

    “ฉันกลัวนายลำบากใจมากกว่า”

    “ผมจะลำบากใจทำไมเหรอครับ?” จื่อเทาทำหน้าสงสัยเล็กๆ

    “นายไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา...แถมยังต้องมาขอโทษฉันอีก”

    “ก็ผมทำให้พี่รู้สึกแย่”

    “ฮื่อ...อย่าคิดมากเลย เรื่องแบบนี้เดี๋ยวมันก็ดีเองแหละ..” แพคฮยอนพยายามทำตัวให้เป็นปกติ ไม่อยากคิดมากแล้วก็พลอยทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดีไปด้วย

    “เดี๋ยวผมทำอาหารจีนให้กิน พี่จะได้อารมณ์ดี อย่างนี้ดีไหมครับ?”

    “ฮะๆ อื้อ”

    “ยิ้มแล้วนะครับ ดีจัง..” จื่อเทาหันไปบอกแล้วก็ยิ้มให้แพคฮยอนจนตาหยี ทั้งคู่หัวเราะเบาๆ ไปตามทางที่เงียบสงัด จื่อเทาเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างด้วยท่าทีสบายๆ ผมนุ่มสีดำพลิ้วไหวไปทางด้านหลังเมื่อลมพัดผ่านมา ใบหน้าด้านข้างและต่างหูรูปกระโหลกนั้นดูเท่มากๆ

    “นายนี่ก็เท่เหมือนกันนะเนี่ย” แพคฮยอนที่มองด้านข้างก่อนจื่อเทาก่อนจะเอ่ยชมอย่างปลื้มใจ

    “หืม...คิดยังไงถึงชมผมครับ”

    “เปล่า...ก็แค่พูดไปตามความจริงนี่นา...นายเท่มากจริงๆ” ยกนิ้วโป้งให้ จื่อเทาได้แต่อมยิ้มเขิน

     

    บ้าจังเลยนะครับ...พี่รู้ไหมว่าผมไม่เคยเขินใครเลยเวลาที่ถูกชม...นอกจากพี่

     

    “ผมเขินนะครับ”

    “อ๋า...โทษทีไม่คิดว่านายจะเขินนี่นา นายน่าจะมีคนชมเยอะนะ” แพคฮยอนบอกเสียงใส แต่จื่อเทาส่ายหน้า

    “ผมเขินพี่คนเดียว”

    “ฮะๆ งั้นเหรอ..งั้นฉันไม่ชมนายแล้ว เดี๋ยวเหลิง”

    “ชมบ่อยๆ สิครับ ผมชอบ” ดวงตารีเรียวของจื่อเทาหันมามองแพคฮยอนก่อนจะอมยิ้มไปตลอดทาง คนตัวเล็กเงียบก่อนจะตั้งใจเดินต่อไปเพราะอีกไม่ไกลก็จะถึงบ้านของเขาแล้ว

     

    จริงๆ เขาควรจะรู้สึกเขิน...แต่ความรู้สึกนั้นมันมีแค่ชานยอลคนเดียวเท่านั้นเอง...

     

    “นี่ถึงบ้านแล้วล่ะ” แพคฮยอนบอกกับจื่อเทาเมื่อพวกเขาเดินมาถึงหน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว

    “ขอบใจนะ นายกลับได้ใช่ไหม”

    “ได้สิครับ”

    “ฉันเข้าบ้านก่อนนะ”

    “ครับ...แล้วก็อย่าคิดมากล่ะ คืนนี้พี่จะต้องฝันดีนะ” จื่อเทาบอกกับรุ่นพี่ตัวเล็กของตัวเอง ร่างเล็กไหวตัวเล็กน้อยแล้วอมยิ้มให้ก่อนจะเปิดประตูบ้านของตัวเองเข้าไป

    “แล้วเจอกันนะ”

    “ครับ” จื่อเทาโบกมือให้เล็กๆ แล้วก็ยืนรอจนกว่าแพคฮยอนจะเดินเข้าไปในบ้าน

     

     

    ทางถนนที่เงียบสงบ มีไฟอยู่ตามข้างทางเพื่อให้แสงสว่างกับผู้คน จื่อเทาพ่นลมออกจากปากของตัวเองแล้วค่อยๆ เดินออกจากหน้าบ้านของแพคฮยอนไป

     

     

    วันนี้เป็นอีกวันที่เขารู้สึกดี และแย่ไปพร้อมๆ กัน...

     

     

    ห่างออกไปไม่ไกลนักมีรถของชานยอลจอดอยู่และแพคฮยอนเองก็ไม่ทันได้สังเกตเพราะมีรถอีกคันจอดบังเอาไว้ เขาเห็นจื่อเทาเดินมาส่งแพคฮยอนถึงที่บ้าน รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนหน้าเรียวสวยนั้นทำให้ชานยอลปวดหนึบที่หัวใจ

     

    “บ้าชิบ..แล้วฉันมาทำอะไรที่นี่วะ” บ่นแล้วกำพวงมาลัยรถแน่น เขาหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาแล้วเลื่อนไปยังชื่อของแพคฮยอน เขามองชื่อนั้นอยู่นาน...สุดท้ายแล้วก็เก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงตามเดิมแล้วสตาร์ทรถขับออกจากตรงนั้นไปในทันที

     

    “มีคนมาส่งแล้วนี่ ถ้าไม่ถามก็คงจะไม่บอกกันสักคำใช่ไหม...แพคฮยอน” ชานยอลพูดอยู่คนเดียวในขณะที่ตัวเองกำลังขับรถอยู่ มือหนากำพวงมาลัยเพื่อข่มอารมณ์ของตัวเอง ใบหน้าของแพคฮยอนและจื่อเทาลอยเข้ามาวนเวียนอยู่ในหัวของเขาอย่างไม่ชอบใจ

     

    ทุกอย่างแย่ในสายตาของชานยอลไปเสียหมด...

    แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยรู้เลยว่าแพคฮยอนก็รู้สึกแย่ไม่น้อยไปกว่าตัวเขาเอง

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

    ผ่านไปสามวัน แพคฮยอนไปเรียนตามปกติโดยที่เขานั่งรถไปเองและงานก็ยุ่งมากจนไม่มีเวลาจะมานั่งคิดอะไรฟุ้งซ่าน แล้วอีกอย่างงานที่อาจารย์สั่งมาต้องตั้งใจเพื่อรักษาคะแนนเอาไว้ เพราะสิ่งที่เขาหวังในปีนี้คือได้ไปดูงานและแลกเปลี่ยนความรู้ที่ต่างประเทศ

     

    แพคฮยอนมาเรียนภาคเช้าในวิชาเสริมและต้องพรีเซ้นต์งานคู่กันกับจื่อเทาในโปรเจคสุดท้าย

     

    “นายเอาแผ่นมาด้วยรึเปล่า” แพคฮยอนถามจื่อเทามือมาถึงห้องเรียน เขานั่งลงข้างๆ คนตัวสูงทันที จื่อเทาพยักหน้าให้แล้วหยิบรูปเล่มรายงานออกมาด้วย

    “พร้อมครับ”

    “โอเค นี่คยองซูยังไม่มาอีกเหรอ”

    “พี่คยองซูกับเฉินไปไรท์แผ่นงานพรีเซ้นต์น่ะครับ” จื่อเทาบอกแล้วมองดูเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลาพรีเซ้นต์งานแล้ว เขาอ่านเนื้อหาที่จะนำเสนอมาคร่าวๆ ที่เหลือก็พูดไปตามที่เขาเข้าใจเลยก็แล้วกัน

    “อ่านรายงานดูหน่อยไหมครับ” เขายื่นรูปเล่มไปให้กับคนตัวเล็กแพคฮยอนรับมันมาแล้วเปิดดูผ่านๆ เพราะข้อมูลทุกอย่างเขาเป็นคนหามาเองแล้วก็ให้จื่อเทาช่วยเช็คอีกทีน่าจะไม่มีปัญหาอะไร

    “โปรเจคนี้เสร็จไปก็สบายแล้วล่ะ” แพคฮยอนบอกแล้วนั่งเอนหลังพิงเก้าอี้ จื่อเทาพยักหน้าตามเพราะมันก็ช่วยเบาแรงไปอีกหนึ่งวิชาที่ไม่ต้องทำงานส่งแล้ว

     

    “แพคฮยอน..จื่อเทา...อาจารย์มีเรื่องจะคุยด้วยน่ะจ้ะ ขอเวลาสักครู่นะ” อาจารย์เดินเข้ามาหาก่อนที่ทั้งคู่จะลุกเดินตามไปคุยกันที่ข้างนอกห้องเรียน

    “รู้เรื่องไปดูงานที่ต่างประเทศของคณะในปีนี้รึยังจ้ะ” อาจารย์เธอถาม แพคฮยอนพยักหน้าอย่างตื่นเต้น

    “รู้ครับ ปีนี้ไปประเทศอะไรเหรอครับ” ถามออกไปอย่างอยากรู้ เธอยิ้มแล้วหยิบเอกสารออกมาพร้อม

    “ปีนี้ไปประเทศจีนจ้ะ อาจารย์มีเอกสารมาให้พวกเธอด้วย ดูจากคะแนนในการทำอาหารแล้วพวกเธอน่าจะต้องการไปดูงานนะ”

    “จริงเหรอครับ?!” คนตัวเล็กรับเอกสารนั้นมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง

    “เธอสนใจไหมจื่อเทา”

    “ครับ สนใจมากๆ เลยครับ” รับคำอย่างไม่ต้องคิดอะไรมากและก็รับเอกสารมาไว้ในมือทันที

    “ถ้าพวกเธออยากไปดูงานจริงๆ ก็รีบกรอกข้อมูลแล้วเอาเอกสารมาให้อาจารย์ภายในอาทิตย์นี้นะ”

    “ครับ ได้เลย”

    “ขอบคุณนะครับ/ ขอบคุณมากๆ เลยครับ” ทั้งแพคฮยอนและจื่อเทาโค้งขอบคุณอาจารย์ก่อนจะยิ้มอย่างดีใจ ในที่สุดแพคฮยอนก็ได้โอกาสไปดูงานที่ต่างประเทศแล้ว...

    “เอ่อว่าแต่...มีแต่สองชุดเองเหรอครับ” เมื่อแพคฮยอนนึกขึ้นได้เลยถามออกไป เธอพยักหน้าให้กับทั้งคู่

    “ใช่จ้ะ อาจารย์เก็บไว้ให้พวกเธอสองคนโดยเฉพาะเลย นอกนั้นก็จะเป็นสาขาอื่นน่ะ”

    “งั้นเหรอครับ ขอบคุณมากนะครับ” บอกขอบคุณอีกครั้งก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าห้องเรียนไป

    “พี่แพคฮยอนจะเก็บเอาไว้ให้พี่คยองซูเหรอครับ”

    “อื้อ อยากให้คยองซูไปด้วยกันจัง”

    “งั้นให้พี่คยองซูไปแทนผมดีกว่านะ”

    “ไม่ได้หรอก อาจารย์เก็บไว้ให้นายเลยนะ” แพคฮยอนทำหน้าตกใจก่อนจะรีบห้ามจื่อเทา

    “ถ้าพี่คยองซูไปก็คงจะน่าสนุกดีนะครับ”

    “นายก็ไม่ได้ไปสิ ไม่เป็นไรหรอกๆ ไปเถอะ ไปกับนายก็สนุกเหมือนกันแหละน่า” แพคฮยอนยิ้มให้ก่อนจะเก็บเอกสารเข้ากระเป๋าไว้อย่างดี

    “ครับ...ต้องสนุกมากๆ แน่เลย” ยิ้มกว้างให้กับคนตัวเล็ก จื่อเทาดีใจมากที่จะได้ไปดูงานของสาขาแถมยังไปประเทศจีนอีกด้วย

     

    แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่เขาได้ไปกับแพคฮยอนหรอก...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    *

    แฮ่ม...

    กร๊ากกกกกกก เมื่อภาคที่แล้ว ไค ฮุนนี่ทะเลาะกันใช่มะ

    ภาคนี้ขอจัดชานแพคหน่อย อิอิ อยากจะให้หน่วงบ้างอะไรบ้าง สะใจเบาๆ

    5555555555555555555555555555

    แถมยังไม่ยอมคุยอีกแหนะ แล้วแพคฮยอนกับเทาดันได้ไปดูงานที่ประเทศจีนอีก

    ตายๆ ชานยอลอกแตกตายเด้อขร่า ตายแน่ๆ

    อิอิอิ มึงตายชานยอล มึงตาย

    555555555555555555555555555555555555555555555

    555555555555555555555555555555555555555555555

    หัวเราะยาวไปแล้ว ไม่รู้สึกเสียใจอะไรเลยนะอิแม็ก

    เดี๋ยวเจอกันพาร์ทหน้าค่ะ ภาคนี้ไปเรื่อยๆ เหมือนรถขายโอ่ง แต่จะไม่ยาวเท่าภาคที่แล้ว

    ขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์และคะแนนโหวตนะคะ รักสำเหมอขร่า *โปรยจูบ*

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×