กลิ่นกำมะถันคละคลุ้งไปทั่วชั้นบรรยากาศของที่กบดานเหล่านักล่า นอกรั้วนั้นเต็มไปด้วยฝูงซากศพเดินได้หรือที่เรียกกันว่าซอมบี้เดินเอื่อยเฉี่อยไปมาอย่างไร้จุดหมาย ลูซิเฟอร์ได้ร่างของแซมไป วันโลกาวินาศก็เริ่มขึ้นและมันผ่านมาได้ห้าปีแล้ว
กลางบ้านหลังหนึ่งที่ดีนแต่งตั้งให้เป็นศูนย์บัญชาการมีเหล่าหัวหน้าของนักล่าแต่ละหน่วยนั่งล้อมวางแผนกันเพื่อไปหาเสบียงและผู้รอดชีวิต
"ถ้าทุกคนเข้าใจแล้วก็ขอให้ทำอย่างเต็มที่ ระวังตัวด้วย" ดีนออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดก่อนทุกคนจะออกไปทำสิ่งที่เขาได้มอบหมาย เจ้าตัวเซถอยหลังเล็กน้อยเพราะงานนี้กินเวลาชีวิตของเขามาก
"เดี๋ยวก่อนชัค" ชายร่างเล็กหยุดตามเสียงเรียกของดีน "หมอนั่นอยู่ไหน" ดีนกดเสียงต่ำแบบที่เคยทำประจำ
"จะอยู่ไหนได้ล่ะ ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ ม่อสาวพี้ยา ถามจริงเถอะดีนคุณจะปล่อยแคสเทียลเอาไว้แบบนั้นจริงๆหรอ" เขาพูดจบก็ขอตัวไปเช็คเสบียงที่เหลือปล่อยให้ดีนยืนอยู่กับคำพูดของเขา ที่ชัคพูดเป็นตามความจริงทั้งหมด ตั้งแต่ที่แคสเทียลกลายเป็นมนุษย์ นิสัยของทูตสวรรค์เมื่อห้าปีก่อนก็ได้หายไปและถูกแทนที่ด้วยขี้ยาที่ไหนก็ไม่รู้ ดีนเองก็ยังรู้สึกแย่แต่ตอนนี้หน้าที่ของเขาคือการปกป้องสิ่งที่เหลืออยู่แม้จะต้องแลกด้วยอะไรก็ตามการที่แคสยังไม่ตายก็ถือว่าดีแล้ว
"เมื่อกี้ถามหาข้าหรอ" เสียงของคนในบทสนทนาก่อนหน้าดังขึ้น "ข้าแค่จะมาดูว่ายังพอมีเหล้าเหลือมั้ย โอ้นั่นไงมีพอดี" เขาหยิบขวดเหล้าขึ้นมาแล้วหันไปหาดีน "ดีน ขวดนี้ข้าขอนะ" เมื่อดีนพยักหน้าตอบแคสเทียลจึงกระดกมันก่อนหนึ่งอึกใหญ่ค่อยเดินมานั่งที่เก้าอี้ของดีนก่อนจะหันไปมองหัวหน้าของที่นี่อีกครั้ง
"คิดถึงข้ารึไง" แคสเทียลพูดด้วยรอยยิ้มที่คาดเดาไม่ได้แต่ดูแล้วน่าจะมาจากฤทธิ์ของเหล้า
"ไม่" ดีนตอบทันควัน "ตอนนี้ฉันไม่สนว่านายจะเป็นยังไงอยู่แล้วแคส นายจะเสพยาหรือบ้าผู้หญิงยังไงก็เรื่องของนายเลยเพราะมันคือชีวิตของนาย" เมื่อพูดจบดีนมองไปที่แคสก็พบว่าอดีตทูตสวรรค์ยังคงนั่งยิ้มมองเขาอยู่เหมือนเดิม น่าจะหนักจริงๆวันนี้
"แต่ข้าคิดถึงเจ้านะดีน ช่วงนี้เจ้าไม่ไปหาข้าที่ห้องเหมือนเมื่อก่อน ทำไมล่ะกลัวเจอข้าอยู่กับผู้หญิงหรอ" แคสเทียลหันพนักพิงเก้าอี้มาทางด้านดีนก่อนจะเปลี่ยนท่าเป็นนั่งค่อมมันแล้วเอาแขนเท้าพนักพิงไว้พลางหมุนเก้าอี้ไปมาช้าๆราวกับเด็กเล่นม้าหมุน
"เมื่อก่อนฉันยังมีหวังว่านายจะกลับมาเหมือนเดิมแคส ฉันเลยไปดูนายทุกวัน"
"เหมือนเดิมของเจ้าคือยังไง คือข้ามีปีก มีพลังต่อกรกับลูซิเฟอร์ หรือจิตใจและนิสัยที่อ่อนต่อโลกของข้า เพราะหากเจ้าจะหมายถึงจิตใจของข้าล่ะก็ นี่แหละคือสิ่งที่ข้าเป็นดีน เป็นมาตลอด ข้าไม่ใช่เด็กในชุดกันฝนนะ!" ประโยคสุดท้ายจบด้วยการโยนขวดเหล้าเปล่าลงพื้นก่อนจะเก็บเศษแก้วขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วปาดมันลงบนฝ่ามือและแน่นอนสิ่งที่ตามมาคือเลือดที่ค่อยๆซึมออกมาจากบาดแผลเยอะขึ้นเรื่อยๆ
"ดูนี่สิดีน ตอนนี้ข้าเป็นมนุษย์... แล้วข้าก็อ่อนแอ" เขาพูดปนขำ "ตอนแรกข้าลงภาคสนามไปกับพวกเจ้าไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วเจ้าจะให้ข้าทำยังไงในเมื่อเจ้าไม่ยอมให้ข้าฆ่าตัวตาย เพราะงั้นข้าเลยต้องหาสิ่งที่จะมาทำให้ข้าลืมโลกความจริงนี้ไปซะ"
"แต่ก่อนหน้านั้นนายยังมีฉันเสมอนะแคส ก่อนที่นายจะไปยุ่งกับของพวกนั้น"
"หรอ ข้านึกว่าวันๆเจ้าคิดถึงแต่แซมกับแผนที่จะพาคนของเราไปตายเพิ่ม"
"แคสเทียล!" ดีนเดินไปกระชากคอเสื้อแคสขึ้นมาจากเก้าอี้ทำให้มันล้มไปกลิ้งเล่นบนพื้นแทน ดวงตาสีน้ำทะเลที่ตอนนี้มันหม่นราวกับทะเลที่เจอะเข้ากับพายุสบเข้ากับดวงตาสีเขียวมรกตที่เคยสดใสกว่านี้
"ฮ่าๆ เดี๋ยวนี้ข้าพูดความจริงไม่ได้แล้วหรอท่านผู้นำ" รอยยิ้มของแคสเทียลทำให้ดีนขมวดคิ้ว แต่ถึงอย่างนั้นอดีตทูตสวรรค์ก็แอบสังเกตว่านัยน์ตาของดีนนั้นสั่นราวกับมันกำลังล้าเต็มที่
"นายกำลังเมานะแคส กลับห้องไป แล้วฉันจะคิดซะว่าเราไม่เคยคุยกันเรื่องนี้" ดีนพูดเสียงเรียบ ปล่อยแคสเทียลลง ก่อนจะเดินไปเอาถังขยะใบเล็กมาวางและลงมือเก็บเศษขวดเหล้าที่กระจายเต็มพื้นด้วยมือเปล่า
และการกระทำนั้นก็อยู่ในสายตาของแคสเทียล
"รู้อะไรมั้ยดีน อีกเหตุผลที่ข้าไม่ยอมฆ่าตัวตาย" อดีตทูตสวรรค์เดินมานั่งยองๆพลางช่วยเก็บของมีคมที่ตนเป็นคนทำให้มันกระจายเต็มพื้น "เพราะข้ายังอยากอยู่กับเจ้า และหวังว่าจะมีสักวันที่ข้าสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับเจ้าได้อีกแม้ว่าข้าจะไม่มีพลังอะไรเลย" ท้ายประโยคของแคสเทียลยังคงประดับด้วยเสียงหัวเราะ แต่เป็นเสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่กำลังสมเพชตัวเอง
ดีนยังคงเงียบและเก็บต่อไปแม้ว่าจะเริ่มมีชิ้นส่วนของมันบาดมือที่สากเพราะจับปืนทุกวันของเขาบ้างแล้วก็ตาม
"ไม่เอาน่าอย่าทำตัวเป็นราชินีดราม่าสิดีน ให้ข้าเป็นคนเดียวก็พอ" แคสเทียลใช้เสียงขี้เล่นในการพูดประโยคหลังก่อนจะดึงมือสากๆนั้นมาเพื่อดูแผลแต่กลับพบว่ามือของดีนสั่น และก่อนหน้านี้ตอนที่ดีนกระชากเขามาใกล้ตัว แคสเทียลก็แอบสังเกตุเห็นว่าหน้าของดีนซีดค่อนข้างชัดเจนและดูเหนื่อยหอบผิดปกติ
"เจ้ายังไม่ได้นอนใช่มั้ยดีน" เขาพูดทั้งที่ยังจับมือสั่นๆของดีนอยู่ นักล่าหนุ่มดึงมือของตนออก
"ไม่ตายหรอก" ดีนยืนขึ้นเต็มความสูงเพราะเก็บเศษแก้วหมดแล้วพลางยกถังขยะไปวางที่เดิม
"โว้ว ไม่ตายก็ไม่ได้แปลว่าเจ้าจะฝืนตัวเองต่อไปได้ นี่เจ้านอนครั้งล่าสุดเมื่อไหร่กัน" สายตาของแคสเทียลมองมาที่ดีนแบบต้องการคำตอบ
"สี่วันก่อนหน้า" ดีนพูดโดยไม่สบตาคนที่ยืนขมวดคิ้วอยู่ เมื่อเห็นสีหน้าของแคสเขาจึงเผลอตะโกนออกมา "ฉันมีเรื่องให้คิดเยอะน่าแคส!"
"เรื่องของแซมข้ารู้ แต่เจ้ารู้มั้ยมันจะเกินขีดจำกัดของเจ้าแล้ว" แคสเทียลโต้กลับด้วยระดับเสียงที่เบากว่าดีนเพื่อให้คนตรงหน้าสงบลง เขารู้ว่าที่ดีนอารมณ์เสียง่ายเพราะสมองของดีนต้องการการพักผ่อน แน่นอนว่าการอดนอนสี่วันทำให้คนธรรมดาเบลอ จำอะไรไม่ค่อยได้ อารมณ์ขึ้นๆลงๆและอาจเห็นภาพหลอนได้เลย และหากร่างกายมาถึงขีดสุดก็จะชัทดาวน์ไปเอง จากที่ดูแล้วน่าจะอีกไม่นานเพราะดีนทำท่าเหมือนไม่ได้ยินหรือไม่ก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด เจ้าตัวทำแค่ยืนเอาแขนเท้าโต๊ะเอาไว้ประคองไม่ให้ร่างตัวเองล้มลงไป หากแคสเทียลยังมีพลังอยู่เขาคงทำให้ดีนหลับลงไปได้ง่ายๆ
"เอาเป็นว่าข้าขอโทษก่อนเลยแล้วกัน" แคสพูดก่อนจะกำหมัดต่อยเข้าที่หน้าท้องของดีนเต็มแรง ถ้าเป็นเวลาปกตินักล่าคนนี้ก็คงสามารถรับหมัดได้หรือไม่ก็ทนไหว แต่เพราะการตอบสนองที่ลดลงไปมากทำให้หมัดของแคสเข้าถึงเขาได้ทันที และแน่นอนว่ามันทำให้ร่างกายของดีนอ่อนแรงไปโดยปริยายราวกับนางเอกละครหลังข่าวที่ถูกโจรลักพาตัวต่อยเข้าที่ท้องแล้วก็สลบไปแม้ว่าจะมีกล้ามก็ตาม
"ท..ทำบ้าอะไรของนาย" ดีนเค้นเสียงพูดพลางนอนกุมท้องอยู่บนพื้น เขาไม่มีแรงจะตอบโต้อะไรแคสไปมากกว่านี้แล้ว
"ถ้าข้าไม่ทำเจ้าก็ไม่ยอม" แคสพูดก่อนจะอุ้มดีนขึ้นมาในท่าเจ้าสาว ซึ่งมันทำให้ดีนไม่พอใจอย่างมากแต่ก็ทำใด้แค่ใช้สองแขนโอบคอคนอุ้มไว้เพราะเขากำลังหน้ามืดสุดๆเหมือนว่าจะตกลงไปตลอดเวลา นั่นทำให้ดีนซุกหน้าลงบนอกของอดีตทูตสวรรค์เพื่อที่จะได้ไม่เกิดอาการนั้นอีก
บ้านพักของดีนอยู่ไม่ไกลจากศูนย์บัญชาการมากนักแต่มันก็นานพอที่จะทำให้เจ้าตัวหลับอยู่ในอ้อมแขนของแคสก่อนถึงที่หมายซะอีก แคสเทียลค่อยๆวางดีนลงบนเตียงอย่างเบามือแม้ว่าตอนนี้ถ้าใครมาเปิดเพลงเทลเลอร์สวิฟอัดหูดีนก็ไม่ตื่นมาเต้นได้แน่นอน
เขาจัดแจงท่าทางให้ดีนนอนสะบายที่สุดก่อนจะห่มผ้าให้ จากนั้นก็เดินไปหยิบกล่องประฐมพยาบาลมาทำแผลบนมือของดีนให้เบาที่สุดก่อนจะพบว่าตัวเองก็เริ่มมีอาการสั่นเพราะเริ่มขาดยาแล้วเหมือนกัน แถมเลือดก็ยังไม่หยุดไหลจนเริ่มไม่แน่ใจว่าอาการที่เขาเป็นอยู่คือขาดยาหรอขาดเลือด
"ฮึฮึ ข้าคิดจะช่วยเจ้าแต่ก็ยังเอาตัวเองไม่รอด แบบนี้เจ้ายังจะยอมให้ข้าอยู่ข้างๆเจ้าต่อไปมั้ยนะดีน"
___________________________
แงจบแล้วค่ะ สนองนีทความชอบฟิวเจอร์แคสกับพี่ดีนเวอร์ชั่นเคะ นี่เป็นฟิคแรกของมาโย ผิดพลาดอะไรก็สามารถบอกกันได้นะคะ มาโยเขียนในโทรศัพท์เลยไม่รู้ว่าจะมีผลอะไรรึเปล่า
สุดท้ายก็ขอบคุณที่อ่านความมโนของเราจนจบนะคะ